id
stringlengths
8
13
text
stringlengths
3
3.49M
source
stringclasses
30 values
metadata
dict
nonweb_119697
ประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการวิจัยและส่งเสริมการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย เรื่อง กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการวิจัยและส่งเสริมการผลิตอ้อยและน้าตาลทราย ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการวิจัยและส่งเสริมการผลิตอ้อยและน้าตาลทราย ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ เพื่อให้ชาวไร่อ้อยและโรงงานน้าตาลนำส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้าตาลทรา ย อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๘ ของระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย ว่าด้วย การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการวิจัยและส่งเสริมการผลิตอ้อยและน้าตาลทราย และวิธีการชำระ ค่าธรรมเนียม พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย จึงออกประกาศกำหนดให้ชาวไร่อ้อย และโรงงานน้าตาลชำระค่าธรรมเนียมการวิจัยและส่งเสริมการผลิตอ้อยและน้าตาลทรายฤดูการผลิต ปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ ตามอัตราที่กำหนดไว้ในบัญชีแนบท้ายประกาศนี ทังนี ตังแต่บัดนี เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖ กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย หน้า ๕๑ บัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย เรื่อง กำหนดอัตรา ค่าธรรมเนียมการวิจัย และส่งเสริมการผลิต อ้อยและน้าตาลทราย ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ พ.ศ. ๒๕๖๔ อัตรา อัตรา อัตรา ค่าธรรมเนียมการวิจัยค่าธรรมเนียมการวิจัยค่าธรรมเนียมการวิจัย เฉพาะส่วนของอ้อยเฉพาะส่วนของน้าตาลเฉพาะส่วนของกากน้าตาล เขตคำนวณราคาอ้อย 1 1บริษัท น้าตาลไทยเอกลักษณ์ จำกัด 4.775174 16.570960 3.953754 2บริษัท น้าตาลทิพย์สุโขทัย จำกัด 6.065816 20.822570 4.981139 เขตคำนวณราคาอ้อย 2 3บริษัท น้าตาลทิพย์กำแพงเพชร จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 4บริษัท น้าตาลทรายกำแพงเพชร จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 5บริษัท น้าตาลนครเพชร จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 6บริษัท เกษตรไทยอินเตอร์เนชั่นแนลชูการ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 6.517769 23.154190 5.189066 (รวมผล) (ต.บ้านมะเกลือ อ.เมือง) 7บริษัท น้าตาลพิษณุโลก จำกัด 4.033636 13.725570 3.365598 8บริษัท อุตสาหกรรมมิตรเกษตร จำกัด (อุทัยธานี) 6.278343 22.027100 5.154949 เขตคำนวณราคาอ้อย 3 9บริษัท น้าตาลสิงห์บุรีจำกัด 5.709618 19.896870 4.692199 10บริษัท เกษตรไทยอินเตอร์เนชั่นแนลชูการ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 5.688017 19.882970 4.620852 (ต.หนองโพ อ.ตาคลี) 11บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด 5.127157 17.763525 4.228000 12บริษัท ไทยอุตสาหกรรมน้าตาล จำกัด (บึงสามพัน เพชรบูรณ์) 5.368568 18.578690 4.427156 13บริษัท อุตสาหกรรมน้าตาล ที.เอ็น จำกัด 5.931737 20.702100 4.897442 14บริษัท น้าตาลสระบุรีจำกัด (สระโบสถ์) 5.249139 18.205290 4.301526 15บริษัท น้าตาลสระบุรีจำกัด 5.315353 18.385650 4.387596 เขตคำนวณราคาอ้อย 4 16บริษัท อุตสาหกรรมน้าตาลบ้านไร่จำกัด 6.278343 22.027100 5.154949 17บริษัท อุตสาหกรรมมิตรเกษตร จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 18บริษัท น้าตาลไทยกาญจนบุรีจำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 19บริษัท โรงงานน้าตาลนิวกรุงไทย จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 20บริษัท ประจวบอุตสาหกรรม จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 21บริษัท น้าตาลท่ามะกา จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 22บริษัท ไทยเพิ่มพูนอุตสาหกรรม จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 23บริษัท ไทยอุตสาหกรรมน้าตาล จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 24บริษัท น้าตาลราชบุรีจำกัด 2 (รง.น้าตาลเมืองกาญ ด่านมะขามเตีย) 5.341763 18.631360 4.401963 25บริษัท น้าตาลราชบุรีจำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 26บริษัท น้าตาลบ้านโป่ง จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 27บริษัท น้าตาลรีไฟน์ชัยมงคล จำกัด (อู่ทอง) 5.341763 18.631360 4.401963 28บริษัท น้าตาลมิตรผล จำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 อัตรา : บาท/เมตริกตัน ลำดับ รายการ - ๒ - อัตรา อัตรา อัตรา ค่าธรรมเนียมการวิจัยค่าธรรมเนียมการวิจัยค่าธรรมเนียมการวิจัย เฉพาะส่วนของอ้อยเฉพาะส่วนของน้าตาลเฉพาะส่วนของกากน้าตาล เขตคำนวณราคาอ้อย 5 29บริษัท อุตสาหกรรมน้าตาลสุพรรณบุรีจำกัด 5.341763 18.631360 4.401963 เขตคำนวณราคาอ้อย 6 30บริษัท อุตสาหกรรมน้าตาลปราณบุรีจำกัด 5.841165 20.461790 4.721599 เขตคำนวณราคาอ้อย 7 31บริษัท น้าตาลนิวกว้างสุ้นหลีจำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 32บริษัท น้าตาลระยอง จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 33บริษัท สหการน้าตาลชลบุรีจำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 34บริษัท น้าตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด (มหาชน) 5.286776 18.274520 4.355067 35บริษัท น้าตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด (มหาชน) 6.076905 20.650370 5.084415 (วังสมบูรณ์) เขตคำนวณราคาอ้อย 9 36บริษัท น้าตาลเกษตรผล จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 37บริษัท น้าตาลกุมภวาปีจำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 38บริษัท น้าตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) 5.024211 17.405600 4.150889 39บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด (มิตรภูเวียง) ขก. 4.185587 14.776230 3.303310 40บริษัท น้าตาลไทยอุดรธานีจำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 41บริษัท โรงงานน้าตาลทรายขาวเริ่มอุดม จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 42บริษัท สหเรือง จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 43บริษัท โรงงานน้าตาลบุรีรัมย์ จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 44บริษัท รวมเกษตรกรอุสาหกรรม จำกัด (ชัยภูมิ) 4.812272 16.753300 3.943965 45บริษัท น้าตาลระยอง จำกัด (ชัยภูมิ) 4.475299 15.331220 3.717866 46บริษัท อุตสาหกรรมโคราช จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 47บริษัท น้าตาลครบุรีจำกัด (มหาชน) 5.024211 17.405600 4.150889 48บริษัท อุตสาหกรรมอ่างเวียน จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 49บริษัท อุตสาหกรรมน้าตาลอีสาน จำกัด 4.379690 15.285170 3.634288 50บริษัท น้าตาลมิตรกาฬสินธุ์ จำกัด 4.678946 16.363010 3.803977 51บริษัท น้าตาลสุรินทร์ จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 52บริษัท น้าตาลวังขนาย จำกัด (มหาวัง) 3.544082 12.633290 2.821902 53บริษัท น้าตาลเอราวัณ จำกัด 5.024211 17.405600 4.150889 54บริษัท น้าตาลขอนแก่น จำกัด (วังสะพุง) 5.024211 17.405600 4.150889 55บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด (เลย/มิตรภูหลวง) 5.024211 17.405600 4.150889 56บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด (สกลนคร) 5.024211 17.405600 4.150889 57บริษัท น้าตาลมิตรผล จำกัด (อำนาจเจริญ) 5.024211 17.405600 4.150889 อัตรา : บาท/เมตริกตัน ลำดับ รายการ เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๘๙ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๕๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:119698", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการวิจัยและส่งเสริมการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ พ.ศ. ๒๕๖๔", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/189/T_0051.PDF", "year": null }
nonweb_118747
ประกาศสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด [ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน] ประกาศสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร สาขาจตุจักร เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด ด้วย บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล จำกัด ซึ่งเป็น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคาร โฉนดที่ดิน เลขที่ ๑๔๒๙๔ เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒ งาน ๗๔.๑ ตารางวา แขวง จตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยอาคารจำนวน ๑ หลัง ได้ยื่นขอจดทะเบียนที่ดินและอาคารดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาจตุจักร ให้เป็นอาคารชุดตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าที่ดินและอาคารดังกล่าวอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไข สมควรเป็นอาคารชุดได้จึงรับจดทะเบียนเป็นอาคารชุดชื่อ “ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน” ทะเบียนเลขที่ ๑๔/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ การิน จิณณฉัตร พนักงานเจ้า เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๓๑ ง ประกาศ ณ: ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๒๒๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:118748", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด [ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/031/T_0228.PDF", "year": null }
nonweb_126499
ประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. ๒๕๖5) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. ๒๕ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จึงแต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ 1. เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กเส้นกลม (มอก. 20-2559) บริษัท ทำทำ สตีล การผลิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (สาขา (2) จังหวัดสระบุรี) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 2. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงาน ดึงขึ้นรูป (มอก. 528-2560) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 3. เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ รีดร้อน (มอก. 1227-2558) บริษัท ทำทำ สตีล การผลิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (สาขา (2) จังหวัดสระบุรี) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 4. ความปลอดภัยของ เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ ในที่อยู่อาศัยและ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน ข้อกำหนดทั่วไป (มอก. 1375-2563) บริษัท บิทไว้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 5. ความปลอดภัยของ เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ ในที่อยู่อาศัยและ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน ข้อกำหนดทั่วไป (มอก. 1375-2563) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้หน้า ๑๒ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ 6. เครื่องซักผ้าใช้ในที่อยู่อาศัย – คุณลักษณะที่ต้องการ ด้านประสิทธิภาพพลังงาน (มอก. 1462-2562) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 7. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป (มอก. 1479-2558) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 8. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเชื่อม ประกอบ (มอก. 1499-2563) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 9. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเชื่อม ประกอบ (มอก. 1499-2563) บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 10. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเชื่อม ประกอบ (มอก. 1499-2563) บริษัท ศูนย์วิจัยโลหะวิทยา แอลพีเอ็น (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 11. เครื่องปรับอากาศ คุณลักษณะที่ต้องการ ด้านความปลอดภัย (มอก. 1529-2561) บริษัท บิทไว้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 12. เครื่องปรับอากาศ คุณลักษณะที่ต้องการ ด้านความปลอดภัย (มอก. 1529-2561) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 13. เครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้า น้ำผ่านร้อนทันที เฉพาะด้านความปลอดภัย (มอก. 1693-2547) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด หน้า ๑๓ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ 14. เหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อน สำหรับงานท่อ (มอก. 1735-2563) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 15. เหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อน สำหรับงานท่อ (มอก. 1735-2563) บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 16. เหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อน สำหรับงานท่อ (มอก. 1735-2563) บริษัท ศูนย์วิจัยโลหะวิทยา แอลพีเอ็น (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 17. เตาไมโครเวฟสำหรับ ใช้ในที่อยู่อาศัย เฉพาะด้านความปลอดภัย (มอก. 1773-2548) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 18. เหล็กกล้ารีดร้อนทนแรงดึงสูง แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง ที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ (มอก. 1884-2542) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 19. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ (มอก. 1999-2560) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 20. เหล็กกล้ารีดร้อนแผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และ แผ่นบาง ที่ต้านการ กัดกร่อนได้ดีในบรรยากาศ (มอก. 2011-2543) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 21. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานถังก๊าซ (มอก. 2060-2560) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้หน้า ๑๔ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ 22. ตู้เย็นและตู้เย็นแบบมีช่องแช่ เยือกแข็ง สำหรับ ใช้ในที่อยู่อาศัย ข้อกำหนด ด้านสิ่งแวดล้อม : ประสิทธิภาพพลังงาน (มอก. 2186-2561) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 23. ตู้เย็นและตู้เย็นแบบมีช่องแช่ เยือกแข็ง สำหรับ ใช้ในที่อยู่อาศัย ข้อกำหนด ด้านความปลอดภัย (มอก. 2214-2561) บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 24. ยานยนต์ประเภท M1 N1 ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายใน หรือที่ขับเคลื่อน ด้วยไฟฟ้า หรือไฮบริดไฟฟ้า : สารมลพิษ คาร์บอนไดออกไซด์ ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง - พลังงานไฟฟ้าและระยะ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (มอก. 2335-2558) บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 25. รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ จุดระเบิดด้วยประกายไฟ เฉพาะด้านความปลอดภัย : สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ 8 (มอก. 2540-2554) บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 26. รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้ เครื่องยนต์แบบจุดระเบิด ด้วยการอัดเฉพาะด้าน ความปลอดภัย : บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้หน้า ๑๕ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ 7 (มอก. 2550-2554) 27. เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน ที่ต้านการกัดกร่อนใน บรรยากาศ สำหรับงาน โครงสร้างเชื่อมประกอบ (มอก. 2982-2562) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 28. รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้ เครื่องยนต์แบบจุดระเบิด ด้วยการอัด เฉพาะด้าน ความปลอดภัย : สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ 8 (มอก. 3018-2563) บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ 29. รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้ เครื่องยนต์แบบจุดระเบิด ด้วยการอัด เฉพาะด้าน ความปลอดภัย : สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ 9 (มอก. 3019-2563) บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจสอบเฉพาะรายการตาม รายละเอียดท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖ บรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หน้า ๑๖ รายละเอียดท้ายประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. ๒๕๖5) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม บริษัท บิทไว้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด : รายการที่ตรวจสอบ ความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน ข้อกำหนดทั่วไป มาตรฐานเลขที่มอก. 1375-2563 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 14. แรงดันไฟฟ้าเกินชั่วครู่ ข้อ 19. การทำงานผิดปกติ ข้อ 19.11.4 เครื่องใช้ไฟฟ้ามีอุปกรณ์มีตำแหน่งวงจรเปิดฯ ข้อ 22. สิ่งสร้าง ข้อ 22.16 ล้อเก็บสายอ่อนอัตโนมัติ ข้อ 22.32 ฉนวนเพิ่มเติมและฉนวนเสริม ข้อ 22.46 วงจรอิเล็กทรอนิกส์ป้องกันโปรแกรมได้ เครื่องปรับอากาศ คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย มาตรฐานเลขที่มอก. 1529-2561 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 14. แรงดันไฟฟ้าเกินชั่วครู่ ข้อ 19. การทำงานผิดปกติ ข้อ 19.11.4 เครื่องใช้ไฟฟ้ามีอุปกรณ์มีตำแหน่งวงจรเปิดฯ ข้อ 22. สิ่งสร้าง ข้อ 22.16 ล้อเก็บสายอ่อนอัตโนมัติ ข้อ 22.32 ฉนวนเพิ่มเติมและฉนวนเสริม ข้อ 22.46 วงจรอิเล็กทรอนิกส์ป้องกันโปรแกรมได้ บริษัท อันเดอร์ไรเตอร์ แลบอลาทอรี่ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด : รายการที่ตรวจสอบ ความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน ข้อกำหนดทั่วไป มาตรฐานเลขที่มอก. 1375-2563 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 19. การทำงานผิดปกติ ข้อ 19.11.4 เครื่องใช้ไฟฟ้ามีอุปกรณ์มีตำแหน่งวงจรเปิดฯ ข้อ 22. สิ่งสร้าง ข้อ 22.32 ฉนวนเพิ่มเติมและฉนวนเสริม ข้อ 22.46 วงจรอิเล็กทรอนิกส์ป้องกันโปรแกรมได้ ข้อ 22.57 คุณสมบัติของวัสดุอโลหะต้องไม่เสียชั้นคุณภาพจากการเผยผึ่งต่อการแผ่รังสี UV-C ภาคผนวก ต. การประเมินส่วนชุดคำสั่ง ภาคผนวก ท. ผลกระทบการแผ่รังสี UV-C ต่อวัสดุอโลหะ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรีจำกัด (มหาชน) : รายการที่ตรวจสอบ เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูป มาตรฐานเลขที่มอก. 528-2560 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% Rp0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A ข้อ 6.2 ความสามารถในการดัดโค้ง (เฉพาะชั้นคุณภาพ HR1) เหล็กกล้า ... -2- เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป มาตรฐานเลขที่มอก. 1479-2558 เฉพาะรายการ ข้อ 5. สมบัติทางกลความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% Rp0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A ข้อ 6. มวลพื้นฐาน และเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปร่างและมิติ ข้อ 6.3 เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของความหนา ข้อ 6.4 เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของความกว้าง ข้อ 8. เครื่องหมายและฉลาก เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเชื่อมประกอบ มาตรฐานเลขที่มอก. 1499-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% Rp0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A เหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อน สำหรับงานท่อ มาตรฐานเลขที่มอก. 1735-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A ข้อ 6.2 ความสามารถดัดโค้ง เหล็กกล้ารีดร้อนทนแรงดึงสูงแผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง ที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ มาตรฐานเลขที่มอก. 1884-2542 เฉพาะรายการ ข้อ 6. ลักษณะที่ต้องการ ข้อ 6.2 สมบัติทางกล ข้อ 6.2.1 ความต้านแรงดึงและความยืด เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ มาตรฐานเลขที่มอก. 1999-2560 เฉพาะรายการ ข้อ 5. สมบัติทางกลความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% Rp0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A เหล็กกล้ารีดร้อนแผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง ที่ต้านการกัดกร่อนได้ดีในบรรยากาศ มาตรฐานเลขที่มอก. 2011-2543 เฉพาะรายการ ข้อ 6. ลักษณะที่ต้องการ ข้อ 6.2 สมบัติทางกล ข้อ 6.2.1 ความต้านแรงดึงและความยืด เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานถังก๊าซ มาตรฐานเลขที่มอก. 2060-2560 เฉพาะรายการ ข้อ 5. สมบัติทางกลความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% Rp0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนที่ต้านการกัดกร่อนในบรรยากาศ สำหรับงานโครงสร้างเชื่อมประกอบ มาตรฐานเลขที่มอก. 2982-2562 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% Rp0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A บริษัท ... -3- บริษัท ทำทำ สตีล การผลิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (สาขา (2) จังหวัดสระบุรี) : รายการที่ตรวจสอบ เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กเส้นกลม มาตรฐานเลขที่มอก. 20-2559 เฉพาะรายการ ข้อ 4. ขนาด มวล และเกณฑ์ความคลาดเคลื่อน ข้อ 4.2 มวลต่อเมตรของเหล็กเส้นกลม ข้อ 5. วัสดุ การทำ และส่วนประกอบทางเคมี ข้อ 5.5 เหล็กเส้นกลมต้องเป็นเหล็กกล้าไม่เจือ (รายละเอียดเหล็กกล้าเจือ ให้เป็นไปตาม ภาคผนวก ก.) คาร์บอน กำมะถัน ทำได้เฉพาะช่วง 0.0054% ถึง 0.055% โดยน้ำหนัก ฟอสฟอรัส ทำได้เฉพาะช่วง 0.0025% ถึง 0.050% โดยน้ำหนัก ข้อ 6. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 6.2 สมบัติทางกล ข้อ 6.2.1 สมบัติในการดึง ข้อ 6.2.1.1 ความต้านแรงดึง ข้อ 6.2.1.2 ความต้านแรงดึงที่จุดคราก ข้อ 6.2.1.3 ความยืด ข้อ 6.2.2 การดัดโค้ง ภาคผนวก ก. รายละเอียดเกณฑ์กำหนดของเหล็กกล้าเจือ - โมลิบดีนัม (Mo) - โบรอน (B) - นิกเกิล (Ni) - โครเมียม (Cr) - ไนโอเบียม (Nb) - ซิลิคอน (Si) - ไทเทเนียม (Ti) - แมงกานีส (Mn) - วาเนเดียม (V) - เซอร์โคเนียม (Zr) เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มาตรฐานเลขที่มอก. 1227-2558 เฉพาะรายการ ข้อ 4. ขนาด ความหนา และเกณฑ์ความคลาดเคลื่อน ความหนา ความยาว ความได้ฉาก ความโก่ง ข้อ 5 ... -4- ข้อ 5. ส่วนประกอบทางเคมี คาร์บอน ซิลิคอน แมงกานีส ทำได้เฉพาะช่วง 0.155% ถึง 1.99% โดยน้ำหนัก ฟอสฟอรัส กำมะถัน ทองแดง ทำได้เฉพาะช่วง 0.0171% ถึง 0.36% โดยน้ำหนัก นิกเกิล โครเมียม โมลิบดินัม ไทเทเนียม โบรอน ข้อ 6. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 6.2 สมบัติทางกล ข้อ 6.2.1 ความต้านแรงดึงที่จุดคราก ความต้านแรงดึงและความยืด ข้อ 6.2.3 การดัดโค้ง (เฉพาะชั้นคุณภาพ SS400 SS490 และ SS540) บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) : รายการที่ตรวจสอบ เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างเชื่อมประกอบ มาตรฐานเลขที่มอก. 1499-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% R p0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A ข้อ 6.2 พลังงานที่ถูกดูดกลืนชาร์ปีเฉลี่ย KV เหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อน สำหรับงานท่อ มาตรฐานเลขที่มอก. 1735-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A ข้อ 6.2 ความสามารถดัดโค้ง บริษัท ศูนย์วิจัยโลหะวิทยา แอลพีเอ็น (ประเทศไทย) จำกัด : รายการที่ตรวจสอบ เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างเชื่อมประกอบ มาตรฐานเลขที่มอก. 1499-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความเค้นครากบน ReH หรือความเค้นพิสูจน์สำหรับการยืดช่วงพลาสติก 0.2% R p0.2 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A เหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อน สำหรับงานท่อ มาตรฐานเลขที่มอก. 1735-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 6. สมบัติทางกล ข้อ 6.1 ความต้านแรงดึง Rm และความยืด A บริษัท ... -5- บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด : รายการที่ตรวจสอบ ยานยนต์ประเภท M1 N1 ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า หรือไฮบริดไฟฟ้า : สารมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง – พลังงานไฟฟ้าและระยะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า มาตรฐานเลขที่มอก. 2335-2558 เฉพาะรายการ Annex 6 Method of measuring emissions of carbon dioxide and fuel consumption of vehicles powered by an internal combustion engine only สารมลพิษ คาร์บอนไดออกไซด์และความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (M1, N1) รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟ เฉพาะด้านความปลอดภัย : สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ 8 มาตรฐานเลขที่มอก. 2540-2554 เฉพาะรายการ ข้อ 5. คุณลักษณะที่ต้องการและการทดสอบ ข้อ 5.2 การทดสอบ ลักษณะที่ 1 (ปริมาณสารมลพิษไอเสียเฉลี่ยภายหลังติดเครื่องขณะเย็น) การทดสอบระบบวินิจฉัยอุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษ (OBD) รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัดเฉพาะด้านความปลอดภัย: สารมลพิษจาก เครื่องยนต์ ระดับที่ 7 มาตรฐานเลขที่มอก. 2550-2554 เฉพาะรายการ ข้อ 5. คุณลักษณะที่ต้องการและการทดสอบ ข้อ 5.2 การทดสอบ ลักษณะที่ 1 (ปริมาณสารมลพิษไอเสียเฉลี่ยภายหลังติดเครื่องขณะเย็น) การทดสอบระบบวินิจฉัยอุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษ (OBD) รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด เฉพาะด้านความปลอดภัย : สารมลพิษจาก เครื่องยนต์ ระดับที่ 8 มาตรฐานเลขที่มอก. 3018-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 3. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 3.2 ปริมาณสารมลพิษไอเสียเฉลี่ยภายหลังติดเครื่องขณะเย็น ข้อ 3.4 ระบบวินิจฉัยอุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษ รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด เฉพาะด้านความปลอดภัย : สารมลพิษจาก เครื่องยนต์ ระดับที่ 9 มอก. 3019-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 3. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 3.2 ปริมาณสารมลพิษไอเสียเฉลี่ยภายหลังติดเครื่องขณะเย็น ข้อ 3.4 ระบบวินิจฉัยอุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษ เล่ม: ๑๓๙ หมวด: ๗๙ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ หน้า: ๑๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:126500", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/079/T_0012.PDF", "year": null }
nonweb_95927
ประกาศศาลจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง คำสั่งให้ นายยศ นระวงศ์ หรือนรวงศ์ เป็นคนสาบสูญ ประกาศศาลจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง คำสั่งให้นายยศ นระวงค์ หรือนรวงศ์ เป็นคนสาบสูญ คดีหมายเลขดำที่พ. ๘๑๕/๒๕๖๐ คดีหมายเลขแดงที่พ. ๑๖๑๗/๒๕๖๐ ด้วย พนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคดีจังหวัดนครราชสีมา ผู้ร้อง ยื่นคำร้องว่า ได้รับคำร้องจา กนายณรงค์ นระวงค์ ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับ นายยศ นระวงค์ หรือนรวงศ์ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ๒๒/๘๖ ถนนสามวา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อประมาณปี ๒๕๐๒ นายยศออกจากบ้านไปทำงานเป็นช่างเชื่อมที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาเมื่อปี ๒๕๐๕ นายณรงค์ไปทำงานที่ถนนจันทร์ เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พบกับนายยศ ที่โรงงานเชื่อมเหล็ก ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา นายยศบอกกับนายณรงค์ว่าหากไม่มีความจำเป็น ไม่ต้องมาพบอีก ภายหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้รับข่าวคราวของนายยศอีกว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่นับถึงป้จจุบันเป็นเวลาเกินกว่า ๕ ปี จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายยศ เป็นคนสาบสูญ ศาลไต่สวนแล้วได้ความว่า นายยศ นระวงค์ หรือนรวงศ์ ได้ไปจากภูมิลำเนาอันเป็นที่อยู่อาศัย ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใดและมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยไม่กลับมายังภูมิลำเนาอันเป็นที่อยู่อา ศัย ซึ่งเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๕ ปีแล้ว จึงมีคำสั่งว่า นายยศ นระวงค์ หรือนรวงศ์ เป็นคนสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑ ประกาศ ณ วันที่ ๑ ๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ นัชชา เวทย์วิไล ผู้พิพากษา เล่ม: ๑๓๔ หมวด: ๙๔ ง ประกาศ ณ: ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ หน้า: ๑๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:95928", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศศาลจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง คำสั่งให้ นายยศ นระวงศ์ หรือนรวงศ์ เป็นคนสาบสูญ", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/D/094/10.PDF", "year": null }
nonweb_115713
ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณ ปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขปรับปรุงชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน และสอดคล้องกับ สถานการณ์ปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมัน เชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญ ญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ .ศ. ๒๕๖๔” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔ ในประกาศนี้ “น้ำมันสำเร็จรูป” หมายถึง น้ำมันสำเร็จรูปตามตารางรายละเอียดท้ายประกาศนี้ “เอทานอล” หมายถึง เอทานอลแปลงสภาพที่มีลักษณะและคุณภาพตามที่อธิบดีประกาศกำหนด และให้รวมถึงเอทานอลที่ยังไม่ได้แปลงสภาพตามสูตรที่กรมสรรพสามิตกำหนด “ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ไม่สามา รถสูบถ่ายได้ (Dead Stock)” หมายถึง ปริมาณ น้ำมันสำเร็จรูปที่ไม่สามารถสูบถ่ายได้ด้วยวิธีการดำเนินงานตามปกติ หรือปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่อยู่ต่ำกว่า ขอบบนสุดของท่อจ่ายน้ำมันจนถึงก้นถังน้ำมันแต่ละถัง แล้วแต่ปริมาณใดจะมากกว่า ข้อ ๕ ภายใต้บังคับข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๙ ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ สำรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามชนิดและอัตราตามตารางรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ข้อ ๖ ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่นำมาคำนวณปริมาณสำรองให้คำนวณจากปริมาณ การค้าประจำปี หักด้วย (๑) ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายให้แก่ผู้คำน้ำมันตามมาตรา ๗ รายอื่น (๒) ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ส่งออกไปจำหน่ายนอกราชอาณาจักร (๓) ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีหรือ อุตสาหกรรมอื่น ๆ หน้า ๓๓ ข้อ ๗ ปริมาณน้ำมันดิบที่นำมาคำนวณปริมาณสำรองให้คำนวณจากสมการ ดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการคำนวณตามวรรคหนึ่ง กำหนดให้ (๑) ปริมาณการค้าประจำปีของน้ำมันดิบที่ใช้ในการกลั่น หมายถึง ปริมาณน้ำมันดิบทั้งหมด ที่จัดหามาได้หักด้วยปริมาณน้ำมันดิบที่จำหน่ายให้กับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ รายอื่น (๒) ผลรวมปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นหรือผลิตได้หมายถึง ผลรวมของปริมาณ น้ำมันสำเร็จรูป และปริมาณก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กลั่นได้ (๓) ผลรวมปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นหรือผลิตได้สำหรับจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในราชอาณาจักร หมายถึง ผลรวมของปริมาณน้ำมันสำเร็จรู ปที่กลั่นหรือผลิตได้หักด้วยปริมาณ น้ำมันสำเร็จรูปที่ส่งออกและจำหน่าย ตามข้อ ๖ (๒) และ ๖ (๓) ซึ่งผู้กลั่นพิสูจน์ได้ ข้อ ๘ ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ จะเก็บสำรองน้ำมันดิบในแต่ละวันไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๐ ของปริมาณที่มีหน้าที่ต้องสำรองก็ได้ แต่ทั้งนี้ เมื่อคำนวณปริมาณที่เก็บสำรองเฉลี่ยในแต่ละเดือน ต้องไม่น้อยกว่าอัตราที่กำหนดในข้อ ๕ ข้อ ๙ ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ เก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปแต่ละชนิดในแต่ละวัน ตามปริมาณที่มีหน้าที่ต้องสำรอง โดยให้รวมถึงน้ำมันสำเร็จรูปที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามกำหนดลักษณะ และคุณภาพแต่ได้รับหนังสือรับรองการให้ความเห็นชอบให้มีไว้เพื่อจำหน่ายได้ด้วย ทั้งนี้ปริมาณน้ำมัน สำเร็จรูปที่เก็บสำรองไม่รวมถึงปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ไม่สามารถสูบถ่ายได้ (Dead Stock) ของแต่ละถัง ความในวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับแก่การเก็บสำรองน้ำมัน สำหรับเครื่องบินไอพ่นชนิด เจ.พี. ๕ น้ำมันสำหรับเครื่องบินออกเทน ๑๐๐/๑๓๐ น้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นชนิด เจ.พี. ๘ และ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องบินทหาร และให้นำความในข้อ ๘ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ ๑๐ การสำรองน้ำมันสำเร็จรูปแต่ละชนิด จะสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในกลุ่มเดียวกัน ตามตารางรายละเอียดท้ายประกาศนี้ทดแทนกันก็ได้ ข้อ ๑๑ การสำรองน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันในราชอาณาจักร และจำหน่าย จ่าย โอน จากเขตปลอดอากรสำหรับการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เกี่ยวกับปิโตรเลียม หรือปิโตรเคมีที่เป็นของเหลว ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ใช้อัตราสำรอง ของน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตในราชอาณาจักร ในกรณีเป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่นาเข้ามาในราชอาณาจักร และจำหน่าย จ่าย โอน จากเขต ปลอดอากรดังกล่าวตามวรรคหนึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ใช้อัตราสำรองน้ำมันสำเร็จรูปที่นาเข้ามา ในราชอาณาจักร ปริมาณน้ามันดิบ ที่นำมาค้านวณ ปริมาณส้ารอง ปริมาณการค้าประจำปีของน้ามันดิบที่ใช้ในการกลั่น ผลรวมปริมาณน้ามันส้าเร็จรูปที่กลั่นหรือผลิตได้ผลรวมปริมาณน้ามันส้าเร็จรูป ที่กลั่นหรือผลิตได้ส้าหรับจำหน่าย เป็นเชือเพลิงในราชอาณาจักร ×  หน้า ๓๔ ข้อ ๑๒ ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ อาจเลือกเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปแทนน้ำมันดิบที่มีหน้าที่ ต้องสำรองได้ในอัตราส่วนแทนกัน ๑ ต่อ ๑ ของร้อยละ ๒๐ ของปริมาณน้ำมันดิบที่มีหน้าที่ ต้องสำรองตามกฎหมาย ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ ยื่นขอความเห็นชอบต่ออธิบดีก่อนการเก็บสำรองแทนกัน ตามวรรคหนึ่ง และให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ ชนิด ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูป ระยะเวลา หมายเลขถัง และ คลังน้ำมันที่จะใช้เก็บ ทั้งนี้ถังเก็บน้ำมันและคลังน้ำมันดังกล่าวจะต้องเป็นสถานที่ที่ได้รับความเห็นชอบ ให้ใช้เป็นสถานที่เก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปด้วย (๒) รายงานปริมาณคงเหลือของน้ำมันสำเร็จรูปที่เก็บแทนกัน เสมือนเป็นน้ำมันดิบ ที่ต้องสำรอง ตามแบบแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บน้ำมันสำรองตามกฎหมายคงเหลือรายวัน (นพ. ๒๑๐) (๓) การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดใด ๆ ตาม (๑) ต้องได้รับความเห็นชอบก่อน ประกาศ ณ วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖ นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน หน้า ๓๕ ตารางรายละเอียด ชนิดและอัตรา ของน้ามันเชื้อเพลิง ที่ต้องส้ารอง แนบท้ายประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค้านวณ ปริมาณส้ารองน้ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๔ ชนิดน้ามันเชื้อเพลิง วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ถึง ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป น้ามันเชื้อเพลิง ที่ผลิตใน ราชอาณาจักร ร้อยละ น้ามันเชื้อเพลิง ที่นำเข้ามาใน ราชอาณาจักร ร้อยละ น้ามันเชื้อเพลิง ที่ผลิตใน ราชอาณาจักร ร้อยละ น้ามันเชื้อเพลิง ที่นำเข้ามาใน ราชอาณาจักร ร้อยละ ๑. น้ามันดิบ ๒. น้ามันส้าเร็จรูป (๑) กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ (๑.๑) น้ำมันเบนซิน (๑.๒) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ / น้ำมันเบนซินพืนฐาน (๒) กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เอทานอล (๓) กลุ่มที่ ๓ ได้แก่น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (๔) กลุ่มที่ ๔ ได้แก่ ไบโอดีเซล (๕) กลุ่มที่ ๕ ได้แก่น้ำมันเตา ชนิดที่ ๑ (๖) กลุ่มที่ ๖ ได้แก่น้ำมันเตา ชนิดที่ ๒ (๗) กลุ่มที่ ๗ ได้แก่น้ำมันเตา ชนิดที่ ๕ (๘) กลุ่มที่ ๘ ได้แก่ (๘.๑) น้ำมันก๊าด (๘.๒) น้ำมันสำหรับอากาศยาน เจท เอ ๑ (๘.๓) น้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นชนิด เจ.พี. ๕ (๙) กลุ่มที่ ๙ ได้แก่น้ำมันสำหรับเครื่องบินออกเทน ๑๐๐/๑๓๐ (๑๐) กลุ่มที่ ๑๐ ได้แก่น้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นชนิด เจ.พี. ๘ (๑๑) กลุ่มที่ ๑๑ ได้แก่น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องบินทหาร ๔ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๖ ๑๐ ๑๐ ๒๐ ๔ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๑๒ ๑๐ ๑๐ ๒๐ ๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๖ ๑๐ ๑๐ ๒๐ ๕ ๖ ๖ ๖ ๖ ๖ ๖ ๖ ๖ ๖ ๖ ๑๒ ๑๐ ๑๐ ๒๐ เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๙ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๓๓
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:115714", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๔", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/019/T_0033.PDF", "year": null }
nonweb_141655
ประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2566) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ 6 (พ.ศ. ๒๕๖6) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. ๒๕ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจึงแต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ ๑. สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน พอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนด ไม่เกิน 450/750 โวลต์ มีเปลือกสำหรับงานทั่วไป (มอก. 11 เล่ม 101-2559) การไฟฟ้านครหลวง ฝ่ายวิจัย และนวัตกรรมระบบไฟฟ้า กองทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ถนนนครไชยศรี แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๒. แป้งมันสำปะหลัง (มอก. 274-2565) อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร โดยศูนย์บริการ ห้องปฏิบัติการอุตสาหกรรมอาหาร ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๓. ระดับชั้นการป้องกัน ของเปลือกหุ้มบริภัณฑ์ไฟฟ้า (รหัส IP) (มอก. 513-2553) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๔. ภาชนะพลาสติกสำหรับ บรรจุนมและผลิตภัณฑ์นม (มอก. 653-2554) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โดยห้องปฏิบัติการฮาร์ดไลน์ ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ ๕. ภาชนะและเครื่องใช้พลาสติก สำหรับอาหาร เล่ม 1 พอลิเอทิลีน พอลิพรอพิลีน พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีน เทเรฟแทเลต พอลิไวนิล แอลกอฮอล์ และพอลิเมทิลเพนทีน (มอก. 655 เล่ม 1-2553) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โดยห้องปฏิบัติการฮาร์ดไลน์ ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๖. เครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบ (มอก. 792-2554) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่ง ชาติ โดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ในบ้านและเซรามิก อุตสาหกรรม ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ๗. ดวงโคมไฟฟ้า เล่ม 1 คุณลักษณะที่ต้องการทั่วไป และการทดสอบ (มอก. 902 เล่ม 1-2563) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๘. ดวงโคมไฟฟ้าติดประจำที่ สำหรับจุดประสงค์ทั่วไป (มอก. 902 เล่ม 2 (1)-2563) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๙. ดวงโคมไฟฟ้าเคลื่อนย้ายได้ สำหรับจุดประสงค์ทั่วไป (มอก. 902 เล่ม 2(4)-2563) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๑๐. เครื่องปรับอากาศสำหรับ ห้องแบบแยกส่วน (มอก. 1155-2557) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้หน้า ๕๐ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ ๑๑. ความปลอดภัย ของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ ในที่อยู่อาศัย และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ที่คล้ายกัน ข้อกำหนดทั่วไป (มอก. 1375-2563) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๑๒. เครื่องซักผ้าใช้ในที่อยู่อาศัย : คุณลักษณะที่ต้องการ ด้านประสิทธิภาพพลังงาน (มอก. 1462-2562) บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ๑๓. เครื่องฟอกอากาศ เฉพาะด้านความปลอดภัย (มอก. 1516-2549) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๑๔. เครื่องดูดฝุ่นและเครื่อง ทำความสะอาดโดยการดูดน้ำ เฉพาะด้านความปลอดภัย (มอก. 1522-2552) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๑๕. ความปลอดภัย ของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับ ใช้ในที่อยู่อาศัยและ งานที่มีลักษณะคล้ายกัน ข้อกำหนดเฉพาะ สำหรับเครื่องปั่นสลัดน้ำ (มอก. 1542-2553) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๑๖. บริภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ - ด้านความปลอดภัย เล่ม 1 คุณลักษณะที่ต้องการทั่วไป (มอก. 1561-2556) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๑๗. เตาย่าง เตาปิ้ง และเครื่องทำอาหาร เคลื่อนย้ายได้ที่คล้ายกัน เฉพาะด้านความปลอดภัย (มอก. 1641-2552) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ หน้า ๕๑ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ ๑๘. บริภัณฑ์ส่องสว่างและ บริภัณฑ์ที่คล้ายกัน : ขีดจำกัดสัญญาณรบกวนวิทยุ (มอก. 1955-2551) การไฟฟ้านครหลวง ฝ่ายวิจัย และนวัตกรรมระบบไฟฟ้า กองทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ถนนนครไชยศรี แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๑๙. ฝักบัวอาบน้ำ เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม : การประหยัดน้ำ (มอก. 2066-2552) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่ง ชาติ โดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ในบ้านและเซรามิก อุตสาหกรรม ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๒๐. ก๊อกน้ำสำหรับเครื่องสุขภัณฑ์ เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม : การประหยัดน้ำ (มอก. 2067-2552) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่ง ชาติ โดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ในบ้านและเซรามิก อุตสาหกรรม ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๒๑. ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร สำหรับเตาไมโครเวฟ เล่ม 1 สำหรับการอุ่น (มอก. 2493 เล่ม 1-2554) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โดยห้องปฏิบัติการฮาร์ดไลน์ ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๒๒. ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร สำหรับเตาไมโครเวฟ เล่ม 2 สำหรับการอุ่นครั้งเดียว (มอก. 2493 เล่ม 2-2556) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โดยห้องปฏิบัติการฮาร์ดไลน์ ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้หน้า ๕๒ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ ๒๓. เครื่องซักผ้าใช้ในที่อยู่อาศัย - วิธีวัดสมรรถนะ (มอก. 2537-2562) บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ๒๔. น้ำมะพร้าว (มอก. 2705-2563) อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร โดยศูนย์บริการ ห้องปฏิบัติการอุตสาหกรรมอาหาร ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๒๕. กระจกอบแข็งด้วยความร้อน (มอก. 2737-2559) บริษัท ไทย-เยอรมัน สเปเชียลตี้กลาส จำกัด ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ๒๖. ภาชนะและเครื่องใช้เมลามีน - ฟอร์แมลดีไฮด์ ยูเรีย- ฟอร์แมลดีไฮด์ และ เมลามีน-ยูเรีย-ฟอร์แมลดีไฮด์ สำหรับอาหาร : เฉพาะด้านความปลอดภัย (มอก. 2921-2562) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โดยห้องปฏิบัติการฮาร์ดไลน์ ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ๒๗. ตู้เก็บวัคซีน เฉพาะ ด้านสมรรถนะ เล่ม 1 ช่วงอุณหภูมิที่ยอมรับ 2 ºC - 8 ºC (มอก. 3245-2564) บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๒๘. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ของแอลกอฮอล์ เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ (มอก. 3302-2564) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเภสัชศาสตร์ โดยศูนย์บริการเทคโนโลยีเภสัช อุตสาหกรรม ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้หน้า ๕๓ ลำดับ ที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายเหตุ ๒๙. ความปลอดภัย ของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ ในที่อยู่อาศัย และเครื่องใช้ไฟฟ้า อื่น ที่คล้ายกัน เล่ม 2 (32) ข้อกำหนดเฉพาะสำหรับ เครื่องนวดร่างกาย (มอก. 60335 เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๓๐. ความปลอดภัย ของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ ในที่อยู่อาศัย และเครื่องใช้ไฟฟ้า อื่น ที่คล้ายกัน เล่ม 2 (65) ข้อกำหนดเฉพาะสำหรับ เครื่องฟอกอากาศ (มอก. 60335 เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตรวจสอบเฉพาะรายการ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. ๒๕ บรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หน้า ๕๔ รายละเอียดท้ายประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ 6 (พ.ศ. ๒๕๖6) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้านและ เซรามิกอุตสาหกรรม : รายการที่ตรวจสอบ ฝักบัวอาบน้ำ เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม : การประหยัดน้ำ มาตรฐานแลขที่มอก. 2066-2552 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 7. เครื่องหมายและฉลาก ก๊อกน้ำสำหรับเครื่องสุขภัณฑ์ เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม : การประหยัดน้ำมาตรฐานแลขที่มอก. 2067-2552 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 7. เครื่องหมายและฉลาก การไฟฟ้านครหลวง ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมระบบไฟฟ้า กองทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า : รายการที่ตรวจสอบ บริภัณฑ์ส่องสว่างและบริภัณฑ์ที่คล้ายกัน : ขีดจำกัดสัญญาณรบกวนวิทยุ มาตรฐานเลขที่มอก. 1955-2551 ทุกรายการ ยกเว้น - ความสูญเสียเนื่องจากการใส่แทรก - แรงดันไฟฟ้ารบกวนที่ขั้วควบคุม - สัญญาณรบกวนที่แผ่ออกในพิสัยความถี่ 30 เมกะเฮิรตซ์ ถึง 300 เมกะเฮิรตซ์ ที่ระยะวัด 10 เมตร บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด : รายการที่ตรวจสอบ ความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน เล่ม 2 (65) ข้อกำหนดเฉพาะสำหรับเครื่องฟอกอากาศ มาตรฐานเลขที่มอก. 60335 เล่ม 2 (65)-2564 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 32.102 และภาคผนวก กก ดวงโคมไฟฟ้า เล่ม 1 คุณลักษณะที่ต้องการทั่วไปและการทดสอบ มาตรฐานเลขที่มอก. 902 เล่ม 1-2563 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 4.20, ข้อ 4.24, ข้อ 9. (IP5X, IP6X, IPX9) และ annex P ระดับชั้นการป้องกันของเปลือกหุ้มบริภัณฑ์ไฟฟ้า (รหัส IP) มาตรฐานเลขที่มอก. 513-2553 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 13.4, ข้อ 13.5 และ ข้อ 13.6 ความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน ข้อกำหนดทั่วไป มาตรฐานเลขที่มอก. 1375-2563 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 19.11.4.2, ข้อ 19.11.4.7 และ ข้อ 24.1.1 เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องทำความสะอาดโดยการดูดน้ำ เฉพาะด้านความปลอดภัย มาตรฐานเลขที่มอก. 1522-2552 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 21.101 ถึง ข้อ 21.105 บริภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ - ด้านความปลอดภัย เล่ม 1 คุณลักษณะที่ต้องการทั่วไป มาตรฐานเลขที่ มอก. 1561-2556 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 4.3.12, ข้อ 4.3.13, ข้อ 4.3.13.4 และ ข้อ 4.3.13.5 เครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง แบบแยกส่วน มาตรฐานเลขที่มอก. 1155-2557 ทุกรายการ ยกเว้น ข้อ 9.1.3 ถึง ข้อ 9.1.6 บริษัท อินเตอร์เทค... -2- บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โดยห้องปฏิบัติการฮาร์ดไลน์: รายการที่ ตรวจสอบ ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุนมและผลิตภัณฑ์นม มาตรฐานเลขที่มอก. 653-2554 เฉพาะรายการ ข้อ 6. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 6.3 คุณลักษณะด้านความปลอดภัย ข้อ 6.3.3 ปริมาณสารที่ละลายออกมา (1) โลหะหนัก (เทียบเป็นตะกั่ว) ภาชนะและเครื่องใช้พลาสติกสำหรับอาหาร เล่ม 1 พอลิเอทิลีน พอลิพรอพิลีน พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีนเทเรฟแทเลต พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ และพอลิเมทิลเพนทีน มาตรฐานเลขที่มอก. 655 เล่ม 1-2553 เฉพาะรายการ ข้อ 5. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 5.1 ลักษณะทั่วไป ข้อ 5.2 ความทนอุณหภูมิ ข้อ 5.3 กลิ่นและรส (ยกเว้นเครื่องใช้พลาสติก) ข้อ 5.4 ความทนแรงกระแทก (เฉพาะแบบใช้ซ้ำได้) (ยกเว้นเครื่องใช้พลาสติก) ข้อ 5.5 คุณลักษณะด้านความปลอดภัย ข้อ 5.5.1 สี ข้อ 5.5.1.2 ความคงทนของสีที่ใช้พิมพ์ (ถ้ามี) ข้อ 6. การบรรจุ ข้อ 7. เครื่องหมายและฉลาก ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับเตาไมโครเวฟ เล่ม 1 สำหรับการอุ่น มาตรฐานเลขที่มอก. 2493 เล่ม 1-2554 เฉพาะรายการ ข้อ 4. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 4.1 ลักษณะทั่วไป ข้อ 4.2 คุณลักษณะด้านการใช้งาน ข้อ 4.3 คุณลักษณะด้านความปลอดภัย ข้อ 4.3.1 สี ข้อ 4.3.2 สีผสมในพลาสติกที่ละลายออกมา ข้อ 4.3.3 ปริมาณสารที่ละลายออกมา (1) โพแทสเซียมเพอร์แมงกาเนตที่ใช้ทำปฏิกิริยา (2) สิ่งที่เหลือจากการระเหย (3) โลหะหนัก (เทียบเป็นตะกั่ว) ข้อ 4.3.4 โลหะในพลาสติก ข้อ 5. การบรรจุ ข้อ 6. เครื่องหมายและฉลาก ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับเตาไมโครเวฟ เล่ม 2 สำหรับการอุ่นครั้งเดียว มาตรฐานเลขที่มอก. 2493 ข้อ 4. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 4.1 ลักษณะทั่วไป ข้อ 4.2 คุณลักษณะด้านการใช้งาน ข้อ 4.3 คุณลักษณะ ... -3- ข้อ 4.3 คุณลักษณะด้านความปลอดภัย ข้อ 4.3.1 สี ข้อ 4.3.2 สีผสมในพลาสติกที่ละลายออกมา ข้อ 4.3.3 ปริมาณสารที่ละลายออกมา (1) โพแทสเซียมเพอร์แมงกาเนตที่ใช้ทำปฏิกิริยา (2) สิ่งที่เหลือจากการระเหย (3) โลหะหนัก (เทียบเป็นตะกั่ว) ข้อ 4.3.4 โลหะและสารอินทรีย์ในพลาสติก (1) ตะกั่ว (2) แคดเมียม ข้อ 5. การบรรจุ ข้อ 6. เครื่องหมายและฉลาก ภาชนะและเครื่องใช้เมลามีน-ฟอร์แมลดี ไฮด์ ยูเรีย-ฟอร์แมลดีไฮด์ และ เมลามีน-ยูเรีย – ฟอร์แมลดีไฮด์ สำหรับ อาหาร : เฉพาะด้านความปลอดภัย มาตรฐานเลขที่มอก. 2921-2562 เฉพาะรายการ ข้อ 5. การบรรจุ ข้อ 6. เครื่องหมายและฉลาก อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร โดยศูนย์บริการห้องปฏิบัติการอุตสาหกรรมอาหาร : รายการที่ ตรวจสอบ แป้งมันสำปะหลัง มาตรฐานเลขที่มอก. 274-2565 เฉพาะรายการ ข้อ 4. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 4.3 คุณลักษณะทางฟิสิกส์และทางเคมี (1) ความชื้น (3) เถ้า (5) โปรตีน (ไนโตรเจนทั้งหมด) หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method T 927 based on AOAC (2019) 991.20 ข้อ 7. สุขลักษณะ ข้อ 7.2 จุลินทรีย์ที่อาจมีในแป้งมันสำปะหลัง (1) จำนวนจุลินทรีย์ทั้งหมด (2) รา หมายเหตุ Compendium of Method for the Microbiological Examination of Foods (APHA), 5th Edition, 2015 Chapter 21 (3) เอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli) โดยวิธีเอ็มพีเอ็น (MPN) น้ำมะพร้าว มาตรฐานเลขที่มอก. 2705-2563 เฉพาะรายการ ข้อ 5. สารปนเปื้อน (1) สารหนู หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method T9153 based on AOAC 986.15 (2) ตะกั่ว หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method T9166 based on AOAC 990.10 (3) ดีบุก ... -4- (3) ดีบุก (เฉพาะภาชนะบรรจุที่เป็นโลหะ) หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method T944 based on 985.16 ข้อ 6. สุขลักษณะ ข้อ 6.2 จุลินทรีย์ที่อาจมีในน้ำมะพร้าว (1) โคลิฟอร์ม โดยวิธีเอ็มพีเอ็น (MPN) หมายเหตุ วิธีทดสอบ Standard Methods for the Examin ation of Water and Wastewater, APHA, AWWA, WEF, 23rd Edition, 2017, Part 9221B (2) เอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli) หมายเหตุ วิธีทดสอบ Standard Methods for the Examination of Water and Wastewater, APHA, AWWA, WEF, 23rd Edition, 2017, Part 9221B (3) ยีสต์และรา หมายเหตุ วิธีทดสอบ Compendium of Method for the Microbiological Examination of Foods (APHA), 5th Edition, 2015 Chapter 21 (4) คลอสทริเดียม เพอร์ฟริเจนส์ (Clostridium perfringens) (5) สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) (6) แซลโมเนลลา (Salmonella spp.) (7) บาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus cereus) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเภสัชศาสตร์ โดยศูนย์บริการเทคโนโลยีเภสัชอุตสาหกรรม : รายการที่ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ มาตรฐานเลขที่มอก. 3302-2564 เฉพาะรายการ ข้อ 4. ส่วนประกอบและการทำ ข้อ 4.1 เอทิลแอลกอฮอล์ หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method TM 19-13 by GC Technique ข้อ 4.2 ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method TM 19-13 by GC Technique ข้อ 5. คุณลักษณะที่ต้องการ ข้อ 5.2 คุณลักษณะด้านความปลอดภัย (1) เมทานอล หมายเหตุ วิธีทดสอบ In-house method TM 19-13 by GC Technique ข้อ 5.5 ความเข้มข้นของส่วนผสมหลัก (1) ประเภทที่ 1 หมายเหตุ เอทิลแอลกอฮอล์ วิธีทดสอบ In-house method TM 19-13 by GC Technique (2) ประเภทที่ 2 หมายเหตุ ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์วิธีทดสอบ In-house method TM 19-13 by GC Technique (3) ประเภทที่ 3 หมายเหตุ เอทิลแอลกอฮอล์และไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ผสมรวมกัน วิธีทดสอบ In-house method TM 19-13 by GC Technique เล่ม: 140 หมวด: 116 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 19/05/2023 หน้า: 49
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:141656", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2566) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง แต่งตั้งผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D116S0000000004900.pdf", "year": null }
nonweb_106994
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๓๓๖/๒๕๖๑ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๓๓๖/๒๕๖๑ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ สมบุญ โมจนกุล ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน หน้า ๑ 1ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิเศษน้ำใสแอร์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๒๘๓ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส . สุขนันท์ คอนสตรัคชั่น ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๓๔ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แก้วสว่าง ทรานสปอร์ต ๐๗๖๓๕๖๑๐๐๐๘๘๐ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบุรี ๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองพญา คอนสตรัคชั่น ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๒๒ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนาทรัพย์ไพศาล ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๑๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โซกู๊ดเทค ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๐๒ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชิติพัทธ์ วายแอนด์บี ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๔๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจวีพี๖๖ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๒๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มพีแอล อิเล็คตริค แอนด์ ซัพพลาย ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๔๒ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านป้าย บิลบอร์ด ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๒๔ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .โอ.เอฟ เน็ตเวิร์ค ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๓๒ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สร้างฉาก ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๒๙๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จรรยา จอมเทียน พร๊อพเพอร์ตี้ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๒๙ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรีรายละเอียดการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป . 336/ 2561 ลงวันที่ 21 มกราคม 2562 2ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .สุขเกษม คอนสตรัคชั่น ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๔๕ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แปซิฟิค ริชเชอร์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๓๗ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหายตราด ๐๒๓๓๕๖๑๐๐๐๓๘๘ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๙๐๐ ,๐๐๐ ตราด ๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอส เอเจ้นท์ กรุ๊ป ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๗๘๘ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ล้านหน้าวัด ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๗๙๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โคราชาพาณิชย์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๑๘ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อู่บายพาส ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๐๐ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคทวีสโลปโปรดักชั่น ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๒๔ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลพัทธ์ เซล แอนด์ เซอร์วิส ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๖๘๕ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างเพชรทองไท้แซ อำนาจเจริญ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๓๕ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีทีเอส เคเค ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๑๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนภาเจริญทรัพย์ ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๑๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยตระกูลชัย เมดิคัล ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๑๕๐ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ แอนด์ เค คอร์เปอเรชั่น ๑๙๙๙ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๐๓ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร 3ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ .เอส .สปอร์ต ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๑๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดื่อศรีวิชัยคำปิโตรเลียม ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๒๐ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนพูล ฮอด ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๓๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชื่น๙๙๙๙ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๔๙ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กวยเตี๋ยวป้ำยิน โดย แทน ๐๕๔๓๕๖๑๐๐๐๗๔๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แพร่ ๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัษฎา คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๓๙๗๐ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สีลาการเกษตร ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๓๙๘๘ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๒๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม .เอ.วาย. กรุ๊ป ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๒๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชูศรีอินเตอร์ฟูด ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๑๘๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรมศิริก่อสร้าง ๒๐๑๘ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๑๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีระปิโตรเลียม ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๒๔ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชิมานนท์๒๐๑๘ ก่อสร้าง ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๘๗๒ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น้ำยางชัวร์ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๐๑ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี แอนด์ พี เซรามิค ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๐๙ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร 4ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกลักษณ์โลหะกิจ๙๙ ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๑๗ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะ เบสท์ เรท มันนี่ เอ็กซ์เชนจ์ ๐๘๑๓๕๖๑๐๐๐๙๙๔ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กระบี่ ๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีเอช พร็อพเพอร์ตี้ภูเก็ต ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๐๕ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชุมพรอินเตอร์กรุ๊ป ๑๙๙๙ ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๘๔๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสบีดิสทริบิวชั่น สุราษฎร์ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๖๗๙ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะ ริช คอฟฟี ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๘๕๔ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มนู -ยะลา ๐๙๕๓๕๖๑๐๐๐๕๘๖ ๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๙๐๐ ,๐๐๐ ยะลา ๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พาคำยิ่งเจริญ ก่อสร้าง ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๓๒ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุภาวหาก่อสร้าง ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๖๘๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรสุวรรณ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๕๑ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พร ดี เจริญ ทรานสปอร์ต ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๕๙ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอมเม่ แคร์ ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๐๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับเบิ้ล เบสท์ ครีเอชั่น ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๒๔ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยธร เวิร์คเวิลด์ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๖๙ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ 5ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉิมคอร์ปอเรชั่น ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๗๗ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .วี.โปรดัคท์ แอนด์ เทรดดิ้ง ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๐๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดวงเงิน วัสดุก่อสร้าง ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๑๓ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรวัส เสถียร ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๓๕๗ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม .มั่งสุวรรณ การช่าง ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๓๖๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีมิตร ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๕๓ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนซัลติ้ง แอนด์ บีโอไอ ชลบุรี ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๖๑ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แฮร์รี่กรุ๊ป ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๗๐ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลัคกี้บิสซิเนส แอคเค้าติ้ง ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๒๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอฟ เอ็น ออโต้เพ้นท์ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๓๔ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รักษ์ดีการบัญชี ๙๙ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๔๒ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วาเลนไทน์ คลีนนิ่ง ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๒๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้มเทเลคอมกรุ๊ป ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๗๘๒ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บอส ๑๖๘ กรุ๊ป ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๓๒ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๒๑๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี 6ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๙๙ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๐๙๗๒ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๖๕๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรมเจริญ๙๙๙ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๔๓ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันทนาพาณิชย์ ๒๕๑๔ ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๗๘๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นุตยาพรทรานสปอร์ต ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๑๗๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอ็นเอส คอร์ปอเรชั่น ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๓๒ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิตติพร แคปปิตอล ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๒๙ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คำพัน สแตนเลส ฮาร์ดแวร์ ๒๐๑๘ ๐๔๒๓๕๖๑๐๐๑๔๔๗ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เลย ๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พารุ่งเรืองทรัพย์ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๑๖๘ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ดอกคูณ๙๙๙ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๓๘ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธันทร์วัน ดีเวลล็อปเมนท์ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๔๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะ เบียร์ โฮลดิ้ง ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๑๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชินโชติซัพพลาย ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๕๗ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิตติภาคิน ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๖๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๖๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วรัญู ทรานสปอร์ต ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๗๓ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ 7ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออกัส คอนสตรัคชั่น ดีไซน์ ๒๐๐๐ ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๓๕๗ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๗๐๐ ,๐๐๐ ลำพูน ๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลานนาโมโต เซอร์วิส ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๓๖๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ลำพูน ๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทัพพ์ธิดา (๒๐๑๘) ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๓๙๙๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคศิริลักษณ์ ๒๐๑๘ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๐๓ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยทรายรับเบอร์โกลด์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๑๑ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัชชานนท์ คอฟฟี ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๑๕๘ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟิวเจอร์เทรนด์เฟรนด์ ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๑๖๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคเวียงทอง ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๑๗๔ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงศ์สวัสดิ์ รับเหมาก่อสร้าง ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๐๔๕ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเจ ทราฟฟิค ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๔๔๔ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น้ำใส ๒๐๑๘ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๖๘๗ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองชนะ การก่อสร้าง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๑๑ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี .อาร์ .แอล. ดีไซน์ แอนด์ คอนสทรัคชั่น ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๒๐ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัทรภณ เพาเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๓๘ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สงขลา 8ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เครื่องแกงท่านช่วย ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๓๙๖ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง ๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ราจาราณี เฮิร์บส์ ๐๙๔๓๕๖๑๐๐๐๕๔๓ ๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ป้ตตานี ๑๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เปียก และ นงค์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๖๗ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๑๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิราภรณ์ จันทะแจ่ม ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๓๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๑๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มอร์นิ่งสตาร์ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๔๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูษณิศา๙๙ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๐๗ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๑๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพีบิซิเนส (๒๐๑๘) ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๑๕ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๑๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พ .เพิ่มตังค์ ๒๐๑๙ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๐๙๕๒ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๑๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟอร์เวิร์ด เอเนอจี เทรดดิ้ง ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๔๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๑๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ พี โกลเบิล แทรเวล ทัวร์ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๔๖ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๑๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัษฎากร ธุรกิจ (๒๐๑๘) ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๖๙๕ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๑๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นโนเทค เอ็นเตอร์ไพรส์ ๐๗๖๓๕๖๑๐๐๐๘๙๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เพชรบุรี ๑๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กสิณจิต เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๘๕ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๑๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทริปเปิ้ล เจ็มส์ พร็อพเพอร์ตี้ เวิลด์ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๕๙๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ 9ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิทธิมาร์เก็ตติ้ง ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๖๙๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๑๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .เอ็น. ไอที โซลูชั่น เซอร์วิส ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๒๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟิชอินเตอร์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๓๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คชสาร ไทย คูลลิ่ง ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๘๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๑๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรสเมรี่ โลจิสติกส์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๐๙๖ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๑๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงษ์ศรีการโยธา ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๕๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๑๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตะวันออกวิศวการโยธา ๐๒๒๓๕๖๑๐๐๐๗๓๖ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ จันทบุรี ๑๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บางคลำ ปิโตรเลียม ๐๒๔๓๕๖๑๐๐๑๐๖๖ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ ฉะเชิงเทรา ๑๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นพีวี เอลลิเวเตอร์ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๔๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๑๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประสงค์รุ่งเรืองทรัพย์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๓๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โม๊คบาร์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๔๒ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .เอส. เซอร์วิส กรุ๊ป ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๗๕ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๑๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เซ็นทรัลเทเลคอม ศรีสะเกษ ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๗๙๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๑๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โอ๊ตเทล ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๐๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ 10ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เรืองชัยชนะ เทเลคอม ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๐๙๘๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๑๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีไอเค ซัพพลาย เซอร์วิส ไปป์ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๕๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๑๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต .ธนทรัพย์ ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๗๙๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๑๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีซีโอ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๕๙ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๑๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุกิจ บอดี้ แอนด์ เพ้นท์ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๖๗ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๑๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พินทอง ก่อสร้าง ๐๔๓๓๕๖๑๐๐๑๐๖๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ หนองคาย ๑๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบสปีดอาร์ต ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๑๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๑๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมเจอร์กรุ๊ป๘๘๘ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๗๕ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๑๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บิ๊กลีนคร เทรดดิ้ง ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๑๕๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๑๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สันทรายเซอร์เวย์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๘๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นทีลานนา ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๖๙๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟินมาก ทิกเก็ต ทัวร์ แอนด์ ทราเวิลเซอร์วิส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๐๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคบีคอลเลคชั่น ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๑๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งต้นการโยธา ๐๕๓๓๕๖๑๐๐๐๗๙๒ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อุตรดิตถ์ 11ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .เจ.กองโกย คอนสตรัคชั่น ๐๕๔๓๕๖๑๐๐๐๗๕๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แพร่ ๑๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์เพิ่มพูนการก่อสร้าง ๐๕๖๓๕๖๑๐๐๐๙๗๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ พะเยา ๑๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปรียาวดีคอนสตรัคชั่น ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๒๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๑๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริมกกเฟอร์นิเจอร์ สโตร์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๓๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๑๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นจอย เชียงราย ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๔๖ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๑๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จตุธรณี ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๕๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๑๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเฮอร์บาลิสต์ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๓๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๑๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองอารีย์นำโชค ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๔๒ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๑๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงทองเกษตร ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๑๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๑๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิรินนุกูล ทรานสปอร์ต ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๒๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๑๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค จี ๑๗ ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๑๘๒ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๑๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บัวเพ็ชร เพื่อนเกษตร ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๘๙๙ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๑๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วงษา งานไม้ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๔๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๑๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัทธดนย์ คอนวีเนียนท์สโตร์ ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๐๕๓ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี 12ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัคนันท์ ทรานสปอร์ต ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๒๕๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๑๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส เอ็ม เจริญการช่าง ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๑๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๑๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีบี เดอะเบส โซพ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๒๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๑๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสทู แอร์ดักท์ (ไทยแลนด์) ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๓๖ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๑๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คูณนา คูณไลฟ์ ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๒๕ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๑๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลธีอันดามัน๒๐๑๘ ๐๘๒๓๕๖๑๐๐๐๕๑๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ พังงา ๑๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคทรัพย์วิศวกรรม ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๐๙ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๑๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธภัสนันทน์ ๔๕ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๕๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๑๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตรัง เคซี ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๐๘ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๑๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุ่ยการยาง ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๐๙๔ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๑๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดวงก้าวรุ่ง พาณิชย์ ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๔๐๐ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง ๑๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม เอ็ม เอ เซเว่น ๐๙๖๓๕๖๑๐๐๐๗๒๑ ๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นราธิวาส ๑๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทเฮโย กรุ๊ป ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๙๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๑๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเค โมเดิร์นโปรดักท์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๑๘ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๗๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี 13ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บานาน่า ฟลอริ่ง ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๐๔ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๑๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อู่ช่างประสาน พิมาย ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๖๙ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีละคำ พาณิชย์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๕๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรหมธาดา คอนสตรัคชั่น ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๘๕๓ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๑๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีโอเค ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๘๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชติธนกฤต ๘๘ ทรานสปอร์ต ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๒๓ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๑๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอแบค (เฮียมุ่ย) ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๓๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๑๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิวซัง ฟิชชิ่ง ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๕๙ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๑๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กลิทซ์ คาร์ เซอร์วิส ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๗๘๓ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๑๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอ็นเอสซีดีไซน์ แอนด์ บิวด์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๕๖ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับเบิ้ล เอ็น .เค คอนสตรัคชั่น ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๖๔ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สร้างศิลป์ ๓ ดี ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๗๒ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๑๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดิจิทัล ฟูดเมนู ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๐๐ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๑๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น .ดับเบิ้ลยู .เค ซับคอนแทรคท์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๒๖ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี 14ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ แอนด์ ซีซัพพลาย ๒๕๑๖ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๖๙ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๑๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอ็น วู๊ดชิพ ๐๒๖๓๕๖๑๐๐๐๓๓๗ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครนายก ๑๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพสิริน ก่อสร้าง ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๗๗ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๑๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรบรรจุภัณฑ์ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๐๙๖ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๑๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นุ่นสมัยอาภรณ์ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๐๐ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๑๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคเจ้าสัว ขนส่ง ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๑๒ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๑๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์วงศ์อนันต์ ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๒๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๑๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แทนไทยฟาร์ม ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๘๐๘ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๑๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มวายเจ คอนสตรัคชั่น ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๒๒ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๑๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดรสินรุ่งเรืองคอนกรีตและการโยธา ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๓๗ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๑๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กัญจนาพร (สยาม) ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๘๓ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๑๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดัมโบ้ เอเลฟเฟนท์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๒๐ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชมจันทร์ พาณิชย์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๓๘ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งรส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๔๖ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ 15ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คำภูหอม ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๓๗๓ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ น่าน ๑๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเค แอสเซมบลี แอนด์ รีโนเวท ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๓๗๓ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ลำพูน ๑๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอื้อนสิน รุ่งเรืองกิจ ก่อสร้าง ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๕๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๑๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิภา คอนสตรัคชั่นทีม ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๗๗ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๒๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ติ๊กนะจ๊ะ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๖๙ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๒๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จินดาประดิษฐ์ก่อสร้าง ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๘๕ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๒๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฟืองแก้ว คอนสตรัคชั่น ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๑๙๔ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๒๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงอรุณ สองแคว ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๑๙๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๖๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๒๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซัน สไมล์ ๒๐๑๘ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๕๙ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๒๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แปดทิศ เจริญทรัพย์ ๐๗๖๓๕๖๑๐๐๐๙๐๑ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เพชรบุรี ๒๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เซาท์ เอเซีย ฟรุ๊ต เอ็กซ์ปอร์ต ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๑๗ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๒๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สนาวันการโยธา ๐๙๕๓๕๖๑๐๐๐๕๙๔ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ยะลา ๒๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส . เอส. บีซีวิล ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๖๒ ๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๒๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มังกี้บิลดิ้ง ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๓๙๙ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี 16ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๓๓ วู้ดเซ็นเตอร์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๐๕ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๒๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุพรรณีทรานสปอร์ต ๘๘๘ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๑๘๔ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๒๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รวยทรัพย์ คอนสตรัคชั่น ๙๙๙ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๓๔ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๒๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาทิตย์ รวมช่าง ๐๑๖๓๕๖๑๐๐๑๑๑๓ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ลพบุรี ๒๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี .เจ.อาร์ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๑๘ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๒๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไร่ภูวัว ๒๐๑๘ ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๘๑๖ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๒๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บัลลังทองดีไซน์ (๒๐๑๘) ๐๓๙๓๕๖๑๐๐๐๖๒๐ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองบัวลำภู ๒๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทำงานรุ่งการโยธา ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๐๗ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๒๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สรรเพชญ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๑๙๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๒๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หนุ่มโชคชัย ๒๐๑๙ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๐๕ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๒๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกดังอาหาร ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๔๕ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๒๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคพี เฮลตี้ฟูด ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๕๓ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๒๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะซิท๒๐๑๕ ๐๔๒๓๕๖๑๐๐๑๔๕๕ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔๘๗ ,๕๐๐ เลย ๒๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตี๋เล็กการค้า ๒๐๑๘ ๐๔๓๓๕๖๑๐๐๑๐๗๒ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองคาย 17ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บางรัก หนองคาย ๐๔๓๓๕๖๑๐๐๑๐๘๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองคาย ๒๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .เกียรติพงศ์ปิโตรเลียม ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๑๙๒ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๒๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพอรุณไตเทียม ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๕๔ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๒๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อนแท้สปอร์ต ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๖๒ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๒๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กนกศักดิ์ เซอร์วิส ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๐๔๐ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๒๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยต้ม สหพานิช ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๓๘๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ลำพูน ๒๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิม เรสซิเดนซ์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๕๔ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๒๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำราญจิตรการค้า ๒๐๐๖ ๐๕๓๓๕๖๑๐๐๐๘๐๖ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุตรดิตถ์ ๒๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พูนสิริออแกไนเซอร์แอนด์พีเคกรุ๊ป ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๓๘๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน ๒๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กอริลลา ยิม ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๖๒ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๑๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๒๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิว ดีเอ็นเอส คอนสตรัคชั่น ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๗๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๒๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีบีวอเตอร์ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๐๙๓ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๒๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลอโฉม บาย เอ แอนด์ พี ๐๖๑๓๕๖๑๐๐๐๕๕๔ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ อุทัยธานี ๒๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยธัญกิจ ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๐๖๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี 18ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมุยจั้วคำข้าว ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๒๖๖ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๒๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม วิงค์ไวท์จงเจริญ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๔๔ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๒๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีโก ซัพพลาย ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๕๒ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๒๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉลุงการช่าง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๗๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๒๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อัฒแอร์เซอร์วิส หาดใหญ่ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๘๙ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๒๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ .เอฟ .ดี. เอนจิเนียร์ริ่ง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๐๙๗ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๒๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซาฟินดาเซอร์วิส๒๐๑๘ ๐๙๔๓๕๖๑๐๐๐๕๕๑ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ป้ตตานี ๒๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สโมสรฟุตบอล ยาลอ ซิตี้ ๐๙๕๓๕๖๑๐๐๐๖๐๘ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ยะลา ๒๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรายทอง ๕ ชิกเก้น ฟู้ด ๐๙๖๓๕๖๑๐๐๐๗๓๐ ๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นราธิวาส ๒๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรีทอปโบทำนิค ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๑๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๒๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คนมีกิน ก่อสร้าง ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๙๐๒ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๒๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเคเอสดับบลิว เอ็นจิเนียริ่ง ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๑๓ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๒๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจบีอัลติเมท กรุ๊ป ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๐๒ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๒๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีทีเอ็ม๙๙ ซัพพลาย ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๔๕ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี 19ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .เอ็น .แตงกวา เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๔๐ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๒๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สคัลพ์เจอร์ อาร์ต ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๒๙ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๒๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีบีเคโลจิสติกส์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๓๗ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๒๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิงคพัฒน์เจริญยนต์ ๐๑๖๓๕๖๑๐๐๑๑๒๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ ลพบุรี ๒๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรไพศาล ๒๐๑๘ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๔๒ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๒๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรลดา แลนด์ ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๐๕๘ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๒๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภรมงคล ๒๐๑๘ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๖๙๓ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๒๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่าทรายชนันธร ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๓๙ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๒๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งทิพย์ ศรีสว่าง ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๖๗ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๒๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ เค การโยธา ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๐๙๙๙ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๒๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .พี.เค.๘๘ คอนสตรัคชั่น ยโสธร ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๑๐๐๖ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๒๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ .เค ๑๙๖๑ ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๑๕ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๒๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งศิลาทอง ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๒๓ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๒๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .พิทยา ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๓๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ 20ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเค บิลท์อิน ๒๐๑๘ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๒๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๒๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ติมติมไปก่อสร้าง ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๖๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๒๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูริการเกษตร ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๗๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๒๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านไม้ปรายเมฆ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๐๙๗ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๒๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .เค.๙๒๘ เทรดดิ้ง ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๖๒ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๒๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกิตต์ รวมผล ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๘๖๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๒๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพียรสรา คอนสตรัคชั่น ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๘๗๐ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๒๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญเรืองสไมล์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๐๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๒๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส วัน ร่วมพัฒนา ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๐๘ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๒๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เขตไพศาล ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๖๗ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๒๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรนิสา เซอร์วิส ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๐๙๖๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๒๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .การช่างเพิ่มพูน ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๑๖๔ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๒๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นาเหนือธุรกิจ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๑๗๒ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๒๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิเบทเทิน อาร์ท แอนด์ แฮนดีคราฟท์ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๒๕ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี 21ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูเก็ต เอสทีเอ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๑๓ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๒๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรแก้ว๙๙ โยธาการ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๓๓ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๒๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป้นสุข เทรดดิ้ง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๐๑ ๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๒๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลอนดรี้๒๔ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๙๗ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๒๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี .พี.ทีการค้ารุ่งเรือง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๖๖ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๒๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกิดทรัพย์ ซีเอ็นซี ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๑๓ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๒๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคียงเลยมะพร้าวอ่อนแก้ว (๒๐๑๘) ๐๔๒๓๕๖๑๐๐๑๔๗๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เลย ๒๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วชิรกลการ แมชชีนเนอรี่ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๕๘ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๒๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๕๓ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๒๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิลลี่อีฟ (ไทยแลนด์) ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๓๐ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๒๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมุนเงินหมุนทอง ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๕๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๒๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิ่มนวล เซอร์วิส ซัพพลาย ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๗๗ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๒๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีอุชา ก่อสร้าง ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๘๕ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๒๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ๊หงส์ - โปรดักท์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๘๕ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา 22ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๒๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส . ทวีทรัพย์ เซอร์วิส ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๒๖ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๒๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลานตะวัน คอนสตรัคชั่น ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๓๔ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๒๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรนัช กรุ๊ป ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๔๒ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๒๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ราษี โฟน ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๔๗ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๒๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีรศิริ ๑๙๗๒ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๗๕ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๒๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยูเอ็มพี แอดเวอร์ไทซิ่ง ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๘๓ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๓๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พาโชคมินิมาร์ท ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๔๐ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๓๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรงพล การไฟฟ้า ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๕๘ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๓๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญทรัพย์ การโยธา ๒๐๑๘ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๖๐ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๓๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .พี.อิเล็คทริคอล ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๓๐ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .พี.เค. ทรัพย์ บุญมา ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๗๐ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๓๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๙ อ ทรัพย์เพิ่มพูน ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๘๘ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๓๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดมทรัพย์ โฮมแอนด์บิลด์ ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๒๙๖ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๓๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชูชัยเทเลคอม หนองหิน ๐๔๒๓๕๖๑๐๐๑๔๖๓ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เลย 23ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี .พี.โปรดักส์เอนเตอร์ไพรส์ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๐๖ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๓๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๑๖๘๙ ทรัพย์โยธา ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๐๓ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๓๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพ็ญศรี แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๘๙ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หนุ่มหนองหารเพิ่มพูนทรัพย์ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๓๙๗ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อนันตชัย วัสดุก่อสร้าง ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๐๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิเล็กทรอนิกส์เอ็นจิเนียร์ลิงค์รับเหมาก่อสร้าง ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๑๙ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพศิริกลการ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๗๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประทานพัฒนา ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๗๘๙ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งเรืองการค้าแพร่ ๐๕๔๓๕๖๑๐๐๐๗๖๘ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แพร่ ๓๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น .ทรัพย์เพิ่มพูน ๙๙๙ การโยธา ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๓๙๐ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน ๓๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปลายฝ้น ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๐๗ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยูนิค โซลูชั่น ๒๐๑๘ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๑๕ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๙๑๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๓๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านกุลภัสสรณ์๗๘๙ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๗๕ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ 24ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านละม้ายศรี ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๘๓ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๓๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยาม แอนิมอล ฮอสพิทอล โปรดักส์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๒๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๓๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลิศยศไพศาล การไฟฟ้า ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๔๕๒ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๓๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอพีทีม คอนสตรัคชั่น ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๔๖๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๓๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชาวน์ฤดี ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๔๗๙ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๓๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น วี แอสเซท ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๒๑ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๓๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูมิทรัพย์ การก่อสร้าง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๑๙ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๓๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยยาธุรกิจ ๒ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๒๗ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๓๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงไทยเซ็นเตอร์ ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๔๑๘ ๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง ๓๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิกานดา ก่อสร้าง ๐๒๗๓๕๖๑๐๐๐๙๐๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สระแก้ว ๓๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นัชชารุ่งเจริญทรัพย์ ก่อสร้าง ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๖๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๓๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันทร์ยารัตน์ก่อสร้าง ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๑๔ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๙ ,๙๙๙ มหาสารคาม ๓๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุตรขะนิษฐก่อสร้าง ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๐๗ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๓๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิยมสุข ซัพพลาย ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๔๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี 25ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟ . เฟรม แอนด์ กลาส ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๕๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๓๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โน่โมมายด์การก่อสร้าง ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๓๕ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จุฑามาศ ๖๘ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๗๙ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๓๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจียงสินเจริญ ๐๑๗๓๕๖๑๐๐๐๑๙๒ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สิงห์บุรี ๓๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซาลอนยู ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๗๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๓๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีรวุฒิก่อสร้าง ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๕๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วัฒนาทองคำเปลว ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๕๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๓๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟีลลิ่งเนเจอร์ ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๓๙๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ลำพูน ๓๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พานทองรีไซเคิลตรัง ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๑๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๓๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คาร์ลอทส์ ๒๐๑๘ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๗๔ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๓๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณภัทร เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย (๒๐๑๘) ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๘๒ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๓๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เค. มอเตอร์ พาร์ท แอนด์ เซอร์วิส ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๖๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๓๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาสเตอร์มายด์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๖๔ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๓๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์สามใบเถา ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๘๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี 26ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจบียานยนต์เซอร์วิส ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๓๗๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๓๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรประสิทธิ์ ดีเซล ๐๑๗๓๕๖๑๐๐๐๒๐๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สิงห์บุรี ๓๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริดีมีสุข ๐๑๘๓๕๖๑๐๐๐๖๔๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยนาท ๓๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๔๕๑ ออโต้กลาส เซอร์วิส ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๐๖๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๓๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กัญญารัตน์ สตีล แฟบริเคชั่น ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๐๗๔ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๓๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มแอนด์เอ็มคอนสตรัคชั่น ๑๙๙๒ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๘๙๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๓๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จุฑา ๒๐๑๘ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๐๗ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๓๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นกล้า บีพี ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๑๕ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๓๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคบุญมากสินทวี ๒๐๑๘ ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๕๕ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๓๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ ซีการบัญชี ๘๘๘ ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๖๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๓๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีไซน์ฮัก ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๔๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม .เค. ดิลิเจ้นซ์ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๕๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิราพัชร์คำเส้น ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๖๔ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพีเอส เทรนนิ่งซัคเซส ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๗๒ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น 27ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุชาติ เซอร์วิส อินดัสทรี ๐๔๒๓๕๖๑๐๐๑๔๘๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เลย ๓๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคช ควิก พิโก้มุกดาหาร ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๒๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๓๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคชรุ่ง พิโก้มุกดาหาร ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๓๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๓๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคช อีซี่พิโก้มุกดาหาร ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๔๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๓๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคชจำ พิโก้ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๒๒ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๓๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้มันนี่ดีแท้ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๓๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๓๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ แคชทันใจ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๔๙ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๓๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ แคชทันที ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๕๗ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๓๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กู้แท้พิโก้นครพนม ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๑๖๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๓๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มันนี่ เบสท์ พิโก้นครพนม ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๑๗๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๓๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้กู้ เด้อ กาฬสินธุ์ ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๓๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๓๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้วัน วัน ชุมแพ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๘๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ เอส พีชุมแพ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๒๙๙ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ เอ เอ ชุมแพ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๐๒ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น 28ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคชนิ้ง พิโก้ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๑๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ โอเคแคช ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๒๙ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ โอเค แก่นนคร ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๓๗ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ควิก โลน แก่นนคร ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๔๕ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๓๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้กู้ดี๊ดีอุบลราชธานี ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๔๙๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๓๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คนดีมือถือ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๒๗ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๓๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .อุปเสน ก่อสร้าง ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๑๘๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๓๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เซเคร็ด ซันสโตน ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๐๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังอาหารสัตว์เชียงใหม่ ๒๐๑๘ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๑๙ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชบาไพร ๒๐๐๕ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๒๗ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอลลิแฟนท์ ซันไชน์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๓๕ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคพีคอนเนคชั่น ๒๐๑๘ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๔๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๓๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ .บี.พี. อุตรดิตถ์ ๐๕๓๓๕๖๑๐๐๐๘๑๔ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุตรดิตถ์ ๓๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น .เค.เค นากองแก้วเพ้นท์ คัลเลอร์แอนด์ดีไซน์ ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๔๐๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน 29ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๓๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อีวีอาร์ ออดิโอ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๒๓ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีพัฒนา ๒๐๑๘ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๓๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิจรุ่งเรือง ๑๙๖๙ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๔๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๓๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรพันชัยทรานสปอร์ต ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๓๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๓๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีวายดี ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๑๒ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๓๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิริง ปริ้นติ้งส์ ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๒๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๓๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธรรมชาติเจริญก้าวหน้า ธุรกิจ ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๙๒๙ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๓๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริภัทร ๒๐๑๙ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๒๙๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๔๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ แอนด์ เอ็น กู๊ด ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๖๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๗๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๔๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกโป้ ๒๐๑๘ ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๔๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๔๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบญจรงค์ ยานยนต์ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๓๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๔๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอปเปิ้ล เรด ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๔๑ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๔๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริภัณฑ์ สงขลา (๒๐๑๘) ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๓๕ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๔๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีบีคาร์เร้นท์ ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๔๒๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง 30ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม .เทเลโฟน ๐๙๔๓๕๖๑๐๐๐๕๖๐ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ป้ตตานี ๔๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ แอนด์ เอส ๒๐๑๒ พงสตา ๐๙๔๓๕๖๑๐๐๐๕๗๘ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ป้ตตานี ๔๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูรดา กรุ๊ป ๐๙๕๓๕๖๑๐๐๐๖๑๖ ๑๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ยะลา ๔๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โก อาร์ม แอดเวนเจอร์ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๔๘ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๔๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเค เมด เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๖๑ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๔๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออลอินวันการาจ๑๙๘๖ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๔๙๖ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๔๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เสริมพัฒนาสินทรัพย์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๘๑ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๔๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อะ บอย ชอป ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๙๙ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๔๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พนิดาคอนกรีตและบรรจุภัณฑ์ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๘๗ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๒๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๔๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น วาย ซี แอคเซสเซอรี่ส์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๗๒ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๔๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิภัทร์พลออกแบบและก่อสร้าง ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๖๙ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๔๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟนต้าร์ ๔๗ การพยาบาล ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๗๗ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๔๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสที บาดาล ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๑๕ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๔๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพีเอ็น๒๕๓๙ เอ็นจิเนียร์ริ่ง ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๒๓ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา 31ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ใหญ่กลมก่อสร้าง ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๕๑ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๔๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุขสิริ๙๙๙ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๐๕ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๔๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรภัทร .พีเคเค ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๑๐๑๔ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๔๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคณัฐชา กรุ๊ป ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๕๓ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๔๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิพย์วารี ๘๙๘ ก่อสร้าง ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๘๓๒ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๔๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาณุพงษ์ ขนส่ง (๒๕๖๑) ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๘๒๔ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๔๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านยาดี ๒๐๑๘ ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๑๙๖ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๔๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตราดาว เยาวราช ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๔๓ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๔๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมืองบัว เจริญทรัพย์การโยธา ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๕๘ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๔๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ็อบแอนด์โบร ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๕๑ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๙๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๔๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลาดาโต ซีวิสาหกิจเพื่อสังคม ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๘๙๖ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๔๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จักรพัทธ์ คอนสตรัคชั่น ๒๐๑๘ ๐๕๓๓๕๖๑๐๐๐๘๒๒ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุตรดิตถ์ ๔๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หน่าบาติ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๑๙ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๔๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีเวย์ อินเตอร์กรุ๊ป ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๒๗ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย 32ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นายสะอาดบุญส่งมีชัยก่อสร้าง ๐๕๘๓๕๖๑๐๐๐๓๖๙ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ แม่ฮ่องสอน ๔๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประเสริฐสุขลูกฤาษี ๐๖๑๓๕๖๑๐๐๐๕๖๒ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุทัยธานี ๔๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคพีคอม เซอร์วิส ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๔๘ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๔๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รวมอะไหล่หล่มสัก ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๐๕ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๔๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นพีพี๙ โภคภัณฑ์ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๑๓ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๔๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พลทองพาณิชย์ ๒๕๑๖ ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๐๗๐ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๔๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๖๓ มอเตอร์เซอร์วิส ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๖๘ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๔๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรจนอนันต์ ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๔๘๗ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๔๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอลวี เมดิคอล ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๑๘๑ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๔๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มายทอยส์ (ไทยแลนด์) ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๔๓ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๔๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองรอง การโยธา ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๒๔ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๔๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอวาคอนสตรัคชั่น๒๐๑๙ ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๔๓๔ ๑๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง ๔๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคเจริญพรชัย ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๔๙๕ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๔๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลี้เค่งเซ้ง ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๐๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง 33ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แร้นช์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ๐๕๖๓๕๖๑๐๐๐๙๘๙ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พะเยา ๔๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวอร์ชั่น แทรเวล ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๐๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๔๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอแอล .เคโอ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๐๙๘๗ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๔๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๓ แอพ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๑๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๔๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มอาร์เค เวลดิ้งและไปปิ้ง ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๓๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ นครราชสีมา ๔๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ครุพัฒน์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๔๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๔๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๙๘ พลัส เซอร์วิส (บ้านสวน) ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๘๕ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๔๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัทร์ชนัญธร ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๐๒ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๔๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองทวีทรัพย์ แมททีเรียล ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๑๘ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๔๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กันชิต ๔๒๘๙ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๒๖ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๔๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กมลพันธ์ ๐๑๖๓๕๖๑๐๐๑๑๓๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลพบุรี ๔๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิมพ์วลัญช์ คอนสตรัคชั่น ๐๑๘๓๕๖๑๐๐๐๖๕๖ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยนาท ๔๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิสระวัฒน์บิวดิ้ง ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๑๙๓ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๔๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอ็นทีรีไซเคิล ๐๒๓๓๕๖๑๐๐๐๓๙๖ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตราด 34ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองมังกรทอง ปราจีนบุรี ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๐๘๒ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๔๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลิดาเทเลคอม ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๐๙๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๔๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .เค.เทพสถิตวิศวกรรม ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๗๔ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๔๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .ชมภูพาณิชย์ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๗๘ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๔๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรา สมาร์ท เซอร์วิส ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๐๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๔๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น้ำสวยวัสดุก่อสร้าง ๐๔๓๓๕๖๑๐๐๑๐๙๙ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ หนองคาย ๔๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทินกรผ้าม่าน ๒๕๕๖ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๖๕ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๔๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งสวัสดิ์การพาณิชย์ ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๑๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๓๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๔๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วาริชคอนกรีต ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๕๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๔๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที เค บิลดิ้ง ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๐๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๔๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเจ เทเลคอม เน็ตเวิร์ค ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๖๐ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๕๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๔๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีทริปเปิ้ล เอ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๗๘ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๔๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรพินิจ คอนสตรัคชั่น ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๑๘ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๔๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริกากรณ์ ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๔๑๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน 35ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอ็มพี แพชชั่น ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๓๕ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๔๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลัคกี้ เซอร์วิส กำแพงเพชร ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๕๖ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๔๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลสิทธิ์ (๒๐๑๙) ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๑๖ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๔๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิพย์รุ่งเรืองการค้า ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๒๗๔ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๔๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เตือนใจทรัพย์ทวีชัย ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๐๘๘ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๔๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาชีพเตี่ย ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๒๘๒ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๔๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอสแอนด์ดีการช่าง ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๑๔ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๔๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคช โปรฟิท ซิสเท็ม ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๖๙๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๔๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี .ซี.ซี. เจนเนอรัล คอนแทรคเตอร์ แอนด์ ซัพพลาย ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๒๒ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๔๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .เค. ดีไซน์ แอนด์ บิลด์ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๐๙๗๙ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๔๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์มีไพศาล ๐๘๑๓๕๖๑๐๐๑๐๐๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กระบี่ ๔๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นเอส ๒๐๑๘ มาร์เก็ตติ้ง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๕๑ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๔๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มั่งมี ไฟเบอร์ ออพติก ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๓๒ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๔๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศุภัทรฌาบิซิเนส ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๑๙๙ ๑๔ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช 36ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๔๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูนาสอนก่อสร้าง ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๔๙ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๔๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี .บี.ทีซัพพลาย แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๕๙๓ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๔๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงกลึงบางสวรรค์ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๖๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๖๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๔๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฐิติรัตน์ ทรานสปอร์ต ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๐๔ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๔๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พูลมา เซอร์วิส ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๑๒ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๔๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริภัฏชค์ โฮลดิ้ง ๐๒๖๓๕๖๑๐๐๐๓๔๕ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นครนายก ๔๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .ที.ดี.สตีล เด็ค -สตัด แอนด์ซัพพลาย ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๓๔ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๔๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์นรินทร์ ทรานสปอร์ต ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๔๒ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๔๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .เค เอ็นจิเนียริ่ง ๙๙ ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๓๑ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๔๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรพรมมา เครน ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๐๗ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๕๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .พี เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส สระแก้ว ๐๒๗๓๕๖๑๐๐๐๙๑๔ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระแก้ว ๕๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป้ญญาพัฒน์ ไทยเทรดดิ้ง ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๕๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๕๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เตาเซอร์วิสโอเอ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๖๙ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๕๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อีสาน เกษตรยนต์ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๗๗ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ 37ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ล้านช้างแอ็ดสุรินทร์ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๒๓ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๕๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริชพีเพิลทีม ๐๓๙๓๕๖๑๐๐๐๖๓๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ หนองบัวลำภู ๕๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พึ่งพันธุ์ การสกรีน ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๗๐ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๕๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี .เอส .อาร์ บุญส่ง -รัชนีสตีลทรัคเจอร์ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๑๓ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๕๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นเจ ครีเอทีฟแอนด์ไอที ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๑๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๕๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นพีออแกไนเซอร์ ๒๐๑๘ ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๒๖ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๕๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทินกรผ้าม่าน ๒๕๕๐ ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๕๗ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๕๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๘๘๘ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ ดิสทริบิวชั่น ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๗๓ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๕๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มงคลทรัพย์ไพศาล พิโก ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๒๐ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๕๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คูณทวีร้อยเอ็ดประดิษฐกรรมไม้ ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๓๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๕๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อนุรักษ์บาดาล ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๘๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๕๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป .ซุปเปอร์ (เรณูนคร) ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๑๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๕๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ถ่านไผ่ ๐๕๓๓๕๖๑๐๐๐๘๓๑ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุตรดิตถ์ ๕๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกลด์สตาร์ เอ็ดดูเคเต็ด ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๔๓ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐ ,๐๐๐ เชียงราย 38ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เด่นดีถมดิน ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๖๖ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๕๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นครสวรรค์ ผ้าม่าน ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๗๔ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๕๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลาดยาว กู๊ดคาร์ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๘๒ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๕๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองกรุงเทพ (ศรีสัชนาลัย) ๐๖๔๓๕๖๑๐๐๐๖๓๕ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุโขทัย ๕๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพี เวิร์คเมท กรุ๊ป ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๓๙ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๕๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำเภาเพชรพานิชย์ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๒๑ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๕๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลักษมี เอ็ม โอ ยู ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๐๙๖ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๕๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนวุฒิ (๒๐๑๘) ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๗๖ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๕๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซุปเปอร์กู๊ด ๙๙๙ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๕๖ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๕๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีบีพี ๒๐๑๘ คอนสทรัคชั่น ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๕๐ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๕๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทริปเปิ้ลที เทรนนิ่ง แอนด์ บิสซิเนส ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๖๐ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๕๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัทระ อาร์เคเดีย ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๗๘ ๑๕ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๕๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อัพเปอร์คัต การาจ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๐๙ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๕๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบสท์ไทม์ ๑๙๖๙ เซอร์วิส ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๐๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี 39ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แท็กซี่มีเธอ เซอร์วิส ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๒๙ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญกาญจนโกศล ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๘๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๕๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น เอ็น เจ เซอร์วิส ซัพพลาย ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๓๙ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูลศักดิ์ ๒๐๑๘ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๔๗ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรีไพลิน ทรานสปอร์ต แอนด์ เซอร์วิส ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๕๕ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น้ำทิพย์นำโชค ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๒๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลิศ ธนาชัย คำไม้ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๕๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๕๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี .โกลด์ กรุ๊ป ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๖๙ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๕๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เอส .เค.อินชูเรชั่น แอนด์ ซัพพลาย ๐๑๕๓๕๖๑๐๐๐๕๔๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อ่างทอง ๕๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กฤษดา คำเหล็ก ๐๑๖๓๕๖๑๐๐๑๑๔๘ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลพบุรี ๕๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีซีเอ คอนสตรัคชั่น ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๐๗ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๕๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอส๒๐๑๘ แดรี่(สิงห์บุรี)กรุ๊ป ๐๒๖๓๕๖๑๐๐๐๓๕๓ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครนายก ๕๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอส๒๐๑๘ แดรี่(สระบุรี)กรุ๊ป ๐๒๖๓๕๖๑๐๐๐๓๖๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครนายก ๕๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณดา ทราเวล ๐๒๗๓๕๖๑๐๐๐๙๒๒ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สระแก้ว 40ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีซีการาจ (ประเทศไทย) ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๖๖ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๕๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประถมาภรณ์ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๑๘๕ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๕๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคบี โกลด์ (๒๐๑๘) ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๗๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๕๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ .เจริญการเกษตร ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๘๒ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๕๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีรุ้งพาณิชย์ ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๙๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๖๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๕๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีเศียรเขียว ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๐๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๕๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มั่งมีทรัพย์ ดีไซน์ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๓๙๖ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๕๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทวีทรัพย์ โลจิสติกส์ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๐๐ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๕๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิบปาก เซียงกง ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๓๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๕๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล เอ การเกษตร ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๔๖ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๕๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร้อยเอ็ด พลาสติก ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๕๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๖๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๕๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นาริสมา ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๘๖ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๕๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป .ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๘๙๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๕๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป๋าเหมี้ยง วิสาหกิจเพื่อสังคม ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๒๖ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง 41ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปลากดสยาม ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๕๑ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๕๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิม เรสซิเดนเชี่ยล บิสซิเนส ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๒๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๕๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม อาร์ ทเวนตี้ทู แมเนจเม้นท์ ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๓๒ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๕๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรายทองคอนกรีต ๑๙๘๔ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๓๐ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๕๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำนักงานบัณฑิตการบัญชี ๒๐๑๙ ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๑๐๐ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๕๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพียรทอง ๒๐๑๘ ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๑๑๘ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๕๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .ที.สถิตย์ การช่าง ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๐๙๒ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๖๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๕๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีวิชัย (๑๙๙๐) ทรานสปอร์ต ๐๙๕๓๕๖๑๐๐๐๖๒๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ยะลา ๕๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนกฤต ซีฟู้ด ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๔๙๕ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๕๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านร่มเย็น เรียลเอสเตท ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๖๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๕๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น .ที.พี. เพิ่มพูน ทรานสปอร์ต ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๘๖ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๕๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นนท์ล้อซิ่ง แอนด์ เรซซิ่งช็อป ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๑๙๔ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๕๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรัทธา การโยธา ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๐๘ ๑๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๕๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิชากร ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๗๖ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี 42ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยปินเพ็ชร์ ๒๐๑๘ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๖๓ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๕๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีทีแอล เซเว่น ทรานสปอร์ต ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๔๕ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อรทัย ดีโลด ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๕๓ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยูเทิร์นสปอร์ต กรุ๊ป ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๑๗ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๕๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองสยาม๒ ภ ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๑๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๕๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อีซีเอ เทคโนโลยี ๐๑๕๓๕๖๑๐๐๐๕๕๙ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ อ่างทอง ๕๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเอส แอคเคาท์ เซอร์วิส ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๓๗ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนศักดิ์ เอ็นจิเนียริ่ง (๒๐๑๙) ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๖๑ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กู๊ดแพ็ค แอนด์ ดีไซน์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๗๐ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคทีทีอินเตอร์เซอร์วิส ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๘๘ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๕๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นันทำคอนสตรัคชั่น ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๗๗ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๕๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กฤติพงศ์ โลจิสติกส์ ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๓๘๑ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๕๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โจพลาสติก เอ็นจิเนียริ่ง พาร์ท ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๑๕ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๕๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .พี.คาร์แคร์ เซอร์วิส ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๗๔ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา 43ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๕๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม .ดี.ดี. เซอร์วิส ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๘๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๕๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีสะเกษคอมพิวเตอร์ แอนด์ เทคโนโลยี ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๘๘๐ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๕๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคสถิตย์การช่าง ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๑๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๕๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทางสายกลาง เอ็นจิเนียริ่ง ๐๓๙๓๕๖๑๐๐๐๖๔๖ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองบัวลำภู ๕๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันทร์ศรีแฟมมิลี่กรุ๊ป ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๐๗ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๕๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สร้างเสริมการศึกษา และ พัฒนาวิชาชีพครู ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๖๐ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๕๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีสุธรรม อุปกรณ์ก่อสร้าง ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๒๖ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๕๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .พี. การณ์จราจร ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๔๑ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๕๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สตาร์ไลน์ มาร์เก็ตติ้ง ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๔๗ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๕๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยิ่งเจริญวอเตอร์ ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๕๕ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๕๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปรัชญาก่อสร้าง ๒๐๑๙ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๐๙๙๕ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๕๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กฤษณ์การโยธา ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๘๔ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๖๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปวริตคอนสตรัคชั่น ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๐๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๕๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๖๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีแอนด์เอส เมเนจเมนท์ คอนซัลแทนท์ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๗๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๕๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต 44ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามเอ็น เรียลตี้แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๗๙๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๖๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์สิทธิ์การก่อสร้าง ๒๐๑๘ ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๔๑ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๖๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีเคเอส อิควิปเมนท์ ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๕๙ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๖๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .เอ.เค. เดอะ โคลเวอร์ ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๖๗ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๗๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๖๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮัมบาลีโยธากิจ ๐๙๕๓๕๖๑๐๐๐๖๓๒ ๑๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ยะลา ๖๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีเอ็นอาร์ พาวเวอร์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๑๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๖๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีบีคอนกรีต ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๖๐ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๖๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วสุทัย ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๕๙ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๖๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองอมรา ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๒๓ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนา ยูไนเต็ด ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๒๐ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๖๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส ดับเบิลยู เอ็น เอ็กซ์เพิร์ท คอนสตรั๊คชั่น ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๙๙๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๖๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับบลิวที แลนด์ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๒๕ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๖๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีเอชที เทรดเดอร์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๐๗ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๖๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีโอเอ็นดีซัพพลาย ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๓๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี 45ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูมิควอลิตี้ ๐๑๖๓๕๖๑๐๐๑๑๕๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลพบุรี ๖๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสซีฟลอริช ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๒๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙,๐๐๐ อุบลราชธานี ๖๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองสยาม ปราจีนบุรี ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๒๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๖๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบสท์เทคโนโลยี เซอร์วิส ๐๗๖๓๕๖๑๐๐๐๙๒๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบุรี ๖๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มนต์มอนเต้ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๐๓ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๖๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นภา จงทิพย์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๘๕ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๖๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตีระศรีก่อสร้าง ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๕๙๓ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๖๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบสท์ช็อป เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๓๙๐ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๖๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพีเอส (๑๙๙๙) ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๔๙ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๖๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามนิวสตาร์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๓๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนะฤดีกรุ๊ป ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๔๐ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรชา ๑๖๘ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๑๕ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๒๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๖๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีทีพีเอ็น พลัส ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๐๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๖๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซูเลียน โชคชัย เอเยนซี่ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๕๙๙๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา 46ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นำโชค๒๐๑๙ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๑๕ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๖๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุพรรษา (กระต่าย) ทองแท้จากเยาวราช ๑๐๐ ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๑๐๒๒ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๖๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เสาธงชัยณัฐพลก่อสร้าง ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๙๐๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๖๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอฟ เอ็ม แอล อินเส็กส์ ฟาร์ม ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๒๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๖๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก .เกื้อกูล ๙๙๖๘ ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๓๙ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๖๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทวีชัยทรัพย์เพิ่มพูน ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๘๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๖๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นำโชค ๘๘๘ อินดัสทรี่ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๑๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๖๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัคลินรินทร์ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๒๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๖๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิตยา เจริญทรัพย์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๐๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๖๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีชายะ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๘๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๖๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟลุ๊ค ชิน โฮมแอนด์เฮ้าส์ ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๖๒ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๖๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พร้อมพุฒิเทเลคอมเซลส์แอนด์เซอร์วิส ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๗๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๖๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พชรภา คอนสตรัคชั่น ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๖๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๖๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีแอนด์ทีอินโนเวชั่น ซิสเตมส์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๑๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ 47ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอ .ที.นอร์ทเทิร์น ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๒๔ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๖๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ใจประเสริฐ ขนส่ง ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๓๔ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๖๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี .พี.แม่ญ่า แอนด์ ดีไซเนอร์ ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๔๒๐ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน ๖๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญชัย เซล แอนด์ เซอร์วิส ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๗๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๖๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริกร เซ็นเตอร์เซอร์วิส ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๘๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๖๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเยาวราชกงไกรลาศ ๐๖๔๓๕๖๑๐๐๐๖๔๓ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สุโขทัย ๖๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านไร่เพชรสุวรรณ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๔๘ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๖๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านบัญชีแอนด์คอนซัลท์๙๙ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๐๒ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๖๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีม เอสวัน แอร์ดักท์ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๓๓ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๖๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกไทสงค์ ก่อสร้าง ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๐๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๖๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อะเมซิ่งวอเตอร์ (ไทยแลนด์) ๐๗๖๓๕๖๑๐๐๐๙๑๐ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เพชรบุรี ๖๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช้างกุย ๒๐๑๒ ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๕๐๙ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๖๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉวางอะไหล่ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๑๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๖๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญทรัพย์มั่งมีขนส่ง ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๒๙ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช 48ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รวมพล อินฟินิตี้ลอว์ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๓๗ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๖๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค แอนด์ เอ็น ไบค์ ฟอร์ เร้นท์ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๘๑ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๖๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประวิทย์ ทราเวล เซอร์วิส ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๑๙๙ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๖๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นฤมล องอาจ ๒๔ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๐๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๖๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำนักงานทีเอ็นพีการบัญชี ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๑๔ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๖๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริขวัญเจริญ ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๘๖๒ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๖๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วาย โอ เค เทรดดิ้ง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๑๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๖๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนทรัพย์คำข้าว ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๔๔๒ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง ๖๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เซาท์เทิร์น ฟาร์มา แคร์ ๐๙๔๓๕๖๑๐๐๐๕๘๖ ๒๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ป้ตตานี ๖๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ .เอ็ม .เจ.เพลส ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๗๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๖๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮาร์ดแวร์ยศ ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๑๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๖๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับเบิ้ลยูเอ็น พรีซิชั่น ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๒๓ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๖๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีทรัพย์ การช่าง ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๑๕ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๖๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นพพร สืบเสนาะห์ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๓๐ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี 49ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เว็ท เซ็นทรัลแล็บ นครราชสีมา ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๓๒ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๖๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช .แสงเจริญ ๒๕๐๙ ๐๑๘๓๕๖๑๐๐๐๖๖๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ชัยนาท ๖๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิวัตรฟาร์ม๑๘ ๐๑๘๓๕๖๑๐๐๐๖๗๒ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยนาท ๖๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มองฤทธิ์ รุ่งรุจี เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๐๓ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๖๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินทองคำ ๘๘๘ ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๕๗ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๖๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบญจวรรณ พาราวู๊ด ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๓๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๖๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรคุณพ่อ ๓ คอนวีเนี่ยนสโตร์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๕๘ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฮง เฮง ๘๘ ทรานสปอร์ต ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๖๖ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเอ็นเค เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๗๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๖๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วรรณารัตน์การเกษตร ๐๒๓๓๕๖๑๐๐๐๔๐๐ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตราด ๖๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อึ้งมุ่ยเชียง ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๑๖ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๖๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๖๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แหวงการโยธา ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๒๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๖๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .โปรวัสดุ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๔๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๕๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๖๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีดีโฟน ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๓๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น 50ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๖๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิบูลย์รักษ์โฟน ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๔๒ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๖๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นวคุณ๒๕๖๑ ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๒๙๐ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๖๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช .ขวัญยืนการช่าง ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๓๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๖๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัตนพีระ เทรดดิ้ง ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๓๒ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๖๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังไฟฟ้าหางดง ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๔๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๖๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรสุวรรณ เซอร์วิส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๕๙ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๖๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลิต เฟอร์นิเจอร์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๖๗ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๖๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นน้ำมินิมาร์ท ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๔๓๘ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน ๖๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกื้อธนกร การค้า ๐๕๕๓๕๖๑๐๐๑๔๔๖ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ น่าน ๖๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริคอนสตรัคชั่น เฮาส์ ๐๕๘๓๕๖๑๐๐๐๓๗๗ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แม่ฮ่องสอน ๖๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ .เอ็น. แอนด์ โมเหน่การค้า ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๖๗ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๖๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัฐนรี ๙ ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๖๓ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๖๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิมพอร์ตฟอร์ยู ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๗๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๖๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอเซียเครื่องเย็น พิษณุโลก ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๘๐ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก 51ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลูกซีลูกบีคำไม้ ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๔๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๗๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี แอนด์ บีอินเตอร์กรุ๊ป ๒๐๑๘ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๑๑ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๗๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น เค เอ็น ๙๙ คอนสตรัคชั่น ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๒๓ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๗๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส แอนด์ ดับบลิว ทราเวล ๒๐๑๘ ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๕๑๗ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๗๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เปียมโชคก่อสร้าง ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๕๒๕ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๗๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาชู ออยล์ แอนด์ โลจิส ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๒๔ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๗๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป .ประพันธ์กิจการ ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๗๕ ๒๑ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๗๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเฟืองทอง ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๖๕ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๗๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชุลีพร๘๘๙ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๔๐ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๗๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทัพพ์เทพ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๘๐ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๗๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นัฐทวาพร ครุภัณฑ์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๕๔ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๗๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนแจ้ห่ม ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๔๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๗๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริพิชัยวัฒน์การค้า ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๖๔ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๗๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เล็กผลไม้และอาหารทะเล ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๒๐๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต 52ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่โฮมแอร์เซอร์วิส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๘๓ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๗๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยดาราการโยธา ๐๕๘๓๕๖๑๐๐๐๓๘๕ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แม่ฮ่องสอน ๗๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บัวแย้ม ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๔๕ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๗๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพี เอ็นเตอร์ไพรส์ (๒๐๑๘) ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๕๐ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๗๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออลโซน โซลูชั่น ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๔๖ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๗๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประเสริฐ รวมมิตร ๒๐๑๙ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๓๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๗๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๙๙ เดคอเรชั่นแอนด์ดีไซน์ ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๑๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๗๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๒๑ -นครการค้า ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๑๔๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๗๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรดำรงค์ รุ่งเรืองขนส่ง ๐๑๗๓๕๖๑๐๐๐๒๑๔ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สิงห์บุรี ๗๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บางละมุงการโยธาก่อสร้าง ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๘๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๗๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์วิศุภา ทรานสปอร์ต (ไทยแลนด์) ๐๒๖๓๕๖๑๐๐๐๓๗๐ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครนายก ๗๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามโอซากำ ๐๒๗๓๕๖๑๐๐๐๙๓๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระแก้ว ๗๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีริโอ้ ๒๐๑๘ ๐๒๗๓๕๖๑๐๐๐๙๔๙ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระแก้ว ๗๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนไทย ซิตี้ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๕๙ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา 53ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น .เค.เวลเดอร์ ไปป์ ซิสเต็ม ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๖๗ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๗๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กานต์ธีร์ กราวด์ เซอร์วิส ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๔๘ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๗๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .แอล .คอนสตรัคชั่น ๙๙๙ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๓๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๗๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จัตุรัสพลาสติก ขนส่ง ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๔๗ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๗๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นภาโลจิสติกส์ ๐๓๙๓๕๖๑๐๐๐๖๕๔ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองบัวลำภู ๗๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญยิ่งซัพพลาย ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๔๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๗๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคบัณฑิต กรุ๊ป ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๕๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๗๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาดามเหมย ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๕๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๗๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ทูเอ็ม ซัพพลาย ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๖๙ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๗๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมเด็จ ฮั่วเฮง ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๖๕ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๗๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แนนนี่คอสเมติกส์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๑๙๔ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๗๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮอด ไฟเบอร์ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๗๕ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๗๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รสมือแม่ ๘๘๘ ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๔๐๓ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำพูน ๗๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทริปเปิล พี เฮลตี้กรุ๊ป ๐๕๖๓๕๖๑๐๐๐๙๙๗ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ พะเยา 54ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไชน่า เอ็ดดูเคชั่นเซอร์วิส ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๒๐๘ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๗๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงจันทร์ รุ่งเรือง การเกษตร ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๒๑๖ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๗๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บลู สกาย คอฟฟี ๐๖๔๓๕๖๑๐๐๐๖๕๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สุโขทัย ๗๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาร์ค เอ็น เจ ทรัพย์ รุ่งเรือง ๐๗๑๓๕๖๑๐๐๑๑๒๖ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาญจนบุรี ๗๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮงราญการเกษตร ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๒๙๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๗๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส ที เค ซีวิล แอนด์ ซิสเต็ม ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๕๓ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๗๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดู แคท คาเฟ๋ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๒๑๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๗๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูเก็ต เทเลอร์ นิว อาร์มานี่ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๒๒๙ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๗๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สเปเชี่ยลลิสท์ เซอร์วิสเซส ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๒๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๗๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อณัญภร ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๓๒ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๗๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนพงษ์การพิมพ์ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๔๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๗๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประภาสยางยนต์ ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๘๓ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๗๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชาคริตฟาร์ม ๐๙๒๓๕๖๑๐๐๑๑๙๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตรัง ๗๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม เอ็น ไฟฟ้า ๐๙๓๓๕๖๑๐๐๑๔๕๑ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พัทลุง 55ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีมินิมาร์ท ๑ ๐๙๖๓๕๖๑๐๐๐๗๔๘ ๒๒ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นราธิวาส ๗๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไพรามฟูด ๐๒๗๓๕๖๑๐๐๐๙๕๗ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระแก้ว ๗๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเค โปรดัคท์ กรุ๊ป ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๗๙๘ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๗๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สีสัน คัลเลอร์ คาร์ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๓๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๗๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮจีน ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๗๙๙๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๗๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แซดที เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๒๒ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๗๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไดอาร์ คอนเนค ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๖๒ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๗๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วายเอสซี เลเบล ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๘๙ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๗๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่อารีย์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๔๐ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๗๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีมนุช ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๕๘ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๗๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิมพ์ทรัพย์ การ์ด ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๖๖ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๗๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคพีเอ็น (๒๐๑๗) ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๒๐ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๗๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เม่าและอ้วน มินิมาร์ท ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๗๕ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๗๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โมเมย์ อีเว้นท์ แอนด์ ออกาไนซ์เซอร์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๘๓ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา 56ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ ทีศรีสะเกษ ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๙๒๘ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๗๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป .ปรางค์กู่พานิช ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๙๓๖ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๗๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวียงเจริญ ๑๑ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๗๙๔ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อำนาจเจริญ ๗๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดาวเต็มฟ้า เอนเตอร์ไพรส์ ๑๙๘๙ ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๕๕ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๗๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองฮวดหลี ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๗๗ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๗๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูดิศ รวมช่าง ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๘๕ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๗๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มอเตอร์ พลัส ๒๐๐๙ ๐๔๓๓๕๖๑๐๐๑๑๐๒ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ หนองคาย ๗๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วันคำการช่าง ๐๔๓๓๕๖๑๐๐๑๑๑๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองคาย ๗๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปฐมพงศ์ รีโซแนนท์ ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๗๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๕๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๗๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นัวสดิ้ง ตำซิ่งส่ายปาก ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๘๙ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๗๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส เอ็น เอ็น แอนด์ เอ็น เซอร์วิส ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๘๙๗ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๗๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกเวล เมดิคอล ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๘๖ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๗๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะ เมลเกิ้ล แฟมิลี่ทรานสปอร์ต ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๑๗ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๗๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฤทธิ์คันศร ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๒๕ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ 57ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นอร์เทิร์นไอทีเซอร์วิส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๐๙ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๗๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลัดดาเกษตรฟาร์ม ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๕๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๗๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นุติเจริญทรัพย์อินเตอร์ฟูด ๐๕๓๓๕๖๑๐๐๐๘๔๙ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุตรดิตถ์ ๗๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท็อปวัน ๒๐๑๘ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๒๒๔ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๗๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฐิติการโยธา ๒๕๖๐ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๑๙๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๗๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รักบ้าน การโยธา ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๒๐๔ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๗๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามเฮงขนส่งนครสวรรค์ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๒๑๒ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๗๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วาณิชย์เครื่องชั่ง ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๒๙๘ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๗๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีมีอินเตอร์กรุ๊ป ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๓๐๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๗๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นภัทร ๒๐๑๙ ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๙๓๗ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๗๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บำรุงพืชผล ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๕๖ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๗๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาลิช เบบี้ (ไทยแลนด์) ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๗๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๗๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามนคร เซ็นเตอร์เคลม ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๖๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๗๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวอร์ครูท ๐๘๑๓๕๖๑๐๐๑๐๑๐ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ กระบี่ 58ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๗๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .ผดุงเดช การโยธา ๐๘๒๓๕๖๑๐๐๐๕๒๘ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ พังงา ๗๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงรับจำนำ หลังสวน ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๘๗๑ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๘๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนชัย๗๘๙ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๕๙ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๘๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หาดใหญ่ แวน เซอร์วิส ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๖๗ ๒๓ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๘๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคชัยศิริ (ประเทศไทย) ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๐๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิจิต พลาสติกรีไซเคิล ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๔๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แมนเมด แลนด์สเคป ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๑๓ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๘๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กาญจนวัฒน์ การไฟฟ้า ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๓๐๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๘๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัทรรุ่งเจริญ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๐๙๗ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๘๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอี่ยมอุไร ก่อสร้าง ๐๕๖๓๕๖๑๐๐๑๐๐๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พะเยา ๘๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เตชินีรุ่งเรืองทรัพย์ ทรานสปอร์ต ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๑๐ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลเซอร์ไนน์คัตติ้ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๒๘ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฉลียว โลจิสติกส์ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๓๖ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพารักษ์ (ประวิทย์) ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๕๒ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ 59ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัชรจีรนนท์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๘๒ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฤทธีผล พาร์ท ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๗๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลันตาเฮง ๐๑๖๓๕๖๑๐๐๑๑๖๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๑๐๐ ,๐๐๐ ลพบุรี ๘๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อภิชัย สระบุรีคอนสตรั๊คชั่น ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๗๓ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๘๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เตโช ๒๐๑๙ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๒๙๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๘๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปพิชญา คอนสตรัคชั่น ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๓๐๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๘๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินส่งเสริม คอนสทรัคชั่น ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๓๑๒ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๘๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนวินท์ คอนสตรัคชั่น ๑๙๙๔ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๕๘ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .เอ็น .เอส .ซัพพลาย แอนด์ คอนสตรัคชั่น ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๖๖ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช้างมงคลการค้า ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๖๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นฤนาถ พาณิชย์ ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๓๙ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๘๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชาตรี เจริญรุ่งเรืองทรัพย์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๐๙๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๘๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปิยะรถยกทรานสปอร์ต ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๐๕ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๘๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสดี . ยิ่งเจริญทรัพย์ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๕๖ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี 60ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมธินีรุ่งเรือง ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๑๐๓๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๘๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสบีแอลจีฟู้ด ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๖๙ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๘๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส . สมาร์ทเทค ซิสเต็ม ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๗๗ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๘๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้องเย็นนุชไก่สด กาฬสินธุ์ ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๗๓ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๘๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พระคุณแม่แม็คโคร ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๔๙๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๘๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญพรเกษตรภัณฑ์ ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๕๐๘ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๘๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตองเจ็ด พลัส ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๔๒ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๘๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทนงการค้า ๑๖๘ ๐๕๔๓๕๖๑๐๐๐๗๗๖ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แพร่ ๘๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หนึ่งสยาม โลจิสติกส์ ๐๖๑๓๕๖๑๐๐๐๕๗๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ อุทัยธานี ๘๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พะวอเซอร์วิส ๑๘ ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๗๕ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๘๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กอล์ฟ ๒๐๑๙ ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๘๓ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๘๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม็กซ์ยางต้นหว้า ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๓๒๘ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๘๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญเครื่องเขียน กรุ๊ป ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๓๑๐ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๒๐ ,๗๘๐ พิษณุโลก ๘๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำนักงานเมธีการบัญชี ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๖๔ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ 61ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิรันดร์ เอ็น .เอ็ม .การช่าง ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๓๑ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๘๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น .ปาณนาค ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๗๐ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๘๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเดียน เฟรม ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๒๓๗ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๘๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เรืองศรี พัฒนกิจ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๔๙ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๘๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เอ คอร์น ๐๘๕๓๕๖๑๐๐๐๓๑๕ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระนอง ๘๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหายวิษณุการโยธา ๐๘๕๓๕๖๑๐๐๐๓๒๓ ๒๖ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระนอง ๘๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก .แก้ว ๒๐๑๘ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๖๙๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .สดุดียานยนต์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๐๔ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนากร เทรดดิ้ง ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๕๓๓ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๘๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อะตอม เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๑๐๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๘๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธีรศักดิ์ เซอร์วิส กรุ๊ป ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๕๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๘๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก .แสงเมือง คอนสตรัคชั่น ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๑๑๙ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๘๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านสวย ๑๔ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๑๒ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีบีบีทรานสปอร์ต ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๓๘ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา 62ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ .เอส .ดี.แอล พลาสติก แอนด์ โลจิสติกส์ ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๔๖ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๘๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิกุล กรุ๊ป ๐๑๕๓๕๖๑๐๐๐๕๖๗ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ อ่างทอง ๘๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .อาร์ .รุ่งเรืองกิจ คอนสตรัคชั่น ๐๑๘๓๕๖๑๐๐๐๖๘๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยนาท ๘๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิงจานุสง กรุ๊ป ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๓๒๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๘๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ระกาทอง คาร์เร้นท์ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๗๔ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี .เจ.บี. ทรานสปอร์ต ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๖๘๒ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันปพัฒน์กร ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๐๔ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มัลลิกา คลังเกษตร ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๒๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๘๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเอส ๑๘ เซอร์วิส ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๓๐ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๘๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อำนวยโชค บัสเซอร์วิส ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๔๘ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๘๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีเอ็ม ซาโจ้ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๒๓ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๘๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มทรัพย์ไพศาล ๒๐๑๘ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๓๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๘๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริวิมลก่อสร้าง๒๕๓๗ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๔๐ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๓๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๘๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชาญคริตคอนสทรัคชั่น ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๑๐๔๙ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร 63ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สัตว์ปีก แม่โจ้ ๕๕ (บ้านแท่น) ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๖๓ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๘๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคสุบิน ซุปเปอร์สโตร์ ๐๓๙๓๕๖๑๐๐๐๖๖๒ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองบัวลำภู ๘๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประเสริฐ เครน ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๘๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๘๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค้าขายและท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขงออนไลน์ ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๓๙๓ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๘๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองทิพย์ขนส่ง ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๔๐๗ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๘๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส เอ็น เค คอฟฟี ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๗๙๐ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๒๐๓ ,๖๓๖ กาฬสินธุ์ ๘๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคชัย ๒๐๑๙ ๐๔๙๓๕๖๑๐๐๐๘๗๔ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มุกดาหาร ๘๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กู๊ดวันโลจิสติกส์ ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๒๒๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๘๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีดับบลิว เน็ทเวิร์ค ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๓๓ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๘๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นทีเมดิคอล แอมบูแลนซ์ เซอร์วิส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๔๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๘๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนฉัตร ดีไซน์ ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๗๗ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๘๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัณณิตา คอลเลคชั่น ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๖๙ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๘๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทอง จักร์พงศ์ เยาวราช ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๒๙ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๘๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเยาวราชทองสุก ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๔๙ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร 64ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรทรัพย์ ทรานสปอร์ต ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๕๗ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๘๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เติมเต็มครบ ๐๗๔๓๕๖๑๐๐๒๑๖๕ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สมุทรสาคร ๘๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๓๘๕ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๘๘ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๘๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์มั่งมีพาราวู้ด ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๕๗ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๘๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรทองเทพมงคล เยาวราช ๐๘๕๓๕๖๑๐๐๐๓๓๑ ๒๗ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระนอง ๘๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส . สุริยา เจริญทรัพย์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๒๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พลวรรธ แอร์ แอนด์ คอนส์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๔๗ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๘๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีบุ๊ค เซ็นเตอร์ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๓๗ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๘๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอ็นพี เพ็ทเวย์ ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๕๔๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๘๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เอ.เอ็น โกลบ ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๘๐๓ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กาฬสินธุ์ ๘๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปรีชา กระจกรถยนต์ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๘๗ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสพี . การช่าง เซอร์วิส ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๙๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๔๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๘๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๑๐๘ สวนพันธุ์ไม้ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๑๒ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคพีซีขนส่ง ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๘๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๙๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี 65ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๘๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สวนสน ต้นกล้า ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๒๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๘๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอสเอส ๒๐๑๘ ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๔๗ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๘๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิธานพัฒนกิจ ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๕๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๘๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรสลอว์เยอร์ แอนด์คอนซัลท์ ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๕๖ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๙๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิทักษ์ ก่อสร้าง ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๔๐ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๙๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุขประเสริฐรุ่งเรืองก่อสร้าง ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๕๘ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๙๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหวิศว์ โยธา ๕๒๙ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๖๖ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๙๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุบลซุปเปอร์ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๗๔ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๙๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โบบีช้อป ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๖๔ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๙๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประสิทธิ์พงษสิทธิ์ ปิโตรเลียม ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๗๒ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๙๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บึงกาฬวอเตอร์ ๐๓๘๓๕๖๑๐๐๐๘๔๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บึงกาฬ ๙๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชำนน แคปปิตอล ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๙๓ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๙๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โมเดลเทรนนิ่ง ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๕๐๗ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๘๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๙๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โมเทรนนิ่ง ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๕๑๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๘๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น 66ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสพีคาร์เรนท์ ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๗๗ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๙๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองสยาม ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๔๑๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๕๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๙๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ โพธิ์เงิน ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๖๙ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๙๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บูรพา เทเลคอม ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๓๙ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๙๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอที เทเลคอม เซอร์วิส ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๙๐๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๙๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป .ซูเปอร์มาร์เก็ต ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๕๑๖ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๙๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คำตา อินเตอร์กรุ๊ป ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๘๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๙๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชติกา นิวส์ชุมชน ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๒๙๓ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๙๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี แอนด์ ดีฟูดส์ ซัพพลาย ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๕๐ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๙๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่ทราเวล แพลนนิ่ง ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๖๘ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๙๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีเอส คอนสตรัคชั่น แอนด์ ดีไซน์ ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๑๙๘๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ลำปาง ๙๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงศ์อมร ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๘๗๙ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนาโชติแทรคเตอร์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๒๓๒ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๕๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย ๙๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปรีชาเครื่องครัว แม่ฮ่องสอน ๐๕๘๓๕๖๑๐๐๐๓๙๓ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ แม่ฮ่องสอน 67ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กำแพงเพชร ศิริกิจ ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๗๒ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๙๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อัศวิน กำแพงเพชร ก่อสร้าง ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๘๑ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๙๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิมพกานต์ ทรานสปอร์ต ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๓๓๖ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๙๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่ากิเลน การโยธา ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๖๘ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๙๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุลัยวรรณ ฟาร์ม ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๓๑๒ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๙๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ่าวข้าวปุ้นนครพล ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๔๘๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๙๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไลฟ์อิสกู๊ดโปรดั๊กชั่น ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๒๙๖ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๙๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมาร์ท เมดดิคอล เอ็นจิเนียริ่ง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๗๕ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๙๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองทรัพย์มั่งคั่ง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๘๓ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๙๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วาอิล สองพลัง โยธากิจ ๐๙๖๓๕๖๑๐๐๐๗๕๖ ๒๘ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ นราธิวาส ๙๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลสุวรรณ เซอร์วิส ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๒๓๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๙๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อู่เงินการ์เด้น แอนด์ คอนสตรัคชั่น ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๗๑ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๙๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท็อปทีมกรุ๊ป ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๒๙๑ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๙๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จ๊อยส์ กรุ๊ป ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๓๓๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี 68ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีแอนด์ดีน่าน เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๐๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธัญญนันท์ ทรานสปอร์ต ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๑๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โมเน่ต์ อาร์ท แอนด์ ดีไซน์ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๕๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๙๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มะลิขนส่ง ๖๑ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๖๓ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๙๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามชัยเจริญซัพพลาย ๐๑๗๓๕๖๑๐๐๐๒๒๒ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สิงห์บุรี ๙๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีเทเลโฟน ๐๓๐๓๕๖๑๐๐๖๑๖๔ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๓๐๐ ,๐๐๐ นครราชสีมา ๙๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรพันธ์เมทัล แอนด์ รีไซเคิล ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๓๙๐ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๙๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยัวร์ เมคาทรอนิคส์ ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๕๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๙๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณิรภัทร การบัญชี ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๓๔๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๙๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีพีเอ็น โฮม แอนด์ ดีไซน์ ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๕๓๕๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชลบุรี ๙๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โอ๊ค แอนด์ โอม คอนสตรัคชั่น ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๓๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๙๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โอ๊ค แอนด์ โอม เอ็นจิเนียริ่ง ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๔๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๙๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เค. พาร์ท แอนด์ เคมีคอล ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๔๒๓ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๙๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดอนยอการโยธา ๐๒๖๓๕๖๑๐๐๐๓๘๘ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ นครนายก 69ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สโมสรฟุตบอลราษีไศล ยูไนเต็ด ๐๓๓๓๕๖๑๐๐๑๙๔๔ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ศรีสะเกษ ๙๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเยาวราช มหาชนะชัย ๐๓๕๓๕๖๑๐๐๑๐๕๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ยโสธร ๙๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญรุ่งเรืองการเกษตร๑๘ ๐๓๙๓๕๖๑๐๐๐๖๗๑ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ หนองบัวลำภู ๙๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินทร์แสงวิเศษ ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๕๒๓ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๙๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยูดีสปอร์ต ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๔๓๑ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๙๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามมิตรวานิชก่อสร้าง ๐๔๔๓๕๖๑๐๐๒๓๐๓ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ มหาสารคาม ๙๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้อีซี่แคช ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๙๑๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๙๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิโก้ เบสท์แคช ๐๔๕๓๕๖๑๐๐๑๙๒๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ร้อยเอ็ด ๙๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟอร์ด เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ๐๔๘๓๕๖๑๐๐๑๓๐๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครพนม ๙๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หนึ่งการไฟฟ้า ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๒๔๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๒๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๙๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีวันทรานสปอร์ต ๙๙๙ ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๓๙๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๙๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรชากังราว ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๑๔๐๒ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ กำแพงเพชร ๙๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เสี่ยออง พาณิชย์ ๐๖๗๓๕๖๑๐๐๑๓๗๒ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบูรณ์ ๙๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ พี เอ็ม เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๔๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี 70ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์สิริสถาพร ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๕๓ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๙๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .แอนด์ .เจ เครื่องจักรกลอุตสาหกรรม ๐๗๒๓๕๖๑๐๐๑๓๒๑ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สุพรรณบุรี ๙๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทรายทอง ๑๙๙๔ ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๕๔ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๕๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา ๙๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลิฟ เอชเอ็ม ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๗๖ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๙๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์วดี ๙๙ ฟรีซดรายด์ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๓๐๐ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๙๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาเก๊า ลิสซิ่ง ๒๐๑๘ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๒๓๑๘ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ นครศรีธรรมราช ๙๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี .พี. คาร์เร้นท์ ภูเก็ต ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๒๔๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๙๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส เอ พีสิงหา ออล พลัส ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๖๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๙๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธวัชชัย รวมช่าง (๒๕๔๙) ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๘๘๙ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๙๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออยล์เพิ่มพูนบายตึ๊กเจีย ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๘๙๗ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๙๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ซีไอ รัตนชัย ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๒๙๑ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๙๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูภรท์ภัทท์ ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๓๐๕ ๒๙ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา ๙๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่ทองสุขการช่าง ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๘๐ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๙๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม่อน โปรเฟสชันนอลแฮร์ ๐๑๔๓๕๖๑๐๐๒๔๖๒ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ พระนครศรีอยุธยา 71ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีดี เจริญขนส่ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๖๘ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิลลูฟินิตี้ ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๗๖ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ๔๙ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซอร์วิส ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๘๔ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก้องรุ่งเรือง มาร์เก็ตติ้ง ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๑๐๖๑ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ราชบุรี ๙๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรงชัย มอเตอร์ (๒๐๑๘) ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๙๔๕ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ พิจิตร ๙๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภัทร์ศรันย์กรุ๊ป (สายลวด) ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๒๕ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งใจเซอร์วิส สวนหลวง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๓๓ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ เอ็น โอ เสริม แฟมิลี่กรุ๊ป ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๔๑ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๓๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเควี . เอ็นจิเนียริ่ง มอเตอร์ เซอร์วิส ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๕๙๕๐ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สมุทรปราการ ๙๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภ .บุรี แมนเนจเม้นท์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๑๒๗ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๙๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลดี้ ๗๘๙ ฟิชชิ่ง ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๑๓๕ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นนทบุรี ๙๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อันลิมิเต็ด อาร์ท ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๘๐ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๙๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอดดิคทีฟ อาร์ต โปรดักชั่น ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๗๑ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี ๙๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ .ดีวัน ๒๐๑๙ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๕๗๙๘ ๓๐ พ .ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ปทุมธานี 72ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๙๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จีเอ็ม .บี.ที.เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๙๓๕๖๑๐๐๒๔๐๓ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๗๐๐ ,๐๐๐ สระบุรี ๙๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี ไอ พีคอนสตรัคชั่น แอนด์ ซัพพลาย ๐๒๑๓๕๖๑๐๐๒๗๖๓ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ระยอง ๙๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อู่จ .เจริญทรัพย์ทวี ๐๒๕๓๕๖๑๐๐๑๑๖๓ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๔๐๐ ,๐๐๐ ปราจีนบุรี ๙๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มงคลอลูมิเนียม ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๕๘ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๗๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๙๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอชซีเอ็ม ธุรกิจ ๐๓๑๓๕๖๑๐๐๒๒๖๖ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ บุรีรัมย์ ๙๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอแคร์ เวลเนส ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๘๑ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๑๐๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีทีเค ๘๘๘ ๐๓๔๓๕๖๑๐๐๓๕๙๙ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ อุบลราชธานี ๑๐๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สปาร์ แอร์ เฟรชแอนด์คูลลิ่ง เซอร์วิส ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๙๐๑ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๑๐๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉัตรวิไล เทรดดิ้ง แอนด์ เซอร์วิส ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๕๕๓๑ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ขอนแก่น ๑๐๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดรทองนพคุณ ๐๔๑๓๕๖๑๐๐๓๔๔๐ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ อุดรธานี ๑๐๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .เอ็น .ซีคอนสตรัคชั่น แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ๒๐๑๘๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๘๙๘ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ชัยภูมิ ๑๐๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เปอร์สเปคทีฟ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๔๗๓๕๖๑๐๐๒๕๒๔ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สกลนคร ๑๐๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัตศกรน์ (๑๙๘๘) ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๘๐๗๖ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงใหม่ ๑๐๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเค ทู ซัคเซส ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๔๒๔๑ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เชียงราย 73ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๐๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรสมบัติอิฐแดง แอนด์ คอนกรีต ๐๖๐๓๕๖๑๐๐๒๒๕๕ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครสวรรค์ ๑๐๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่ผ่อง เทรดดิ้ง ๐๖๓๓๕๖๑๐๐๑๓๐๕ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๘๐๐ ,๐๐๐ ตาก ๑๐๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพ้นท์อิทอีซี่ ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๒๓๔๔ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๒๐๐ ,๐๐๐ พิษณุโลก ๑๐๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เปโตรกลาส ๐๗๓๓๕๖๑๐๐๑๕๘๔ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ นครปฐม ๑๐๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยเทค เอ็นจิเนียริ่ง ๒๐๑๘ ๐๓๒๓๕๖๑๐๐๑๗๘๒ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ สุรินทร์ ๑๐๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรสีคอนสตรัคชั่น ๒๐๑๘ ๐๗๖๓๕๖๑๐๐๐๙๓๖ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ เพชรบุรี ๑๐๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นำโชติขนส่ง ๐๗๗๓๕๖๑๐๐๑๕๕๐ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ประจวบคีรีขันธ์ ๑๐๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นพีพี ๒๐๑๘ ๐๘๖๓๕๖๑๐๐๐๙๐๑ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑๕๐ ,๐๐๐ ชุมพร ๑๐๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โซกู๊ด ลอนดรี้ ๐๘๓๓๕๖๑๐๐๒๒๕๓ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ภูเก็ต ๑๐๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภิญโญท่าทราย ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๘๗๓ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ สุราษฎร์ธานี ๑๐๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จรรยาศรีแสง ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๓๓๑๓ ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๑ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ สงขลา เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๒๘ ค ประกาศ ณ: ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:106995", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๓๓๖/๒๕๖๑ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/C/028/T_0001.PDF", "year": null }
nonweb_119353
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ "มูลนิธิเทพธิดาพิทักษ์" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ “มูลนิธิเทพธิดาพิทักษ์” ด้วย นายทวีเสียง จรัสจิโรจ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิเทพธิดาพิทักษ์ ข้อ ๒, ๘, ๙, ๑๐, ๑๔, ๑๕, ๑๖, ๑๗, ๒๑, ๒๒ มีใจความ ดังนี้ ข้อ ๒ วัตถุประสงค์ของมูลนิธิมีดังต่อไปนี้ (๑) เพื่อส่งเสริมและบำรุงพระพุทธศาสนา การศึกษา สถานศึกษา (๒) เพื่อส่งเสริมงานประเพณี และบำรุงศาลเจ้าเจี่ยเทพธิดา ศูนย์เรียนรู้ที่มา ของบรรพบุรุษ (๓) เพื่อจัดตั้งสุสาน ฌาปนสถาน โรงเรียน สถานพยาบาล (๔) เพื่อช่วยเหลือการสาธารณกุศล และช่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ร่วมกับองค์กร การกุศลอื่น ๆ (๕) มีการส่งเสริมสุขภาพพลานามัย (๖) ช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการประกอบอาชีพสุจริต (๗) มูลนิธินี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ข้อ ๘ ให้ประธานกรรมการเป็นผู้จัดการมูลนิธิ และให้ตั้งคณะกรรมการมูลนิธิ เป็นคณะทำงาน เพื่อเข้าทำงานในกิจการต่าง ๆ ของมูลนิธิฯ หากประธานไม่อยู่หรือไม่สามารถ ปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะกรรมการมูลนิธิ เลือกรองประธานกรรมการหนึ่งท่านปฏิบัติหน้าที่แทนได้ ข้อ ๙ ในการทำนิติกรรมใด ๆ ของมูลนิธิ หรือการลงลายมือชื่อในเอกสาร ตราสาร และสรรพหนังสืออันเป็นหลักฐานของมูลนิธิและอรรถคดี ประธาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นลายลักษณ์อักษร หรือผู้รับมอบอำนาจจากประธานโดยตรงเป็นผู้ลงลายมือชื่อแต่ผู้เดียว ก็ถือว่าเป็นอันใช้ได้ ข้อ ๑๐ ให้มีการประชุมคณะกรรมการของมูลนิธิเป็นการประชุมสามัญทุก ๆ ปี ภายในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณากิจกรรม ดังต่อไปนี้หน้า ๑๙๗ (๑) กิจกรรมมูลนิธิในรอบปีที่ผ่านมา (๒) พิจารณาบัญชีงบดุล (๓) แต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี (๔) เรื่องอื่น ๆ ข้อ ๑๔ กรรมการพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (๑) อยู่ในตำแหน่งครบวาระ ๔ ปี (๒) ตาย หรือลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติ ตามข้อ ๑๓ (๔) ต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษา (๕) ถูกขับออกจากกรรมการ ด้วยจำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการที่จดทะเบียน เพราะมีความประพฤติที่ไม่เหมาะ สมหรือพบว่าทุจริต ข้อ ๑๕ การเงิน เงินสดของมูลนิธิ ถ้ามีให้ฝากธนาคารใดธนาคารหนึ่งสุดแต่คณะกรรมการ จะเห็นสมควร การสั่งจ่ายเงินในเช็ค หรือตั๋วสั่งจ่ายเงิน จะต้องมีลายเซ็นประธาน หรือผู้รักษาการแทน และเหรัญญิกลงนามทุกครั้ง การสั่งจ่ายควรระบุไว้มีผู้เซ็น ๓ ใน ๕ โดยมีประธานและเหรัญญิกรวมอยู่ด้วย ให้เหรัญญิกมีอำนาจรักษาเงินสดไว้ได้ไม่เกินวงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ข้อ ๑๖ การรับเงินที่มีผู้บริจาคสมทบ หรือได้มาโดยวิธีอื่น เหรัญญิกจะต้องทำใบเสร็จไว้ เป็นหลักฐาน ใบเสร็จรับเงินจะต้องมีลายเซ็นผู้รับเงินลงนามทุกครั้ง ประธาน เหรัญญิกต้องรับผิดชอบ ร่วมกับผู้รับเงิน ข้อ ๑๗ มูลนิธิจะต้องมีผู้เก็บรักษาบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ตลอดจนบัญชีอย่างอื่นที่จำเป็น เพื่อแสดงหลักฐานฐานะการเงินของมูลนิธิอย่างถูกต้อง ทั้งจะต้องเก็บรักษา เอกสารใบสำคัญต่าง ๆ อันเกี่ยวกับการบัญชีไว้ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจ เพื่อเป็นหลักฐานของมูลนิธิ หลักฐานการรับเงิน - การจ่ายเงิน ต้องส่งมอบให้เหรัญญิกเป็นผู้เก็บรักษาเก็บไว้ณ ที่ทำการ ของมูลนิธิเท่านั้น ข้อ ๒๑ การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับจะกระทำได้ โดยเฉพาะที่ประชุมคณะกรรมการมู ลนิธิ ต้องมีกรรมการมูลนิธิ เข้าประชุมไม่น้อยกว่า สามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด และการอนุมัติให้แก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อบังคับต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการที่เข้าประชุม หน้า ๑๙๘ ข้อ ๒๒ ในการใช้จ่ายเงินของมูลนิธิประจำปีจะทำเป็นงบป ระมาณประจำปีไว้ก็ได้ งบประมาณที่จำเป็นหรือฉุกเฉิน อนุมัติโดยประธานมูลนิธิ นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้จดทะเบียนแก้ ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิรายนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๔ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ พิริยะ ฉันทดิลก รองอธิบดี รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๓๒ ง ประกาศ ณ: ๐๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๑๙๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:119354", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ "มูลนิธิเทพธิดาพิทักษ์"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/032/T_0197.PDF", "year": null }
nonweb_108235
ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าสงวน การออกใบอนุญาตครอบครอง สัตว์ป่าสงวนชั่วคราว และการออกใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน สำหรับสัตว์ป่าสงวนชนิดวาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai) เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) และปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus) พ.ศ. ๒๕๖๒ ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าสงวน การออกใบอนุญาตครอบครอง สัตว์ป่าสงวนชั่วคราว และการออกใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน สำหรับสัตว์ป่าสงวน ชนิดวาฬบรูดำ (Balaenoptera edeni) วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai) เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) และปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus) พ.ศ. ๒๕๖๒ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๓ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ อธิบดีกรมประมงออกระเบียบโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมประมงว่าด้วยการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวน และซากสัตว์ป่าสงวน การออกใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว และการออกใบรับรอง การครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน สำหรับสัตว์ป่าสงวนชนิดวาฬบรูดำ (Balaenoptera edeni) วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai) เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) และปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus)” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว “ใบรับรอง” หมายความว่า ใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน “ผู้ครอบครอง” หมายความว่า ผู้ครอบครองวา ฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และ ปลาฉลามวาฬ หรือซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าว “ผู้รับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้รับใบอนุญาตครอบครองวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ “ผู้รับใบรับรอง” หมายความว่า ผู้รับใบรับรองการครอบครองซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ “อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมประมง ข้อ ๔ ให้ผู้ที่มีวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ หรือซากสัตว์ป่าสงวน ดังกล่าวไว้ในความครอบครองอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับ แจ้งรายการเกี่ยวกับชนิดและจำนวนของสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าว ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบแจ้งการครอบครองท้ายระเบียบนี้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ พร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐาน ตามที่กำหนดไว้ในแบบแจ้งการครอบครองท้ายระเบียบนี้หน้า ๑ ข้อ ๕ การแจ้งการครอบครองวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ หรือซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวตามข้อ ๔ ให้แจ้ง ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง (๒) สำนักงานประมงจังหวัด (๓) สถานที่อื่นตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา การแจ้งการครอบครองตามข้อ ๔ อาจแจ้งทางไปรษณีย์ วิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ วิธีการอื่นใดนอกเหนือจากที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๖ เมื่อได้รับการแจ้งการครอบครองตามข้อ ๔ แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของแบบแจ้งการครอบครอง และเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ ในกรณีที่แบบแจ้งการครอบครอง หรือเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ครอบครองแก้ไขเพิ่มเติมแบบแจ้งการครอบครอง หรือจัดส่งเอกสารหรือ หลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วน ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้ครอบครองได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่ผู้ครอบครองไม่แก้ไขเพิ่มเติมแบบแจ้งการครอบครอง หรือไม่จัดส่งเอกสารหรือ หลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาตามวรรคสอง ให้ถือว่าการยื่นแบบแจ้งการครอบครองนั้น เป็นอันสิ้นผลนับแต่วันที่พ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือ ให้ผู้ครอบครองทราบ ข้อ ๗ ในกรณีที่ผู้ครอบครองได้ยื่นแบบแจ้งการครอบครอง และเอกสารหรือหลักฐาน ตามข้อ ๔ ถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนการรับแจ้งการครอบครอง และ ออกใบรับแจ้งการครอบครองตามแบบท้ายระเบียบนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มอบใบรับแจ้งการครอบครองตามวรรคหนึ่งให้แก่ผู้ครอบครอง เพื่อเก็บ ไว้เป็นหลักฐาน และเก็บสำเนาใบรับแจ้งไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ ข้อ ๘ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามข้อ ๗ แล้ว ในกรณีที่ผู้ครอบครองแจ้ง การครอบครองวาฬบรูดำ วาฬโอมู ระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ และประสงค์จะครอบครองสัตว์ป่าสงวน ดังกล่าวตามรายการที่แจ้งต่อไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพการเลี้ยงดูวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ของผู้ครอบครองว่ามีสวัสดิภาพและความปลอดภัยเพียงใด และให้เสนอความเห็นต่ออธิบดี ในกรณีที่อธิบดีพิจารณาความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งแล้วเห็นว่าวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬของผู้ครอบครองมีสวัสดิภาพและมีความปลอดภัย ให้อธิบดี ออกใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราวให้แก่ผู้ครอบครองวาฬบรูดำ วา ฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ตามแบบท้ายระเบียบนี้ ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราวให้มีอายุเพียงเท่าอายุของสัตว์ป่าสงวนนั้น หน้า ๒ ข้อ ๙ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามข้อ ๗ แล้ว ในกรณีที่ผู้ครอบครองแจ้ง การครอบครองวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ แต่ไม่ประสงค์จะครอบครอง สัตว์ป่าสงวนดังกล่าว ตามรายการที่แจ้งต่อไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ครอบครองจำหน่าย จ่าย หรือโอนสัตว์ป่าสงวนนั้นให้แก่ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ตามมาตรา ๓๓ หรือ สวนสัตว์ที่หน่วยงานข องรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ ให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่แจ้งต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อสิ้นระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง หากผู้ครอบครองยังมีวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ เหลืออยู่ในความครอบครองอีกเท่าใด ให้ถือว่าผู้ครอบครองยินยอ มให้สัตว์ป่าสงวนนั้น ตกเป็นของแผ่นดิน และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ครอบครองส่งมอบสัตว์ป่าสงวนนั้นให้แก่ กรมประมง เพื่อนำไปดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ข้อ ๑๐ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามข้อ ๗ แล้ว ในกรณีที่ผู้ครอบครองแจ้ง การครอบครองซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ สภาพของซากสัตว์ป่าสงวนนั้น และเสนอความเห็นต่ออธิบดี ในกรณีที่อธิบดีพิจารณาความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งแล้วเห็นว่า ผู้ครอบครองได้ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนนั้นจริง ให้อธิบดีออกใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ให้แก่ผู้ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ตามแบบท้ายระเบียบนี้ ใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนสิ้นผลไปตามการสิ้นสภาพของซากสัตว์ป่าสงวน ข้อ ๑๑ ก่อนออกใบอนุญาตและใบรับรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำเครื่องหมายประจำตัว วาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ และซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าว โดยให้ใช้วิธีการ อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) ติดเครื่องหมายทำด้วยแผ่นสติ๊กเกอร์ (๒) ตอกรหัสหมายเลข ในกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีทำเครื่องหมายตาม (๑) หรือ (๒) ได้ ให้ใช้วิธีถ่ายภาพ หรือวิธีการอื่นใด ที่สามารถแสดงหรือระบุลักษณะของสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวนได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้จัดทำเครื่องหมายประจำตัวตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้ว ให้บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องหมายประจำตัวไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรองด้วย ข้อ ๑๒ เมื่อมีการออกใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้แจ้ง การครอบครองมาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหรือใบรับรองภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก พนักงานเจ้าหน้าที่หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสละสิทธิการเป็นผู้รับใบอนุญาตหรือ ใบรับรอง เมื่อผู้แจ้งการครอบครองได้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหรือใบรับรองตามอัตราที่กำหนดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบเสร็จรับเงินและมอบใบอนุญาตหรือใบรับรองให้แก่ผู้แจ้งการครอบครอง หน้า ๓ ในกรณีที่อธิบดีไม่ออกใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้แสดงเหตุผล สิทธิอุทธรณ์ และระยะเวลา ในการอุทธรณ์ไว้ในหนังสือแจ้งผลการพิจารณาด้วย ข้อ ๑๓ เมื่อได้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองแล้ว ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองต้องปฏิบัติ ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้ (๑) ต้องเลี้ยงดูวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ หรือเก็บรักษา ซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวไว้ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง แล้วแต่กรณี (๒) ต้องจัดสวัสดิภาพดังต่อไปนี้ให้แก่วาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ตามสมควรและเหมาะสม (ก) ดูแลไม่ให้อดอยากหรือหิวโหย และได้รับอาหารอย่างถูกโภชนาการ (ข) ดูแลมิให้ถูกทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ หรือทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วย และได้รับ การรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที (ค) จัดสถานที่อันเป็นที่อยู่ให้มีขนาดและลักษณะที่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิตตามสมควร (ง) ดูแลให้สามารถแสดงออกซึ่งพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ตามสมควร (๓) ดูแลไม่ให้ทำอันตรายผู้อื่นหรือก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง หรือ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ข้อ ๑๔ ในกรณีที่เครื่องหมายประจำตัวตามข้อ ๑๑ ชำรุด สูญหาย หรือมีการเปลี่ยนแปลง ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำ เครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสง วนนั้นใหม่ตามวิธีการในข้อ ๑๑ ในกรณีที่วาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ หรือซากสัตว์ป่าสงวน ดังกล่าว มีจำนวนเพิ่มขึ้น ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองจัดทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวตามวิธีการในข้อ ๑๑ ข้อ ๑๕ การขอแก้ไขรายการในใบอนุญาตหรือใบรับรองให้กระทำได้เฉพาะกรณี ดังต่อไปนี้ (๑) การแก้ไขรายการเกี่ยวกับสถานที่ครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน (๒) การแก้ไขรายการเกี่ยวกับสภาพหรือจำนวนสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน ในกรณี ที่สัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวนที่อยู่ในความครอบครองมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ เปลี่ยนรูปร่าง มีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือมีจำนวนลดลงโดยเหตุใด ๆ ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองผู้ใดประสงค์จะแก้ไขรายการในใบอนุญาต หรือใบรับรอง ตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นคำขอเป็นหนัง สือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ สถานที่ที่กำหนดตามข้อ ๕ พร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และให้นำความในข้อ ๘ หรือข้อ ๑๐ มาใช้บังคับ กับการพิจารณา คำขอแก้ไขรายการในใบอนุญาตหรือใบรับรองด้วยโดยอนุโลม เมื่ออธิบดีได้พิจารณาคำขอ และเอกสารหรือหลักฐา นตามวรรคสองแล้ว และเห็นว่าถูกต้อง และครบถ้วน ให้อธิบดีแก้ไขรายการในใบอนุญาตหรือใบรับรอง หน้า ๔ ในกรณีที่อธิบดีไม่อนุญาตให้แก้ไขรายการในใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้อธิบดีแจ้งเป็นหนังสือ ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองทราบ พร้อมทั้งแสดงเหตุผล สิทธิอุทธรณ์ และ ระยะเวลา ในการอุทธรณ์ไว้ในหนังสือนั้นด้วย ข้อ ๑๖ การจำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ให้กระทำได้เฉพาะกรณี ดังต่อไปนี้ (๑) การจำหน่าย หรือจ่ายซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ทั้งหมดหรือบางส่วน (๒) การโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ บางส่วน (๓) การโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ทั้งหมด พร้อมโอน ใบรับรอง ผู้รับใบรับรองผู้ใดประสงค์จะจำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ตามวรรคหนึ่งให้แก่ผู้อื่น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ สถานที่ ที่กำหนดตามข้อ ๕ พร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และให้นำความในข้อ ๑๐ มาใช้บังคับ กับการพิจารณาคำขอจำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ด้วยโดยอนุโลม เมื่ออธิบดีได้พิจารณาคำขอ และเอกสารหรือหลักฐานตามวรรคสองแล้ว และเห็นว่าถูกต้อง และครบถ้วน ให้อธิบดีอนุญาตให้จำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และ ปลาฉลามวาฬ ได้ ในกรณีที่อธิบดีไม่อนุญาตให้จำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ให้อธิบดีแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับใบรับรองทราบ พร้อมทั้งแสดงเหตุผล สิทธิอุทธรณ์ และระยะเวลาในการอุทธรณ์ไว้ในหนังสือนั้นด้วย ข้อ ๑๗ ในกรณีที่อธิบดีอนุญาตให้จำหน่าย จ่าย หรือโอน ซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ตามข้อ ๑๖ (๑) หรือ (๒) แล้ว ให้ผู้รับใบรับรองออกเอกสาร การจำหน่าย จ่าย หรือโอน ซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ให้แก่ผู้ที่ ได้รับจากการจำหน่าย จ่าย หรือโอน เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นคำขอแจ้งการครอบครอง ซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ สถานที่ ที่กำหนดตามข้อ ๕ และให้นำความในข้อ ๑๐ มาใช้บังคับกับการพิจารณา คำขอแจ้งการครอบครอง ซากวาฬบรูดำ วา ฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ ของผู้ที่ได้รับจากการจำหน่าย จ่าย หรือโอนด้วยโดยอนุโลม เมื่อคำขอ และเอกสารหรือหลักฐานถูกต้องครบถ้วน ให้อธิบดีออกใบรับรองให้แก่ผู้ที่ได้รับ จากการจำหน่าย จ่าย หรือโอน โดยกำกับคำว่า “ได้รับการจำหน่าย จ่าย หรือโอนตามบทเฉพาะกาล มาตรา ๑๑๓” หน้า ๕ เมื่ออธิบดีออกใบรับรองให้แก่ผู้ที่ได้รับจากการจำหน่าย จ่าย หรือโอนตามวรรคสองแล้ว ให้อธิบดีเรียกให้ผู้รับใบรับรองเดิมนำใบรับรองฉบับเดิมมาแก้ไขรายการจำนวนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ หรือเรียกคืนใบรับรองฉบับเดิม แล้วแต่กรณี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ที่ได้รับจากการจำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ มาชำระค่าธรรมเนียมใบรับรองภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง จากพนักงานเจ้าหน้าที่หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสละสิทธิการเป็นผู้ที่ได้รับจาก การจำหน่าย จ่าย หรือโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬ เมื่อผู้ที่ได้รับ จากการจำหน่าย จ่าย หรือโอนได้ชำระค่าธรรมเนียมใบรับรองตามอัตราที่กำหนดแล้ว ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ออกใบเสร็จรับเงิน และมอบใบรับรองให้แก่ผู้ที่ได้รับจากการจำหน่าย จ่าย หรือโอน ข้อ ๑๘ ในกรณีที่อธิบดีอนุญาตให้โอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และ ปลาฉลามวาฬ ทั้งหมด พร้อมโอนใบรับรองตามข้อ ๑๖ (๓) ให้อธิบดีออกใบรับรองฉบับใหม่แทน ใบรับรองฉบับเดิม และให้กำกับคำว่า “ได้รับการโอนตามบทเฉพาะกาล มาตรา ๑๑๓” พร้อมระบุชื่อ ผู้โอนไว้ที่มุมบนด้านขวา และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบรับรองดังกล่าวไว้ด้วย เมื่อออกใบรับรองฉบับใหม่แล้วให้ใบรับรองฉบับเดิมเป็นอันสิ้นผล และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ แจ้งให้ผู้โอนใบรับร องมาชำระค่าธรรมเนียมการโอน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากพนักงาน เจ้าหน้าที่หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสละสิทธิการโอนซากวาฬบรูดำ วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และปลาฉลามวาฬทั้งหมด เมื่อผู้โอนได้ชำระค่าธรรมเนียมการโอนตามอัตราที่กำหนดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้โอน และมอบใบรับรองให้แก่ผู้ที่ได้รับจากการโอนใบรับรอง ข้อ ๑๙ ในกรณีใบอนุญาตหรือใบรับรองสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดเสียหายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตหรือใบแท นใบรับรองตามแบบท้าย ระเบียบนี้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ สถานที่ตามข้อ ๕ พร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานตามที่ระบุไว้ ในคำขอใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ขอใบแทนใบอนุญาตหรือใบแทนใบรับรอง เป็นผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง และใบอนุญาตหรือใบรับรองสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดเสียหาย ในสาระสำคัญจริง ให้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาต่ออธิบดีเพื่อออกใบแทนใบอนุญาตหรือ ใบรับรองให้กับผู้ยื่นคำขอภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ ใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้ใช้แบบใบอนุญาตหรือแบบใบรับรองเดิม และระบุคำว่า “ใบแทน” หรือระบุข้อความอื่นใดทำนองเดียวกันไว้ที่กึ่งกลางส่วนบนด้านหน้าของใบแทนใบอนุญาต หรือใบแทนใบรับรอง ข้อ ๒๐ เมื่อมีการอนุญาตให้ออกใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้ง ให้ผู้ยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง มาชำระค่าธรรมเนียมใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง หน้า ๖ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่า ใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองเป็นอันสิ้นผล เมื่อผู้แจ้งการครอบครองได้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหรือใบรับรองตาม อัตราที่กำหนดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบเสร็จรับเงินและมอบใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองให้แก่ผู้ยื่นคำขอใบแทน ใบอนุญาตหรือใบรับรอง ประกาศ ณ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ มีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง หน้า ๗ สำนักงาน เลขรับที่ วันที่ ลงชื่อ ผู้รับแจ้ง แบบแจ้งการครอบครองสัตว์ป่า สงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน -------------------------- เขียนที่ วันที่ เดือน พ.ศ. 1. ข้าพเจ้า  1.1 เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติ อายุ ปีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ ตำบล/แขวง อำเภอ /เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร บัตรประจำตัวประชาชน/ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว เลขที่  1.2 เป็นนิติบุคคลประเภท จดทะเบียนเมื่อ เลขทะเบียน สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ /เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร โดยมี เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันนิติบุคคล สัญชาติ อายุ ปี อยู่บ้านเลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร - 2 - 2. ข้าพเจ้าขอแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าสงวน ตามมาตรา 113 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ดังมีรายละเอียดตามบัญชีท้ายแบบแจ้ง การครอบครอง สัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าสงวน ณ เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ 3. ข้าพเจ้าได้แสดงหรือแนบเอกสาร หรือหลักฐานประกอบการแจ้งการครอบครอง ดังนี้  3.1 กรณีผู้แจ้งการครอบครองเป็นบุคคลธรรมดา  (๑) แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว  (๒) แสดงสำเนาทะเบียนบ้าน หรือภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน  3.2 กรณีผู้แจ้งการครอบครองเป็น นิติบุคคล  (1) แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของผู้ครอบครอง  (2) แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ของผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล  (3) แสดงสำเนาทะเบียนบ้าน หรือภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้มีอำนาจ ลงนามผูกพันนิติบุคคล  3.3 แนบภาพถ่ายสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน หรือเครื่องหมาย (กรณีมีการ ติดสติ๊กเกอร์ ตอกรหัสหมายเลข หรือวิธีการอื่นใด) ที่สามารถเห็นรายละเอียด ลักษณะ และจำนวน อย่างชัดเจน ตามแบบท้ายระเบียบนี้ (ถ้ามี)  3.4 หลักฐานการมีไว้ในครอบครอง หรือการได้มาซึ่งสัตว์ป่า สงวน หรือซากสัตว์ป่าสงวน (ถ้ามี)  (1) แสดงใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว (สป. 2) เล่มที่ฉบับที่ลงวันที่  (2) แสดงใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าสงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง (สป. 3) เล่มที่ฉบับที่ลงวันที่  (3) อื่น ๆ (โปรดระบุ) (ลายมือชื่อ) ผู้แจ้ง () หมายเหตุ 1. ให้ใส่ / ในช่อง  หน้าข้อความที่ต้องการ 2. กรณีที่ผู้ครอบครองไม่ได้มาแจ้งการครอบครองด้วยตนเอง ต้องแนบหนังสือมอบอำนาจให้ เป็นผู้ยื่นแจ้งการครอบครอง และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้ครอบครองที่รับรอง สำเนาโดยผู้ครอบครอง พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ - 3 - บัญชีท้ายแบบแจ้งครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน แบบที่ 1 บัญชีสัตว์ป่าสงวน (มีชีวิต) ลำดับที่ชนิดสัตว์ป่าสงวน จำนวน เพศ อายุ ขนาดหรือ น้ำหนัก เครื่องหมาย (ถ้ามี) ประสงค์จะ ครองครอง ไม่ประสงค์จะ ครอบครอง ชื่อไทย/สามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ หมายเหตุ : กรณีไม่ประสงค์จะครอบครองให้ระบุ ชื่อผู้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และประกอบกิจการ สวนสัตว์ตามมาตรา 33 หรือสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ (ลายมือชื่อ) ผู้แจ้ง () - 4 - บัญชีท้ายแบบแจ้งครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน แบบที่ 2 บัญชีซากสัตว์ป่าสงวน ลำดับที่ชนิดซากสัตว์ป่าสงวน จำนวน ขนาดหรือน้ำหนัก ประเภท/ลักษณะของซาก เครื่องหมาย (ถ้ามี) ชื่อไทย/สามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ หมายเหตุ (ลายมือชื่อ) ผู้แจ้ง () - 5 - แบบภาพถ่ายสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน ภาพด้านหน้า ภาพด้านหลัง ภาพด้านซ้าย ภาพด้านขวา ขนาด (เซนติเมตร) กว้าง ยาว สูง น้ำหนัก (ให้ระบุหน่วยตามความเหมาะสม) รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ (ลายมือชื่อ) ผู้แจ้ง () สำนักงาน เลขรับที่ ใบรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าสงวน แบบที่ 1 สัตว์ป่าสงวน เอกสารนี้ออกให้เพื่อเป็นหลักฐานว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งการครอบครอง ของ ลงวันที่รายละเอียด ดังนี้ ลำดับที่ แจ้งครอบครอง จำนวน ขนาดหรือ น้ำหนัก เครื่องหมาย วัตถุประสงค์ หมายเหตุ ประสงค์จะ ครอบครอง ไม่ประสงค์จะ ครอบครอง สถานที่ครอบครอง (ลายมือชื่อ) พนักงานเจ้าหน้าที่/ผู้รับแจ้ง () ตำแหน่ง หมายเหตุ : ใบรับแจ้งการครอบครองนี้เป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าได้แจ้งการครอบครองตามกฎหมายแล้วเท่านั้น ยังมิใช่ ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว และโปรดนำมาแสดง แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในวันที่มารับ ใบอนุญาต ครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว สำนักงาน เลขรับที่ ใบรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวน แบบที่ 2 ซากสัตว์ป่าสงวน เอกสารนี้ออกให้เพื่อเป็นหลักฐานว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งการครอบครอง ของ ลงวันที่รายละเอียด ดังนี้ ลำดับที่ แจ้งครอบครอง จำนวน ขนาดหรือน้ำหนัก เครื่องหมาย หมายเหตุ สถานที่ครอบครอง (ลายมือชื่อ) พนักงานเจ้าหน้าที่/ผู้รับแจ้ง () ตำแหน่ง หมายเหตุ : ใบรับแจ้งการครอบครองนี้เป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าได้แจ้งการครอบครองตามกฎหมายแล้วเท่านั้น ยังมิใช่ ใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และโปรดนำมาแสดง แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในวันที่มารับ ใบรับรอง การครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ฉบับที่ ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว ที่ทำการ วันที่ เดือน พ.ศ. อนุญาตให้อายุ ปี สัญชาติ ภูมิลำเนา/สำนักงาน ตั้งอยู่เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร บัตรประจำตัวประชาชน/ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว เลขที่ ครอบครองสัตว์ป่าสงวน ตามชนิดและจำนวน ดังมีรายละเอียดตามบัญชีท้ายใบอนุญาตนี้ไว้ ณ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด (ลายมือชื่อ) ผู้อนุญาต () ตำแหน่ง ประทับตรา - 2 - บัญชีท้ายใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว ฉบับที่ลงวันที่ เดือน พ.ศ. ลำดับที่ชนิดสัตว์ป่าสงวน จำนวน เพศ อายุ ขนาด หรือน้ำหนัก เครื่องหมาย หมายเหตุ ชื่อไทย/สามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ (ลายมือชื่อ) ผู้อนุญาต () ตำแหน่ง ประทับตรา ฉบับที่ ใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ที่ทำการ วันที่ เดือน พ.ศ. ใบรับรองฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า อายุ ปี สัญชาติ ภูมิลำเนา/สำนักงาน ตั้งอยู่เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร บัตรประจำตัวประชาชน/ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว เลขที่ ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ตามชนิดและจำนวน ดังมีรายละเอียดตามบัญชีท้ายใบ รับรองนี้ไว้ ณ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด (ลายมือชื่อ) ผู้อนุญาต () ตำแหน่ง ประทับตรา - 2 - บัญชีท้ายใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ฉบับที่ลงวันที่ เดือน พ.ศ. ลำดับที่ชนิดซากสัตว์ป่าสงวน จำนวน ขนาด หรือน้ำหนัก ประเภท/ลักษณะของซาก เครื่องหมาย หมายเหตุ ชื่อไทย/สามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ (ลายมือชื่อ) ผู้อนุญาต () ตำแหน่ง ประทับตรา สำนักงาน เลขรับที่ วันที่ ลงชื่อ ผู้รับแจ้ง คำขอใบแทนใบอนุญาต ครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว หรือใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน -------------------------- เขียนที่ วันที่ เดือน พ.ศ. 1. ข้าพเจ้า  1.1 เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติ อายุ ปีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ ตำบล/แขวง อำเภอ /เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร บัตรประจำตัวประชาชน/ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว เลขที่  1.2 เป็นนิติบุคคลประเภท จดทะเบียนเมื่อ เลขทะเบียน สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ /เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร โดยมี เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันนิติบุคคล สัญชาติ อายุ ปี อยู่บ้านเลขที่ตรอก/ซอย ถนน หมู่ที่ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร - ๒ - 2. ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะรับ ใบแทน  ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนชั่วคราว  ใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ตามใบอนุญาต หรือใบรับรอง ฉบับที่ออกให้ณ วันที่ เดือน พ.ศ. อนุญาตให้แก่ 3. เหตุที่ขอรับใบแทนใบอนุญาต หรือใบรับรองข้างต้น 4. ข้าพเจ้าได้แสดงหรือแนบเอกสารหรือหลักฐาน ดังนี้  4.1 กรณีผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง เป็นบุคคลธรรมดา ให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว  4.2 กรณีผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง เป็นนิติบุคคล  (1) แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของ ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง  (2) แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้หรือใบสำคัญ ประจำตัวคนต่างด้าว ของผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล  4.3 แสดงใบอนุญาตหรือใบรับรองที่ชำ รุดเสียหายในสาระสำคัญ  4.4 แนบบันทึกแจ้งความ (ในกรณีใบอนุญาตหรือใบรับรองสูญหาย หรือถูกทำลาย) (ลายมือชื่อ) ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง () หมายเหตุ 1. ให้ใส่ / ในช่อง  หน้าข้อความที่ต้องการ 2. กรณีที่ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง ไม่ได้มายื่นคำขอด้วยตนเอง ต้องแนบหนังสือมอบอำนาจ ให้เป็นผู้ยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของ ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง ที่รับรองสำเนาโดยผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง พร้อมแสดง บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๓๑๐ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:108236", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าสงวน การออกใบอนุญาตครอบครอง สัตว์ป่าสงวนชั่วคราว และการออกใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน สำหรับสัตว์ป่าสงวนชนิดวาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai) เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) และปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus) พ.ศ. ๒๕๖๒", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/310/T_0001.PDF", "year": null }
nonweb_117058
ประกาศสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด [ดิ เอราวัณ คอนโดมิเนียม] ประกาศสำนักงานที่ดิน จังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด ด้วย บริษัท โฮม แอนด์ ภัคเกษม จำกัด ซึ่งเป็น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคาร โฉนด ที่ดิน เลขที่ ๒๖๓, ๒๑๑๗๘, ๑๑๐๔๗๐ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยอาคารจำนวน ๑ หลัง จำนวน ๘๔ ห้องชุด ได้ยื่นขอจดทะเบียนที่ดินและอาคารดังกล่าว ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด เชียงใหม่ ให้เป็นอาคารชุดตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าที่ดินและอาคารดังกล่าวอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไข สมควรเป็นอาคารชุดได้จึงรับจดทะเบียนเป็นอาคารชุดชื่อ “ดิ เอราวัณ คอนโดมิเนียม” ทะเบียนเลขที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ชัยรัตน์ ภู่นพมาศ พนักงานเจ้า เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๓๖ ง ประกาศ ณ: ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๒๓๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:117059", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด [ดิ เอราวัณ คอนโดมิเนียม]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/036/T_0230.PDF", "year": null }
nonweb_88340
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดเลย เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม [สมาคมผู้ปกครองนักเรียนและครูโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำจังหวัดเลย เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม ด้วย ผู้เป็นสมาชิกของสมาคม นายไกรรัตน์ ธัญญประกอบ และคณะ ฯ ได้ร่วมกันยื่นคำร้อง ขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม เพื่อให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่อนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดเลย มีใจความสำคัญ ตามข้อบังคับ ดังนี้ ๑. ชื่อสมาคม “สมาคมผู้ปกครองนักเรียนและครูโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์” ๒. วัตถุประสงค์ของสมาคม ๒.๑ เพื่อสนับสนุนสื่อเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการศึกษา ๒.๒ เพื่อสนับสนุนให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ ๒.๓ เพื่อสนับสนุนกิจการของโรงเรียนที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งทางด้านวิชาการ ดนตรี และกีฬาทุกประเภท ๒.๔ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างอาคารตลอดจนการทำถนนในบริเวณโรงเรียน ๒.๕ เพื่อสนับสนุนเครื่องจักรกล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในกรณีที่มีความจำเป็น ๒.๖ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร ทั้งทางการศึกษาและสุขภาพพลานามัย ๒.๗ เพื่อดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การกุศล เพื่อการกุศลและองค์การสาธารณประโยชน์ เพื่อสาธารณประโยชน์ ๒.๘ สมาคมไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการเมืองแต่ประการใด ๓. สำนักงานใหญ่ของสมาคม ตั้งอยู่ณ อาคาร ๑ โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ เลขที่ ๒๕ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลท่าช้างคล้อง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย ๔๒๒๔๐ โทรศัพท์ ๐๔๒-๘๑๘๐๗๔ ๔. สำนักงานสาขาของสมาคม (ถ้ามี) - ๕. คณะกรรมการของสมาคมประกอบด้วย ๕.๑ นายไกรรัตน์ ธัญญประกอบ นายกสมาคม ๕.๒ นายพงษ์สิทธิ์ ธรรมวรรณ อุปนายก คนที่ ๑ ๕.๓ นางสาวสลิลทิพย์ พิมเขตร อุปนายก คนที่ ๒ ๕.๔ นายจำปี สีสงนาง อุปนายก คนที่ ๓ ๕.๕ ส.ต.ท. วัลลภ อำนาจ นายทะเบียน ๕.๖ นางขวัญคนึง พรมดีผู้ช่วยนายทะเบียน ๕.๗ นางสาวพรทิพย์ สิมลา ผู้ช่วยนายทะเบียน ๕.๘ นางเสาวนิตย์ จำปาอ่อน ปฏิคม ๕.๙ นายบุญเทียม พลพรม ผู้ช่วยปฏิคม ๕.๑๐ นางบัวไข สมพร ผู้ช่วยปฏิคม ๕.๑๑ นายอาคม ปานเหง้า เหรัญญิก ๕.๑๒ นางสาวพัชรินทร์ สุวรรณเพ็ง ผู้ช่วยเหรัญญิก ๕.๑๓ นางสาวบังอร ศรีโยธา ประชาสัมพันธ์ ๕.๑๔ นายชำนาญ ชนะสะแบง ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ ๕.๑๕ นางคำตัน ศรีหงษา ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ ๕.๑๖ นางสาวศิรานีณ์ จงจิตร กรรมการ ๕.๑๗ นางศิริพร โนนุช เลขานุการ นายทะเบียนสมาคมประจำ จังหวัดเลย ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม รายนี้แล้ว เลขทะเบียนที่ลย ๐๒/๒๕๕๖ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๖ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ สมพงศ์ อรุณโรจน์ป้ญญา ผู้ว่าราชการจังหวัด เลย นายทะเบียนสมาคมประจำ จังหวัดเลย เล่ม: ๑๓๐ หมวด: ๖๔ ง ประกาศ ณ: ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖ หน้า: ๒๑๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:88341", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดเลย เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม [สมาคมผู้ปกครองนักเรียนและครูโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/D/064/217.PDF", "year": null }
nonweb_111593
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดน่าน เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิน่านร่วมใจ" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดน่าน เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิน่านร่วมใจ” ด้วย นางกรชนก พลทรัพย์ไพศาล ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิน่านร่วมใจ ต่อนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดน่าน มีใจความสำคัญตามข้อบังคับของมูลนิธิ ดังนี้ ๑. มูลนิธิชื่อ “มูลนิธิน่านร่วมใจ” ๒. วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ คือ (๑) เป็นศูนย์กลางให้บุคคลที่ปรารถนาจะช่วยเหลือผู้ต้องการโอกาส สังคม สิ่งแวดล้อม ได้สละทรัพย์และปัจจัยเพื่อการกุศล การสาธารณประโยชน์ และตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิและที่เกี่ยวข้อง (๒) ป้องกัน ช่วยเหลือเด็กเยาวชนจากยาเสพติด การดูแลฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ ร่วมมือกับครอบครัว โรงเรียนด้วยกระบวนการกิจกรรมและหลักธรรมในการดำเนินชีวิตจนสามารถกลับสู่สังคมได้ (๓) สนับสนุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสที่กำพรำบิดาและหรือมารดาในครอบครัวยากจนขาดแคลน และต้องการโอกาสทางการศึกษา ด้วยการเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัยและทุนทรัพย์ (๔) ช่วยเหลือเยี่ยมเยือน ดูแล ให้กำลังใจเสริมสร้างพลัง สงเคราะห์การเจ็บป่วย การประสบภัย และการตายแก่ผู้สูงอายุปกติ เจ็บป่วยและที่ไม่มีลูกหลานดูแล (๕) นำหลักธรรมคำสอนแต่ละศาสนามาพัฒนาจิตใจแก่บุคคลทุกเพศวัย เพื่อแก้ไข และพัฒนาตนเองให้มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข เป็นผู้สร้างประโยชน์ และไม่เป็นภาระของสังคม (๖) พัฒนาเด็กและเยาวชนแต่ละศาสนาให้เป็นต้นแบบของสังคมตั้งแต่แรกเกิด ปฐมวัย วัยเรียน วัยรุ่น ด้วยกระบวนการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียน และนอกระบบโรงเรียน (๗) อบรม ส่งเสริม และให้ความรู้ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่เยาวชนและครอบครัว โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประกอบอาชีพอย่างเป็นรูปธรรม สามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือแบ่งปันแก่ผู้อื่นได้ในอนาคต (๘) เป็นศูนย์กลางของสถานที่และองค์กรความรู้ในการเรียน การสาธิต การปลูก การผลิต การใช้สมุนไพรร่วมกับภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ดูแล บำบัด รักษา ฟื้นฟูสุขภาพและการเจ็บป่วย หน้า ๑๗๔ (๙) เป็นศูนย์กลางประสานการจัดหา สร้าง บูรณะ ซ่อมแซม ศาสนสถาน สถานศึกษา สถานพยาบาล สาธารณสถานอื่น ๆ (๑๐) เป็นศูนย์ประสานการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ เด็ก และสตรี ประชาชนทั่วไป ตลอดจนผู้ยากไร้ด้อยโอกาส ที่ประสบเคราะห์กรรม ตามข้อเท็จจริง (๑๑) ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลเพื่อการกุศล และองค์กรสาธารณประโยชน์ เพื่อสาธารณประโยชน์ (๑๒) ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด ๓. สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๑๑๑ หมู่ที่ ๒ ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ๕๕๑๔๐ ๔. ทรัพย์สินของมูลนิธิ มีทุนเริ่มแรก คือ เงินสด จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) ๕. กรรมการของมูลนิธิในวาระเริ่มแรก มีคณะกรรมการดำเนินงานดังรายนามต่อไปนี้ (๑) นางกรชนก พลทรัพย์ไพศาล ประธานกรรมการ (๒) นายอดุลย์ แก้วเทพ รองประธานกรรมการ (๓) นางบัวศรี สุภาแก้ว กรรมการ (๔) นายสมคิด ยาอุด กรรมการ (๕) นางจารุนิภา สุภาแก้ว กรรมการและเหรัญญิก (๖) นางคำเสาร์ อุ่นเรือน กรรมการและเลขานุการ นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดน่าน ได้อนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธินี้แล้ว เลขทะเบียนที่ ๔๘/๒๕๖๒ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ สัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดน่าน้หนา ๑๗๕ เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๘๓ ง ประกาศ ณ: ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๗๔
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:111594", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดน่าน เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิน่านร่วมใจ"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/D/083/T_0174.PDF", "year": null }
nonweb_117643
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เรื่อง การเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่นการพนัน พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เรื่อง การเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่นการพนัน พ.ศ. 2562 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๑ มาตรา ๗๖ (1) (2) และ (3) มาตรา ๘๐ และมาตรา ๘๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 23 (4) (5) (6) และ (8) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 องค์การบริหาร ส่วนตำบลชานุมาน โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมานและนายอำเภอชานุมาน จึงตราข้อบัญญัตินี้ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เรื่อง การเก็บ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา และค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ในการเล่นการพนัน พ.ศ. 2562” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน ตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับตำบล เรื่อง การเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตขายสุรา และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่นการพนัน พ.ศ. ๒๕๔ ข้อ ๔ ในข้อบัญญัตินี้ “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจและหน้าที่จัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะและ ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร ข้อ ๕ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากรซึ่งสถานประกอบการตั้งอยู่ ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เสียภาษีธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกร้อยละสิบของภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่เรียกเก็บตามประมวลรัษฎากร ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ชำระภาษีธุรกิจเฉพาะที่เพิ่มขึ้นตามวรรคหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับการชำระภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร กรณีการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางคำหรือหำกำไร ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีชำระภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่เพิ่มขึ้นตามวรรคหนึ่งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมนั้น ข้อ ๖ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรซึ่งได้ซื้อขายหรือให้บริการในเขต องค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้นจากอัตราที่เรียกเก็บตามประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีที่ประมวลรัษฎากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละศูนย์ให้เรียกเก็บในอัตรา ร้อยละศูนย์ หน้า ๕ (๒) ในกรณีที่ประมวลรัษฎากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราอื่นให้เรียกเก็บหนึ่งในเก้า ของอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บตามประมวลรัษฎากร ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นตามวรรคหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร ข้อ ๗ ให้ผู้ได้รับอนุญาตขายสุราตามกฎหมายว่าด้วยสุราซึ่งร้านขายสุ ราตั้งอยู่ในเขต องค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เสียค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราเพิ่มขึ้นอีกร้อยละสิบ ของค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บตามกฎหมายว่าด้วยสุรา ให้ผู้ได้รับอนุญาตขายสุรา เสียค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นตามวรรคหนึ่ง พร้อมกับการเสียค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตขายสุ ราตามกฎหมายว่าด้วยสุรา ข้อ ๘ ให้ผู้ได้รับอนุญาตให้มีการเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนันซึ่งสถานที่เล่นอยู่ ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เสียค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่นการพนันเพิ่มขึ้นอีก ร้อยละสิบของค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน ให้ผู้ได้รับอนุญาตให้มีการเล่นการพนัน เสียค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นตามวรรคหนึ่งพร้อมกับ การเสียค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน ข้อ ๙ การจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมตามข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗ และข้อ ๘ มอบให้ ส่วนราชการซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมเรียกเก็บแทน ดังนี้ (๑) ภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามข้อ ๕ มอบให้กรมสรรพากร สำหรับภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางคำหรือหำกำไรตามมาตรา ๙๑/๒ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร มอบให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีธุรกิจ เฉพาะตามประมวลรัษฎากร (๒) ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามข้อ ๖ มอบให้กรมสรรพากร (๓) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ตามข้อ ๗ มอบให้กรมสรรพากร (๔) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่น ตามข้อ ๘ มอบให้กรมการปกครอง ข้อ ๑๐ เมื่อกรมสรรพากรและกรมที่ดินซึ่งได้รับมอบให้เรียกเก็บภาษีแทน ตามข้อ ๙ เรียกเก็บภาษีเพื่อองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน และได้หักค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนด ในกฎกระทรวงที่ออกตามความในกฎหมายว่าด้วยรายได้องค์การบริหารส่วนตำบลชานุมานแล้ว ให้ส่งมอบภาษีธุรกิจ เฉพาะและภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งจำนวนแก่กระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นต่อไป ข้อ ๑๑ เมื่อกรมสรรพสามิตและกรมการปกครองซึ่งได้รับมอบหมายให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมแทน ตามข้อ ๙ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน และได้หักค่าใช้จ่ายตามอัตรา ที่กำหนดในกฎกระทรวงแล้วให้ส่งมอบค่าธรรมเนียมทั้งจำนวนแก่องค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน ข้อ ๑๒ แบบพิมพ์ หลักเกณฑ์ วิธีการยื่นแบบและการชำระภาษีและค่าธรรมเนียม ตามข้อบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตามส่วนราชการตามข้อ ๙ กำหนด หน้า ๖ ข้อ ๑๓ ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ชำระภาษีและค่าธรรมเนียมตามข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗ และข้อ ๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ข้อ ๑๔ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เป็นผู้รักษาการตามข้อบัญญัตินี้และ มีอำนาจ ออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ ประกาศ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ทวีชัย จันทร์อิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๓๘ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:117644", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลชานุมาน เรื่อง การเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเล่นการพนัน พ.ศ. ๒๕๖๒", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/138/T_0005.PDF", "year": null }
nonweb_79935
พระราชกฤษฎีกากำหนดตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชกฤษฎีกา กำหนดตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ณ วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลป้จจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้มีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ๒๕๔๘ จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา ๓ ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีลักษณะเป็นตราประจำ พระองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย อักษรพระนาม “ก.ว.” สีฟ้าน้ำทะเล ภายใต้ตราจุลมงกุฎสีทอง และมีแพรแถบสีขาวขอบสีทองรองรับ อยู่เบื้องล่าง พร้อมอักษรคำว่า “มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์” สีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งเป็นสีประจำ พระองค์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประดับอยู่ ภายใน มาตรา ๔ ตราสัญลักษณ์ตามมาตรา ๓ มีความหมายดังต่อไปนี้ (๑) จุลมงกุฎสีทอง สื่อความหมายถึง บารมี ความเจริญก้าวหน้า มีชื่อเสียง (๒) แพรแถบสีขาวขอบสีทอง สื่อความหมายถึง การประสานสัมพันธ์อันเป็นหนึ่งเดียวกัน มาตรา ๕ ให้มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์จัดทำตราสัญลักษณ์ตามพระราชกฤษฎีกานี้ ขึ้นไว้เป็นตัวอย่าง มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือ เนื่องจากได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ขึ้นตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ๒๕๔๘ และโดยที่มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติให้มหาวิทยาลัยอาจกำหนดให้มีตรา เครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยหรือส่วนราชการของมหาวิทยาลัยได้ โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา จึงจำเป็น ต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ เล่ม: ๑๒๕ หมวด: ๑๓๘ ก ประกาศ ณ: ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หน้า: ๙๙
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:79936", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "พระราชกฤษฎีกากำหนดตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ๒๕๕๑", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/A/138/99.PDF", "year": null }
nonweb_87448
ประกาศการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่อง การแต่งตั้งพนักงานลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕ ประกาศการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่อง การแต่งตั้งพนักงานลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕ เพื่อให้พันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕ สมบูรณ์ตามที่กำหนด ในข้อ ๑๔ แห่งประกาศการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องการออกพันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕ ลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงขอแต่งตั้งพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยดังรายชื่อต่อไปนี้ เป็นพนักงานผู้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕ ๑. นางสาววันทนา เฮงสกุล หรือ ๒. นางผุสดีหมู่พยัคฆ์ หรือ ๓. นายยรรยง ดำรงศิริหรือ ๔. นางสาวสุนัน เชี่ยววัฒนะกุล หรือ ๕. นางสมศรีสมัตาดล หรือ ๖. นายอัครเดช ดาวเงิน ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เล่ม: ๑๒๙ หมวด: ๑๒๘ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ หน้า: ๒๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:87449", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่อง การแต่งตั้งพนักงานลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/E/128/25.PDF", "year": null }
nonweb_115801
ประกาศรัฐสภา เรื่อง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ [จำนวน ๔๙ ราย ๑ นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ ฯลฯ] ประกาศรัฐสภา เรื่อง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... ด้วยในคราวประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันอังคารที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่ประชุมได้พิจารณาและลงมติรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียง ประชามติ พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ และตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณา ประกอบด้วย ๑. นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ ๒. นายขจิตร ชัยนิคม ๓. นายจรินทร์ จักกะพาก ๔. พลอากาศตรี เฉลิมชัย เครืองาม ๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ๖. นายเฉลิมชัย เฟืองคอน ๗. ร้อยตำรวจเอก ชนินทร์ น้อยเล็ก ๘. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ๙. รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ๑๐. นายณรงค์ อ่อนสอาด ๑๑. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ๑๒. พลเอก ทวีป เนตรนิยม ๑๓. นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ๑๔. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ๑๕. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ๑๖. นายนพ ชีวานันท์ ๑๗. นายนพดล เภรีฤกษ์ หน้า ๓ ๑๘. นายนิยม เวชกามา ๑๙. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ๒๐. ศาสตราจารย์นิสดารก์ เวชยานนท์ ๒๑. พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ๒๒. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ๒๓. นายพลเดช ปินประทีป ๒๔. นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ๒๕. พลเรือเอก พัลลภ ตมิศานนท์ ๒๖. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ๒๗. นางสาวเพชรชมพู กิจบูรณะ ๒๘. นายยงยุทธ สุวรรณบุตร ๒๙. นายวันชัย สอนศิริ ๓๐. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทำ ๓๑. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ๓๒. นายวิทยา ผิวผ่อง ๓๓. นายวิรัช พันธุมะผล ๓๔. นายศุภชัย ใจสมุทร ๓๕. พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม ๓๖. รองศาสตราจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร ๓๗. นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ๓๘. นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ๓๙. นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ๔๐. นายสุชาติ ภิญโญ ๔๑. นายสุชาติ อุสาหะ ๔๒. นายสุพล ฟองงาม หน้า ๔ ๔๓. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ๔๔. นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ๔๕. นายองอาจ คลำมไพบูลย์ ๔๖. นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ๔๗. นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ๔๘. นายอิสสระ สมชัย ๔๙. นายเอกการ ซื่อทรงธรรม จึงประกาศให้ทราบโดย ทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๘ ง ประกาศ ณ: ๐๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๓
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:115802", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศรัฐสภา เรื่อง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ [จำนวน ๔๙ ราย ๑ นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ ฯลฯ]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/018/T_0003.PDF", "year": null }
nonweb_121516
ประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง ปรับเปลี่ยนวันและเวลาทำงานของธนาคารออมสิน สาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ ประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง ปรับเปลี่ยนวันและเวลาทำงานของธนาคารออมสินสาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ โดยที่เป็นการสมควรปรับเปลี่ยนวันและเวลาทำงานของธนาคารออมสินสาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการใช้บริการของลูกค้า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. ๒๔๘๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบความในข้อ ๙ แห่งคำสั่งธนาคารออมสินที่ ๒๓/๒๕๖๔ เรื่อง การปฏิบัติงานของธนาคารออมสินสาขาที่มีวันและเวลาทำงาน แตกต่างจากสาขาปกติ (รหัส 02 -04-12) จึงกำหนดไว้ดังนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง เปิดสำนักงานธนาคารออมสินสาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๑) ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ (รหัส 01 -02-49/776) ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒ วันและเวลาทำงานแห่งประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง เปิดสำนักงาน ธนาคารออมสินสาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ (รหัส 01 -02-49/557) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง เปิดสำนักงานธนาคารออมสินสาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๑) ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ (รหัส 01 -02-49/776) และให้วันและเวลาทำ งานของธนาคารออมสินสาขาบิ๊กซี สำโรง ๒ เป็นไปตามที่กำหนด ดังนี้ “วันและเวลาทำงาน เปิดทำงาน วันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ น. - ๒๐.๐๐ น. เปิดให้บริการ วันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ น. - ๑๙.๐๐ น.” ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ชาญชัย ฝอยทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานกิจการสาขา ๕ ปฏิบัติงานแทน ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๔๗ ง ประกาศ ณ: ๐๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๑๘๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:121517", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง ปรับเปลี่ยนวันและเวลาทำงานของธนาคารออมสิน สาขาบิ๊กซี สำโรง ๒", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/047/T_0186.PDF", "year": null }
nonweb_77088
ประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง รายงานเหตุผลที่ไม่อาจตราพระราชกฤษฎีกาได้ ประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง รายงานเหตุผลที่ไม่อาจตราพระราชกฤษฎีกาได้ ด้วย พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๖๖ กำหนดให้ ตราพระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติใช้บังคับ และหากไม่แล้วเสร็จให้ขยายระยะเวลาได้ครั้งละหนึ่งปี โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสำนักงานประกันสังคม แล้วแต่กรณี รายงานเหตุผล ที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ และจัดให้มีการเผยแพร่รายงานนั้นต่อสาธารณชน โดยประกาศฉบับนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงเผยแพร่ให้ทราบทั่วกันว่า นับตั้งแต่เริ่มใช้บังคับตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้มีการขอขยายระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกา มาแล้ว ๒ ครั้ง ในปี ๒๕๔๖ และปี ๒๕๔๗ สำหรับในปี ๒๕๔๘ นี้ เหตุที่ยังไม่อาจตราพระราชกฤษฎีกา ได้อีก เนื่องจากผู้รับผิดชอบกองทุนทั้ง ๓ กองทุน ซึ่งได้แก่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม ยังต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาระบบเพื่อให้เกิด ความมั่นใจว่าประชาชนคนไทยทุกคนจะมีหลักประกันในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยระบบที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ระบบฐานข้อมูล ระบบตรวจสอบ คุณภาพบริการทางการแพทย์ ระบบบริหารการจ่ายชดเชยค่าบริการ และการเชื่อมโยงฐานข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน ซึ่งทั้งหมดยังต้องการการพัฒนาอีกระยะหนึ่ง กรณีผู้มีสิทธิตามมาตรา ๙ ขณะนี้กรมบัญชีกลางและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ร่วมมือกันดำเนินโครงการให้ผู้มีสิทธิกลุ่มผู้รับเบี้ยหวัด/บำนาญ ให้ได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการ เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ โดยกรมบัญชีกลางยังคงเป็น หน่วยงานรับผิดชอบหลัก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทำหน้าที่ปรับปรุงระบบบริหาร การเบิกจ่ายและพัฒนาคุณภาพบริการ โดยโครงการนี้จะขยายต่อไปเป็นระยะ ๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถ ขยายผลครอบคลุมข้าราชการทั้งหมด และรวมทั้งครอบครัวผู้มีสิทธิภายในเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ ส่วนผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคมยังไม่สามารถดำเนินการได้มาก เนื่องจาก เป็นกองทุนที่ผู้มีสิทธิมีส่วนร่วมสมทบในเงินกองทุนด้วย การดำเนินการจึงต้องค่อยเป็นค่อยไปและพัฒนา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามภารกิจกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ๋าย ดังนั้น คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๑๒/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ ให้ขยายระยะเวลาใน การตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ ออกไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีรับทราบ รายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการดังกล่าวในวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๔๙ แล้ว จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙ ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ ปฏิบัติงานแทน เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เล่ม: ๑๒๓ หมวด: ๒๕ ง ประกาศ ณ: ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ หน้า: ๔
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:77089", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง รายงานเหตุผลที่ไม่อาจตราพระราชกฤษฎีกาได้", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/00183988.PDF", "year": null }
nonweb_107918
คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๑๒/๒๕๖๒ เรื่อง การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน หน้าที่และอำนาจของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 312/๒๕๖๒ เรื่อง การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน หน้าที่และอำนาจของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อให้การปฏิบัติราชการและการบริหารงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา ๕ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ นายกรัฐมนตรีจึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๗๙/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เรื่อง การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่ของส่วนงาน และอัตรากำลังของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ข้อ ๒ ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มีโครงสร้าง และส่วนงาน ๑๗ ส่วนงาน ดังต่อไปนี้ (1) สำนักงานเลขานุการ (๒) สำนักตรวจสอบภายใน (๓) สำนักพัฒนาระบบบริหาร (๔) สานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน (๕) สำนักจเร (๖) สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง (๗) สานักการข่าว (๘) สำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ (๙) สำนักบริหารงานบุคคล (๑๐) สำนักส่งกำลังบำรุง (๑๑) สำนักงบประมาณและการเงิน (๑๒) สำนักบูรณาการและขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน (๑๓) ศูนย์ดิจิทัลเพื่อความมั่นคง (๑๔) ศูนย์การศึกษาและวิทยาการด้านความมั่นคง (๑๕) ศูนย์ประสานการปฏิบัติ (๑๖) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค (๑๗) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด หน้า ๑๗ ส่วนงานตามวรรคหนึ่ง ปรากฏตามแผนภูมิในผนวก ก ท้ายคำสั่งนี้ ข้อ ๓ หน้าที่และอำนาจของส่วนงานและการบังคับบัญชา (๑) สำนักงานเลขานุการ ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) ดำเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการและธุรการของ ผอ.รมน. รอง ผอ.รมน. ผู้ช่วย ผอ.รมน. เลขาธิการ กอ.รมน. รองเลขาธิการ กอ.รมน. และผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ๆ ตามที่ได้รับ มอบหมาย (ข) จัดให้มีการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. และการประชุมอื่น ๆ ตามที่ได้รับ มอบหมาย (ค) การประชาสัมพันธ์ โดยบูรณาการเครื่องมือทั้งภาครัฐและเอกชน (ง) เป็นส่วนงานกลางในการให้ข้อมูลข่าวสาร แก่สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ (จ) รับผิดชอบงานธุรการและงานสารบรรณ รวมถึงดำเนินการต่อเอกสารที่ไม่ชัดเจน ว่าอยู่ในความรับผิดชอบของส่วนงานใดใน กอ.รมน. (ฉ) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๒) สำนักตรวจสอบภายใน ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) ตรวจสอบการบริหาร การเงิน และการบัญชีของ กอ.รมน. (ข) ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในร่วมกับหน่วยงานกลางต่าง ๆ และส่วนงานภายใน (ค) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๓) สำนักพัฒนาระบบบริหาร ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่ เลขาธิการ กอ.รมน. เกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหาร ภายในของ กอ.รมน. (ข) ติดตามประเมินผล และจัดทำรายงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารของ กอ.รมน. (ค) ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ง) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๔) สานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้หน้า ๑๘ (ก) วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลเกี่ยวกับกิจการด้านกฎหมาย และสิทธิมนุษยชนของ กอ.รมน. (ข) ดำเนินการเกี่ยวกับคดีปกครอง คดีอาญา คดีแพ่ง และความรับผิดทางละเมิด ของเจ้าหน้าที่ (ค) ดำเนินการเกี่ยวกับนิติกรรม สัญญา และการสงเคราะห์ทางกฎหมาย ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน. (ง) เสนอความเห็น และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้กำลัง และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ความมั่นคง (จ) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๕) สำนักจเร ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) ตรวจสอบ ประเมินผล และสอบส วนอย่างอิสระในการปฏิบัติราชการ ของส่วนราชการ ใน กอ.รมน. (ข) สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการร้องทุกข์ร้องเรียน และเรื่องที่ผู้บังคับบัญชา มอบหมาย (ค) รับผิดชอบการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของ กอ.รมน. (ง) ให้คำแนะนำและเสนอแนะการปฏิบัติงานของส่วนงานใน กอ.รมน. ให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับ (จ) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๖) สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลงาน ด้านนโยบายและแผนของ กอ.รมน. รองรับยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของรัฐบาล (ข) พิจารณาแผนงาน โครงการและงบประมาณของส่วนงานตามแผนงานรักษา ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรประจำปี และแผนงานเพิ่มเติม รวมทั้งตรวจสอบ กำกับดูแล การปฏิบัติงานของ กอ.รมน. ให้เป็นไปตามแผนงาน (ค) วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแล การปฏิบัติการของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และกำลังกึ่งทหาร ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามแผนงานประจำปี และแผนปฏิบัติการอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย หน้า ๑๙ (ง) วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแล และบูรณาการปฏิบัติการแก้ไขปัญหา ความมั่นคงในพื้นที่เฉพาะ ที่ได้รับมอบหมาย (จ) วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลการปฏิบัติการข่าวสาร งานไซเบอร์ และงานสื่อสารของ กอ.รมน. (ฉ) วิจัย กำหนดตัวชี้วัด ประเมินผลการดำเนินงาน และเสนอแนวทางการปรับปรุง พัฒนา กอ.รมน. ให้มีความพร้อมและทันสมัย (ช) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๗) สานักการข่าว ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแล การปฏิบัติงานข่าวทั้งปวงของหน่วยต่าง ๆ ที่อยู่ในความควบคุมของ กอ.รมน. (ข) ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ทั้งภายในและ นอกราชอาณาจักรที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นค งภายในราชอาณาจักรและในส่วน ที่มีผลกระทบ โดยการปฏิบัติการรวบรวมและตรวจสอบข่าวสาร รวมทั้งประสานงานกับประชาคม ข่าวกรอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง (ค) ดำเนินกรรมวิธีผลิตข่าวกรองด้านความมั่นคง การใช้และการกระจายข่าวสาร ข่าวกรอง เพื่อใช้ในการประเมินแนวโน้มสถานการณ์ภัยคุกคามด้านความมั่นคงต่าง ๆ จัดทำรายงาน ข่าวกรอง สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง และดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านเทคโนโลยี ระบบสารสนเทศข่าวกรอง (ง) พัฒนา และเสริมสร้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมในงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคง โดยการสร้างเครือข่ายข่าวภาคประชาชน (จ) ดำเนินงานการต่อต้านการข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวกับบุคคล เอกสาร และสถานที่ของ กอ.รมน. (ฉ) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๘) สำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่ และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแลการปฏิบัติการ ด้านมวลชนและสารนิเทศ หน้า ๒๐ (ข) อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแล และดำเนินการปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ และส่งเสริมให้มวลชนเข้ามา มีส่วนร่วมเป็นจิตอาสาพระราชทานในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ (ค) จัดตั้ง พัฒนาสัมพันธ์ และนาม วลชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษา ความสงบเรียบร้อย รวมทั้งการส่งเสริมให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง (ง) ดำเนินการปฏิบัติการจิตวิทยา การประชาสัมพันธ์ การสื่อสารองค์กรและ การบริการข้อมูลข่าวสาร (จ) อำนวยการและกำกับดูแลงานเกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้น ที่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการป้องกัน บรรเทาสาธารณภัย (ฉ) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๙) สำนักบริหารงานบุคคล ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลเกี่ยวกับกิจการ ด้านบุคลากรของ กอ.รมน. (ข) ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ แถลงการณ์ และแบบธรรมเนียมด้านบุคลากรของ กอ.รมน. (ค) ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการบุคลากร การรักษาสถานภาพ การบรรจุ แต่งตั้ง โอน ย้าย และการช่วยราชการของข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานราชการ (ง) จัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณด้านบุคลากร (จ) ดำเนินการด้านสิทธิบุคลากร การพัฒนาและรักษาขวัญ และสวัสดิการ ของบุคลากร (ฉ) ดำเนินการพัฒนาบุคลากร และการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร (ช) ดำเนินการด้านการปกครอง การรักษาวินัย และการพิจารณาความผิด ของบุคลากร (ซ) รับผิดชอบงานการจัดการภายในสำนักงาน งานพิธีของ กอ.รมน. รวมทั้งงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย (ฌ) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๐) สำนักส่งกำลังบำรุง ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้หน้า ๒๑ (ก) กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลเกี่ยวกับงาน ในด้านส่งกำลังบำรุง ในเรื่องเกี่ยวกับความต้องการ แผนงาน โครงการ และงบประมาณ การส่งกำลังบำรุง รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานราคากลางในการจัดหาพัสดุ การวิเคราะห์ วิจัย และตรวจสอบผลงาน และประเมินผลในการส่งกำลังบำรุง (ข) ควบคุม อำนวยการ และติดตามผลการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหา การเก็บรักษา การแจกจ่าย การซ่อมบำรุง และการจำหน่ายพัสดุของ กอ.รมน. (ค) รับผิดชอบการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดการอาคารสถานที่การเคลื่อนย้าย กำลังพลและขนส่งพัสดุ การบริการ การเลี้ยงดูภายในและภายนอกที่ทำการ การรักษาพยาบาล และการส่งกลับ รวมทั้งการบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันปรนนิบัติบำรุง (ง) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๑) สำนักงบประมาณและการเงิน ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) เสนอนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลการดำเนินการ ด้านการงบประมาณและการเงินของ กอ.รมน. ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ (ข) เสนอแนะและให้คำปรึกษาทางด้านงบประมาณ การเงิน ตามระเบียบแบบแผน ของทางราชการแก่ผู้บังคับบัญชา และส่วนงานใน กอ.รมน. (ค) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๒) สำนักบูรณาการและขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่ และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) รับผิดชอบการดำเนินงานของคณะกรรมการบูรณาการและขับเคลื่อนงานการรักษา ความมั่นคงภายใน (ข) ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของ กอ.รมน. ร่วมกับส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคส่วนต่าง ๆ ในการป้องกันแก้ไขปัญหาตามที่ได้รับมอบหมาย (ค) รวบรวมสถานการณ์ความมั่นคงและบริหารจัดการข้อมูล เพื่อการป้องกันและ แก้ไขปัญหาขั้นต้น และทำหน้าที่ศูนย์อำนวยการเมื่อเกิดสถานการณ์ในภาวะไม่ปกติ (ง) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๓) ศูนย์ดิจิทัลเพื่อความมั่นคง ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้หน้า ๒๒ (ก) กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแล และดำเนินการ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการปฏิบัติการด้านไซเบอร์ของ กอ.รมน. (ข) จัดทำแผน แผนงาน และโครงการ รวมทั้งตรวจสอบวิเคราะห์และประเมินผล ตามภารกิจ (ค) ประสานงานเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการด้านความมั่นคงเกี่ยวกับไซเบอร์กับหน่วยงานอื่น ตามที่ได้รับมอบหมาย (ง) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๔) ศูนย์การศึกษาและวิทยาการด้านความมั่นคง ขึ้นตรงต่อ เลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่ และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) จัดการอบรมด้านการรักษาความมั่นคงภายในให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ให้ครอบคลุม ทุกระดับ ทุกภาคส่วน (ข) จัดทำหลักนิยม องค์ความรู้ตำรา คู่มือ และหลักสูตรการ ฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับ การรักษาความมั่นคงภายใน (ค) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๕) ศูนย์ประสานการปฏิบัติ ขึ้นตรงต่อ ผอ.รมน. ให้จัดตั้งขึ้นในจำนวนที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อบูรณาการการปฏิบัติ และกำกับดูแลงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กับงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติเฉพาะเรื่อง โดยมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (ก) ประสานงาน กำกับการ ติดตามประเมินผล และเสริมการปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับ มอบหมาย (ข) ติดตามสถานการณ์ ประสานการปฏิบัติ และจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับประเด็น ความมั่นคงเฉพาะเรื่อง (ค) จัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณ รองรับแผนปฏิบัติการ ในความรับผิดชอบ (ง) ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ ได้รับมอบหมาย (๑๖) กอ.รมน.ภาค ขึ้นตรงต่อ ผอ.รมน. มีหน้าที่รับผิดชอบและสนับสนุนการรักษา ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาค ตามที่ผอ.รมน. มอบหมาย และมีอัตรากำลังตามที่ผอ.รมน. กำหนดตามข้อเสนอของ ผอ.รมน.ภาค หน้า ๒๓ (๑๗) กอ.รมน.จังหวัด ขึ้นตรงต่อ ผอ.รมน.ภาค มีหน้าที่รับผิดชอบและสนับสนุนการรักษา ความมั่นคงภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของจังหวัดนั้นตามที่ผอ.รมน. มอบหมาย และมีอัตรากำลัง ตามที่ผอ.รมน. กำหนด ข้อ ๔ อัตรากำลัง ให้ผอ.รมน. จัดสรรจำนวนอัตรากำลังที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้แล้ว ให้แก่ส่วนงานต่าง ๆ ตามข้อ ๒ (๑) - (๑๕) ให้เพียงพอกับความจำเป็นและความเหมาะสมของงาน ทั้งนี้ตามแนวทาง ที่คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกำหนด ข้อ ๕ ให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนการอำนวยการของ กอ.รมน. และจัดส่ง เจ้าหน้าที่มาปฏิบัติหน้าที่ใน กอ.รมน. ตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๒๙๖ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:107919", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๑๒/๒๕๖๒ เรื่อง การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน หน้าที่และอำนาจของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/296/T_0017.PDF", "year": null }
nonweb_98617
ประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒) ประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒) ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอสุไหงโก -ลก จังหวัดยะลา ยก เว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน ลงวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และมีประกาศ เรื่อง การให้ประกาศ ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ลงวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ แล้ว นั้น เพื่อให้การสั่งการและการแก้ไขสถานการณ์เป็นไปโดยมีเอกภาพ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น ๒๑. แห่งประกาศ เรื่อง การกำหนด อำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ “๒๑. พระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๖” ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๒๒๓ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๑๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:98618", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/223/T15.PDF", "year": null }
nonweb_106019
ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ ๙/๒๕๖๒ เรื่อง การจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ ๙/๒๕๖๒ เรื่อง การจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด ขอประกาศว่า บริษัทมหาชนจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕ และนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒ โกมล นมรักษ์ ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน หน้า ๒ 1ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ๐๑๐๗๕๖๒๐๐๐๐๔๑ ๖ มี.ค. ๒๕๖๒๓๐๐ ,๐๐๐ ,๐๐๐๑. แปรสภาพ ๒ บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ๐๑๐๗๕๖๒๐๐๐๐๕๐ ๑๔ มี.ค. ๒๕๖๒๒๑๕ ,๐๐๐ ,๐๐๐๑. แปรสภาพ ๓ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ๐๑๐๗๕๖๒๐๐๐๐๗๖ ๒๒ มี.ค. ๒๕๖๒๙๐ ,๐๐๐ ,๐๐๐๑. แปรสภาพ ๔ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ๐๑๐๗๕๖๒๐๐๐๐๘๔ ๒๒ มี.ค. ๒๕๖๒๒๘๐ ,๐๐๐ ,๐๐๐๑. แปรสภาพรายละเอียดการจดทะเบียนแปรสภาพบริษัทเอกชนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ 9/2562 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2562 เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๔๙ ค ประกาศ ณ: ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:106020", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ ๙/๒๕๖๒ เรื่อง การจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/C/049/T_0002.PDF", "year": null }
nonweb_113545
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ [กระทรวงการต่างประเทศ : จำนวน ๓ ราย ๑. นายเจษฎา กตเวทิน ฯลฯ] ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ พ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ดังนี้ ๑. นายเจษฎา กตเวทิน พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ๒. นายพรภพ อ่วมพิทยา พ้นจากตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประจำสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประจำนิวซีแลนด์ ๓. เรือเอก ชัชวรรณ สาครสินธุ์ พ้นจากตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำ สาธารณรัฐคาซัคสถาน พระราชสาส์นตราตั้ง ลงวันที่ 6 ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เล่ม: ๑๓๗ หมวด: ๒๘๘ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ หน้า: ๑๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:113546", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ [กระทรวงการต่างประเทศ : จำนวน ๓ ราย ๑. นายเจษฎา กตเวทิน ฯลฯ]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/288/T_0010.PDF", "year": null }
nonweb_93093
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ประจำปี ๒๕๕๘ [พนักงานราชการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม] สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๑๐ ราย) ๑ นายกรกฤช นิธินันทน์ ๒ นายธนภูมิ บำรุงเศรษฐ์ ๓ นายนาวิน สุทธิพร ๔ นายพนม ใจตุ้ย ๕ นางสาวจิตตินันท์ ปานบุญปลูก ๖ นางสาวประภาทิพย์ ป้ญจะพรสุข ๗ นางสาวพัชรนันท์ ชัยศรัณลักษณ์ ๘ นางสาววาสนา เติมบุญ ๙ นางสาวอรจิรา คุณาบุตร ๑๐ นางสาวอุษณีย์ ณ ถลาง เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (รวม ๑๒ ราย) ๑ นายชัยวัฒน์ จันทน์เทศ ๒ นายพิเชษฐ ฉายอินทร์ ๓ นายมานิตย์ พิทักษ์ธรรม ๔ นายสมบูรณ์ ธงทอง ๕ นายอิทธิชัย เริ่มฤกษ์ ๖ นายอิสระ สัตถาผล ๗ นางสาวดวงพร ซาพวง ๘ นางปาริชาด ปาลกะวงษ์ ๙ นางวัชรา เหมือนเจ็ดริ้ว ๑๐ นางสาวศิริกาญจน์ อังคณานนท์ ๑๑ นางสาวสุภาพร จันทร์เทียนบุญ ๑๒ นางสาวอรวรรณ ทับทิมทอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๑ ราย) ๑ นางจิรานุช สีพูน เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (รวม ๑๖ ราย) ๑ นายกิตติศักดิ์ พนิกรณ์ ๒ นายธีรยุทธ์ หอแก้ว ๓ นายนิลวัฒน์ มาชู ๔ นายวชิระ เสนจันทร์ ๕ นายเอกลักษณ์ นันทสิงห์ ๖ นางสาวกมลวรรณ กิจสมพงษ์ ๗ นางสาวฐิติพรรณ ธีรภาพสกุลวงศ์ ๘ นางสาวนพรัตน์ ช่วงเวฬุวรรณ ๙ นางสาวเบญจาฉัตร ประทีปชัย ๑๐ นางสาวพัชรียา ปินวิเศษ ๑๑ นางสาวพัลลภา คำสีทำ ๑๒ นางพุทธรักษา ขุนจันทร์ ๑๓ นางสาววราภรณ์ เขื่อนพันธ์ ๑๔ นางสาวสาวิตรี อินทรทัพ ๑๕ นางสาวอโณทัย พวงนาค ๑๖ นางสาวอนัญญา คงแสนคำ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๔ ราย) ๑ นายมารุต ทองประเสริฐ ๒ นายสมเดช รอดพ้น ๓ นางรัตนาภรณ์ คนสัน ๔ นางสาวววลัย เจริญทองพูน กรมควบคุมมลพิษ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๕๑ ราย) ๑ นายเกรียงไกร สีปานมั่น ๒ นายจราวุฒิ เจียมสกุล ๓ นายชัยวุฒิ ลายพยัคฆ์ ๔ นายทศพร บำรุงวงศ์ ๕ นายธเนศพล วงศ์นรา ๖ นายธีรเดช วงศ์ภักดี ๗ นายนพดล ไชยคำ ๘ นายนิพนธ์พัฒน์ เบ้าเงิน ๙ นายพรชัย กะการดี ๑๐ นายพลไกร การดี ๑๑ นายพิเชษฐ์ ชีววัฒน์ ๑๒ ว่าที่ร้อยตรี ภาณุศักดิ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร ๑๓ นายวิทยา ประกอบปราณ ๑๔ นายวิทยา ยกฉวี ๑๕ นายวิรัช ศรีทอง ๑๖ นายวิษุวัต วารีย์ ๑๗ นายวีรศักดิ์ รักชาติ ๑๘ นายศิริพงศ์ ชอบแต่ง ๑๙ นายสมศักดิ์ ชนะงาม ๒๐ นายสุภกิจ จิ๋วเจริญ ๒๑ นายโสภณ พงศ์สวัสดิ์ ๒๒ นายอานนท์ นกแก้วน้อย ๒๓ นายอำนวย อภัย ๒๔ นายเอก ชัยชูบุตร ๒๕ นายเอกศาสตร์ พันธ์สวัสดิ์ ๒๖ นางสาวกิตติยา พรมทะลือ ๒๗ นางสาวจันทธิรา จำนงบุตร ๒๘ นางจีรนันท์ ทรัพย์ทวี ๒๙ นางสาวจีรวรรณ แก้วม้า ๓๐ นางสาวจีฬาภรณ์ ไทยขำ ๓๑ นางชญาภา คำเกลี้ยง ๓๒ นางสาวตวงพร รอดแสวง ๓๓ นางถวิล วิทูกิจ ๓๔ นางสาวบุญยืน กวินเสกสรรค์ ๓๕ นางสาวบุษกร กอ งสำลี เล่ม: ๑๓๓ หมวด: ๑๔ ข ประกาศ ณ: ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ หน้า: ๑๖๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:93094", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ประจำปี ๒๕๕๘ [พนักงานราชการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/B/014/014_7/168_2.PDF", "year": null }
nonweb_117437
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยที่เป็นการสมควรตราข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ว่าด้วยการควบคุมการเลี้ยง หรือปล่อยสัตว์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบมาตรา ๒๙ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลบางระกำ และนายอำเภอนครชัยศรี จึงตราข้อบัญญัติ ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ เรื่อง การควบคุม การเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๒” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิก (๑) ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบล เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๔ ในข้อบัญญัตินี้ “การเลี้ยงสัตว์” หมายความว่า การเลี้ยงสัตว์ในสถานที่เลี้ยงสัตว์ “การปล่อยสัตว์” หมายความว่า การเลี้ย งสัตว์ในลักษณะที่มีการปล่อยให้อยู่นอก สถานที่เลี้ยงสัตว์ รวมทั้งการสละการครอบครองสัตว์ “สถานที่เลี้ยงสัตว์” หมายความว่า คอกสัตว์ กรงสัตว์ ที่ขังสัตว์ หรือสถานที่ในลักษณะอื่น ที่ใช้ในการควบคุมสัตว์ที่เลี้ยง “เจ้าของสัตว์” หมายความรวมถึงผู้ครอบครอ งสัตว์ด้วย “ที่หรือทางสาธารณะ” หมายความว่า สถานที่หรือทางซึ่งมิใช่เป็นของเอกชนและประชาชน สามารถใช้ประโยชน์หรือใช้สัญจรได้หน้า ๗๒ “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบล “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ “สิ่งปฏิกูล” หมายถึง อุจจาระหรือปัสสาวะและสิ่งอื่นใดซึ่งเป็นสิ่งโสโครกมีกลิ่นเหม็น “สัตว์” หมายถึง (๑) สุนัข (๒) แมว (๓) สุกร (๔) โค (๕) กระบือ (๖) แพะ แกะ (๗) ไก่นก (๘) เป็ด ห่าน (๙) ม้า (๑๐) สัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า “สัตว์ควบคุมพิเศษ” หมายถึง (๑) สัตว์สายพันธุ์ดุร้าย รวมถึงสัตว์ลูกผสมสายพันธุ์ที่ดุร้ายด้วย เช่น สุนัข พันธุ์ร็อตไวเลอร์ สุนัขพันธุ์ พิทบูลเทอเรีย สุนัขพันธุ์บางแก้ว สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน สุนัขพันธุ์อัลเซเซียน (๒) สัตว์ที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคน โดยมีหลักฐานแจ้งความ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ (๓) สัตว์ที่มีพฤติกรรมไล่ทำร้ายคนหรือสัตว์ โดยปราศจากการยั่วยุ (๔) สัตว์ที่ห้ามมีไว้ครอบครองตามกฎหมายอื่น (๕) สัตว์ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนด ข้อ ๕ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้หน้า ๗๓ หมวด ๑ บททั่วไป ข้อ ๖ เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ในท้องถิ่นหรือเพื่อป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคที่เกิดจากสัตว์ ให้เป็นที่ในเขตอำนาจขององค์การบริหาร ส่วนตำบลบางระกำเป็นเขตควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ ดังนี้ (๑) ให้สถานที่ราชการในเขตตำบลบางระกำ ได้แก่ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน ศาสนสถาน ที่ดินสาธารณะ ทางสาธารณะ ระบบประปาหมู่บ้านและแหล่งน้ำสาธารณะ เป็นเขตห้ามเลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์โดยเด็ดขาด (๒) ให้เขตพื้นที่ตลอดบริเวณสถานที่ตาม (๑) ซึ่งมีระยะห่างไม่น้อยกว่า ๑๐๐ เมตร เป็นเขตห้ามเลี้ยงและปล่อยสัตว์ ดังนี้ (๒.๑) สุนัข แมว สุกร โค กระบือ แพะ แกะ และม้า เกิน ๑๐ ตัว (๒.๒) ไก่ เป็ด ห่านหรือทั้งสามประเภทรวมเกินกว่า ๕๐ ตัว (๒.๓) สัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุมครองสัตว์ป่าซึ่งได้รับอนุญาต จากกรมป่าไม้ (๓) การเลี้ยงสัตว์ นอกเขตพื้นที่ควบคุมตาม (๑) และ (๒) ต้องมีระยะห่าง ในระยะที่ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญต่อชุมชนหรือผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง กรณีการเลี้ยงสัตว์ในเชิงพาณิชย์ ให้มีระยะห่างจากสถานที่ราชการ ชุมชน ศาสนสถาน ที่ดินสาธารณะ ทางสาธารณะ ระบบประปาหมู่บ้านและแหล่งน้ำสาธารณะ ตามคำแนะนำของ คณะกรรมการสาธารณสุขตามประเภทของสัตว์นั้น ๆ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจกำหนดประเภทและชนิดสัตว์ที่ต้องค วบคุมการเลี้ยงสัตว์เพิ่มเติม ทั้งนี้ โดยอาจควบคุมการเลี้ยงสัตว์เฉพาะในเขตท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือเต็มพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ข้อ ๗ ห้ามทำการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ที่ต้องควบคุมตามข้อ ๔ ในที่หรือทางสาธารณะ ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำโดยเด็ดขาด หน้า ๗๔ ความในวรรคหนึ่ง ไม่ใช่บังคับแก่การเลี้ยงสัตว์ ดังต่อไปนี้ (๑) เพื่อการรักษาโรคเจ็บป่วยหรือสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของสัตว์ (๒) เพื่อกิจกรรมใด ๆ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ประกาศกำหนดพื้นที่ ส่วนหนึ่งส่วนใดให้เลี้ยงโดยมีกำหนดระยะเวลา ที่แน่นอนเป็นการเฉพาะ (๓) เพื่อการย้ายถิ่นที่อยู่ของเจ้าของสัตว์ ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่การปล่อยสัตว์ เพื่อการกุศลหรือจารีตประเพณีโดยได้รับอนุญาต จากองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ หรือในพระราชพิธีหรือพิธีกรรมทางศาสนาตามประกาศของทางราชการ ข้อ ๘ เพื่อประโยชน์การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ มีอำนาจออกประกาศกำหนดเขตพื้นที่เลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์ ที่ต้องควบคุมตามข้อ ๕ โดยให้มีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) กำหนดจำนวน ประเภท และชนิดของสัตว์ที่เลี้ยง (๒) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการทำทะเบียนตามประเภทและชนิดของสัตว์ (๓) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการปล่อยสัตว์ตามข้อ ๖ หมวด ๒ การจดทะเบียนสัตว์ ข้อ ๙ ให้เจ้าของบ้านหรือเจ้าของสัตว์ที่ครอบครองสัต ว์ ประเภท สุนัขและแมว เป็นระยะเวลา ไม่น้อยกว่า ๖๐ วันขึ้นไป ยื่นคำขอใบรับรองการจดทะเบียนและขึ้นทะเบียนสัตว์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ หรือสถานที่ใดตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด การจดทะเบียน และขึ้นทะเบียนสัตว์ประเภทอื่นให้เป็นตามระเบียบ กฎหมายของกรมปศุสัตว์ ข้อ ๑๐ ในกรณีที่สัตว์ประเภท สุนัข หรือแมวตายหรือได้พบสัตว์ที่ตายแล้ว เจ้าของบ้าน หรือเจ้าของสัตว์ มีหน้าที่ต้องแจ้งการตายหรือพบสัตว์ตายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น กำหนดภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สัตว์ตายหรือพบสัตว์ตาย เพื่อปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป กรณีที่สุนัข หรือแมวพ้นไปจากการครอบครองของเจ้าของสัตว์ เช่น หาย ยกสัตว์ให้บุคคลอื่น เป็นต้น เจ้าของสัตว์มีหน้าที่ต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่สัตว์พ้นไปจากการครอบครอง หน้า ๗๕ หมวด ๓ การควบคุมการเลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์ ข้อ ๑๑ นอกจากการเลี้ยงสัตว์ตามปกติวิสัยแล้ว เจ้าของสัตว์จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (๑) ต้องนำสัตว์ประเภ ทสุนัขและแมวที่มีอายุระหว่าง ๒ – ๔ เดือน ไปฉีดวัคซีน ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นครั้งแรกและต้องนำสัตว์ไปฉีดวัคซีนครั้งต่อไปตามที่กำหนดในใบรับรองการฉีดวัคซีน (๒) จัดให้มีสถานที่เลี้ยงสัตว์ที่มั่นคงแข็งแรงตามความเหมาะสมแก่ประเภท และชนิดของสัตว์ โดยมีขนาดเพียงพอแก่การดำรงชีวิตของสัตว์ มีแสงสว่างและการระบายอากาศที่เพียงพอ มีระบบการระบายน้ำ และกำจัดสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะ กรณีเป็นสัตว์ควบคุมพิเศษจะต้องเลี้ยงในสถานที่หรือกรงสัตว์ไม่สามารถเข้าถึงบุคคลภายนอกได้ และมีป้ายเตือนให้ระมัดระวังโดยสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน (๓) ควบคุมดูแลสัตว์ของตนมิให้ก่ออันตรายหรือเหตุรำคาญต่อผู้อื่น (๔) รักษาสถานที่เลี้ยงสัตว์ให้สะอาดอยู่เสมอ จัดเก็บสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะเป็นประจำ ไม่ปล่อยให้เป็นที่สะสมหมักหมมจนเกิดกลิ่นเหม็นรบกวนผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง (๕) จัดให้มีการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในสัตว์ เพื่อป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคที่เกิดจากสัตว์ (๖) ต้องรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของสัตว์ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างปกติ หากเจ้าของ ไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์ได้เป็นการชั่วคราว ต้องจัดให้มีผู้ดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เป็นปกติ (๗) ให้เลี้ยงสัตว์ภายในสถานที่ของตน ไม่ปล่อยให้สัตว์อยู่นอกสถานที่เลี้ยงสัตว์ โดยปราศจากการควบคุม กรณีเป็นสัตว์ดุร้ายจะต้องเลี้ยงในสถานที่หรือกรงที่บุคคลภายนอกเข้าไปไม่ถึงตัวสัตว์ และมีป้ายเตือนให้ระมัดระวังโดยสังเกตได้อย่างชัดเจน (๘) ไม่เลี้ยงสัตว์ภายในสถานที่ที่เจ้าพ นักงานท้องถิ่นกำหนด (๙) ปฏิบัติการอื่นใดตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข คำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งข้อบังคับ ระเบียบ และคำสั่งขององค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ให้เจ้าของสัตว์มีหน้าที่ต้องกำจัดสิ่งปฏิกูลอันเกิดจากสัตว์ของตนในที่หรือทางสาธารณะ หน้า ๗๖ ข้อ ๑๒ เมื่อมีกรณีสงสัยหรือพบว่าสัตว์ที่ตนเลี้ยงไว้มีอาการโรคสัตว์ เช่น อาการดุร้าย วิ่งเพ่นพ่าน กัดสิ่งที่ขวางหน้า หรือเซื่องซึม ซุกตัวในที่มืด ปากอำลิ้นห้อยแดงคล้ำ น้ำลายไหล เดินโซเซ ตัวแข็ง ขาอ่อนเปลี้ย หรือมีสัตว์ตายอย่างผิดปกติ เจ้าข องสัตว์มีหน้าที่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือเจ้าพนักงานหน้าที่ภายใน ๒๔ ชั่วโมง เมื่อสัตว์ซึ่งปรากฏอาการตามวรรคหนึ่งกัดหรือทำร้ายบุคคลใด ให้เจ้าของสัตว์ต้องแจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่หรือสัตวแพทย์ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอเพื่อตรวจหาโรคสัตว์ ข้อ ๑๓ บุคคลใดให้อาหารสัตว์เป็นประจำหรือครั้งคราวมีหน้าที่สังเกตอาการสัตว์ หากกรณี สงสัยว่าสัตว์ดังกล่าว มีอาการตามข้อ ๑๑ วรรคหนึ่ง บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน ๒๔ ชั่วโมง ข้อ ๑๔ เมื่อสัตว์ตายลง เจ้าของสัตว์จะต้องกำจัดซากสัตว์และมูลสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันมิให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ แมลงหรือสัตว์นำโรค ทั้งนี้ โดยวิธีที่ไม่ก่อเหตุรำคาญจากกลิ่น ควัน และไม่เป็นเหตุให้เกิดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ ข้อ ๑๕ เมื่อสัตว์ที่เลี้ยงไว้มีอาการโรคสัตว์ หรือเป็นโรคสัตว์หรือถูกสัตว์ซึ่งเป็นโรคกัดหรือทำร้าย เจ้าของสัตว์มีหน้าที่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่หรือสัตวแพทย์ของสำนักงาน ปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอเพื่อตรวจหาโรคสัตว์ ข้อ ๑๖ เจ้าของสัตว์มีหน้าที่ต้องอำ นวยความสะดวกหรือไม่กระทำการใดอันเป็นการขัดขวาง การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ และห้ามมิให้บุคคลใด ขัดขวางการจับสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของในที่สาธารณะ ทั้งนี้ให้เจ้าของสัตว์หรือบุคคลอื่นใด มีหน้าที่ให้ข้อมูลสัตว์ ที่สงสัยว่าจะเป็นโรค ข้อ ๑๗ เมื่อมีประกาศเขตระบาดโรคสัตว์หรือประกาศเขตโรคสัตว์ชั่วคราว ห้ามมิให้ผู้ใด เคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ภายในและ เข้า – ออกในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ เว้นแต่ ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ของเจ้าพนักงานสำนักงานปศุสัต ว์จังหวัด/สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อ ๑๘ ผู้ใดนำสัตว์ออกนอกสถานที่เลี้ยง ต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ (๑) ควบคุมสัตว์ด้วยอุปกรณ์ที่แข็งแรงพอที่จะหยุดยั้งมิให้สัตว์ทำร้ายผู้อื่น หรือทำความเสียหายแก่สิ่งของสาธารณะหรือ ของผู้อื่นได้อย่างทันท่วงที (๒) กรณีที่เป็น สัตว์ควบคุมพิเศษต้องสวมใส่อุปกรณ์ ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แก่ผู้อื่น เช่น ครอบปาก และสายลากจูงที่แข็งแรง หน้า ๗๗ ข้อ ๑๙ ในกรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นพบสัตว์ในที่หรือทางสาธารณะอันเป็นการฝ่าฝืนข้อ ๗ โดยไม่ปรากฏเจ้าของ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจกักสัตว์ดังกล่าวไว้เป็นเวลาอย่างน้อยสามสิบวัน เมื่อพ้นกำหนดแล้วยังไม่มีผู้ใดมาแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของเพื่อรับสัตว์คืน ให้สัตว์นั้นตกเป็นของ องค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ แต่ถ้าการกักสัตว์ไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่สัตว์นั้นหรือสัตว์อื่น หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินสมควร เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะจัดการขายหรือขายทอดตลาดสัตว์นั้นตามสมควร แก่กรณีก่อนถึงกำหนดเวลาดังกล่าวก็ได้ เงินที่ได้จากการขายหรือขายทอดตลาดเมื่อได้หักค่าใช้จ่าย ในการขายทอดตลาดและค่าเลี้ยงดูสัตว์แล้วให้เก็บรักษาไว้แทนสัตว์ ในกรณีที่มิได้มีการขายหรือขายทอดตลาดสัตว์ตามวรรคหนึ่งและเจ้าของสัตว์มาขอรับสัตว์คืน ภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง เจ้าของสัตว์ต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงดูสัตว์ให้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ตามจำนวนที่ได้จ่ายจริงด้วย หมวด ๔ อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๒๐ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในเขตอำนาจ ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ ในเรื่อง ใดหรือทุกเรื่องก็ได้ หมวด ๕ บทกำหนดโทษ ข้อ ๒๑ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในบทกำหนดโทษ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พนม กะสิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๓๖ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๗๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:117438", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๒", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/136/T_0072.PDF", "year": null }
nonweb_103711
ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรม ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรม ตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง รับจดแจ้งการจัดตั้งพรรครักษ์ธรรม ลงวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรครวมทั้งสิ้น ๘ คน นั้น บัดนี้หัวหน้าพรรครักษ์ธรรมได้มีหนังสือแจ้งการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรค ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามมาตรา ๓๘ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ กรณีคณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรมพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ เนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี ตามข้อบังคับพรรครักษ์ธรรม พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๒๖ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรม ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ตามมาตรา ๓๘ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ ดังนั้น จึงทำให้คณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรมพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ จำนวน ๘ คน ประกอบด้วย ๑. นายสมศักดิ์ แสงอำนาจเดช หัวหน้าพรรค ๒. นางนงลักษณ์ โรจนพานิช รองหัวหน้าพรรค ๓. นางสาวสุชาดา โชคพิชิตชัย เลขาธิการพรรค ๔. นางสาวศรัญญา เกื้อหนู รองเลขาธิการพรรค ๕. นางสาวสิรินาถ บำรุงสวัสดิ์ เหรัญญิกพรรค ๖. นางสาววิภาวดี เตียวตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค ๗. นางสาวนิดา ธีรสฤษกุล โฆษกพรรค ๘. นางสาวชนิภา คำแสน กรรมการบริหารพรรค โดยคณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรมดังกล่าวข้างต้น ต้องอยู่ ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ต่อไปจนกว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะตอบรับการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ตามข้อบังคับพรรครักษ์ธรรม พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๒๗ วรรคหำ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา นายทะเบียนพรรคการเมือง เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๓ ง ประกาศ ณ: ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๘๙
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:103712", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรครักษ์ธรรม", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/003/89.PDF", "year": null }
nonweb_90672
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดปทุมธานี เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม [สมาคมคนพิการเอื้ออาทรคลอง ๙] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำจังหวัดปทุมธานี เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม ด้วย ผู้เป็นสมาชิกของสมาคม คนพิการเอื้ออาทรคลอง ๙ ดังระบุนามต่อไปนี้ ๑. นายสุภาษิต เพ็งสลุง ๒. นายรัตนชัย สังกาศ ๓. นางพิมพ์นิภา เจริญศิลป์ ได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอจด ทะเบียนจัดตั้ง สมาคม เพื่อให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่อนายทะเบียน มีใจความสำคัญตามข้อบังคับ ดังนี้ ๑. ชื่อสมาคม “สมาคมคนพิการเอื้ออาทรคลอง ๙” ๒. วัตถุประสงค์ของสมาคม ๒.๑ เป็นที่พบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ กิจการของสมาคม ๒.๒ เป็นศูนย์กลางของสมาชิกที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างอาชีพ เพิ่มงานและขยายโอกาส ในการประกอบอาชีพของผู้พิการไทย ๒.๓ ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ การประกอบอาชีพให้แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง ๒.๔ ส่งเสริมการประกอบอาชีพการค้าสลากให้กับสมาชิกผู้พิการทุกคนข องสมาคม ซึ่งผู้พิการสามารถทำได้โดยการเป็นตัวแทนจำหน่าย สลากทุกประเภทที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือรัฐบาลพิมพ์ออกจำหน่าย ๒.๕ เพื่อดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การ กุศล เพื่อการกุศลและองค์การ สาธารณประโยชน์ เพื่อสาธารณประโยชน์ ๒.๖ ไม่มีการจัดตั้งโต๊ะบิลเลียด ไม่ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการพนันหรือนำผลกำไร มาแบ่งป้นกัน ตลอดจนไม่ทำให้เสื่อมเสียศีลธรรม จารีตประเพณีอันดีงามของชาติ ๓. ที่ตั้งสำนักงานของสมาคมตั้งอยู่เลขที่ ๒๐๐/๑๘๗ หมู่ที่ ๑ ตำบลบึงสนั่น อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ๔. คณะกรรมการของสมา คม ประกอบด้วย ๔.๑ นายสุภาษิต เพ็งสลุง นายกสมาคม ๔.๒ นายรัตนชัย สังกาศ อุปนายกสมาคม ๔.๓ นางพิมพ์นิภา เจริญศิลป์ เลขานุการ ๔.๔ นางสาวเพชร มดจัตุรัส เหรัญญิก ๑ ๔.๕ นายป้ญญา ไกวัลสว่างภพ เหรัญญิก ๒ ๔.๖ นายพิษณุ ศรีช่วงโชตินายทะเบียน ๔.๗ นายพงษ์เทพ โพธิ์ไพจิตร ประชาสัมพันธ์ ๔.๘ นายสมบูรณ์ ชัยเพิ่มกุล ปฏิคม นายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัด ปทุมธานี ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมนี้แล้ว เลขทะเบียนที่ ๕/๒๕๕๗ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงขอประกาศให้ทราบ โดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ พิบูลย์ หัตถกิจโกศล ปลัดจังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัด ปทุมธานี นายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัด ปทุมธานี เล่ม: ๑๓๑ หมวด: ๘๒ ง ประกาศ ณ: ๐๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า: ๑๐๙
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:90673", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดปทุมธานี เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม [สมาคมคนพิการเอื้ออาทรคลอง ๙]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/D/082/109.PDF", "year": null }
nonweb_138724
ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยที่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก ได้ประกาศใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว พบว่าการกำหนดข้อความและรูปแบบลักษณะของฉลากสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอันเป็นสาระสำคัญประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้า ของผู้บริโภคนั้น ไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน จึงสมควรปรับปรุง ลักษณะของฉลากสินค้า ที่ควบคุมฉลากให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒ แห่งประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะ ของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๒ ฉลากของสินค้าที่ควบคุมฉลาก จะต้องระบุดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้าที่แสดงให้เข้าใจได้ว่าสินค้านั้นคืออะไร (๒) ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้ผลิตเพื่อขาย ในประเทศไทย (๓) ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้สั่งหรือนำเข้า มาในราชอาณาจักรเพื่อขาย (๔) กรณีที่เป็นสินค้านำเข้าให้ระบุชื่อประเทศที่ผลิตด้วย (๕) สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือของผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย (๖) ต้องแสดงขนาดหรือมิติ หรือปริมาณ หรือปริมาตร หรือน้ำหนักของสินค้านั้น แล้วแต่กรณี สำหรับหน่วยที่ใช้จะใช้ชื่อเต็มหรือชื่อย่อ หรือสัญลักษณ์แทนก็ได้ (๗) ต้องแสดงวิธีใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าใจวัตถุประสงค์ในการใช้งานได้อย่างถูกต้อง (๘) ข้อแนะนำในการใช้หรือการเก็บรักษา เพื่อให้ผู้บริโภคใช้สินค้านั้นได้อย่างถูกต้อง (๙) คำเตือน ข้อห้ามใช้หรือข้อควรระวัง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้สินค้าได้อย่าง ปลอดภัย ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวต้องใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรอื่น และต้องใช้สีตัดกับสีพื้น โดยต้องสามารถเห็นและอ่านได้อย่างชัดเจนแตกต่างจากข้อความอื่น (๑๐) วัน เดือน ปีที่ผลิต เว้นแต่ไม่สามารถระบุวันที่ผลิตที่ชัดเจนได้ ให้ระบุเฉพาะ สัปดาห์และปีที่ผลิต หรือเดือนและปีที่ผลิตได้ เพื่อให้เข้าใจในประโยชน์ของคุณภาพหรือคุณสมบัติของ สินค้านั้น หน้า ๒๖ (๑๑) วัน เดือน ปีที่หมดอายุ หรือวัน เดือน ปีที่ควรใช้ก่อน วัน เดือน ปีที่ระบุนั้น ให้ระบุเฉพาะในกรณีที่เป็นสินค้าที่มีอายุการใช้งาน เพื่อให้เข้าใจในประโยชน์ของคุณภาพหรือคุณสมบัติ ของสินค้านั้น (๑๒) ราคา โดยระบุหน่วยเป็นบาท และจะระบุหน่วยเป็นเงินสกุลอื่นไว้ด้วยก็ได้ การแสดงข้อความใน (๑๐) และ (๑๑) ให้แสดงโดยเรียงลำดับ วัน เดือน ปี ทั้งนี้อาจแสดง “เดือน” เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรก็ได้สำหรับ “ปี” ให้ระบุเป็น “พ.ศ.” หรือ “ค.ศ.” ก็ได้กรณีที่มีการแสดงวัน เดือน ปี ไม่เรียงตามลำดับ ต้องมีข้อความหรือตัวอักษรที่สื่อให้ ผู้บริโภคเข้าใจอย่างชัดเจนถึงวิธีการแสดงข้อความดังกล่าว กำกับไว้ด้วย การแสดงข้อความในฉลากสินค้าต้องให้เห็นและอ่านได้ชัดเจน ขนาดของตัวอักษรที่ใช้จะต้อง สัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่ฉลาก และขนาดความสูงของตัวอักษรจะต้องไม่น้อยกว่า ๒ มิลลิเมตร เว้นแต่กรณีที่ฉลากที่มีเนื้อที่น้อยกว่า ๓๕ ตารางเซนติเมตร ขนาดความสูงของตัวอักษรจะต้อง ไม่น้อยกว่า ๑.๕ มิลลิเมตร” ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ ตรี และข้อ ๓ จัตวา แห่งประกาศคณะกรรมการ ว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศ คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๓ ตรี สินค้าประเภทน้ำมันเครื่อง ให้ทำฉลากตามข้อ ๑ และข้อ ๒ และให้ระบุเครื่องหมายและเลขทะเบียนคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ กรมธุรกิจพลังงานในประเภทน้ำมันเครื่องด้วย ข้อ ๓ จัตวา สินค้าประเภทก๊าซหุงต้ม ให้ทำฉลากตามข้อ ๑ และข้อ ๒ และให้ระบุเครื่องหมายประจำตัวของผู้บรรจุก๊าซตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมธุรกิจพลังงานในประเภท ก๊าซหุงต้มด้วย” ข้อ ๓ บรรดาประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากที่ได้ออกตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับให้มีผลใช้บังคับได้ต่อไป เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖ ธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ ประธานกรรมการว่าด้วยฉลาก เล่ม: 140 หมวด: 38 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 17/02/2023 หน้า: 26
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:138725", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D038S0000000002601.pdf", "year": null }
nonweb_90959
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน สำหรับตั๋วเงินคลังและพันธบัตรของกระทรวงการคลัง ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน สำหรับตั๋วเงินคลังและพันธบัตรของกระทรวงการคลัง เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยในฐานะนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินสำหรับตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรที่ออกโดยกระทรวงการคลังได้มีการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการจัดการตราสารหนี้ภาครัฐ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า อัตราค่าธรรมเนียมการทำหน้าที่นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินสำหรับพันธบัตรทุกรุ่นของกระทรวงการคลังที่ยังมียอดคงค้างตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ตลอดจนตั๋วเงินคลังและพันธบัตรที่จะดำเนินการออกในอนาคตภายใต้ พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหาร หนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎหมายให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฉบับอื่นได้ปรับลดลง จากประกาศเดิมเป็นดังนี้ ๑. ตั๋วเงินคลัง คิดอัตราค่าธรรมเนียมร้อยละ ๐.๐๐๕ ของมูลค่าการจำหน่าย ๒. พันธบัตรรัฐบาล คิดอัตราค่าธรรมเนียมร้อยละ ๐.๐๕ ของมูลค่าการจำหน่าย การจ่ายดอกเบี้ยและต้นเงิน ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เล่ม: ๑๓๒ หมวด: ๓๕๑ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ หน้า: ๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:90960", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน สำหรับตั๋วเงินคลังและพันธบัตรของกระทรวงการคลัง", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/351/8.PDF", "year": null }
nonweb_84316
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิจัดสร้างภาพยนตร์ "พระไตรปิฎก" เพื่อการเผยแผ่" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิจัดสร้างภาพยนตร์ “พระไตรปิฎก” เพื่อการเผยแผ่” ด้วย นางณัฏฐพัชร เกียรติมงคลเลิศ ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิจัดสร้าง ภาพยนตร์ “พระไตรปิฎก” เพื่อการเผยแผ่ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร มีใจความสำคัญ ตามข้อบังคับของมูลนิธิ ดังนี้ ๑. มูลนิธิชื่อ “มูลนิธิจัดสร้างภาพยนตร์ “พระไตรปิฎก” เพื่อการเผยแผ่” ๒. วัตถุประสงค์ของมูลนิธินี้คือ ๒.๑ เพื่อเผยแผ่พระธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ปรากฏในพระไตรปิฎก มีต่อสังคมโลก ๒.๒ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียน การสอน ถ่ายทอดความรู้พระไตรปิฎกให้แก่สถานศึกษา และวัดทั่วประเทศ และส่งเสริมพระพุทธศาสนา ๒.๓ เพื่อส่งเสริมให้ศาสนาพุทธมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และยืดยาวสถาพรตลอดไป ๒.๔ เพื่อดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ ๒.๕ ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ประการใด ๓. สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๑๑ /๑ อาคารนวสร ถนนพระรามที่ ๓ แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ๔. ทรัพย์สินของมูลนิธิ มีทุนเริ่มแรก คือ เงินสด จำนวน ๕๐๐ ,๐๐๐ บาท (หำแสนบาทถ้วน) ๕. การจัดการของมูลนิธิในวาระเริ่มแรก มีคณะกรรมการดำเนินงานดังรายนามต่อไปนี้ ๕.๑ นางณัฏฐพัชร เกียรติมงคลเลิศ ประธานกรรมการ ๕.๒ นางวิไล แก้วสุนทร รองประธานกรรมการและเหรัญญิก ๕.๓ นางศิริวรรณ สิงหจันทร์ กรรมการและเลขานุการ นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิรายนี้แล้ว เลขทะเบียนลำดับที่กท ๒๐๐๐ ตั้งแต่วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ สุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทน หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๑๙๓ ง ประกาศ ณ: ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๑๗๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:84317", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิจัดสร้างภาพยนตร์ "พระไตรปิฎก" เพื่อการเผยแผ่"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/D/193/171.PDF", "year": null }
nonweb_88213
กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทู้ถามที่ ๑๐๘๑ ร. เรื่อง ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ [ของ นางชมภู จันทาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร] กระทู้ถามที่ ๑๐๘๑ ร. สภาผู้แทนราษฎร ๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ เรื่อง ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ข้าพเจ้าขอตั้งกระทู้ถาม ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดังต่อไปนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ แนวนโยบายด้านกฎหมายและการยุติธรรม มาตรา ๘๑ กำหนดให้รัฐดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคล จัดระบบงานของกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพและอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และเท่าเทียมกัน งานด้านนิติวิทยาศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการยุติธรรม เพราะต้องมี การนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ซึ่งที่ผ่านมางานบริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถให้บริการ ได้อย่างทั่วถึง ประชาชนยังได้รับการบริการไม่ทั่วทุกคดี และไม่สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพนิติวิทยาศาสตร์มา ทำหน้าที่ดังกล่าว จึงขอเรียนถามว่า ๑. รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนงบประมาณ ในการบรรจุข้าราชการในหน่วยงานสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์จะได้หรือไม่ขอทราบรายละเอียด ๒. รัฐบาลจะกำหนดสิทธิประโยชน์ให้กับข้าราชการในส่วนนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการทำงานอย่างไร ขอทราบรายละเอียด ขอให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง ชมภู จันทำทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัดหนองคาย คำตอบกระทู้ถามที่ ๑๐๘๑ ร. ของ นางชมภู จันทำทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดหนองคาย เรื่อง ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ข้าพเจ้า นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ข้าพเจ้าขอตอบกระทู้ถาม ของท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ ดังนี้ คำถามข้อที่ ๑. รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนงบประมาณในการบรรจุข้าราชการในหน่วยงานสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์จะได้หรือไม่ขอทราบรายละเอียด คำตอบข้อที่ ๑. รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรมได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการบรรจุข้าราชการ ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จากสำนักงบประมาณ ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาภายใต้กรอบ อัตรากำลังของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยกรอบอัตรากำลังของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปตามที่ก.พ. และ อ.ก.พ. กระทรวงยุติธรรมกำหนดไว้ซึ่งปัจจุบันนี้มีอัตรากำลังเป็นข้าราชการ ๒๑๘ อัตรา ทั้งนี้ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับจัดสรรอัตรากำลังจากมาตรการ กำหนดเป้าหมายนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ที่ได้มาจากการยุบเลิกอัตรากำลังข้าราชการ ในภาพรวมทั้งประเทศ โดย คปร. และกระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาจัดสรรอัตรากำลังในตำแหน่ง นักนิติวิทยาศาสตร์ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จำนวน ๔ อัตรา การได้รับจัดสรรอัตรากำลังดังกล่าว มาจากการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอรับจัดสรรอัตรากำลังตามมาตรการ คปร. ประจำปี เนื่องจาก ขณะนี้อยู่ในช่วงของการปรับลดขนำดกำลังคนภาครัฐตามนโนบายมาตรการ คปร. คำถามข้อที่ ๒. รัฐบาลจะกำหนดสิทธิประโยชน์ให้แก่ข้าราชการในส่วนนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานอย่างไร ขอทราบรายละเอียด คำตอบข้อที่ ๒. การกำหนดสิทธิประโยชน์ให้แก่ข้าราชการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับ เช่นเดียวกับข้าราชการในหน่วยงานอื่น ๆ เช่น พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบค่าทดแทนและการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือช่วยเหลือราชการเนื่องในการป้องกันอธิปไตยและ รักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ พ.ศ. ๒๕๒๑ (ระเบียบ บ.ท.ช.) และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นต้น เล่ม: ๑๓๐ หมวด: ๑๑๗ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ หน้า: ๖๙
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:88214", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทู้ถามที่ ๑๐๘๑ ร. เรื่อง ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ [ของ นางชมภู จันทาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/E/117/69.PDF", "year": null }
nonweb_145996
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เรื่อง การขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิ [มูลนิธิเพื่อการพัฒนายนโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ] ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดนนทบุรี เรื่อง การขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของ “มูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ” ด้วย นางวลัยพร พัชรนฤมล ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิเพื่อการพัฒนา นโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ณ ชั้น ๓ อาคารคลังพัสดุ (ถนนสาธารณสุข ๖ ภายในกระทรวงสาธารณสุข) เลขที่ ๘๘/๒๐ หมู่ที่ ๔ ซอยติวานนท์ ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุ รี จังหวัดนนทบุรี ๑๑๐๐๐ คือ นายระพีพงศ์ สุพรรณไชยมาตย์ ตำแหน่งเหรัญญิก นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี ได้อนุญาตให้จดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิรายนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๕ บรรพ ๑ บทเบ็ดเสร็จทั่วไป ส่วนที่ ๓ มูลนิธิ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ทศพล เผื่อนอุดม ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เล่ม: 140 หมวด: 74 ง ประกาศ ณ: 28/09/2023 หน้า: 81
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:145997", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เรื่อง การขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิ [มูลนิธิเพื่อการพัฒนายนโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ]", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D074N0000000008100.pdf", "year": null }
nonweb_82860
ระเบียบกรมสรรพสามิตว่าด้วยการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๓ ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่ออนุวัติตามความในพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ และเพื่อให้การปฏิบัติ ราชการของกรมสรรพสามิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อธิบดีกรมสรรพสามิต จึงวางระเบียบไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๓” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอื่นใด ในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้หรือซึ่งขัด หรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ “การตรวจสอบภาษี” หมายความว่า การตรวจกำกับดูแล การตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ การตรวจสอบตามหนังสือเรียก และการตรวจค้น การยึดหรืออายัด ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ “เจ้าพนักงานสรรพสามิต” หมายความว่า เจ้าพนักงานสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ “ผู้เสียภาษี” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามบทบัญญัติในมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ “สำนักงานสรรพสามิต” หมายความว่า สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม สำนักงาน สรรพสามิตภาค และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ “สถานประกอบการ” หมายถึง โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ และคลังสินค้าทัณฑ์บน ข้อ ๕ ให้ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามรักษาการตามระเบียบนี้ หมวด ๑ การตรวจกำกับดูแล ข้อ ๖ การตรวจกำกับดูแล หมายความว่า การเข้าไปในสถานประกอบการ เพื่อตรวจ กระบวนการผลิต การให้บริการ ระบบบัญชี ตรวจสอบการชำระภาษี และแนะนำการปฏิบัติให้เป็นไป ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยจะต้องตรวจให้แล้วเสร็จภายในวันที่ออกตรวจ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ก็สามารถตรวจในวันถัดไปได้ ข้อ ๗ อำนาจในการอนุมัติให้ออกตรวจกำกับดูแล (๑) สรรพสามิตพื้นที่ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ (๒) ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ (๓) ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ในเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ข้อ ๘ ก่อนการออกตรวจ ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) รวบรวมข้อมูลทั้งข้อมูลภายในและข้อมูลภายนอก หรือหลักฐานอื่นที่จำเป็น (๒) วิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำบันทึกผลการวิเคราะห์ พร้อมเสนอความเห็นและประเด็น ที่จะตรวจ เสนอต่อผู้มีอำนาจอนุมัติตามข้อ ๗ (๓) จัดทำหนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ตามแบบ ตส. 04-15 ท้ายระเบียบนี้ เสนอผู้มีอำนาจอนุมัติตามข้อ ๗ เพื่อลงนาม (๔) จัดทำสมุดสั่งการออกตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตามแบบ ตส. 03-01 ท้ายระเบียบนี้ เสนอผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเพื่อลงนาม ทั้งนี้ ให้ออกตรวจภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่อนุมัติให้ออกตรวจ ข้อ ๙ การออกตรวจ ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ให้มีข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับชำนาญการ เป็นหัวหน้าคณะ และแต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงานสรรพสามิต เว้นแต่ผู้มีอำนาจอนุมัติ สั่งการเป็นอย่างอื่น (๒) ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ และหนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษี สรรพสามิต ตามแบบ ตส. 04-15 ให้ผู้รับการตรวจทราบก่อนทำการตรวจ (๓) ถ้ามีสมุดบัญชีหรือเอกสารหรือตราสารหรือสินค้า ที่จะต้องนำมาทำการตรวจสอบ ณ สำนักงานสรรพสามิต ก็ให้ออกใบรับมอบและส่งมอบบัญชี เอกสารและสินค้า ตามแบบ ตส. 04-07 ท้ายระเบียบนี้ (๔) ให้บันทึกคำให้การ ตามแบบ ตส. 04-06 และ ตส. 04-06/1 ท้ายระเบียบนี้ (๕) เมื่อทำการตรวจเสร็จแล้ว ให้บันทึกการตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ตามแบบ ตส. 04-18 ท้ายระเบียบนี้จำนวน ๒ ฉบับ มีข้อความตรงกันโดยฉบับหนึ่งมอบให้ผู้รับการตรวจอีกฉบับหนึ่ง เก็บในสำนวนการตรวจกำกับดูแล ข้อ ๑๐ วิธีการตรวจ อย่างน้อยต้องตรวจรายการที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ (๑) สภาพทั่วไป (ก) ตรวจสอบลักษณะการประกอบกิจการ (ข) ตรวจสอบกระบวนการผลิต/ขั้นตอนการให้บริการ (ค) ตรวจสอบการควบคุมภายใน (ง) ตรวจสอบระบบบัญชี (จ) ตรวจสอบระบบการเสียภาษี (ฉ) ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของกิจการ (๒) สินค้า (ก) ตรวจสอบการรับจ่ายวัตถุดิบหลัก (ข) ตรวจสอบการรับจ่ายสินค้าสำเร็จรูป (ค) ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุดิบหลักและสินค้าสำเร็จรูป (ง) ตรวจนับวัตถุดิบหลักและสินค้าสำเร็จรูปคงเหลือ (จ) ตรวจสอบการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด (๓) บริการ (ก) ตรวจสอบรายรับที่ต้องเสียภาษี (ข) ตรวจสอบปริมาณการใช้บริการ (ค) ตรวจสอบความสัมพันธ์ของรายรับกับสภาพข้อเท็จจริง (ง) ตรวจสอบความสัมพันธ์ของรายรับกับค่าใช้จ่าย (จ) ตรวจสอบการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด ข้อ ๑๑ ให้ผู้ตรวจเสนอรายงานผลการตรวจให้ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป เพื่อเสนอ ผู้มีอำนาจอนุมัติทราบ อย่างชำภายใน ๕ วันทำการ นับแต่วันที่การตรวจกำกับดูแลแล้วเสร็จ กรณีที่ได้นำเอกสารหลักฐานหรือสิ่งอื่นใดมาตรวจ ณ สำนักงานสรรพสามิต ให้ดำเนินการ ตรวจสอบและรายงานผลให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในระยะเวลาที่ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปกำหนด ข้อ ๑๒ การเก็บข้อมูลที่ได้จากการตรวจกำกับดูแลให้เก็บเป็นแฟ้มประวัติรายตัวผู้เสียภาษี รวมทั้งจัดเก็บเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบของหน่วยงานและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในครั้งต่อไป ข้อ ๑๓ การตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการแต่ละราย ให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ ออกตรวจอย่างน้อย ๑ ครั้งต่อปี แต่ไม่เกิน ๒ ครั้งต่อปี เว้นแต่มีเหตุจำเป็น หรือประเด็นอื่น ให้สรรพสามิตพื้นที่สั่งออกตรวจอีกได้ทั้งนี้ต้องไม่เกิน ๓ ครั้งต่อปี กรณีมีเหตุจำเป็น หรือกรณีพิเศษอย่างอื่น ให้สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือสำนักงานสรรพสามิตภาค แล้วแต่กรณี มีอำนาจเข้าตรวจซ้ำได้ทั้งนี้ เมื่อตรวจเสร็จสิ้นแล้วให้แจ้ง ผลการตรวจโดยระบุข้อเท็จจริง เหตุจำเป็น ผลการตรวจ และข้อเสนอแนะ ให้สำนักงานสรรพสามิต พื้นที่นั้นทราบด้วย เว้นแต่กรมสรรพสามิตจะสั่งการเป็นอย่างอื่น ข้อ ๑๔ ในการตรวจให้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้เสียภาษีตามกฎหมายด้วย ข้อ ๑๕ หากพบว่าผู้เสียภาษีชำระภาษีไม่ถูกต้อง ให้แจ้งผู้เสียภาษีรับทราบผลการ ตรวจสอบพร้อมลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถประเมินตนเอง และยื่นชำระภาษีให้ถูกต้อง หรือแจ้งข้อโต้แย้งภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ผู้เสียภาษีได้รับแจ้ง ข้อ ๑๖ เพื่อประโยชน์ในการตรวจกำกับดูแลตามหมวดนี้ ให้ผู้มีอำนาจอนุมัติตามข้อ ๗ มีอำนาจกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพิ่มเติมได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ หมวด ๒ การตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) ข้อ ๑๗ การตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) หมายความว่า การตรวจสภาพแวดล้อมข้อเท็จจริง การตรวจบัญชีเอกสารหลักฐาน ณ สถานประกอบการ เพื่อกำกับ ดูแลการเสียภาษีสรรพสามิต จากปัจจุบันย้อนหลังไม่น้อยกว่า ๓ เดือน ข้อ ๑๘ หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกรายที่จะออกตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) (๑) ผู้เสียภาษีที่มีความเสี่ยง (๒) ผู้เสียภาษีที่มีแนวโน้มการชำระภาษีผิดปกติ (๓) มีการวิเคราะห์ข้อมูลแล้วพบประเด็นสงสัยว่าจะมีการกระทำความผิด (๔) ผู้เสียภาษีที่ไม่มีการตรวจกำกับดูแลมากกว่า ๑ ปีขึ้นไป (๕) กรณีอื่น ๆ ตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด ข้อ ๑๙ ผู้มีอำนาจในการอนุมัติออกตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) ให้เป็นไปตามความในข้อ ๗ ข้อ ๒๐ ก่อนการออกตรวจ ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เสียภาษีที่ถูกคัดเลือกในประเด็น ดังต่อไปนี้ (ก) ข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียนสรรพสามิต (ข) ข้อมูลเกี่ยวกับการเสียภาษีสรรพสามิต (ค) สรุปประเด็นที่เคยถูกประเมินภาษีจากสำนวนการตรวจสอบภาษี (ง) รวบรวมรายละเอียดรายชื่อผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องหรือร่วมกับผู้เสียภาษี (จ) ข้อมูลภายนอก (ฉ) อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ช) สรุปประเด็นที่จะออกตรวจ (๒) จัดทำหนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-15 ท้ายระเบียบนี้ เสนอผู้มีอำนาจอนุมัติตามข้อ ๗ เพื่อลงนาม (๓) จัดทำสมุดสั่งการออกตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 03-01 ท้ายระเบียบนี้ เสนอผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเพื่อลงนาม ทั้งนี้ ให้ออกตรวจภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่อนุมัติให้ออกตรวจ ข้อ ๒๑ การออกตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) ให้นำ ความใน (๑) (๒) และ (๓) ของข้อ ๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ ๒๒ วิธีการตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) (๑) ตรวจสภาพแวดล้อมข้อเท็จจริง การควบคุมภายใน (๒) ตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางบัญชี หรือเอกสารหลักฐานอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการเสีย ภาษีสรรพสามิต นับแต่วันที่ทำการเข้าตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) ย้อนหลังไม่น้อยกว่า ๓ เดือน (๓) ตรวจนับวัตถุดิบหลัก สินค้าสำเร็จรูปคงเหลือ เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและแสตมป์ หรือสังเกตและประเมินการใช้บริการ (๔) ให้บันทึกคำให้การ ตามแบบ ตส. 04-06 และ ตส. 04-06/1 ท้ายระเบียบนี้ และหากพบว่าผู้เสียภาษีชำระภาษีไม่ถูกต้อง ให้แจ้งผู้เสียภาษีรับทราบผลการตรวจสอบพร้อมลงลายมือชื่อ รับรองความถูกต้อง เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถประเมินตนเองและยื่นชำระภาษีให้ถูกต้อง หรือแจ้ง ข้อโต้แย้งภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ผู้เสียภาษีได้รับแจ้ง (๕) ในการตรวจ ให้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้เสียภาษีตามกฎหมายด้วย (๖) เมื่อทำการตรวจเสร็จแล้ว ให้บันทึกการตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ตามแบบ ตส. 04-18 ท้ายระเบียบนี้จำนวน ๒ ฉบับ มีข้อความตรงกันโดยฉบับหนึ่งมอบให้ผู้รับการตรวจอีกฉบับหนึ่ง เก็บในสำนวนการตรวจสอบ ข้อ ๒๓ การปฏิบัติเมื่อกลับถึงสำนักงานสรรพสามิต ให้นำความในข้อ ๑๑ มาใช้บังคับ โดยอนุโลม ข้อ ๒๔ ในกรณีที่ได้ติดตามผลการปฏิบัติงานแล้วปรากฏว่า ผู้เสียภาษีไม่ปฏิบัติตามผล การตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานประกอบการ (Field Audit) ให้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบ ภาษี ณ สถานประกอบการ ตามแบบ ภษ. 02-15 ท้ายระเบียบนี้ ให้ผู้เสียภาษีมาพบเพื่อรับทราบ ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลการตรวจสอบภาษี หรือนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงเพิ่มเติม หากผู้เสียภาษีไม่ปฏิบัติตามให้แจ้งการประเมินภาษีเป็นหนังสือ โดยให้นำความในข้อ ๕๑ วรรคสอง มาบังคับใช้โดยอนุโลม การส่งหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบภาษี ณ สถานประกอบการ และหนังสือแจ้งการประเมิน ภาษีดังกล่าว ให้ปฏิบัติตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ หมวด ๓ การตรวจสอบตามหนังสือเรียก ข้อ ๒๕ การตรวจสอบตามหนังสือเรียก หมายความว่า การตรวจบัญชีเอกสารหลักฐาน ณ สำนักงานสรรพสามิต การตรวจสอบไต่สวน สืบสวน และให้รวมถึงการตรวจการปฏิบัติ ของผู้เสียภาษี ณ สถานประกอบการด้วย ส่วนที่ ๑ ขอบเขตอำนาจในการออกหนังสือเรียก ข้อ ๒๖ อำนาจในการออกหนังสือเรียก (๑) ให้ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม มีอำนาจออกหนังสือเรียก ผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ทั่วราชอาณาจักร (๒) ให้ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค มีอำนาจออกหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ ดังนี้ (ก) กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีมีสถานประกอบการอยู่ในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ (ข) กรณีอื่นนอกจาก (ก) ให้มีอำนาจออกหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ (๓) ให้สรรพสามิตพื้นที่มีอำนาจออกหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ดังนี้ (ก) กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีมีสถานประกอบการอยู่ในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ (ข) กรณีอื่นนอกจาก (ก) ให้มีอำนาจออกหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ ข้อ ๒๗ ในกรณีที่ผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกตามข้อ ๒๖ ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ เมื่อผู้รักษาราชการแทนได้ดำเนินการออกหนังสือเรียกแล้ว ต้องรายงานเป็นหนังสือให้ผู้มีอำนาจ ออกหนังสือเรียกทราบโดยเร็ว ส่วนที่ ๒ การขออนุมัติออกหนังสือเรียก ข้อ ๒๘ การดำเนินการก่อนขออนุมัติออกหนังสือเรียกผู้เสียภาษีมาตรวจสอบให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) รวบรวมหลักฐานและทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากข้อมูลภายใน ข้อมูลภายนอก หรือข้อมูลอื่นที่จำเป็น และให้จัดทำบันทึกผลการวิเคราะห์การชำระภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-02 ท้ายระเบียบนี้ (๒) การขออนุมัติออกหนังสือเรียก (ก) ให้ปฏิบัติตามระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยทะเบียนควบคุมการตรวจสอบภาษี สรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ (ข) ให้ใช้แบบขออนุมัติออกหนังสือเรียกตามแบบ ตส. 04-03 ท้ายระเบียบนี้ (๓) การขออนุมัติออกหนังสือเรียกผู้เสียภาษีมาตรวจสอบ สามารถกระทำได้สำหรับทุกเดือน ที่ปรากฏความผิด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเสียภาษีไว้ไม่ถูกต้อง แต่จะต้องไม่เรียกซ้ำกันกับเดือนที่เคย ออกหนังสือเรียกไปแล้ว เว้นแต่กรณีที่มีหลักฐานหรือข้อมูลซึ่งไม่ซ้ำกับที่เคยตรวจสอบไปก่อนแล้ว หรือกรณีมีเหตุอันสมควรอื่นก็ให้ขออนุมัติออกหนังสือเรียกตรวจสอบใหม่ได้เฉพาะราย ส่วนที่ ๓ การออกหนังสือเรียก การส่งหนังสือเรียก และการปฏิบัติตามหนังสือเรียก ข้อ ๒๙ เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ให้ดำเนินการออกหนังสือเรียกให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันได้รับแจ้งการอนุมัติ ทั้งนี้ เว้นแต่ผู้มีอำนาจอนุมัติจะสั่งการเป็นอย่างอื่น หนังสือเรียกให้เป็นไปตามแบบ ภษ. 04-04 ท้ายระเบียบนี้ เมื่อได้ออกหนังสือเรียกแล้ว ให้สำเนาหนังสือเรียกส่งให้สำนักตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ แล้วแต่กรณี ทราบอย่างชำ ไม่เกิน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้ออกหนังสือเรียก ข้อ ๓๐ การส่งหนังสือเรียก ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ต้องส่งหนังสือเรียกตามวิธีการที่กำหนดในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติภาษี สรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ และต้องให้เวลาบุคคลนั้นไม่น้อยกว่า ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือเรียกนั้น (๒) กรณีผู้เสียภาษีเป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่แจ้งเลิกและอยู่ระหว่างการชำระบัญชี ให้ส่งหนังสือเรียกไปยังผู้ชำระบัญชี ณ ภูมิลำเนา หรือสำนักงานของผู้ชำระบัญชีตามที่ได้แจ้งไว้กับ กระทรวงพาณิชย์ และให้ทำหนังสือถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จ การชำระบัญชีไว้ก่อน (๓) กรณีผู้เสียภาษีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่แจ้งเลิก และจดทะเบียนเสร็จ การชำระบัญชีแล้ว แต่ยังไม่เกิน ๒ ปี นับแต่วันจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ให้ส่งหนังสือเรียกไป ยังผู้ชำระบัญชี ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานของผู้ชำระบัญชีตามที่แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ และให้หน่วยตรวจสอบรีบดำเนินการประเมินภาษีโดยเร็ว เนื่องจากต้องฟ้องเรียกหนี้สินจากบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้เสร็จภายใน ๒ ปี นับแต่วันจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี (๔) เมื่อได้ส่งหนังสือเรียกแล้ว ให้นำหลักฐานที่แสดงว่าผู้เสียภาษีได้รับหนังสือเรียก แล้วมาติดสำนวนเรื่องไว้ด้วย ข้อ ๓๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบดำเนินการตรวจสอบแต่ละรายให้แล้วเสร็จ ไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันออกหนังสือเรียก หากไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ชี้แจงเหตุผล และข้อเท็จจริงต่อผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียก ตามแบบ ตส. 04-16 ท้ายระเบียบนี้ เพื่อขออนุมัติ ขยายเวลาได้ครั้งละไม่เกิน ๓ เดือน แต่รวมระยะเวลาการตรวจสอบแล้วต้องไม่เกิน ๒ ปี นับแต่วันที่ ออกหนังสือเรียก เว้นแต่ผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกจะสั่งการเป็นอย่างอื่น ข้อ ๓๒ หากผู้ถูกออกหนังสือเรียกหรือผู้เสียภาษีไม่สามารถจะมาให้ถ้อยคำ และหรือนำ บัญชีหลักฐานมาให้ตรวจสอบตามหนังสือเรียกด้วยตนเองได้จะมอบอำนาจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และมีความรู้เกี่ยวกับการดำเนินกิจการนั้นเป็นอย่างดีมาแทนก็ได้ โดยทำหนังสือ มอบอำนาจตามแบบ ภษ. 04-06 ท้ายระเบียบนี้หรือตามแบบอื่นที่มีผลในทางนิตินัยผูกพันผู้เสียภาษี ในทำนองเดียวกัน กรณีที่ผู้รับมอบอำนาจไม่ทราบข้อเท็จจริงเพียงพอ หรือพยายามประวิงเวลา หรือไม่อำนวย ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือกรณีไม่ให้ถ้อยคำในสาระสำคัญ ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่จะสั่งให้ผู้เสียภาษีมาให้ถ้อยคำชี้แจงด้วยตนเองได้ การมอบอำนาจดังกล่าว สามารถมอบอำนาจช่วงต่อไปได้เพียงใดก็ให้เป็นไปตามหนังสือ มอบอำนาจนั้น ข้อ ๓๓ ในกรณีที่มีการขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีสำหรับรายที่ออก หนังสือเรียก จะต้องติดตามดำเนินการขอขยายการระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อไป เมื่ออายุการขอระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีสิ้นสุดลง จนกว่าจะได้ดำเนินการประเมินภาษี ครบถ้วนแล้ว ข้อ ๓๔ ในกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบ หรือผู้ถูกออกหนังสือเรียก หรือผู้เสีย ภาษีร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบ ณ สำนักงานของผู้ถูกออกหนังสือเรียก หรือสถานประกอบการตามที่ระบุไว้ในหนังสือเรียก หรือสถานที่อื่นใดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่พิจารณาให้เป็นราย ๆ ไป ในกรณีสำนักงานผู้ถูกออกหนังสือเรียก หรือผู้เสียภาษี ร้องขออยู่นอกเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานสรรพสามิตภาคที่รับผิดชอบ หรือกรมสรรพสามิตแล้วแต่กรณี เพื่อสั่งการต่อไป ในการออกตรวจสอบครั้งแรก ให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับชำนาญการ เป็นหัวหน้าคณะ และให้มีหนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-15 ท้ายระเบียบนี้ไปแสดงด้วย การออกตรวจตามวรรคหนึ่ง จะต้องจัดทำสมุดสั่งการออกตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ไว้ตามแบบ ตส. 03-01 ท้ายระเบียบนี้ โดยให้ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปและผู้รับคำสั่งลงลายมือชื่อ ไว้เป็นหลักฐาน ข้อ ๓๕ ผู้เสียภาษีรายใดได้รับหนังสือเรียกแล้วไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก โดยไม่แจ้ง เหตุขัดข้องใด ๆ ให้ทราบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือเตือนให้ปฏิบัติตามหนังสือเรียกตามแบบ ตส. 04-05 ท้ายระเบียบนี้ ไปยังผู้เสียภาษีรายนั้นอีกครั้งหนึ่ง หากยังฝ่าฝืนก็ให้ดำเนินการประเมินภาษี ตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ตามมาตรา ๗๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ หมวด ๔ การดำเนินการตรวจสอบภาษี ส่วนที่ ๑ การตรวจสอบไต่สวน ข้อ ๓๖ เมื่อผู้ได้รับหนังสือเรียกได้มาพบตามกำหนดนัดหมาย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ดำเนินการ ดังนี้ (๑) ทำการไต่สวนเบื้องต้นเกี่ยวกับการดำเนินการของผู้เสียภาษี (๒) ทำบันทึกคำให้การตามแบบ ตส. 04-06 ท้ายระเบียบนี้ถ้าบันทึกถ้อยคำมีหลายแผ่น ให้ใช้แบบคำให้การต่อตามแบบ ตส. 04-06/1 ท้ายระเบียบนี้ โดยให้ผู้ให้ถ้อยคำและพนักงาน เจ้าหน้าที่ผู้ไต่สวนลงลายมือชื่อกำกับไว้ด้านล่างมุมขวาทุกแผ่น หากผู้ให้ถ้อยคำไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ ให้นำบทบัญญัติตามมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้บังคับโดยอนุโลม กรณีที่ผู้ให้ถ้อยคำไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในบันทึกคำให้การเกี่ยวกับภาษี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ บันทึกข้อโต้แย้งดังกล่าว พร้อมด้วยเหตุผลหรือข้อเท็จจริงที่ผู้ให้ถ้อยคำไม่ยินยอมลงลายมือชื่อไว้ ให้ปรากฏในบันทึกคำให้การนั้น พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับด้วย (๓) คำให้การของผู้เสียภาษีถือเป็นเอกสารสำคัญของทางราชการผู้ใดจะคัดลอกหรือสำเนา ภาพถ่ายมิได้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกก่อน (๔) เมื่อผู้ได้รับหนังสือเรียกหรือผู้เสียภาษีได้นำบัญชีเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ มาส่งมอบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจรับบัญชีเอกสารดังกล่าวโดยให้ออกใบรับมอบและส่งมอบบัญชี เอกสาร และสินค้า ตามแบบ ตส. 04-07 ท้ายระเบียบนี้ ๒ ฉบับ มีข้อความตรงกัน ฉบับหนึ่งให้ติดไว้กับ สำนวนการตรวจสอบ อีกหนึ่งฉบับให้มอบแก่ผู้ส่งมอบไป ข้อ ๓๗ การออกตรวจการปฏิบัติของผู้เสียภาษี ณ สถานประกอบการ ให้นำความในข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑ และข้อ ๑๔ ของหมวด ๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ ๓๘ การตรวจสอบสำนวนเรื่องใดยังไม่แล้วเสร็จ ถ้าผู้ตรวจสอบผู้นั้นได้รับคำสั่งแต่งตั้ง ให้ไปดำรงตำแหน่งใหม่หรือได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นซึ่งไม่สามารถดำเนินเรื่อง ให้แล้วเสร็จได้ ให้เสนอผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการว่าจะมอบหมายสำนวนการตรวจสอบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดต่อไป การส่งมอบสำนวนการตรวจสอบ ให้ส่งมอบบัญชีเอกสารที่ได้รับตามหนังสือเรียกโดยให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ส่งมอบรายงานผลการตรวจบัญชีเอกสารว่าได้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีเอกสาร ไปแล้วเพียงใด พบประเด็นความผิดหรือไม่อย่างไร โดยให้จัดทำบันทึกมอบหมายสำนวนการตรวจสอบ ภาษีสรรพสามิตต่อกันไว้เป็นหลักฐาน ตามแบบ ตส. 04-17 ท้ายระเบียบนี้บัญชีดังกล่าวให้จัดทำ เป็น ๓ ฉบับ มีข้อความตรงกัน โดยให้ผู้มอบและผู้รับมอบยึดถือไว้คนละฉบับ อีกหนึ่งฉบับให้นำติด สำนวนการตรวจสอบ ข้อ ๓๙ การตรวจสอบผู้เสียภาษีรายใดยังไม่แล้วเสร็จ หากผู้เสียภาษีรายนั้นได้ย้าย ภูมิลำเนาไปอยู่ในเขตท้องที่อื่น ให้หน่วยงานที่ออกหนังสือเรียกเดิมส่งสำนวนการตรวจสอบและบัญชี เอกสารต่าง ๆ ไปให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบภาษีในเขตพื้นที่ที่ผู้เสียภาษีย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ใหม่ เป็นผู้ทำการตรวจสอบและประเมินภาษีสรรพสามิตต่อไป ข้อ ๔๐ สำนวนการตรวจสอบให้จัดเรียงลำดับวัน เดือน ปี ที่ตรวจสอบ และให้กำหนด เลขลำดับหน้าของเอกสารไว้ทุกฉบับ ข้อ ๔๑ เมื่อดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบเชิญผู้เสียภาษีมารับทราบ ประเด็นความผิดที่ตรวจพบ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีได้ชี้แจงหรือโต้แย้งหรือยื่นพยานหลักฐาน เพิ่มเติม โดยต้องดำเนินการดังนี้ (๑) แจ้งรอบระยะเวลาที่ทำการตรวจสอบ วิธีการตรวจสอบ ประเด็นความผิดที่ตรวจพบ รายละเอียดข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย (๒) รับมอบเอกสารหลักฐานหรือพยานอื่นใดเพิ่มเติมไว้พิจารณาต่อไป ส่วนที่ ๒ การรายงานผลการตรวจสอบภาษี ข้อ ๔๒ เมื่อได้ดำเนินการตรวจสอบไต่สวนถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้สรุปเสนอตามแบบ สรุปผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-09 แบบรายงานการตรวจสอบภาษี สรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-09/1 และแบบรายละเอียดแสดงผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตาม แบบ ตส. 04-09/2 ท้ายระเบียบนี้ โดยให้สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พร้อมหลักฐานอ้างอิง ที่จะต้องใช้เป็นหลักฐานให้ผู้เสียภาษียอมรับสภาพหนี้ภาษี หากประเด็นใดที่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ก็ให้หยิบยกขึ้นมาเสนอผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือผู้อำนวยการ สำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่พิจารณาสั่งการต่อไป ในกรณีที่ทำการตรวจสอบไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว หากไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงหรือ หลักฐานพอที่จะเป็นพยานหลักฐานเพื่อจะทำการประเมินเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมได้ก็ให้สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักฐานต่าง ๆ เสนอต่อผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่ เพื่อขออนุมัติปิดสำนวน การตรวจสอบภาษีต่อไป ข้อ ๔๓ ในรายงานผลการตรวจสอบภาษีอย่างน้อยต้องระบุให้ทราบ ดังนี้ (๑) รายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียภาษี มูลเหตุที่ทำการตรวจสอบ รอบระยะเวลาที่ตรวจสอบ (๒) ประเด็นความผิดที่ตรวจสอบ รายละเอียดข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ตลอดถึงเหตุผล ที่ประเมินเรียกเก็บภาษีในแต่ละเดือนแต่ละปี ผู้เสียภาษีจะต้องรับผิดเสียภาษี เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม เป็นจำนวนเท่าใด (๓) ข้อโต้แย้งและเหตุผลของผู้เสียภาษีเกี่ยวกับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย (๔) สรุปความเห็นของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ (๕) ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรายงาน ข้อ ๔๔ เมื่อผู้ตรวจสอบได้เสนอสำนวนการตรวจสอบต่อผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกแล้ว ให้ผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกพิจารณาอนุมัติการประเมินภาษีหรือสั่งการให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับสำนวนการตรวจสอบ ถ้ายังพิจารณาสั่งการไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้บันทึกข้อขัดข้องให้ปรากฏไว้ในสำนวนด้วย ข้อ ๔๕ เมื่ออนุมัติการประเมินภาษีรายใดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบดำเนินการ แจ้งให้ผู้เสียภาษี มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบผลการตรวจสอบภาษี และสิทธิของผู้เสียภาษี ดังนี้ (๑) ประเด็นความผิดที่ตรวจพบ และรายละเอียดข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย (๒) จำนวนเงินภาษี เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม เหตุผลที่ประเมินเรียกเก็บ (๓) สิทธิขอลดหรืองดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ตลอดจนการคัดค้านการประเมินภาษี ในกรณีที่ผู้เสียภาษีประวิงเวลาหรือไม่มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้ตรวจสอบแจ้งเป็น หนังสือแจ้งการรับทราบผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามแบบ ภษ. 02-15/1 ท้ายระเบียบนี้ และต้องให้เวลาบุคคลนั้นไม่น้อยกว่า ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือนั้น ข้อ ๔๖ ผู้เสียภาษีรายใดไม่มีข้อโต้แย้ง ให้ผู้เสียภาษีลงลายมือชื่อในรายละเอียดแสดงผล การตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-09/2 ท้ายระเบียบนี้ และทำบันทึกข้อตกลงยินยอม การชำระภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-10 ท้ายระเบียบนี้กรณีผู้เสียภาษีได้ยื่นคำร้องของด หรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานการพิจารณาของดหรือลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ตามแบบ ตส. 04-11 ท้ายระเบียบนี้ เสนอต่อผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่พิจารณาสั่งการ ข้อ ๔๗ ถ้าผู้เสียภาษีรายใดมีข้อโต้แย้งไม่ยินยอมชำระภาษีตามที่ผู้ตรวจสอบแจ้งหรือไม่ ยินยอมลงลายมือชื่อในบันทึกคำให้การเกี่ยวกับภาษี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกข้อโต้แย้งดังกล่าว พร้อมด้วยเหตุผลหรือข้อเท็จจริงที่ผู้ให้ถ้อยคำไม่ยินยอมลงลายมือชื่อไว้ให้ปรากฏในบันทึกคำให้การ พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับด้วย เสนอผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่พิจารณาสั่งการ หมวด ๕ การประเมินและสั่งเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติม ข้อ ๔๘ การแจ้งการประเมินภาษี ให้ใช้หนังสือแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิตตามแบบ ภษ. 02-08 ท้ายระเบียบนี้ ข้อ ๔๙ ให้ผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกเป็นผู้ลงนามในหนังสือแจ้งการประเมินภาษี และให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบเตรียมแบบแจ้งการประเมินลงลายมือชื่อและตำแหน่งกำกับไว้ด้วย ถ้าในการประเมินภาษีมีประเด็นจะต้องประเมินเรียกเก็บหลายประเด็น โดยมีทั้งประเด็น ที่ผู้เสียภาษีมิได้โต้แย้งและโต้แย้ง ให้แยกประเด็นทำการประเมินได้ การแยกประเมินเรียกเก็บภาษี ให้ประเมินเฉพาะประเด็นที่ผู้เสียภาษีมิได้โต้แย้งไปก่อน ถ้าการประเมินนั้นจะไม่ทำให้เป็นผลเสียต่อสำนวนหรือประเด็นที่ผู้เสียภาษีโต้แย้ง ส่วนประเด็น ที่ผู้เสียภาษีโต้แย้งก็ให้แจ้งการประเมินโดยแยกแบบแจ้งการประเมินไปต่างหาก ข้อ ๕๐ การส่งหนังสือแจ้งการประเมินภาษีให้ใช้วิธีส่งตามหลักเกณฑ์ในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยเฉพาะกรณีต่อไปนี้ ให้ดำเนินการ ดังนี้ (๑) กรณีผู้เสียภาษีเป็นบุคคลธรรมดาได้แจ้งย้ายภูมิลำเนาออกแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งย้ายเข้า ให้ประเมินตั้งค้างไว้ที่ภูมิลำเนาเดิม ในการส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีหรือแบบแจ้งการประเมิน ให้ส่งไปยังภูมิลำเนาเดิมและที่อ้างว่าย้ายไปอยู่ใหม่ (๒) กรณีผู้เสียภาษีเป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่แจ้งเลิกและอยู่ระหว่าง การชำระบัญชีหรือจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีแล้วแต่ยังไม่เกิน ๒ ปี นับแต่วันจดทะเบียนเสร็จ การชำระบัญชี ให้ส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีหรือแบบแจ้งการประเมินให้แก่ผู้ชำระบัญชี ณ ภูมิลำเนา หรือสำนักงานของผู้ชำระบัญชีตามที่ได้แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ (๓) เมื่อได้ส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษี หรือแบบแจ้งการประเมินแล้ว ให้นำหลักฐานที่แสดงว่า ผู้เสียภาษีได้รับแล้วมาติดไว้ในสำนวนด้วย ข้อ ๕๑ ในรายที่ไม่มีการประเมินเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต ให้ทำหนังสือแจ้งผล การตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามแบบ ภษ. 02-11 ท้ายระเบียบนี้ขึ้น ๔ ฉบับ ต้นฉบับส่งให้แก่ ผู้เสียภาษี สำเนาคู่ฉบับแนบไว้กับสำนวนตรวจสอบภาษี และสำเนาส่งให้สำนักตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ แล้วแต่กรณี ในรายที่มีการประเมินภาษี ให้ทำหนังสือแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิตตามแบบ ภษ. 02-08 ท้ายระเบียบนี้ขึ้น ๕ ฉบับ ต้นฉบับส่งให้แก่ผู้เสียภาษี สำเนาคู่ฉบับแนบไว้กับสำนวน ตรวจสอบภาษี และสำเนาส่งให้สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ แล้วแต่กรณี และสำนักกฎหมาย ข้อ ๕๒ การตรวจสอบผู้เสียภาษีในรายที่ปรากฏแน่ชัดว่าจะต้องมีการประเมินเรียกเก็บภาษี เพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก และผู้เสียภาษีมีพฤติการณ์ส่อแสดงว่าจะไม่ยินยอมชำระภาษีเพิ่มเติม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเป็นกรณีพิเศษ หากการตรวจสอบผู้เสียภาษีในรายที่มีพฤติการณ์ส่อแสดงว่าจะหลีกเลี่ยงภาษี ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่รายงานข้อเท็จจริงพร้อมพยานเอกสารหลักฐานที่ตรวจพบแก่ผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียก เพื่อพิจารณา หากผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียกพิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินคดีอาญากับผู้เสียภาษี รายดังกล่าว ก็ให้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดำเนินคดีดำเนินการต่อไป ข้อ ๕๓ ในกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการประเมินภาษีสรรพสามิตไม่ถูกต้องหรือมี ข้อผิดพลาด ให้บันทึกรายงานผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียก เพื่อเสนอขออนุมัติแก้ไขการประเมินต่อไป หมวด ๖ การคืนบัญชีเอกสารและการเก็บรักษาสำนวน ข้อ ๕๔ การคืนบัญชีเอกสารตามหนังสือเรียก ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) กรณีที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ หากผู้เสียภาษีมีความจำเป็นที่จะขอคืนบัญชี เอกสาร หลักฐานที่ส่งมอบไว้แล้วเป็นการชั่วคราว ให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบเสนอผู้มีอำนาจ ออกหนังสือเรียกพิจารณาสั่งการ (๒) กรณีตรวจสอบภาษีรายใดเสร็จแล้ว และผู้เสียภาษีมิได้ยื่น คำคัดค้านการประเมินภาษี ให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบเจ้าของเรื่องแจ้งให้ผู้เสียภาษีมารับคืนบัญชีเอกสาร ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่แจ้งไป หากผู้เสียภาษีไม่มารับคืนบัญชี เอกสารภายในกำหนดเวลา ให้ส่งโดยวิธีที่มีหลักฐานการรับ เช่น พัสดุไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือกรณีไม่อาจนำส่งได้ให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย งานสารบรรณ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ ๕๕ สำนวนการตรวจสอบภาษีที่เสร็จแล้ว ให้ส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมาย ให้มีหน้าที่เก็บรักษาสำนวนการตรวจสอบภาษี เพื่อเก็บรักษาต่อไป ข้อ ๕๖ การตรวจสอบภาษี ให้ถือเป็นความลับของทางราชการ ห้ามมิให้เปิดเผยแก่ผู้ใด เว้นแต่เป็นการเปิดเผยในการปฏิบัติราชการหรือเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี โดยได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจออกหนังสือเรียก หมวด ๗ การตรวจค้น การยึดหรืออายัด ข้อ ๕๗ การขออนุมัติทำการตรวจค้น ยึดหรืออายัดบัญชีเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับหรือสันนิษฐานว่าเกี่ยวกับภาษีตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ กระทำได้ต่อเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ในการทำการตรวจค้นให้พึงถือเป็นราชการลับตั้งแต่ขั้นสืบสวน ขั้นประมวลหลักฐาน ขั้นวิเคราะห์แบบ ตลอดจนขั้นตอนอื่น ๆ ของการตรวจค้น จนกระทั่งถึงการเสนอผลการตรวจค้น ต่อผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม หรือผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่ ข้อ ๕๘ คำสั่งให้ตรวจค้นให้จัดทำตามแบบ ภษ. 04-01 ท้ายระเบียบนี้ โดยจัดทำเป็น ๒ ฉบับ ต้นฉบับให้นำไปแสดงกับผู้ครอบครองสถานที่ที่ระบุไว้ในคำสั่งให้ตรวจค้น เมื่อเสร็จแล้วให้นำ ติดไว้กับสำนวนการตรวจสอบ สำเนาคู่ฉบับให้ติดไว้กับสมุดคำสั่งให้ตรวจค้นภายหลังจากการตรวจค้น เสร็จสิ้นแล้ว สมุดคำสั่งให้ตรวจค้น ให้ทำแบบเดียวกับสมุดสั่งการออกตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ข้อ ๕๙ การออกตรวจค้นตามข้อ ๕๗ ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ให้มีข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับชำนาญการหรือชำนาญงานเป็นหัวหน้าคณะ (๒) แต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงานสรรพสามิต เว้นแต่ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปราม หรือผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสรรพสามิตพื้นที่จะสั่งการตามที่ เห็นสมควร (๓) ก่อนลงมือตรวจค้น ให้แสดงบัตรประจำตัวข้าราชการและคำสั่งให้ตรวจค้นต่อเจ้าของ หรือผู้ครอบครองสถานที่ที่จะทำการตรวจค้น และผู้เป็นหัวหน้าคณะจะต้องแจ้งความประสงค์ในการ ตรวจค้นให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ที่จะทำการตรวจค้นทราบก่อน โดยให้บันทึกแสดงความยินยอม ให้ตรวจค้นสถานที่ และแสดงความบริสุทธิ์ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วยว่าพนักงานเจ้าหน้าที่มิได้นำ สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ผิดกฎหมายซุกซ่อนเข้าไปด้วยแต่อย่างใด ทั้งนี้ ให้บันทึกเป็นหลักฐานไว้ด้านหลัง ของคำสั่งให้ตรวจค้นที่นำไปแสดง (๔) ให้ทำการตรวจค้นต่อหน้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลที่ทำงานในสถานที่นั้น ถ้าหาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ขอร้อง มาเป็นพยาน (๕) ให้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยเฉพาะบัญชีเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับ หรือสันนิษฐานว่าเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต ทั้งนี้ผู้ทำการตรวจค้นจะต้องมีปฏิภาณไหวพริบพึงรู้ว่า เอกสารเกี่ยวกับภาษีเก็บไว้ที่ใด สมควรจะยึดเอกสารชิ้นใดมาทำการตรวจสอบบ้าง สถานที่หรือตู้เก็บ เอกสารใดหากไม่สามารถทำการตรวจค้นได้ในขณะนั้น ให้อายัดไว้ก่อนและนัดทำการเปิดเพื่อตรวจค้น โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ (๖) ให้ทำการตรวจโดยสุภาพ พยายามมิให้มีการเสียหายและกระจัดกระจายเท่าที่จะทำได้ และระมัดระวังอย่าให้เป็นที่เดือดร้อน หรือขัดขวางการประกอบธุรกิจจนเกินความจำเป็น (๗) การตรวจค้น ต้องทำในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในระหว่าง เวลาทำการของผู้ประกอบกิจการนั้น เว้นแต่การตรวจค้นในเวลาดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ จะกระทำต่อไป หรือจะดำเนินการอายัดหลักฐานที่ตรวจค้นไม่แล้วเสร็จไว้ก่อนเพื่อดำเนินการตรวจค้นในวันแรก ที่เปิดทำการตามปกติก็ได้ ข้อ ๖๐ ให้ผู้ตรวจค้นแยกบัญชีเอกสารที่ยึดมาทำการตรวจสอบไว้เป็นสัดส่วน และออกใบรับตราสารและหลักฐานต่าง ๆ ตามแบบ ตส. 04-22 ท้ายระเบียบนี้ โดยแสดงรายละเอียด เกี่ยวกับบัญชีเอกสารที่จะยึดมาทำการตรวจสอบ ใบรับให้ทำเป็น ๓ ฉบับ ฉบับที่ ๑ ติดสำนวน การตรวจสอบ ฉบับที่ ๒ มอบให้ผู้ถูกตรวจค้นหรือผู้นำให้ทำการตรวจค้น ฉบับที่ ๓ ติดไว้กับต้นเรื่อง บัญชีเอกสารที่ยึดมานั้นจะต้องเป็นบัญชีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสียภาษีสรรพสามิตโดยตรง ห้ามมิให้ยึดบัญชีและเอกสารหรือสิ่งใดที่ไม่สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการจัดเก็บภาษีมาเป็นอันขาด บัญชีและเอกสารที่ยึดมานั้น ผู้ตรวจค้นและผู้ถูกตรวจจะต้องลงชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าเป็นบัญชี และเอกสารที่ยึดไปจากสถานที่นั้นจริง เว้นแต่กรณีบัญชีและเอกสารที่ยึดเป็นจำนวนมากก็ให้อยู่ใน ดุลยพินิจของหัวหน้าคณะว่า จะลงนามและให้ลำดับเลขที่ในบัญชีเอกสารใดบ้าง ทั้งนี้ โดยพิจารณา ถึงความสำคัญและประโยชน์ของบัญชีเอกสารนั้น ๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด ในกรณีที่ไม่มีเจ้าของหรือผู้นำให้ทำการตรวจค้น ก่อนที่จะนำบัญชีเอกสารที่ตรวจค้น หรือยึดได้กลับสำนักงานสรรพสามิต ให้แจ้งตำรวจท้องที่เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วย ข้อ ๖๑ เมื่อทำการตรวจค้นเสร็จแล้ว ให้บันทึกการตรวจการเสียภาษีสรรพสามิตตามแบบ ตส. 04-18 ท้ายระเบียบนี้จำนวน ๒ ฉบับ มีข้อความตรงกัน โดยมอบให้ผู้รับการตรวจค้น ๑ ฉบับ นำติดสำนวนตรวจสอบ ๑ ฉบับ พร้อมทั้งให้ทำบันทึกผลการตรวจค้น โดยมีข้อความสำคัญที่ควร จะบันทึกไว้ให้ปรากฏ ดังนี้ (๑) ก่อนลงมือตรวจค้น พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แสดงคำสั่งตรวจค้นให้ผู้ถูกตรวจค้นดูแล้ว พร้อมกับได้แสดงบัตรประจำตัวผู้ทำการตรวจค้นทุกคน นอกจากนี้ก่อนทำการตรวจค้นพนักงาน เจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์แล้ว ผู้รับการตรวจค้นยินยอมให้รับการตรวจค้นได้ (๒) ในบันทึกการตรวจค้นจะต้องให้ปรากฏชื่อผู้ถูกตรวจค้นหรือผู้นำให้ทำการตรวจค้น ไว้ให้ชัดแจ้ง (๓) ได้ทำการตรวจค้นตั้งแต่เวลาใด แล้วเสร็จเวลาใด การตรวจค้นมีปัญหาหรืออุปสรรค ประการใดบ้าง (๔) กรณีที่พบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับหรือสันนิษฐานว่าเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตให้บันทึกว่า พบ ณ ที่ใด อยู่ลักษณะอย่างใด ปิดบังซ่อนเร้นไว้หรือไม่ประการใด หรือผู้รับการตรวจค้นได้นำมา มอบให้พนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง (๕) กรณีที่ได้ยึดบัญชีเอกสารใด ก็ให้บันทึกสรุปรายการบัญชีและเอกสารหลักฐาน ที่ยึดมานั้นด้วย (๖) เมื่อเสร็จการตรวจค้นจะต้องบันทึกให้ปรากฏว่าผู้ตรวจได้แสดงความบริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ในบันทึกการตรวจค้นจะต้องให้ปรากฏว่า ผู้ตรวจค้นมิได้ทำให้เกิดความเสียหาย หรือบุบสลายซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกตรวจค้นหรือเป็นการขัดขวางการประกอบธุรกิจตามปกติจนเกิน ความจำเป็นและรับรองว่าข้อความในบันทึกตรงตามข้อเท็จจริงทุกประการ ข้อ ๖๒ เมื่อกลับถึงสำนักงานสรรพสามิต ให้ผู้ที่ไปทำการตรวจค้นเสนอการตรวจค้น ให้ผู้บังคับบัญชาผู้ลงนามในคำสั่งให้ตรวจค้นทราบในวันที่ทำการตรวจค้นหรืออย่างช้ำในวันแรก ที่เปิดทำการตามปกติ ข้อ ๖๓ เมื่อได้ออกตรวจค้น และยึดบัญชีเอกสารมาเพื่อทำการตรวจสอบตามคำสั่งตรวจค้นแล้ว เพื่อให้การตรวจสอบและประเมินเรียกเก็บภาษีเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผน ให้แจ้งทะเบียนควบคุมการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต และให้ออกหนังสือเรียกตรวจสอบทุกราย หมวด ๘ อื่น ๆ ข้อ ๖๔ การปฏิบัติตามระเบียบนี้ให้อยู่ในอำนาจหน้าที่และการควบคุมของสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ แล้วแต่กรณี หากมีปัญหาเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่มิได้กำหนดไว้ตามระเบียบนี้ ให้รายงานให้กรมสรรพสามิต เป็นผู้วินิจฉัย หมวด ๙ บทเฉพาะกาล ข้อ ๖๕ การดำเนินการใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการตรวจสอบภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๔๗ ก่อนหน้าที่ ระเบียบนี้ใช้บังคับให้เป็นอันใช้ได้สำหรับการดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต แบบฟอร์มตามระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 พ.ศ. 2553 ลำดับที่ชื่อแบบฟอร์ม อักษรย่อ 1 บันทึกผลการวิเคราะห์การชำระภาษีสรรพสามิต ตส. 04-02 2 ขออนุมัติออกหนังสือเรียก ตส. 04-03 3 หนังสือเตือนให้ปฏิบัติตามหนังสือเรียก ตส. 04-05 4 คำให้การ ตส. 04-06 5 คำให้การต่อ ตส. 04-06/1 6 ใบรับมอบและส่งมอบบัญชี เอกสารและสินค้า ตส. 04-07 7 สรุปผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตส. 04-09 8 รายงานการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตส. 04-09/1 ใบต่อ ตส. 04-09/1 9 รายละเอียดแสดงผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตส. 04-09/2 10 บันทึกข้อตกลงยินยอมการชำระภาษีสรรพสามิต ตส. 04-10 11 รายงานการพิจารณา ของดหรือลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ตส. 04-11 12 หนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ตส. 04-15 13 ขอขยายเวลาการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตส. 04-16 14 บันทึกมอบหมายสำนวนการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตส. 04-17 15 บันทึกการตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ตส. 04-18 16 ใบรับตราสารและหลักฐานต่าง ๆ ตส. 04-22 17 สมุดสั่งการออกตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ตส. 03-01 18 หนังสือแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิต ภษ. 02-08 19 หนังสือแจ้งผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ภษ. 02-11 20 หนังสือแจ้งผลการตรวจสอบภาษีณ สถานประกอบการ ภษ. 02-15 21 หนังสือแจ้งการรับทราบผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ภษ. 02-15/1 22 คำสั่งให้ตรวจค้น ภษ. 04-01 23 หนังสือเรียกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ภษ. 04-04 ใบรับหนังสือเรียก 24 หนังสือมอบอำนาจ ภษ. 04-06 25 หนังสือเชิญเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต ภษ. 04-07 ตส. 04-02 บันทึกผลการวิเคราะห์การชำระภาษีสรรพสามิต ราย.......................................................... ประเภทกิจการ............................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่................................................. ที่อยู่............................................................................................................................ รอบระยะเวลาที่ทำการวิเคราะห์ตั้งแต่................................................................................ ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์: 1. ................................................................................................................... 2. ................................................................................................................... 3. ................................................................................................................... 4. ................................................................................................................... 5. ................................................................................................................... เรียน................................................................... ตามที่ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลรายดังกล่าวข้างต้นแล้วปรากฏว่า................................... ............................................................................................................................... ... ............................................................................................................................... ... ............................................................................................................................... ... ............................................................................................................................... ... จึงเห็นสมควร ขออนุมัติออกหนังสือเรียก อื่นๆ............................ .......................................... ผู้วิเคราะห์ (.........................................) ........................................... ผู้ควบคุมการวิเคราะห์ (.........................................) ........... /..................../........... คำสั่งผู้บังคับบัญชาตามสายงาน อนุมัติ ไม่อนุมัติ ให้ดำเนินการขออนุมัติออกหนังสือเรียกได้ ............................................ (..........................................) ตำแหน่ง............................... วันเดือนปี............................... ตส. 04-03 ขออนุมัติออกหนังสือเรียก ที่...................../...................... เรียน ........................................... ด้วย............................................................................. มีความประสงค์จะทำการออกหนังสือเรียก ราย............................................................................................................................... .................... ซึ่ง โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ ชื่อ............................................................ ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่....................................................... ที่อยู่............................................................................................................................... .................. ประเภทกิจการ............................................................................................................................... .... รอบระยะเวลาที่ตรวจสอบ .................................................................................................................... กรณี............................................................................................................................... .................. จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตรวจสอบทะเบียนควบคุมการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต และแจ้งผลการ ตรวจสอบให้ทราบด้วย ........................................... (.........................................) ตำแหน่ง.......................................... ........... /..................../........... เรียน..................................................................(หน่วยงานที่ขอให้ตรวจสอบทะเบียนควบคุม) 1. ได้ตรวจสอบทะเบียนควบคุมการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตแล้วปรากฏว่า....................................................... ............................................................................................................................... .............................................. ............................................. (...........................................) ตำแหน่ง............................... ........... /..................../........... 2. คำสั่ง อนุมัติ ดำเนินการตามที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนควบคุมการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตเสนอ ............................................ (...........................................) ตำแหน่ง................................. ........... /..................../........... ที่กค....................../......................... เรียน................................................................. เพื่อดำเนินการ ............................................ (...........................................) ตำแหน่ง................................ ........... /..................../........... ตส. 04-0 5 หนังสือเตือนให้ปฏิบัติตามหนังสือเรียก ที่....................../.................... สำนัก............................................... วันที่........... เดือน ......................... พ.ศ. ......... เรื่อง เตือนให้ปฏิบัติตามหนังสือเรียก เรียน .......................................... อ้างถึง หนังสือเรียก ที่ .............../................ ลงวันที่ .......................................... สิ่งที่ส่งมาด้วย .......................................... ด้วยปรากฏว่า ท่านมิได้ไปพบพนักงานเจ้าหน้าที่ในวันที่ .......................................... เวลา ............. น. เพื่อรับตรวจสอบไต่สวนเกี่ยวกับการเสียภาษีสรรพสามิตตามหนังสือเรียกที่อ้างถึง โดยไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบแต่ประการใด ฉะนั้น จึงเรียนเตือนมาเพื่อขอให้ท่านไปพบพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งนำหลักฐานต่างๆ ตาม หนังสือเรียกไปส่งมอบต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ .......................................................................... ในวันที่ ................................. เวลา ............. น. อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้หากท่านเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ไปติดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนดเวลา ดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จะถือว่าท่านจงใจไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก และจะทำการประเมินเรียกเก็บ ภาษีสรรพสามิตของท่านตามที่เห็นว่าถูกต้องต่อไป และท่านอาจจะถูกดำเนินคดีอาญาตามบทบัญญัติ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 อีกสถานหนึ่งด้วย ขอแสดงความนับถือ (.......................................... .) ตำแหน่ง .......................................... ……………………………………………………… โทร....................................... ตส. 04-06 คำให้การ ของ................................................. เรื่อง................................................ วันที่.................เดือน........................... พ.ศ. ............... ได้ให้การต่อ ........................................................... ตำแหน่ง................................................. ข้าพเจ้า.................................................................................. อายุ.................ปี สัญชาติ............. เชื้อชาติ............... ที่อยู่เลขที่..................... อาคาร /หมู่บ้าน............................... ห้องเลขที่..................... ชั้นที่..............ตรอก/ซอย............................. ถนน.............................. ตำบล/แขวง................................ อำเภอ/เขต............................. จังหวัด................................. รหัสไปรษณีย์............................... โทรศัพท์...................................... บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรอื่นๆ (ระบุ).............................. เลขที่................................. ซึ่งออกให้ณ ที่............................... ประเทศ ................................. ข้าพเจ้ามีฐานะเป็น........................................................................................... ของ............................................................................................................................... ..... ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่................................................................................ ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่............................................ นำเข้าเมื่อ............................... ขอให้การด้วยความสัตย์จริงต่อไปนี้ ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... แผ่นที่.......... คำให้การต่อ ของ.................................................... ตส. 04-06/1 ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ............................................................................................................................... ........... ตส. 04-07 ใบรับมอบและส่งมอบบัญชี เอกสารและสินค้า เขียนที่...................................................... วันที่........เดือน....................... พ.ศ. .......... วันนี้ เวลา..........น. ข้าพเจ้า.............................................. ตำแหน่ง..................... ได้รับ บัญชีและเอกสาร สินค้า ของผู้มีหน้าที่เสียภาษีราย...................................... ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่.................................... โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ ตั้งอยู่เลขที่............. หมู่ที่...........ตรอก/ซอย......................... ถนน................................ ตำบล/แขวง......................... อำเภอ/เขต............................. จังหวัด............................... โดยมี...................................................................... เป็นผู้ส่งมอบ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องเป็น เจ้าของ กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้รับมอบอำนาจ ................. ตามหนังสือ.......................... ที่................... ลงวันที่................................... ดังรายละเอียด ต่อไปนี้ ลำดับ รายการ จำนวน หมายเหตุ (ลงชื่อ)................................... ผู้รับมอบ (.................................) (ลงชื่อ)................................... พยาน (.................................) (ลงชื่อ)................................... พยาน (.................................) ตส. 04-09 สรุปผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต 1. ผู้เสียภาษี................................................................................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่............................................................ ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่............................................ นำเข้าเมื่อ............................... ที่อยู่เลขที่...................... ตรอก/ซอย................................ ถนน......................................... ตำบล/แขวง.......................... อำเภอ/เขต................................ จังหวัด.............................. รหัสไปรษณีย์........................ โทรศัพท์................................. โทรสาร ............................... ประเภทกิจการ.............................................................................................................. 2. ผู้ตรวจสอบ ................................................ หน่วยงานตรวจสอบ .................................... ได้รับอนุมัติให้ตรวจสอบเมื่อวันที่..............เดือน.................................... พ.ศ. ..................... แบบแจ้งการประเมินภาษีฯ/หนังสือแจ้งผลการตรวจสอบ ที่กค.................... ลงวันที่................ รอบระยะเวลาที่ตรวจสอบตั้งแต่...............ถึง................รวมเวลาที่ใช้ตรวจสอบทั้งสิ้น.....เดือน.....วัน ตรวจสอบโดยวิธีออก หนังสือเรียก หนังสือเชิญ หนังสืออื่น เมื่อวันที่.................เดือน................................ พ.ศ. ......................... 3. เอกสารที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ ..................ฉบับ คือ ก. หนังสือเตือนให้ปฏิบัติตามหนังสือเรียก ...............ฉบับ ลงวันที่....................................... ข. หนังสือนำตัวการตรวจการปฏิบัติของผู้เสียภาษี .................ฉบับ ลงวันที่........................... ค.ไต่สวนทั้งหมดรวม ..........ครั้ง ครั้งสุดท้ายสิ้นสุดเมื่อวันที่.........เดือน..............พ.ศ. ........... ง. ใบรับมอบส่งมอบบัญชีและเอกสารและสินค้า.......................................................... ฉบับ จ. หนังสือขอขยายการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต......................................................... ฉบับ ฉ. รายละเอียดที่(สรุปผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต)............................................ ฉบับ ช. รายละเอียดที่(แสดงผลการตรวจสอบภาษี).......................................................... ฉบับ ซ. บันทึกข้อตกลงยินยอมชำระภาษีสรรพสามิต ........................................................... ฉบับ ฌ. คำร้องขอลดหรืองดเบี้ยปรับเงินเพิ่มภาษีสรรพสามิต................................................. ฉบับ 4. เหตุผลการประเมิน .................................................................................................. ............................................................................................................................... ... 5. จำนวนเงินภาษีที่ต้องประเมินหรือสั่งเรียกเก็บเพิ่มเติม ภาษีเก็บเพิ่ม วันเดือนปี ประเภทสินค้า จำนวนเงิน เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม เพื่อมหาดไทย รวม ............. .................... .............. ............ ........... .................... ........ .... ............. .................... .............. ............ ........... .................... ........ .... ลงชื่อ........................................... ผู้ตรวจสอบ (...........................................) ตำแหน่ง......................................... ตส. 04-09/1 รายงานการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต วันที่...........เดือน........................ พ.ศ. .......... เรียน.......................................................... ผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตราย...................................................................... ประเภทกิจการ.............................................................................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่........................................................................................ ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่............................................ นำเข้าเมื่อ.................................. รอบระยะเวลาที่ตรวจสอบตั้งแต่...................................................................................... ปรากฏรายละเอียดดังนี้ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ใบต่อ ตส. 04-09/1 แผ่นที่......... ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ .................... .......................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................... ........ รายละเอียดแสดงผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ชื่อผู้มีหน้าที่เสียภาษี.............................................................................................. ชื่อ......................................................................................... รอบระยะเวลาที่ตรวจสอบภาษีตั้งแต่............................................................................................. ประเภทสินค้า/บริการ ........................................................................................ ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่.................................................. ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่.......................................................... นำเข้าเมื่อ........................................... เดือน/ปี พิกัด ประเภทที่ มูลค่าจากการ ตรวจสอบ อัตราภาษีภาษีสรรพสามิตที่ต้อง ชำระตามการตรวจสอบ ภาษีที่ชำระไว้แล้ว ภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติม จำนวน เดือนที่ คิดเงินเพิ่ม ภาษี เบี้ยปรับ ตาม ม. 136 เงินเพิ่ม ตาม ม. 137 รวมเงิน ภาษีเก็บ เพิ่มเพื่อ มหาดไทย รวมเงิน ภาษีทั้งสิ้น หมายเหตุ เงินเพิ่มคำนวณถึงวันที่..................... เดือน......................................... พ.ศ. ........................... ลงชื่อ.......................................................... ผู้มีหน้าที่เสียภาษี (.........................................................) ลงชื่อ.......................................................... ผู้ตรวจสอบ (.........................................................) โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ สถานประกอบการผู้นำตส. 04-09/2 ตส. 04-10 บันทึกข้อตกลงยินยอมการชำระภาษีสรรพสามิต สำนัก.............................................. วันที่.............เดือน........................ พ.ศ. ........ ข้าพเจ้า................................................................................................... ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ เจ้าของกิจการ ผู้รับมอบอำนาจ อื่นๆ ราย............................................................................................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่.................................................................................... ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่............................................ นำเข้าเมื่อ............................... ที่อยู่เลขที่...................... ตรอก/ซอย................................ ถนน........................................ ตำบล/แขวง.......................... อำเภอ/เขต................................ จังหวัด.............................. ขอให้ความยินยอมแก่พนักงานเจ้าหน้าที่จะชำระภาษีให้แก่ทางราชการตามจำนวนที่พนักงาน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ ดังนี้ รอบระยะเวลา ประเภทสินค้า/ จำนวนภาษี เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ภาษีเก็บเพิ่ม รวม ที่ตรวจสอบ บริการ เพื่อมหาดไทย ............. ................... ............... ............ ............ .................... ......... ............. ................... ............... ............ ............ .................... ......... ............. ................... ............... ............ ............ .................... ......... พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ข้าพเจ้าทราบข้อเท็จจริงในการตรวจสอบ วิธีการตรวจสอบภาษี ข้อกฎหมาย วิธีการคำนวณภาษี และจำนวนเงินภาษีที่จะต้องชำระเพิ่มเติมแล้ว ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ผลการตรวจสอบภาษีดังกล่าวข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ บันทึกข้อตกลงยินยอมการชำระภาษีสรรพสามิตนี้ข้าพเจ้าได้กระทำโดยความสมัครใจ ลงชื่อ................................... ผู้ให้คำยินยอม (.................................) ลงชื่อ.................................... ผู้ตรวจสอบ (...................................) ลงชื่อ..................................... พยาน (...................................) ลงชื่อ...................................... พยาน (.....................................) ตส. 04-11 รายงานการพิจารณา ของดหรือลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ราย........................................................................ เรียน............................................................ ตามที่ได้รับอนุมัติให้ประเมินเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตราย......................................................................... โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ สถานประกอบการผู้นำเข้า ชื่อ..................................................... ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่................................................................................. นั้น ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่........................................ นำเข้าเมื่อ............................... นั้น ผู้เสียภาษีได้ยื่นคำร้องขอเมื่อวันที่............เดือน..................................... พ.ศ. .................... ของด ขอลด เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม โดยมีเหตุผลว่า............................................................................................................................... ................ ............................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................... ..................................... พนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า............................................................................. ............................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................... ..................................... จึงมีความเห็นสมควรว่า ไม่งด ลด เบี้ยปรับภาษีสรรพสามิต คงเหลือเรียกเก็บร้อยละ............................................ ของเบี้ยปรับตามกฎหมาย ไม่งด ลด เงินเพิ่มภาษีสรรพสามิต คงเหลือเรียกเก็บร้อยละ............................................ ของเงินเพิ่มตามกฎหมาย ก่อนการพิจารณางดหรือลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม อนุมัติประเมินภาษีไว้แล้วทั้งสิ้น ดังนี้ จำนวนภาษี เบี้ยปรับ.....เท่า เงินเพิ่ม ภาษีเก็บเพิ่ม รวม เพื่อมหาดไทย ............... ..................... ........... ..................... ..... .............. หลังการพิจารณาอนุมัติงดหรือลดเบี้ยปรับเงินเพิ่มข้างต้น คงเหลือจำนวนเงินภาษีที่ผู้เสียภาษีต้องรับผิดทั้งสิ้น ดังนี้ จำนวนภาษี เบี้ยปรับ.....เท่า เงินเพิ่ม ภาษีเก็บเพิ่ม รวม เพื่อมหาดไทย ............... ..................... ........... ..................... .... ............... จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาสั่งการ ............................................ (..........................................) ความเห็นผู้บังคับบัญชาตามสายงาน คำสั่งผู้มีอำนาจอนุมัติ ......................................................... ...................................................... ....................... ......................................................... ..................................................... ........................ ............................................ ............................................ (..........................................) (..........................................) ตำแหน่ง............................... ตำแหน่ง............................... ........... /................/........... ........... /................/........... หนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ที่ ........./............ สำนัก ....................................... วันที่...........เดือน...................... พ.ศ. ...... โดยหนังสือนี้แสดงให้ทราบว่า สำนัก.................................................... ได้ให้ ...................................................... ตำแหน่ง............................................ พร้อมด้วย (1) ......................................... ตำแหน่ง............................................ (2) ......................................................... ตำแหน่ง ............................................ (3) ......................................................... ตำแหน่ง ............................................ (4) ......................................................... ตำแหน่ง ............................................ มาทำการตรวจสอบภาษีณ สถานประกอบการของ ..................................................... ณ โรงอุตสาหกรรม สถานบริการชื่อ............................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่........................................... ตั้งอยู่เลขที่............................... หมู่ที่.............. ตรอก/ซอย..................................... ถนน.......................................... ตำบล/แขวง.......................... อํ าเภอ/เขต............................. จังหวัด.......................... ในวันที่..................................... ได้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ..................................... แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 อนึ่ง เพื่อป้องกันมิให้บุคคลภายนอกแอบอ้างเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ กรมสรรพสามิตเข้าทำการตรวจสอบภาษีจึงขอให้ท่านขอดูบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ทำการตรวจสอบด้วย และถ้ามีเหตุสงสัยก็ให้สอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาตามหมายเลข โทรศัพท์......................................... ได้ และขอให้ท่านอำนวยความสะดวกแก่พนักงาน เจ้าหน้าที่ด้วย ................................................ (.............................................) ตำแหน่ง ................................................ ............................. โทร ....................... ตส. 04-15 ตส. 04 -16 ขอขยายเวลาการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต เรื่อง ขอขยายเวลาการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ราย ................................................................... เรียน ................................................................ ตามที่ได้ออกหนังสือเรียก ที่ .................... ลงวันที่ .........เดือน.................. พ.ศ. .......... เพื่อตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ราย .......................................................... ทะเบียนสรรพสามิต เลขที่............................. สำหรับรอบระยะเวลาการตรวจสอบ ................................................. ที่อยู่เลขที่..................หมู่ที่..............ตรอก/ซอย............................. ถนน............................... ตำบล/แขวง ............................ อำเภอ/เขต ............................. จังหวัด .............................. ขณะนี้การตรวจสอบภาษีสรรพสามิตรายดังกล่าว ยังไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ออกหนังสือเรียกได้เนื่องจาก ........................................................................................................................... ............................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................... ..... การตรวจสอบภาษีรายนี้ยังไม่เคยขออนุมัติขยายเวลาการตรวจสอบ การตรวจสอบภาษีรายนี้เคยขออนุมัติขยายเวลาการตรวจสอบ ครั้งที่ ........ ถึงวันที่ ............ เดือน ................... พ.ศ. ................... จึงขอขยายเวลาการตรวจสอบภาษีรายนี้ออกไปอีกจนถึงวันที่.......เดือน..............พ.ศ. .......... จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ลงชื่อ ................................................... ผู้ตรวจสอบ (.................................................) ............/...................../............. ความเห็นผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น คำสั่งผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจอนุมัติ อนุมัติ ไม่อนุมัติ ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ................................................. ............/...................../............. ................................................. ............/...................../............. ตส. 04 -17 บันทึกมอบหมายสำนวนการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ราย.................................................................................................................... ระหว่าง.................................................................... ตำแหน่ง................................ ผู้ส่งมอบ กับ.......................................................................... ตำแหน่ง............................... ผู้รับมอบ สำนัก.......................................................... วันที่........... เดือน ................................... พ.ศ. ................. ตามที่...................................................... ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่........เดือน..................... พ.ศ. .................. ให้ข้าพเจ้า...................................................... โอนสำนวนเรื่องการตรวจสอบ ภาษีสรรพสามิตที่ยังคำงดำเนินการ ราย......................................................................... ให้แก่ ...................................................................... นั้น ................................................... ผู้ส่งมอบและ ......................................... ผู้รับมอบ ได้ดำเนินการส่งมอบและรับมอบสำนวนเรื่องการตรวจสอบภาษีบัญชีหลักฐานเอกสารต่างๆ ของ ราย.......................................................... ไว้ระหว่างกัน ดังนี้ 1. เอกสารในสำนวนการตรวจสอบรวมทั้งสิ้น........................ ฉบับ 2. บัญชีหลักฐานเอกสารต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในใบรับมอบและส่งมอบบัญชี เอกสารและ สินค้าจำนวน......................... ฉบับ (เอกสารหมายเลข ................................) เว้นแต่หลักฐาน เอกสารบัญชีที่ผู้เสียภาษีได้รับคืนไปก่อนตามหลักฐานใบรับมอบและส่งมอบบัญชี เอกสารและ สินค้าจำนวน......................... ฉบับ (เอกสารหมายเลข ................................) 3. หลักฐานเอกสารอื่นๆ ได้แก่............................................................................. ............................................................................................................................... ...... ..................................................................................................................... ผู้ส่งมอบและผู้รับมอบได้ตรวจสอบหลักฐานเอกสารดังกล่าวข้างต้นแล้ว ปรากฏว่า ถูกต้อง จึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยาน ลงชื่อ ................................................... ผู้ส่งมอบ (.................................................) ลงชื่อ ................................................... ผู้รับมอบ (.................................................) ลงชื่อ ................................................... พยาน (.................................................) ลงชื่อ ................................................... พยาน (.................................................) ตส. 04-18 บันทึกการตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ที่...................................................... วันที่...........เดือน........................ พ.ศ. .......... วันนี้ เวลา..................น. ข้าพเจ้า.................................................................... ตำแหน่ง..................................... พร้อมคณะตามหนังสือ........................ ลงวันที่........................ ได้มาตรวจ ณ โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ ชื่อ.............................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่.............................. ตั้งอยู่เลขที่..................... ซอย........................... ถนน............................ ตำบล/แขวง............................... อำเภอ/เขต................................... จังหวัด................................................ ในวันที่................................................................. โดยมี......................................................... ตำแหน่ง.................................. เป็นผู้รับการตรวจ ในการเข้าตรวจครั้งนี้ข้าพเจ้าผู้รับการตรวจขอยืนยันว่า ผู้เข้าทำการตรวจข้างต้น ทุกคนได้กระทำการโดยสุภาพเรียบร้อย และไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นการขัดขวางการปฏิบัติงาน หรือการดำเนินกิจการค้าของข้าพเจ้า ทั้งมิได้กระทำให้ทรัพย์สินหรือเอกสาร ของ.............................................. ชำรุด สูญหายหรือเสียหายแต่อย่างใด และข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความข้างต้นถูกต้องกับข้อเท็จจริงทุกประการ จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ ตรวจเสร็จเวลา ......................... น. ลงชื่อ...................................... ผู้รับการตรวจ (....................................) ลงชื่อ..................................... พนักงานเจ้าหน้าที่ (.....................................) ลงชื่อ...................................... พยาน (.....................................) ลงชื่อ...................................... พยาน (.....................................) ตส. 04 -22 ใบรับตราสารและหลักฐานต่างๆ สถานที่ .............................................. วันที่........... เดือน ......................... พ.ศ. ......... ข้าพเจ้า ............................................................ ตำแหน่ง ........................................ สังกัด ................................................... พร้อมด้วย (1)............................................................. ตำแหน่ง................................................... (2) ............................................................ ตำแหน่ง .................................................. (3) ............................................................ ตำแหน่ง .................................................. (4) ............................................................ ตำแหน่ง .................................................. (5) ............................................................. ตำแหน่ง .................................................. ได้มาทำการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ณ ................................................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่........................................ ที่อยู่................ตรอก/ซอย......................... ถนน .................................... ตำบล/แขวง ............................. อำเภอ/เขต .............................. จังหวัด ............................. โดยมี ............................................... เป็นเจ้าของ/หุ้นส่วนผู้จัดการ/ กรรมการผู้จัดการ/ อื่นๆ (ระบุ) ........................................ การตรวจสอบได้พบเหตุผลพอจะเชื่อได้ว่า โรงอุตสาหกรรมหรือสำนักงานแห่งนี้ปฏิบัติการเสียภาษีสรรพสามิตไม่ถูกต้องตามหมวด ..................... แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ว่าด้วยภาษีสรรพสามิต จึงได้ยึด เอกสาร บัญชี และสินค้า ตราสาร ของโรงอุตสาหกรรม หรือสำนักงานแห่งนี้ไปดำเนินการมีจำนวนดังต่อไปนี้คือ ............................................................................................................................... .............. ............................................................................................................................... ............ ............................................................................................................................... .............. บรรดาเอกสารหลักฐานที่ยึดไปนี้หากท่านประสงค์จะตรวจสอบเพื่อการดำเนินกิจการของท่าน ขอให้ท่านติดต่อได้ที่ ......................................................................................................... ข้าพเจ้า ................................................ เจ้าของ/หุ้นส่วนผู้จัดการ/ กรรมการผู้จัดการ/ อื่นๆ (ระบุ) ............................... ขอรับรองว่าเอกสารหลักฐานดังกล่าว เจ้าพนักงานได้ยึดไปจาก โรงอุตสาหกรรมหรือสำนักงานของข้าพเจ้าและได้ตรวจสอบจำนวนถูกต้องแล้ว ลงชื่อ ................................................... ผู้ส่งมอบเอกสารหลักฐาน (.................................................) ลงชื่อ ................................................... ผู้ตรวจสอบ (.................................................) ลงชื่อ ................................................... พยาน (.................................................) ลงชื่อ ................................................... พยาน (.................................................) ตส. 03-01 สมุดสั่งการออกตรวจสอบภาษีสรรพสามิต เลขที่ วัน เดือน ปี ที่ให้ตรวจ ชื่อผู้ตรวจ ตำแหน่ง เวลา ออกตรวจ สถานที่ ตรวจ เรื่องที่ ตรวจ ผู้สั่งลงนาม ผู้ตรวจ ลงนาม รับทราบ ได้ยื่นรายการแสดงผล การตรวจโดยรายงานที่ ลงวันที่ เดือน ปีหมายเหตุ กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เลขที่ใบแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิต ภษ. 02-08 หนังสือแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิต ที่........................../.................................... ตามมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 วันที่...........เดือน..................พ.ศ. ............... ชื่อผู้มีหน้าที่เสียภาษี..................................................................................................................... ชื่อ................................................................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่........................................................... ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่................................................................................... นำเข้าเมื่อ.................................................... ตั้งอยู่เลขที่............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ....................... ที่อยู่สำนักงานตามหนังสือรับรองกระทรวงพาณิชย์เลขที่............................................................................................................................... ........................................................................................... อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ................................................................... หมวด ............................................ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 จึงขอแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติม สำหรับรอบระยะเวลาที่ตรวจสอบตั้งแต่......................................................... เป็นจำนวนเงิน.................................. บาท (ตัวอักษร)................................................................................................... บาท ให้ท่านชำระภาษีณ ........................................................................................................... ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมินภาษีสรรพสามิต ดังรายละเอียดต่อไปนี้ พิกัดประเภทที่ สินค้า/บริการ จำนวน สินค้า/บริการ หน่วย............... รวมมูลค่าทั้งสิ้น อัตราภาษี ภาษีที่ต้องชำระ เบี้ยปรับ ตามมาตรา 136 เงินเพิ่ม ตามมาตรา 137 ภาษีเก็บเพิ่มเพื่อ มหาดไทย รวมภาษีทั้งสิ้น เหตุผลที่ประเมิน (1.ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ 2. ข้อกฎหมายที่อ้างอิง 3.ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ) ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... ลงชื่อ............................................................ ลงชื่อ............................................................ (...........................................................) (...................................................... .....) พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ประเมิน พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เตรียมแบบ วันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. ............... วันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. ............... หมายเหตุ 1. ถ้าผู้มีหน้าที่เสียภาษีเห็นว่า การประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวนเงินภาษีที่ประเมินไว้ไม่ถูกต้อง หรือเหตุอื่นใดอันเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับผิดในการเสียภาษีตามการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้มีสิทธิ คัดค้านการประเมินต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน โดยยื่นคำคัดค้านตามแบบที่อธิบดีกำหนด ตามความในมาตรา 86 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 2. เงินเพิ่มได้คำนวณไว้ถึงวันที่..........เดือน..................... พ.ศ. ............... ถ้าชำระภายหลังจากวันดังกล่าว ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องเสียเงินเพิ่มเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน และถ้าไม่ชำระภาษีสรรพสามิตภายใน กำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามมาตรา 140 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ต่อไป โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ สถานประกอบการผู้นำเข้า ภษ. 02-11 หนังสือแจ้งผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ที่กค...................../.......................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... วันที่ ..........เดือน...................... พ.ศ. ........... เรื่อง แจ้งผลการตรวจสอบภาษี เรียน .......................................................................................... โดยที่การตรวจสอบภาษีราย...................................................................... ซึ่ง โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ สถานประกอบการผู้นำเข้า ชื่อ............................................................. ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่.............................. ที่อยู่............................... หมู่ที่.................ตรอก/ซอย.................................................... ถนน................................................ ตำบล/แขวง......................................................... อำเภอ/เขต........................................... จังหวัด............................................................ ตาม หนังสือเรียก หนังสือเชิญ ที่.................................. ลงวันที่.................... เดือน...................................... พ.ศ. ............................ สำนัก..................................................... ขอแจ้งยุติการตรวจสอบภาษีตาม หนังสือเรียก หนังสือเชิญ ฉบับดังกล่าว ขอแสดงความนับถือ ........................................................ (......................................................) ตำแหน่ง........................................................... หน่วยงาน ............................................ โทร. .................................................. ภษ. 02-15 หนังสือแจ้งผลการตรวจสอบภาษีณ สถานประกอบการ ที่......./....... ....................................... วันที่...........เดือน........................ พ.ศ. .......... เรียน ................................... อ้างถึง หนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ที่ ............/.............. ลงวันที่ ................................................. ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจสอบภาษีณ สถานประกอบการ เมื่อวันที่ .......... ........ ตามหนังสือนำตัวออกตรวจการเสียภาษีสรรพสามิต ที่ ............../............. ลงวันที่ ............................... ณ สถานประกอบการ ...................... .............................................................................. ทะเบียน สรรพสามิตเลขที่..................................... ตั้งอยู่เลขที่.......... หมู่ที่........... ตรอก / ซอย ........................... ถนน............................ ตำบล/แขวง............................ อำเภอ/เขต........................ จั งหวัด....................... โดย .................................................. ตำแหน่ง........................... เป็นผู้นำ การตรวจ สำหรับรอบระยะเวลายื่นแบบรายการภาษีเดือน....................... ............ถึง............................. โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง ผลการตรวจสอบให้ทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้วตามบันทึกคำให้การ (ตส. 04-06) ลงวันที่......................................... ดังนี้ 1.ข้อเท็จจริง ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………....…………………………………………… ……………………………… 2. ข้อกฎหมาย ………………………………………………………………………………..…………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………… 3.จากประเด็นความผิดดังกล่าวข้างต้น ทำให้ ………………………………………..……………. ต้องมี ภาระความรับผิดในค่าภาษีสรรพสามิต ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต ……………………… บาท เบี้ยปรับ ……………..……… บาท เงินเพิ่ม …………..………… บาท รวม …………..………… บาท ภาษีเพิ่มเพื่อมหาดไทย ……………..……… บาท รวมทั้งสิ้น …………..………… บาท หมายเหตุ เงินเพิ่มคิดถึงวันที่ ............................................... ภษ. 02-15/1 หนังสือแจ้งการรับทราบผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิต ที่กค ...................../.......................... ............................................................... ............................................................... วันที่ ..........เดือน...................... พ.ศ. ........... เรียน .......................................................................................... ผลการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตราย.......................................... ทะเบียนสรรพสามิต ใบขนสินค้า เลขที่........................................... โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ สถานประกอบการผู้นำเข้า ตั้งอยู่เลขที่......................... หมู่ที่.................... ตรอก/ซอย........................................ ถนน............................................... ตำบล/แขวง................................... อำเภอ/เขต......................................... จังหวัด.......................................... โดยวิธีการ หนังสือเรียก หนังสือเชิญ ที่.................../............... ลงวันที่.............เดือน........................... พ.ศ. .................. สำหรับรอบระยะเวลาที่ทำการตรวจสอบ .................................................................................. ปรากฏผลดังนี้ 1. ข้อเท็จจริงและประเด็นที่เป็นเหตุให้ต้องชำระภาษีเพิ่ม…….……………………………………………………………………………………………………………..………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ข้อกฎหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จากประเด็นข้างต้น ทำให้.................................................... ต้องมีภาระความรับผิดในค่าภาษีสรรพสามิต ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต ………………….………………. บาท เบี้ยปรับ …………………….……………. บาท เงินเพิ่ม …………………….……………. บาท รวม ……………….…………………. บาท ภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทย …………………….……………. บาท รวมทั้งสิ้น …………………………………. บาท หมายเหตุ เงินเพิ่มคิดถึงวันที่....................................................................................... อาศัยอำนาจตามมาตรา 118 (3) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ให้ท่านไปพบพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อ รับทราบผลการตรวจสอบ ในกรณีที่ท่านเห็นว่า ประเด็นความผิดข้างต้นไม่ถูกต้อง หรือมีเหตุอื่นใดให้ไม่ต้องรับผิดในการเสียภาษี สรรพสามิต ให้ท่านไปพบและชี้แจงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมนำบัญชีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปส่งมอบเพิ่มเติมได้ ณ ..................................................................... ภายในวันที่........................................ เวลา................... น. ทั้งนี้หากท่านเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ติดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนดเวลา พนักงานเจ้าหน้าที่จะถือว่าท่าน ทราบผลการตรวจสอบแล้ว และจงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ และอาศัยอำนาจตามมาตรา 79(3) มาตรา 136 และ มาตรา 137 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 จะทำการประเมินเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตตามที่เห็นว่าถูกต้อง ต่อไป ขอแสดงความนับถือ (..................................................) ตำแหน่ง................................................... หน่วยงาน .................................. โทร............................................(ชื่อผู้รับผิดชอบ)................................ คำสั่งให้ตรวจค้น ที่ ................./...................... สถานที่ออกคำสั่ง .................................... วันที่........เดือน.......................... พ.ศ. ........ โดยที่ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า ..................................................................... ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่......................................... หลีกเลี่ยงการเสียภาษีตามพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ประเภท สินค้า.......................................................... ปีพ.ศ. ............... อาศัยอำนาจตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ............... ................................................................................................... ........เห็นเป็นการจำเป็น ที่จะให้เจ้าพนักงานสรรพสามิตทำการตรวจค้น ยึดหรืออายัด บัญชีเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับหรือสันนิษฐานว่าเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตที่จะต้องเสียดังกล่าวข้างต้น ฉะนั้น จึงออกคำสั่ง ตรวจค้นฉบับนี้ให้ ............................................................ ตำแหน่ง ............... ................... พร้อมด้วย...................................................................................................................... ............................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................... ..... ทำการตรวจค้นในสถานที่/ยานพาหนะดังต่อไปนี้คือ ............................................................ ............................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................... ..... ในวันที่..............เดือน.............................. พ.ศ. ................... เพื่อทำการยึดหรืออายัด บัญชี เอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตที่จะต้องเสีย ลงชื่อ ................................................. ผู้ออกคำสั่งให้ตรวจค้น (................................................) ตำแหน่ง ..................................................... คำเตือน - เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามคำสั่ง ต้องแจ้งข้อความในคำสั่งให้แก่ ผู้ถูกตรวจค้นทราบ - การแจ้งข้อความในคำสั่งให้เจ้าพนักงานบันทึกการรับทราบ และความยินยอมให้ ตรวจค้นพร้อมทั้งวันเดือนปีไว้ด้านหลังของคำสั่งนี้ด้วย ภษ. 04-01 ภษ. 04-04 หนังสือเรียกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ที่....................../.................... สำนัก................................................ วันที่...........เดือน............................. พ.ศ. .......... หนังสือเรียกมายัง....................................................................................................................... โรงอุตสาหกรรม สถานบริการ สถานประกอบการผู้นำเข้า ชื่อ..................................................... สถานที่ตั้งเลขที่..................ตรอก/ซอย...............ถนน....................... ตำบล/แขวง.......................... อำเภอ/เขต......................... จังหวัด.............................. รหัสไปรษณีย์............... ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่......................................... ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่............................................ นำเข้าเมื่อ............................... สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ตามหนังสือรับรองกระทรวงพาณิชย์เลขที่..................................................................... ตรอก/ซอย................ถนน................................. ตำบล/แขวง........................ อำเภอ/เขต.............................. จังหวัด................................... รหัสไปรษณีย์........................ ด้วย............................................................................................................................... ............ ............................................................................................................................... ............................... อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ...................................................... หมวด ........................................ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ให้ท่านปฏิบัติดังต่อไปนี้ (1) ให้ท่านไป ณ ........................................................................................................................ ในวันที่..................เดือน........................................... พ.ศ. ......................... เวลา........................................ เพื่อให้ถ้อยคำประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการชำระภาษีสรรพสามิต (2) ให้ท่านนำ............................................................................................................................. ............................................................................................................................... ............................... ............................................................................................................................... ............................... (3) ในกรณีที่ท่านไม่สามารถมาพบด้วยตนเองได้จะมอบอำนาจให้บุคคลที่มีความรู้เกี่ยวกับการดำเนิน กิจการและเรื่องภาษีสรรพสามิตเป็นอย่างดีมาทำการแทนก็ได้ โดยให้จัดทำหนังสือมอบอำนาจปิดอากรแสตมป์ตาม กฎหมาย พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบ ลงชื่อ............................................. (...........................................) ตำแหน่ง......................................... หน่วยงาน .................................. โทร............................................(ชื่อผู้รับผิดชอบ)................................ คำเตือน 1. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกหรือคำสั่งโดยไม่มีเหตุอันสมควรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 146 2. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก โดยไม่มีเหตุอันสมควร พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจประเมินภาษี เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ตามมาตรา 79(3) 3. ในการพิจารณาทางปกครองที่คู่กรณีต้องมาปรากฏตั วต่อหน้าเจ้าหน้าที่คู่กรณีมีสิทธินำทนายความหรือที่ปรึกษาของตนเข้ามาในการพิจารณาทาง ปกครองได้การใดที่ทนายความหรือที่ปรึกษาได้ทำลงต่อหน้าคู่กรณีให้ถือว่าเป็นการกระทำของคู่กรณี เว้นแต่คู่กรณีจะได้คัดค้านเสียแต่ในขณะนั้น (พ.ร.บ.วิ ปกครองมาตรา 23) 4. คู่กรณีอาจมีหนังสือแต่งตั้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนดแทนตนในกระบวนการพิจารณาทาง ปกครองใดๆได้ ในการนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาทางปกครองกับตัวคู่กรณีได้เฉพาะเมื่อเป็นเรื่องที่ผู้นั้นมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องทำการนั้นด้วยตนเองและ ต้องแจ้งให้ผู้รับการแต่งตั้งให้กระทำแทนทราบด้วย หากปรากฏว่าผู้ได้รับการแต่งตั้งให้กระทำการแทนผู้ใดไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นเพียงพอหรือมีเหตุไม่ควร ไว้วางใจในความสามารถของบุคคลดังกล่าว ให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้คู่กรณีทราบโดยไม่ชักช้า การแต่งตั้งให้กระทำการแทนไม่ถือว่าสิ้นสุดลงเพราะความตายของคู่กรณี หรือการที่ความสามรถหรือความเป็นผู้แทนของคู่กรณีเปลี่ยนแปลงไป เว้นแต่ผู้สืบสิทธิตามกฎหมายของคู่กรณีหรือคู่กรณีจะถอนการแต่งตั้งดังกล่าว (พ.ร.บ.วิ ปกครองมาตรา 24) ใบรับหนังสือเรียก ข้าพเจ้า.................................................................... อายุ................................. ปี มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะ ............................................ ของ................................................. บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่................................................. ที่อยู่เลขที่........................ ตรอก/ซอย................................ ถนน................................. ตำบล/แขวง.......................... อำเภอ/เขต................................ จังหวัด.............................. รหัสไปรษณีย์........................ ได้รับหนังสือเรียกเลขที่................./............... ลงวันที่.........เดือน................... พ.ศ. .......... ออกตามความในมาตรา ................................ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ไว้แล้ว เมื่อวันที่..............เดือน.......................... พ.ศ. ..............เวลา...................... นาฬิกา ลงชื่อ................................... ผู้รับหนังสือเรียก (.......................................) ลงชื่อ.................................... ผู้ส่งหนังสือเรียก (.......................................) ลงชื่อ...................................... พยาน (........................................) ลงชื่อ...................................... พยาน (........................................) ภษ. 04-06 กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง หนังสือมอบอำนาจ ปิดอากรแสตมป์ เขียนที่ ............................................ วันที่...........เดือน....................... พ.ศ. .......... ข้าพเจ้า..................................................... มีฐานะเป็น เจ้าของ ผู้จัดการ กรรมการ ผู้จัดการของโรงอุตสาหกรรม ...................................................................... ทะเบียนสรรพสามิตเลขที่ ............................................. สถานที่ตั้งเลขที่............. ตรอก/ซอย.................... ถนน...................... ตำบล/แขวง................... อำเภอ/เขต...................... จังหวัด...................... รหัสไปรษณีย์.................. โทรศัพท์................................... ไม่สามารถให้ถ้อยคำหรือส่งมอบบัญชีเอกสารหลักฐานต่อเจ้าพนักงาน สรรพสามิต หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามหนังสือเชิญพบหรือหนังสือเรียก หรือหนังสือแจ้งให้เสียภาษีหรือ หนังสือยกคำคัดค้านการประเมิน ที่............./............... ลงวันที่........ เดือน.................... พ.ศ. ........ได้ จึงขอมอบอำนาจให้......................................................... อายุ............ปีอยู่บ้านเลขที่............. ตรอก/ซอย...................... ถนน..................... ตำบล/แขวง............................ อำเภอ/เขต.................... จังหวัด.................. ..........รหัสไปรษณีย์................โทรศัพท์................... บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ ........................................... ซึ่งออกให้ณ ที่............... .................... ซึ่งเป็นผู้รู้เรื่องเกี่ยวกับกิจการและ เรื่องภาษีสรรพสามิตของข้าพเจ้าเป็นอย่างดี เป็นผู้มาส่งมอบบัญชีเอกสารหลักฐาน ให้ถ้อยคำคำชี้แจง หรือตอบข้อซักถามของพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต การให้ถ้อยคำยินยอมเสียภาษีสรรพสามิต หรือปฏิเสธการรับผิดที่จะเสียภาษีสรรพสามิต ตลอดจนกิจการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวกับการตรวจสอบ ภาษีสรรพสามิตแทนตัวข้าพเจ้าได้จนเสร็จการ การกระทำใด ๆ ที่...................................................... ได้กระทำตามที่ข้าพเจ้ามอบหมายให้ กระทำการแทนไปดังกล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้ายอมรับผิดชอบเสมือนหนึ่งข้าพเจ้าได้กระทำการนั้น ๆ ด้วย ตัวข้าพเจ้าเองทั้งสิ้น เพื่อเป็นหลักฐานผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ต่างได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ ต่อหน้าพยานข้างท้ายนี้ ลงชื่อ............................................ ผู้มอบอำนาจ (...........................................) ลงชื่อ............................................ ผู้มอบอำนาจ (...........................................) ลงชื่อ............................................ ผู้รับมอบอำนาจ (...........................................) ลงชื่อ............................................ พยาน (...........................................) ลงชื่อ............................................ พยาน (...........................................) หนังสือเชิญเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต ที่........................./....................... ................................................. ................................................................. เรื่อง ................................................ เรียน ............................................... อ้างถึง ............................................. ด้วยทางราชการมีความประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงหรือข้อความบางอย่าง อันเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต............................................................................................. ............................................................................................................................... ... ............................................................................................................................... ... ฉะนั้น เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการและตัวท่าน จึงขอให้ท่านไป ณ ที่................. .......................... ในวันที่..............เดือน........................... พ.ศ. ............เวลา................น. และขอได้โปรดนำหนังสือนี้ และ....................................................................................... ............................................................................................................................... ... ไปประกอบการพิจารณาด้วย ขอแสดงความนับถือ (...........................................) ตำแหน่ง...................................... ......................................... โทร. .................................. ภษ. 04-07 เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๑๕๒ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:82861", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ระเบียบกรมสรรพสามิตว่าด้วยการตรวจสอบภาษีสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๓", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/152/1.PDF", "year": null }
nonweb_103800
ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน (ฉบับที่ ๑๐/๒๕๖๑) ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน (ฉบับที่ ๑๐/๒๕๖๑) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๘ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ อธิบดีกรมสรรพสามิตจึงประกาศกำหนดลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน ของ บริษัท นครปฐมเครื่องดื่ม จำกัด ไว้ดังต่อไปนี้ เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน ตามทะเบียนที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับจดไว้ เลขที่ ๒๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน มีลักษณะเป็นสิ่งผนึกภาชนะฝาเกลียว ทำด้ว ยอะลูมิเนียม เป็นรูปวงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๘ เซนติเมตร พื้นฝาสีแดง ตรงกลางฝามีรูปแรดสีเหลืองขอบสีน้ำตาลอยู่ในรูปวงกลมสีบรอนซ์เงิน “ ” เหนือ “ ” มีรูปกราฟฟิกส์ดาวสีบรอนซ์เงิน ๕ ดวง “ ” ถัดลงมา มีอักษรภาษาไทยสีบรอนซ์เงิน คำว่า “แรดโกลด์” “ ” ถัดออกมาด้านข้างฝาโดยรอบพื้นสีแดง มีอักษรภาษาไทย สัญลักษณ์ และตัวเลข สีบรอนซ์เงิน คำว่า “แรดโกลด์ บริษัท นครปฐม เครื่องดื่ม จำกัด เครื่องดื่มปริมาตรสุทธิ 150 ซม.3 ” รูปลักษณะฝา “ ” เพื่อนำไปผนึกภาชนะบรรจุเครื่องดื่ม ตรา แรดโกลด์ ปริมาตรสุทธิ ๑๕๐ ซม.๓ เท่านั้น ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ศศิโสภา เกียรติวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี ๑ ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมสรรพสามิต เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๖๒ ง ประกาศ ณ: ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๓
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:103801", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน (ฉบับที่ ๑๐/๒๕๖๑)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/062/T_0003.PDF", "year": null }
nonweb_83845
nan ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ “มูลนิธิรักอันดามัน” ด้วย นายณรงค์กิติ์ อักษรวรรณ ผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับของมูลนิธิรักอันดามัน ข้อ ๓ มีใจความ ดังนี้ ข้อ ๓ สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่เลขที่ ๔๔/๕ หมู่ที่ ๒ ถนนน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป๋า จังหวัดพังงา นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ มูลนิธิรายนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ นิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดี รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๑๓ ง ประกาศ ณ: ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๒๑๔
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:83846", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "nan", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/D/013/214.PDF", "year": null }
nonweb_103088
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ "มูลนิธิร่วมสันติสุข" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ “มูลนิธิร่วมสันติสุข” ด้วย นายสุเทพ เลิศเกียรติพานิชย์ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ มูลนิธิร่วมสันติสุข ข้อ ๑๗ มีใจความ ดังนี้ ข้อ ๑๗ เงินสดของมูลนิธิ ให้นำไปฝากไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงิน หรือ ซื้อพันธบัตร รัฐบาล แล้วแต่คณะกรรมการมูลนิธิเห็นสมควร การจ่ายเงินของมูลนิธิ ให้ประธานกรรมการ มีอำนาจสั่งจ่ายได้คราวละไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวน ดังกล่าว ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ เสียงข้างมากที่เข้าร่วมประชุม การสั่งจ่ายเงินของมูลนิธิด้วยเช็ค หรือ ตั๋วสั่งจ่ายเงิน หรือการเบิกถอนเงิน จากบัญชีเงินฝากของมูลนิธิ ต้องมีลายมือชื่อของประธานกรรมการ หรือผู้ทำการแทนลงนามทุกครั้ง เหรัญญิกให้มีอำนาจเก็บรักษาเงินสดไว้ได้ ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) และให้เหรัญญิก รายงานฐานะการเงินของมูลนิธิต่อที่ประชุมทุกครั้งที่มีการประชุม ให้คณะกรรมการมูลนิธิวางระเบียบเกี่ยวกับการเงิน บัญชี และทรัพย์สินของมูลนิธิ ตลอดจนกำหนดอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับการรับและจ่ายเงิน นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิรายนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๖ แห่งประมวลกฎหมา ยแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองอธิบดี รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๖๖ ง ประกาศ ณ: ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๗๔
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:103089", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ "มูลนิธิร่วมสันติสุข"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/066/T74.PDF", "year": null }
nonweb_106377
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๑๒/๒๕๖๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๑๒/๒๕๖๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ โกมล นมรักษ์ ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน หน้า ๑๕ 1ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑ บริษัท รอยัล บลู จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๐๔๓๑ ๒ ม.ค. ๒๕๖๒ ๓,๐๐๐ ,๐๐๐ ๒ บริษัท อินเตอร์รุ่งเรือง กรุ๊ป จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๐๑๔๗ ๒ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑๐ ,๐๐๐ ,๐๐๐ ๓ บริษัท รุ่งโรจน์พรเทพการช่าง จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๒๖๒๐ ๗ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๔ บริษัท เยาวราชฮาร์ดแวร์ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๒๕๐๖ ๗ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๕ บริษัท สิริวรทรัพย์ ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๒๘๓๒ ๗ ม.ค. ๒๕๖๒ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ๖ บริษัท ดิสเพลย์ ครีเอชั่น จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๓๐๗๓ ๘ ม.ค. ๒๕๖๒ ๓๐๐ ,๐๐๐ ๗ บริษัท เหล็กกลมพาณิชย์ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๔๐๒๙ ๙ ม.ค. ๒๕๖๒ ๒,๐๐๐ ,๐๐๐ ๘ บริษัท ทรัพย์บุญชัยถาวร จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๕๑๕๗ ๑๐ ม.ค. ๒๕๖๒ ๕๐๐ ,๐๐๐ ๙ บริษัท เวฟ แอนด์ แวน ทัวร์ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๖๐๐๕ ๑๑ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๑๐ บริษัท ไทย ลีคอนซัลท์แทนท์ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๖๗๕๗ ๑๑ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑๐๐ ,๐๐๐ ๑๑ บริษัท อิสรา โคลเสท จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๗๓๐๓ ๑๔ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๑๒ บริษัท วี .ที.อินเตอร์ เอเชีย จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๗๑๖๘ ๑๔ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๑๓ บริษัท รุ่งชัยเจริญ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๘๔๓๑ ๑๕ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ รายละเอียดการจดทะเบียนแปรสภาพห้างหุ้นส่วนเป็นบริษัทจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป . 12/2562 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 2ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนทุนจดทะเบียน หน่วย/บาทหมายเหตุ ๑๔ บริษัท เกซารซิงห์โก จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๐๘๘๘๑ ๑๖ ม.ค. ๒๕๖๒ ๔๕๐ ,๐๐๐ ๑๕ บริษัท พี เอส พี ไลท์ติ้ง จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๑๐๑๑๘ ๑๗ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑๕๐ ,๐๐๐ ๑๖ บริษัท พีทีเอ็กซ์ ซัพพลาย (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๑๓๕๖๗ ๒๒ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๑๗ บริษัท แอร์โค วิศวกรรม จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๑๖๕๗๔ ๒๕ ม.ค. ๒๕๖๒ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ ๑๘ บริษัท พี .พี.อินทีเรียดีไซน์ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๑๙๐๗๗ ๒๙ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ ๑๙ บริษัท เล็ก บริการขนส่ง จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๒๐๒๖๑ ๓๐ ม.ค. ๒๕๖๒ ๑,๖๐๐ ,๐๐๐ ๒๐ บริษัท นิว ทรัพย์สอน จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๒๑๒๒๕ ๓๑ ม.ค. ๒๕๖๒ ๕,๐๐๐ ,๐๐๐ เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๓๗ ค ประกาศ ณ: ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:106378", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๑๒/๒๕๖๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/C/037/T_0015.PDF", "year": null }
nonweb_86098
ประกาศนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ ๒/๒๕๕๔ เรื่อง การจดทะเบียนสหภาพแรงงาน [สหภาพแรงงานเอคโคออโต้พาร์ทสัมพันธ์] ประกาศนายทะเบียนสำนักงานทะเบียน ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ ๒/๒๕๕๔ เรื่อง การจดทะเบียนสหภาพแรงงาน ขอประกาศว่า นายทะเบียนสำนักงา นทะเบียนประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับจดทะเบียน สหภาพแรงงาน ตามความในมาตรา ๙๑ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมี รายละเอียด ดังต่อไปนี้ เลขทะเบียนที่ฉช ๒/๒๕๕๔ วันรับจดทะเบียน ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๔ ชื่อ สหภาพแรงงานเอคโคออโต้พาร์ทสัมพันธ์ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อการแสวงหาและคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง ๒. ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และระหว่างลูกจ้าง ด้วยกัน สำนักงาน เลขที่ ๑/๙๑๑ ซอย ๘/๒ หมู่ที่ ๑๔ ถนนจรัญยานนท์ ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ ๐ ๘๑๔๒ ๐๗๖๔ -๗ ผู้เริ่มก่อการ ๑. นายสุริยันต์ วงศ์ใหญ่ ๒. นายไพรัตน์ วายลม ๓. นายถวิล อุ่นจิตร ๔. นายธีระ ตาดสุวรรณ์ ๕. นายสมหมาย วงศ์ใหญ่ ๖. นายสุชิน จิตรสุภา ๗. นางสาวสมทรง เสาวพงศ์ ๘. นางสาวสร้อยทอง อ่ำคำ ๙. นางสาวภาวิณี เชี่ยวเวช ๑๐. นายวิรัจ สมจิตต์ ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ กิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายทะเบียนสำนักงานทะเบียน ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา เล่ม: ๑๒๘ หมวด: ๑๑๒ ง ประกาศ ณ: ๐๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หน้า: ๑๘๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:86099", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ ๒/๒๕๕๔ เรื่อง การจดทะเบียนสหภาพแรงงาน [สหภาพแรงงานเอคโคออโต้พาร์ทสัมพันธ์]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/D/112/182.PDF", "year": null }
nonweb_108866
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๕๒๑๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบัตรชี้บ่งลักษณะเฉพาะตัว - บัตรวงจรรวมไร้การสัมผัส - บัตรทาบ เล่ม ๑ ลักษณะเฉพาะทางกายภาพ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 5211 (พ.ศ. 2562) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม บัตรชี้บ่งลักษณะเฉพาะตัว - บัตรวงจรรวมไร้การสัมผัส - บัตรทาบ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม บัตรชี้บ่ง ลักษณะเฉพาะตัว - บัตรวงจรรวมไร้การสัมผัส - บัตรทาบ เล่ม 1 ลักษณะเฉพาะทางกายภาพ มาตรฐานเลขที่มอก. 2860 เล่ม 1 - 2560 ไว้ดังมีรายละเอียดต่อท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หน้า ๑๗ ข้อมูลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แนบท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 5211 (พ.ศ.2562) ชื่อมาตรฐาน : บัตรชี้บ่งลักษณะเฉพาะตัว – บัตรวงจรรวมไร้การสัมผัส – บัตรทาบ CARDS – CONTACTLESS INTEGRATED CIRCUIT CARDS – PROXIMITY CARDS – PART 1: PHYSICAL CHARACTERISTICS มาตรฐานเลขที่ : มอก. 2860 เล่ม 1−2560 ผู้จัดทำ : สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรรมการวิชาการ : คณะกรรมการวิชาการ คณะที่ 999 ขอบข่าย : มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนี้ รายละเอียดให้เป็นไปตาม ISO/IEC 14443-1 : 2016 ข้อ 1 โดยมีข้อความ ดังนี้ กำหนดลักษณะเฉพาะทางกายภาพของบัตรทาบ (proximity card) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมนี้ใช้ร่วมกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม บัตรชี้บ่งลักษณะเฉพาะตัวเล่มอื่น เนื้อหาประกอบด้วย : บททั่วไป ขอบข่าย เอกสารอ้างอิง บทนิยาม ลักษณะเฉพาะทางกายภาพ นิยามประเภทของบัตรทาบ และความเข้ากันได้กับมาตรฐานอื่น จำนวนหน้า : 17 หน้า ISBN : 978-616-346-739-3 ICS : 35.240.15 สถานที่จัดเก็บ : ห้องสมุดสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 สถานที่จำหน่าย : กองส่งเสริมและพัฒนาด้านการมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0 2202 3 426 เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๑๖๖ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:108867", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๕๒๑๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบัตรชี้บ่งลักษณะเฉพาะตัว - บัตรวงจรรวมไร้การสัมผัส - บัตรทาบ เล่ม ๑ ลักษณะเฉพาะทางกายภาพ", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/166/T_0017.PDF", "year": null }
nonweb_87828
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๗๐) พ.ศ. ๒๕๕๖ พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๗๐) พ.ศ. ๒๕๕๖ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ณ วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นปีที่ ๖๘ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้บางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตรา พระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๗๐) พ.ศ. ๒๕๕๖” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๒ และส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงิน ที่ได้รับจากรัฐบาล เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่นที่อาจเกิดขึ้น ในประเทศไทยอันมีลักษณะถาวร ทั้งนี้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี มาตรา ๔ ผู้มีเงินได้ต้องไม่นำมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่ได้ทำขึ้นเพื่อป้องกันอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอันมีลักษณะถาวร ในส่วนที่เท่ากับเงินได้ที่ได้รับยกเว้น ตามมาตรา ๓ ไปรวมเป็นมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินเพื่อหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือ โดยที่รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่ภาคเอกชนในการดำเนินการเพื่อป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อเป็น การสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนและสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนที่จะดำเนินการดังกล่าว สมควรยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินที่ได้รับจากรัฐบาลเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการเพื่อป้องกันอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่นที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยอันมีลักษณะถาวร จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ เล่ม: ๑๓๐ หมวด: ๑๒๓ ก ประกาศ ณ: ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:87829", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๗๐) พ.ศ. ๒๕๕๖", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/A/123/1.PDF", "year": null }
nonweb_92701
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิษณุโลก เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิ มังกร ประพันธ์วัฒนะ" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดพิษณุโลก เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิ มังกร ประพันธ์วัฒนะ” ด้วย ภญ.รศ.ดร.จันทรรัตน์ สิทธิวรนันท์ ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิต่อนายทะเบียน มูลนิธิจังหวัดพิษณุโลก มีใจความสำคัญตามข้อบังคับของมู ลนิธิ ดังนี้ ๑. มูลนิธิชื่อ “มูลนิธิ มังกร ประพันธ์วัฒนะ” ๒. วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ คือ ๒.๑ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเรียน การสอน และการฝกปฏิบัติงานของ นิสิต คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ๒.๒ ส่งเสริมการพัฒนาการจัดการความรู้การพัฒนาคุณภาพระบบยาของป ระเทศไทย ๒.๓ ส่งเสริมและเผยแพร่การใช้ยาสมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้องแก่ประชาชน ๒.๔ ร่วมมือกับองค์กรอื่นเพื่อสาธารณประโยชน์ ๒.๕ ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการเมืองแต่ประการใด ๓. สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่ณ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เลขที่ ๙๙ หมู่ที่ ๙ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ๔. ทรัพย์สินของมูลนิธิมีทุนเริ่มแรกคือ เงินสดจำนวน ๘๔๘,๐๘๒.๒๒ บาท (แปดแสนสี่หมื่น แปดพันแปดสิบสองบาทยี่สิบสองสตางค์) ๕. การจัดการของมูลนิธิในวาระเริ่มแรกมีคณะกรรมการดำเนินการ มีราย นามดังต่อไปนี้ ๕.๑ ภญ.รศ.ดร.จันทรรัตน์ สิทธิวรนันท์ ประธานกรรมการ ๕.๒ ภญ.จุฑาทิพย์ มีผดุง รองประธานกรรมการ ๑ ๕.๓ ภญ.จินดา ปิยสิริวัฒน์ รองประธานกรรมการ ๒ ๕.๔ ภญ.วิชชุนี พิตรากูล กรรมการ ๕.๕ ภญ.ผศ.อภิรักษ์ วงศ์รัตนชัย กรรมการ ๕.๖ นางสาวสุมล ประพันธ์วัฒนะ กรรมการ ๕.๗ ภก.วรวิทย์ พูลสวัสดิ์กิติกูล กรรมการ ๕.๘ ภญ.ศรีอโศก สุจริต กรรมการ ๕.๙ ภญ.ไพทิพย์ เหลืองเรืองรอง กรรมการ ๕.๑๐ ภญ.รศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ กรรมการ ๕.๑๑ นายปวรวรรชร์ ทองคำ เหรัญญิก ๕.๑๒ ภก.พิชญ์สิทธิ์ อุดมนุชัยทรัพย์ เลขานุการ นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิษณุโลก ได้อนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิรายนี้แล้ว เลขทะเบียนลำดับที่พล ๙๓/๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระให ม่พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิษณุโลก เล่ม: ๑๓๒ หมวด: ๑๐๐ ง ประกาศ ณ: ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ หน้า: ๔๓
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:92702", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิษณุโลก เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง \"มูลนิธิ มังกร ประพันธ์วัฒนะ\"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/D/100/43.PDF", "year": null }
nonweb_101625
ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง ประทานบัตรสิ้นอายุ [๒๗๔๑๐/๑๔๕๔๓ นายสถาวร เลิศประสิทธิ์] ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง ประทานบัตรสิ้นอายุ ด้วย ประทานบัตรที่ ๒๗๔๑๐/๑๔๕๔๓ ของ นายสถาวร เลิศประสิทธิ์ ชนิดแร่ถ่านหิน โดยวิธีเหมืองหาบ ที่ตำบลแม่ตีบ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ประทานบัตรมีอายุ ๒๕ ปี นับแต่วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๓๕ และสิ้นอายุวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๐ ประทานบัตรดังกล่าวได้ครบกำหนดสิ้นอายุ จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๓๑ ง ประกาศ ณ: ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๑๓
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:101626", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง ประทานบัตรสิ้นอายุ [๒๗๔๑๐/๑๔๕๔๓ นายสถาวร เลิศประสิทธิ์]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/031/13.PDF", "year": null }
nonweb_81310
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๓๔๐/๒๕๕๐ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๓๔๐ /๒๕๕๐ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ องอาจ วงศ์วโรฬาร ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน วันที่รับ จดทะเบียน 1. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.บี.พริ้นติ้ง 0103548028763 1 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อพาร์ทเม้นดาวู้ด 0103533006602 2 ธ.ค. 48 3,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน แมนชั่น 3. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก่อเกษมกิจ 0103531017941 6 ธ.ค. 48 5,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 4. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัฐกานต์ 0103547030471 6 ธ.ค. 48 400,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน ซัพพลาย แอนด์ เซอร์วิส 5. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีพี เซอร์วิส 0103548011160 7 ธ.ค. 48 2,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน คอร์ปอเรชั่น 6. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.จี.ทัวร์ แอนด์ 0103548043428 7 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขชื่อ อินเตอร์เน็ต เซอร์วิส 2. แก้ไขตรา 7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เท็นเดอร์ เทรดดิ้ง 0103547002671 9 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ 2. แก้ไขที่ตั้งสำนักงานรายละเอียดการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ห้างหุ้นส่วนจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. 340/2550 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 หมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 1 วันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 8. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัฐพิชญ์ คาร์เรนท์ 0103548000176 9 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 9. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อนันต์โชค 0103538028779 13 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 10. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลัคกี้วิน อินเตอร์ 0103546042963 13 ธ.ค. 48 500,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน เทรด จำกัด 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 11. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. ไชยสิทธิ์ 0103537005163 14 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. รายการอื่นๆ 12. ห้างหุ้นส่วนจำกัด วรินทร์ทราย 0103548017443 15 ธ.ค. 48 200,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ 2. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน 13. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อี.เอ็ม.อาร์. 0103548024181 15 ธ.ค. 48 5,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน เอ็นเตอร์ไพร์ส 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. แก้ไขอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ 14. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรายท่าตำหนัก 0243548001104 15 ธ.ค. 48 30,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน กรุ๊ป (ประเทศไทย)2 . แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. แก้ไขอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ 2 วันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 15. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธงชัยแอร์ 0103547017377 16 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ เซ็นเตอร์ แอนด์ เซอร์วิส 16. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรรัตน ซัพพลาย 0103545023221 19 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ 17. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.วุฒิดล 0103547046580 19 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ เอ็นจิเนียริ่ง 2. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 3. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 18. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินฟินิตี้อินเตอร์ 0103548023915 19 ธ.ค. 48 10,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน เทรด 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. แก้ไขอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ 19. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออดิโอ คอนซัล 0103527022260 20 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน แตนท์ 2. แก้ไขตรา 20. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟอร์ ชาร์มี่ 0103547010429 20 ธ.ค. 48 3,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 21. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.ดี.ฮอลิเดย์ 0103548043967 20 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน บิซิเนส แอนด์ คอนซัลแตนซ์ 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3 วันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 22. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์สมบูรณ์ 0103534032232 21 ธ.ค. 48 2,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน การท่องเที่ยว 23. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไดมอนด์ อิมเมจิน 0103545007579 21 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. รายการอื่นๆ 24. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.โอเล่บากุส 0103547043335 21 ธ.ค. 48 4,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 25. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สลิล ซัพพลาย 0103548001539 21 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 26. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อบอุ่น คอสเมติค 0103548043487 21 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. แก้ไขอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ 27. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อำนาจเจริญ 0113541001096 21 ธ.ค. 48 630,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน เอ็นจิเนียริ่ง 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 4 วันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 28. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันทร์พิมพ์ 2520 0103546011278 23 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขชื่อ 2. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน 3. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 4. แก้ไขตรา 29. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิวเวลรี่ โฟน 0103546017098 23 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ อินดัสทรีส์ 30. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี แอล กราฟฟิค 0103546027239 26 ธ.ค. 48 500,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน แอนด์ เพรส 31. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศราพัช ก่อสร้าง 0103547010097 26 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน และการโยธา 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 32. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไนซ์ ไทม์ คอฟฟี 0103548009998 26 ธ.ค. 48 1,200,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน 33. ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรภัทร อินเตอร์ 0133546002490 26 ธ.ค. 48 1,500,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน เทรด 5 วันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 34. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียรติยศ (1998) 0103537031199 27 ธ.ค. 48 31,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน 2. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 3. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 35. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ เอ เอส 0103544030640 27 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน อะไหล่ยนต์ 36. ห้างหุ้นส่วนจำกัด กัมพลกิจ 0103547026066 27 ธ.ค. 48 1,000,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน เอ็นจิเนียริ่ง 37. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนินา 0103548047253 27 ธ.ค. 48 500,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน มาร์เก็ตติ้ง 38. ห้างหุ้นส่วนจำกัด กายส์ แอนด์ 0103519009870 28 ธ.ค. 48 11,000,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน ดอลส์ 39. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกลด์เทรดดิ้ง 0103538040388 28 ธ.ค. 48 2,100,000 บาท 1. แก้ไขวัตถุประสงค์ 2. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 3. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 6 วันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน ทุนจดทะเบียน 40. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สองดรุณ ทราน 0103545007625 28 ธ.ค. 48 500,000 บาท 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน สปอร์ต 2. แก้ไขหุ้นส่วนผู้จัดการ 3. แก้ไขอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ 41. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิวกร แอดเวอร์ 0103535033330 29 ธ.ค. 48 1,300,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน ไทซิ่ง 2. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 42. ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิโคโม แอนด์ 0103536040542 29 ธ.ค. 48 10,000,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน โปร 43. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวิลด์ คลาส 0103540006043 29 ธ.ค. 48 500,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน คิทเช่น 44. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรายทรัพย์อนันต์ 0103545003450 30 ธ.ค. 48 120,000 บาท 1. แก้ไขที่ตั้งสำนักงาน 7 เล่ม: ๑๒๕ หมวด: ๙ ค ประกาศ ณ: ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ หน้า: ๔
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:81311", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๓๔๐/๒๕๕๐ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/C/009/4.PDF", "year": null }
nonweb_99644
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยที่เป็นการสมควรตราข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ว่าด้วยการจัดการสิ่งปฏิกูล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๗ (๒) และมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมาตรา ๒๐ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ องค์การบริหารส่ว นตำบลหนองบ่อ โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ และนายอำเภอนำแก จึงตราข้อบัญญัติไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง การจัดการ สิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บัง คับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศโดยเปิดเผย ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ในข้อบัญญัตินี้ “สิ่งปฏิกูล” หมายความว่า อุจจาระหรือป้สสาวะของคน หรือสิ่งอื่นใดที่ปนเปื้อน อุจจาระหรือป้สสาวะ “การจัดการสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า กระบวนการดำเนินการตั้งแต่การรองรับ การเก็บ การขนและการกำจัดสิ่งปฏิกูล “ส้วม” หมายความว่า สถานที่ที่จัดไว้สำหรับถ่ายอุจจาระหรือป้สสาวะ และให้ หมายความรวมถึงระบบรองรับสิ่งปฏิกูล “ส้วมส่วนรวม” หมายความว่า ส้วมที่จัดไว้เพื่อให้บริการเป็นการทั่วไปภายใน หน่วยงานของรัฐเอกชน หรือสถานที่ต่าง ๆ และให้หมายความรวมถึงส้วมสาธารณะ ไม่ว่าจะมี การจัดเก็บค่าใช้จ่ายหรือไม่หน้า ๔๒ “ส้วมเคลื่อนที่” หมายความว่า ส้วมที่ติดตั้งในยานพาหนะหรือแพ “ส้วมชั่วคราว” หมายความว่า ส้วมที่ไม่ได้สร้างเป็นการถาวร และให้หมายความรวมถึง ส้วมประกอบสำเร็จรูป “ถังเก็บกักสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า ถังหรือบ่อที่มีลักษณะที่มิดชิด น้ำซึมผ่านไม่ได้ เพื่อใช้เป็นที่รองรับสิ่งปฏิกูลจากส้วมก่อนขนไปกำจัด “การขนสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า การสูบสิ่งปฏิกูลจากถังเก็บกักสิ่งปฏิกู ลแล้วนำไปยัง ระบบบำบัดหรือกำจัดสิ่งปฏิกูลรวม “การกำจัดสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า การปรับปรุงหรือแปรสภาพสิ่งปฏิกูล ให้ปราศจากมลภาวะสภาพอันน่ารังเกียจ หรือการก่อให้เกิดโรค เพื่อนำไปใช้ประโยชน์หรือทำลาย “กากตะกอน” หมายความว่า ส่วนที่เป็นของแข็งซึ่งเหลือจา กการกำจัดสิ่งปฏิกูล “ราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้น “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ และรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๔ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ หมวด ๑ บททั่วไป ข้อ ๕ การจัดการสิ่งปฏิกูลในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อให้เป็นหน้าที่ และอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่ออาจจะมอบหมายให้ หน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น หรือเอกชนเป็นผู้ดำเนินการหรือทำร่วมกับองค์การบริหาร้หนา ๔๓ ส่วนตำบลหนองบ่อก็ได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดโดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้การมอบให้เอกชนดำเนินการหรือร่วมดำเนินการดังกล่าว มิให้ถือว่าเป็น การร่วมลงทุนตามกฎหมาย ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แต่หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดดังกล่าว ต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วย การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐประกอบด้วย ข้อ ๖ การจัดการของเสียอันตรายและของเสียไม่อันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่ในกรณีที่มีของเสียอันตรายหรือของเสียไม่อันตราย ปนอยู่กับสิ่งปฏิกูล ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อจัดเก็บ ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น หรือเอกชนที่ได้รับมอบหมา ยให้จัดเก็บ แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานมาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานต่อไป ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวต้องเริ่มดำเนินการภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว หากพนักงานเจ้าหน้าที่นั้นยังมิได้ดำเนินการ ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น หรือเอกชนที่ได้รับมอบหมายให้จัดเก็บ ดำเนินการกับสิ่งปฏิกูลนั้น ตามที่เห็นสมควร และให้สันนิษฐานว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานที่ได้รับแจ้ง จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ข้อ ๗ สิ่งปฏิกูลที่จัดเก็บได้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น หรือเอกชนที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งดำเนินการจัดเก็บย่อมมีอำนาจนำไปดำเนินการ ใช้หรือหาประโยชน์ได้ตามความเหมาะสมหรือตามข้อตกลงที่ทำไว้ระหว่างกันและตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ข้อ ๘ ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นอาจร้องขอเป็นหนังสือให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เป็นผู้ดำเนินการจัดการสิ่งปฏิกูลในเขตพื้นที่ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นก็ได้ทั้งนี้ ให้เป็นไปโดยความสมัครใจ ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ โดยมิให้ถือว่าเป็นการทำกิจการนอกเขตตามกฎหมายว่าด้วย การจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้อ ๙ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อมีหน้าที่ที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูล จากผู้ที่เกี่ยวข้องตามอัตราที่กำหนดท้ายข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลนี้หน้า ๔๔ ข้อ ๑๐ ห้ามมิให้ผู้ใดถ่าย เท ทิ้ง หรือทำให้มีขึ้นในที่หรือทางสาธารณะซึ่งสิ่งปฏิกูล นอกจากถ่าย เท ทิ้ง หรือกำจัด ณ สถานที่หรือตามวิธีที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อกำหนด หรือจัดให้ ข้อ ๑๑ ในกรณีที่มีการจัดงานมหรสพ งานเทศกาล งานแสดงสินค้า การชุมนุม การชุมนุมสาธารณะ หรือกิจกรรมอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการตั้งแต่สามชั่วโมงขึ้นไป ผู้จัด หรือผู้รับผิดชอบการดำเนินการดังกล่าวต้องจัดให้มีส้วม ส้วมส่วนรวม ส้วมเคลื่อนที่หรือส้วมชั่วคราว ที่ถูกสุขลักษณะสำ หรับให้บริการอย่างเพียงพอ เมื่อการดำเนินการตามวรรคหนึ่งเสร็จสิ้น ในกรณีที่มีการติดตั้งส้วมเคลื่อนที่หรือส้วมชั่วคราว ให้ผู้จัดหรือผู้รับผิดชอบรื้อถอนและปรับสภาพพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้เรียบร้อยและถูกสุขลักษณะ ในการนี้ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงาน สาธารณสุขมีอำนาจตรวจสอบความเรียบร้อยในการรื้อถอน และปรับสภาพพื้นที่ดังกล่าว ข้อ ๑๒ ในกรณีที่เกิดสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นจัดให้มีส้วมเคลื่อนที่หรือส้วมชั่วคราวที่ถูกสุขลักษณะ สำหรับให้บริการตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ หมวด ๒ หลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการเกี่ยวกับสุขลักษณะในการจัดการสิ่งปฏิกูล ------------------------------- ส่วนที่ ๑ สุขลักษณะของห้องส้วม ข้อ ๑๓ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร หรือสถานที่ที่ให้บริการส้วมส่วนรวมต้องดำเนินการ ให้ส้วมดังกล่าวถูกสุขลักษณะตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ ดังต่อไปนี้ (๑) จัดให้มีภาชนะรองรับมูลฝอยทั่วไปที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด มีฝาปิดมิดชิด และอยู่ในสภาพดี ไม่รั่วซึม ตั้งอยู่ในบริเวณอ่างล้างมือหรือบริเวณใกล้เคียง (๒) จัดให้มีสบู่สำหรับล้างมือซึ่งพร้อมใช้งานได้หน้า ๔๕ (๓) ดูแลพื้น ผนัง เพดาน โถส้วม โถป้สสาวะ และที่กดเปิดปิดน้ำของโถส้วม และโถป้สสาวะให้สะอาด รวมทั้งต้องบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งานได้ (๔) จัดให้มีถังเก็บกักสิ่งปฏิกูลที่มีสภาพดี ไม่ชำรุด ไม่แตก หรือรั่วซึม สามารถป้องกันสัตว์ และแมลงพาหะนำโรคเมื่อถังเก็บกักสิ่งปฏิกูลเต็มหรือเลิกใช้งานต้องขนสิ่งปฏิกูลไปกำจัดให้ได้มาตรฐาน ข้อ ๑๔ ยานพาหนะหรือแพที่มีส้วมเคลื่อนที่ ให้เจ้าของยานพาหนะหรือแพต้องดำเนินการ ให้ส้วมดังกล่าวถูกสุขลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ข้อ ๑๕ ผู้ที่จัดให้มีส้วมชั่วคราวต้องดำเนินการให้ส้วมดังกล่าวถูกสุขลักษณะตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ส่วนที่ ๒ สุขลักษณะในการขนสิ่งปฏิกูล ข้อ ๑๖ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หรือองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อร่ว มกับ หน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น ที่ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน และเอกชน ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อมอบให้ดำเนินการขนสิ่งปฏิกูลภายใต้การควบคุมดูแลขององค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองบ่อ รวมทั้งเอกชนซึ่งได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ดำเนินกิจการรับทำการขน สิ่งปฏิกูลโดยทำเป็นธุรกิจ หรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ แล้วแต่กรณี ต้องขนสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะ ดังต่อไปนี้ (๑) จัดให้มียานพาหนะขนสิ่งปฏิกูลและอุปกรณ์ที่จำเป็นตามที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติ องค์การบริหารส่วนตำบลนี้ที่มีจำนวนเพียงพอกับการให้บริการ (๒) ดำเนินการสูบ สิ่งปฏิกูลในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยต้องมีมาตรการป้องกันก ลิ่น ในขณะที่ทำการสูบสิ่งปฏิกูล เพื่อไม่ให้รบกวนอาคารสถานที่ใกล้เคียงจนเป็นเหตุรำคาญ (๓) ทำความสะอาดท่อสำหรับใช้สูบสิ่งปฏิกูลหลังจากสูบสิ่งปฏิกูลเสร็จแล้ว โดยการสูบน้ำสะอาดจากถังเพื่อล้างภายในท่อหรือสายสูบ และทำความสะอาดท่อหรือสายสูบด้านนอก ที่สัมผัสสิ่งปฏิกูลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (๔) ในกรณีที่มีสิ่งปฏิกูลหกหล่นให้ทำลายเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำ (๕) จัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีสภาพพร้อมใช้งาน สำหรับผู้ปฏิบัติงานสูบและขนสิ่งปฏิกูล รวมทั้งจัดให้มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือป้องกันอุบัติเหตุ หน้า ๔๖ ที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน ตลอดจนเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ประจำยานพาหนะ ขนสิ่งปฏิกูล และตรว จตราควบคุมให้มีการใส่อุปกรณ์หรือเครื่องมือดังกล่าว (๖) ผู้ปฏิบัติงานสูบและขนสิ่งปฏิกูลต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิด ถุงมือยางหนา ผำปิดปากปิดจมูก และสวมรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง และต้องทำความสะอาด ถุงมือยางหนา และรองเท้า พื้นยางหุ้มแข้งทุกครั้งหลังการปฏิบัติงาน (๗) ต้องทำความสะอา ดยานพาหนะขนสิ่งปฏิกูลหลังจากที่ออกปฏิบัติงานอย่างน้อย วันละหนึ่งครั้ง และน้ำเสียที่เกิดจากการทำความสะอาดต้องเข้าสู่ระบบบำบัดหรือกำจัดน้ำเสีย หรือบ่อซึมโดยบ่อซึมต้องอยู่ห่างจากแม่น้ำ คู คลอง หรือแหล่งน้ำธรรมชาติไม่น้อยกว่าสิบเมตร (๘) ต้องจัดให้มีสถาน ที่เฉพาะที่มีขนาดกว้างขวางเพียงพอสำหรับจอดเก็บยานพาหนะ ขนสิ่งปฏิกูล (๙) หำมนำยานพาหนะขนสิ่งปฏิกูลไปใช้กิจการอื่น และหำมนำสิ่งปฏิกูลไปทิ้ง ในที่สาธารณะ ข้อ ๑๗ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หรือองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อร่วมกับ หน่วยงานของรัฐ หรือรา ชการส่วนท้องถิ่นอื่นที่ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน และเอกชน ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อมอบให้ดำเนินการขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลภายใต้การควบคุมดูแล ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ รวมทั้งเอกชนซึ่งได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ให้ดำเนินกิจการรับทำ การขนและกำจัดสิ่งปฏิกูลโดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทน ด้วยการคิดค่าบริการ แล้วแต่กรณี ต้องจัดให้ผู้ปฏิบัติงานที่ทำหน้าที่สูบและขนสิ่งปฏิกูลได้รับ การตรวจสุขภาพประจำปี และได้รับการฝกอบรมความรู้เกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูล ข้อ ๑๘ ยานพาหนะสำ หรับขนสิ่งปฏิกูลต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ (๑) ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก (๒) ถังที่ใช้บรรจุสิ่งปฏิกูลต้องมีฝาเปิดและปิดอยู่ด้านบน โดยสามารถปิดได้มิดชิด ไม่รั่วซึม และป้องกันกลิ่นสัตว์ และแมลงพาหะนำโรคได้ (๓) ท่อหรือสายที่ใช้สูบสิ่งปฏิกูลต้องไม่รั่วซึม (๔) มีป้มสูบสิ่งปฏิกูลที่สามารถสูบตะกอนหนักได้ และมีมาตรวัดสิ่งปฏิกูล ซึ่งอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดีหน้า ๔๗ (๕) มีช่องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดประจำยานพาหนะสูบสิ่งปฏิกูล เช่น ถังใส่น้ำ ไม้กวาด น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น (๖) บนตัวถังที่ใช้บรรจุสิ่งปฏิกูลต้องมีข้อความว่า “ใช้เฉพาะขนสิ่งปฏิกูล” หรือ “รถดูดสิ่งปฏิกูล” โดยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก ในกรณีที่การขนสิ่งปฏิกูลดำเนินการโดยราชการส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นนั้น แสดงชื่อของราชการส่วนท้องถิ่นด้วยตัวหนังสือขนาดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนไว้ที่ภายนอกตัวถัง ด้านข้างทั้งสองด้านของยานพาหนะขนสิ่งปฏิกูลในบริเวณที่บุคคลภายนอกสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในกรณีที่การขนสิ่งปฏิกูลดำเนินการโดยผู้ที่ได้รับมอบให้เป็นผู้ขนสิ่งปฏิกูลภายใต้การควบคุมดูแล ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ให้ผู้ที่รับมอบนั้นแสดงชื่อองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ด้วยตัวหนังสือขนาดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนไว้ที่ภายนอกตัวถังด้านข้างทั้งสองด้านของยานพาหนะ ขนสิ่งปฏิกูล พร้อมกับแสดงแผ่นป้ายระบุชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่ได้รับ มอบในบริเวณ ที่บุคคลภายนอกสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในกรณีที่การขนสิ่งปฏิกูลดำเนินการโดยผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตแสดงรหัสหรือหมายเลขทะเบียนใบอนุญาต ในกรณีที่ได้รับใบอนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อหลายแห่ง ให้แสดงเฉพาะเลขทะเบียนใบอนุญาตใบแรก และให้เก็บสำเนาหลักฐาน ใบอนุญาตใบอื่นไว้ที่ยานพาหนะขนสิ่งปฏิกูลเพื่อการตรวจสอบ โดยทุกกรณีต้องแสดงแผ่นป้ายระบุชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของบริษัทหรือเจ้าของกิจการขนาดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนไว้ที่ภายนอกตัวถังด้านข้าง ทั้งสองด้านของยานพาหนะขนสิ่งปฏิกูลในบริเวณที่บุคคลภายนอกสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยตัวอักษรต้องมีความสูงไม่น้อยกว่าสิบเซนติเมตร ข้อ ๑๙ ในการขนสิ่งปฏิกูลให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อกำหนดเส้นทางและออกเอกสาร กำกับการขนส่งเพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งสิ่งปฏิกูล ส่วนที่ ๓ สุขลักษณะในการกำจัดสิ่งปฏิกูล ข้อ ๒๐ การกำจัด สิ่งปฏิกูลไม่ว่าจะใช้วิธีการใด การนำน้ำทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านการกำจัด สิ่งปฏิกูลแล้วไปใช้ประโยชน์หรือปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมต้องได้มาตรฐานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หน้า ๔๘ ข้อ ๒๑ ผู้ปฏิบัติงานกำจัดสิ่งปฏิกูลต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี ข้อ ๒๒ ในสถานที่กำจัดสิ่งปฏิกูลต้องจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสม สำหรับผู้ปฏิบัติงานกำจัดสิ่งปฏิกูล และมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจาก การปฏิบัติงานตลอดจนเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดตั้งไว้ ข้อ ๒๓ ผู้ปฏิบัติงานกำจัดสิ่งปฏิกูลต้องสวมเสื้อคลุม ถุงมือยางหนา ผ้ายางกันเปื้อน ผำปิดปากปิดจมูก และสวมรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง และต้องทำความสะอาดเสื้อคลุม ถุงมือยางหนา ผ้ายางกันเปื้อนและรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้งทุกครั้งหลังการปฏิบัติงา น หมวด ๓ ใบอนุญาต ข้อ ๒๔ ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินกิจการรับทำการขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลโดยทำเป็นธุรกิจ หรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๒๕ ผู้ใดประสงค์จะดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน กำจัด หรือหาประโยชน์จาก การจัดการสิ่งปฏิกูล โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ ต้องได้รับใบอนุญาต จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ทั้งนี้การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุ ใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ที่กำหนดในข้อบัญญัตินี้พร้อมกับเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (๑) สำเนาบัตรประจำตัวประชาช น/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ และสำเนา ทะเบียนบ้านผู้ประกอบกิจการ/ผู้ถือใบอนุญาต (๒) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้จัดการ (๓) สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่ที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบกิจการ (๔) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล) (๕) หลักฐานแสดงว่าอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบกิจการสามารถใช้ประกอบกิจการนั้นได้ โดยถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร (๖) หนังสือยินยอมให้ใช้อาคารห รือสัญญาเช่าจากเจ้าของอาคาร (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาต ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบกิจการ) หน้า ๔๙ (๗) สำเนาทะเบียนรถยนต์บรรทุกที่ใช้ประกอบกิจการ (๘) สำเนาแสดงสิทธิการครอบครองหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ในการดำเนินการ กำจัดสิ่งปฏิกูล (๙) หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าข องไม่สามารถมายื่นคำขอด้วยตนเอง) (๑๐) สำเนาใบอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (๑๑) อื่น ๆ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อประกาศกำหนดและเผยแพร่ ให้ประชาชนทราบ ใบอนุญาตที่ออกให้ตามวรรคหนึ่งให้มีอายุ ดังต่อไปนี้ (๑) ใบอนุญาตการรับทำการเก็บและขนสิ่งปฏิกูลให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต (๒) ใบอนุญาตการกำจัดสิ่งปฏิกูลให้มีอายุหำปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต (๓) ใบอนุญาตการหาประโยชน์จากการจัดการสิ่งปฏิกูลให้มีอายุหำปีนับแต่วัน ที่ออกใบอนุญาต ผู้ใดได้รับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าได้รับอนุญาตตา มกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขแล้ว ข้อ ๒๖ เมื่อได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาต ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น ตรวจสอบความถูกต้องของคำขอและความครบถ้วนของเอกสารหลักฐานทันที กรณีไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งต่อผู้ยื่นคำขอให้แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ในขณะนั้นให้จัดทำบันทึกความบกพร่องและรายการเอกสารหรือหลักฐานยื่นเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยให้เจ้าหน้าที่และผู้ยื่นคำขอลงนามไว้ในบันทึกนั้นด้วย เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผล ให้ผู้ขออนุญาตทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับคำขอซึ่งมีรายละเอียดถูกต้องหรือครบถ้วน ตามที่กำหนดในข้อบัญญัตินี้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่อาจออกใบอนุญาตหรือยังไม่อาจมีคำสั่งไม่อนุญาตได้ ภายในกำหนดเวลาตามวรรคสอง ให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้งครั้งละไม่เกินสิบห้าวันแต่ต้องมี หนังสือแจ้งการขยายเวลาและเหตุจำเป็นแต่ละครั้งให้ผู้ขออนุญาตทราบก่อนสิ้นกำหนดเวลาตามวรรคสอง หน้า ๕๐ หรือตามที่ได้ขยายเวลาไว้แล้วนั้น แล้วแต่กรณี ทั้งนี้หากเจ้าพนักงานท้องถิ่นพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ ให้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอทราบถึงเหตุแห่งความล่า ชำทุกเจ็ดวันจนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ ข้อ ๒๗ ผู้ได้รับอนุญาตต้องมารับใบอนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง การอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควรและได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบแล้ว ข้อ ๒๘ บรรดาใบอนุญาตที่ออกให้ตามข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลนี้ให้ใช้ได้เพียง ในเขตอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อเท่านั้น การขอต่ออายุใบอนุญาตจะต้องยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคำขอพร้อมกับ เสียค่าธรรมเนียมแล้วให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาต ข้อ ๒๙ ผู้ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลนี้ต้องแสดงใบอนุญาตไว้ โดยเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ประกอบกิจการตลอดเวลาที่ประกอบกิจการ ข้อ ๓๐ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระที่สำคัญ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาต ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดตามแบบที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ การขอรับใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีใบอนุญาตสูญหายให้ผู้ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตนำสำเนาบันทึก การแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แห่งท้องที่ที่ใบอนุญาตสูญหายมาแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นประกอบด้วย (๒) ในกรณีใบอนุญาตถูก ทำลาย หรือชำรุดในสาระที่สำคัญ ให้ผู้ยื่นคำขอรับใบแทน ใบอนุญาตนำใบอนุญาตเดิมเท่าที่เหลืออยู่มาแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นประกอบด้วย ข้อ ๓๑ ในกรณีที่ปรากฏว่า ผู้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการสา ธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กฎกระทรวงหรือข้อบัญญัตินี้หรือเงื่อนไข ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตในเรื่องที่กำหนดไว้เกี่ยวกับการประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตได้ภายในเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกินสิบห้าวัน ข้อ ๓๒ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาต (๑) ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตั้งแต่สองครั้งขึ้นไปและมีเหตุที่จะต้องถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอีก หน้า ๕๑ (๒) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ (๓) ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กฎกระทรวงหรือข้อบัญญัตินี้หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตในเรื่องที่กำหนดไว้ เกี่ยวกับการประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ และการไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติ ไม่ถูกต้องนั้นก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน หรือมีผลกระทบต่อสภาวะ ความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ข้อ ๓๓ คำสั่งพักใช้ใบ อนุญาตและคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ให้ทำเป็นหนังสือแจ้ง ให้ผู้รับใบอนุญาตทราบ ในกรณีที่ไม่พบผู้รับใบอนุญาต หรือผู้รับใบอนุญาตไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าว ให้ส่งคำสั่ง โดยทางไปรษณีย์ตอบรับ หรือให้ปิด คำสั่งนั้นไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงาน ของผู้รับใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตนั้นได้รับทราบคำสั่งแล้วตั้งแต่เวลาที่คำสั่งไปถึง หรือวันปิดคำสั่ง แล้วแต่กรณี ข้อ ๓๔ ผู้ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตสำหรับการประก อบกิจการที่ถูกเพิกถอน ใบอนุญาตอีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต หมวด ๔ ค่าธรรมเนียมและค่าปรับ ข้อ ๓๕ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ใด ๆ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่การให้บริการ ขนสิ่งปฏิกูลขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หรือเขตพื้นที่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ มอบให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการให้บริการขนและกำจัดสิ่งปฏิกูลแก่องค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองบ่อตามอัตราที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ทั้งนี้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการกำจัด สิ่งปฏิกูลองค์การบ ริหารส่วนตำบลหนองบ่อจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะตามที่กำหนด ในข้อบัญญัตินี้และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๓๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามอัตราที่กำหนดไว้ ท้ายข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลนี้ ในวันที่มารับใบอนุญาตสำหรับกรณีที่เป็นการขอรับ ใบอนุญาตครั้งแรก หรือก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุสำหรับกรณีที่เป็นการขอต่ออายุใบอนุญาต ตลอดเวลา หน้า ๕๒ ที่ยังดำเนินกิจการนั้น ถ้ามิได้เสียค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนด ให้ชำระค่าปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละยี่สิบ ของจำนวนค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระ เว้นแต่ผู้ได้รับใบอนุญาตจะได้บอกเลิกการดำเนินกิจการนั้น ก่อนถึงกำหนดการเสียค่าธรรมเนียมครั้งต่อไป ในกรณีที่ผู้มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งค้างชำระค่าธรรมเนียมติดต่อกันเกินกว่าสองครั้ง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการดำเนินกิจการไว้จ นกว่าจะได้เสียค่าธรรมเนียม และค่าปรับจนครบจำนวน ข้อ ๓๗ บรรดาค่าธรรมเนียมและค่าปรับตามข้อบัญญัตินี้ให้เป็นรายได้ขององค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองบ่อ หมวด ๕ บทกำหนดโทษ ข้อ ๓๘ ผู้ใดฝ๋าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในบทกำหนดโทษแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ บุญทรง ไกยะฝ๋าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ หน้า ๕๓ บัญชีอัตราค่าธรรมเนียมท้ายข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๐ ลำดับที่ประเภท อัตราค่าธรรมเนียม (บาท) ๑ อัตราค่าเก็บและขนสิ่งปฏิกูลหรือกำจัดสิ่งปฏิกูลในลักษณะครั้งคราว (๑) การเก็บและขนสิ่งปฏิกูล เป็นรายครั้งในเขตพื้นที่ ให้คิดเป็นบ่อ ๆ ละ ๒๐๐ กิโลกรัม หรือ ๑,๐๐๐ ลิตร หรือ ๑.๐ ลูกบาศก์เมตร หรือปลอกปูน ขนาด ๐.๘ เมตร จำนวน ๔ วง และให้เก็บบ่อละ (๒) กรณีการเก็บและขนสิ่งปฏิกูล เป็นรายครั้ง ในพื้นที่ของ ราชการ ส่วนท้องถิ่นอื่นที่ร้องขอ ให้คิดเป็นบ่อ ๆ ละ ๒๐๐ กิโลกรัม หรือ ๑,๐๐๐ ลิตร หรือ ๑.๐ ลูกบาศก์เมตร หรือปลอกปูน ขนาด ๐.๘ เมตร จำนวน ๔ วง และให้เก็บบ่อละ (๓) การกำจัดสิ่งปฏิกูล เป็นรายครั้งในเขตพื้นที่ ให้คิดเป็นหน่วย ๆ ละ ๒๐๐ กิโลกรัม หรือ ๑,๐๐๐ ลิตร หรือ ๑.๐ ลูกบาศก์เมตร หน่วยละ ๕๐ บาท รถขนาด ๓,๐๐๐ ลิตร คันละ (๔) กรณีการกำจัดสิ่งปฏิกูล เป็นรายครั้งในพื้นที่ของ ราชการส่วนท้องถิ่น อื่น ที่ร้องขอ ให้คิดเป็นหน่วยๆ ละ ๒๐๐ กิโลกรัม หรือ ๑,๐๐๐ ลิตร หรือ ๑.๐ ลูกบาศก์เมตร หน่วยละ ๗๐ บาท รถขนาด ๓,๐๐๐ ลิตร คันละ (ปลอกปูน ขนาด ๐.๘ เมตร มีปริมาตร ประมาณ ๐.๒๕ ลูกบาศก์เมตร) ๑๐๐ ๑๕๐ ๑๕๐ ๒๑๐ ๒ อัตราค่าธรรมเนีย มใบอนุญาต (๑) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการรับทำการเก็บ และขนสิ่งปฏิกูล (๒) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการกำจัดสิ่งปฏิกูล (๓) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการหาประโยชน์จากการจัดการสิ่งปฏิกูล ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท คำขอเลขที่........./.............. (เจ้าหน้าที่กรอก) แบบคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการ รับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล เขียนที่ …………………………………………………….. วันที่ …..……. เดือน …………….……………….. พ.ศ. ………..…… ข้าพเจ้า …………………….......……..……..…….…… ….……. อายุ …………….. ปี สัญชาติ ……………………..….…. อยู่บ้านเลขที่ ….…………. หมู่ที่ …….….. ตรอก/ซอย ………………….….………. ถนน …………………………….……..….….. แขวง/ตำบล ……………………. เขต/อำเภอ ………..……….……… เทศบาล/อบต ……….……..…..……………………..….…. จังหวัด …………………..………………………………..……… หมายเลข โทรศัพท์ ………………………………..……………….…..... ขอยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล ต่อนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองบ่อ โดยทำเป็นธุรกิจ ประเภท เก็บขนสิ่งปฏิกูลโดยมีแหล่งกำจัดที่ ………………….…..……………………….………………...… ....….......…... เก็บขนและกำจัดสิ่งปฏิกูล โดยมีระบบกำจัดอยู่ที่ .………….……………………............………….....……… พร้อมคำขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบหลักฐานและเอกสารมาด้วย ดังนี้คือ สำเนาบัตรประจำตัว (ประชาชน /ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ) และสำเนาทะเบียนบ้าน ของเจ้าของกิจการ/ ผู้ประกอบการ/ผู้ถือใบอนุญาต สำเนาบัตรประจำตัว (ประชาชน /ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ) และสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้จัดการ สำเนาทะเบียนบ้านของบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ แทนนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล) ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือหลักฐานที่ใช้แสดงว่าที่ตั้งสถานประกอบการสามารถใช้ ประกอบกิจการนั้นได้โดยถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หนังสือยินยอมให้ใช้อาคารหรือสัญญาเช่าจากเจ้าของอาคาร (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตไม่มีกรรมสิทธิ์ ในอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบการ) สำเนาทะเบียนรถยนต์บรรทุกที่ใช้ประกอบกิจการ หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของกิจการไม่สามารถยื่นคำขอใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง) ใบอนุญาตตาม กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ระบุ............................................................ ............................. เอกสารหรือหลักฐานอื่น ๆ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อประกาศกำหนดและเผยแพ ร่ ให้ประชาชนทราบ แผนผังแสดงที่ตั้งสถานประกอบกิจการโดยสังเขป ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความในแบบคำขอ รับใบอนุญาตนี้เป็นความจริงทุกประการ (ลงชื่อ) ………………………………..……….…………. ผู้ขอรับใบอนุญาต (……………………..………….………….…….) ความเห็นของเจ้า หน้าที่ จากการตรวจสอบสถานประกอบการ () เห็นควรอนุญาต และควรกำหนดเงื่อนไข ดังนี้ ………………………….………………....…………… () เห็นควรไม่อนุญาต เพราะ ……………………………….……………………………………….…….….…... (ลงชื่อ) ……………………………………………. (……………………………….…………..) ตำแหน่ง ………………………........……………….. วันที่…….../……...…...…/…......... ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ( ) เห็นควร อนุญาต ( ) เห็นควร ไม่อนุญาต (ลงชื่อ) ………………………………….…….…. (……………………….……....………..) ตำแหน่ง รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่………..../…………………....…/………..…... ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ( ) เห็นควร อนุญาต ( ) เห็นควร ไม่อนุญาต (ลงชื่อ) …………………….……….……………. (……………………….……....………..) ตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่………..../…………………....…/………..…... คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ( ) อนุญาต ( ) ไม่อนุญาต (ลงชื่อ) ……..……………….….…………. เจ้าพนักงานท้องถิ่น (…………………………..………..) ตำแหน่ง …………………….……….………….. วันที่………..../……………….....…/….………... ส่วนของเจ้าหน้าที่ ใบรับคำขอรับใบอนุญาต เลขที่............................ ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ ............. เดือน ................................... พ.ศ. ................ ,,., ตรวจสอบแล้ว เอกสารหลักฐาน ครบ ไม่ครบ คือ ๑) .......................................................................................................... ๒) ......................................................................................................... . ๓) ........................................................................................... ,.............. (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... ------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------- ส่วนของผู้ขอรับใบอนุญาต ใบรับคำขอรับใบอนุญาต เลขที่............................ ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ ............. เดือน ............................................... พ.ศ. ............................ ตรวจสอบแล้ว เอกสารหลักฐาน ครบ ไม่ครบ คือ ๑) ............................................................ .............................................. ๒) .......................................................................................................... ๓) ........................................................................................... ,.............. ดังนั้น กรุณานำเอกสารหลักฐานที่ยังไม่ครบทั้งหมดมายื่นต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน ........... ......................... วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... คำขอเลขที่........./.............. (เจ้าหน้าที่กรอก) แบบคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการ รับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล เขียนที่ …………………………………………………….. วันที่ …..……. เดือน …………….……………….. พ.ศ. ………..…… ข้าพเจ้า …………………………..……..……. ....……….……. อายุ …………….. ปี สัญชาติ ……………………………. อยู่บ้านเลขที่ ….…………. หมู่ที่ …….….. ตรอก/ซอย ………………….….………. ถนน …………………………….…………….. แขวง/ตำบล ……………………. เขต/อำเภอ ………..……….……… เทศบาล/อบต ……….……..…..……………………………. จังหวัด …………………..………………………………..……… หมายเลขโทรศัพท์ ………………………………..……………………... ขอยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต ประกอบกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล ต่อนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองบ่อ โดยทำเป็นธุรกิจ ประเภท เก็บขนสิ่งปฏิกูลโดยมีแหล่งกำจัดที่ ………………….…..……………………….………………..………. เก็บขนและกำจัดสิ่งปฏิกูล โดยมีระบบกำจัดอยู่ที่ .………….………………….…..…….………..… ตามใบอนุญาตเล่มที่ …..... เลขที่ …..…/……..……อ อกให้เมื่อวันที่ ……. เดือน …………..………..…… พ.ศ . ……..…...… พร้อมคำขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบหลักฐานและเอกสารมาด้วย ดังนี้คือ สำเนาบัตรประจำตัว (ประชาชน /ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ) และสำเนาทะเบียนบ้าน ของเจ้าของกิจการ/ผู้ประกอบการ/ผู้ถือใบอนุญาต สำเนาบัตรประจำตัว (ประชาชน /ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ) และสำเนาทะเบียน บ้าน ของผู้จัดการ สำเนาทะเบียนบ้านของบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล) ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือหลักฐานที่ใช้แสดงว่าที่ตั้งสถานประกอบการสามารถใช้ ประกอบกิจการนั้นได้โดยถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หนังสือยินยอมให้ใช้อาคารหรือสัญญาเช่าจากเจ้าของอาคาร (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตไม่มีกรรมสิทธิ์ ในอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบการ) สำเนาทะเบียนรถยนต์บรรทุกที่ใช้ประกอบกิจการ หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของกิจการไม่สามารถยื่นคำขอใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง) ใบอนุญาตตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ระบุ........................ .............................................................. เอกสารหรือหลักฐานอื่น ๆ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อประกาศกำหนดและเผยแพ ร่ ให้ประชาชนทราบ ใบอนุญาตเดิมหรือสำเนาใบอนุญาตเดิม แผนผังแสดงที่ตั้งสถานประกอบกิจการโดยสังเขป ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความในแบบคำขอ ต่ออายุใบอนุญาตนี้เป็นความจริงทุ กประการ (ลงชื่อ) ………………………………..………..……. ผู้ขอ ต่ออายุใบอนุญาต (……………………..………….……...…….) ความเห็นของเจ้า หน้าที่ จากการตรวจสอบสถานประกอบการ () เห็นควรต่ออายุใบอนุญาต และควรกำหนดเงื่อนไข ดังนี้ …………….……….…..…..…………… () เห็นควรไม่ต่ออายุใบอนุญาต เพราะ ……………………………….………………………………….…... (ลงชื่อ) ……………………………………………. (……………………………….…………..) ตำแหน่ง …………………........……… …………….. วันที่…..../……….…...…/……....... ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ( ) เห็นควรต่ออายุใบอนุญาต ( ) เห็นควร ไม่ต่ออายุใบอนุญาต (ลงชื่อ) ………………………………….…….…. (……………………….……....………..) ตำแหน่ง รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่………..../…………………....…/………..…... ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ( ) เห็นควรต่ออายุใบอนุญาต ( ) เห็นควร ไม่ต่ออายุใบอนุญาต (ลงชื่อ) …………………….……….……………. (……………………….……....………..) ตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่………..../…………………....…/………..…... คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ( ) ให้ต่ออายุใบอนุญาต ( ) ไม่ให้ต่ออายุใบอนุญาต (ลงชื่อ) ……..………………….…………. เจ้าพนักงานท้องถิ่น (………………………..………..) ตำแหน่ง …………………………….………….. วันที่………..../………………....…/…………... ส่วนของเจ้าหน้าที่ ใบรับคำขอต่ออายุใบอนุญาต เลขที่.................... .... ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ ............ เดือน .................................. พ.ศ. .............. ตรวจสอบแล้ว เอกสารห ลักฐาน ครบ ไม่ครบ คือ ๑) .......................................................................................................... ๒) .......................................................................................................... ๓) .......................................................................................................... (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง................. ......................................... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ส่วนของผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต ใบรับคำขอต่ออายุใบอนุญาต เลขที่.................... .... ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ ............ เดือน .................................. พ.ศ. .............. ตรวจสอบแล้ว เอกสารหลักฐาน ครบ ไม่ครบ คือ ๑) .......................................................................................................... ๒) .......................................................................................................... ๓) .......................................................................................................... ดังนั้น กรุณานำเอกสารหลักฐานที่ยังไม่ครบทั้งหมดมายื่นต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน .................................... วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... คำขอเลขที่........./.............. (เจ้าหน้าที่กรอก) แบบคำขอรับใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการ รับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล เขียนที่ …………………………………………………….. วันที่ …..……. เดือน …………….……………….. พ.ศ. ………..…… ข้าพเจ้า () บุคคลธรรมดา () นิติบุคคล ชื่อ .................................................................................... อายุ …………….. ปี สัญชาติ ……………………. บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ ....................................................... ... อยู่บ้าน/สำนักงานเลขที่ ….…. หมู่ที่ …….….. ตรอก/ซอย …………….….………. ถนน ……………………….…….………….. แขวง/ตำบล ……………………. เขต/อำเภอ ………..……….….…..………… จังหวัด …………………..………..………....……… หมายเลขโทรศัพท์ …………………………………….………………... โทรสาร ................................ .................................... ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ.................................................................................. แล้วโดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑. ใบอนุญาตเล่มที่ ... ............ เลขที่ ......./............ ออกเมื่อวันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ............. ๒. ชื่อสถานที่ประกอบการ ......................................... ประกอบกิจการประเภท ........................................ จำนวนผู้ปฏิบัติงาน .................................. คน ๓. สถานที่ตั้งเลขที่ ..................... หมู่ที่ ......... ตรอก/ซอย ............................. ถนน ...................................... แขวง/ตำบล ……………………. เขต/อำเภอ ………..……….…….…..………… จังหวัด ………………………..……….…..……… หมายเลขโทรศัพท์ …………………………………….………………... โทรสาร ..................................................................... ขอยื่นคำขอรับ ใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการ ............................................................................... ต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เนื่องจากใบอนุญาตของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น () สูญหาย () ถูกทำลาย () ชำรุดในสาระสำคัญ พร้อมคำขอนี้ข้าพเจ้ามีหลักฐานเอกสารประกอบการพิจารณา ดังนี้ สำเนาบัตรประจำตัว (ประชาชน /ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ) และสำเนาทะเบียนบ้าน ของเจ้าของกิจการ/ผู้ประกอบการ/ผู้ถือใบอนุญาต สำเนาบัตรประจำตัว ( ประชาชน/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ) และสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้จัดการ สำเนาทะเบียนบ้านของบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล) ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือหลักฐานที่ใช้แสดงว่าที่ตั้งสถานประกอบการสามารถใช้ ประกอบกิจการนั้นได้โดยถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หนังสือยินยอมให้ใช้อาคารหรือสัญญาเช่าจากเจ้าของอาคาร (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตไม่มีกรรมสิทธิ์ ในอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบการ) หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของกิจการไม่สามารถยื่นคำขอใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง) สำเนาใบอนุญาตตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ระบุ.............................................................. เอกสารหรือหลักฐานอื่น ๆ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อประกาศกำหนดและเผยแพ ร่ ให้ประชาชนทราบ ใบอนุญาตเดิมเท่าที่เหลืออยู่ (กรณีใบอนุญาตถูกทำลายหรือชำรุดในสาระสำคัญ) ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความในแบบคำขอ รับใบแทนใบอนุญาตนี้เป็นความจริงทุกประการ (ลงชื่อ) …………………………………..…..………. ผู้ขอ รับใบแทนใบอนุญาต (………………………...……….…...……….) ความเห็นของเจ้า หน้าที่ จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานในการขอรับใบแทนใบอนุญาต () เห็นควรออกใบแทนใบอนุญาต และควรกำหนดเงื่อนไข ดังนี้ ……….………………..…………… () เห็นควรไม่ออกใบแทนใบอนุญาต เพราะ ……………………………….…………………………….…... (ลงชื่อ) ……………………………………………. (……………………………….…………..) ตำแหน่ง ……………………………………………. วันที่ …….../……….....….…/……...... ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ( ) เห็นควรออกใบแทนใบอนุญาต ( ) เห็นควร ไม่ออกใบแทนใบอนุญาต (ลงชื่อ) ………………………………….…….…. (……………………….……....………..) ตำแหน่ง รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่………..../…………………....…/………..…... ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ( ) เห็นควรออกใบแทนใบอนุญาต ( ) เห็นควร ไม่ออกใบแทนใบอนุญาต (ลงชื่อ) …………………….……….……………. (……………………….……....………..) ตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่………..../…………………....…/………..… ... คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ( ) ให้ออกใบแทนใบอนุญาต ( ) ไม่ให้ออกใบแทนใบอนุญาต (ลงชื่อ) ……..………………….…………. เจ้าพนักงานท้องถิ่น (………………………..………..) ตำแหน่ง …………………………….………….. วันที่………..../………………....…/…………... ส่วนของเจ้าหน้าที่ ใบรับคำขอรับใบแทนใบอนุญาต เลขที่.................... .... ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ ............ เดือน .................................. พ.ศ. .............. ตรวจสอบแล้ว เอกสา รหลักฐาน ครบ ไม่ครบ คือ ๑) .......................................................................................................... ๒) .......................................................................................................... ๓) .......................................................................................................... (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ส่วนของผู้ขอรับใบแทนใบอนุญาต ใบรับคำขอรับใบแทนใบอนุญาต เลขที่.................... .... ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ ............ เดือน .................................. พ.ศ. .............. ตรวจสอบแล้ว เอกสารหลักฐาน ครบ ไม่ครบ คือ ๑) .......................................................................................................... ๒) .......................................................................................................... ๓) .......................................................................................................... ดังนั้น กรุณานำเอกสารห ลักฐานที่ยังไม่ครบทั้งหมดมายื่นต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน ............................... วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... ใบอนุญาต ประกอบกิจการ .................................................................. เล่มที่..........เลขที่............./................ (๑) เจ้าพนักงานท้องถิ่นอนุญาตให้ .................................................. ................ สัญชาติ ............................. อยู่บ้านเลขที่ ......... หมู่ที่ ....... ตำบล .................. ........... อำเภอ ............................. จังหวัด ....................................... หมายเลขโทรศัพท์ …………………………………….…………… .…... โทรสาร ................................ ................................... ชื่อสถานประกอบกิจการ................................................................. ประเภท ........................................... ตั้งอยู่เลขที่ ................. หมู่ที่ ............. ตำบล ............................... อำเภอ ........................ จังหวัด ............................... หมายเลขโทรศัพท์ ……………………………………...………...………... โทรสาร .............................................. ...................... อัตราค่าธรรมเนียมปีละ ................................. บาท (................................................. ....................................) ตามใบเสร็จรับเงินเล่มที่ ...................... เลขที่ ....................... ลงวันที่ ......................................................................... (๒) ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ในข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ว่าด้วยการจัดการสิ่งปฏิกูล (๓) หากปรากฏในภายหลังว่าการประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตนี้เป็นการขัดต่อกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมิอาจแก้ไขได้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นอาจพิจารณาให้เพิกถอนการอนุญาตนี้ได้ (๔) ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเฉพาะดังต่อไปนี้อีกด้วย คือ (๔.๑) ....................................................................................................................................... (๔.๒) ....................................................................................................................................... (๕) ใบอนุญาตฉบับนี้ออกให้เมื่อวันที่........ เดือน ............................. พ.ศ . ..................... (๖) ใบอนุญาตฉบับนี้สิ้นอายุวันที่.............. เดือน ............................. พ.ศ. ..................... (ลงชื่อ) ........................................ .................. (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... เจ้าพนักงานท้องถิ่น คำเตือน (๑) ผู้รับใบอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตนี้ไว้โดยเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ประกอ บกิจการ ตลอดเวลาที่ประกอบกิจการ (๒) หากประสงค์จะประกอบกิจการในปีต่อไปต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ (มีต่อด้านหลัง) รายการต่ออายุใบอนุญาตและเสียค่าธรรมเนียม วัน/เดือน/ปี ที่ออกใบอนุญาต วัน/เดือน/ปี ที่สิ้นอายุใบอนุญาต ใบเสร็จรับเงิน (ลงชื่อ) เจ้าพนักงานท้องถิ่น เล่มที่ เลขที่วัน/เดือน/ปี ใบแทนใบอนุญาต ประกอบกิจการ.......... ............................................ เล่มที่..........เลขที่............./................ อนุญาตให้ () บุคคลธรรมดา () นิติบุคคล ชื่อ .......................................................... ............................... สัญชาติ ........................ บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ …........................... ............................................................... อยู่บ้าน/สำนักงานเลขที่ ................ หมู่ที่ ............ ตรอก/ซอย ................................... ถนน ......................... ............... แขวง/ตำบล ...................................... เขต/อำเภอ .................................. จังหวัด ...................................................... หมายเลขโทรศัพท์ ……………………………………. ....………………... โทรสาร ................................................................. ๑. ชื่อสถานที่ประกอบการ ................................................... ประเภท .......................................................... ๒. ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ..................... หมู่ที่ ............. ตรอก/ซอย .............................. ถนน ................................. แขวง/ตำบล ………………..........……. เขต/อำเภอ ………..………..…….…..………… จังหวัด …………………..……….…....……… หมายเลขโทรศัพท์ …………………………………….…........……………... โทรสาร ................................................................. ๓. จำนวนคนงาน ................................................. คน ๔. ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฉบับละ ........................... บาทต่อปี (..........................................................) ใบเสร็จรับเงินเล่มที่ ............ เลขที่ ............ ลงวันที่ ............ เดือน .............................. พ.ศ. ................... ๕. ผู้ได้รับอนุญาตต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๐ และปฏิบัติการอื่นใดเกี่ยวด้วยสุขลักษณะตามคำ แนะนำของพนักงานเจ้า หน้าที่คำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ ใบแทนใบอนุญาตฉบับนี้ให้ใช้ได้ถึงวันที่ ............ เดือน .................................. พ.ศ. ...................... ออกให้ณ วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ............. (ลงชื่อ) .......................................................... (.........................................................) ตำแหน่ง.......................................................... เจ้าพนักงานท้องถิ่น คำร้องขอการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล เขียนที่ …………………..…………………………. วันที่ ………. เดือน ……………………..……. พ.ศ. …….………. ข้าพเจ้า ……………....…........…………………..…………..…………... อายุ ……..…..….. ปีสัญชาติ ………………….…… อยู่บ้านเลขที่ …….....…..... หมู่ ……….… ถนน ……………..….…..……. ตรอก/ซอย ………..………………………………….………. ตำบล …………..…………...…………….…. อำเภอ ………………...……….……………. จังหวัด ……….……………………………….….. ยื่นคำร้องต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบล หนองบ่อ ข้าพเจ้ามีความประสงค์ ต้องการให้องค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองบ่อดำเนินการ เก็บ ขน สิ่งปฏิกูล สถานที่ …………………………………………….…..……....………….. กำจัดสิ่งปฏิกูล สถานที่ ………………………………………………….…………....….…….. ข้าพเจ้ายินดีชำระค่าธรรมเนียมฯ ดังกล่าว เป็นเงิน ............... ......... บาท (...............................................) ขอแสดงความนับถือ (ลงชื่อ)……………………………….………..…. ผู้ยื่นคำร้อง (………......………………………..……..) ความเห็นหัวหน้าส่วนราชการ ……..………………………………………………………………………………………………………………………………………..………….………… (ลงชื่อ)………………………………..…...……. (………….……………………………..) ความเห็นรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ……..………………………………………………………………………………………………………………….………………........…………………… (ลงชื่อ)……………………………….……..…. พนักงานเจ้าหน้าที่ (………………………….………....) ความเห็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ……..………………………………………………………………………………………………………………….………………........…………………… (ลงชื่อ)……………………………….……..…. พนักงานเจ้าหน้าที่ (………………………….………....) คำสั่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ……..………………………………………………………………………………………………………………….………………........…………………… (ลงชื่อ)………………………….…….…..…. เจ้าพนักงานท้องถิ่น (…………….……………..……....) เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๓๑๑ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๔๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:99645", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๐", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/311/T_0042.PDF", "year": null }
nonweb_79836
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย [กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม] ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย เนื่องในโอกาส พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๙ รวมทั้งสิ้น ๑๙๙ ,๘๘๒ ราย ดังรายนามท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (รวม ๗ ราย) ๑ นายโกมล พรมเพ็ง ๒ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ ๓ นางสาวกาญจนามาส ชำนาญกิจ ๔ นางสาวจินตนา ศิลามาตร์ ๕ นางยิ่งลักษณ์ วิไลรัตน์ ๖ นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ๗ นางสาวอำพา วาณิชชัชวาลย์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๓ ราย) ๑ นายสมภพ วชิรพงศ์ ๒ นายอารักษ์ ภักดีบุตร ๓ นางสาวพงษ์แก้ว บุญเยี่ยม ตริตาภรณ์ช้างเผือก (รวม ๑๔ ราย) ๑ นายนพพงษ์ ดีไชย ๒ นางกันยารัตน์ ภักดีบุตร ๓ นางชมพู โพธิวรรณ์ ๔ นางตรีนภา คธาวุธ ๕ นางทัศนี เลี้ยงจรูญ ๖ นางสาวธัญญนันทน์ นิธิเบญญาภิสมัย ๗ นางประภา เซ็นเสถียร ๘ นางพิณทิชา ปานทองเสม ๙ นางสาวเพ็ญพิมพ์ แจ่มจันทร์ ๑๐ นางสาวระวีวรรณ เสถียรปรเมษฐ์ ๑๑ นางสาววริศา ช่วยพิชัย ๑๒ นางสาวศุภราภรณ์ เทียมเมือง ๑๓ นางสมหญิง โตสมตน ๑๔ นางสุภีร์ ขานไพบูลย์ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๑๐ ราย) ๑ นายกฤษดา สรวงศักดา ๒ นายมนตรี พึ่งบำรุง ๓ นายศรัณย์ รักษ์เผ่า ๔ นายสถาพร สอนเสนา ๕ นางจิตลัดดา เสียงใส ๖ นางนิลุบล โรจน์จึงประเสริฐ ๗ นางสาวประภัสสร จันทร์สำโรง ๘ นางสาวพิมลวรรณ สายสุวรรณ ๙ นางสาวภาวิณี ธรรมศิริ ๑๐ นางสาววิลาวัณย์ ยี่ทอง จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (รวม ๑ ราย) ๑ นางสาวดุลภาภรณ์ สุกุมลนันทน์ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (รวม ๑๔ ราย) ๑ นายธีรพงศ์ เสริฐสังวาลย์ ๒ นางสาวกนกอร กายจริต ๓ นางจิตรา ญาติฉิมพลี ๔ นางนพพร ภูมิพันธ์ ๕ นางสาวนันท์นภัส ใจบุญ ๖ นางสาวพิริยำ ศรีเงิน ๗ นางสาวพิศสมัย ปลื้มวงษ์ ๘ นางสาวเพ็ญพรรณ โชติช่วง ๙ นางมาลี ขุมทอง ๑๐ นางสาวยุพิน พึ่มกุล ๑๑ นางสาวยุภา เอี่ยมเฟือง ๑๒ นางสาวไวย์ทยา นรสาร ๑๓ นางสาวหทัยชนก ทองหล้า ๑๔ นางสาวอาทิตยา สกุลลิ้ม กรมคุมประพฤติ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (รวม ๖๑ ราย) ๑ นายกำธร ว่องธีรกิจโกศล ๒ นายคนอง รอดทอง ๓ นายจิตติสานติ์ วุฒิเวชช์ ๔ นายชัยวัฒน์ ร่างเล็ก ๕ นายณรงค์ ขำเพชร ๖ นายถาวร กูลศิริ ๗ นายธีรพัทธ์ รอดความทุกข์ ๘ นายนนทจิตร เนตรพุกกณะ ๙ นายนพดล นมรักษ์ ๑๐ นายนพดล ศรีทำเกิด ๑๑ นายบัญชา หนูประดิษฐ์ ๑๒ นายบัญญัติ วงศ์สว่าง ๑๓ นายบุญเลิศ คงหอม ๑๔ นายประทักษ์ ประทุมทิพย์ ๑๕ นายปรัชญา ชัยวรานุรักษ์ ๑๖ พันจ่าเอก ปรัชญา ประภาศิลป์ ๑๗ นายพรชัย เมธาภรณ์พงศ์ ๑๘ นายยงยุทธ ธรรมนิตยางกูร ๑๙ นายร่มพงษ์ ผลวัฒนะ ๒๐ นายวันชัย อาทำกูล ๒๑ นายวีระชาติ จูพัฒนกุล ๒๒ นายวีระศักดิ์ ไชยสิงห์ ๒๓ นายสุทิน ไชยวัฒน์ ๒๔ นายอภัย เอียดบัว ๒๕ นายอุทัย ทะริยะ ๒๖ นางแก้วตา ชัยมะโน ๒๗ นางสาวขนิษฐา สมบูรณ์ทรัพย์ ๒๘ นางสาวจันทกร ดำเนินผล ๒๙ นางจิรพร เพิ่มพูล ๓๐ นางจิรภา สินธุนาวา เล่ม: ๑๒๔ หมวด: ๑๐ ข ประกาศ ณ: ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐ หน้า: ๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:79837", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย [กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/B/010/007/2.PDF", "year": null }
nonweb_124745
ประกาศนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเด็ก] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ด้วย นางบินิต้า บาร์ท ซาร์ นายกสมาคม ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเด็ก โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ข้อ ๓ ความว่า ข้อ ๓ สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ณ เลขที่ ๓๗๕/๔๒๙ ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร นายทะเบียนสมาคมประจำ กรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคมรายนี้แล้ว ตามทะเบียนเลขที่จ. ๕๖๕๘/๒๕๖๕ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๕ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ และมาตรา ๘๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ รัชกฤต พยัคฆ์ ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย ๒ ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง นายทะเบียนสมาคม ประจำกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๙ หมวด: ๔๓ ง ประกาศ ณ: ๐๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ หน้า: ๑๘๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:124746", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเด็ก]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/D/043/T_0186.PDF", "year": null }
nonweb_89231
ประกาศสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด [เดอะ วิสด้อม เบิร์ก คอนโดมิเนียม เฟส ๒] ประกาศสำนักงานที่ดิน จังหวัดชลบุรี เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด ด้วย บริษัท เจ.เอส.กรีน เนเจอร์ เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคาร โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๖๓๓๑๐ , ๑๖๔๕๒๙ , ๑๖๔๕๓๔ ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยอาคาร จำนวน ๑ หลัง ได้ยื่นขอจดทะเบียนที่ดินและอาคารดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี ให้เป็นอาคารชุดตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาเห็นว่าที่ดินและอาคารดังกล่าวอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไข สมควรเป็นอาคารชุดได้จึงรับจดทะเบียนเป็นอาคารชุดชื่อ “เดอะ วิสด้อม เบิร์ก คอนโดมิเนียม เฟส ๒” ทะเบียนเลขที่ ๒๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ จิรฐา สมเนตร์ พนักงานเจ้าหน้าที่ เล่ม: ๑๓๑ หมวด: ๑ ง ประกาศ ณ: ๐๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า: ๒๘๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:89232", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี เรื่อง การจดทะเบียนอาคารชุด [เดอะ วิสด้อม เบิร์ก คอนโดมิเนียม เฟส ๒]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/D/001/288.PDF", "year": null }
nonweb_115249
ประกาศการเคหะแห่งชาติ เรื่อง การเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทรชลบุรี (พานทอง) ประกาศการเคหะแห่งชาติ เรื่อง การเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลชุมชนการเคหะ บ้านเอื้ออาทรชลบุรี (พานทอง) ตามที่การเคหะแห่งชาติได้จดทะเบียนข้อบังคับนิติบุคคลชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทรชลบุรี (พานทอง) พ.ศ. ๒๕๕๖ และขึ้นทะเบียนชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทรชลบุรี (พานทอง) เป็นนิติบุคคล ตามเลขทะเบียนที่ ๐๑๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๕/๑๕ แห่งพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ และระเบียบการเคหะแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดตั้ง การรับจดทะเบียนข้อบังคับ การขึ้นทะเบียนนิติบุคคล การควบ การเพิกถอน และการกำกับดูแล นิติบุคคลชุมชนการเคหะ พ.ศ. ๒๕๕๒ การเคหะแห่งชาติจึงได้เพิกถอนทะเบียน นิติบุคคลชุมชนการเคหะ บ้านเอื้ออาทรชลบุรี (พานทอง) แล้ว เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ วิญญา สิงห์อินทร์ รองผู้ว่าการ รักษาการแทน ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๒ ง ประกาศ ณ: ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๑๗๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:115250", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศการเคหะแห่งชาติ เรื่อง การเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลชุมชนการเคหะบ้านเอื้ออาทรชลบุรี (พานทอง)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/012/T_0178.PDF", "year": null }
nonweb_82990
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๘๕/๒๕๕๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๘๕/๒๕๕๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ องอาจ วงศ์วโรฬาร ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน วันที่รับทุนจดทะเบียน จดทะเบียนหน่วย / บาท 1. บริษัท ที.เค.เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ 0115552000462 14 ม.ค. 52 1,100,000 สมุทรปราการ เพ้นท์ จำกัด 2. บริษัท สันตินนท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด16 ม.ค. 52 1,000,000 สมุทรปราการ 3. บริษัท ซี.ซีทรานสปอร์ตแอนด์ 0115552000756 19 ม.ค. 52 5,000,000 สมุทรปราการ เซอร์วิส จำกัด 4. บริษัท นิติวิธี แอร์ แอนด์ ซี 0125552000373 12 ม.ค. 52 1,100,000 นนทบุรี เซอร์วิส จำกัด 5. บริษัท วายลัสท์ มีเดีย จำกัด 0135552000497 21 ม.ค. 52 2,000,000 ปทุมธานี 6. บริษัท ทองนพคุณ เอ็นจิเนียริ่ง 0205552000941 16 ม.ค. 52 2,000,000 ชลบุรี จำกัด 7. บริษัท วิชั่นกลาส อินดัสทรีส์ จำกัด22 ม.ค. 52 5,000,000 ชลบุรี 8. บริษัท เฮลท์แอนด์บอดีบิวดิง จำกัด 0215552000356 30 ม.ค. 52 200,000 ระยองรายละเอียดการจดทะเบียนแปรสภาพห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. 85/2552 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน หมายเหตุ 1 วันที่รับทุนจดทะเบียน จดทะเบียนหน่วย / บาทลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน หมายเหตุ 9. บริษัท ดราก้อน อีสเทิร์น 0245552000011 5 ม.ค. 52 2,000,000 ฉะเชิงเทรา ซัพพลาย จำกัด 10. บริษัท เขตเจริญ อิมปอร์ต- 0435552000010 13 ม.ค. 52 500,000 หนองคาย เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด 11. บริษัท เอ็น ที โอ เทรดดิ้ง จำกัด 0515552000035 30 ม.ค. 52 1,000,000 ลำพูน 12. บริษัท พัฒนาเมืองสวย จำกัด 0575552000108 20 ม.ค. 52 1,000,000 เชียงราย 13. บริษัท รัตนเภสัชยานยนต์ จำกัด 0675552000018 6 ม.ค. 52 1,000,000 เพชรบูรณ์ 14. บริษัท เมกาเอ็กซ์ (ประเทศไทย) 0905552000091 14 ม.ค. 52 1,000,000 สงขลา จำกัด 2 เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๑๖ ค ประกาศ ณ: ๐๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๑๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:82991", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๘๕/๒๕๕๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/C/016/10.PDF", "year": null }
nonweb_141727
ระเบียบเทศบาลตำบลปทุมวาปี ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2564 ระเบียบเทศบาลตำบลปทุมวาปี ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้การบริการ การจัดระบบ การขอ การอนุญาต และการบริการข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลปทุมวาปี เป็นไปด้วยความเรียบร้อยรวดเร็วและสอดคล้องกับ เจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ ในการรับรองสิทธิของประชาชน ในการรับรู้ ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ประกอบกับข้อ ๔ ของประกาศคณะกรรมการข้อมูล ข่าวสารของราชการ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ เกี่ยวกับการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดู ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบกับมาตรา ๓๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เทศบาลตำบลปทุมวาปี จึงวางระเบียบว่าด้วยข้อมูลข่าวสาร ของราชการไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบเทศบาลตำบลปทุมวาปี ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๖๔” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบองค์การบริหารส่วนตำบลปทุมวาปี ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๔ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอื่นใดของเทศบาลตำบลปทุมวาปีในส่วน ที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ ๕ ในระเบียบนี้ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า เทศบาลตำบลปทุมวาปี “หน่วยงานในสังกัด” หมายความว่า กอง หรือหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากองในสังกัดเทศบาล “ข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปี” หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารตามกฎหมาย ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของเทศบาลตำบลปทุมวาปี “ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร” หมายความว่า ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปี ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ “นายกเทศมนตรี” หมายความว่า นายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปี “รองนายกเทศมนตรี” หมายความว่า รองนายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปีที่ได้รับมอบหมาย ให้กำกับดูแลงานของหน่วยงานในสังกัด “หัวหน้าหน่วยงานในสังกัด” หมายความว่า หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดที่ครอบครอง หรือ ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารนั้น หน้า ๑๕ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปี “วัน” หมายความว่า วันตามปีปฏิทิน “วันทำการ” หมายความว่า วันทำการตามปกติของหน่วยงานของรัฐ “คำขอ” หมายความว่า คำขอข้อมูลข่าวสารตามระเบียบนี้ “ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล เช่น การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม หรือประวัติการทำงาน บรรดาที่มี ชื่อของผู้นั้น หรือมีหมายเลข รหัส หรือสิ่งบอกลักษณะอื่นที่ทำให้รู้ตัวผู้นั้นได้ เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ แผ่นบันทึก ลักษณะเสียงของคนหรือรูปถ่าย และให้หมายความร่วมถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ สิ่งเฉพาะตัวของผู้ที่ถึงแก่กรรมแล้วด้วย “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า ผู้ซึ่งปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ “คนต่างด้าว” หมายความว่า บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และนิติบุคคล ดังต่อไปนี้ (๑) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่มีทุนเกินกึ่งหนึ่งเป็นคนต่างด้าว ใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือ ให้ถือว่าใบหุ้นนั้นคนต่างด้าวเป็นผู้ถือ (๒) สมาคมที่มีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่งเป็นคนต่างด้าว (๓) สมาคมหรือมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าว (๔) นิติบุคคลตาม (๑) (๒) (๓) หรือนิติบุคคลอื่นใดที่มีผู้จัดการหรือกรรมการเกินกึ่งหนึ่ง เป็นคนต่างด้าว นิติบุคคลตามวรรคหนึ่ง ถ้าเข้าไปเป็นผู้จัดการหรือกรรมการ สมาชิก หรือมีทุนในนิติบุคคลอื่น ให้ถือว่าผู้จัดการ หรือกรรมการ หรือสมาชิก หรือเจ้าของทุนดังกล่าวเป็นคนต่างด้าว ข้อ ๖ ให้นายกเทศบาลตำบลปทุมวาปีรักษาการตามระเบียบนี้ ให้มีอำนาจออกประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ในกรณีที่มีปัญหาหรืออุปสรรคในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ในนายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปี มีอำนาจในการวินิจฉัยสั่งการตามที่เห็นสมควร หมวด ๑ คณะกรรมการข้อมูลขาวสารเทศบาลตำบลปทุมวาปี ข้อ ๗ ให้มี “คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเทศบาลตำบลปทุมวาปี” เรียกโดยย่อว่า “กข.ทต.ปทุมวาปี” ประกอบด้วย (๑) รองนายกเทศม นตรีตำบลปทุมวาปีที่ได้รับมอบหมาย ประธานกรรมการ (๒) ปลัดเทศบาลตำบลปทุมวาปี รองประธานกรรมการ (๓) รองปลัดเทศบาลตำบลปทุมวาปี กรรมการ หน้า ๑๖ (๔) หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล กรรมการ (๕) ผู้อำนวยการกองช่าง กรรมการ (๖) ผู้อำนวยการกองคลัง กรรมการ (๗) ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม กรรมการ (๘) นิติกร กรรมการและเลขานุการ (๙) เจ้าพนักงานธุรการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ข้อ ๘ ให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวเทศบาลตำบลปทุมวาปี มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) เสนอนโยบายหรือมาตรการเกี่ยวกับการบริหาร การจัดระบบ การขอ การอนุญาตและ การบริการข้อมูลข่าวสาร (๒) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งการจัดพิมพ์และการเผยแพร่ (๓) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาประเภทข้อมูลข่าวสาร ที่ไม่ต้องเปิดเผย หรือข้อมูลข่าวสารที่เป็นความลับของราชการ (๔) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับ ประเภทของข้อมูลข่าวสารที่ควรจัดเก็บไว้ที่ เทศบาล หรือส่งไปยังหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกา ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ (๕) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำและปรับปรุงข้อมูลข่าวสา ร ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ หรือข้อมูลข่าวสารอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อราชการ (๖) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารกับส่วนราชการ (๗) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นในกรณีมีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการดำเนินการ ตามระเบียบนี้ (๘) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการในเรื่องใดๆ ตามที่คณะกรรมการ มอบหมาย (๙) เชิญบุคคลใด มาสอบถามหรือให้ชี้แจงแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร (๑๐) ดำเนินงานอื่นใดตามที่นายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปีมอบหมาย ข้อ ๙ การประชุมคณะกรรม การข้อมูลข่าวสารเทศบาลตำบลปทุมวาปี ต้องมีกรรมการ มาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด จึงเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการ ไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ข้อ ๑๐ ให้นำความในข้อ ๙ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะอนุกรรมการที่ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเทศบาลตำบลปทุมวาปีแต่งตั้งโดยอนุโลม หน้า ๑๗ ข้อ ๑๑ มติของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปี ต้องได้รับ ความเห็นชอบจากนายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปีจึงจะดำเนินการตามมตินั้น หมวด ๒ ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ข้อ ๑๒ ให้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปีขึ้นอยู่ในความรับผิดชอบ ควบคุมดูแลของสำนักปลัดเทศบาลตำบลปทุมวาปี เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ให้ ประชาชน เข้าตรวจดู ศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนเผยแพร่จำหน่าย จ่า ยแจก รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทางราชการ หมวด ๓ การจัดระบบข้อมูลข่าวสาร ข้อ ๑๓ ให้หน่วยงานในสังกัดจัดประเภทข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เป็นไป ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทางราชการ กฎ หมายอื่นและระเบียบของราชการ ดังนี้ (๑) ข้อมูลข่าวสารที่ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา (๒) ข้อมูลข่าวสารที่ต้องจัดไว้ให้ประชาชนตรวจดูได้ (๓) ข้อมูลข่าวสารอื่น (๔) ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล การจัดแจ้งข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่งให้คำนึงถึงลักษณะของข้อมูลข่าวสารตามกฎหมาย ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการด้วยว่าเป็นข้อมูลข่าวสารที่จะเปิดเผยมิได้หรือเป็นข้อมูลข่าวสาร ที่อาจมีคำสั่ง มิให้เปิดเผยก็ได้ ให้หน่วยงานในสังกัดจัดส่งสำเนาข้อมูลข่าวสารตามวรรค หนึ่ง (๑) และ (๒) ไปยังศูนย์ข้อมูล ข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปีเพื่อให้ประชาชนเข้าตรวจดูค้นคว้าหรือขอสำเนา ข้อ ๑๔ ในการดำเนินงานตามข้อ ๑๓ ให้หน่วยงานในสังกัดเทศบาลตำบลปทุมวาปี จัดให้มี เจ้าหน้าที่เพื่อควบคุม ดูแล ตรวจสอบ ติดตามและประสานงานในการดำเนินงานดังกล่าว ให้เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย ข้อ ๑๕ ให้ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจัดทำดัชนีข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานในสังกัดส่งมาให้ ตามข้อ ๑๓ วรรคสาม โดยให้มีรายละเอียดเพียงพอที่ประชาชนสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารได้เอง ให้หน่วยงานในสังกัดจัดทำบัญชีข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องส่งให้แก่ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารตามข้อ ๑๓ วรรคสาม ให้พร้อมในการที่จะพิจารณาสั่งเปิดเผยหรือไม่เปิดเผย เมื่อมีผู้ใดยื่นคำขอข้อมูลข่าวสารในความครอบครองหรือควบคุม ดูแล ดังกล่าว หน้า ๑๘ หมวด ๔ การขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาต ข้อ ๑๖ บุคคลใดประสงค์จะเข้าตรวจดู ขอถ่ายสำเนาข้อมูลข่าวสารหรือขอสำเนาข้อมูล ข่าวสารที่มีคำรับรองถูกต้อง ให้ยื่นคำขอตามแบบแนบท้าย หรือทำเป็นหนังสือพร้อมทั้งแสดงเหตุผล และความจำเป็น ยื่นต่อนายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปีหรือผู้มีอำนาจอนุญาต กรณีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ไม่อยู่ภายใต้บังคับ แห่งระเบียบนี้ แต่ให้ถือปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๗ ผู้มีอำนาจอนุญาตตามระเบียบนี้ ได้แก่ (๑) หัวหน้าหน่วยงานในสังกัด สำหรับการขอข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือ ควบคุมดูแลของหน่วยงานของตน (๒) รองนายกเทศมนตรี สำหรับการขอข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือ ควบคุมดูแลของหน่วยงานที่ตนกำกับดูแล (๓) นายกเทศมนตรี สำหรับการขอข้อมูลข่าวสารทุกประเภท ข้อ ๑๘ การขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท้ายระเบียบนี้ โดยให้ดำเนินการภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนดไว้ ข้อ ๑๙ ข้อมูลข่าวสารใด หากมีกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี ประกาศ หรือคำสั่ง กำหนดวิธีการและเงื่อนไขหรือวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการเปิดเผย การขอข้อมูลข่าวสาร และการอนุญาต ไว้เป็นพิเศษ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี ประกาศ หรือคำสั่งว่าด้วยการนั้น หมวด ๕ การบริการข้อมูลข่าวสาร ข้อ ๒๐ ให้หน่วยงานในเทศบาลตำบลปทุมวาปีรวบรวม จัดเตรียม และจัดให้มีข้อมูล ข่าวสาร ที่ดำ เนินการเสร็จสิ้นแล้วและอยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อเผยแพร่ขาย จำหน่าย จ่ายแจก ตรวจดูและศึกษา ค้นคว้า และเผยแพร่ตลอดจนจัดหาและจัดทำสำเนาข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ การบริการข้อมูลข่าวสารนอกจากที่กล่าวในวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามคำแนะนำ หรือความเห็น ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเทศบาลตำบลปทุมวาปี ข้อ ๒๑ ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้ถือปฏิบัติตามข้อ ๒๐ โดยอนุโลม เว้นแต่ เป็นเรื่องลับ ตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๗ หรือระเบียบ หน้า ๑๙ ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของราชการ หรือเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเปิดเผยตามกฎหมาย ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือที่ผู้มีอำนาจอนุญาตเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเปิดเผย ข้อ ๒๒ ข้อมูลข่าวสารที่มีไว้เพื่อขายหรือจำหน่าย ให้คิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเทศบาลตำบลปทุมวาปีกำหนด ข้อ ๒๓ การเรียกค่าธรรมเนียมการขอเข้าตรวจดู ขอสำเนา หรือขอสำเนาที่มีคำรับรอง ถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเทศบาลตำบล ปทุมวาปีกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรม การข้อมูลข่าวสารของราชการ กรณีมีเหตุจำเป็น หรือเหตุสมควรอย่างอื่น ให้ผู้มีอำนาจอนุญาตยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมได้ตามที่เห็นสมควร และรายงานให้นายกเทศมนตรีทราบ การรับรองสำเนาข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบข้อมูลข่าวสารตั้งแต่ ระดับปฏิบัติงานหรือเทียบเท่าขึ้นไป เป็นผู้รับรองโดยลงลายมือชื่อ พร้อมทั้งชื่อตัวชื่อสกุลและตำแหน่ง ตลอดจน วัน เดือน ปี ให้ชัดเจน ทั้งนี้ ให้รับรองตามจำนวนที่ผู้ยื่นคำขอขอให้รับรอง ข้อ ๒๔ รายได้จากการขาย หรือจำหน่ายข้อมูลข่าวสารตามข้อ ๒๒ และค่าธรรมเนียม ตามข้อ ๒๓ ให้ปฏิบัติตามระเบียบของราชการ ข้อ ๒๕ การบริการส่งข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยทางโทรสาร ให้ดำเนินการได้เฉพาะกรณีเร่งด่วน โดยให้คำนึงถึงความสิ้นเปลือง เช่น จำนวนข้อมูลข่าวสาร ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการส่ง โดยให้ หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดที่ครอบคร องหรือควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารนั้นเป็นผู้พิจารณา ข้อ ๒๖ การบริการข้อมูลข่าวสาร ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ หมวด ๖ กำหนดระยะเวลา ข้อ ๒๗ การบริการข้อมูลข่าวสารตามคำขอให้หน่วยงานดำเนินการให้บริการภายในกำหนด ระยะเวลา ดังนี้ (๑) การให้บริการข้อมูลข่าวสารที่จัดไว้ให้ประชาชนตรวจดูหรือขอสำเนาหรือขอสำเนาที่มี คำรับรองความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันทำการที่ได้มีคำขอนั้น (๒) การให้บริการข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ ที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของหน่วยงาน ในสังกัด ให้หน่วยงานในสังกัดที่มีข้อมูลข่าวสารพร้อมที่จะจัดหาได้จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยเร็วหรือภายในวันที่รับคำขอ (๓) ในกรณีที่ข้อมูลข่าวสารที่ขอให้มีจำนวนมาก หรือไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน ๑๕ วัน จะต้องแจ้งให้ผู้ขอข้อมูลข่าวสารทราบภายใน ๑๕ วัน รวมทั้งแจ้งกำหนดวันที่ ดำเนินการแล้วเสร็จให้ผู้ขอข้อมูลข่าวสารทราบด้วย หน้า ๒๐ หมวด ๗ สถานที่บริการข้อมูลข่าวสาร ข้อ ๒๘ ให้หน่วยงานในเทศบาลตำบลปทุมวาปี ควบคุม ดูแลข้อมูลข่าวสารที่อยู่ใน ความรับผิดชอบ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของราชการ และจัดสถานที่บริการข้อมูลข่าวสาร ดังนี้ ให้สำนักปลัดเทศบาล เป็นสถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือให้คำแนะนำในการติดต่อ กับหน่วยงานของรัฐ เรียกว่า “ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ของเทศบาลตำบลปทุมวาปี” โดยให้มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) ให้บริการข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการของหน่วยงานในเทศบาลตำบลปทุมวาปี และข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้ว (๒) เป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานในเทศบาลตำบลปทุมวาปีเพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร (๓) จัดทำประกาศเทศบาลตำบลปทุมวาปี และกำหนดสถานที่ติดต่อขอรับข้อมูลข่าวสาร ของเทศบาลตำบลปทุมวาปี (๔) จัดทำรายงานเกี่ยวกับการให้บริการข้อมูลข่าวสารตามระเบียบนี้ เสนอผู้บริหารท้องถิ่น ตามปีปฏิทินรอบ ๖ เดือน และรอบ ๑๒ เดือน ให้แต่ละส่วนราชการในเทศบาลตำบลปทุมวาปีรวบรวมและจัดส่งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ให้ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปีและมีหน้าที่ตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่รับผิดชอบด้วย ข้อ ๒๙ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของเทศบาลตำบลปทุมวาปี ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น ๑ สำนักงาน เทศบาลตำบลปทุมวาปี ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร รหัสไปรษณีย์ ๔๗๑๙๐ หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์และหมายเลขโทรสาร ๐ ๔๒๗๐ ๗๖๘๕ ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖ ไพรวัลย์ เกตุนันท์ นายกเทศมนตรีตำบลปทุมวาปี เล่ม: 140 หมวด: 120 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 24/05/2023 หน้า: 15
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:141728", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ระเบียบเทศบาลตำบลปทุมวาปี ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2564", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D120S0000000001500.pdf", "year": null }
nonweb_90409
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบล ใหม่นาเพียง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยที่เป็นการสมควร ตราข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบล ว่าด้วยการควบคุมกิจการที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๕๔ และมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย องค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง โดยความเห็นชอบ จากสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลใหม่นาเพียง และนายอำเภอแวงใหญ่จึงตราข้อบัญญัติขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๗” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับภายในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง นับถัดจาก วันที่ได้ประกาศไว้โดยเปิดเผย ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็น อันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๔ ในข้อบัญญัตินี้ “ผู้ดำเนินกิจการ” หมายความว่า ผู้เป็นเจ้าของหรือบุคคลที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งรับผิดชอบ ดำเนินการสถานประกอบกิจการนั้น “คนงาน” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการ “มลพิษทางเสียง” หมายความว่า สภาวะของเสียง อันเกิดจากการประกอบกิจการของ สถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของสาธารณ ชน “มลพิษความสั่นสะเทือน” หมายความว่า สภาวะของความสั่นสะเทือนอันเกิดจากการประกอบกิจการ ของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ของสาธารณชน “มลพิษทางอากาศ” หมายความว่า สภาวะของอากาศอันเกิดจากการประกอบกิจการของ สถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของสาธารณ ชน “มลพิษทางน้ำ” หมายความว่า สภาวะของน้ำทิ้งอันเกิดจากการประกอบกิจการของ สถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของสาธารณ ชน “อาคาร” หมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงาน หรือสิ่งที่ สร้างขึ้นอย่างอื่น ซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำ บลใหม่นาเพียง “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายถึง ข้าราชการส่วนท้อ งถิ่น และหรือพนักงานส่วนตำบล ซึ่งได้รับ การแต่งตั้งเพื่อให้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และตาม ข้อบัญญัตินี้ “กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” หมายถึง กิจการที่มีกระบวนการผลิต กรรมวิธีการผลิต ที่ก่อให้เกิดมลพิษห รือสิ่งที่ทำให้เกิดโรค ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อยู่ในบริเวณ ข้างเคียงนั้น ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ ทางเสียง แสง ความร้อน ความสั่นสะเทือน รังสี ฝุนละออง เขม่า เถ้า หรืออื่นใดตามที่กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หนังสือสั่งการ กำหนด ข้อ ๕ ให้กิจการประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมภายในเขตองค์การ บริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง (๑) กิจการที่เกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ (๑.๑) การเลี้ยงสัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลานหรือแมลง (๑.๒) การเลี้ยงสัตว์เพื่อรีดเอาน้ำนม (๑.๓) การประกอบกิจการเลี้ยง รวบรวมสัตว์ หรือธุรกิจอื่นใดอันมีลักษณะ ทำนองเดียวกันเพื่อให้ประชาชนเข้าชม หรือประโยชน์ของกิจการนั้น ทั้งนี้จะมีการเรียกเก็บค่าดู หรือค่าบริการไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่ก็ตาม (๒) กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์และผลิตภัณฑ์ (๒.๑) การฆ่าสัตว์ ยกเว้นในสถานที่จำหน่ายอาหาร การเร่ขาย การขาย ในตลาดและการฆ่าเพื่อบริโภคในครัวเรือน (๒.๒) การฟอกหนังสัตว์ ขนสัตว์ การสะสมสัตว์ ขนสัตว์ที่ยังมิได้ฟอก (๒.๓) การสะสมเขาสัตว์ กระดูกสัตว์ที่ยังไม่ได้แปรรูป (๒.๔) การเคี่ยวหนังสัตว์ เอ็นสัตว์ ไขสัตว์ (๒.๕) การต้ม การตาก การเผาเปลือกหอย เปลือกปู เปลือกกุ้ง ยกเว้น ในสถานที่จำหน่ายอาหาร การเร่ขาย และการขายในตลาด (๒.๖) การประดิษฐ์เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากเปลือกหอย กระดูกสัตว์ เขาสัตว์ หนังสัตว์ ขนสัตว์ หรือส่วนอื่น ๆ ของสัตว์ (๒.๗) การผลิต การโม่การปุน การบด การผสม การบรรจุ การสะสมหรือ การกระทำอื่นใดต่อสัตว์หรือพืช หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์หรือพืช เพื่อเป็นอาหารสัตว์ (๒.๘) การสะสมหรือการล้างครั่ง (๓) กิจการที่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม น้ำดื่ม (๓.๑) การผลิตเนย เนยเทียม (๓.๒) การผลิตกะปิ น้ำพริกแกง น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำเคย น้ำบูดู ไตปลา เต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว หอยดอง หรือซอสปรุงรสอื่น ๆ ยกเว้นการผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือน (๓.๓) การผลิต การหมัก การสะสมปลาร้า ปลาเจ่า กุ้งเจ่า ยกเว้นการผลิต เพื่อการบริโภคในครัวเรือน (๓.๔) การตากเนื้อสัตว์ การผลิตเนื้อสัตว์เค็ม การเคี่ยวมันกุ้ง ยกเว้น การผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือน (๓.๕) การนึ่ง การต้ม การเคี่ยว การตาก หรือวิธีอื่นใดในการผลิตอาหารจาก สัตว์ พืช ยกเว้นในสถานที่จำหน่ายอาหาร การขายเร่การขายในตลาด และผลิตเพื่อการบริโภคใน ครัวเรือน (๓.๖) การเคี่ยวน้ำมันหมู การผลิตกุนเชียง หมูยอ ไส้กรอก หมูตั้ง ยกเว้น ในสถานที่จำหน่ายอาหาร การเร่ขาย การขายในตลาด และการผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือน (๓.๗) การผลิตเส้นหมี่ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว เต้าฮวย เต้าหู้วุ้นเส้น เกี้ยมอี๋ (๓.๘) การผลิตแบะแซ (๓.๙) การผลิตอาหารกระป๋อง ขวด หรือภาชนะอื่นใด (๓.๑๐) การประกอบกิจการกำรทำขนมปังสด ขนมปังแห้ง จันอับ ขนมเปี๊ยะ (๓.๑๑) การแกะ การล้างสัตว์น้ำ ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกิจการห้องเย็น ยกเว้น การผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือน (๓.๑๒) การผลิตน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำโซดา น้ำถั่วเหลือง เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ บรรจุกระป๋องขวด ห รือภาชนะอื่นใด ยกเว้นการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือน (๓.๑๓) การผลิต การแบ่งบรรจุน้ำตาล (๓.๑๔) การผลิตผลิตภัณฑ์จากน้ำนมวัว (๓.๑๕) การผลิต การแบ่งบรรจุเอทิลแอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ น้ำส้มสายชู (๓.๑๖) การคั่วกาแฟ (๓.๑๗) การผลิตลูกชิ้นด้วยเครื่องจักร (๓.๑๘) การผลิตผงชูรส (๓.๑๙) การผลิตน้ำกลั่น น้ำบริโภค (๓.๒๐) การตาก การหมัก การดองผัก ผลไม้หรือพืชอย่างอื่น ยกเว้น การผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือน (๓.๒๑) การผลิต การบรรจุใบชาแห้ง ชาผง หรือเครื่องดื่มชนิดผงอื่น ๆ (๓.๒๒) การผลิตไอศกรีม ยกเว้นการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือน (๓.๒๓) การผลิตบะหมี่มักกะโรนี หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน (๓.๒๔) การประกอบกิจการห้องเย็น แช่แข็งอาหาร (๓.๒๕) การผลิตน้ำแข็ง ยกเว้นการผลิตเพื่อใช้ในสถานที่จำหน่ายอาหาร และเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน (๓.๒๖) การเก็บ การถนอมอาหารด้วยเครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ ๕ แรงม้าขึ้นไป (๔) กิจการที่เกี่ยวกับยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ ชำระล้าง (๔.๑) การผลิต การโม่การบด การผสม การบรรจุยาด้วยเครื่องจักร (๔.๒) การผลิต การบรรจุยาสีฟัน แชมพู ผำ เย็น กระดาษเย็น เครื่องสำอางต่าง ๆ (๔.๓) การผลิตสำลี ผลิตภัณฑ์จากสำลี (๔.๔) การผลิตผ้าพันแผล ผำปิดแผล ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมสำเร็จรูป (๔.๕) การผลิตสบู่ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ชำระล้างต่าง ๆ (๕) กิจการที่เกี่ยวกับการเกษตร (๕.๑) การอัด การสกัดเอาน้ำจากพืช (๕.๒) การล้าง การอบ การรม การสะสมยางดิบ (๕.๓) การผลิตแปูงมันสำปะหลัง แปูงสาคูหรือแปูงอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน ด้วยเครื่องจักร (๕.๔) การสีข้าวด้วยเครื่องจักร (๕.๕) การผลิตยาสูบ (๕.๖) การขัด การกะเทาะ การบดเมล็ดพืช การนวดข้าวด้วยเครื่องจักร (๕.๗) การผลิต การสะสมปุ๋ย (๕.๘) การผลิตใยมะพร้าวหรือวัตถุคล้ายคลึงด้วยเครื่องจักร (๕.๙) การตาก การสะสม หรือการขนถ่ายมันสำปะหลัง (๖) กิจการที่เกี่ยวกับโลหะหรือแร่ (๖.๑) การผลิตโลหะเป็นภาชนะ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ห รือเครื่องใช้ต่าง ๆ (๖.๒) การหลอม การหล่อ การถลุง แร่หรือโลหะทุกชนิดยกเว้นกิจการใน ๖.๑ (๖.๓) การกลึง การเจาะ การเชื่อม การตี การตัด การประสาน การรีด การอัดโลหะ ด้วยเครื่องจักรหรือก๊าซหรือไฟฟูา ยกเว้นกิจการใน ๖.๑ (๖.๔) การเคลือบ การชุบโลหะด้วยตะกั่ว สังกะสี ดีบุก โครเมียม นิกเกิล หรือโลหะอื่น ๆ ยกเว้นกิจการใน ๖.๑ (๖.๕) การขัด การล้างโลหะด้วยเครื่องจักร สารเคมี หรือวิธีอื่นใด ยกเว้น กิจการใน ๖.๑ (๖.๖) การทำเหมืองแร่การสะสม การแยก การคัดเลือก หรือการล้างแร่ (๗) กิจการเกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องกล (๗.๑) การต่อ การประกอบ การเคาะ การปะผุ การพ่นสี การพ่นสาร กันสนิมยานยนต์ (๗.๒) การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ การซ่อม การปรับแต่ง ระบบปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่อ งกล (๗.๓) การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องกล หรือเครื่องจักร ซึ่งมีไว้ บริการหรือจำหน่าย และในการประกอบธุรกิจนั้น มีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงยานยนต์ เครื่องจักรหรือ เครื่องกลดังกล่าวด้วย (๗.๔) การล้าง การอัดฉีดยานยนต์ (๗.๕) การผลิต การซ่อม การอัดแบตเตอรี่ (๗.๖) การปะ การเชื่อมยาง (๗.๗) การอัดผำเบรก ผำคลัตช์ (๘) กิจการที่เกี่ยวกับไม้ (๘.๑) การผลิตไม้ขีดไฟ (๘.๒) การเลื่อย การซอย การขัด การไส การเจาะ การขุดร่อง การทำคิ้ว หรือการตัดไม้ด้วยเครื่องจักร (๘.๓) การประดิษฐ์ไม้หวาย เป็นสิ่งของด้วยเครื่องจักร หรือการพ่น การทำสารเคลือบเงาสี หรือการแต่งสำเร็จผลิตภัณฑ์จากไม้หรือหวาย (๘.๔) การอบไม้ (๘.๕) การผลิตธูปด้วยเครื่องจักร (๘.๖) การประดิษฐ์สิ่งของ เครื่องใช้ เครื่องเขียนด้วยกระดาษ (๘.๗) การผลิตกระดาษต่าง ๆ (๘.๘) การเผาถ่าน หรือการสะสมถ่าน (๙) กิจการที่เกี่ยวกับการบริการ (๙.๑) กิจการสปาเพื่อสุขภาพ เว้นแต่เป็นการให้บริการในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (๙.๒) การประกอบกิจการอาบ อบ นวด เว้นแต่เป็นการให้บริการใน ๙.๑ หรือในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (๙.๓) การประกอบกิจการสถานที่อาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่เป็น การให้บริการใน ๙.๑ หรือในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (๙.๔) การประกอบกิจการโรงแรม หรือกิจการอื่นในทำนองเดียวกัน (๙.๕) การประกอบกิจการหอพัก อาคารชุดให้เช่า ห้องเช่า ห้องแบ่งเช่าหรือ กิจการอื่นในทำนองเดียวกัน (๙.๖) การประกอบกิจการโรงมหรสพ (๙.๗) การจัดให้มีการแสดงดนตรี เต้นรำ รำวง รองเง็ง ดิสโกเทก คาราโอเกะ หรือการแสดงอื่น ๆ ในทำน องเดียวกัน (๙.๘) การประกอบกิจการสระว่ายน้ำ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน เว้นแต่เป็นการให้บริการใน ๙.๑ (๙.๙) การจัดให้มีการเล่นสเก ต โดยมีแสงหรือเสียงประกอบ หรือการเล่นอื่น ในทำนองเดียวกัน (๙.๑๐) การประกอบกิจการเสริมสวยแต่งผม เว้นแต่กิจการที่อยู่ในบังคับ ตามกฎหมายว่าด้วยการป ระกอบกิจการวิชาชีพเวชกรรม (๙.๑๑) การประกอบกิจการให้การบริการควบคุมน้ำหนัก โดยวิธีการควบคุม ทางโภชนาการ ให้อาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ การบริหารร่างกาย หรือโดยวิธีอื่นใด เว้นแต่ การให้บริการใน ๙.๑ หรือในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (๙.๑๒) การประกอบกิจการสวนสนุก ตู้เกม (๙.๑๓) การประกอบกิจการสนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ (๙.๑๔) การประกอบกิจการห้องปฏิบัติทางการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม (๙.๑๕) การสักผิวหนัง การเจาะหู หรือเจาะอวัยวะอื่น (๙.๑๖) การประกอบกิจการให้บริการเลี้ยงดูแลเด็กที่บ้าน (๑๐) กิจการที่เกี่ยวกับสิ่งทอ (๑๐.๑) การปั่นด้าย การกรอด้าย การทอผ้าด้วยเครื่องจักร หรือการทอผ้า ด้วยกี่กระตุกตั้งแต่ ๕ กี่ขึ้นไป (๑๐.๒) การสะสมปอ ปุาน ฝูาย หรือนุ่น (๑๐.๓) การปั่นฝูาย หรือนุ่นด้วยเครื่องจักร (๑๐.๔) การทอเสื่อ กระสอบ พรม หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร (๑๐.๕) การเย็บผ้าด้วยเครื่องจักรตั้งแต่ ๕ เครื่องขึ้นไป (๑๐.๖) การพิมพ์ผำ หรือการพิมพ์บนสิ่งทออื่น ๆ (๑๐.๗) การซัก การอบ การรีด การอัดกลีบด้วยเครื่องจักร (๑๐.๘) การย้อม การกัดสีผำ หรือสิ่งทออื่น ๆ (๑๑) กิจการที่เกี่ยวกับหิน ดิน ทราย ซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๑.๑) การผลิตภาชนะดินเผา หรือผลิตภัณฑ์ดินเผา (๑๑.๒) การระเบิด การโม่การปุนหินด้วยเครื่องจักร (๑๑.๓) การผลิตเครื่องใช้ด้วยซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๑.๔) การสะสม การผลิตซีเมนต์ หิน ทราย หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๑.๕) การเจียระไนเพชร พลอย หิน กระจก หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๑.๖) การเลื่อย การตัด หรือการประดิษฐ์หินเป็นสิ่งของต่าง ๆ (๑๑.๗) การผลิตชอล์ก ปูนปลาสเตอร์ ปูนขาว ดินสอพอง หรือการเผาหินปูน (๑๑.๘) การผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ หรือส่วนผสม เช่น ผำเบรก ผำคลัตช์ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องยาง ฝูาเพดาน ท่อน้ำ เป็นต้น (๑๑.๙) การผลิตกระจก หรือผลิตภัณฑ์แก้ว (๑๑.๑๐) การผลิตกระดาษทราย (๑๑.๑๑) การผลิตใยแก้ว หรือผลิตภัณฑ์จากใยแก้ว (๑๒) กิจการที่เกี่ยวกับปิโตรเลียม ถ่านหิน สารเคมี (๑๒.๑) การผลิต การบรรจุ การสะสม การขนส่งกรด ด่าง สารออกซิไดซ์หรือ สารตัวทำละลาย (๑๒.๒) การผลิต การบรรจุ การสะสม การขนส่งก๊าซ (๑๒.๓) การผลิต การบรรจุ การสะสม การขนส่งน้ำมันปิโตรเลียมหรือ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่าง ๆ (๑๒.๔) การผลิต การสะสม การขนส่งถ่านหิน ถ่านโค้ก (๑๒.๕) การพ่นสี ยกเว้นกิจการใน ๗.๑ (๑๒.๖) การประดิษฐ์สิ่งของเครื่อง ใช้ด้วยยาง ยางเทียม พลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัสดุที่คล้ายคลึง (๑๒.๗) การโม่การบดชัน (๑๒.๘) การผลิตสี หรือน้ำมันผสมสี (๑๒.๙) การผลิต การล้างฟิล์มรูปถ่าย หรือฟิล์มภาพยนตร์ (๑๒.๑๐) การเคลือบ การชุบวัตถุด้วยพลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์หรือวัตถุ ที่คล้ายคลึง (๑๒.๑๑) การผลิตพลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัสดุที่คล้ายคลึง (๑๒.๑๒) การผลิต การบรรจุสารเคมีดับเพลิง (๑๒.๑๓) การผลิตน้ำแข็งแห้ง (๑๒.๑๔) การผลิต การสะสม การขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็น ส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิง (๑๒.๑๕) การผลิตเชลแล็ก หรือสารเคลือบเงา (๑๒.๑๖) การผลิต การบรรจุ การสะสม การขนส่ง การกำจัดศัตรูพืชหรือ พาหนะนำโรค (๑๒.๑๗) การผลิต การบรรจุ การสะสมกาว (๑๓) กิจการอื่น ๆ (๑๓.๑) การพิมพ์หนังสือหรือสิ่งพิมพ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันด้วยเครื่องจักร (๑๓.๒) การผลิต การซ่อมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟูา อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟูา (๑๓.๓) การผลิตเทียน เทียนไข หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๓.๔) การพิมพ์แบบ พิมพ์เขียว หรือการถ่ายเอกสาร (๑๓.๕) การสะสมวัตถุหรือสิ่งของที่ชำรุด ใช้แล้วหรือเหลือใช้ (๑๓.๖) การประกอบกิจการโกดังสินค้า (๑๓.๗) การล้างขวด ภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว (๑๓.๘) การพิมพ์สีลงบนวัตถุที่มิใช่สิ่งทอ (๑๓.๙) การก่อสร้าง (๑๓.๑๐) กิจการท่าเทียบเรือประมง สะพานปลา หรือแพปลา ข้อ ๖ สถานประกอบกิจการที่ต้องมีการควบคุมตามข้อบัญญัตินี้ที่ตั้งอยู่ในเขตที่กฎหมาย ว่าด้วยการผังเมือง หรือกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารมีผลใช้บังคับ หรือสถานประกอบกิจการใดที่เข้า ข่าย เป็นโรงงานหรือมีการประกอบกิจการเกี่ยวกับวัตถุอันตราย จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นและ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย แล้วแต่กรณี ข้อ ๗ สถานประกอบกิจการต้องตั้งอยู่ห่างจากชุมชน วัด ศาสนสถาน โบราณสถาน โรงเรียน สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล หรือสถานที่อื่น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงา นและ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานประกอบกิจการที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน สถานประกอบ กิจการนั้นจะต้องตั้งอยู่ห่างจากชุมชน วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ไม่น้อยกว่า ๑๐๐ เมตร ทั้งนี้ เพื่อปูองกันอันตรายต่อสุขภาพอนามัยหรือการก่อเหตุรำคาญของประชาชน ข้อ ๘ สถานประกอบกิจการที่มีอาคารต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (๑) ต้องเป็นอาคารที่มีความมั่นคง แข็งแรง เหมาะสมที่จะประกอบกิจการที่ขอ อนุญาตได้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บันไดหนีไฟหรือทางออกฉุกเฉินมีลักษณะที่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม อาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง มีแสงสว่างเพียงพอ และมีปูายหรือ เครื่องหมายแสดงชัดเจน โดยทางออกฉุกเฉินต้องมีไฟส่องสว่างฉุกเฉินเมื่อระบบไฟฟูาปกติขัดข้อง (๒) ต้องจัดให้มีระบบการจัดแสงสว่างและการระบายอากาศให้เป็นไปตามกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง (๓) ต้องมีห้องน้ำและห้องส้วมตามแบบและจำนวนที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วย การควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องและมีการดูแลรักษาความสะอาดให้อยู่ในสภาพที่ถูก สุขลักษณะเป็นประจำทุกวัน ข้อ ๙ สถานประกอบกิจการที่คนงานอาจเปรอะเปื้อนจากสารเคมี วัตถุอันตรายหรือสิ่งอื่นใด อันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพต้องจัดให้มีที่อาบน้ำฉุกเฉิน ที่ล้างตาฉุกเฉิน ตามความจำเป็นและ เหมาะสมกับคุณสมบัติของวัตถุอันตรายและขนาดของการประกอบกิจการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ว่าด้วยวัตถุอันตรายและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๐ สถานประกอบกิจการต้องมีการเก็บ รวบรวม หรือกำจัดมูลฝอยที่ถูกสุขลักษณะ ดังนี้ (๑) มีภาชนะบรรจุหรือภาชนะรองรับที่เหมาะสมและเพียงพอกับปริมาณและประเภท มูลฝอยรวมทั้งมีการทำความสะอาดภาชนะบรรจุหรือภาชนะรองรับและบริเวณที่เก็บภาชนะนั้นอยู่เสมอ (๒) ในกรณีที่มีการกำจัดเอง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและ ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อบัญญัติว่าด้วยการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย (๓) กรณีที่มีมูลฝอยปนเปื้อนสารพิษหรือวัตถุอันตรายหรือสิ่งอื่นใดที่อาจเป็นอันตราย ต่อสุขภาพหรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๑ สถานประกอบกิจการต้องมีการปูองกันกำจัดแมลงและสัตว์ที่เป็นพาหะของโรคติดต่อ ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ข้อ ๑๒ สถานประกอบกิจการที่มีโรงอาหารหรือห้องครัว ที่จัดไว้สำหรับการประกอบอาหาร การปรุงอาหาร การสะสมอาหารสำหรับคนงาน ต้องมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อบัญญัติว่าด้วย สถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร ข้อ ๑๓ สถานประกอบกิจการต้องจัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัยเป็น สัดส่วนและต้องรักษาควา มสะอาดอยู่เสมอ ข้อ ๑๔ สถานประกอบกิจการต้องมีมาตรการความปลอดภัยในการทำงานและปฏิบัติ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๕ สถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีการปูองกันเพื่อความปลอดภัย ดังนี้ (๑) มีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้และเครื่องดับเพลิง ตามกฎหมายว่าด้วย การควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะต้องมีการบันทึกการบำรุงรักษาเครื่องดับเพลิง อย่างน้อยหกเดือนต่อครั้ง และมีการฝึกอบรมการดับเพลิงเบื้องต้นจากหน่วยงานที่ทางราชการกำหนด หรือยอมรับให้แก่คนงานไม่น้อยกว่าร้อย ละสี่สิบของจำนวนคนงานในสถานประกอบกิจการนั้น (๒) กรณีที่มีวัตถุอันตราย ต้องมีสถานที่ปลอดภัยสำหรับเก็บรักษาวัตถุอันตรายหรือ สิ่งของที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรืออัคคีภัยได้ง่ายไว้โดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายและ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๖ สถานประกอบกิจการใดที่การประกอบกิจการอาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงหรือ ความสั่นสะเทือน มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำ ของเสียอันตราย หรือมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุ อันตรายจะต้องดำเนินการควบคุมและปูองกันมิให้เกิดผลกระทบจนเป็นเหตุรำคาญหรือเป็นอันตรายต่อ สุขภาพของคนงานและผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง ข้อ ๑๗ เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ข้อบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใด ดำเนินกิจการตามประเภทที่ระบุไว้ในข้อ ๕ ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียงในลักษณะ ที่เป็นการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ท้องถิ่น ในการออกใบอนุญาต เจ้าพนักงานท้องถิ่นอาจกำหนดเงื่อนไขโดยเฉพาะให้ผู้รับใบอนุญาต ปฏิบัติเพื่อปูองกันอันตรายต่อสุขภาพของสาธารณชนเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้โดยทั่วไปในข้อบัญญัตินี้ ใบอนุญาตให้ใช้ได้สำหรับกิจการประเภทเดียวและสำหรับสถานที่แห่งเดียว ข้อ ๑๘ ผู้ใดประสงค์ที่จะประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งต้องควบคุมตามข้อ ๕ จะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามแบบ กอ.๑ ที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น พร้อมกับเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (๑) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/ข้าราชการ/ พนักงานรัฐวิสาหกิจ (๒) สำเนาใบอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (๓) อื่น ๆ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียงประกาศกำหนด ข้อ ๑๙ ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งต้องควบคุมกิจการ ตามข้อบัญญัตินี้จะต้องจัดสถานที่สำหรับประกอบกิจการคำนั้น ๆ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอันเกี่ยวด้วยสุขลักษณะ ดังต่อไปนี้ (๑) สถานที่นั้นต้องตั้งอยู่ในทำเลที่จะมีรางระบายน้ำ รับน้ำโสโครกได้อย่างเหมาะสม ตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข (๒) ต้องจัดทำรางระบายน้ำ หรือบ่อรับน้ำโสโครกด้วยวัตถุถาวร เรียบ ไม่ซึม ไม่รั่ว ระบายน้ำได้สะดวก (๓) การระบายน้ำต้องไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ผู้ใช้น้ำในทางน้ำสาธารณะหรือผู้อาศัย ใกล้เคียง (๔) จัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสีย ตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข (๕) เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเห็นว่า สถานที่ใดสมควรจะต้องทำพื้นด้วยวัตถุถาวร เพื่อปูองกันมิให้น้ำซึม รั่วไหล หรือขังอยู่ได้หรือเห็นว่าควรมีบ่อพักน้ำโสโครก หรือทำการกำจัดน้ำ โสโครก ไขมันให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล หรือต้องมีเครื่องระบายน้ำ เครื่องปูองกันกลิ่น ไอเสีย ความกระเทือนฝุนละออง เขม่า เถ้า หรือสิ่งอื่นใดอันอาจเป็นเหตุรำคาญแก่ผู้ที่อยู่ข้างเคียง ข้อกำหนด ดังกล่าว ผู้ขอรับใบอนุญาต ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข (๖) ต้องให้มีแสงสว่างและการระบายอากาศเพียงพอ และต้องจัดสถานที่มิให้เป็นที่ อยู่อาศัยของสัตว์นำ โรค (๗) ต้องจัดให้มีน้ำสะอาดเพียงพอแก่กิจการนั้น ๆ (๘) ต้องมีที่รองรับมูลฝอย และสิ่งปฏิกูลอันได้สุขลักษณะจำนวนเพียงพอ (๙) ต้องจัดให้มีส้วมอันได้สุขลักษณะจำนวนเพียงพอกับคนที่ทำการในสถานที่นั้น และต้องตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม รวมทั้งการกำจัดสิ่งปฏิกูลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล ตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข (๑๐) สถานที่เลี้ยงสัตว์ที่ขัง และที่ปล่อย จะต้องกว้างขวางเพียงพอ และต้องจัด ให้ได้สุขลักษณะ (๑๑) สถานที่เกี่ยวกับการตาก หรือผึ่งสินค้า ต้องมีที่สำหรับตาก หรือผึ่งสินค้าตามที่ เจ้าพนักงานสาธารณสุขเห็นชอบ ปฏิบัติการอื่นใดเกี่ยวด้วยสุขลักษณะ ตามคำแนะนำของเจ้าพนักงาน สาธารณสุขและคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งระเบียบ ข้อบัญญัติและประกาศขององค์การบริหาร ส่วนตำบลใหม่นาเพียง ข้อ ๒๐ ผู้ได้รับการอนุญาตต้องมารับใบอนุญาตภาย ในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ การแจ้งการอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากไม่มารับภายในกำหนดเวลาดังกล่าว โดยไม่มีเหตุอัน สมควรให้ถือว่าสละสิทธิ์ ข้อ ๒๑ เมื่อได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาต ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น ตรวจความถูกต้องและความสมบู รณ์ของคำขอ ถ้าปรากฏว่าคำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นรวบรวมความไม่ ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์นั้นทั้งหมด และแจ้งให้ผู้ขออนุญาตแก้ไขให้ถูกต้องและสมบูรณ์ในคราว เดียวกัน และในกรณีจำเป็นที่จะต้องส่งคืนคำขอแก่ผู้ขออนุญาต ให้ส่งคืนคำขอพร้อมทั้งแจ้งความไม่ ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ให้ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผล ให้ผู้ขออนุญาตทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับคำขอ ซึ่งมีรายละเอียดถูกต้องหรือครบถ้วนตามที่ กำหนดในข้อบัญญัตินี้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่อาจออกใบอนุญาตหรือยังไม่อาจมีคำสั่งไม่อนุญาตได้ ภายในกำหนดเวลาตามวรรคสอง ให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งการขยายเวลาและเหตุจำเป็นแต่ละครั้งให้ผู้ขออนุญาตทราบก่อนสิ้นกำหนดเวลาตาม วรรคสองหรือตามที่ได้ขยายเวลาไว้แล้วนั้น แล้วแต่กรณี ข้อ ๒๒ ใบอนุญาตให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต และให้ใช้ได้เพียงในเขตอำนาจ ขององค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียงเท่านั้น การขอต่ออายุใบอนุญาต จะต้องยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ ตามแบบ กอ.๓ และเมื่อได้ ยื่นคำขอพร้อมกับเสียค่าธรรมเนียมแล้ว ให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งไม่ต่อ อายุใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามข้อ ๑๗ และข้อ ๑๘ ด้วย ข้อ ๒๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามอัตราที่กำหนดไว้ ท้ายข้อบัญญัตินี้ในวันที่มารับใบอนุญาต สำหรับกรณีที่เป็นการขอรับใบอนุญาตครั้งแรก หรือก่อน ใบอนุญาตสิ้นอายุสำหรับกรณีที่เป็นการขอต่ออายุใบอนุญาต ตลอดเวลาที่ยังดำเนินกิจการนั้นถ้ามิได้เสีย ค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนด ให้ชำระค่าปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละยี่สิบของจำนวนค่าธรรมเนียมที่ค้าง ชำระ เว้นแต่ผู้ได้รับใบอนุญาตจะได้บ อกเลิกการดำเนินกิจการนั้นก่อนถึงกำหนดการเสียค่าธรรมเนียม ครั้งต่อไป ในกรณีที่มีผู้มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ค้างชำระค่าธรรมเนียมติดต่อกันเกินสองครั้ง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการดำเนินกิจการไว้จนกว่าจะได้เสียค่าธรรมเนียมและ ค่าปรับจนครบจำนวน ข้อ ๒๔ บรรดาค่าธรรมเนียมและค่าปรับตามข้อบัญญัตินี้ ให้เป็นรายได้ขององค์การบริหาร ส่วนตำบลใหม่นาเพียง ข้อ ๒๕ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ ประกอบกิจการตลอดเวลาที่ประกอบกิจการ ข้อ ๒๖ เมื่อผู้ได้รับอนุญาตไม่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้ยื่นคำร้องบอกเลิกกิจการ ตามแบบ กอ. ๖ ท้ายข้อบัญญัตินี้ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๒๗ หากผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอแก้ไขรายการ ในใบอนุญาตตามแบบ กอ. ๕ ท้ายข้อบัญญัตินี้ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๒๘ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาต ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตตามแบบ กอ. ๔ ท้ายข้อบัญญัตินี้ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำ คัญ แล้วแต่กรณี พร้อมหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (๑) เอกสารการแจ้งความต่อสถานีตำรวจ กรณีการสูญหาย หรือถูกทำลาย (๒) ใบอนุญาตเดิม กรณีชำรุดในสาระสำคัญ ข้อ ๒๙ การออกใบแทนใบอนุญาต ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้ (๑) การออกใบแทนใบอนุญาต ให้ใช้แบบ กอ. ๒ ท้ายข้อบัญญัตินี้ โดยประทับตราสีแดงคำว่า “ใบแทน” กำกับไว้ด้วย และให้มีวัน เดือน ปีที่ออกใบแทน พร้อมทั้ง ลงลายมือชื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นในใบแทน และต้นขั้วใบแทน (๒) ให้ใช้ใบแทนใบอนุญาตได้เท่ากับวัน เวลาที่เหลือของอายุใบอนุญาตเดิมนั้น (๓) บันทึกด้านหลังต้นขั้วใบอนุญาตเดิม ระบุสาเหตุการสูญหาย ถูกทำลาย หรือ ชำรุดในสาระสำคัญของใบอนุญาตเดิม แล้วแต่กรณี และลงเล่มที่ เลขที่ปีของใบแทนใบอนุญาต ข้อ ๓๐ ให้ใช้แบบพิมพ์ต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ดังต่อไปนี้ (๑) คำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้ใช้แบบ กอ. ๑ (๒) ใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้ใช้แบบ กอ. ๒ (๓) คำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อ สุขภาพ ให้ใช้แบบ กอ. ๓ (๔) คำขอรับใบแทนใบอนุญาต ให้ใช้แบบ กอ. ๔ (๕) คำขอแก้ไขรายการในใบอนุญาตตามแบบ กอ. ๕ (๖) คำร้องบอกเลิกกิจการตามแบบ กอ. ๖ ข้อ ๓๑ ผู้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ ซึ่งกำหนดให้ต้องควบคุมตามข้อบัญญัตินี้ ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามข้อบัญญัตินี้หรือเงื่อนไขโดยเฉพาะที่ระบุไว้ในใบอนุญาตนั้น เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตภายในเวลาเห็นสมควร ครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน กรณีที่ ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตมาแล้วสองครั้งและมีเหตุที่จะต้องถูกสั่งพักใบอนุญาตอีก เจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจออกคำสั่งเพิกถอนการประกอบกิจการเสียก็ได้ ข้อ ๓๒ ผู้ใดฝุาฝืนข้อบัญญัตินี้จักต้องเสียค่าปรับอย่างสูงไม่เกินหนึ่งพันบาท บรรดาความผิดซึ่ง ผู้ใดฝุาฝืนข้อบัญญัตินี้หากได้ชำระค่าปรับเต็มจำนวนตามอัตราที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนดภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือ ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ข้อ ๓๓ ผู้ใดฝุาฝืนข้อบัญญัตินี้ และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ เมื่อต้อง รับโทษตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๓ แล้ว อาจต้องรับโทษตามที่กำหนดไว้ในหมวด ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ แล้วแต่กรณี ในกรณีจำต้องดำเนินคดีกับผู้ใดที่ปฏิบัติ ฝุาฝืนข้อความตามวรรคหนึ่ง ให้องค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียงรวบรวมเอกสาร หลักฐานทั้งหมด ส่งให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีต่อศาลในเขตอำนาจต่อไป หรือแต่งตั้งทนาย ความเพื่อดำเนินการทาง ศาลต่อไป ให้องค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียงแต่งตั้งข้าราชการส่วนท้องถิ่นหรือพนักงานส่วนตำบล ผู้ดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ตำแหน่งนิติกรหรือผู้จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน เพื่อประสานการดำเนินคดีกับพนักงา นอัยการหรือทนายความ ข้อ ๓๔ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียงรักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ ข้อ ๓๕ ให้ผู้ประกอบกิจการตามลักษณะในข้อ ๕ อยู่ในวันที่ข้อบัญญัตินี้มีผล ใช้บังคับเป็น กิจการที่ต้องควบคุมในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง ให้เจ้าของกิจการตามความในวรรคหนึ่ง ดำเนินการแจ้งขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ข้อบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้ ประกาศ ณ วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ อานุภาพ ปราบบำรุง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ใหม่นาเพียง ๑ บัญชีอัต ราค่าธรร ม เนียม ท้าย ข้อบัญ ญัติองค์ การบ ริหำ ร ส่ว นตำ บลให ม่นาเพียง เรื่อง การ ค ว บ คุ ม กิจ การ ที่ เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ พ. ศ. ๒ ๕ ๕ ๗ รายการ อัต รำ ค่าธรร มเนียม (บาท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑. กิจ การ ที่เกี่ยวกับการ เลี้ยง สัต ว์ ๑. ๑ การ เลี้ย ง สัต ว์ บ ก สัตว์ ปีก สัต ว์ น้า สัต ว์ เลื้อ ย ค ลำ น ห รือ แม ล ง ๑. ๑. ๑ การ เลี้ย ง ม้า โค ก ระ บือ ก. ไม่เกิน ๒๐ ตัว ข. เกิน ๒๐ ตัว ไม่เกิน ๕๐ ตัว ค. เกิน ๕๐ ตัว ขึ้น ไป ๑. ๑. ๒ การ เลี้ย ง สุ ก ร ก. ไม่เกิน ๑ ๐ ตัว ข. เกิน ๑ ๐ ตัว ไม่เกิน ๕๐ ตัว ค. เกิน ๕๐ ตัว ไม่เกิน ๑ ๐๐ ตัว ง. เกิน ๑ ๐๐ ตัว ขึ้น ไป ๑. ๑. ๓ การ เลี้ย ง แพะ แกะ ก. ไม่เกิน ๒๐ ตัว ข. เกิน ๒๐ ตัว ขึ้น ไป ๑. ๑. ๔ การ เลี้ย ง ห่า น เป็ด ไก่ ก. ไม่เกิน ๑ ๐๐ ตัว ข. เกิน ๑ ๐๐ ตัว ไม่เกิน ๓๐๐ ตัว ค. เกิน ๓๐๐ ตัว ขึ้น ไป ๑. ๑. ๕ การ เลี้ย ง สัต ว์ น้า ก. การค้า ปลีก (๑) พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๓๐๐ ๕๐๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๓๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒, ๕๐๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๓๐๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๓๐๐ ๕๐๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๒ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) (๒) พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำรา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำรา ง เม ตร (๓) พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำรา ง เม ตร ขึ้น ไป ข. การ เพาะ เลี้ย ง ห รือ ค้า ส่ง ๑. ๑. ๖ การ เลี้ย ง สัต ว์ เลื้อ ย ค ลำ น หรือแม ล ง ก. การค้า ปลีก (๑) สัต ว์ ไม่มีพิษ (๒) สัตว์ มีพิษ สัตว์ ดุ ร้า ย (๓) แม ล ง มีพิษ ทุ ก ชนิด ข. การ เพาะ เลี้ย ง การ ค้า ส่ง ๑ .๒ การ เลี้ย ง สัต ว์ เพื่อ รีด เอา น ม ๑ .๒. ๑ แม่น ม แพะ แกะ โค ก ระ บือ ไม่เกิน ๑ ๐ ตัว ๑ .๒. ๒ แม่น ม แพะ แกะ โค ก ระ บือ เกิน ๑ ๐ ตัว แต่ ไม่ เกิน ๒๐ ตัว ๑ .๒. ๓ แม่น ม แพะ แกะ โค ก ระ บือ เกิน ๒๐ ตัว ขึ้น ไป ๑ .๓ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ เลี้ย ง รวบรวม สัตว์ นำ นำ ชนิด ใน ที่ สาธาร ณะ หรือที่ เอก ชน ห รือ ธุ ร กิจ อื่น ใด อัน มีลัก ษ ณะ ท า น อ ง เดีย ว กัน เพื่อให้ประชา ชนเข้า ช ม หรือเพื่อป ระ โยช น์ กิจ การ นั้น ๆ ทั้ง นี้จะ เรีย ก เก็บ ค่า ดูห รือ ค่า บ ริการ ไม่ว่า ทางต รงห รือทำ ง อ้อม ห รือ ไม่ก็ตำ ม ๑ .๓ . ๑ กิจ การ ฟา ร์ ม เลี้ย ง สัต ว์ สวน สัตว์ ๑ .๓ .๒ สถา น ที่ (ก) พื้น ที่กัก สัต ว์ ขัง สัตว์ ร ว ม ไม่เกิน ๒๐ ตำรา ง เม ตร (ข) พื้น ที่กัก สัต ว์ ขัง สัตว์ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ไม่เกิน ๓๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๐๐ ๓๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒๕๐ ๕๐๐ ๓ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) (๓) พื้น ที่กัก สัต ว์ ขัง สัตว์ เกิน ๓๐ ตำ รา ง เม ตร ไม่เกิน ๔๐ ตำรา ง เม ตร (๔) พื้น ที่กัก สัต ว์ ขัง สัตว์ เกิน ๔๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๒. กิจ การ ที่เกี่ยวกับสัต ว์ และ ผลิตภัณฑ์ ๒.๑ การ ฆ่า สัต ว์ ย ก เว้น ใน ส ถา น ที่จ า ห น่า ย อำ หำ ร การ เร่ขำ ย การ ขำ ย ใน ต ลำ ด และ การ ฆ่า เพื่อ บ ริ โภ ค ใน ค รัว เรือ น ๒. ๑. ๑ การ ฆ่า ห่า น เป็ด ไก่ ก. โดยไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร (๑) วัน ละ ไม่เกิน ๑ ๐๐ ตัว (๒) วัน ละ ๑ ๐๐ ตัว ขึ้น ไป ข. โดยใช้ เครื่อง จัก ร (๑) วัน ละ ไม่เกิน ๑ ๐๐ ตัว (๒) วัน ละ ๑ ๐๑ – ๒๐๐ ตัว (๓) วัน ละ ๒๐๑ – ๓๐๐ ตัว (๔) วัน ละ ๓๐๑ ตัว ขึ้น ไป ๒.๒ การฟอก หนัง สัต ว์ ขนสัต ว์ การสะ สม หนัง สัต ว์ ขนสัตว์ ที่ยัง มิ ได้ฟอ ก ๒.๒ . ๑ การฟอก หนัง สัตว์ ขนสัตว์ ๒.๒ .๒ การสะ สม หนัง สัตว์ ขนสัตว์ ที่ยัง ไม่ได้ฟ อ ก ๒.๒ .๓ การ สะสมห นัง สัตว์ ขนสัตว์ ที่ฟอก แล้ว (ก) พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร (ข) พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร (ค) พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร (ง) พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕ ๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๗๕๐ ๒,๕ ๐๐ ๑ ๐๐ ๒๐๐ ๓๐๐ ๕๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๒.๓ การสะ สม เขา สัตว์ ก ระ ดูก สัต ว์ ที่ยัง ไม่ได้ แป ร รู ป ๒. ๓. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๒.๓ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำ รำ ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๒.๓ .๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๒.๔ การเคี่ยวห นัง สัต ว์ เอ็น สัต ว์ ไขสัตว์ ๒ .๔. ๑ . ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๒ .๔. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๒ .๔. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๒.๕ การต้ม การตา ก การเผา เปลือกหอ ย เปลือก ปู เป ลือ ก กุ้ง ย ก เว้น ใน ส ถา น ที่จ า ห น่า ย อำ หำ ร การ เร่ขำ ย และการ ขา ยใน ตลำ ด ๒.๖ การประ ดิษฐ์ เครื่อง ใช้หรือผลิตภัณฑ์ อื่น ๆ จาก เปลือก หอ ย กระดูกสัตว์ ขา สัตว์ หนัง สัตว์ ขนสัตว์ ห รือ ส่ว น อื่น ๆ ของ สัตว์ ๒.๖. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๒.๖.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๒.๖. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า ๒.๗ การผลิต การ โม่การป่น การบด การผสม การบรร จุ การ สะ ส ม ห รือ การ ก ระ ท า อื่น ใด ต่อ สัต ว์ หรือพืช ห รือ ส่ว น ห นึ่ง ส่ว น ใดของ สัตว์ หรือพืชเพื่อเป็น อา หารสัตว์ ๒.๗. ๑ การผลิต การ โม่การป่น การบด การผสม การบรร จุ ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๕๐๐ ๑ ,๐ ๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๓๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓๐๐ ๗๐๐ ๕ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ค. พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๒.๗. ๒ การสะ สม การ จ า ห น่า ย อำ หำ ร สัต ว์ ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รำ ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๒.๘ การ สะ ส ม ห รือ การ ล้า ง ค รั่ง ๒. ๘. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๒. ๘. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๒. ๘. ๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. กิจ การ ที่เกี่ยวกับอา หาร เค รื่อง ดื่ม น้า ดื่ม ๓. ๑ การผลิตเน ย เน ยเทียม ๓. ๒ การผลิตกะปิ น้า พ ริก แก ง น้า พ ริก เผา น้า ป ลำ น้า เค ย น้า บูดู ไตป ลา เต้า เจี้ย ว ซีอิ๊ว หอ ยดอง หรือซอ สปรุ ง รสอื่น ๆ ยกเว้น การ ผลิตเพื่อการบริ โภ คใน ครัวเรือน ๓ .๒. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๓ .๒. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รำ ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓ .๒. ๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. ๓ การผลิต การหมัก การสะ สม ปลา ร้า ป ลำ เจ่า กุ้ง เจ่า ยกเว้น การผลิตเพื่อการบริ โภ คใน ครัวเรือน ๓ .๓ . ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๓ .๓ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓ .๓ .๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รำ ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๓ .๓ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ,๐๐๐ ๓๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๕๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๖ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๓. ๔ การ ตำ ก เนื้อ สัต ว์ การ ผ ลิต เนื้อ สัต ว์ เค็ม การ เคี่ย ว มัน กุ้ง ยกเว้น การผลิตเพื่อการบริ โภ คใน ครัวเรือน ๓. ๔ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๔ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๔ .๒ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. ๕ การนึ่ง การต้ม การเคี่ยว การตา ก หรือวิธีอื่น ใดใน การผลิต อาหาร จาก สัตว์ พืช ย ก เว้น ใน ส ถา น ที่จ า ห น่า ย อำ หำ ร การ ขำ ย เร่ การขำ ยใน ตลำ ด และผ ลิตเพื่อ การบริ โภ คใน ครัวเรือน ๓ .๕. ๑ ไม่ใช้ เครื่อง จัก ร ๓ .๕. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓ .๕. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า ๓. ๖ การ เคี่ย ว น้า มัน ห มู การผลิตกุ น เชียง หมู ยอ ไส้ก รอก ห มูตั้ง ย ก เว้น ใน ส ถา น ที่จ า ห น่า ย อำ หำ ร การ เร่ขำ ย การขำ ยใน ตลำ ด และ การผลิตเพื่อบ ริ โภ คใน ครัวเรือน ๓. ๖.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๖.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๖.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า ๓. ๗ การผลิตเส้น ห มี่ขนม จีน ก๋ว ย เตี๋ย ว เต้า ฮว ย เต้า หู้วุ้น เส้น เกี้ย ม อี๋ ๓. ๗ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๗ .๒ ใช้ เค รื่อง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๗ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓. ๗ .๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๘ การผลิตแบะแซ ๓๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๗ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๓. ๘ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๘ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รำ ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๘ .๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๘ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำรา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. ๙ การผลิตอาหารกระป๋อง ขวด หรือภา ชนะอื่น ใด ๓. ๙ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๙ .๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๙ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๑ ๐ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ การ ท า ข น ม ปัง ส ด ขนม ปัง แห้ง จัน อับ ขนม เปี๊ยะ ๓. ๑ ๐.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๑ ๐.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๑ ๐.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓. ๑ ๐.๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๑ ๑ การแกะ การ ล้า ง สัต ว์ น้า ที่ ไม่ใช่ส่ว น ห นึ่ง ข อ ง กิจ การห้อ ง เย็น ยกเว้น การผลิตเพื่อ การบริ โภ คใน ครัวเรือน ๓. ๑ ๑ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๑ ๑ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๑ ๑ .๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. ๑ ๒ การ ผ ลิต น้า อัด ล ม น้า ห วา น น้า โซ ดำ น้า ถั่ว เห ลือ ง เค รื่อ ง ดื่ม ช นิด ต่า ง ๆ บรรจุ ก ระ ป๋อง ขวด หรือภา ชนะอื่น ใด ยกเว้น การผลิตเพื่อบ ริ โภ คใน ครัวเรือน ๓๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๘ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๓. ๑ ๒ . ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๑ ๒ .๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๑ ๒ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๑ ๓ การผลิต การ แบ่ง บ ร ร จุ น้า ตำ ล ๓. ๑ ๓. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๑ ๓. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่ เกิน ๓ แรงม้า ๓ .๑๓. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๑ ๔ การ ผ ลิต ผ ลิต ภัณ ฑ์ จำ ก น้า น ม วัว ๓ .๑ ๔. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓ .๑ ๔.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓ .๑ ๔. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ว่า ๓ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๑ ๕ การผลิต การ แบ่ง บ ร ร จุ เอ ทิล แอ ล ก อ ฮ อ ล์ สุ รำ เบียร์ น้า ส้ม สำ ย ชู ๓. ๑ ๖ การ คั่ว กำ แฟ ๓ .๑ ๖. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓ .๑ ๖.๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ๓. ๑ ๗ การ ผ ลิต ลู ก ชิ้น ด้ว ย เค รื่อ ง จัก ร ๓ .๑ ๗. ๑ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓ .๑ ๗.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓ .๑ ๗. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๑ ๘ การผลิตผง ชู รส ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓, ๐๐ ๐ ๙ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๓. ๑ ๙ การ ผ ลิต น้า ก ลั่น น้า บ ริ โภ ค ๓. ๒๐ การตา ก การหมัก การดอง ผัก ผลไม้ห รือ พืช อ ย่า ง อื่น ยกเว้น การผลิตเพื่อบ ริ โภ คใน ครัวเรือน ๓ .๒๐. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๓ .๒๐. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๒๐.๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. ๒๑ การ ผลิต บรรจุ ใบ ชา แห้ง ชา ผง หรือเครื่อง ดื่ม ชนิดผ ง อื่น ๆ ๓ .๒๑ . ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓ .๒๑ .๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓ .๒๑ . ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓ .๒๑ .๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๓. ๒๒ การผลิตไอศก รีม ยกเว้น การผลิตเพื่อบ ริ โภ คใน ครัวเรือน ๓. ๒๒. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓. ๒๒. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๒๒. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓. ๒๒. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๓. ๒๓ การผลิต บะห มี่มัก กะโรนี หรือผลิตภัณฑ์ อื่น ๆ ที่ ค ล้า ย ค ลึง กัน ๓. ๒๓ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๓ .๒๓ .๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๒๓ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓. ๒๓ .๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑๐ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๓. ๒๔ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ห้อ ง เย็น แช่ แข็ง อำ หำ ร ๓. ๒๔. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๒๔. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๓. ๒๔. ๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๓. ๒๕ การ ผ ลิต น้า แข็ง ย ก เว้น การ ผ ลิต เพื่อ ใช้ ใน ส ถา น ที่จ า ห น่า ย อาหาร และเพื่อบ ริ โภ คภา ยใน ค รัวเรือน ๓ .๒๕ .๑ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓ .๒๕ .๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓ .๒๕ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑๐ แรงม้า ๓ .๒๕ .๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๓. ๒๖ การ เก็บ การ ถ น อ ม อำ หำ ร ด้ว ย เค รื่อ ง จัก ร ที่มีก า ลัง ๓. ๒๖.๑ ใช้ เครื่อง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๓. ๒๖.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๓. ๒๖.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑๐ แร ง ม้า ๓. ๒๖.๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๔. กิจ การ ที่เกี่ยวกับยำ เวชภัณฑ์ อุป ก ร ณ์ การ แพ ท ย์ เค รื่อง ส า อา ง และ ผลิตภัณฑ์ ช า ระล้า ง ๔.๑ การผลิต การ โม่การบด การผสม การบรร จุ ยา ด้วย เครื่อง จัก ร ๔. ๑ . ๑ การผลิต การบรร จุ ยา ก. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๒,๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑๑ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ แรง ม้า ง . ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๔ .๑.๒ การ โม่การบด การผสม ก. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ แรงม้า ง. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๔.๒ การผลิต การบรร จุ ยา สีฟัน แชมพู ผ้า เย็น ก ระ ดา ษเย็น เค รื่อ ง ส า อำ ง ต่า ง ๆ ๔.๒ . ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๔.๒. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๔.๒ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๔.๒. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๔.๓ การผลิตส า ลี ผลิตภัณฑ์ จาก ส า ลี ๔.๔ การผลิตผ้า พัน แผล ผ้า ปิด แผล ผ้า อนำ มัย ผ้า อ้อม ส า เร็จรู ป ๔.๔.๑ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๔.๔. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๔ .๔.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑๐ แรงม้า ๔.๔. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๔.๕ การ ผ ลิต ส บู่ผงซัก ฟอ ก ผ ลิต ภัณ ฑ์ ช า ระ ล้า ง ต่า ง ๆ ๔.๕.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๔ .๕. ๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๔ .๕.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑๐ แรงม้า ๔.๕.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แรงม้า ขึ้น ไป ๕. กิจ การ ที่เกี่ยวกับการ เก ษต ร ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ย ก เว้น ค่า ธ รร ม เนีย ม ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑๒ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๕.๑ การอัด การ ส กัด เอา น้า มัน จำ ก พืช ๕. ๑ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๕. ๑ .๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๕. ๑ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๕. ๑ .๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๕.๒ การล้า ง การอบ การร ม การสะ สม ยา ง ดิบ ๕ .๒.๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๕ .๒. ๒ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๕.๓ การผลิตแป้ง มัน ส า ปะห ลัง แป้ง สาคู หรือแป้ง อื่น ๆ ใน ท า น อ ง เดีย ว กัน ๕ .๓ . ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๕ .๓ .๒ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำรา ง เม ตร ๕. ๓. ๓ พื้น ที่ เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๑ ๐๐ ตำ รา ง เม ตร ๕.๓ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๑ ๐๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๕.๔ การสีข้า วด้วยเครื่อง จัก ร ๕ .๔. ๑ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๕ .๔. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๕ .๔. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ แรง ม้า ๕ .๔. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑ ๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๕.๕ การผลิตยา สู บ ๕ .๕. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๕ .๕. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐ ๐๐ ๓ ,๐๐๐ ๔,๐ ๐๐ ๓๐๐ ๕๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕ ๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑๓ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๕.๕ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แร ง ม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๕ .๕. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๕.๖ การขัด การกะเทาะ การบดเม ล็ดพืช การนว ดข้า วด้วย เครื่อง จัก ร ๕.๖. ๑ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๕.๖. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๕.๖. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑๐ แรงม้า ๕ .๖.๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๕.๗ การผลิต การสะ สม ปุ๋ย ๕.๗ .๑ การผลิตปุ๋ย ก. ไม่ใช้ เค รื่อง จัก ร ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แร ง ม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ง. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ว่า ๕ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๕.๗. ๒ การสะ สม ปุ๋ย ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่กิน ๒๐ ตำรา ง เม ตร ค . พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รำ ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำรา ง เม ตร ง . พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำรา ง เม ตร ขึ้น ไป ๕. ๘ การผลิตใย มะพร้า วห รือวัตถุคล้า ยคลึง ด้วยเครื่อง จัก ร ๕.๘ .๑ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๕.๘ .๒ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑๔ รา ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๕ .๘ . ๓ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๕ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๑๐ แรงม้า ๕.๘ .๔ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๑๐ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๕.๙ การตา ก การ สะ ส ม ห รือ การ ข น ถ่า ย มัน ส า ปะ ห ลัง ๕.๙ .๑ การสะ สม (โกดัง) ๕.๙ .๒ การสะ สม เพื่อการค้า ปลีก ค้า ส่ง ๕.๙ .๓ การตา ก ๕.๙ .๔ การ ข น ถ่า ย มัน ส า ปะ ห ลัง ๖. กิจ การ ที่เกี่ยวกับโลหะ หรือแร่ ๖.๑ การผลิตโลหะเป็น ภา ชนะ เครื่อง มือ เครื่อง จัก ร อุป ก รณ์ หรือ เค รื่อ ง ใช้ต่า ง ๆ ๖.๑ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๖.๑ .๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๖.๑ .๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๖.๑ .๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๖.๒ การหล อ ม การ ห ล่อ การ ถ ลุง แร่ห รือ โล หะ ทุ ก ช นิด ยกเว้น กิจ การ ใน ๖.๑ ๖.๒. ๑ การหล อม ห ล่อ ถ ลุง โลหะทุ ก ช นิด ๖ .๒. ๒ การถลุง หล อ ม ห ล่อ แร่ทุ ก ชนิด ๖.๓ การกลึง การเจาะ การเชื่อม การตี การตัด การประ สาน การ รีด การอัดโลหะ ด้วยเครื่อง จัก ร ห รือ ก๊า ซ ห รือ ไฟ ฟ้า ยกเว้น กิจ การ ใน ๖.๑ ๖.๓. ๑ การกลึง ๖.๓. ๒ การเจาะ โลหะ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐ ๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐ ๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑๕ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ก . ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. ใช้ เครื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๖.๓ .๓ การเชื่อม ก . หัว เชื่อ ม ไม่เกิน ๒ หัว ข. หัว เชื่อ ม เกิน ๒ หัว แต่ ไม่เกิน ๔ หัว ค. หัว เชื่อ ม เกิน ก ว่า ๔ หัว ขึ้น ไป ๖.๓ .๔ การตี ๖ .๓ .๕ การตัดโลหะด้วยเครื่อง จัก ร ด้ว ย ก๊า ซ หรือไฟฟ้า ๖.๓ .๖ การ ป ระ สำ น โล หะ ห รือ แร่ต่า ง ๆ ๖.๓ .๗ การรีด การอัดโล หะ ๖.๔ การเค ลือบ การ ชุ บ โล หะ ด้ว ย ตะ กั่ว สัง กะสี ดีบุ ก โค รเมียม นิก เกิล ห รือ โล หะ อื่น ๆ ย ก เว้น กิจ การ ใน ๖.๑ ๖.๕ การขัด การล้า ง โลหะด้ว ยเครื่อง จัก ร สาร เคมี หรือวิธีอื่น ใด ย ก เว้น กิจ การ ใน ๖.๑ ๖.๕. ๑ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๖.๕. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๖.๕. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๖.๖ การ ท า เห มือ ง แร่การสะ สม การแยก การคัดเลือก หรือ การ ล้า ง แร่ ๖.๖ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๖.๖ .๒ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำรา ง เม ตร ๖.๖ .๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ต ร ขึ้น ไป ๗. กิจ การ เกี่ยวกับยำ น ยน ต์ เครื่อง จักร หรือเค รื่อง กล ๒ ,๐๐๐ ๓, ๐ ๐๐ ๔,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓ ,๐ ๐๐ ๔ ,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๑๖ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๗.๑ การ ต่อ การประ ก อบ การเคาะ การปะผุ การ พ่น สีการ พ่น สำ ร กัน ส นิม ยำ น ย น ต์ ๗ .๑.๑ การ ต่อ การประ ก อบ การเคาะ การปะผุ เครื่อง จัก ร เครื่อง ยนต์ รถยน ต์ เรือยน ต์ เรือก ลไฟ ๗. ๑ .๒ การ ซ่อ ม เครื่อง จัก ร เครื่อง ยนต์ รถยน ต์ เรือยน ต์ เรือ ก ลไฟ ๗. ๑ .๓ การ ซ่อ ม ร ถ จัก ร ยำ น ย น ต์ ๗ . ๑ .๔ การ ซ่อ ม ร ถ จัก ร ยำ น รถสามล้อถีบ ๗. ๑ .๕ การ พ่น สีการ พ่น สำ ร กัน ส นิม ยำ น ย น ต์ ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๓๐ ตำ รา ง เม ตร ง. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๓๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๗.๒ การ ตั้ง ศูน ย์ ถ่ว ง ล้อ การ ซ่อ ม การ ป รับ แต่ง ระ บบ ปรับ อำ กำ ศ ห รือ อุป ก ร ณ์ ที่ เป็น ส่ว น ป ระ ก อ บ ข อ ง ยำ น ย น ต์ เครื่อง จัก ร หรือเครื่อง ก ล ๗.๒ . ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๗.๒ .๓ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๗.๒ .๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รำ ง เม ตร ๗.๒ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ต ร ขึ้น ไป ๗.๓ การ ป ระ ก อ บ ธุ ร กิจ เกี่ย ว กับ ยำ น ย น ต์ เครื่อง ก ล หรือ เครื่อง จัก ร ซึ่ง มี ไว้บ ริการ ห รือ จ า ห น่า ย และ ใน การ ป ระ ก อ บ ธุ ร กิจ นั้น มีการ ซ่อ ม แซ ม ห รือ ป รับ ป รุ ง ยำ น ย น ต์ เค รื่อง จัก รหรือ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕ ๐๐ ๓ ๐๐ ๓ ๐๐ ๕ ๐๐ ๗ ๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๑๗ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) เค รื่อ ง ก ล ดัง ก ล่า ว ด้ว ย ๗.๓ .๑ ส ถา น ที่จ า ห น่า ย รถยน ต์ รถจัก รยา น ยน ต์ เครื่อง จัก รเค รื่อง ก ล ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รำ ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๗ .๓ .๒ ส ถา น ที่ซ่อ ม ปรับป รุ ง ยา น ยนต์ เครื่อง จัก ร หรือ เครื่อง ก ล ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รำ ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๗.๔ การล้า ง การอัดฉีดยา น ยน ต์ ๗.๔.๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๗.๔. ๒ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๗.๕ การผลิต การ ซ่อ ม การอัดแบ ตเตอ รี่ ๗ .๕.๑ โร ง งำ น ผลิตแบ ตเตอรี่ ๗ .๕. ๒ การ ผ ลิต ที่ ไม่ใช่ โร ง งำ น ผ ลิต แบ ต เต อ รี่ ๗ .๕. ๓ การ ซ่อ ม การอัดแบ ตเตอ รี่ ๗.๖ การปะ การเชื่อม ๗ .๖.๑ รถจัก รยา น ยนต์ ๗ .๖.๒ รถยน ต์ หรือพาห นะที่ ใช้ เครื่อง ยนต์ ๗.๗ การอัดผ้า เบรก ผ้า คลัตช์ ๗.๗ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๗.๗ .๒ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ,๐ ๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๓, ๐ ๐๐ ๑ ,๐ ๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๓, ๐ ๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑, ๕๐๐ ๓ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐ ๐๐ ๓ ๐๐ ๑ ,๐ ๐ ๐ ๑ ,๐ ๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๑๘ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๘. กิจ การ ที่เกี่ยวกับไม้ ๘. ๑ การผลิตไม้ขีดไฟ ๘. ๒ การเลื่อย การซอย การขัด การไส การเจาะ การ ขุ ด ร่อ ง การ ท า คิ้ว ห รือ การ ตัด ไม้ด้ว ย เค รื่อ ง จัก ร ๘. ๒ .๑ การเลื่อย การซอย ก. ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ง . ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๘. ๒.๒ การขัด การไส การเจาะ การ ขุ ด ร่อ ง การ ท า คิ้ว การ ตัดไม้ ก. ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ง. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๘. ๓ การประ ดิษฐ์ ไม้หวำ ย เป็น สิ่ง ข อ ง ด้ว ย เค รื่อ ง จัก ร หรือการ พ่น การ ทำ สำ ร เค ลือ บ เงา สีห รือ การ แต่ง ส า เร็จ ผ ลิต ภัณ ฑ์ จำ ก ไม้ หรือห วาย ๘. ๓. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๘. ๓. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่ เกิน ๓ แรงม้า ๘. ๓. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๘. ๓. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๘. ๔ การอบไม้ ๘. ๔. ๑ ไม่ใช่ โร ง งำ น ๘. ๔.๒ โร ง งำ น ๑ ,๐ ๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐ ๐๐ ๑ ,๕๐ ๐ ๑๙ รำ ยการ อัต รา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๘. ๕ การผลิตธู ปด้วยเครื่อง จัก ร ๘. ๖ การ ป ระ ดิษ ฐ์ สิ่ง ข อ ง เครื่อง ใช้ เครื่อง เขียนด้วยก ระ ดา ษ ๘. ๖.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๘. ๖.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๘. ๖.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่ เกิน ๕ แรงม้า ๘ .๖.๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๘. ๗ การ ผ ลิต ก ระ ดำ ษ ต่า ง ๆ ๘. ๘ การ เผา ถ่า น ห รือ การ สะ ส ม ถ่า น ๘.๘.๑ การ เผา ถ่า น ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำรา ง เม ตร ขึ้น ไป ๘ .๘ .๒ การ สะ ส ม ถ่า น ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๙. กิจ การ ที่เกี่ยวกับการ บริการ ๙.๑ กิจ การ ส ปำ เพื่อ สุ ข ภา พ เว้น แต่ เป็น การ ให้บ ริการ ใน สถา น พยา บาลตำ ม ก ฎ หมา ย ว่า ด้ว ย ส ถา น พ ยำ บา ล ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒๐๐ ๕๐๐ ๗๐๐ ๕๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๒๐ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๙.๒ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ อำ บ อบ น วด เว้น แต่ เป็น การ ให้บ ริการ ใน ๙.๑ หรือใน สถา น พยา บาล ตามก ฎ หมา ย ว่า ด้ว ย ส ถา น พ ยำ บา ล ๙ .๒.๑ การนว ดแผน โบรำ ณ ๙ .๒. ๒ การอา บ อบ น วด ๙.๓ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ส ถา น ที่อำ บ น้า อ บ ไอ น้า อบ สมุน ไพ ร เว้น แต่ เป็น การ ให้บ ริการ ใน ๙.๑ หรือใน สถา น พยา บาลตำ ม ก ฎ ห มา ย ว่า ด้ว ย ส ถา น พ ยำ บา ล ๙. ๓. ๑ ส ถา น ที่อำ บ น้า ๙. ๓. ๒ ส ถา น ที่อ บ ไอ น้า ๙. ๓. ๓ สถา น ที่อ บสมุ น ไพร ๙.๔ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ โร ง แร ม ห รือ กิจ การ อื่น ใน ท า น อ ง เดีย ว กัน (เก สท์ เฮ้า ส์ , อำ พา ทเม้น ต์ , แม น ชั่น , คอน โดมิ เนียม) ๙.๔.๑ ห้อ ง พัก ไม่เกิน ๑๐ ห้อง ๙.๔. ๒ ห้อ ง พัก เกิน ๑๐ ห้อง แต่ ไม่เกิน ๒๐ ห้อง ๙.๔.๓ ห้อ ง พัก เกิน ๒๐ ห้อง แต่ ไม่เกิน ๕๐ ห้อง ๙.๔. ๔ ห้อ ง พัก เกิน ๕๐ ห้อง แต่ ไม่เกิน ๑ ๐๐ ห้อง ๙.๔. ๕ ห้อ ง พัก เกิน ก ว่า ๑ ๐๐ ห้อง ขึ้น ไป ๙.๕ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ห อ พัก อำ คำ ร ชุ ด ให้ เช่า ห้อ ง เช่า ห้อง แบ่ง เช่า ห รือ กิจ การ อื่น ใน ท า น อ ง เดีย ว กัน ๙.๕ .๑ ห้อ ง พัก ไม่เกิน ๑๐ ห้อง ๙.๕ .๒ ห้อ ง พัก เกิน ๑ ๐ ห้อง แต่ ไม่เกิน ๒๐ ห้อง ๙.๕ .๓ ห้อ ง พัก เกิน ๒๐ ห้อง แต่ ไม่เกิน ๕ ๐ ห้อง ๙.๕ .๔ ห้อ ง พัก เกิน ๕๐ ห้อง แต่ ไม่เกิน ๑ ๐๐ ห้อง ๙.๕ .๕ ห้อ ง พัก เกิน ก ว่า ๑ ๐๐ ห้อง ขึ้น ไป ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕, ๐ ๐๐ ๒๑ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) หมา ยเห ตุ (ต่อปี) ๙.๖ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ โร ง ม ห ร ส พ ๙ .๖.๑ โร ง ภา พยนต ร์ ๙ .๖.๒ ม ห ร ส พ อ ย่า ง อื่น ๙ .๖.๓ ม หรสพใน ที่สาธา รณะ ห นัง เร่หนัง ตะลุ ง ฯล ฯ ๙.๗ การจัดให้มีการแสดงดนต รี เต้น รำ รำ วง รอง เง็ง ดิสโก เท ก คา รา โอเกะหรือการแสดงอื่น ๆ ใน ท า น อ ง เดีย ว กัน และ การ ให้ เช่า ขา ยวัสดุ โทรทัศน์ แผ่น เสีย ง แผ่น ซีดี ๙.๗ . ๑ การเต้น รำ หรือการแสดงอื่น ๆ ๙.๗ . ๑ รำ วง รอง เง็ง ๙.๗ . ๑ การแสดงดน ตรี ดิสโกเท ก คา รา โอเกะ ๙.๗ . ๑ การ ให้ เช่า ขา ย วัสดุ โทรทัศน์ แผ่น เสีย ง แผ่น ซีดี ฯล ฯ ๙.๘ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ส ระ ว่า ย น้า ห รือ กิจ การ อื่น ๆ ใน ท า น อง เดีย ว กัน เว้น แต่ เป็น การ ให้บ ริการ ใน ๙.๑ ๙.๘ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๙.๘ .๑ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๙.๘ .๑ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๙.๙ การ จัด ให้มีการ เล่น ส เก็ต โด ยมี แสง หรือเสีย ง ประกอ บ หรือ การ เล่น อื่น ๆ ใน ท า น อ ง เดีย ว กัน ๙.๑ ๐ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ เส ริม ส ว ย ห รือ แต่ง ผ ม เว้น แต่กิจ การ ที่ อ ยู่ ใน บัง คับ ตำ ม ก ฎ ห มา ย ว่า ด้ว ย การ ป ระ ก อ บ วิชา ชีพ เว ช ก ร ร ม ๙.๑ ๐.๑ สถา น ที่ตัดผม ท า การตัดผม หน วด โกน ผม หนวด เครา กัน ห น้า กัน ค อ น วดห น้า สระ ผม ย้อม ผม จัดทรงผม ฯ ก. ส ถา น ที่ ไม่ป รับ อำ กำ ศ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕,๐๐๐ ๒๒ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) (๑) เก้า อี้ ไม่เกิน ๕ ตัว (๒) เก้า อี้ เกิน ๕ ตัว แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตัว (๓) เก้า อี้ เกิน ก ว่า ๑๐ ตัว ขึ้น ไป ข. สถา น ที่ปรับอำ กำ ศ (๑) เก้า อี้ ไม่เกิน ๕ ตัว (๒) เก้า อี้ เกิน ๕ ตัว แต่ ไม่เกิน ๑๐ ตัว (๓) เก้า อี้ เกิน ก ว่า ๑ ๐ ตัว ขึ้น ไป ๙.๑ ๑ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ให้การ บ ริการ ค ว บ คุ ม น้า ห นัก โด ย วิธี การค วบ คุ ม โภ ชนาการ ให้อาหาร ที่มีวัตถุประสงค์ พิ เศษ การ บ ริหำ ร ร่า ง กำ ย หรือโดยวิธีอื่น ใด เว้น แต่การ ให้บ ริการ ใน ๙.๑ หรือใน ส ถาน พยา บาลตำ ม ก ฎ ห มา ย ว่า ด้ว ย ส ถา น พ ยำ บา ล ๙. ๑ ๑ .๑ ส ถา น ที่ ไม่มี แพ ท ย์ ค ว บ คุ ม ๙. ๑ ๑ .๒ สถา น ที่มี แพ ทย์ ควบคุ ม ๙.๑ ๒ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ส ว น ส นุ ก ตู้ เก ม ๙.๑ ๒.๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๙.๑ ๒.๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รำ ง เม ตร ๙.๑ ๒.๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๙.๑ ๓ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ห้อ ง ปฏิบัติทำ ง การ แพ ท ย์ การ สำ ธา ร ณ สุ ข วิท ยำ ศา ส ต ร์ ห รือ สิ่ง แว ด ล้อ ม (สถา น รัก ษาพยำ บาล สถา น ทัน ต ก รร ม สถา น ที่ เอ็ก ซ เรย์ ฯล ฯ) ๙.๑ ๓. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๙.๑ ๓. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๒๐๐ ๓๐๐ ๕๐๐ ๓๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๒๓ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๙ .๑ ๓ .๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๓๐ ตำ รา ง เม ตร ๙.๑ ๓ . ๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๓๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๙.๑ ๔ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ส นำ ม ก อ ล์ ฟ ห รือ ส นำ ม ฝึก ซ้อ ม ก อ ล์ ฟ ๙. ๑ ๔. ๑ สนำ ม ฝึก ซ้อม ๙. ๑ ๔.๒ สนำ ม ก อล์ ฟ ๙.๑ ๕ การสัก ผิวห นัง การเจาะ หู หรือเจาะอวัยวะอื่น ๙.๑ ๖ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ ให้บ ริการ เลี้ย ง ดูแล เด็ก ที่บ้า น ๑๐. กิจ การ ที่เกี่ยวกับสิ่ง ทอ ๑ ๐.๑ การ ปั่น ด้า ย การกรอด้า ย การทอผ้า ด้วยเครื่อง จัก ร หรือการ ท อ ผ้า ด้ว ย กี่ก ระ ตุ ก ๑ ๐.๑ .๑ การ ท อ ผ้า ด้ว ย กี่ก ระ ตุ ก ก . กี่ก ระ ตุ ก ไม่เกิน ๕ กี่ ข. กี่ก ระ ตุ ก เกิน ๕ กี่ แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ กี่ ค. กี่ก ระ ตุ ก เกิน ก ว่า ๑๐ กี่ขึ้น ไป ๑ ๐.๑ .๒ . การทอผ้า ด้วยเค รื่อง จัก ร ก . เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข . เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แร ง ม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค . เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๑ ๐.๒ การสะ สม ปอ ป่า น ฝ้า ย ห รือ นุ่น ๑ ๐ .๒. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๐ .๒. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำรา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๒,๕ ๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒๔ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๐.๒. ๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๐ .๒. ๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ต ร ขึ้น ไป ๑ ๐.๓ การ ปั่น ฝ้า ย ห รือ นุ่น ด้ว ย เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๐.๔ การทอเสื่อ ก ระ สอบ พรม ห รือ สิ่ง ท อ อื่น ๆ ด้วยเค รื่อง จัก ร ๑ ๐.๔. ๑ การทอก ระ สอ บ ก . ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๐.๔. ๒ การทอเสื่อ พรม ห รือ สิ่ง ท อ อื่น ๆ ด้วยเครื่อง จัก ร ก . ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ข. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ค. ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ง . ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๐.๕ การ เย็บ ผ้า ด้ว ย เค รื่อ ง จัก ร ตั้ง แต่ ๕ เค รื่อ ง ขึ้น ไป ๑ ๐.๕ .๑ จัก ร เย็บ ผ้า เกิน ๕ เครื่อง แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ เครื่อง ๑ ๐.๕ .๒ จัก ร เย็บ ผ้า เกิน ๑ ๐ เครื่อง แต่ ไม่เกิน ๒๐ เครื่อง ๑ ๐.๕ .๓ จัก ร เย็บ ผ้า เกิน ๒๐ เครื่อง แต่ ไม่เกิน ๕๐ เครื่อง ๑ ๐.๕. ๔ จัก ร เย็บ ผ้า เกิน ก ว่า ๕๐ เค รื่อ ง ขึ้น ไป ๑ ๐.๖ การพิม พ์ ผ้า ห รือ การ พิม พ์ บ น สิ่ง ท อ อื่น ๆ ๑ ๐.๗ การซัก การอบ การรีด การอัดก ลีบด้วยเครื่อง จัก ร ๒,๐ ๐๐ ๒,๕ ๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ย ก เว้น ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ๑ ,๐๐๐ ๒,๐ ๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๒๕ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๐.๗. ๑ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ เครื่อง ๑ ๐.๗. ๒ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ เครื่อง แต่ ไม่เกิน ๕ เครื่อง ๑ ๐.๗. ๓ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ เครื่อง ขึ้น ไป ๑ ๐.๘ การย้อม การ กัด สีผ้า ห รือ สิ่ง ท อ อื่น ๆ ๑ ๐.๘ .๑ หำ บ เร่ ๑ ๐.๘ .๒ ร้า น ๑ ๐.๘ .๓ โร ง งำ น ๑๑. กิจ การ ที่เกี่ยวกับหิน ดิน ทรำ ย ซี เมน ต์ ห รือ วัต ถุ ที่ค ล้า ย ค ลึง ๑ ๑ . ๑ การผลิตภา ชนะดิน เผา หรือผลิตภัณฑ์ ดิน เผา ๑ ๑ . ๑ . ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๑ . ๑ .๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ๑ ๑ .๒ การระเบิด การ โม่การป่น หิน ด้วยเครื่อง จัก ร ๑ ๑ . ๓ การผลิตเครื่อง ใช้ด้วยซี เม น ต์ หรือวัตถุ ที่คล้า ยคลึง ๑ ๑ .๓ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๑ .๓ .๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ๑ ๑ .๔ การสะ สม การผลิตซี เม น ต์ หิน ทรา ย หรือวัตถุที่คล้า ย คลึง ๑ ๑ .๔. ๑ การสะ สม ก . สะ ส ม ใน ร้า น ค้า เพื่อ จ า ห น่า ย ข . สะสมใน คลัง สิน ค้า (โกดัง) ๑ ๑ .๔ .๒ การผสม ก. พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ,๐ ๐๐ ๑ ,๕ ๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ๐๐ ๕ ๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒๖ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ต ร ขึ้น ไป ๑ ๑ .๕ การเจียระ ไน เพช ร พลอ ย หิน ก ระ จก หรือวัตถุที่คล้า ย คลึง ๑ ๑ .๕.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๑ .๕. ๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ก . เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๑ .๖ การเลื่อย การตัด ห รือ การ ป ระ ดิษ ฐ์ หิน เป็น สิ่ง ข อ ง ต่า ง ๆ ๑ ๑ .๖.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๑ .๖.๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ก . เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แร ง ม้า ค. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๑ .๗ การผลิตชอล์ ก ปูน ปลา ส เตอร์ ปูน ขา ว ดิน สอพอ ง หรือการ เผา หิน ปูน ๑ ๑ .๗.๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๑ .๗. ๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ก . เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๑ . ๘ การ ผ ลิต ผ ลิต ภัณ ฑ์ ต่า ง ๆ ที่มี แร่ ใย หิน เป็น ส่ว น ป ระ ก อ บ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒๗ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) หรือ ส่ว น ผ ส ม เช่น ผ้า เบรก ผ้า คลัตช์ ก ระ เบื้อ ง มุง ห ลัง คำ ก ระ เบื้อ ง ยำ ง ฝ้า เพ ดำ น ท่อ น้า เป็น ต้น ๑ ๑ .๘ . ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๑ .๘ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๑ .๘ . ๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๑ .๙ การ ผ ลิต ก ระ จ ก ห รือ ผ ลิต ภัณ ฑ์ แก้ว ๑ ๑ .๙.๑ การผลิตก ระ จก ๑ ๑ .๙. ๒ การ ต ก แต่ง การตัด การดัดแป ลง ก ระ จ ก ก . ไม่ใช้ เค รื่อ ง ข. ใช้ เครื่อง จัก ร ๑ ๑ .๙ .๓ การ ผ ลิต ก ระ จ ก เป็น สิ่ง ข อ ง เค รื่อ ง ใช้ ก . ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ข. ใช้ เค รื่อง จัก ร ๑ ๑ . ๑ ๐ การผลิตก ระ ดา ษท รา ย ๑ ๑ . ๑ ๑ การ ผ ลิต ใย แก้ว ห รือ ผ ลิต ภัณ ฑ์ จำ ก ใย แก้ว ๑ ๑ . ๑ ๑ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๑ . ๑ ๑ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๑ . ๑ ๑ .๓ . พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑๒ . กิจ การ ที่เกี่ยวกับปิ โต ร เลียม ถ่า น หิน สำ ร เค มี ๑ ๒.๑ การผลิต การบรร จุ การสะ สม การ ข น ส่ง ก ร ด ด่า ง สาร ออ ก ซิ ไดซ์ หรือสาร ตัวท า ละลำ ย ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒๘ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๒.๑.๑ การผลิต การบรร จุ การสะ สม ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ข . พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ค . พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒. ๑ .๒ การ ข น ส่ง ก . ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง ไม่เกิน ๓ คัน ข. ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ๓ คัน แต่ ไม่เกิน ๖ คัน ค. ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ก ว่า ๖ คัน ขึ้น ไป ๑ ๒.๒ การผลิต การบรร จุ การสะ สม การ ข น ส่ง ก๊า ซ ๑ ๒ .๒.๑ การผลิต การบรร จุ การสะ สม ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รำ ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒.๓ การผลิต การ ก ลั่น การสะ สม การ ข น ส่ง น้า มัน ปิ โต ร เลีย ม ห รือ ผ ลิต ภัณ ฑ์ ปิ โต ร เลีย ม ต่า ง ๆ ๑ ๒.๓ . ๑ การผลิต การ ก ลั่น ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำรา ง เม ตร ข . พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ค . พื้น ที่ เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๑ ๐๐ ตำรา ง เม ตร ง . พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๑ ๐๐ ตำ รา ง เม ต ร ขึ้น ไป ๑ ๒.๓ .๒ การสะ สม ก . ค ลัง น้า มัน ข . ส ถา น ที่จ า ห น่า ย น้า มัน เชื้อ เพ ลิง ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐๐ ๔,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๗ ,๐๐๐ ๒๙ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) (๑) หัว จ่า ย น้า มัน ไม่เกิน ๔ หัว (๒) หัว จ่า ย น้า มัน เกิน ๔ หัว แต่ ไม่เกิน ๖ หัว (๓) หัว จ่า ย น้า มัน เกิน ๖ หัว ค. ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ๖ คัน แต่ ไม่เกิน ๑๐ คัน ง . ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ก ว่า ๑๐ คัน ขึ้น ไป ๑ ๒.๕ การ พ่น สีย ก เว้น กิจ การ ใน ๗.๑ ๑ ๒ .๕.๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๒ .๕. ๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๒ .๕. ๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๒ .๕. ๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒.๖ การ ป ระ ดิษ ฐ์ สิ่ง ข อ ง เค รื่อ ง ใช้ด้ว ย ยำ ง ยา ง เทียม พลาสติก เซล ลู ลอ ยด์ เบเก อร์ ไล ท์ หรือ วัต ถุค ล้า ย ค ลึง กัน ๑ ๒.๖. ๑ โด ย ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๒.๖.๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๑ ๒.๖. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๑ ๒.๖.๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๒.๗ การ โม่การบดชัน ๑ ๒.๗.๑ โด ย ไม่ใช้ เครื่อง จัก ร ๑ ๒.๗. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๑ ๒.๗.๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๑ ๒ .๗. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๒ ,๐๐๐ ๓ ,๐๐๐ ๔ ,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓๐ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๒.๘ การ ผ ลิต สีห รือ น้า มัน ผ ส ม สี ๑ ๒ .๘ . ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๒ .๘ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำรา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รำ ง เม ตร ๑ ๒.๘ .๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำรา ง เม ตร ๑ ๒.๘ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒.๙ การผลิต การ ล้า ง ฟิล์ ม รู ป ถ่า ย ห รือ ฟิล์ ม ภา พ ย น ต ร์ ๑ ๒ .๙.๑ การ ล้า ง ฟิล์ ม ถ่า ย รู ป ๑ ๒ .๙. ๒ การล้า ง ฟิล์ ม ภา พยนต ร์ ๑ ๒ .๙. ๓ การ ผ ลิต ฟิล์ ม ถ่า ย รู ป หรือฟิล์ ม ภา พย น ตร์ ๑ ๒.๑ ๐ การเค ลือบ การชุ บ วัตถุ ด้วยพลำ สติก เซล ลูลอ ยด์ เบเกอร์ ไล ท์ หรือวัต ถุที่คล้า ยคลึง ๑ ๒ .๑ ๐. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๒ .๑ ๐.๒ ใช้ เครื่อง จัก ร ก . เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๒.๑๑ การผลิตพลำ สติก เซล ลู ลอ ยด์ เบเก อร์ ไล ท์ หรือวัตถุที่ คล้า ยคลึง ๑ ๒. ๑ ๑ .๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๑ ๒. ๑ ๑ .๒ ใช้ เค รื่อง จัก ร ก . เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ข. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ค. เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๓๑ รำ ยการ อัตรา ค่า ธ ร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๒ .๑ ๒ การผลิต การบรร จุ สำ รเค มีดับเพลิง ๑ ๒. ๑ ๒. ๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๒. ๑ ๒.๓ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒.๑๓ การ ผ ลิต น้า แข็ง แห้ง ๑ ๒.๑๓. ๑ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๑ ๒.๑๓. ๒ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๑ ๒.๑ ๓ .๓ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๒.๑ ๔ การผลิต การสะ สม การ ข น ส่ง ด อ ก ไม้ เพ ลิง ห รือ สำ ร แค มี อัน เป็น ส่ว น ป ระ ก อ บ ใน การ ผ ลิต ด อ ก ไม้ เพ ลิง ๑ ๒. ๑ ๔. ๑ การผลิต การสะ สม ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข . พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ง . พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒. ๑ ๔.๒ การ ข น ส่ง ก . ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง ไม่เกิน ๓ คัน ข. ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ๓ คัน แต่ ไม่เกิน ๖ คัน ค. ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ๖ คัน แต่ ไม่เกิน ๑๐ คัน ๑ ๒.๑ ๕ การผลิตเชลแล็ก หรือ สาร เคลือบ เงา ๑ ๒.๑ ๖ การผลิต การบรร จุ การสะ สม การ ข น ส่ง สำ ร ก า จัด ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓๒ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ศัตรู พืชหรือพาหนะน า โร ค ๑ ๒ .๑ ๖. ๑ การผลิต การบรร จุ การสะ สม ก . พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ข. พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ต ร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ค. พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ง . พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๒ .๑ ๖. ๑ การ ข น ส่ง ก . ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง ไม่เกิน ๓ คัน ข . ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ๓ คัน แต่ ไม่เกิน ๖ คัน ค . ยำ น พำ ห นะ ข น ส่ง เกิน ก ว่า ๖ คัน ขึ้น ไป ๑ ๒.๑ ๗ การผลิต การบรร จุ การสะ สม กำ ว ๑๓. กิจ การ อื่น ๆ ๑ ๓. ๑ การ พิม พ์ ห นัง สือ ห รือ สิ่ง พิม พ์ อื่น ที่มีลัก ษ ณะ เดีย ว กัน ด้ว ย เครื่อง จัก ร ๑ ๓. ๑ . ๑ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๑ ๓. ๑ .๒ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๑ ๓. ๑ . ๓ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แร ง ม้า ขึ้น ไป ๑ ๓. ๒ การผลิต การ ซ่อ ม เค รื่อ ง อิ เล็ก ท ร อ นิก ส์ เครื่อง ไฟฟ้า อุป ก รณ์ อิ เล็ก ทรอนิก ส์ อุป ก รณ์ ไฟฟ้า ๑ ๓. ๓ การผลิตเทียน เทียนไข หรือวัตถุที่ค ล้า ยคลึง ๑ ๓. ๓. ๑ ไม่ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ๕ ๐๐ ๑ ,๐ ๐๐ ๑ ,๕ ๐๐ ๒,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒ ,๐๐๐ ๓ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ๓๓ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๓. ๓. ๒ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร ไม่เกิน ๓ แรงม้า ๑ ๓. ๓. ๓ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ๓ แรงม้า แต่ ไม่เกิน ๕ แรงม้า ๑ ๓. ๓. ๔ ใช้ เค รื่อ ง จัก ร เกิน ก ว่า ๕ แรงม้า ขึ้น ไป ๑ ๓. ๔ การพิม พ์ แบ บ พิม พ์ เขีย ว ห รือ การ ถ่า ย เอ ก สำ ร ๑ ๓. ๔. ๑ เค รื่อ ง พิม พ์ ห รือ เค รื่อ ง ถ่า ย เอ ก สำ ร ไม่เกิน ๒ เครื่อง ๑ ๓. ๔.๒ เค รื่อ ง พิม พ์ ห รือ เค รื่อ ง ถ่า ย เอ ก สำ ร เกิน ๒ เครื่อง แต่ ไม่เกิน ๕ เครื่อง ๑ ๓. ๔. ๓ เค รื่อ ง พิม พ์ ห รือ เค รื่อ ง ถ่า ย เอ ก สำ ร เกิน ก ว่า ๕ เครื่อง ขึ้น ไป ๑ ๓. ๕ การ สะ ส ม ห รือ สิ่ง ข อ ง ที่ช า รุ ด ใช้ แล้วห รือเห ลือใช้ ๑ ๓ .๕.๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓ .๕. ๒ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๒๐ ตำ รา ง เม ต ร ขึ้น ไป ๑ ๓. ๖ การ ป ระ ก อ บ กิจ การ โก ดัง สิน ค้า ๑ ๓. ๖.๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๖.๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๖. ๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๖.๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๓. ๗ การล้า ง ขวด ภา ชนะหรือบ รร จุ ภัณฑ์ ที่ ใช้ แล้ว ๑ ๓. ๗ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๗ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑๐ ตำ รำ ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๗ .๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๗ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๒๐๐ ๕๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๓๔ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๓. ๘ การพิม พ์ สีลงบน วัตถุ ที่มิ ใช่สิ่ง ท อ ๑ ๓. ๘ .๑ พื้น ที่ ไม่เกิน ๑๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๘ .๒ พื้น ที่ เกิน ๑ ๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร ๑ ๓. ๘ . ๓ พื้น ที่ เกิน ๒๐ ตำ รา ง เม ตร แต่ ไม่เกิน ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ๑๓ .๘ .๔ พื้น ที่ เกิน ก ว่า ๕๐ ตำ รา ง เม ตร ขึ้น ไป ๑ ๓. ๙ การ ก่อ ส ร้า ง ๑ ๓. ๙. ๑ การ ก่อ ส ร้า ง อำ คำ ร ที่อ ยู่อำ ศัย ก . อำ คำ ร ชั้น เดีย ว ไม่เกิน ๕ คูหา ข. อำ คำ ร ชั้น เดีย ว เกิน ๕ คูหา แต่ ไม่เกิน ๑๐ คูหา ค. อำ คำ ร ชั้น เดีย ว เกิน ๑๐ คูหา ขึ้น ไป ๑ ๓ .๙. ๒ การ ก่อ ส ร้า ง อำ คำ ร ที่อ ยู่อำ ศัย เกิน ก ว่า ๑ ชั้น ก . จ า น วน ไม่เกิน ๕ คูหา ข. จ า น ว น เกิน ๕ คูหา แต่ ไม่เกิน ๑๐ คูหา ค. จ า น วน เกิน ๑๐ คูหา ขึ้น ไป ๑ ๓ .๙. ๓ การ ก่อ ส ร้า ง อำ คำ ร พำ ณิช ย์ ส า นัก งำ น ตึก แถ ว อพาร์ ทเม้น ต์ แม น ชั่น เก สท์ เฮ้า ท์ คอน โดมิ เนียม ๑ ๓ .๙. ๔ อาคำ รพา ณิชย์ ส า นัก งำ น ตึก แถ ว ก . จ า น วน ไม่เกิน ๕ คูหา ข. จ า น วน เกิน ๕ คูหา แต่ ไม่เกิน ๑ ๐ คูหา ค . จ า น วน เกิน ๑๐ คูหา ขึ้น ไป ๑ ๓. ๙.๕ การ ก่อ ส ร้า ง อ พำ ร์ ท เม้น ต์ แม น ชั่น เก สท์ เฮาท์ คอน โดมิ เนียม และอื่น ๆ ที่มีลัก ษ ณะ ค ล้า ย ค ลึง กัน เช่น โร ง แรม ลำ น ส เก็ต ดิสโกเท ก โร ง งำ น อุ ตสาหก รร ม ๕๐๐ ๗๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๑ ,๕๐๐ ๑ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓ ,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๒,๐๐๐ ๓, ๐๐ ๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๓๕ รำ ยการ อัตรา ค่า ธร ร มเนียม (บา ท) ห มา ย เห ตุ (ต่อปี) ๑ ๓. ๑ ๐ กิจ การ ท่า เทีย บ เรือ ป ระมง สะพา น ปลา หรือแพปลา ๕,๐๐๐ ๓๖ แบบ กอ. ๑ ค า ข อ รับ ใบ อ นุ ญา ต ป ระ ก อ บ กิจ การ ที่เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ เขียนที่ ................................................ วันที่ .......... เดือ น ............................. พ. ศ...................... ข้าพเจ้า () บุ คคล ธ ร ร มดา () นิติบุ คคล ชื่อ....................................................................... ............ อายุ........... ปีสัญ ชาติ ............. เลขประจ าตัวป ระชำชน เลขที่ ......................................................... ............ อ ยู่บ้านเล ขที่ / ส านักงานเล ขที่ ................ ห มู่ที่.......... ต ร อ ก / ซ อ ย...................................................... ........... ถ นน ......................................... ต าบล .......................... ......................... .. จังหวัด ................ ........................ โทรศัพท์ ................................................. โทรสา ร ............................................... ข อ รับ ใบ อ นุ ญา ต ป ระ ก อ บ กิจ การ ที่ เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ ต่อ เจ้า พ นัก งำ น ท้อ ง ถิ่น ดัง นี้ ๑. ชื่อ ส ถานที่ประกอบการ ................... ............................................................. ................... ....... ป ระ ก อ บ กิจ การ ป ระ เภ ท................................................................... ............ ล าดับที่ .............. ......... .. ก า ลัง เครื่อ งจักร .................. แร งม้า จ านวนค นงาน .............. คน ๒. ส ถา น ป ระ ก อ บ การ ตั้ง อ ยู่ เล ข ที่................ ห มู่ที่........... ต ร อ ก / ซ อ ย............................ ............... ถ นน ............................... ต าบล ................. ............ .........................อ า เภ อ ........ ..... ............. .................... ... . จังหวัด........... ........ ........ ........ ...... โทรศัพท์ ................................. โทรสา ร ................................ ..... อำคาร ป ระ ก อ บ การ มี เนื้อ ที่................. .................... ..... ตาราง เมต ร บริ เว ณส ถา นป ระก อ บการ (ร ว ม ทั้ง อำ คำ ร ประกอบการ) มี เนื้อ ที่....................... ................ ...... ตาราง เมตร ที่ดินบริ เว ณส ถานประก อ บการเป็นของ ......... ........................ ................. อำคารป ระก อ บการ เป็นข อ ง .................. .......... ................... ............ อำคาร ประกอบการ () มีอ ยู่ เดิม () ก่อ ส ร้า ง ให ม่ลักษ ณะข อ งอาคาร ประกอบการ ....................... เป็นไม้หรือ ห้อ งแถ ว คอน กรีตเส ริม เห ล็ก ฯลฯ ได้รับใบอนุ ญาตป ลู กส ร้างอาคาร ป ระเภท ................ ................. ... ส ถา น ป ระ ก อ บ การ อ ยู่ ใก ล้ เคีย ง กับ..................................................... การ พักค้าของผู้ปฏิบัติงานในส ถาน ประกอบการ () มี () ไม่มี บ ริ เว ณ ส ถา น ป ระ ก อ บ การ มี เข ต ติด ต่อ ด้านเห นือ .................................................... ............. ด้านใต้ ............................. ............................... ......... ด้านตะวัน อ อ ก ....................................... .................. ด้านตะวัน ตก ............................................. .............. ๓๗ . ๓. ท า งำ น ป ก ติตั้ง แต่เว ลำ........................ น. ถึงเวลา ............... ..... น. ร วมวันละ ................ ........ ชั่ว โม ง................. กะ วันหยุ ด งานประจ าสัปดาห์ ....................................... ๔. จ านวน และ ระดับผู้ซึ่งท างานในส ถานประก อ บการ ๔. ๑ เจ้าหน้าที่บ ริหา ร และ วิชาการ ........................ คน ๔. ๒ คนงานชาย ........... .............. คน คนงานห ญิง ....................... คน ๔. ๓ ผู้ช า นำ ญ การ จำ ก ต่า ง ป ระ เท ศ........................ คน ๔. ๔ ช่า ง เท ค นิค และ ช่า ง ฝีมือ จำ ก ต่า ง ป ระ เท ศ........... คน ร วม................................. คน ๕. การ ผลิต ๕. ๑ ชื่อ ป ริมา ณ การ ใช้ และ แห ล่ง ที่มา ข อ ง วัต ถุ ดิบ วัตถุ ดิบ ปริมาณการใช้ (ต่อ ปี) แห ล่ง ที่มา(ระบุ บริษัท / ห้าง ร้า น ข อ ง ผู้จ า ห น่า ย ๕. ๑. ๑................................... ......................... ............. ......................................... ๕. ๑. ๒.................................. ...................................... ......................................... ๕. ๑. ๓.................................. ...................................... ......................................... ๕. ๑. ๔.................................. ...................................... ......................................... ๕. ๑. ๕.................................. ...................................... .............. ........................... ๕. ๒ ชื่อ ผลิตภัณฑ์ ปริมาณการผลิต และ การ จ า ห น่า ย ผ ลิต ภัณ ฑ์ ปริมาณการ ผลิต (ต่อ ปี) การ จ า ห น่า ย(ระ บุ ส ถา น ที่ที่อ อ ก จ า ห น่า ย) ๕. ๒. ๑.................................. ...................................... .................................... ..... ๕. ๒. ๒................................. ...................................... ......................................... ๕. ๒. ๓................................. ...................................... ......................................... ๕. ๒. ๓................................. ...................................... ......................................... ๕. ๒. ๕................................. ...................................... ......................................... ๕. ๓ วัตถุ ผล พล อ ยได้ (ระบุ ชื่อ และ ปริมาณวัตถุ ผล พล อ ยได้) (ถ้ามี) วัตถุ ผล พล อ ยได้ปริมาณ วัตถุ ผล พล อ ยได้ ๓๘ ๕. ๓. ๑.......................................................................... ......................................... ๕. ๓. ๒........................................................... .............. ......................................... ๕. ๓. ๓......................................................................... ......................................... ๕. ๔ ม ล พิษ ที่ เกิด ขึ้น จำ ก ก ระ บ ว น การ ผ ลิต(น้า เสีย/ กา กของเสีย / มล พิษ อากาศ) (ระบุ ชื่อ และ ปริมา ณ) (ถ้ามี) ............................................................................................................................. ............ .......................... .................................. .............................................................................................. ......... .......................... ๕. ๕ การ ค ว บ คุ ม ม ล พิษ ก่อ น ป ล่อ ย อ อ ก สู่ภา ย น อ ก (การ บ าบัดห รือ ป รับปรุ ง คุ ณ ภา พ น้า เสีย/ กา กของเสีย / มล พิษ อากาศ) .......... ...................................................................................................................... ............................. ...... ...................................................................................................... .......................... .......... ......................... ............................................................................................................................. ............. ......................... ๖. การ ค ว บ คุ ม ม ล พิษ ก่อ น ป ล่อ ย อ อ ก สู่ภา ย น อ ก(การ บ า บัด ห รือ ป รับ ป รุ ง คุ ณ ภา พ น้า เสีย/ กา กของเสีย / มล พิษ อากาศ) ............................................................................................................................. .......................... ........ .... ............................................................................................................................. .......................... ............ ....................................................................................... ............................................................... ............. ๗. อุ ปก ร ณ์ / เครื่อ งมือ / เครื่อ ง จักร ที่ ใช้ ในการประก อ บการ ได้ แก่ (ระบุ ขนาด จ านวน) ๗. ๑.................................... ............... ขนาด ............. ............... ................... จ า นวน ............. ..... ๗.๒ ........ .......... ................................ ขนาด .......................... ............... ...... จ า นวน .............. .... ๗.๓.............. ..................................... ขนาด ........... ............... ..................... จ า นวน ........... ...... ๗.๔.......................... ......................... ขนาด ........................ ............... ........ จ า นวน ................. ๘. มา ต ร การ ป้อ ง กัน อัน ต รำ ย ส า ห รับ ผู้ปฏิบัติงำ น/ คนงาน ...................................................... ...................................................................................... ....................... ............................................................................................................................. ............... ..................... .. ............................................................................................................................. ............... ....................... .......................................................................... ......................................................................................... ๓๙ ๙. แผนที่สังเขป แส ด ง ส ถา น ที่ตั้ง ส ถา น ที่ป ระ ก อ บ การ ๑๐. แผ น ที่ แส ด ง พื้น ที่ป ระ ก อ บ การ และ ที่ตั้ง ข อ ง เค รื่อ ง จัก ร(หำ ก มีห ลำ ย ชั้น ให้ แส ด ง ทุ ก ชั้น) ร ว ม ทั้ง ที่ พักของผู้ปฏิบัติงานในส ถาน ประกอบการ (ถ้ามี) ล งชื่อ ...................................................................... ผู้ยื่นค าขอ ต า แห น่ง.................................................................................. วันที่ ........................./................................/........................... ๔๐ แบ บ กอ. ๒ ใบ อ นุ ญา ต ป ระก อบกิจ การ ที่ เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ อนุ ญาตให้บุ คค ลธ รร ม ดา นิติบุ คค ล ชื่อ.......................... ............................... ........... อายุ................. .. ปี สัญชา ติ .............. เล ขประ จ า ตัว ประชา ชนเล ขที่ ....................................... อ ยู่บ้า น/ ส า นัก งำ น เล ขที่ ......................... ตรอก / ซอย............................................... ถ นน................................. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ห มู่ที่............... ...................... ... ต า บล / แขวง .................................................... ................. ... อ า เภอ / เขต............................... ............ ........... จัง หวัด ............................................ โทรศัพท์ ............................................. โทรสา ร ................................ ......................... ข้อ ๑ ป ระ ก อ บ กิจ การ ที่ เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ ประเภ ท ................................................. ............. ........ ล า ดับที่ ....................................... ค่า ธ ร ร ม เนีย ม.................................... บาท ใบ เส ร็จ รับ เงิน เล่ม ที่.................. ..... เล ขที่ ................................... ลงวัน ที่ ............................ เดือน ........................ .................... พ. ศ. ..................... โดย ใช้ชื่อ ส ถา น ป ระ ก อ บ การ ว่า............................................................ พื้น ที่ป ระ ก อ บ การ............ ......... .................... ตำรา ง เม ตร ก า ลัง เค รื่อ ง จัก ร................... ............. .......... ........... แรงม้า จ า น วน คนงำ น ................ ........................ คน ตั้ง อ ยู่ณ เล ขที่ ....................................... ห มู่ที่.................................. ตรอก / ซอย............................... ............. ถน น ........ ..................... .. . ... ต า บล ................................. ............... ............. อ า เภอ ...................................... . จัง หวัด .......................................... โทร ศัพท์ ................................................. โทรสา ร ........ ........................................... ... ข้อ ๒ ผู้ ได้รับใบอ นุ ญาตต้อ ง ปฏิบัติตามเงื่อ น ไขโดยเฉ พาะ ดัง ต่อ ไป นี้ (๑)............................................................................................................................ ............... .......... ..... (๒)............................................................................................................................ ...................... ....... ข้อ ๓ ใบ อ นุ ญา ต ฉ บับ นี้อ อ ก ให้ เมื่อ วัน ที่ . . . . . . . . . . . . . . . . . เดือ น . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .. . .. . .. . .... . .. พ. ศ. . .... . .. . .. . . .. . .... . .. ข้อ ๔ ใบ อ นุ ญา ต ฉ บับ นี้สิ้น อำ ยุ วัน ที่ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เดือ น . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . พ . ศ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ... (ลงลา ยมือชื่อ)...................................................... (.....................................................) เจ้า พ นัก งำ น ท้อ ง ถิ่น ค า เตือน (๑) ผู้รับ ใบ อ นุ ญา ต ต้อ ง แส ด ง ใบ อ นุ ญา ต นี้ ไว้ โด ย เปิด เผ ย และ เห็น ได้ง่า ย ณ ส ถา น ที่ป ระ ก อ บ กิจ การ ต ล อ ด เว ลำ ที่ป ระ ก อ บ กิจ การ หำ ฝ่า ฝืน มี โทษ ป รับ ไม่เกิน ๕๐๐ บาท (๒) หำ ก ป ระ ส ง ค์ ป ระ ก อ บ กิจ การ ใน ปีต่อ ไป ต้อ ง ยื่น ค า ข อ ต่อ อำ ยุ ใบ อ นุ ญา ต ก่อ น ใบ อ นุ ญา ต สิ้น อำ ยุ ๔๑ (ด้า น หลัง) รำ ย การ ต่อ อำ ยุ ใบ อ นุ ญา ต และ เสีย ค่า ธ ร ร ม เนีย ม วัน /เดือน / ปี ที่ออ ก ใบ อนุ ญาต วัน /เดือน / ปี ที่สิ้น อำ ยุ ใบ อนุ ญาต ใบ เสร็จรับเงิน (ลง ชื่อ) เจ้า พนัก งำ น ท้อ ง ถิ่น เล่ม ที่ เล ขที่วัน /เดือน / ปี ๔๒ แบบ กอ. ๓ ค า ข อ ต่อ อำ ยุใบ อ นุ ญา ต ป ระ ก อ บ กิจ การ ที่เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ เขียนที่ ............................................... ...... วัน ที่ .......... เดือน .......... ................... ................... พ. ศ......... ข้า พเจ้า () บุ คค ลธ รร ม ดา () นิติบุ คค ล ชื่อ............... ............................ .......................... ....................... อายุ........... ปีสัญชา ติ ............. เล ขประ จ า ตัวป ระ ชา ชนเล ขที่ .......... .............................. ................ ....................... อ ยู่บ้า น เล ข ที่/ ส า นัก งำ น เล ขที่ ........... ........... ..... ห มู่ที่..................... ...... ตรอก / ซอย.................................... ........... ถน น ......................................... ต า บล ................................... ........ ............... จัง ห วัด ...................... ....................... โทรศัพท์ ................................................. โทรสา ร ...................................... ................ ......... .. มีความ ประสงค์ ยื่น ข อ ต่อ อายุ ใบ อ นุ ญา ต ป ระ ก อ บ กิจ การ ที่ เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ ต่อ เจ้า พ นัก งำ น ท้อ ง ถิ่น ดัง นี้ ๑. ชื่อสถา น ที่ประกอ บ การ .................................... ............................ ............................ ........................ ป ระ ก อ บ กิจ การ ป ระ เภ ท................. ............................... ........ .......................... .... ล า ดับที่ ............ ............ ... ก า ลัง เครื่อง จัก ร .................. .... แรงม้า จ า น วน คนงำ น ................... คน ใบ อนุ ญาตฉ บับเดิน เล ขที่ ........ ........../............... ออ ก ให้ เมื่อ วัน ที่ ................. เดือน ........... .......... ......... ....................... พ. ศ.......... .............. ......... หม ดอายุ วัน ที่ ........ เดือน ................................. ............. ......... พ. ศ................................ ๒. ส ถา น ป ระ ก อ บ การ ตั้ง อ ยู่ เล ข ที่.................. ......... ห มู่ที่................... ..... ตรอก / ซอย............... .............. ถน น ............................... ต า บล ...................... ............... .......................... อ า เภอ. .. . .. . .... . .. . .... . .. . .. . .. ... . .. . .. . .. จัง หวัด .. .... .. . .. . .... . .. . .. . .... . .. . .... . .. . .. . . โทรศัพท์ ..................................... โทรสา ร ............................... .. อาคำ รประ ก อบ การ มี เนื้อ ที่.................... ..................... ........ ตำรา ง เม ตร บริ เวณสถา น ประกอ บ การ (ร ว ม ทั้ง อำ คำ ร ป ระ ก อ บ การ) มี เนื้อ ที่......................... ตำรา ง เม ตร ที่ดิน บริ เวณสถา น ประกอ บการเป็น ของ .......... .......... ............................. อาคำ รประ ก อบ การเป็น ของ ................................... .................... .. .อำ คา รประกอ บการ () มีอ ยู่ เดิม () ก่อ ส ร้า ง ให ม่ลัก ษณะข อง อาคำ รประ ก อบ การ ......... ................. เป็น ไม้หรือห้อง แถว คอน ก รีตเสริม เหล็ก ฯล ฯ ได้รับใบอ นุ ญาตปลู ก สร้า ง อาคำ รประ เภท ......................... ................. ......... . ส ถา น ป ระ ก อ บ การ อ ยู่ ใก ล้ เคีย ง กับ ..................................................... การพัก ค้า ง ของ ผู้ปฏิบัติงำ น ใน สถา น ประก อบ การ () มี () ไม่มีบ ริ เว ณ ส ถา น ป ระ ก อ บ การ มี เข ต ติด ต่อ ด้า น เหนือ ........................... ............................................................... ..................................... ด้า น ใต้ ............................... ..................................................................... ................................ ด้า น ตะวัน ออ ก ..................... ............................................................... ................................... ด้า น ตะวัน ตก ........... ....................... ................................................................ ........................ ๔๓ ๓. ท า งำ น ป ก ติตั้ง แต่ เว ลำ................ ............ ........ น. ถึง เวลา ........ ........... ............ น. รวม วัน ละ .......... ..... ชั่ว โม ง.......... ....... กะ วัน หยุ ด งำ น ประจ า สัปดาห์ ....................................... ๔. จ า น ว น และระดับผู้ซึ่ง ท า งำ น ใน ส ถาน ประกอ บ การ ๔. ๑ เจ้า หน้า ที่บริหารและวิชา การ ........... ........ ............. คน ๔. ๒ คนงำ น ชา ย .................................................... คน คนงำ น หญิง .................................................. คน ๔. ๓ ผู้ช า นำ ญ การ จำ ก ต่า ง ป ระ เท ศ........................ คน ๔. ๔ ช่า ง เท ค นิค และ ช่า ง ฝีมือ จำ ก ต่า ง ป ระ เท ศ........... คน รวม............................... .. คน ๕. การผลิต ๕. ๑ ชื่อ ป ริมา ณ การ ใช้ และ แห ล่ง ที่มา ข อ ง วัต ถุดิบ วัตถุดิบ ปริมา ณ การใช้ (ต่อ ปี) แห ล่ง ที่มา(ระ บุ บริษัท / ห้า ง ร้า น ข อ ง ผู้จ า ห น่า ย ๕. ๑. ๑............. ...................... ............................. ......... ......................................... ๕. ๑. ๒............... ................... ..................... ................. ......................................... ๕. ๑. ๓............... ................... ..................... ................. ......................................... ๕. ๑. ๔.............. .................... ...................... ................ .......... ............................... ๕. ๑. ๕.................................. ...................... ................ ......................................... ๕. ๒ ชื่อผลิตภัณฑ์ ปริมา ณการ ผลิต และการ จ า ห น่า ย ผ ลิต ภัณ ฑ์ ปริมา ณการผลิต (ต่อ ปี) การ จ า ห น่า ย(ระ บุ ส ถา น ที่ที่อ อ ก จ า ห น่า ย) ๕. ๒. ๑................................... ...................................... ................... ......... ......................... ๕. ๒. ๒.............. .................... ..................... .................................... .................... .............. ๕. ๒. ๓.............. .................... .................... ...................................... ........ .......................... ๕. ๒. ๔............................... ... ..................... .................................. ........... .......................... ๕. ๒. ๕.................................. ...................... ................................... ......... .......................... ๕. ๓ วัตถุผลพล อยได้ (ระ บุ ชื่อและป ริมา ณวัตถุผลพ ลอ ยได้) (ถ้า มี) วัตถุผลผล พลอ ยได้ปริมา ณวัตถุผลพล อยได้ ๕. ๓. ๑................................... ..................................... .................... ......... ......................... ๕. ๓. ๒.................................. ..................... .................................... ......... ......................... ๕. ๓. ๓.................................. .................... ...................................... ........ ......................... ๔๔ ๕. ๔ ม ล พิษ ที่ เกิด ขึ้น จำ ก ก ระ บ ว น การ ผ ลิต(น้า เสีย/ กำ ก ของ เสีย / ม ลพิษ อากำ ศ) (ระ บุ ชื่อและป ริมา ณ) (ถ้า มี) .......... ............................................................................................................................. ......... ............... ............... ........................................................................................... .................................................... ............................... ............................................................................................................................. ............. ............................... ..... ๕.๕ การ ค ว บ คุ ม ม ล พิษ ก่อ น ป ล่อ ย อ อ ก สู่ภา ย น อ ก (การ บ า บัด ห รือ ป รับ ป รุ ง คุ ณ ภา พ น้า เสีย/ กำ ก ของ เสีย/ ม ลพิษอำ กำ ศ) ............................................................................................................ ........................ ........ .................................. ............................................................................................................................. ............................ ..................... .............................................. ........................................................................................................ ........................ ๖. การ ค ว บ คุ ม ม ล พิษ ก่อ น ป ล่อ ย อ อ ก สู่ภา ย น อ ก(การ บ า บัด ห รือ ป รับ ป รุ ง คุ ณ ภา พ น้า เสีย/ กำ ก ของ เสีย / ม ลพิษอำ กำ ศ) .................. ............................................................................................................................. ........................... .... ................................................................................................... ........................................... ....................... ......... ............................................................................................................................. ................. ....................... ......... ๗. อุป ก รณ์ / เครื่อง มือ / เครื่อง จัก ร ที่ ใช้ ในการประกอ บ การ ได้ แก่ (ระ บุ ขนาด จ า น วน) ๗.๑ ............................................ ขนาด ................................ จ า น วน ........................ ๗.๒ . ................... ........................ ขนาด ....................... .......... จ า น วน ........................ ๗.๓............................................ ขนาด .................. ............... จ า น ว น ........................ ๗.๔.................. .......................... ขนาด ....................... .......... จ า น ว น ........................ ๘. มา ต ร การ ป้อ ง กัน อัน ต รำ ย ส า ห รับ ผู้ปฏิบัติงำ น/ คนงำ น ..................................................................................................... ............................................. ......................... ... ......................................................................................................................... ........................... .......................... .................................................................................................................... ........................... ............................... ๙. แผน ที่สัง เขป แส ด ง ส ถา น ที่ตั้ง ส ถา น ที่ป ระ ก อ บ การ ๑๐. แผ น ที่ แส ด ง พื้น ที่ประกอ บการ และ ที่ตั้ง ข อ ง เค รื่อ ง จัก ร(หำ ก มีห ลำ ย ชั้น ให้ แส ด ง ทุ ก ชั้น) ร ว ม ทั้ง ที่พัก ของ ผู้ปฏิบัติงำ น ใน ส ถาน ประก อบ การ (ถ้า มี) ลง ชื่อ ................................................ ............... ผู้ยื่นค า ขอ ต า แห น่ง............................................................ วัน ที่ ......../.............../. .......... ๔๕ แบ บ กอ. ๔ ค า ข อ รับ ใบ แท น ใบ อ นุ ญา ต ป ระ ก อ บ กิจ การ ที่เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ เขียนที่ .............................. ......................... วัน ที่ .............. เดือน ......................... พ. ศ. ............. ข้า พเจ้า ................................................. ................... ................... ...................................... ผู้ ได้รับ ใบ อนุ ญาต เป็น บุ คค ล ธ รร ม ดา อ ยู่บ้า น เล ข ที่................................ ตรอก / ซอ ย....................................... ......... ถน น ....................................... ห มู่ที่............. ต า บล / แขวง ............................................ อ า เภอ / เขต............. ........... จัง หวัด .......................................................... เป็น นิติบุ คค ลป ระ เภท .................................................................................. .................... ........... จดทะเบียนเมื่อ .................................... .................. เล ขทะเบียน .............................................. มีส า นัก งำ น ตั้ง อ ยู่ เล ขที่ ............................. ตรอก / ซอย...................................... ............. ถน น ................ ........................... ห มู่ที่......... ต า บล / แขวง ....................................... อ า เภอ / เขต.................................................. จัง หวัด ........................... .......... โดย....................... ................ .......................... .................................... ผู้มีอ า นำ จลงชื่อแท น นิติบุ คค ลผู้ขอใบ แท น ใบ อ นุ ญา ต อ ยู่บ้า น เล ข ที่........................ ตรอก / ซอย............................. ถน น ............................. ห มู่ที่........... ต า บล / แขว ง............................ อ า เภอ / เขต........................................ จัง หวัด ........................................ ................ ขอยื่น ค า ขอรับใบแทน ใบอ นุ ญา ต ........................................................................................ .............................. . ..................................................... ต่อ เจ้า พ นัก งำ น ท้อ ง ถิ่น ดัง ต่อ ไป นี้ ข้อ ๑ ข้า พเจ้า ได้รับใบอ นุ ญาต ................................................................................... ....................... .... เล ขที่ .................................................. ลง วัน ที่ ......................... เดือน .......................................... พ. ศ. ......... ........... ที่บ้า น เล ขที่ .......................... ตรอก / ซอย................................ ถน น .............................................. ห มู่ที่................. ต า บล / แขวง ........................ .................... .. อ า เภอ / เขต............................................... จัง หวัด ............................ .... ใน ที่ดิน โฉ น ดที่ดิน เล ขที่ / น. ส. ๓ เล ขที่ / ส. ค. ๑ เล ขที่ ......................................................................... ...... ............ เป็น ที่ดิน ของ ............................................................................................................................. ............... ............ ข้อ ๒ ใบ อนุ ญาต / ใบ รับ ร อ ง ดัง ก ล่า ว ได้สู ญ หำ ย/ ถู ก ท า ลาย / ช า รุ ด เมื่อวัน ที่ ................................ .. เดือน .............................. พ. ศ. ........ .................. ข้อ ๓ พ ร้อ ม ค า ข อ นี้ข้า พ เจ้า ได้ แน บ เอ ก สำ ร ห ลัก ฐา น ต่า ง ๆ มา ด้วยแล้วคือ (๑) ใน ก รณี ใบ อนุ ญาตสู ญหำ ย ให้น า ใบ แจ้ง ค วา ม ว่า ใบ อ นุ ญา ต สู ญ หำ ย ข อ ง ส ถา นีต า ร ว จ แห่ง ท้อ ง ที่ที่ ใบ อ นุ ญา ต นั้น สู ญ หำ ย มา ด้ว ย ๔๖ (๒) ใน ก ร ณีที่ ใบ อ นุ ญา ต ถู ก ท า ลำ ย ห รือ ช า รุ ด บา ง ส่ว น ให้ แน บ ใบ อ นุ ญาตที่ถูก ท า ลาย หรือ ช า รุ ด บา ง ส่ว น นั้น มา ด้ว ย (ลายมือ ชื่อ)................................................................... (................................................................) ผู้ขอรับใบแทน อนุ ญาต หมา ยเหตุ (๑) ข้อ ค วา ม ใด ที่ ไม่ใช้ ให้ขีด ฆ่า (๒) ใส่ เค รื่อ ง ห มา ย / ใน ช่อ ง หน้า ข้อความที่ต้อง การ หมา ยเหตุ ของ เจ้า หน้า ที่ จะ ต้อ ง แจ้ง ให้ผู้ข อ รับ ใบ แท น ใบ อ นุ ญา ต ท รำ บ ว่า จะ อ นุ ญา ต ห รือ ไม่อ นุ ญา ต หรือขยำ ยเวลา ภา ยใน วัน ที่ .......................... เดือน .................. ............................. พ. ศ. ..................... ผู้ขอใบ แท น ใบ อ นุ ญาต ได้ช า ระ ค่า ธ ร ร ม เนีย ม ใบ แท น ใบ อ นุ ญา ต......................... .................. .............................. เป็น เงิน .................................................. บาท ตามใบเสร็จรับ เงิน เล่ม ที่............................... เล ขที่ ............................................ ลง วัน ที่ ................ เดือน ................. ............................. .... พ. ศ. ...... ............ ........ ออ ก ใบแทนใบอ นุ ญาตแล้ว เล่ม ที่....................... ..... ฉ บับ ที่ ........................... ลง วัน ที่ ............. . เดือน ........................................ พ. ศ. ................................ (ลายมือ ชื่อ)........................... ........................................ (.. .. . .. . .. . .... .... .. . .. . .... . .. . .. . .... . .. . .... . .. . .. . .... . .... ...) ต า แห น่ง..................................................................... ๔๗ แบบ กอ. ๕ ค า ข อ แก้ ไข รำ ย การ ใน ใบ อ นุ ญา ต เขียนที่……………………………………… ……………. วันที่……… . เดือ น ………………………… พ. ศ. ………. ข้าพ เจ้า …………………………………………… ………………………………. อา ยุ ……………….. ปี สัญชาติ ………… บัต ร ประ จ าตัว ประ ชำช น เลข ที่ ………………… ……………… …… ออก ให้ณ …………… ...... อ ยู่ เล ข ที่ ………………… ...............…………… . ตรอก / ซ อย……………………………………………… ……….. ถนน …………………………………… ห มู่ที่ …………… ต าบล / แขวง ………………………………………….. อ าเภ อ / เข ต ……………………… .........……………………..……… จังห วัด ………………… ........................... ..... โทรศัพ ท์ …………………..…………….…… ข อ แก้ ไข รำ ย การ ใน ใบ อ นุ ญา ต ห รือ ห นัง สือ รับ ร อ ง การ เลข ที่ ……… ใน นามของ .................................................................... ........................... (ชื่อผู้รับอนุ ญา ตและชื่อส ถานที่ผลิต ห รือ สถานที่น าเข้า) อ ยู่ เล ข ที่ ………… . ตรอก / ซ อย …… ..……… ...........…………………..…… ถนน ………………….. ห มู่ที่ ........... ต าบล / แขวง ……… .............………………………. ………………… อ าเภ อ / เข ต ……… .............……… จังห วัด ………… .........…..…… โทรศัพ ท์ …………………………………………… .. รำ ย การ ที่ข อ แก้ ไข……………………………… ……………………………………………………… …… …………………………………………………………………………………………………………… …………… ……………………………………………………………………… …………………………………………. ……… ……………………………………………………………………… ……………………………………………. …… …………………………………………………………………………… …………………………………………. … …………………………………………………………………………… ……………………………… …………..… ………………………………………………………………………………… ……………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ………… ………………………………………………………………………………………………… ……………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… … (ลา ยมือชื่อ) ………………………………… ........ ผู้ยื่นค าขอ (... .. .. .. .. .. .. . .. .. . .. . . .. .. .. .. . .. . .. .. .. .. .. . . .. .. .. .. .. . ..) ต า แห น่ง . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ... ๔๘ แบ บ กอ. ๖ ค า ร้อง บอกเลิกกิจ การ กิจ การ ที่เป็น อัน ต รำ ย ต่อ สุ ข ภา พ เขียนที่ ........................................................... วัน ที่ ............ เดือ น .................................... พ. ศ. .......... .................... ข้า พเจ้า (นำ ย/ นำ ง/ นำ ง สาว)........................ ........................ ................................. อายุ......................... ปี สัญชา ติ ........ ............ . หมา ยเลขบัตรประจ า ตัวป ระ ชา ชนเล ขที่ - - - - อ ยู่บ้า น เล ข ที่....................... ห มู่ที่...................... ตรอก / ซอย.......................................... ถน น ........ ........................ แขวง / ต า บล ............................................ เขต/ อ า เภอ ......................................... เทศบาล / อบต .............................. . จัง หวัด ....................................................... หมา ยเลขโทรศัพท์ ....................................................... ...................... ได้รับ ใบ อนุ ญาต จัด ตั้ง/ ป ระ ก อ บ กิจ การ เล่ม ที่......... ............ เล ขที่ ............... .......... ปี.................. ... ประเภ ท กิจ การ.......................................................................................... ............................................................ ............ โดยใช้ชื่อสถา น ป ระ ก อ บ การ ว่า.................................................................................................... ...................... . ส ถา น ที่ตั้ง เล ข ที่.................. ห มู่ที่..................... ตรอก / ซอย.......................................... ถนน ................................ . แขวง / ต า บล ......................................... เขต/ อ า เภอ ......................................... เทศบาล / อบต .......... ...................... . จัง หวัด ............................................. หมา ยเลขโทรศัพท์ ................ ....................................... ข อ แจ้ง เลิก ด า เนิน กิจ การ ต่อ เจ้า พ นัก งำ น ท้อ ง ถิ่น ตั้ง แต่วัน ที่............ เดือน ............................. พ. ศ........ ... พ ร้อ ม ทั้ง ได้ แน บ ห ลัก ฐา น ที่น า มา ป ระ ก อ บ การ พิจำ ร ณา ดัง นี้ ๑. ใบ อ นุ ญาต จัด ตั้ง/ ป ระ ก อ บ กิจ การ ๒. ส า เนา ทะเบียนบ้า น ของ สถา น ที่ประกอ บการ ๓. ใบ แท น ใบ อนุ ญาต จัด ตั้ง/ ป ระ ก อ บ กิจ การ ๔. ส า เนา บัตรประจ า ตัวป ระ ชา ชนของ ผู้ประกอ บการ ๕. หนัง สือ ม อบ อ า นำ จที่ถูก ต้อง ตาม ก ฎ หมา ย พร้อม ส า เนา บัตรประจ า ตัวป ระ ชาชน ของ ผู้ม อบ อ า นำ จและผู้รับม อ บอ า นำ จ (ก ร ณีผู้ป ระ ก อ บ การ ไม่สำ มา ร ถ มา ยื่น ค า ขอด้วยตน เอง) ๖. ส า เนา หนัง สือรับรอ ง การจดทะเบียนนิติบุ คค ล พร้อม ส า เนา บัตรประจ า ตัวป ระ ชา ชนข อง ผู้ แท น นิติบุ คค ล (ก ร ณีผู้ข อ เลิก ด า เนิน กิจ การ เป็น นิติบุ ค ค ล) ข อ รับ ร อ ง ว่า ข้อ ค วา ม ใน แบ บ ค า ข อ นี้ เป็น ค วา ม จ ริง ทุ ก ป ระ การ (ลง ชื่อ).................................... ................ ...... ผู้ยื่นค า ขอ (...........................................................) ต า แห น่ง . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เล่ม: ๑๓๑ หมวด: ๘๖ ง ประกาศ ณ: ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า: ๗๙
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:90410", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลใหม่นาเพียง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๗", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/D/086/79.PDF", "year": null }
nonweb_103702
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและการบริจาคในกรณีจำเป็นแก่หน่วยบริการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก ที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและการบริจาคในกรณีจำเป็นแก่หน่วยบริการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้มีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารก หรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและการบริจาคในกรณีจำเป็น แก่หน่วยบริการสาธารณสุข เพื่อไม่ให้เกิดการส่งเสริมการตลาดผ่านการบริจาคอาหารสำหรับทารก หรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๒๓ วรรคสองและวรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาด อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และการบริจาคในกรณีจำเป็นแก่หน่วยบริการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๑” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกาศนี้ “ผู้บริจาค” หมายความว่า ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารก หรือ อาหารสำหรับเด็กเล็ก หรือตัวแทน ที่ประสงค์จะบริจาคอาหารสำหรับทารกที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ อาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ หรืออาหารสำหรับทารก หรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก ข้อ ๔ การบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ ผู้บริจาคสามารถบริจาคให้แก่สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือสถานพยาบาล ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษาของรัฐ หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือสภากาชาดไทย ที่มีทารกหรือเด็กเล็กซึ่งเป็นผู้ป่วยเฉพาะโรคพันธุกรรมเมตาบอลิก (Inborn Errors of Metabolism) แพ้โปรตีนนมวัวรุนแรง ลำไส้ล้มเหลวทุพโภชนาการระดับสาม (รุนแรง) ภาวะการดูดซึมไขมันบกพร่อง (Fat Malabsorption) หรือทารกเกิดก่อนกำหนดที่ต้องได้รับ อาหารเสริมนมแม่สำหรับทารกเกิดก่อนกำหนด (Human Milk Fortifier) ข้อ ๕ การบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก ในกรณีจำเป็น ผู้บริจาค สามารถบริจาคให้แก่องค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ไม่แสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้าน สุขภาพแม่และเด็กที่มีทารกซึ่งเป็นกำพรำ หรือทารกที่ถูกทอดทิ้ง หรือทารกที่แม่ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ ว่าไม่สามารถให้นมบุตรได้ ข้อ ๖ ให้ผู้บริจาคตามข้อ ๔ และข้อ ๕ รวบรวมหลักฐานแบบการบริจาคในแต่ละครั้ง ที่ลงลายมือชื่อ ผู้บริจาคและผู้รับบริจาคไว้ด้วย แล้วจัดทำเป็นแบบรายงานการบริจาครายปีแจ้งต่อ คณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กตามแบบแนบท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. 256๑ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แบบการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กในกรณีจำเป็น ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารก หรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและการบริจาคในกรณีจำเป็นแก่หน่วยบริการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๑ วันที่ ................................ ........................ ตามที่ผู้บริจาค (ชื่อผู้ผลิต/ผู้นำเข้า/ผู้จำหน่าย/ตัวแทน)………………………………..……. ได้บริจาคผลิตภัณฑ์ อาหารสำหรับทารกที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ อาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ อาหารสำหรับทารกในกรณีจำเป็น อาหารสำหรับเด็กเล็กในกรณีจำเป็น ชื่อผลิตภัณฑ์.......................... ............................ เลขสารบบอาหาร ................................. ........................ จำนวน ........................... ......................(กระป๋อง/ถุง) มูลค่าโดยประมาณ ..................................... บาท เพื่อวัตถุประสงค์................................................. ......................................... ................................. ให้แก่ (ชื่อหน่วยงานรับริจาค)............................................ ........................... .......................... ........................... ณ วันที่ ...................................... ................................ สถานที่................................... ............................ บัดนี้ผู้บริจาคและผู้รับบริจาคได้ดำเนินการส่งมอบ-รับมอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ลงชื่อ................................... ผู้บริจาค ลงชื่อ.................................... ผู้รับบริจาค (หัวหน้า/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย) (.............................................) (.............. ...............................) ตำแหน่ง ................................ ตำแหน่ง ................................... ลงชื่อ....................................... พยาน ลงชื่อ........................................ พยาน (............................... ..............) (........ .....................................) แบบการบริจาครายครั้ง ร่าง......................................... พิมพ์...................................... ตรวจ ..................................... แบบรายงานการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กในกรณีจำเป็น ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารก หรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและการบริจาคในกรณีจำเป็นแก่หน่วยบริการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๑ วันที่ ........................ .............................. เรียน อธิบดีกรมอนามัย (เลขานุการคณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก) ตามที่ผู้บริจาค (ชื่อผู้ผลิต/ผู้นำเข้า/ผู้จำหน่าย/ตัวแทน)………………………………..…… มีความประสงค์ในการบริจาคผลิตภัณฑ์ในปีพ.ศ. .... อาหารสำหรับทารกที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ จำนวน ครั้ง อาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ จำนวน ครั้ง อาหารสำหรับทารกในกรณีจำเป็น จำนวน ครั้ง อาหารสำหรับเด็กเล็กในกรณีจำเป็น จำนวน ครั้ง โดยมีรายละเอียดปรากฏตามแบบการบริจาครายครั้งที่แนบมาพร้อมนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อ..................................... ผู้บริจาค (............... ..............................) แบบรายงานการบริจาครายปี เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๑๐๒ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๑๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:103703", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและการบริจาคในกรณีจำเป็นแก่หน่วยบริการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๑", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/102/16.PDF", "year": null }
nonweb_144119
ระเบียบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ว่าด้วยการดำเนินการของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565 ระเบียบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ว่าด้วยการดำเนินการของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไหว่าด้วยการดำเนินการ ของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565 อาศัยอำนาจตามมาตรา 9 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565 โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ในการประชุมสมัยวิสามัญ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565 จึงให้กำหนดระเบียบสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ท่าไห ว่าด้วยการดำเนินการของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565 ดังนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไหว่าด้วยการดำเนินการ ของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบนี้ “ข้อบัญญัติ” หมายความว่า เทศบัญญัติและข้อบัญญัติท้องถิ่น “ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห และให้หมายความรวมถึงเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ซึ่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห สั่งให้เป็นผู้ดำเนินการแทน “ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น “ผู้ประสานงาน” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยื่นคำร้องขอ ต่อประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือการเชิญชวนผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง ข้อ 4 ผู้มีสิทธิเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นใดประสงค์จะให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ดำเนินการจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือดำเนินการเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่าง ข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือให้ดำเนินการทั้งสองกรณี ให้ผู้เข้าชื่อจำนวนไม่เกินสิบคน ยื่นคำร้องว่าประสงค์ จะให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือเชิญชวนให้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นเรื่องใด และหรือมีเนื้อหาอย่างไร โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อ ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน และลายมือชื่อ พร้อมทั้งมอบหมายบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้ประสานงาน เพื่อประโยชน์ในการจัดทำร่างข้อบัญญัติแล้ว ยื่นต่อประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามแบบท้ายระเบียบนี้หน้า ๑ ให้ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ตรวจสอบความถูกต้องของคำร้อง ตามวรรคหนึ่ง หากตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ให้แจ้งผู้ประสานงานแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวโดยเร็ว แต่หากตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้อง ครบถ้วน ให้ถือว่าวันที่ยื่นคำร้องถูกต้องครบถ้วนเป็นวันรับคำร้องขอ และให้ดำเนินการต่อไปตามข้อ 5 และให้ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห มอบหมายให้ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ดำเนินการให้ตามความประสงค์ของผู้ยื่นคำร้อง ข้อ 5 ในการจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ให้ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห จัดทำ ร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น โดยต้องมีสาระสำคัญและเป็นไปตามแบบที่กำหนดในข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ต้องจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ให้แล้วเสร็จ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอตามข้อ 4 วรรคสอง หากเห็นว่าจะไม่แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ขอขยายระยะเวลาต่อประธานสภา องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห อาจจะขยายให้เป็นกรณีไปก็ได้ แต่เมื่อรวมระยะเวลาที่ขยาย แล้ว ต้องไม่เกินเก้าสิบวัน ทั้งนี้การจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นดังกล่าวยังไม่ถือว่ามีผลเป็นการเข้าชื่อเสนอ ร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น ข้อ 6 เมื่อปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ได้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้อง ถิ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้แจ้งผู้ประสานงานรับร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อไปดำเนินการเชิญชวนต่อไป หรือหากผู้ยื่นคำร้องประสงค์ ให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ดำเนินการเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติ ท้องถิ่นดังกล่าว ให้ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไหดำเนินการตามข้อ 7 ข้อ 7 ให้ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไหจัดทำประกาศเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ร่วม เข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นพร้อมกับแนบร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น โดยเชิญชวนเป็นการทั่วไป ผ่านทางหนังสือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือทางอื่น ๆ พร้อมระบุสถานที่จัดส่งเอกสารและที่อยู่ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบเทคโนโลยีอื่น ข้อ 8 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์จะร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นสามารถส่งหลักฐาน การร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นโดยต้องมีหลักฐานแสดงชื่อ ชื่อสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้ร่วมเข้าชื่อ และข้อความที่แสดงให้เห็นว่าตนสมัครใจเข้าร่วมในการเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น พร้อมทั้งลงลายมือชื่อและส่งไปยังสถานที่หรือผ่านสื่ออิเล็กท รอนิกส์ที่ผู้เชิญชวนกำหนดไว้ในหนังสือ เชิญชวน หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การส่งหลักฐานตามวรรคหนึ่ง สามารถส่งได้ด้วยตนเอง ทางไปรษณีย์ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ข้อ 9 ในกรณีที่องค์การบริหารส่วน ตำบลท่าไห จัดให้มีการร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ผ่านระบบสารสนเทศ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์จะร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ผ่านทาง ระบบสารสนเทศนั้น ให้ลงทะเบียนและยืนยันตนก่อนเข้าสู่ระบบเพื่อร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น โดยไม่ต้องลงลายมือชื่อ หน้า ๒ ข้อ 10 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น มีสิทธิถอนการร่วม เข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นได้ก่อนที่ผู้มีสิทธิเข้าชื่อจะเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นต่อประธาน สภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห การถอนชื่อจากการเป็นผู้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ให้ทำเป็นหนังสือซึ่งมีข้อความ แสดงชื่อ ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน และข้อความที่แสดงให้เห็นว่าตนเองประสงค์จะถอน การร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นฉบับใด พร้อมลงลายมือชื่อ และส่งให้องค์การบริหาร ส่วนตำบลท่าไห ด้วยตนเอง ทางไปรษณีย์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การถอนชื่อจากการเป็นผู้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นตามข้อ 9 ให้เข้าสู่ระบบ การเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น เพื่อยืนยันตัวตนทำรายการถอนชื่อ ข้อ 11 เมื่อองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ได้รับและรวบรวมหลักฐานการเข้าชื่อของ ผู้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น และมีผู้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยกว่า ตามที่กฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นกำห นด ให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ออกหนังสือรับรองความถูกต้อง ครบถ้วนของจำนวนผู้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นให้ผู้ประสานงาน เพื่อไปดำเนินการตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565 ต่อไป ข้อ 12 ให้ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไหรักษาการตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖ เชิด สุขใส ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห หน้า ๓ คำร้องขอให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เขียนที่................................................... วันที่............เดือน............................... พ.ศ. .................. เรื่อง ขอให้ดำเนินการจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เรียน ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล.............................. สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. ร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น............................................. จำนวน 1 ฉบับ (ถ้ามี) 2 . บันทึกหลักการและเหตุผลร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น (ถ้ามี) 3. บัญชีรายชื่อผู้ขอให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ด้วยข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ..............คน มีความประสงค์ร้องขอให้ องค์การบริหารส่วนตำบล..................ดำเนินการจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ...................... ................ โดยมีรายชื่อ ดังต่อไปนี้ ลำดับ ที่ชื่อ – ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ 1 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 2 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 3 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 4 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 5 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. ลำดับ ที่ชื่อ – ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ 6 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 7 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 8 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 9 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 10 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. ทั้งนี้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ขอมอบหมายให้................................................................ เป็นผู้ประสานงาน เพื่อประโยชน์ในการจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ................................................. (.........................................................) ผู้แทนผู้ร้องขอให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น หมายเหตุ ข้าพเจ้าในฐานะตัวแทนผู้ร้องขอให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ แจ้งวัตถุประสงค์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ ในการร้องขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ซึ่งเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมจึง ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว คำร้องขอให้เชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เขียนที่................................................... วันที่............เดือน............................... พ.ศ. .................. เรื่อง ขอให้เชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เรียน ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล...................... สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. ร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น............................................. จำนวน 1 ฉบับ 2 . บันทึกหลักการและเหตุผลร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น 3. บัญชีรายชื่อผู้เชิญชวน ด้วยข้าพเจ้าซึ่งคณะผู้เชิญชวน จำนวน..............คน มีความประสงค์ร้องขอให้องค์การบริหาร ส่วนตำบล....................... ดำเนินการเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น .................................................... โดยมีรายชื่อ ดังต่อไปนี้ ลำดับ ที่ชื่อ – ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ 1 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 2 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 3 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 4 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 5 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. ลำดับ ที่ชื่อ – ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ 6 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 7 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 8 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 9 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. 10 นาย/นาง/นางสาว ...................................... ................................ เลขประจำตัวประชาชน : ………………………………………………….. ทั้งนี้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้เชิญชวน ขอมอบหมายให้........................ ..................... ...................เป็น ผู้ประสานงาน เพื่อประโยชน์ในการจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ................................................. (.........................................................) ผู้แทนผู้ร้องขอให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น หมายเหตุ ข้าพเจ้าในฐานะตัวแทนผู้ร้องขอให้จัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ แจ้งวัตถุประสงค์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ ในการร้องขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ซึ่งเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมจึง ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว เล่ม: 140 หมวด: 208 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 30/08/2023 หน้า: 1
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:144120", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ระเบียบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ว่าด้วยการดำเนินการของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2565", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D208S0000000000100.pdf", "year": null }
nonweb_81217
กระทู้ถามที่ ๐๑๗ ร. เรื่อง การส่งเสริมอาชีพปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส ของ นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทู้ถามที่ ๐๑๗ ร. สภาผู้แทนราษฎร ๒๙ มกราคม ๒๕๕๑ เรื่อง การส่งเสริมอาชีพปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส กราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ข้าพเจ้าขอตั้งกระทู้ถาม ถามนายกรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ อำเภอบุณฑริก อำเภอนำจะหลวย อำเภอน้ำยืน อำเภอน้ำขุ่น อำเภอทุ่งศรีอุดม อำเภอสำโรง และอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี มีราษฎรอาศัยอยู่ประมาณ ๑๓๗ ,๐๐๐ หลังคาเรือน มีประชากรรวม ๔๙๑ , ๐๔๔ คน เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ชายแดนของประเทศไทย มีพื้นที่ติดกับสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวและราชอาณาจักรกัมพูชา ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีฐานะยากจน เนื่องจากมีการศึกษาน้อย การคมนาคมยากลำบาก มีรถโดยสารประจำทางผ่านเพียง วันละ ๑ เที่ยว เส้นทางคมนาคมไม่ได้รับการพัฒนา เพราะรัฐบาลมุ่งพัฒนาแต่เมืองใหญ่หรือแหล่ง ท่องเที่ยว ตลอดจนเมืองอุตสาหกรรม ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว จึงมีความยากลำบากในการดำรงชีวิต ก่อให้เกิดป้ญหาลักลอบคำยาเสพติด ป้ญหาอาชญากรรม และป้ญหาอื่น ๆ ตามมา จึงขอเรียนถามว่า ๑. รัฐบาลมีนโยบายที่จะกระจายความเจริญสู่ท้องที่ ๗ อำเภอดังกล่าวในจังหวัด อุบลราชธานีโดยการพัฒนาและส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริมอื่นนอกจากเกษตรกรรมเพื่อเพิ่มรายได้ ในครัวเรือนให้แก่ราษฎร และเป็นการแก้ป้ญหาสังคมหรือไม่อย่างไร ขอทราบรายละเอียด ๒. รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส พันธุ์เนื้อเยื่อ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่อย่างไร ขอให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง สุชาติ ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อแผ่นดิน จังหวัดอุบลราชธานี คำตอบกระทู้ถามที่ ๐๑๗ ร. ของ นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง การส่งเสริมอาชีพปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส ข้าพเจ้า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขอตอบกระทู้ถาม เรื่อง การส่งเสริมอาชีพ ปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส ของท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ ทั้ง ๒ ข้อ ดังนี้ คำตอบ ๑. อำเภอน้ำขุ่น มีการส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริมในการประมง เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช สวนครัวตามแผนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ทุกหมู่บ้านทุกตำบล ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ลดรายจ่าย นอกจากนี้อำเภอได้รับงบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ในด้าน การส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจ ดังนี้ ๑) ส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน จำนวน ๑๗๓ ไร่ ๒) ส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ดี ปี ๒๕๔๙ จำนวน ๕๗๙ ไร่ ๓) ส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลังหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว จำนวน ๔๐๐ ไร่ ๒. อำเภอเดชอุดม ๒.๑ สำนักงานเกษตรอำเภอเดชอุดม ได้นำนโยบายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวเกษตรกร โดยดำเนินการในกลุ่ม แม่บ้านเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยมีการดำเนินงาน คือ ๑) การถ่ายทอดความรู้ในกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตามความต้องการของชุมชน ด้านเคหะกิจเกษตรกร การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และการ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ โดยกลุ่มทำแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอ ๒) การสนับสนุนงบประมาณ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้จัดทำโครงการ โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่อำเภอเดชอุดม ประจำปี งบประมาณ ๒๕๕๑ เพื่อสนับสนุนกลุ่มตั้งแต่ ๒๐๐ ,๐๐๐ - ๑,๐๐๐ ,๐๐๐ บาท แล้วแต่กิจกรรม ที่ของบประมาณ ๒.๒ การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส พันธุ์เนื้อเยื่อ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้ดำเนินการ ดังนี้ ๑) ปาล์มน้ำมัน ยังไม่มีการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน เนื่องจากพื้นที่ที่มีการ ส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันจะต้องมีศักยภาพ ปาล์มน้ำมันจึงจะเจริญเติบโตและให้ผลผลิต เช่น สภาพอากาศและแหล่งน้ำ แหล่งรับซื้อ หรือโรงงาน ระยะทางจะต้องไม่เกิน ๑๒๐ กิโลเมตร เพราะว่าเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วต้องส่งโรงงานภายใน ๒๔ ชั่วโมง สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจังหวัดหนองคายจังหวัดเดียว ที่มีการจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพ ซึ่งในปีงบประมาณ ๒๕๔๙ อำเภอเดชอุดมได้รับการสนับสนุนต้นพันธุ์พันธุ์ปาล์ม น้ำมันจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๒๐๐ ราย ๆ ละ ๓ ไร่ขณะนี้อยู่ระหว่าง การทดลองปลูกในพื้นที่อำเภอเดชอุดม ๒) ยางพารา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีโครงการปลูกยางในพื้นที่แหล่งใหม่ ในปี ๒๕๔๗ - ๒๕๔๙ ซึ่งอำเภอเดชอุดมอยู่ในเป้าหมายดังกล่าว จำนวน ๒,๓๙๙ ราย ๒๑,๒๒๗ ไร่ จากเนื้อที่ ๘๕๕ ,๒๕๐ ไร่ดังนี้ (๑) พื้นที่เข้าร่วมโครงการ ๑,๘๑๘ ราย ๑๕,๗๔๓ ไร่ (๒) พื้นที่นอกโครงการ ๕๘๑ ราย ๕,๔๘๔ ไร่ ๓) มันสำปะหลัง มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ๘๐๙ ราย ๙,๑๘๒ ไร่ ในการนี้ ทางราชการได้สาธิตและถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ๔) ยูคาลิปตัสพันธุ์เนื้อเยื่อ ยังไม่มีการส่งเสริมการปลูกอย่างเป็นทางการ แต่ราษฎร บางรายที่สนใจและดำเนินการเองประมาณ ๓ - ๔ พันไร่ ๓. อำเภอสำโรง ๓.๑ พื้นที่อำเภอสำโรงได้รับงบประมาณตามโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน ตามแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (พพพ .) มีหมู่บ้านที่ได้รับอนุมัติโครงการ จำนวน ๔๒ โครงการ ๔๔ หมู่บ้าน งบประมาณที่ได้รับ ๘,๗๕๐ ,๐๐๐ บาท และได้รับงบประมาณภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์ อยู่ดีมีสุข ระดับจังหวัด ปี ๒๕๕๐ จำนวน ๒๑ หมู่บ้าน งบประมาณ ๓,๕๖๓ ,๗๔๒ บาท ซึ่งโครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่พัฒนาและส่งเสริมการเพิ่มรายได้ในครัวเรือน และเป็นการแก้ไขป้ญหาสังคม ของราษฎร เช่น โครงการจัดตั้งร้านค้าชุมชน โครงการจัดตั้งป้มน้ำมันชุมชน โครงการจัดตั้งโรงสีข้าว ชุมชน โครงการร้านค้ากองทุนสหกรณ์ชุมชน เป็นต้น ในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ได้จัดทำแผนงานโครงการเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎรในพื้นที่ด้วย ๓.๒ นโยบายส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส พันธุ์เนื้อเยื่อ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ได้มีการดำเนินการตามโครงการส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลัง ในนา (หลังเก็บเกี่ยว) ซึ่งเป็นพืชพลังงานทดแทนทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกร โดยองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ในการรับสมัครและจัดฝกอบรม ให้ความรู้และสนับสนุนท่อนพันธุ์แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอสำโรง มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน ๒๐๐ ราย พื้นที่ดำเนินการ ๔๐๐ ไร่ เป็นพื้นที่ดำเนินการ ดังนี้ ๑) ตำบลโคกก่อ เกษตรกร ๖ ราย พื้นที่ ๑๒ ไร่ ๒) ตำบลขามป้อม เกษตรกร ๑๖ ราย พื้นที่ ๓๒ ไร่ ๓) ตำบลโนนกาเล็น เกษตรกร ๓๔ ราย พื้นที่ ๖๘ ไร่ ๔) ตำบลบอน เกษตรกร ๑ ราย พื้นที่ ๒ ไร่ ๕) ตำบลสำโรง เกษตรกร ๘ ราย พื้นที่ ๑๖ ไร่ ๖) ตำบลค้อน้อย เกษตรกร ๕๗ ราย พื้นที่ ๑๑๔ ไร่ ๗) ตำบลโคกสว่าง เกษตรกร ๕๕ ราย พื้นที่ ๑๑๐ ไร่ ๘) ตำบลหนองไฮ เกษตรกร ๒๒ ราย พื้นที่ ๔๔ ไร่ ๙) ตำบลโนนกลาง เกษตรกร ๑ ราย พื้นที่ ๑ ไร่ ๔. อำเภอบุณฑริก ๔.๑ มีโครงการพัฒนาและส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริมอื่นนอกจากเกษตรกรรม เพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือนให้แก่เกษตรกร และเป็นการแก้ไขป้ญหาสังคมและความยากจนให้กับ ผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ดังนี้ ๑) กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน ๑๑๓ กองทุน ซึ่งส่วนมากหมู่บ้าน/ ชุมชน จะใช้เป็นกองทุนในการประกอบอาชีพ คือ ร้านขายของชำ ร้านขายไอศกรีม กลุ่มทอผ้า กองทุนปุย ช่างตัดผม และช่างไม้ เป็นต้น โดยได้กระจายลงในพื้นที่ ๘ ตำบล ๒) การแก้ไขป้ญหาความยากจนเพื่อการลงทุน (กขคจ .) จำนวน ๗๕ กองทุน ซึ่งส่วนมากหมู่บ้าน/ชุมชน จะใช้เป็นกองทุนในการประกอบอาชีพ คือ ร้านขายของชำ กองทุนปุย ใช้เป็นกองทุนหมุนเวียนภายในหมู่บ้าน เป็นต้น โดยได้กระจายลงในพื้นที่ ๘ ตำบล ๔.๒ การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส พันธุ์เนื้อเยื่อ ในเขตพื้นที่อำเภอบุณฑริก ครอบคลุมทุกพื้นที่/ตำบล เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร มีรายได้ เพิ่มขึ้น ดังนี้ ๑) ปาล์มน้ำมัน ๑๓๑ ครัวเรือน ๆ ละ ๑๐ ไร่รวม ๑,๓๑๐ ไร่ ๒) ยางพารา ๒๙,๖๖๒ ไร่ผลผลิตเฉลี่ย ๒๗๐ กก./ไร่ ๓) มันสำปะหลัง ๑๕,๖๘๑ ไร่ผลผลิตเฉลี่ย ๓,๗๘๕ .๗๑ กก./ไร่ ๔) ยูคาลิปตัสพันธุ์เนื้อเยื่อ ยังไม่มีการส่งเสริมการเพาะปลูก ๕. อำเภอทุ่งศรีอุดม ๕.๑ ในพื้นที่อำเภอได้มีการพัฒนาและส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริมอื่น นอกจาก การเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ โดยจัดทำโครงการสนับสนุนเครื่องมือการผลิตน้ำพริกปลาร้า (ผลิตภัณฑ์ สินค้าชุมชนหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์) โครงการส่งเสริมอาชีพเครื่องจักรสาน โครงการผลิตกระถาง จากยางรถยนต์ โครงการจัดทำปุยผลิตอินทรีย์ชีวภาพ โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโค ๕.๒ การส่งเสริมการปลูกพืช ในปี ๒๕๕๐ ได้แจกจ่ายพันธุ์มันสำปะหลังให้แก่ เกษตรกรในพื้นที่จำนวน ๒๕๖ ราย ๆ ละ ๒ ไร่รวมเป็น ๕๑๒ ไร่ ๖. อำเภอน้ำยืน ๖.๑ การพัฒนาและส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริมอื่นนอกจากเกษตรกรรม เพื่อเพิ่ม รายได้ในครัวเรือนให้แก่เกษตรกรได้ดำเนินการ ดังนี้ ๑) สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต ตามแนว เศรษฐกิจพอเพียง โดยแผนชุมชนทุกหมู่บ้าน (๑๐๑ หมู่บ้าน) ๒) สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการออมทรัพย์ เพื่อพัฒนาชีวิตและ คุณธรรม ๓) สนับสนุนเงินทุนกู้ยืมประกอบอาชีพและแก้ไขป้ญหาด้านเงินทุน (กองทุน ๑ ล้านบาท) รวม ๙๔ หมู่บ้าน ๖.๒ การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส พันธุ์เนื้อเยื่อ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ดังนี้ ๑) ปาล์มน้ำมัน ได้ส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันเมื่อปี ๒๕๔๙ จำนวน ๑,๐๐๐ ไร่ โดยได้รับสนับสนุนพันธุ์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๒๒,๐๐๐ ต้น ปลูกใน พื้นที่ทุกตำบล ๒) ยางพารา ได้รับการส่งเสริมจากองค์การสงเคราะห์สวนยาง ตามโครงการ ส่งเสริมการปลูกยาง เพื่อกระจายรายได้ในพื้นที่ปลูกยางพาราใหม่ ในปี ๒๕๔๘ - ๒๕๕๐ ทั่วประเทศ ๑ ล้านไร่ ๓) มันสำปะหลัง ได้รับการส่งเสริมจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับการสนับสนุนท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๐ จำนวน ๙๐๐ ไร่ และได้รับการ สนับสนุนพันธุ์มันสำปะหลังโครงการปลูกมันสำปะหลัง จำนวน ๒๐๐ ไร่ ๔) ยูคาลิปตัส ยังไม่มีการส่งเสริมการเพาะปลูก ๗. อำเภอนำจะหลวย ๗.๑ ด้านการส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวเกษตรกร โดยดำเนินการในกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้มีการดำเนินงาน ดังนี้ ๑) กลุ่มทอผ้าบ้านหลักเมือง หมู่ ๘ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๑๕ คน ๒) กลุ่มทำน้ำพริกปูขน บ้านหลักเมือง หมู่ ๘ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๑๕ คน ๓) กลุ่มทำน้ำหมากจาก บ้านแก้งเรือน หมู่ ๓ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๒๕ คน ๔) กลุ่มทอผ้าบ้านโสกแสง หมู่ ๙ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๕) กลุ่มทอผ้าบ้านป๋าก้าว หมู่ ๔ ตำบลโนนสมบูรณ์ มีสมาชิก ๑๕ คน ๖) กลุ่มทำดอกไม้จันทร์ บ้านป๋าก้าว หมู่ ๘ ตำบลโนนสมบูรณ์ มีสมาชิก ๑๕ คน ๗) กลุ่มทำดอกไม้จันทร์ บ้านห้วยซันใต้หมู่ ๑๒ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๒๐ คน ๘) กลุ่มทอเสื่อ บ้านห้วยซันใต้หมู่ ๑๒ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๒๐ คน ๙) กลุ่มแปรรูปจากเศษไม้บ้านโนนสว่าง หมู่ ๗ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๐) กลุ่มทำตะกร้าด้วยพลาสติก บ้านนาจะหลวย หมู่ ๑ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๒๐ คน ๑๑) กลุ่มทอผ้าห่มไหมพรม บ้านศรีพรม หมู่ ๑๐ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๒) กลุ่มทอผ้าไหมพรม บ้านโสกแสง หมู่ ๙ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๓) กลุ่มทอผ้าไหมพรม บ้านหลักเมือง หมู่ ๘ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๔) กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง บ้านนาจะหลวย หมู่ ๔ ตำบลนาโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๕) กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง บ้านคำม่วง หมู่ ๔ อ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๖) กลุ่มทำข้าวเกรียบว่าว บ้านโสกแสง หมู่ ๙ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๒๐ คน ๑๗) กลุ่มทำน้ำยาล้างจาน /ยาสระผม บ้านโสกแสง หมู่ ๑ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๑๘) กลุ่มจักรสานบ้านหลักเมือง หมู่ ๘ ตำบลนาจะหลวย มีสมาชิก ๒๐ คน ๑๙) กลุ่มทอเสื่อด้วยต้นกก บ้านดอนชัยชนะ หมู่ ๖ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๒๐ คน ๒๐) กลุ่มจักรสานบ้านโสกแสง หมู่ ๙ ตำบลโสกแสง มีสมาชิก ๑๕ คน ๒๑) กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง บ้านดงสว่าง หมู่ ๔ ตำบลโนนสมบูรณ์ มีสมาชิก ๑๕ คน ๗.๒ การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส พันธุ์เนื้อเยื่อ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ดังนี้ ๑) ปาล์มน้ำมัน จำนวน ๗๙ ไร่ ๒) ปลูกยางพารา จำนวน ๔,๕๙๐ ไร่ ๓) ปลูกมันสำปะหลัง จำนวน ๔๐๐ ไร่ นอกจากนี้ยังได้มีการส่งเสริมอาชีพในพื้นที่ ๗ อำเภอ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัด อุบลราชธานี ดังนี้ - พัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ ๑ - ๓ ดาว ด้านการผลิต การตลาด และการขอ มาตรฐาน มผช./อย. จำนวน ๑๙ กลุ่ม งบประมาณ ๙๐,๐๐๐ บาท - ฝกอบรมด้านธุรกิจและจัดทำแผนธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน ๔๔ กลุ่ม งบประมาณ ๓๒๑ ,๗๒๘ บาท - สนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ ศูนย์เรียนรู้ชุมชน เพื่อการขยายผลหมู่บ้านเศรษฐกิจ พอเพียง จำนวน ๑๔ หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ ๑,๖๘๐ ,๐๐๐ บาท - จัดทำโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเข้าสู่แหล่งทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน ให้มีความพร้อมด้านการบริหารจัดการเชิงธุรกิจ และเปิดโอกาสเข้าสู่แหล่งทุน โดยการกู้ยืมจาก ธนาคารออมสินไม่เกิน ๕๐๐ ,๐๐๐ บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน ๕ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๖ ต่อปี โครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๐ ถึงปี ๒๕๕๒ รวมระยะเวลา ๓ ปี ซึ่งในปี ๒๕๕๐ จังหวัดอุบลราชธานีได้มีกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรที่จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วม โครงการ จำนวน ๒ กลุ่ม รวมเงินกู้ ๘๐๐ ,๐๐๐ บาท เล่ม: ๑๒๕ หมวด: ๑๓๘ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หน้า: ๑๐๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:81218", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "กระทู้ถามที่ ๐๑๗ ร. เรื่อง การส่งเสริมอาชีพปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส ของ นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/E/138/102.PDF", "year": null }
nonweb_106007
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เรื่อง การขอจดทะเบียนการแต่งตั้งการเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิบวิคไทย ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดนนทบุรี เรื่อง การขอจดทะเบียนการแต่งตั้งการเปลี่ยนแปลงกรรมการของ “มูลนิธิบวิคไทย” ด้วย นายสุพนจ์ สนสุวรรณ์ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิบวิคไทย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ณ เลขที่ ๔๘๙ ถนนบอนด์สตรีท ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ ๑๑๑๒๐ โทรศัพท์ ๐๒ ๙๖๐ ๒๓๐๐ -๑๐ ดังนี้ ๑. นายกนกพัฒน์ ชาญไววิทย์ กรรมการ ๒. นายขัตติย รังสีปัญญา กรรมการ นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี ได้อนุญาตให้จดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิรายนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๕ บรรพ ๑ บทเบ็ดเสร็จทั่วไป ส่วนที่ ๓ มูลนิธิ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ อดิเทพ กมลเวชช์ ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๕๕ ง ประกาศ ณ: ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๒๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:106008", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดนนทบุรี เรื่อง การขอจดทะเบียนการแต่งตั้งการเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิบวิคไทย", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/D/055/T_0121.PDF", "year": null }
nonweb_92104
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๘๕/๒๕๕๘ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๘๕/๒๕๕๘ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ สมบุญ โมจนกุล ผู้อำนวยการกองบริการจดทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน 1ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 1. บริษัท มาร์วันดารุสสลามทราเวิลแอนด์คาร์โก้เซอร์วิส จำกัด 0955543000105 24 มี.ค. 58 ยะลา 2. บริษัท เมืองสมุทรสำรวจและบริการ จำกัด 0115547003491 2 มี.ค. 58สมุทรปราการ 3. บริษัท แองเจิลส์ วอเตอร์ จำกัด 0105555054458 3 มี.ค. 58สมุทรปราการ 4. บริษัท พระประแดงคอนกรีต จำกัด 0115521000061 3 มี.ค. 58สมุทรปราการ 5. บริษัท สหกิจมงคล ก่อสร้าง จำกัด 0115546008414 3 มี.ค. 58สมุทรปราการ 6. บริษัท วิริน พร็อพเพอร์ตี้จำกัด 0115553009838 3 มี.ค. 58สมุทรปราการ 7. บริษัท เอ็กซตร้าเพ้นท์ อินดัสตรี้จำกัด 0115556015014 5 มี.ค. 58สมุทรปราการ 8. บริษัท โกลบอล แกเลคซี่จำกัด 0115556019281 5 มี.ค. 58สมุทรปราการ 9. บริษัท อีสกรีน วิจัยและพัฒนาการเกษตรพลังงาน จำกัด 0115554012506 6 มี.ค. 58สมุทรปราการ 10. บริษัท เจ้อเกาเฉียงลี่ (ไทยแลนด์) จำกัด 0115554015319 6 มี.ค. 58สมุทรปราการ 11. บริษัท ที แอนด์ ที ไทคูณ อินดัสตรี้จำกัด 0125534001479 6 มี.ค. 58สมุทรปราการ 12. บริษัท ผลอินทร์ อินเตอร์เทรด จำกัด 0115554012468 9 มี.ค. 58สมุทรปราการ 13. บริษัท สุทธิวัชร์ คอสมิกซ์ จำกัด 0105555152638 10 มี.ค. 58สมุทรปราการรายละเอียดการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป . 85/2558 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2558 2ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 14. บริษัท บางปูคาราโอเกะ จำกัด 0115544005299 10 มี.ค. 58สมุทรปราการ 15. บริษัท เบสต์ สตีล อินเตอร์ เทรดดิ้ง จำกัด 0115553011271 10 มี.ค. 58สมุทรปราการ 16. บริษัท ซี เอ็น อิมเมจ จำกัด 0115554001229 10 มี.ค. 58สมุทรปราการ 17. บริษัท ไทย อีแมกส์ จำกัด 0115555011414 11 มี.ค. 58สมุทรปราการ 18. บริษัท เอสพีเทคนิคเชียน จำกัด 0115535004510 13 มี.ค. 58สมุทรปราการ 19. บริษัท ที .เอช.เอ.(2463) จำกัด 0115537000732 16 มี.ค. 58สมุทรปราการ 20. บริษัท บัญญัติ แฟบริเคชั่น จำกัด 0115553009871 16 มี.ค. 58สมุทรปราการ 21. บริษัท อุดมกฤต จำกัด 0115535000492 17 มี.ค. 58สมุทรปราการ 22. บริษัท ศิริบูรณ์การทอ จำกัด 0115535004234 17 มี.ค. 58สมุทรปราการ 23. บริษัท เอมิลี่อินดัสทรีส์ จำกัด 0115555012445 17 มี.ค. 58สมุทรปราการ 24. บริษัท เค .ดี.จี. เอ็ดดูเคชั่น จำกัด 0115553010445 18 มี.ค. 58สมุทรปราการ 25. บริษัท ยูดีไอดีจำกัด 0115555003101 18 มี.ค. 58สมุทรปราการ 26. บริษัท ออริจิน แมทเทอร์ จำกัด 0115555011341 23 มี.ค. 58สมุทรปราการ 27. บริษัท เคแอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด 0115555005015 24 มี.ค. 58สมุทรปราการ 28. บริษัท วี .แพค แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด 0115551003042 25 มี.ค. 58สมุทรปราการ 3ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 29. บริษัท บลูทีม แอนด์ บิวด์ จำกัด 0115555004264 25 มี.ค. 58สมุทรปราการ 30. บริษัท ดับบลิว .พี. อีเลคทริค เพาเวอร์ จำกัด 0115556013500 25 มี.ค. 58สมุทรปราการ 31. บริษัท มายทอยส์ จำกัด 0115556012287 26 มี.ค. 58สมุทรปราการ 32. บริษัท ศรีคเณทรัพย์ จำกัด 0115556018498 26 มี.ค. 58สมุทรปราการ 33. บริษัท พีจีสตีล เวิร์ค จำกัด 0115557006221 26 มี.ค. 58สมุทรปราการ 34. บริษัท เอ็น แอนด์ ดับบลิว โปรดักส์ จำกัด 0115551003239 27 มี.ค. 58สมุทรปราการ 35. บริษัท เอ็กซ์เซลเลนท์ สมาร์ท จำกัด 0125555006836 2 มี.ค. 58 นนทบุรี 36. บริษัท วีอาร์โซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด 0125556026253 2 มี.ค. 58 นนทบุรี 37. บริษัท เกษตรทิพย์ อินเตอร์เทรด จำกัด 0125557022243 2 มี.ค. 58 นนทบุรี 38. บริษัท สำนักกฎหมาย นวกิจเที่ยงธรรม จำกัด 0125541003864 5 มี.ค. 58 นนทบุรี 39. บริษัท กู๊ด เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 0125556002214 5 มี.ค. 58 นนทบุรี 40. บริษัท ภีมยุตม์ จำกัด 0105546010486 9 มี.ค. 58 นนทบุรี 41. บริษัท วันเวย์ กรุ๊ป จำกัด 0125556005612 9 มี.ค. 58 นนทบุรี 42. บริษัท สามหมอก (ประเทศไทย) จำกัด 0125556025796 9 มี.ค. 58 นนทบุรี 43. บริษัท เคพี ไทย อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด 0125555013778 10 มี.ค. 58 นนทบุรี 4ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 44. บริษัท ไทยสกินแคร์ จำกัด 0125557000444 10 มี.ค. 58 นนทบุรี 45. บริษัท พี .เจ.แอล ครีเอท แอนด์ ดีไซน์ จำกัด 0125556012139 11 มี.ค. 58 นนทบุรี 46. บริษัท คูโบต้านนทบุรีจำกัด 0465552000036 13 มี.ค. 58 นนทบุรี 47. บริษัท แอปสแต็ก จำกัด 0105555087224 16 มี.ค. 58 นนทบุรี 48. บริษัท ริโค ไลท์ติ้ง แอนด์ โฮม เดคคอเรชั่น จำกัด 0125549007290 16 มี.ค. 58 นนทบุรี 49. บริษัท สยาม เคบับ แอนด์ อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด 0125555019873 16 มี.ค. 58 นนทบุรี 50. บริษัท วินสืบ เซอร์วิส ฟูดส์ จำกัด 0125554013391 17 มี.ค. 58 นนทบุรี 51. บริษัท ไทยชิปปิ้ง อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด 0125555011830 17 มี.ค. 58 นนทบุรี 52. บริษัท คชเทพ อินเตอร์ จำกัด 0125556005361 17 มี.ค. 58 นนทบุรี 53. บริษัท ดีเซนโต้ แมนชั่น จำกัด 0125557002714 17 มี.ค. 58 นนทบุรี 54. บริษัท เอ พลัส บางกอก จำกัด 0105554103838 18 มี.ค. 58 นนทบุรี 55. บริษัท ปทุมแก๊ส แอนด์ ออยล์ จำกัด 0125550041722 18 มี.ค. 58 นนทบุรี 56. บริษัท พิริยกานด์ 65 จำกัด 0125553011981 18 มี.ค. 58 นนทบุรี 57. บริษัท ลัคกี้เวิลด์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด 0125546002009 19 มี.ค. 58 นนทบุรี 58. บริษัท แอ๊ปเปิ้ล ออโต้โมทีฟ จำกัด 0105543005147 20 มี.ค. 58 นนทบุรี 5ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 59. บริษัท จุฑาธิบดิ์ กิจไพศาล จำกัด 0125552009010 20 มี.ค. 58 นนทบุรี 60. บริษัท สมสุข เซอร์วิส จำกัด 0125556027403 23 มี.ค. 58 นนทบุรี 61. บริษัท พีทรีคอนซัลติ้ง เซอร์วิสเซส จำกัด 0125557020828 23 มี.ค. 58 นนทบุรี 62. บริษัท อาร์ .พี.เอส.รีเสิร์ช มีเดีย จำกัด 0125538000817 24 มี.ค. 58 นนทบุรี 63. บริษัท ไบเสิร์ช (ไทยแลนด์) จำกัด 0125551000400 24 มี.ค. 58 นนทบุรี 64. บริษัท สนศิริจำกัด 0125552016814 24 มี.ค. 58 นนทบุรี 65. บริษัท ทรัพย์เวชสุวรรณ จำกัด 0125551006301 26 มี.ค. 58 นนทบุรี 66. บริษัท ดี - ซัคเซส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 0125553007053 26 มี.ค. 58 นนทบุรี 67. บริษัท ธนทวีคูณ จำกัด 0105552065971 27 มี.ค. 58 นนทบุรี 68. บริษัท ออส ลิ้งค์ จำกัด 0125544002354 27 มี.ค. 58 นนทบุรี 69. บริษัท ครุฑา แอนด์ นาคราช วิศวกรรม จำกัด 0735553001530 27 มี.ค. 58 นนทบุรี 70. บริษัท เค .เอ็ม.แอนด์ ซัน จำกัด 0105532014310 31 มี.ค. 58 นนทบุรี 71. บริษัท เมคโอเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด 0125556016312 31 มี.ค. 58 นนทบุรี 72. บริษัท เคดี เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 0135556014859 2 มี.ค. 58 ปทุมธานี 73. บริษัท เจทีเอ็ม เทคโนโลยีจำกัด 0135553000377 3 มี.ค. 58 ปทุมธานี 6ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 74. บริษัท อาร์พีพีอินเตอร์ เทรด จำกัด 0135553010496 3 มี.ค. 58 ปทุมธานี 75. บริษัท โปรวอเตอร์ อินดัสทรีจำกัด 0135555015029 3 มี.ค. 58 ปทุมธานี 76. บริษัท มีเดีย มิราเคิล จำกัด 0135553005093 6 มี.ค. 58 ปทุมธานี 77. บริษัท รังสิตศูนย์เครื่องเขียน (1992) จำกัด 0135535000441 9 มี.ค. 58 ปทุมธานี 78. บริษัท ดีจริง ถ้วยกระดาษไทย จำกัด 0135546002131 9 มี.ค. 58 ปทุมธานี 79. บริษัท เอ็นยูเอส ซัพพลาย จำกัด 0135557000754 10 มี.ค. 58 ปทุมธานี 80. บริษัท ทีเอ็มที เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 0105538149543 13 มี.ค. 58 ปทุมธานี 81. บริษัท เดอะ โปรบิลเดอร์ จำกัด 0135556016860 13 มี.ค. 58 ปทุมธานี 82. บริษัท โกลเด้น เทคไทย จำกัด 0105548024867 16 มี.ค. 58 ปทุมธานี 83. บริษัท แอคชีฟคอสเมต จำกัด 0105551019534 16 มี.ค. 58 ปทุมธานี 84. บริษัท พีทูเอช เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 0135556010691 17 มี.ค. 58 ปทุมธานี 85. บริษัท พี เค เกษตรมั่งคั่ง จำกัด 0135557010156 18 มี.ค. 58 ปทุมธานี 86. บริษัท วี .เอส.โฟน จำกัด 0135555004213 20 มี.ค. 58 ปทุมธานี 87. บริษัท กรีนกรีนเวย์ จำกัด 0105554005828 24 มี.ค. 58 ปทุมธานี 88. บริษัท บูม อิน เอ็ดดูเคท สเปเชียลลิสท์ จำกัด 0135554014525 24 มี.ค. 58 ปทุมธานี 7ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 89. บริษัท มุกมรกต จำกัด 0135549000104 25 มี.ค. 58 ปทุมธานี 90. บริษัท เอส.ที.โพลีแพค จำกัด 0135553014939 25 มี.ค. 58 ปทุมธานี 91. บริษัท เจอร์นี่อินเตอร์เทค จำกัด 0135555006313 25 มี.ค. 58 ปทุมธานี 92. บริษัท เอ็นที โซลูชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด 0135556021227 25 มี.ค. 58 ปทุมธานี 93. บริษัท สตาร์ มีท จำกัด 0135550036630 26 มี.ค. 58 ปทุมธานี 94. บริษัท วีอาร์จีซัพพลาย จำกัด 0135555010817 27 มี.ค. 58 ปทุมธานี 95. บริษัท แฟคซิลิตี้ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส จำกัด 0135555014847 31 มี.ค. 58 ปทุมธานี 96. บริษัท ไท เบนซ์เทค จำกัด 0145552000608 6 มี.ค. 58พระนครศรีอยุธยา 97. บริษัท ทรัพย์โสภณ ปิโตรเลี่ยม จำกัด 0145553000695 12 มี.ค. 58พระนครศรีอยุธยา 98. บริษัท แปซิฟิค ซี โฮลดิ้ง จำกัด 0145555000587 20 มี.ค. 58พระนครศรีอยุธยา 99. บริษัท เอฟ เอ สยาม อินเตอร์เทรด จำกัด 0105548046356 25 มี.ค. 58 ลพบุรี 100. บริษัท กิ่งพิกุล ปิโตรเลียม จำกัด 0195552001027 2 มี.ค. 58 สระบุรี 101. บริษัท บีทีพัฒนาการ จำกัด 0195556001269 2 มี.ค. 58 สระบุรี 102. บริษัท เต็กย้ง เพิ่มพูน จำกัด 0205555003763 2 มี.ค. 58 ชลบุรี 103. บริษัท เซเว่น ซีส์ ออโตโมทีฟ จำกัด 0205555020650 2 มี.ค. 58 ชลบุรี 8ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 104. บริษัท เอเอเอ โชคุฮิน จำกัด 0205555037561 2 มี.ค. 58 ชลบุรี 105. บริษัท เกรท เลค รานเดซวู จำกัด 0205556010895 2 มี.ค. 58 ชลบุรี 106. บริษัท ทรีบ้า คอนสตรัคชั่น จำกัด 0205551001359 3 มี.ค. 58 ชลบุรี 107. บริษัท มากายลีจำกัด 0835549006246 3 มี.ค. 58 ชลบุรี 108. บริษัท ไฮเวย์ เทอร์มินอล จำกัด 0105540033395 5 มี.ค. 58 ชลบุรี 109. บริษัท ยูโรเปี้ยน บิวตี้วิลล์ จำกัด 0205551007829 5 มี.ค. 58 ชลบุรี 110. บริษัท บ้านบุญกังวาน จำกัด 0205554016861 5 มี.ค. 58 ชลบุรี 111. บริษัท อาลโกรัธ จำกัด 0205557009416 5 มี.ค. 58 ชลบุรี 112. บริษัท พร้อมทรัพย์ ริชชี่จำกัด 0205557026892 5 มี.ค. 58 ชลบุรี 113. บริษัท วอเทอร์ สปอร์ต จำกัด 0205554021989 6 มี.ค. 58 ชลบุรี 114. บริษัท เอ .พี.เอส. รีไซเคิล อินเตอร์ เทรดดิ้ง จำกัด 0205556013151 6 มี.ค. 58 ชลบุรี 115. บริษัท เฟิร์สท์ บิสสิเนส พัทยา จำกัด 0205551006326 9 มี.ค. 58 ชลบุรี 116. บริษัท เอสเอส สแคร็พ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 0205551019835 9 มี.ค. 58 ชลบุรี 117. บริษัท ค้ำชู เทรดดิ้ง จำกัด 0205555017021 9 มี.ค. 58 ชลบุรี 118. บริษัท วาย . เอ็ม. พี. เทรดดิ้ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 0205547006082 10 มี.ค. 58 ชลบุรี 9ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 119. บริษัท อมาซอน -ทราเวล จำกัด 0205552022511 11 มี.ค. 58 ชลบุรี 120. บริษัท เอ็ม .โอ.ซี. จำกัด 0205554004791 11 มี.ค. 58 ชลบุรี 121. บริษัท ซิกโนรีนีจำกัด 0205554030139 11 มี.ค. 58 ชลบุรี 122. บริษัท แคนโซลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด 0205556008475 11 มี.ค. 58 ชลบุรี 123. บริษัท ชัตเตอร์ ห้าสิบ จำกัด 0205556028832 11 มี.ค. 58 ชลบุรี 124. บริษัท ลูกาโมเรีย จำกัด 0205556039851 11 มี.ค. 58 ชลบุรี 125. บริษัท อาร์ เอ พี เอ็กซ์พอร์ต จำกัด 0205557038106 12 มี.ค. 58 ชลบุรี 126. บริษัท สุรดาไพศาล จำกัด 0205555021702 13 มี.ค. 58 ชลบุรี 127. บริษัท ปีเตอร์ เจ แฮรรีจำกัด 0205548031323 16 มี.ค. 58 ชลบุรี 128. บริษัท บูรพาพลัส จำกัด 0205551024880 16 มี.ค. 58 ชลบุรี 129. บริษัท จิรพรรณ พร๊อพเพอร์ตี้จำกัด 0205549017014 17 มี.ค. 58 ชลบุรี 130. บริษัท เอล เดสซิน จำกัด 0205550015950 17 มี.ค. 58 ชลบุรี 131. บริษัท ดรีมทีมทัวร์ จำกัด 0205556008939 17 มี.ค. 58 ชลบุรี 132. บริษัท จีรัง ซัพพลาย จำกัด 0205552009965 18 มี.ค. 58 ชลบุรี 133. บริษัท อเล็กซ์ สตรอย จำกัด 0205557003698 18 มี.ค. 58 ชลบุรี 10ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 134. บริษัท แมทริกซ์ โกลบอล โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด 0105547006784 19 มี.ค. 58 ชลบุรี 135. บริษัท เสรีชัยพัฒนา บอดี้ทรัค 2004 จำกัด 0205556023318 19 มี.ค. 58 ชลบุรี 136. บริษัท ชุน หัว อินเตอร์เนชั่นแนล เทรด จำกัด 0115544004900 20 มี.ค. 58 ชลบุรี 137. บริษัท ทรีท๊อปส์ จำกัด 0205544010160 20 มี.ค. 58 ชลบุรี 138. บริษัท อีเด็น พลัส จำกัด 0205552007172 20 มี.ค. 58 ชลบุรี 139. บริษัท เอสบี แอนด์ ซี แลนด์ จำกัด 0205553001054 23 มี.ค. 58 ชลบุรี 140. บริษัท อาร์ที .คลีนนิ่ง ไฟเบอร์ โปรดักส์ จำกัด 0115543005082 24 มี.ค. 58 ชลบุรี 141. บริษัท เอ็ม ดับเบิ้ลยู ชไนเดอร์ จำกัด 0205546014367 24 มี.ค. 58 ชลบุรี 142. บริษัท เอเออี เซอร์วิส จำกัด 0205555034472 24 มี.ค. 58 ชลบุรี 143. บริษัท กินอิ่มนอนอุ่น จำกัด 0105545061591 25 มี.ค. 58 ชลบุรี 144. บริษัท คีพทูเก็ตเธอร์ จำกัด 0205548003397 25 มี.ค. 58 ชลบุรี 145. บริษัท อควา ริช จำกัด 0205549026994 25 มี.ค. 58 ชลบุรี 146. บริษัท อิริดา จำกัด 0205553012579 25 มี.ค. 58 ชลบุรี 147. บริษัท ยิ้มสยาม เทรดดิ้ง จำกัด 0205557002314 25 มี.ค. 58 ชลบุรี 148. บริษัท เออาร์วี เอ็นจิเนียริ่ง ซัพพอร์ท เซอร์วิสเซส จำกัด 0205549002653 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 11ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 149. บริษัท 289 บิวเดอร์ จำกัด 0205555022130 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 150. บริษัท เดลฟีน ทัวร์ จำกัด 0205555024728 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 151. บริษัท คาร์ส (เอเชีย) จำกัด 0205555035428 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 152. บริษัท อินกรุ๊ป ทรานสปอร์ต จำกัด 0205556005735 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 153. บริษัท จีบ๊อบ เอเชีย จำกัด 0205556010356 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 154. บริษัท เจ แอนด์ เจ อีสเทิร์น จำกัด 0205557021297 26 มี.ค. 58 ชลบุรี 155. บริษัท ชลบุรีเรืองทองธุรกิจ จำกัด 0205537000171 27 มี.ค. 58 ชลบุรี 156. บริษัท นานัก-โกบินด์ พร็อพเพอร์ตี้จำกัด 0205549023545 27 มี.ค. 58 ชลบุรี 157. บริษัท คอนดอร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด 0205550011687 27 มี.ค. 58 ชลบุรี 158. บริษัท พัทยา ซุปเปอร์ ไบค์ (ไทยแลนด์) จำกัด 0205553011912 27 มี.ค. 58 ชลบุรี 159. บริษัท จิราภรณ์ คอนเทนเนอร์ จำกัด 0205557007316 27 มี.ค. 58 ชลบุรี 160. บริษัท ซี.ที.ซี. พลาสติค จำกัด 0205536002838 30 มี.ค. 58 ชลบุรี 161. บริษัท ก้องไพศาล เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จำกัด 0205555011537 30 มี.ค. 58 ชลบุรี 162. บริษัท ซิกซ์ซิซ แอดแอนด์อาร์ต จำกัด 0205555038397 30 มี.ค. 58 ชลบุรี 163. บริษัท แม็กซ์ อินเตอร์ เน็ตเวิร์ค พัทยา จำกัด 0205557005721 30 มี.ค. 58 ชลบุรี 12ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 164. บริษัท แพชเชียร์ เทอโป เอเซีย จำกัด 0215549003081 3 มี.ค. 58 ระยอง 165. บริษัท เอ เอ็ม ไอ เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จำกัด 0215555002902 9 มี.ค. 58 ระยอง 166. บริษัท เอ็มเจ พร็อพเพอร์ตี้ (2014) จำกัด 0215557003191 13 มี.ค. 58 ระยอง 167. บริษัท เอสพี เอ็นจอยโปร 2004 จำกัด 0215557000966 16 มี.ค. 58 ระยอง 168. บริษัท เอสเอสเค คอนสตรัคชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 0215551000859 25 มี.ค. 58 ระยอง 169. บริษัท พี .เอ็ม.วาย. จำกัด 0215525000031 26 มี.ค. 58 ระยอง 170. บริษัท เอ็มซีโอ คอนซัลท์ แอนด์ คอนสทรัคชั่น จำกัด 0215551000930 26 มี.ค. 58 ระยอง 171. บริษัท ไทย ไบโอเพลเล็ท จำกัด 0215557004228 27 มี.ค. 58 ระยอง 172. บริษัท เกรซ มาร์เกตติ้ง จำกัด 0225548000126 3 มี.ค. 58 จันทบุรี 173. บริษัท เฮ้ลท์ตี้โฮมจันทบุรีจำกัด 0225556001021 11 มี.ค. 58 จันทบุรี 174. บริษัท เอสซีที เมดิคัลแลบ จำกัด 0235554000167 18 มี.ค. 58 ตราด 175. บริษัท ซี 123 ออยล์ จำกัด 0245545001024 2 มี.ค. 58 ฉะเชิงเทรา 176. บริษัท วรเศรษฐ์ วิศวกรรม จำกัด 0245540000861 16 มี.ค. 58 ฉะเชิงเทรา 177. บริษัท ดับเบิ้ลยู เค อิเล็กทริค แมชชีน เซอร์วิส จำกัด 0245555002066 26 มี.ค. 58 ฉะเชิงเทรา 178. บริษัท ถ .เจริญกบินทร์บุรีออโตเซลล์ จำกัด 0255551000484 5 มี.ค. 58 ปราจีนบุรี 13ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 179. บริษัท ไทยแมนิออค เทรดดิ้ง จำกัด 0255552000500 10 มี.ค. 58 ปราจีนบุรี 180. บริษัท แพนเอเชียแปซิฟิค จำกัด 0255546000111 13 มี.ค. 58 ปราจีนบุรี 181. บริษัท วีแคร์ พรีเมียร์ พลัส จำกัด 0265552000071 11 มี.ค. 58 นครนายก 182. บริษัท สหบูรพา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 0275557000672 2 มี.ค. 58 สระแก้ว 183. บริษัท เอแอนด์เอส เฟอร์นิเจอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด 0275554000183 10 มี.ค. 58 สระแก้ว 184. บริษัท สินธานีดีวิลลอปเม้นท์ จำกัด 0305535000865 5 มี.ค. 58 นครราชสีมา 185. บริษัท อายง จำกัด 0305552001602 9 มี.ค. 58 นครราชสีมา 186. บริษัท พัฒน อุตสาหกรรม จำกัด 0305554002720 18 มี.ค. 58นครราชสีมา 187. บริษัท ราชสีมา ศรีวิไลย์ ซีลีกำ (2555) จำกัด 0305555004599 19 มี.ค. 58นครราชสีมา 188. บริษัท ทรีนาเมย่า 1 จำกัด 0305556004410 19 มี.ค. 58นครราชสีมา 189. บริษัท โรงสี 505 คำข้าว จำกัด 0305544001127 23 มี.ค. 58นครราชสีมา 190. บริษัท วี .ไอ.พีกรุ๊ป บิสซิเนส คอนซัลแทนท์ จำกัด 0305554001219 23 มี.ค. 58นครราชสีมา 191. บริษัท จรินทร์ มาลี โฮลดิ้ง จำกัด 0305547000890 27 มี.ค. 58นครราชสีมา 192. บริษัท อมรซัพพลายแอนด์เซอร์วิส จำกัด 0305553001151 27 มี.ค. 58นครราชสีมา 193. บริษัท อีสานประเมินมาตรฐานการศึกษา จำกัด 0305556001216 27 มี.ค. 58นครราชสีมา 14ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 194. บริษัท สาธุ ดัง ดัง จำกัด 0305557002267 27 มี.ค. 58นครราชสีมา 195. บริษัท เดอะ ซิริซิน แอนด์ ไฟโบรอิน จำกัด 0305548002098 30 มี.ค. 58นครราชสีมา 196. บริษัท แวลู แอด ครีเอเตอร์ จำกัด 0315554000158 23 มี.ค. 58 บุรีรัมย์ 197. บริษัท ทิพานัน เอ็นเตอร์ไพร้ซ์ จำกัด 0305557001201 26 มี.ค. 58 สุรินทร์ 198. บริษัท สุรินทร์ ซี .ที. จำกัด 0325535000181 31 มี.ค. 58 สุรินทร์ 199. บริษัท ไทยยนต์อุบล จำกัด 0345538000335 18 มี.ค. 58อุบลราชธานี 200. บริษัท ไฮเทค แล็บ เซ็นเตอร์ จำกัด 0345553000294 18 มี.ค. 58อุบลราชธานี 201. บริษัท มีอา อินเตอร์เทรด จำกัด 0365548000249 2 มี.ค. 58 ชัยภูมิ 202. บริษัท เอื้อศิลป์ อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด 0365555000551 9 มี.ค. 58 ชัยภูมิ 203. บริษัท เอกวุฒิฟาร์ม จำกัด 0365550000064 23 มี.ค. 58 ชัยภูมิ 204. บริษัท เอ็มไพร์ ก๊าซ จำกัด 0365552000134 23 มี.ค. 58 ชัยภูมิ 205. บริษัท เจ .ที.แอล พาวเวอร์วิศวกรรม จำกัด 0395556000201 13 มี.ค. 58หนองบัวลำภู 206. บริษัท ชัยเจริญค้าส่ง จำกัด 0405555000274 2 มี.ค. 58 ขอนแก่น 207. บริษัท ทีซีเอส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 0405555001939 3 มี.ค. 58 ขอนแก่น 208. บริษัท ซี เอช จีคอนสตรัคชั่น จำกัด 0405553000986 5 มี.ค. 58 ขอนแก่น 15ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 209. บริษัท แอทรอบท์ ครีเอชัน จำกัด 0405556002467 6 มี.ค. 58 ขอนแก่น 210. บริษัท ไวส์ อินเตอร์เนชั่นแนล โซลูชั่นส์ ฟอร์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด 0405556001231 9 มี.ค. 58 ขอนแก่น 211. บริษัท ทราคูล ไอทีโซลูชั่น จำกัด 0405556002530 26 มี.ค. 58 ขอนแก่น 212. บริษัท ฟอยเรอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 0415557001316 13 มี.ค. 58 อุดรธานี 213. บริษัท เจริญศรีคอมเพล็กซ์ จำกัด 0415526000181 17 มี.ค. 58 อุดรธานี 214. บริษัท เค ชิปปิ้ง จำกัด 0415555001441 24 มี.ค. 58 อุดรธานี 215. บริษัท แอดไวซ์ อุดร จำกัด 0415556000111 24 มี.ค. 58 อุดรธานี 216. บริษัท พิคโคล่า โรม่า อันเดร พาสต้า เฟรซกำ 2 จำกัด 0415558000135 25 มี.ค. 58 อุดรธานี 217. บริษัท พีอี แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด 0425550000101 13 มี.ค. 58 เลย 218. บริษัท รับเบอร์ เพอร์เฟค กรุ๊ป จำกัด 0425553000293 16 มี.ค. 58 เลย 219. บริษัท 59 เจริญยนต์ จำกัด 0425555000037 16 มี.ค. 58 เลย 220. บริษัท ณัฐพล เพลส 2013 จำกัด 0435556000421 31 มี.ค. 58 หนองคาย 221. บริษัท ติ - อะ - โม๊ะ (2555) จำกัด 0445555000126 18 มี.ค. 58มหาสารคาม 222. บริษัท นิธายุทธ (2014) จำกัด 0115557008470 26 มี.ค. 58มหาสารคาม 223. บริษัท พันธ์ทวีมุกดาหาร จำกัด 0495553000099 13 มี.ค. 58 มุกดาหาร 16ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 224. บริษัท แหลมทองลิกไนท์ จำกัด 0505529000865 5 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 225. บริษัท แม่ปิงบริภัณฑ์ จำกัด 0505540002917 5 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 226. บริษัท เค .เค.แอคเคาน์ติ้งเซอร์วิส จำกัด 0505543000648 5 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 227. บริษัท เชียงใหม่ฟิล์ม จำกัด 0505553003771 5 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 228. บริษัท ไดเด็งโกะ จำกัด 0505539000825 6 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 229. บริษัท เรเบิน จำกัด 0105534022336 10 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 230. บริษัท ไชยโชคการค้า จำกัด 0505557002851 11 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 231. บริษัท โอเรียลทอล บริดจ์ จำกัด 0505554003902 12 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 232. บริษัท ลานนา เดนตัล ซัพพลาย จำกัด 0505555006158 12 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 233. บริษัท เฮือนไต จำกัด 0505547002939 13 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 234. บริษัท ฟู้ดส์ฟิชอินเตอร์ จำกัด 0505555002322 13 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 235. บริษัท เอดดู พลำเนท จำกัด 0505556002067 16 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 236. บริษัท โฮ มาร์ท จำกัด 0505547000723 18 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 237. บริษัท คราฟท์ แอท สยาม จำกัด 0505555003281 18 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 238. บริษัท แกรนด์ กิจเจริญ จำกัด 0505548004846 19 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 17ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 239. บริษัท แวร์ แฟชั่น จำกัด 0505556007115 20 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 240. บริษัท ไดนามิค เทรดดิ้ง จำกัด 0505555010198 23 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 241. บริษัท สิงห์ลอ โฮลดิ้งค์ เอ็นเทอร์ไพรซ์ จำกัด 0505556000668 23 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 242. บริษัท เดอะ คูเปอร์เรท จำกัด 0505556001451 23 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 243. บริษัท เนเจอร์ส อการ์วู๊ด จำกัด 0505556007301 23 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 244. บริษัท อ๊อกซี่วิน อกรีโปรดักส์ จำกัด 0505549002847 24 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 245. บริษัท แพนนะเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 0505552004791 30 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 246. บริษัท โมนิกำ ล้านนา จำกัด 0505555003442 31 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 247. บริษัท ลำภาร์ พร็อพเพอร์ตี้จำกัด 0505556009835 31 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 248. บริษัท ศุภารมย์ พาเลซ จำกัด 0505556011015 31 มี.ค. 58 เชียงใหม่ 249. บริษัท ลำปาง ฟุตซอล จำกัด 0525554000393 9 มี.ค. 58 ลำปาง 250. บริษัท แคลแมส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 0565555000117 27 มี.ค. 58 พะเยา 251. บริษัท เอ อาร์ แอนด์ ซัน ดิสทรีบิวเตอร์ จำกัด 0575544000455 18 มี.ค. 58 เชียงราย 252. บริษัท น้ำทอง ลิฟวิ่งส์ จำกัด 0545549000119 20 มี.ค. 58 เชียงราย 253. บริษัท น้ำทองเชียงราย จำกัด 0575549000321 20 มี.ค. 58 เชียงราย 18ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 254. บริษัท สุมาลี เฮลท์แอนด์สปา จำกัด 0575546000606 23 มี.ค. 58 เชียงราย 255. บริษัท นัมเบอร์วัน คลับ แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด 0575556001982 24 มี.ค. 58 เชียงราย 256. บริษัท จันทร์เที่ยงการพิมพ์ จำกัด 0575548000361 25 มี.ค. 58 เชียงราย 257. บริษัท ไทย เว็บบ์ เวิร์ค จำกัด 0575555000711 30 มี.ค. 58 เชียงราย 258. บริษัท เหนือฟ้าไทย จำกัด 0575537001000 31 มี.ค. 58 เชียงราย 259. บริษัท ท็อปเท็กซ์ การ์เมนท์ จำกัด 0635553000160 10 มี.ค. 58 ตาก 260. บริษัท ตากพร็อพเพอร์ตี้จำกัด 0635556000675 12 มี.ค. 58 ตาก 261. บริษัท พีเอสเอ 1.3 จำกัด 0635556000951 17 มี.ค. 58 ตาก 262. บริษัท ไดมอนด์ เฮิร์บ จำกัด 0635554000490 27 มี.ค. 58 ตาก 263. บริษัท ไทยเจท อินเตอร์เนชันแนล จำกัด 0645552000107 5 มี.ค. 58 สุโขทัย 264. บริษัท ฮัว อิง อะกริเทค จำกัด 0645551000111 25 มี.ค. 58 สุโขทัย 265. บริษัท แอ๊คทีฟโกลด์ริช จำกัด 0655556001183 12 มี.ค. 58 พิษณุโลก 266. บริษัท เพชรบูรณ์ การ์เด้น เลค ฮิลล์ รีสอร์ท จำกัด 0675539000328 12 มี.ค. 58 เพชรบูรณ์ 267. บริษัท เพชรบูรณ์พลาสติก จำกัด 0675555000132 16 มี.ค. 58 เพชรบูรณ์ 268. บริษัท ใบเงินยาไทย จำกัด 0675544000152 27 มี.ค. 58 เพชรบูรณ์ 19ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 269. บริษัท ไทย -อินโด ฮอร์ตี้โปรดักท์ จำกัด 0675550000088 27 มี.ค. 58 เพชรบูรณ์ 270. บริษัท แม็กซิมั่ม เซ็นเตอร์ จำกัด 0705552000149 2 มี.ค. 58 ราชบุรี 271. บริษัท ยูเนียน อโกรเทค จำกัด 0105553075423 10 มี.ค. 58 ราชบุรี 272. บริษัท อินเตอร์ ออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ ราชบุรีจำกัด 0705540000335 10 มี.ค. 58 ราชบุรี 273. บริษัท ตง เอี้ยว อินดัสทรี่จำกัด 0105544023343 12 มี.ค. 58 ราชบุรี 274. บริษัท เอวา เอ็นจิเนีย จำกัด 0705554000782 16 มี.ค. 58 ราชบุรี 275. บริษัท เมกกะวิน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 0705556000771 23 มี.ค. 58 ราชบุรี 276. บริษัท อีเนอจีอินโนเวชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 0705555000654 24 มี.ค. 58 ราชบุรี 277. บริษัท พิฆเนศวรทรงช้าง คอนสตรัคชั่น จำกัด 0705556000941 11 มี.ค. 58 กาญจนบุรี 278. บริษัท ซีกำ แมชชีน จำกัด 0715556000160 17 มี.ค. 58 กาญจนบุรี 279. บริษัท ทรัพย์สินปรีชา จำกัด 0715557000805 30 มี.ค. 58 กาญจนบุรี 280. บริษัท ฟู้ดเดสท์ อะโกร คอร์ปอเรชั่น จำกัด 0725555000344 19 มี.ค. 58 สุพรรณบุรี 281. บริษัท ดีเอ็ม ฟู้ดส์ จำกัด 0735552001889 13 มี.ค. 58 นครปฐม 282. บริษัท ธรรมทนง จำกัด 0735557000040 19 มี.ค. 58 นครปฐม 283. บริษัท สมเกียรติการโยธา จำกัด 0105522017847 24 มี.ค. 58 นครปฐม 20ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 284. บริษัท เอ็มแพค เครนแอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด 0735533000015 26 มี.ค. 58 นครปฐม 285. บริษัท จินตนาการ์เมนท์ จำกัด 0105522005300 27 มี.ค. 58 นครปฐม 286. บริษัท สหกิจทัวร์ จำกัด 0735548001748 27 มี.ค. 58 นครปฐม 287. บริษัท ไอวรา โคลธธิง จำกัด 0735552000319 30 มี.ค. 58 นครปฐม 288. บริษัท ไอทีฟิวชั่น จำกัด 0735554000707 30 มี.ค. 58 นครปฐม 289. บริษัท กู๊ดซี จำกัด 0745553000258 13 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 290. บริษัท พีเจดับบลิว ดริ๊งค์เทค จำกัด 0745557000660 13 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 291. บริษัท เอเบิล โฮม จำกัด 0745555002878 17 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 292. บริษัท ตรีวิมลกิจ จำกัด 0105531037065 18 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 293. บริษัท ไทยเอโยะ จำกัด 0745543001219 18 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 294. บริษัท รุ่งอรุณ เปเปอร์ จำกัด 0745547002180 19 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 295. บริษัท เอส.เค. นิตติ้ง จำกัด 0745553003206 27 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 296. บริษัท ซันสโตร์ ซัพพลาย จำกัด 0105538134287 30 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 297. บริษัท แฟมิลี่ซอคส์ จำกัด 0745553000592 31 มี.ค. 58 สมุทรสาคร 298. บริษัท โชคอนันต์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซัพพลายส์ จำกัด 0755552000025 9 มี.ค. 58สมุทรสงคราม 21ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 299. บริษัท บ้านสวนลีลาวดีจำกัด 0765556000909 19 มี.ค. 58 เพชรบุรี 300. บริษัท เชนส์ เอริน คอนสตรัคชั่น จำกัด 0775548003708 3 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 301. บริษัท โปเบดำ 3000 จำกัด 0775555002207 5 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 302. บริษัท ไวท์ โลตัส เมาน์เทน จำกัด 0775555002215 5 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 303. บริษัท เอ็น แอนด์ จีดอยลีจำกัด 0775549005054 6 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 304. บริษัท บีเคไอ หัวหิน พร็อพเพอร์ตี้จำกัด 0775553001297 10 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 305. บริษัท นอร์เวย์ การ์เด้น เวสท์ เฮ้าส์ จำกัด 0775555000701 12 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 306. บริษัท ธาภา เมคคานิเคิล แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด 0775556000470 13 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 307. บริษัท เคที โฮม พลัส จำกัด 0775555001278 17 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 308. บริษัท สเมียนอฟ ดีไซน์ จำกัด 0775549000265 23 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 309. บริษัท ประจูลิโน ไวน์เนอรี่จำกัด 0775557002123 23 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 310. บริษัท เทดดี้ทิพย์ หัวหิน จำกัด 0775548002507 31 มี.ค. 58ประจวบคีรีขันธ์ 311. บริษัท เรียวเซน จำกัด 0805554000064 10 มี.ค. 58นครศรีธรรมราช 312. บริษัท วีไอพี . ไรซ์ แอนด์ ปาล์ม จำกัด 0805555000360 12 มี.ค. 58นครศรีธรรมราช 313. บริษัท กฤตติญา คาร์แคร์ 2013 จำกัด 0805556001181 23 มี.ค. 58นครศรีธรรมราช 22ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 314. บริษัท วิริยะกุลการแพทย์ จำกัด 0815556001572 20 มี.ค. 58 กระบี่ 315. บริษัท วี .พี.ลอว์ จำกัด 0815556000321 27 มี.ค. 58 กระบี่ 316. บริษัท ซี แอนด์ เอฟ เดโค จำกัด 0825553000095 23 มี.ค. 58 พังงา 317. บริษัท รามฤทธิ์ จำกัด 0825555000025 23 มี.ค. 58 พังงา 318. บริษัท สตีเฟ๋น เบย์ลี่จำกัด 0835545001649 2 มี.ค. 58 ภูเก็ต 319. บริษัท ไอส์แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด 0835556002901 2 มี.ค. 58 ภูเก็ต 320. บริษัท ดีแอลไอ จำกัด 0105540015737 3 มี.ค. 58 ภูเก็ต 321. บริษัท เอส.ที. เอเชีย เทรดดิ้ง จำกัด 0835557006934 5 มี.ค. 58 ภูเก็ต 322. บริษัท อาร์ . เจ. บี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด 0835549000787 9 มี.ค. 58 ภูเก็ต 323. บริษัท สการ์เก้น จำกัด 0835551003500 9 มี.ค. 58 ภูเก็ต 324. บริษัท เพียว เอ็นเนอร์จี่ เซฟวิ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด 0835557001771 9 มี.ค. 58 ภูเก็ต 325. บริษัท ปีเตอร์ สคูบ้า จำกัด 0835550000205 10 มี.ค. 58 ภูเก็ต 326. บริษัท ปาร์ตี้ออลเวย์ส จำกัด 0835556006574 10 มี.ค. 58 ภูเก็ต 327. บริษัท รุสไทย คอมฟอร์ท จำกัด 0835557006501 10 มี.ค. 58 ภูเก็ต 328. บริษัท ไฮบิสคัส จำกัด 0835557008449 12 มี.ค. 58 ภูเก็ต 23ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 329. บริษัท บูติก คลับ (ภูเก็ต) จำกัด 0835554004884 13 มี.ค. 58 ภูเก็ต 330. บริษัท นารา พรีเมียร์ กรุ๊ป ป๋าตอง จำกัด 0835555004748 13 มี.ค. 58 ภูเก็ต 331. บริษัท ปิยะวัฒน์ สลาก จำกัด 0835553001181 16 มี.ค. 58 ภูเก็ต 332. บริษัท พิศิษฐ์สมผลและบุตร จำกัด 0835556007945 17 มี.ค. 58 ภูเก็ต 333. บริษัท วีเอส ดาต้า มีเดีย เอเซีย จำกัด 0835541001946 18 มี.ค. 58 ภูเก็ต 334. บริษัท เอ็นริโก้จำกัด 0835556013031 20 มี.ค. 58 ภูเก็ต 335. บริษัท เค .รัน แอนด์ สเปเชี่ยล คลับ จำกัด 0835556010075 23 มี.ค. 58 ภูเก็ต 336. บริษัท กะตะลีน่า จำกัด 0835545003692 24 มี.ค. 58 ภูเก็ต 337. บริษัท ภูเก็ต เอส .ซี.คอนสตรัคชั่น จำกัด 0835554004701 24 มี.ค. 58 ภูเก็ต 338. บริษัท พี เค ทีทราเวล จำกัด 0835554012771 24 มี.ค. 58 ภูเก็ต 339. บริษัท อำลาอูสกัส จำกัด 0835555010772 24 มี.ค. 58 ภูเก็ต 340. บริษัท วีก้า อินโนเวท จำกัด 0835552005271 25 มี.ค. 58 ภูเก็ต 341. บริษัท อันดามัน โตโต้ทราเวล จำกัด 0835552003520 26 มี.ค. 58 ภูเก็ต 342. บริษัท สาม เอ็ม ดีจำกัด 0835557013311 26 มี.ค. 58 ภูเก็ต 343. บริษัท วอเทอร์เวิลด์ เอเซีย จำกัด 0835547000984 27 มี.ค. 58 ภูเก็ต 24ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 344. บริษัท เอ็มเอ็ม พีพี เอสเตทส์ จำกัด 0835557005393 27 มี.ค. 58 ภูเก็ต 345. บริษัท เพ็นไนน์ จำกัด 0835543000238 31 มี.ค. 58 ภูเก็ต 346. บริษัท กลอเรียส มาร์เก็ต จำกัด 0835551003119 31 มี.ค. 58 ภูเก็ต 347. บริษัท เทอร์เทิล โปรดักท์ จำกัด 0845555004535 2 มี.ค. 58 สุราษฎร์ธานี 348. บริษัท สมุยซันเซ็ท ซีวิว บูติค รีสอร์ท จำกัด 0845551001698 5 มี.ค. 58 สุราษฎร์ธานี 349. บริษัท ศูนย์รวมรังนกไทยแพเซ่ง (สุราษฎร์ธานี) จำกัด 0845557000855 17 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 350. บริษัท ซอยสบาย จำกัด 0845556002960 20 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 351. บริษัท ถิระวัฒนากร 2549 จำกัด 0845549002526 23 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 352. บริษัท นาทรายซอฟต์ จำกัด 0845553003752 23 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 353. บริษัท สมุย เซลลิ่ง เซนเตอร์ แอนด์ วอเทอร์ สปอร์ต จำกัด 0845554004159 23 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 354. บริษัท เอ .จี.อี.เทมเปอร์กลาส จำกัด 0845556003125 24 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 355. บริษัท วาสนา โกลด์เดนซิตี้จำกัด 0845554004761 25 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 356. บริษัท บิวตี้ฟูล มูนไลท์ จำกัด 0845549006441 27 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 357. บริษัท สมุนไพรไทยสุราษฎร์ธานีจำกัด 0845554003535 27 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 358. บริษัท ดีว่า สกิน จำกัด 0845556006426 27 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 25ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 359. บริษัท 168 ไอทีจำกัด 0845556000720 31 มี.ค. 58สุราษฎร์ธานี 360. บริษัท ถูกใจ อาบังทัวร์ จำกัด 0905556003477 5 มี.ค. 58 สงขลา 361. บริษัท เซาเทิร์น คอนโดเทล จำกัด 0905557000366 6 มี.ค. 58 สงขลา 362. บริษัท คาเท็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 0905556000460 9 มี.ค. 58 สงขลา 363. บริษัท สหพันธ์หาดใหญ่ธุรกิจ จำกัด 0905540002671 11 มี.ค. 58 สงขลา 364. บริษัท เจ .เอ็ม.วิค จำกัด 0905556000915 18 มี.ค. 58 สงขลา 365. บริษัท ไทยเมดิคอล เอนจิเนียร์ (สงขลา) จำกัด 0905542000993 20 มี.ค. 58 สงขลา 366. บริษัท เซ้าท์เทิร์น ลอจิสทิค แมเนจเม้นท์ จำกัด 0905542001264 27 มี.ค. 58 สงขลา 367. บริษัท วาย พีฟูด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด 0905556004457 30 มี.ค. 58 สงขลา 368. บริษัท อาร์มี่ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 0905550002126 30 มี.ค. 58 สตูล 369. บริษัท เบนซ์ภาคใต้จำกัด 0925536000103 3 มี.ค. 58 ตรัง 370. บริษัท สเต็พ วูด จำกัด 0925556000389 10 มี.ค. 58 ตรัง 371. บริษัท กู๊ด แกรนด์ดรากอน จำกัด 0925554000071 16 มี.ค. 58 ตรัง 372. บริษัท ซินจงไท้จำกัด 0925556000435 16 มี.ค. 58 ตรัง 373. บริษัท ซี.ที.รับเบอร์ จำกัด 0925554000292 19 มี.ค. 58 ตรัง 26ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 374. บริษัท ลีลาเซอร์วิส จำกัด 0925536000294 25 มี.ค. 58 ตรัง 375. บริษัท ตรังแอร์ แอนด์ โอเอ เซนเตอร์ จำกัด 0925537000191 25 มี.ค. 58 ตรัง 376. บริษัท เซาท์เทิร์น ครีโม จำกัด 0925555000199 25 มี.ค. 58 ตรัง 377. บริษัท ตรังเมทัลชีท จำกัด 0925556000206 25 มี.ค. 58 ตรัง 378. บริษัท เอนทรีอินเตอร์เนชั่นนอล จำกัด 0925553000361 26 มี.ค. 58 ตรัง 379. บริษัท กรีน แท้งเกอร์ เซอร์วิส จำกัด 0925546000106 31 มี.ค. 58 ตรัง 380. บริษัท ธีรศักดิ์ รักษาความปลอดภัย จำกัด 0935556000214 26 มี.ค. 58 พัทลุง 381. บริษัท เซาท์ ซีรับเบอร์ อินดัสตรีจำกัด 0105531049179 12 มี.ค. 58 ป้ตตานี 382. บริษัท ยะลาชางลีจำกัด 0955536000189 10 มี.ค. 58 ยะลา เล่ม: ๑๓๒ หมวด: ๓๙ ค ประกาศ ณ: ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ หน้า: ๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:92105", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๘๕/๒๕๕๘ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/C/039/7.PDF", "year": null }
nonweb_114877
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๒๖๑/๒๕๖๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๒๖๑/๒๕๖๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จิตรกร ว่องเขตกร ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน หน้า ๖ 1ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑ บริษัท โชคสิรินันน์ทพัฒน์ เอ็กซ์เพรส จำกัด ๐๘๓๕๕๖๒๐๐๗๘๕๔ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๒ บริษัท อ๊อซั่ม พร๊อพเพอร์ตี้จำกัด ๐๒๐๕๕๕๕๐๓๗๐๗๒ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓ บริษัท จิน เฮ -จู จำกัด ๐๙๐๕๕๕๙๐๐๖๒๓๐ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๔ บริษัท ชวทรัพย์ จำกัด ๐๙๐๕๕๖๐๐๐๐๑๑๘ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๕ บริษัท อิมพีริโอ ดีเวลลอเปอร์ส แอนด์ เรียลเตอร์ส จำกัด ๐๒๐๕๕๕๗๐๓๕๑๖๖ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๖ บริษัท เอ็น เอ็น พี ไอซ์ จำกัด ๐๔๑๕๕๖๓๐๐๑๑๐๑ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๗ บริษัท ธำรงกุล โบรกเกอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๓๐๐๘๘๐๙ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๘ บริษัท ฮีดล่อน อินโนวาติคส์ จำกัด ๐๒๑๕๕๕๔๐๐๔๔๓๐ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๙ บริษัท ฮวดเจริญ อลูมิเนียม จำกัด ๐๒๑๕๕๖๑๐๐๘๒๙๑ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๑๐ บริษัท กรีนโอลิโอ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ๐๒๕๕๕๖๑๐๐๑๐๓๓ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๑๑ บริษัท พรสวัสดิ์ ออโตบิชิเนส จำกัด ๐๓๒๕๕๓๙๐๐๐๑๘๕ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สุรินทร์ ๑๒ บริษัท ไท ชิบาย เดอะ ซีจำกัด ๐๘๒๕๕๖๒๐๐๐๘๙๒ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ พังงารายละเอียดการจดทะเบียนเลิกบริษัทจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป . 261 /2563 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2563 2ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๓ บริษัท ปา ปา อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๑๕๑๔๗ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๔ บริษัท ปุยอินทรีย์อุตรดิตถ์ จำกัด ๐๕๓๕๕๔๗๐๐๐๐๖๕ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๑๕ บริษัท วีเวย์กรุ๊ป จำกัด ๐๕๗๕๕๖๑๐๐๐๒๑๒ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๑๖ บริษัท เมอร์รี่เทค จำกัด ๐๗๔๕๕๖๒๐๐๐๗๔๕ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๑๗ บริษัท ซินโธเมอร์ โฮลดิ้งส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๑๐๕๕๕๙๐๗๒๗๗๙ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๘ บริษัท เตียวฮง คอนเวอร์แซนท์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๔๐๑๓๖๙๓ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๙ บริษัท ร็อคโค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๐๗๖๓๒ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๐ บริษัท ซีที แอนด์ ยู อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๔๒๒๔ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๑ บริษัท เพชรเจริญทรัพย์ รีไซเคิล จำกัด ๐๑๒๕๕๕๘๐๐๙๖๒๓ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๒ บริษัท จิ๊กกะคลีน จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๒๑๑๒๔ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๓ บริษัท เค .เอส ไซเอนซ์ เทรดดิ้ง จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๒๘๔๖๓ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔ บริษัท เอช ยู ทีอาร์คิเทคท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๒๗๘๕๑ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๕ บริษัท เอ็นจีเนียส โซลูชั่น จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๐๘๒๐๙ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 3ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๖ บริษัท บิ๊ก สตีล จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๐๙๑๒๔ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๗ บริษัท บีทู ออโต้คาร์ จำกัด ๐๑๔๕๕๖๒๐๐๐๙๓๗ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๒๘ บริษัท สมุย ซีกัล ไดฟ์ เซ็นเตอร์ จำกัด ๐๘๔๕๕๖๑๐๑๐๓๗๑ ๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๙ บริษัท พีทีเค คอนโด จำกัด ๐๘๓๕๕๕๑๐๐๐๗๕๖ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๐ บริษัท เฉลิมบูรณะวงศ์ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๒๔๓๙๙ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๑ บริษัท เอ็นพี โลหะกิจ ๒๐๑๖ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๐๒๖๘๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๒ บริษัท ๙๔ ภัททำเลต จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๐๖๒๓๖ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๓ บริษัท สมาร์ท แอคเคาท์ติ้ง แพลนเนอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๒๐๙๓๐ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๔ บริษัท เทคโนสมิธ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๒๙๗๘๓ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๕ บริษัท มงคลกิจ ทราเวล จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๓๒๔๗๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๖ บริษัท บุศรา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ๐๓๑๕๕๖๑๐๐๐๓๘๙ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๓๗ บริษัท เพอร์เฟ็ค เท็น ออร์แกนไนเซอร์ จำกัด ๐๓๔๕๕๕๖๐๐๐๔๑๔ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๓๘ บริษัท ดี .อาร์ .พี. (มหาสารคาม) จำกัด ๐๔๔๕๕๕๖๐๐๐๔๘๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ มหาสารคาม 4ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๙ บริษัท ดวงดี เชียงใหม่จำกัด ๐๕๐๕๕๖๐๐๑๓๙๑๔ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๐ บริษัท เจริญรถเช่า (๒๐๑๙) จำกัด ๐๗๐๕๕๖๒๐๐๒๙๑๘ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๔๑ บริษัท เอส.อาร์. อินดัสเทรียล เซอร์วิส จำกัด ๐๗๓๕๕๖๑๐๐๗๘๖๐ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๔๒ บริษัท อินเทคค์ สุกรพันธุ์ จำกัด ๐๗๔๕๕๖๐๐๐๙๕๔๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๔๓ บริษัท ไอเดีย อินโนเวชั่น จำกัด ๐๑๐๕๕๕๙๐๖๒๕๔๔ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๔ บริษัท เมริท วีอิคึล ลีซซิ่ง จำกัด ๐๑๑๕๕๓๖๐๐๒๔๑๓ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๕ บริษัท ซีที. พรีซิชั่น จำกัด ๐๑๑๕๕๔๙๐๐๐๔๗๓ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๖ บริษัท ธนา -พิทักษ์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๑๑๕๕๕๑๐๐๙๐๗๕ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๗ บริษัท กิจการร่วมคำ ดิอาคิเท็คส์ แอนด์ ยูซีดีจำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๐๐๕๑๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๘ บริษัท พรหมพีระ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๗๐๐๖๗๐๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๙ บริษัท ทองดีด์ ๙๙๙๙ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๒๐๘๖๘ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๐ บริษัท ผลสำเร็จ๙ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๐๒๗๙๑ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๑ บริษัท แสงสินฟอเวิดดิ้งเซอร์วิส จำกัด ๐๙๐๕๕๒๙๐๐๐๐๑๒ ๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา 5ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๒ บริษัท แมนโด สเต็ก เฮ้าส์ จำกัด ๐๘๓๕๕๕๘๐๐๕๕๗๕ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๕๓ บริษัท โมะสุ เมททอล เวิร์คส์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๖๐๑๑๖๓๘ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๔ บริษัท สวนน้ำชุมพร จำกัด ๐๘๔๕๕๕๙๐๐๕๐๘๑ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๕ บริษัท ชูเกียรติ แคปปิตอล จำกัด ๐๙๔๕๕๖๒๐๐๐๑๙๑ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ป้ตตานี ๕๖ บริษัท วาย แอนด์ แอล เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๓๓๐๙๘ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๗ บริษัท พีดีแอนด์พีวาย จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๑๐๗๘๔ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๘ บริษัท วังรีวู๊ดชิพ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๓๓๒๓๑ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๙ บริษัท พี .เอ็ม. คอนสตรัคชั่น แอนด์ รีโนเวชั่น จำกัด ๐๓๔๕๕๖๓๐๐๑๔๔๗ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๖๐ บริษัท เอส จีวีจำกัด ๐๒๔๕๕๖๐๐๐๑๘๙๗ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๖๑ บริษัท ชิตะ รุ่งเรือง จำกัด ๐๒๔๕๕๖๑๐๐๑๔๓๒ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๖๒ บริษัท รวมโชคจิรภัทร ก่อสร้าง จำกัด ๐๓๐๕๕๖๒๐๐๘๑๙๗ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๖๓ บริษัท หนองบัวดอนหัวช้าง จำกัด ๐๔๕๕๕๖๒๐๐๑๑๑๖ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด ๖๔ บริษัท บ้านประตู จำกัด ๐๕๐๕๕๕๘๐๐๑๒๗๑ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ 6ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๖๕ บริษัท บรอกโคลี แอนด์ โค จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๑๓๔๙๓ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๖๖ บริษัท แอทอินวิลเลจ จำกัด ๐๕๐๕๕๖๐๐๑๑๓๐๐ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๖๗ บริษัท เอกชัย นิวอินดัสทรี่จำกัด ๐๑๐๕๕๓๑๐๗๑๒๙๘ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๖๘ บริษัท ไรซ์ โมเสค จำกัด ๐๑๐๕๕๔๙๑๐๘๐๘๘ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๖๙ บริษัท ศูนย์รวมนวตกรรมหินอ่อน จำกัด ๐๑๑๕๕๕๐๐๐๒๘๙๑ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๗๐ บริษัท เอสที เมทัลชีท จำกัด ๐๑๑๕๕๕๔๐๐๕๕๙๓ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๗๑ บริษัท เอ็น .เอส .วี.เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๗๐๐๗๙๓๗ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๗๒ บริษัท อินเตอร์ สตีล (๑๙๙๘) จำกัด ๐๑๑๕๕๖๓๐๐๔๗๐๗ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๗๓ บริษัท เอส แอนด์ ที เอ็นจิเนีย เซอร์วิส แอนด์ ซัพพอร์ท จำกัด ๐๑๒๕๕๕๗๐๒๔๕๗๒ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๗๔ บริษัท โซมี โซลูชั่น จำกัด ๐๑๒๕๕๕๘๐๒๒๔๑๗ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๗๕ บริษัท หมิงถัง เดอะ เรียลเอสเตท เอเจนซี่ ไลอะบิลิตี้จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๑๒๒๑๔ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๗๖ บริษัท พีเคเจ ก้าวไกล จำกัด ๐๑๓๕๕๕๕๐๒๐๗๑๕ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๗๗ บริษัท เอ็ม๒ ดีฟิวเจอร์ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๖๐๐๒๒๙๐ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 7ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๗๘ บริษัท ลัคกี้อิมพอร์ต เทรดดิ้ง จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๒๑๑๗๕ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๗๙ บริษัท บางเสร่คอนซัลติ้ง จำกัด ๐๒๐๕๕๔๙๐๓๐๐๑๑ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๘๐ บริษัท แฟมิลี่ทีม จำกัด ๐๒๐๕๕๕๓๐๐๑๗๕๕ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๘๑ บริษัท หมิงถัง อิมปอร์ต แอนด์ เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ๐๘๓๕๕๖๑๐๑๑๕๗๒ ๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๘๒ บริษัท สุเจริญ ป๋าตอง จำกัด ๐๘๓๕๕๕๐๐๐๕๕๑๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๘๓ บริษัท เฮลท์ แคร์ ทัวร์ จำกัด ๐๘๔๕๕๕๙๐๐๖๙๙๑ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ พังงา ๘๔ บริษัท ฟูล แอนด์ ฟูล ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๙๕๕๕๕๗๐๐๐๓๒๓ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ยะลา ๘๕ บริษัท อีสเทิร์นซีออยล์ คอนสตรัคชั่น เซอร์วิส จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๑๔๐๗๑ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๘๖ บริษัท เอสดับบลิวพีดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ๐๓๙๕๕๖๒๐๐๐๓๐๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ หนองบัวลำภู ๘๗ บริษัท เจพี ๒๐๐๒ จำกัด ๐๓๐๕๕๕๙๐๐๖๑๗๑ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๘๘ บริษัท เรียลตี้ โซลูชั่น พลัส จำกัด ๐๓๔๕๕๖๑๐๐๑๒๕๓ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๘๙ บริษัท โฮม ปาล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ๐๓๗๕๕๕๕๐๐๐๐๘๙ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สกลนคร ๙๐ บริษัท บอริส คอสเมติกส์ จำกัด ๐๔๕๕๕๖๒๐๐๐๖๑๖ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด 8ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๙๑ บริษัท โซลาร์ เนเจอร์ เทค จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๑๔๙๔๒ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๙๒ บริษัท สเปซ เชียงใหม่จำกัด ๐๕๐๕๕๖๓๐๐๑๘๙๕ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๙๓ บริษัท จิน เอ็กซ์เช้นจ์ ๙๕๑ จำกัด ๐๕๗๕๕๖๒๐๐๓๑๙๓ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๙๔ บริษัท จิน เอ็กซ์เช้นจ์ ๑๕ จำกัด ๐๕๗๕๕๖๒๐๐๓๒๐๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๙๕ บริษัท ทองด้ายโกร จำกัด ๐๖๐๕๕๕๘๐๐๑๓๗๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๙๖ บริษัท เอส.เทรดดิ้ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ๐๖๐๕๕๖๓๐๐๐๕๒๙ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๙๗ บริษัท เอกชัย ทรานสปอร์ต ๒๐๑๙ จำกัด ๐๗๐๕๕๖๒๐๐๓๓๘๘ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๙๘ บริษัท เอเบิ้ล สมาร์ท จำกัด ๐๗๔๕๕๖๑๐๐๙๙๐๑ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๙๙ บริษัท หัวเซิ่ง เมทัล แมททีเรียล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ๐๗๔๕๕๖๓๐๐๒๓๑๘ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๑๐๐ บริษัท ไทยเจริญพัฒน์ การโยธา จำกัด ๐๘๐๕๕๖๑๐๐๑๐๓๘ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๑๐๑ บริษัท เลอ วินช์ จำกัด ๐๘๓๕๕๕๐๐๐๘๓๙๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๐๒ บริษัท ซี.ที.เอส .ทรานสปอร์ตแอนด์เซอร์วิส จำกัด ๐๑๐๕๕๓๗๐๐๓๖๒๖ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๐๓ บริษัท โพลีกอน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๑๐๕๕๕๕๐๔๓๖๗๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ 9ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๐๔ บริษัท จินนี่ แคเฟ๋จำกัด ๐๑๐๕๕๕๗๑๘๐๑๐๘ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๑๐๕ บริษัท ดีน แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๐๕๕๕๗๑๘๐๒๑๓ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๐๖ บริษัท แอซควาซอฟท์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๕๐๑๘๖๐๕ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๐๗ บริษัท รักซาร์ ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๐๖๕๒๑ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๐๘ บริษัท ว่านลี่ไหล จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๒๘๕๖๗ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๐๙ บริษัท เจเจเอ็นพีจำกัด ๐๑๒๕๕๕๗๐๐๘๓๔๘ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๑๐ บริษัท ฟีนอลพลัส (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๑๕๖๗๕ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๑๑ บริษัท ปทุมรักษ์ ลอว์ สยาม แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๐๒๗๖๐ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๑๒ บริษัท จิวาลักษณ์มอเตอร์ จำกัด ๐๑๖๕๕๔๐๐๐๐๓๔๙ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ลพบุรี ๑๑๓ บริษัท คาซ่า ปีเตอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๑๐๒๓๙๕๖ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๑๔ บริษัท คาซ่า โลมม์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๓๐๐๓๗๗๔ ๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๑๕ บริษัท บิลลา จำกัด ๐๘๓๕๕๕๗๐๐๑๑๔๒ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๑๖ บริษัท เกียรติป้ญญาวุฒิจำกัด ๐๒๐๕๕๕๕๐๒๘๙๐๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 10ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๑๗ บริษัท แซมทิม จำกัด ๐๘๔๕๕๕๑๐๐๔๐๗๗ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๑๑๘ บริษัท รอยัล เพาว์เวอร์ กรุ๊ป จำกัด ๐๘๔๕๕๖๐๐๐๑๖๗๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๑๑๙ บริษัท ดิง ไทย จำกัด ๐๘๔๕๕๖๒๐๐๐๒๒๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๑๒๐ บริษัท เพชรศิริ ๗๘๙ ซัพพลาย จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๐๘๙๓๐ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๒๑ บริษัท บ้านวังตูม จำกัด ๐๒๖๕๕๕๖๐๐๐๔๘๒ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นครนายก ๑๒๒ บริษัท มั่นคง กฎหมายการบัญชีและภาษีอากร จำกัด ๐๕๐๕๕๓๗๐๐๐๗๐๔ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๓ บริษัท ลำพึง การค้า จำกัด ๐๖๒๕๕๖๒๐๐๐๖๖๕ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๑๒๔ บริษัท ทรีซีคอนซัลทิง จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๐๐๒๔๓ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๕ บริษัท สโล โพ๊ค จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๑๑๖๕๒ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๖ บริษัท วันชัยพัฒนา (๒๐๑๗) จำกัด ๐๕๐๕๕๖๐๐๐๕๐๘๓ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๗ บริษัท ทวินสตาร์ เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๑๓๑๔๔ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๘ บริษัท กรีน ไลออน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ๐๕๒๕๕๕๘๐๐๐๓๙๘ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๙ บริษัท ธาร์ทอินดัสทรีจำกัด ๐๖๐๕๕๖๑๐๐๑๓๘๒ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ 11ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๓๐ บริษัท ห้างทองรุ่งโรจน์ ๒๕๓๔ จำกัด ๐๘๐๕๕๕๙๐๐๒๕๙๖ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๑๓๑ บริษัท เบสท์ เซเว่น ภูเก็ต จำกัด ๐๘๓๕๕๔๗๐๐๑๔๔๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๓๒ บริษัท เอเอสพีแอล จำกัด ๐๑๐๕๕๕๖๐๒๘๕๖๖ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๓๓ บริษัท ออล พรอพเพอร์ตี้ โซลูชั่น แมนเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๐๕๕๘๗๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๓๔ บริษัท ดับเบิ้ลยูแอนด์ไอ ชิปปิ้ง เซอร์วิส จำกัด ๐๑๑๕๕๔๘๐๐๔๗๕๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๓๕ บริษัท วิน เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๘๐๑๙๒๓๘ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๓๖ บริษัท อาร์มมาเนีย โปรดักชั่น จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๒๐๓๕ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๓๗ บริษัท โจปา ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ๐๑๒๕๕๔๘๐๐๓๓๗๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๓๘ บริษัท คุณเจี๊ยบ ไพร ไพร ประมูล การบิน จำกัด ๐๑๒๕๕๕๘๐๑๗๘๒๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๓๙ บริษัท กัปตันไพร รวมช่าง บ้านน็อคดาวน์ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๘๐๑๗๘๔๗ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๔๐ บริษัท ชฎา ฟรุต จำกัด ๐๑๒๕๕๕๙๐๑๔๗๕๒ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๔๑ บริษัท วรรณศรี เวชภัณฑ์ จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๒๓๐๘๙ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๔๒ บริษัท เอ็ม ทีพี ไดแอกนอสติกส์ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๘๐๑๗๔๖๔ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 12ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๔๓ บริษัท ฟาสท์ ฟาลคอน อินทีเรีย จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๐๔๐๒๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๔๔ บริษัท เอส.เอส .เอ็น ทรานสปอร์ต ๒๐๑๙ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๐๕๔๑๖ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๔๕ บริษัท ฟาสต์ เซอร์วิส พลัส จำกัด ๐๑๔๕๕๖๐๐๐๕๑๔๑ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๑๔๖ บริษัท ไนเจล ทอมสัน จำกัด ๐๘๔๕๕๔๗๐๐๕๓๑๕ ๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๔๗ บริษัท อีทูบีคอร์ปอเรชั่น จำกัด ๐๕๗๕๕๖๒๐๐๐๐๓๘ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๑๔๘ บริษัท เซ็นทรัลอาร์ตแอนด์พริ้นท์ จำกัด ๐๒๐๕๕๔๐๐๐๕๓๐๗ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๔๙ บริษัท ซุปเปอร์แจ็ค อินโนเวชั่น จำกัด ๐๖๕๕๕๖๐๐๐๑๐๒๘ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๑๕๐ บริษัท เลิฟลี่ควีน จำกัด ๐๖๕๕๕๖๑๐๐๑๓๕๘ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๑๕๑ บริษัท พีวาย เอส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ๐๗๐๕๕๕๘๐๐๐๓๔๕ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๑๕๒ บริษัท บูรพา เอเชีย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๗๓๕๕๖๑๐๐๖๖๐๐ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๑๕๓ บริษัท ไดเร็ค อี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๗๔๕๕๕๗๐๐๔๘๘๖ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๑๕๔ บริษัท โชคชัยจินดา จำกัด ๐๗๔๕๕๕๙๐๐๒๑๖๓ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๑๕๕ บริษัท แบล็ค เบลท์ อินดัสเทรียล จำกัด ๐๘๓๕๕๖๑๐๑๕๙๙๓ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต 13ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๕๖ บริษัท ไทย โรดเวย์ ๒ จำกัด ๐๘๓๕๕๖๒๐๑๓๔๑๒ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๕๗ บริษัท ไทยกุญชรมิวสิค จำกัด ๐๙๐๕๕๔๔๐๐๑๖๗๙ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๑๕๘ บริษัท เอ็ม เอส อาร์ จำกัด ๐๙๐๕๕๕๖๐๐๒๑๘๗ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๑๕๙ บริษัท ธนิตบดินทร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๐๒๐๕๒ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๖๐ บริษัท ดานิโล แอนด์ ป้อม จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๑๓๘๓๖ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๖๑ บริษัท นามพรรลาย เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๓๕๗๐๕ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๖๒ บริษัท กู๊ดติง บาย เมอร์รี่จำกัด ๐๔๑๕๕๖๐๐๐๒๘๗๕ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๑๖๓ บริษัท วัน มอร์ เทลส์ จำกัด ๐๔๑๕๕๖๑๐๐๑๗๔๑ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๑๖๔ บริษัท สุริศร์ เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ๐๔๕๕๕๖๒๐๐๑๒๒๑ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด ๑๖๕ บริษัท สยามกิจไพศาล ๒๐๐๕ จำกัด ๐๕๑๕๕๕๙๐๐๐๓๔๑ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำพูน ๑๖๖ บริษัท เจเอ็นบีอาร์ จำกัด ๐๕๗๕๕๖๑๐๐๐๔๐๙ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๑๖๗ บริษัท สยามมิตร จำกัด ๐๑๐๕๕๓๑๑๐๒๑๗๗ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๖๘ บริษัท ฮัฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๑๐๕๕๕๔๑๕๗๘๕๗ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง 14ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๖๙ บริษัท หลี่ต้าเทียน ๘๘๘ จำกัด ๐๑๐๕๕๕๖๐๔๓๖๒๐ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชัยนาท ๑๗๐ บริษัท แอทลาส กรุ๊ป จำกัด ๐๑๐๕๕๕๖๐๗๖๓๙๑ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๗๑ บริษัท พีระ อาร์ทีคาร์ท จำกัด ๐๑๑๕๕๕๑๐๑๒๕๑๓ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๗๒ บริษัท เมกะ แฝบ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๗๐๒๒๙๗๙ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๗๓ บริษัท ฟู้ดดี้ทอล์ค จำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๒๔๑๙๗ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๗๔ บริษัท กรีน ยูทิลิตี้จำกัด ๐๑๓๕๕๕๖๐๑๖๓๕๕ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๗๕ บริษัท พีเจ วัน กรุ๊ป จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๑๕๘๒๑ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๗๖ บริษัท สุวรรณกานต์ ๒๘ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๐๕๖๘๘ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๗๗ บริษัท ชินธนันต์ฟู้ด จำกัด ๐๖๕๕๕๖๐๐๐๐๑๕๓ ๑๐ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๑๗๘ บริษัท เดอะเนสท์ อินทีเรีย แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ๐๗๓๕๕๖๒๐๐๘๓๙๘ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๑๗๙ บริษัท อัพเปอร์ ฟู้ด จำกัด ๐๙๐๕๕๖๓๐๐๐๔๓๗ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๑๘๐ บริษัท หนองปลาไหล พร็อพเพอตี้ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๕๐๓๗๔๓๙ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๘๑ บริษัท เบดส์ ฮอสพิทอลลิตี้จำกัด ๐๒๐๕๕๕๖๐๐๘๖๔๕ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 15ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๘๒ บริษัท เพียว ซิตี้ เซอร์วิส จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๒๒๗๙๗ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๘๓ บริษัท สยาม ลารา เทรดดิ้ง อิมพอร์ต- เอ็กพอร์ต จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๒๖๑๘๑ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๘๔ บริษัท บ้านสวนพอเพียงกรญ์รดา จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๑๓๙๕๓ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๘๕ บริษัท เสียงฝาง จำกัด ๐๕๐๕๕๓๔๐๐๑๒๑๑ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๘๖ บริษัท นริตาพนากิจ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๕๐๐๕๘๗๙ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๘๗ บริษัท ทริปเปิ้ล ที แทททู คาเฟ๋จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๑๙๑๖๒ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๘๘ บริษัท เกียวบาชิจำกัด ๐๕๒๕๕๕๖๐๐๐๖๕๐ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๑๘๙ บริษัท ๕๙ แพคพริ้นท์ จำกัด ๐๕๗๕๕๖๑๐๐๒๒๘๒ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๑๙๐ บริษัท ทีดี แฮปปี้จำกัด ๐๑๐๕๕๕๘๐๖๕๓๗๐ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๙๑ บริษัท เอส.วี.สยามอินเตอร์วิศวกิจ ๑๙๙๖ จำกัด ๐๑๑๕๕๓๙๐๐๒๔๕๗ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๙๒ บริษัท ออล เลอ บัว จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๐๖๓๘๒ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๙๓ บริษัท ไทย โปรเฟสชั่นแนล บาสเกตบอล ลีก จำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๑๗๗๘๓ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๙๔ บริษัท อิมเพนนิทระเบิล เดสทินี่จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๐๐๖๑๑ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 16ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๙๕ บริษัท ศรีสุขชยะกุล ธัญบุรีจำกัด ๐๑๓๕๕๖๐๐๐๑๗๔๐ ๑๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๙๖ บริษัท ทองหุ้มลานนา จำกัด ๐๖๐๕๕๕๖๐๐๑๓๗๐ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๑๙๗ บริษัท ชาร์คคี่พิก จำกัด ๐๒๐๕๕๔๘๐๒๘๐๓๙ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๙๘ บริษัท สมาร์ทโทรล จำกัด ๐๗๐๕๕๖๑๐๐๓๕๕๔ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๑๙๙ บริษัท ลูกชิ้นนายพัน จำกัด ๐๗๓๕๕๖๐๐๐๔๑๘๒ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๒๐๐ บริษัท อันดามัน มารีน แอสซีสท์ จำกัด ๐๘๓๕๕๖๑๐๐๒๓๓๖ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๒๐๑ บริษัท คาร์ เร้นทัล สมุย จำกัด ๐๘๔๕๕๕๖๐๐๒๓๓๑ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๐๒ บริษัท ลีเบร่า กรุ๊ป จำกัด ๐๘๔๕๕๖๑๐๑๑๖๓๗ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๐๓ บริษัท รัสติโก้จำกัด ๐๘๔๕๕๖๒๐๐๗๐๓๐ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๐๔ บริษัท แสงธรรมชิปปิ้งแอนด์ฟอเวิดดิ้ง จำกัด ๐๙๐๕๕๓๑๐๐๐๕๔๗ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๐๕ บริษัท โฮมเลส ด๊อกเตอร์ จำกัด ๐๙๐๕๕๖๑๐๐๕๓๓๔ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๐๖ บริษัท เคจีเอสเอส จำกัด ๐๒๐๕๕๕๘๐๒๗๔๔๒ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๐๗ บริษัท น้ำทะเล ๒๑๕ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๐๕๔๙๓ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 17ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๐๘ บริษัท อาหาร อิ่มมั่งคั่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๔๒๗๑๖ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๐๙ บริษัท ทีเอส มาสเตอร์ เทค จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๑๒๗๔๘ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๑๐ บริษัท ต้าไฮ่ไฮ จำกัด ๐๒๑๕๕๖๓๐๐๔๖๔๑ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๒๑๑ บริษัท เอ็มเอช ฟู้ด จำกัด ๐๒๓๕๕๕๙๐๐๐๘๓๑ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ตราด ๒๑๒ บริษัท เอโบฟ เอเวอร์เรจ กรุ๊ป จำกัด ๐๒๖๕๕๖๑๐๐๐๓๓๙ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นครนายก ๒๑๓ บริษัท รัตนกาญจน์ กรุ๊ป ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๓๐๕๕๕๖๐๐๔๓๒๑ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๒๑๔ บริษัท รูท ไบโอแมส จำกัด ๐๓๐๕๕๕๘๐๐๐๒๙๒ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๒๑๕ บริษัท เอสเตท เดส โคโลนี่ส์ จำกัด ๐๔๑๕๕๖๒๐๐๐๔๘๙ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๒๑๖ บริษัท อินเตอร์โฟน ๒๐๒๐ จำกัด ๐๔๔๕๕๖๒๐๐๑๔๘๕ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๒๑๗ บริษัท ทริปเปิล เอ พลัส คอนซัลท์ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๓๐๐๒๘๓๐ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๑๘ บริษัท เอทีพีพีพีจำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๑๔๓๕๓ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๑๙ บริษัท ยี่ เจี่ย เซี่ยง ไซ จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๑๕๑๘๓ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๒๐ บริษัท จัดให้มีเดีย จำกัด ๐๕๗๕๕๖๐๐๐๓๑๔๕ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย 18ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๒๑ บริษัท ณิชาพล กรุ๊ป จำกัด ๐๑๑๕๕๕๖๐๒๔๕๐๑ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๒๒ บริษัท เอฟ วัน เอส จำกัด ๐๑๑๕๕๖๑๐๑๙๓๗๕ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๒๓ บริษัท เฮลท์ตี้พาราไดซ์ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๑๐๐๙๔๐๗ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๒๔ บริษัท เอสพีดับเบิ้ลยู ช็อป จำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๑๘๑๐๑ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๒๕ บริษัท อาร์คิเทค โซลูชั่นส์ จำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๒๒๗๔๔ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๒๖ บริษัท ไอเก็ท เลิร์นนิ่ง แล็บ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๐๐๐๑๐๐๓ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๒๗ บริษัท สป้ด บิซซ่า จำกัด ๐๑๓๕๕๖๐๐๐๖๐๘๓ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๒๘ บริษัท ศรีละออเพชรทอง กรุ๊ป จำกัด ๐๑๔๕๕๖๒๐๐๓๐๙๐ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๒๒๙ บริษัท ไบโอ แวลลู จำกัด ๐๑๕๕๕๕๔๐๐๐๐๒๘ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ อ่างทอง ๒๓๐ บริษัท เอ ไอ เทคโนโลยี แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ๐๗๐๕๕๔๒๐๐๐๒๘๖ ๑๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๒๓๑ บริษัท ทองหุ้มเยาวราช จำกัด ๐๖๐๕๕๕๖๐๐๑๓๖๑ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๒๓๒ บริษัท พารากอน ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๑๓๕๕๔๗๐๐๐๕๐๖ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๓๓ บริษัท สยาม เซอร์ไวเวอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๕๐๓๕๓๙๘ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 19ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๓๔ บริษัท มณีวงศ์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๕๗๐๔๐๕๙๓ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๓๕ บริษัท สตางค์ไทย ๒๐๑๙ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๑๐๕๘๓ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๓๖ บริษัท พีพีเค. โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๒๐๓๐๙ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๓๗ บริษัท คุณิตา จำกัด ๐๒๑๕๕๖๑๐๐๗๕๔๖ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๒๓๘ บริษัท ซีวาย จีพีเอส จำกัด ๐๒๑๕๕๖๒๐๐๙๗๔๗ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๒๓๙ บริษัท กู๊ดแมน กรุ๊ป จำกัด ๐๒๕๕๕๖๐๐๐๑๓๓๑ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๒๔๐ บริษัท ฟีนิกซ์ บิซ เบสท์ จำกัด ๐๕๑๕๕๖๓๐๐๐๘๓๐ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำพูน ๒๔๑ บริษัท แคร์เท็กซ์ เอเซีย จำกัด ๐๑๐๕๕๔๕๐๐๑๙๓๙ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๔๒ บริษัท ฟอร์จูน อินเตอร์ พลาสท์ จำกัด ๐๑๐๕๕๕๒๐๓๓๔๐๙ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๔๓ บริษัท นิรมิต กรุ๊ป จำกัด ๐๑๐๕๕๕๖๐๔๖๑๔๙ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔๔ บริษัท พลังทรัพย์ ๔๕๙๙ (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๐๕๕๕๗๐๔๙๑๘๔ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔๕ บริษัท ทริปเปิ้ล ดี เอ็กเพรส ทรานสปอร์ต (๒๐๑๖) จำกัด ๐๑๑๕๕๕๙๐๒๐๙๕๗ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๔๖ บริษัท พี. ดับเบิ้ลยู. เฟิร์สท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ๐๑๒๕๕๔๙๐๑๑๒๐๓ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี 20ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๔๗ บริษัท บูมกลาส จำกัด ๐๑๒๕๕๕๖๐๒๓๔๖๗ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔๘ บริษัท เอ เอดูเคชั่น จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๐๒๒๗๘ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔๙ บริษัท โซล่า ชิปปิ้ง แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๐๐๖๐๑ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๕๐ บริษัท หยกจักรพรรดิ์ จำกัด ๐๑๒๕๕๖๓๐๐๗๘๓๘ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๕๑ บริษัท ธีรวัฒน์ คอนสตรัคชั่น ๑๙๗๕ จำกัด ๐๖๐๕๕๖๒๐๐๐๗๒๐ ๑๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๒๕๒ บริษัท มัทที โจซท์ จำกัด ๐๗๗๕๕๔๘๐๐๖๐๓๑ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๒๕๓ บริษัท ธัญญชล จำกัด ๐๑๙๕๕๕๒๐๐๐๖๓๒ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๒๕๔ บริษัท เล็ทส์โกภูเก็ต จำกัด ๐๘๓๕๕๕๗๐๐๕๑๗๒ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๒๕๕ บริษัท เจ จิราภรณ์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ๐๘๔๕๕๖๒๐๐๘๒๒๒ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๕๖ บริษัท สุริวงศ์ ชุมพร จำกัด ๐๘๖๕๕๕๔๐๐๐๑๓๗ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ชุมพร ๒๕๗ บริษัท นิติศักดิ์ จำกัด ๐๙๐๕๕๕๑๐๐๐๕๗๗ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๕๘ บริษัท เอ็น เค ฟิตเนส หาดใหญ่จำกัด ๐๙๐๕๕๖๒๐๐๑๖๗๗ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๕๙ บริษัท สิงห์เทพคอนเทนเนอร์ทีม จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๓๑๑๐๙ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 21ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๖๐ บริษัท ยูนิเวอร์ซัล โกลฟส์ จำกัด ๐๔๐๕๕๖๓๐๐๓๕๔๖ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๒๖๑ บริษัท ร้อยเอ็ด อินโนเวชั่น จำกัด ๐๔๕๕๕๕๒๐๐๐๒๖๕ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด ๒๖๒ บริษัท เอ เอ็น ที เทรดดิ้ง จำกัด ๐๕๐๕๕๔๖๐๐๒๙๙๔ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๖๓ บริษัท บอร์เดเนฟ เชียงใหม่จำกัด ๐๕๐๕๕๕๗๐๐๘๔๙๒ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๖๔ บริษัท เท รา บิลท์ ซิสเต็ม จำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๐๗๗๗๒ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๖๕ บริษัท วีเอชอาร์ ลิสซิ่ง จำกัด ๐๕๒๕๕๕๗๐๐๐๒๘๙ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๒๖๖ บริษัท เออีซี แชมป์ แอร์คูลเลอร์ จำกัด ๐๕๗๕๕๕๗๐๐๐๗๗๗ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๒๖๗ บริษัท เออีซี แชมป์เปี้ยน แอร์คูลเลอร์ จำกัด ๐๕๗๕๕๕๗๐๐๐๙๒๑ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๒๖๘ บริษัท พินทร์รัช จำกัด ๐๑๐๕๕๓๒๐๔๔๑๗๑ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๒๖๙ บริษัท เดอะติวเตอร์กรุ๊ป จำกัด ๐๑๐๕๕๕๘๐๕๒๓๙๑ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๗๐ บริษัท ไมดาส อินเวสเตอร์ จำกัด ๐๑๐๕๕๕๙๑๕๙๘๑๕ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๗๑ บริษัท จิณห์มณีจำกัด ๐๑๑๕๕๔๘๐๐๙๕๒๓ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๗๒ บริษัท แม็กซ์ฟิลล์ ๓๔ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๗๐๐๓๘๘๕ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี 22ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๗๓ บริษัท มหานทีอควา วีดา จำกัด ๐๑๒๕๕๖๓๐๑๕๔๒๓ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๗๔ บริษัท ดาวีดอฟ จำกัด ๐๗๗๕๕๕๗๐๐๐๑๘๐ ๑๖ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๒๗๕ บริษัท เอสเซ่บิวตี้จำกัด ๐๖๐๕๕๕๓๐๐๐๗๙๘ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๒๗๖ บริษัท คอนซีคอนกรีต โปรดักส์ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๐๖๘๗๗ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๗๗ บริษัท พังแป้น ๒๐๑๙ จำกัด ๐๙๐๕๕๖๒๐๐๕๘๒๖ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๗๘ บริษัท เลยคำหิน -ทราย จำกัด ๐๔๒๕๕๖๓๐๐๐๑๖๔ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ เลย ๒๗๙ บริษัท จิณัฐตาโฮม จำกัด ๐๒๑๕๕๕๗๐๐๗๒๑๙ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๒๘๐ บริษัท เสาวณีย์ โฮม จำกัด ๐๒๑๕๕๖๐๐๐๐๙๕๕ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๒๘๑ บริษัท วิสตัน ดิสทริบิวชั่น จำกัด ๐๒๔๕๕๖๐๐๐๐๙๑๒ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๒๘๒ บริษัท กิจการร่วมคำหอมแดงศรีสะเกษ จำกัด ๐๓๓๕๕๖๐๐๐๐๙๑๑ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ศรีสะเกษ ๒๘๓ บริษัท เค .พี.คอนสตรัคชั่น (อำนาจเจริญ) จำกัด ๐๓๓๕๕๖๐๐๐๑๐๓๙ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ศรีสะเกษ ๒๘๔ บริษัท ที .เอ็ม .คอนสตรัคชั่น (บึงกาฬ) จำกัด ๐๓๓๕๕๖๐๐๐๑๐๔๗ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ศรีสะเกษ ๒๘๕ บริษัท เยลโล เฮ้าส์ เชียงใหม่จำกัด ๐๕๐๕๕๖๐๐๐๓๙๖๐ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ 23ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๘๖ บริษัท ลาบเมืองป้ำว จำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๐๙๖๔๓ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๘๗ บริษัท จิวเวลรี่มาร์เก็ตติ้ง เซนเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๑๕๑๕๕ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๘๘ บริษัท ชัยโอฬาร บรอนซ์ จำกัด ๐๑๐๕๕๔๖๐๘๘๕๘๒ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ สุพรรณบุรี ๒๘๙ บริษัท สุนีย์ตรีเพชร จำกัด ๐๑๑๕๕๓๘๐๐๙๗๕๐ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๙๐ บริษัท แสงทอง สแปร์พาร์ท จำกัด ๐๑๑๕๕๔๕๐๐๙๔๙๒ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๙๑ บริษัท พีเคเค ไมครอน จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๐๑๓๐ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๙๒ บริษัท เก้าโชกุน จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๔๑๒๗ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๙๓ บริษัท ทวีดลยวิทย์ จำกัด ๐๑๒๕๕๓๖๐๐๐๗๙๘ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๙๔ บริษัท พรีเมียร์ ซัพพลาย จำกัด ๐๑๒๕๕๕๓๐๑๗๐๓๒ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๙๕ บริษัท เวย์ยี่ โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๓๐๘๑๖ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๙๖ บริษัท เอพีพีซับคอนแทรค จำกัด ๐๑๓๕๕๕๗๐๐๑๑๐๖ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๙๗ บริษัท อมรา แลบอราทอรี่จำกัด ๐๖๕๕๕๕๙๐๐๐๒๘๕ ๑๗ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๒๙๘ บริษัท เกษตรทิพย์ การแร่จำกัด ๐๗๓๕๕๕๗๐๐๑๑๕๑ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม 24ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๙๙ บริษัท วาสนา รวยทรัพย์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ๐๑๙๕๕๕๘๐๐๑๗๙๗ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สระบุรี ๓๐๐ บริษัท เชียงตะวัน จำกัด ๐๘๖๕๕๖๐๐๐๐๐๕๔ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชุมพร ๓๐๑ บริษัท ปุยศิริทรัพย์ จำกัด ๐๙๐๕๕๔๙๐๐๐๙๔๘ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๓๐๒ บริษัท พรอส ฟู้ดส์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๘๐๒๐๐๑๔ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๐๓ บริษัท ภาสวิชญ์ เอ้าท์ซอร์ส เซอร์วิส จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๒๐๐๖๒ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๐๔ บริษัท อำไพและเพื่อน ๕๑ จำกัด ๐๕๒๕๕๕๔๐๐๐๕๕๕ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๓๐๕ บริษัท เวียงเอก พรอพเพอร์ตี้จำกัด ๐๕๔๕๕๓๙๐๐๐๑๕๙ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ แพร่ ๓๐๖ บริษัท ยงสินพลาสติค จำกัด ๐๑๐๕๕๓๒๐๒๕๒๑๔ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๓๐๗ บริษัท ทิพยวิมาน จำกัด ๐๑๒๕๕๔๖๐๐๒๙๖๓ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๓๐๘ บริษัท พันธุ์ทิพย์เมกกิ้งเว็บไซต์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๔๐๐๗๕๑๑ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๐๙ บริษัท เอส เค แมเนจเม้นท์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๗๐๒๐๐๓๘ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๑๐ บริษัท พีระภัทร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด ๐๑๒๕๕๕๗๐๐๓๖๕๖ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๑๑ บริษัท มอเตอร์คลาสสิคชอปส์ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๙๐๑๗๒๕๕ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี 25ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๑๒ บริษัท เคแอลเอ็น บิวดิ้ง จำกัด ๐๑๓๕๕๕๖๐๐๑๐๑๓ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๑๓ บริษัท นฤชา อิเลคทริค เอ็นจิเนียริ่ง ซัพพลาย จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๑๔๑๙๕ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๑๔ บริษัท มุทิตา พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ๐๘๓๕๕๕๓๐๐๒๒๔๑ ๑๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๑๕ บริษัท กู๊ด เซปเทมเบอร์ จำกัด ๐๑๐๕๕๕๕๐๗๑๗๑๙ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๑๖ บริษัท วี .เอ็ม .เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ๐๘๔๕๕๖๒๐๐๘๖๓๐ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๓๑๗ บริษัท บราวน์ -เอเบิ้ล จำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๐๖๒๑๑ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๑๘ บริษัท วี .อาร์ .เจ ออโต้จำกัด ๐๑๓๕๕๕๔๐๐๘๘๙๔ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๑๙ บริษัท นิกำ อินเตอร์เทรด จำกัด ๐๑๓๕๕๕๕๐๐๗๒๐๔ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๒๐ บริษัท เอ็กแซคท์ เมนเนจเมนท์ คอนซัลแทนต์ส จำกัด ๐๑๓๕๕๕๗๐๑๙๗๗๓ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๒๑ บริษัท พิภพ รุ่งเรืองกิจ จำกัด ๐๑๔๕๕๖๑๐๐๓๙๒๔ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๓๒๒ บริษัท ทะเล พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๕๐๓๕๗๐๓ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๒๓ บริษัท ป .โชคนรินทร์ ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๒๐๕๕๕๖๐๑๕๖๙๒ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๒๔ บริษัท วันสุข เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๕๗๐๐๙๙๐๔ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 26ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๒๕ บริษัท โฟกัส โลจิสติกส์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๗๐๑๙๔๔๖ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๒๖ บริษัท เนสท์ เสิร์ชเชอร์ พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๐๐๓๘๓ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๒๗ บริษัท ซีชัย อินดัสทรีจำกัด ๐๓๐๕๕๖๓๐๐๔๕๔๓ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๓๒๘ บริษัท วินเจ็น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๓๕๕๕๕๔๐๐๐๑๔๐ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ยโสธร ๓๒๙ บริษัท นาคา อินโนเวชั่น จำกัด ๐๔๙๕๕๖๐๐๐๐๐๑๕ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๓๓๐ บริษัท นิวดอว์นเอแอนด์เอ็มอิ้ง จำกัด ๐๕๒๕๕๖๐๐๐๑๒๑๕ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๓๓๑ บริษัท เอสเธติค เอเชีย จำกัด ๐๕๗๕๕๖๑๐๐๐๖๓๘ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๓๓๒ บริษัท ไม้งามดี ยูเนี่ยน จำกัด ๐๕๗๕๕๖๒๐๐๑๓๖๑ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๓๓๓ บริษัท เอสเอ็มอีมาร์เก็ต ๒๐๑๙ จำกัด ๐๗๓๕๕๖๒๐๐๔๕๐๓ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๓๓๔ บริษัท อมาน่า ซัพพลาย จำกัด ๐๗๔๕๕๖๑๐๐๑๘๒๙ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๓๓๕ บริษัท ซีสกาย แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด ๐๘๓๕๕๖๒๐๐๐๑๓๒ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๓๖ บริษัท เอเทค แคปิตอล จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๙๓๓๑ ๒๑ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๓๗ บริษัท ทังส์แลมอุตสาหกรรม จำกัด ๐๑๐๕๕๒๓๐๐๑๒๙๔ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม 27ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๓๘ บริษัท โฟร์วิน คอนซัลทิงค์ แอนด์ เทคโนโลยีจำกัด ๐๑๐๕๕๕๕๐๐๕๐๕๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ จันทบุรี ๓๓๙ บริษัท เฟอร์รี่ (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๐๕๕๕๙๑๑๖๖๘๗ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๔๐ บริษัท ยงศิริจำกัด ๐๑๑๕๕๒๖๐๐๐๗๗๙ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๔๑ บริษัท เบทเทอร์ แวลู จำกัด ๐๑๑๕๕๕๘๐๑๔๐๗๔ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๔๒ บริษัท เอ็มม่า โพรดักส์ จำกัด ๐๑๑๕๕๕๘๐๑๗๕๓๗ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๔๓ บริษัท ทีดับบลิวพีกรุ๊ป จำกัด ๐๑๑๕๕๕๙๐๑๙๖๒๒ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๔๔ บริษัท มีอนาคต จำกัด ๐๑๑๕๕๖๑๐๑๒๒๒๒ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๓๔๕ บริษัท เจ -สกาย แทรเวล เซอร์วิส จำกัด ๐๑๒๕๕๕๙๐๒๔๗๐๗ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๔๖ บริษัท เบนซ์ นครอินทร์ เซอร์วิส นนทบุรีจำกัด ๐๑๒๕๕๖๒๐๒๙๖๖๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๔๗ บริษัท ยูรักคุณ ๒๐๐๖ จำกัด ๐๑๔๕๕๔๙๐๐๒๓๓๖ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๓๔๘ บริษัท พ .เพิ่มพูนทวีทรัพย์ จำกัด ๐๑๔๕๕๖๐๐๐๐๕๑๔ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๓๔๙ บริษัท บี .ยู.อาร์ .เอส จำกัด ๐๒๐๕๕๔๙๐๐๐๔๓๐ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๕๐ บริษัท แอล. บุ๊ทเลอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๗๐๓๔๗๒๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 28ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๕๑ บริษัท ดีเคแอล เทรดดิ้ง เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๑๐๐๐๔ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๕๒ บริษัท ซามูไร อินเตอร์ ฟู้ด จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๐๕๗๕๐ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๕๓ บริษัท เอ็มฟูดส์ ซัคเซส จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๐๗๕๕๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๕๔ บริษัท โกลบอล เวนเชอร์ ๒๐๑๙ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๒๖๓๕๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๕๕ บริษัท ชาห์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ๐๒๑๕๕๖๒๐๑๐๓๕๔ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๓๕๖ บริษัท นีลเซ่น สตูดิโอ จำกัด ๐๒๑๕๕๖๒๐๑๐๗๑๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๓๕๗ บริษัท ชิ -เอเชีย มอนเตเวอเด จำกัด ๐๒๑๕๕๖๓๐๐๕๘๒๖ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๓๕๘ บริษัท โอบาจิกรุ๊ป จำกัด ๐๓๐๕๕๖๐๐๐๔๓๖๔ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๓๕๙ บริษัท โซ -วัน (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๓๐๕๕๖๒๐๐๓๘๙๖ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๓๖๐ บริษัท สบายดีแลนด์ จำกัด ๐๓๑๕๕๕๔๐๐๐๓๙๕ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๓๖๑ บริษัท เจ เอ็น เอ็น ๒๐๑๖ จำกัด ๐๓๕๕๕๕๙๐๐๐๓๒๖ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ยโสธร ๓๖๒ บริษัท ซูพรีม ชาร์โคล จำกัด ๐๔๐๕๕๖๐๐๐๐๙๗๐ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๓๖๓ บริษัท เรียวฟ้า วีแกน จำกัด ๐๔๐๕๕๖๑๐๐๑๗๓๒ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น 29ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๖๔ บริษัท เคเคเอ็ม ไรซ์อินเตอร์เทรด จำกัด ๐๔๐๕๕๖๒๐๐๔๗๐๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๓๖๕ บริษัท เค ชนะ แอคเคาท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด ๐๕๐๕๕๖๐๐๑๗๖๑๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๓๖๖ บริษัท เขลางค์กู้ดส์ซัพพลาย จำกัด ๐๕๒๕๕๖๑๐๐๐๘๔๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๓๖๗ บริษัท เมืองลับแล เคเบิ้ลทีวีจำกัด ๐๕๓๕๕๔๔๐๐๐๐๗๒ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๓๖๘ บริษัท จีเค กู๊ด ซัพพรายเออร์ จำกัด ๐๖๕๕๕๖๒๐๐๑๗๘๕ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๓๖๙ บริษัท จตุรมิตร (ดับบลิว เอส เอ็น) จำกัด ๐๗๓๕๕๓๙๐๐๐๗๙๓ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๓๗๐ บริษัท อาซากิคอร์ปอเรชั่น จำกัด ๐๗๓๕๕๖๐๐๐๒๙๔๕ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๓๗๑ บริษัท เฮ่าเทียน พลาสติก จำกัด ๐๗๔๕๕๖๒๐๐๔๗๐๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๓๗๒ บริษัท เวสท์ลินด์ จำกัด ๐๗๖๕๕๕๐๐๐๐๒๒๒ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๓๗๓ บริษัท มัณฑนา ร่มธรรม จำกัด ๐๗๖๕๕๕๙๐๐๐๑๑๐ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ เพชรบุรี ๓๗๔ บริษัท พีพีพีพี ๒๐๐๗ จำกัด ๐๗๗๕๕๔๙๐๐๔๗๔๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๓๗๕ บริษัท ลอตต้า ๒๐๐๖ จำกัด ๐๗๗๕๕๕๐๐๐๐๐๑๐ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๓๗๖ บริษัท แคมป์เวส ๒๐๐๖ จำกัด ๐๗๗๕๕๕๐๐๐๐๑๖๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ 30ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๗๗ บริษัท ฮอร์สแอนด์ด็อกเฟรนด์ จำกัด ๐๘๓๕๕๕๔๐๐๘๓๑๖ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๗๘ บริษัท อริญชย์ แอสเซ็ทส์ จำกัด ๐๘๓๕๕๕๙๐๑๕๗๖๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๗๙ บริษัท บี .เค.เอฟ. เซอร์วิส จำกัด ๐๘๓๕๕๖๑๐๐๖๑๘๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๘๐ บริษัท เทียนยี่ เน็ตเวิร์ค เทคโนโลยีจำกัด ๐๘๓๕๕๖๓๐๐๖๖๗๓ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๓๘๑ บริษัท เว็ททิเวอร์ จำกัด ๐๘๔๕๕๕๖๐๐๑๔๔๑ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๓๘๒ บริษัท เอ็มเอแอลเอส จำกัด ๐๘๔๕๕๕๘๐๐๙๗๐๘ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๓๘๓ บริษัท บีเจพีหงส์ศิลา จำกัด ๐๙๐๕๕๖๑๐๐๔๗๕๓ ๒๒ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๓๘๔ บริษัท เอเชีย ฟีดเดอร์ แมชชีนเนอรี่พาร์ท จำกัด ๐๑๔๕๕๕๙๐๐๓๖๗๐ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๓๘๕ บริษัท ศุภางค์เภสัช จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๐๑๑๘๒ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๓๘๖ บริษัท ทองหล่อโลจิสติกส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๒๑๕๗๔ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๘๗ บริษัท มาสฮาร์ดแวร์ จำกัด ๐๙๐๕๕๕๔๐๐๒๙๕๓ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๓๘๘ บริษัท บีทีวีเอส จำกัด ๐๑๓๕๕๖๐๐๐๓๑๖๕ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๘๙ บริษัท กฎหมายโชติวงษ์แก้วชัยธุรกิจและการบัญชีจำกัด ๐๘๑๕๕๕๖๐๐๐๑๒๖ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ กระบี่ 31ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๙๐ บริษัท บ้านของเรา โยโดโด อินน์ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๑๑๔๓๑ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๓๙๑ บริษัท พี .เอ็ม .ที.เทรดดิ้ง จำกัด ๐๗๔๕๕๕๘๐๐๐๒๐๕ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๓๙๒ บริษัท สรรัช จำกัด ๐๕๐๕๕๕๕๐๐๗๕๓๗ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๓๙๓ บริษัท อัลติเมท เอพีจำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๒๐๖๙๘ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๙๔ บริษัท ธันเดอร์ แพคเกจจิ้ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๐๖๔๘๑ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๙๕ บริษัท คุ้มกระดาษ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๖๐๑๘๕๕๒ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๙๖ บริษัท สยาม อินเตอร์ กรู๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ๐๑๒๕๕๕๖๐๐๖๓๗๖ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๙๗ บริษัท โยคะเวิร์ค จำกัด ๐๑๒๕๕๔๘๐๑๔๑๕๒ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๓๙๘ บริษัท เอ็มเอ็น ซิลิกำ จำกัด ๐๗๓๕๕๖๑๐๐๘๒๕๔ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๓๙๙ บริษัท นายขนมต้ม จำกัด ๐๑๔๕๕๖๑๐๐๓๑๓๔ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๔๐๐ บริษัท บิวตี้ไลฟ์สไตล์ จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๐๙๗๔๑ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๐๑ บริษัท ซีวิลเทรดดิ้ง จำกัด ๐๑๑๕๕๕๙๐๑๑๔๒๗ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๐๒ บริษัท จอร์จ แอนด์ ซัน จำกัด ๐๑๑๕๕๕๗๐๐๙๔๑๗ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ 32ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๐๓ บริษัท ชาญระวีจำกัด ๐๑๑๕๕๔๖๐๐๖๖๒๔ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๐๔ บริษัท วัยดรุณพัฒนา จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๐๕๒๔๒ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๐๕ บริษัท กาญศา กรุ๊ป จำกัด ๐๑๐๕๕๕๗๐๗๑๓๓๓ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๔๐๖ บริษัท ไทยโปรเกรส เพาเวอร์ จำกัด ๐๓๐๕๕๖๑๐๐๗๘๐๔ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๔๐๗ บริษัท อาร์เอ็น กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๓๐๕๕๖๐๐๐๒๕๙๑ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๔๐๘ บริษัท อินเตอร์ สเปเชียล สตีล จำกัด ๐๑๐๕๕๔๖๑๕๔๒๘๓ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๐๙ บริษัท ทีเคบิซ ๒๐๑๙ จำกัด ๐๒๕๕๕๖๒๐๐๐๕๑๑ ๒๓ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๔๑๐ บริษัท ดีว่า บารมีดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๑๙๗๔๐ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๑๑ บริษัท เอสพี เคมิคอล แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๑๐๐๘๘ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๑๒ บริษัท มีเซ้นส์ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๖๐๐๖๑๔๗ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๑๓ บริษัท โอม เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๒๐๐๗๐๗๖ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๑๔ บริษัท ริช ลักซ์ซูรี่ทัวร์ จำกัด ๐๑๒๕๕๖๑๐๑๒๕๔๑ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๑๕ บริษัท เดอะ ทริปเปิล พีจำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๒๒๙๑๗ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี 33ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๑๖ บริษัท เวลธีแอนด์สตรอง จำกัด ๐๑๒๕๕๕๗๐๒๐๗๗๑ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๑๗ บริษัท คอร์ซฟ็อก เอนจิเนียริ่ง แอนด์ เอ็กซ์เพอทีส เซอร์วิสเซส จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๗๕๘๔ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๑๘ บริษัท ธนารักษ์ เอ็นจิเนียริ่ง (๑๙๘๘) จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๓๐๒๖๐ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๑๙ บริษัท สอน เซอร์วิส จำกัด ๐๑๐๕๕๕๙๑๗๓๓๕๔ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๔๒๐ บริษัท มาก่อน (เพชรบูรณ์) จำกัด ๐๑๐๕๕๖๑๑๗๒๘๗๔ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เพชรบูรณ์ ๔๒๑ บริษัท ชัยสุวรรณพัฒนา จำกัด ๐๑๐๕๕๔๙๑๒๑๔๘๓ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๒ บริษัท เฮมพ์ ออแกนิก จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๐๐๓๘๑ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๓ บริษัท สยาม เอ็กซ์ควิซิท จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๑๕๘๔๔ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๔ บริษัท รุ่งเรืองกิจ ๑๙๙๔ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๑๕๓๔๘ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๕ บริษัท รุ่งวิวัฒน์ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๗๐๐๙๓๑๖ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๖ บริษัท กรีราพีรา จำกัด ๐๕๐๕๕๕๑๐๐๓๔๔๘ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๗ บริษัท คีอานุคาร์เลย์ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๑๐๐๓๔๓๐ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๒๘ บริษัท ศรีมุทราณีจำกัด ๐๕๐๕๕๕๑๐๐๓๔๕๖ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ 34ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๒๙ บริษัท พลจารย์ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๑๐๐๓๔๙๙ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๓๐ บริษัท ทรัพย์อาภากร จำกัด ๐๒๓๕๕๖๐๐๐๐๑๖๕ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ตราด ๔๓๑ บริษัท ซี.ไอ.ซีวิล ซัพพลาย จำกัด ๐๒๑๕๕๕๕๐๐๑๕๔๐ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๔๓๒ บริษัท จีซีซีคิว๘ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๒๒๙๐๘ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๓๓ บริษัท เอเชีย ไฮท์ทาวเวอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๘๐๒๐๐๘๑ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๓๔ บริษัท ยัสสุ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๕๖๐๐๕๙๒๑ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๓๕ บริษัท แดน ทอร์ ๓ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๒๐๒๑๘๓๓ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๓๖ บริษัท แฮปปี้วิน จำกัด ๐๗๓๕๕๕๖๐๐๖๐๖๑ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๔๓๗ บริษัท เปียมทรัพย์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ๐๗๒๕๕๓๙๐๐๐๔๑๖ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ สุพรรณบุรี ๔๓๘ บริษัท ฟาสท์ แทร็ค เทคนิค จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๑๔๐๖๓ ๒๔ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๓๙ บริษัท รณิดา เทรดดิ้ง จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๑๕๙๕๗ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๔๐ บริษัท วีมิสชัน จำกัด ๐๖๒๕๕๔๖๐๐๐๐๕๒ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๔๔๑ บริษัท อินโดจีน เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ๐๖๕๕๕๕๒๐๐๐๕๖๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก 35ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๔๒ บริษัท เอส.วี.ดี. มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ๐๖๕๕๕๖๐๐๐๒๐๗๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๔๔๓ บริษัท เจเอสวัน โซลูชั่นส์ จำกัด ๐๗๒๕๕๖๒๐๐๐๙๒๓ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สุพรรณบุรี ๔๔๔ บริษัท เอเชีย วอเตอร์ เทคโนโลยี โซลูชัน จำกัด ๐๗๓๕๕๕๙๐๐๕๘๕๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๔๔๕ บริษัท วี โปรดักส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๗๓๕๕๖๑๐๐๒๔๗๗ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๔๔๖ บริษัท ศรีรายา พรอพเพอร์ตี้จำกัด ๐๘๑๕๕๕๘๐๐๑๔๑๓ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ กระบี่ ๔๔๗ บริษัท รติกานต์ ลีสซิ่ง จำกัด ๐๘๓๕๕๕๘๐๑๒๑๙๙ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๔๔๘ บริษัท เซาเทิร์น มารีน เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ๐๘๓๕๕๖๑๐๑๐๗๒๐ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๔๔๙ บริษัท ซีฟนอร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๔๐๐๙๔๗๔ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๐ บริษัท เคดีซีทัวร์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๖๐๑๙๖๗๑ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๑ บริษัท กรีนเวย์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๑๗๔๔๑ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๒ บริษัท ชิกิไซ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๓๑๒๐๖ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๓ บริษัท อะมิโก้ฮอสพิทอลลิตี้จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๓๗๖๗๑ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๔ บริษัท ลา วิลล่า ฮอสพิทอลลิตี้จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๐๓๐๖๑ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 36ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๕๕ บริษัท อะมิโก้ฮอลิเดย์ เวิลด์ จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๒๖๑๙๒ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๖ บริษัท สนิคกี้ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๑๒๑๙๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๕๗ บริษัท ตั้งทรงเจริญฟู้ด จำกัด ๐๒๕๕๕๖๒๐๐๐๐๖๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๔๕๘ บริษัท นิวทริไรซ์ จำกัด ๐๒๕๕๕๖๓๐๐๐๔๓๓ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๔๕๙ บริษัท มอลใหม่พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ๐๔๔๕๕๖๑๐๐๐๑๑๖ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๔๖๐ บริษัท สะลวง จำกัด ๐๕๐๕๕๕๕๐๐๔๘๖๔ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๖๑ บริษัท สยาม เวิลด์ไวด์เว็บ จำกัด ๐๑๐๕๕๔๔๐๙๙๔๕๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๖๒ บริษัท คอร์เบส จำกัด ๐๑๐๕๕๕๕๐๖๖๓๐๘ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๖๓ บริษัท ไอกลาส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ๐๑๑๕๕๕๖๐๐๖๕๒๐ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๖๔ บริษัท ฟู้ด เซิร์ฟ เทรดดิ้ง จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๐๑๐๒๒ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๖๕ บริษัท มาโน่ เทคโนโลยี แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๑๓๗๑๓ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๖๖ บริษัท ฟิวเจอร์ เวิลด์ แคร์ จำกัด ๐๑๑๕๕๖๑๐๐๗๔๒๓ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๖๗ บริษัท เอ็ม -ควอด จำกัด ๐๑๒๕๕๕๘๐๑๕๔๐๒ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ 37ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๖๘ บริษัท ออร์แกนิคุ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๐๗๒๔๑ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๖๙ บริษัท ดี เลอค่า จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๒๑๓๓๓ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๗๐ บริษัท ทีแอนด์ซีคอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๑๗๒๓๖ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๗๑ บริษัท ลัคกี้อินเตอร์ แอคเซส จำกัด ๐๑๔๕๕๔๘๐๐๐๗๑๒ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๔๗๒ บริษัท โรงงานคัดแยกขยะวงษ์พาณิชย์พานทอง จำกัด ๐๒๐๕๕๕๑๐๐๐๔๒๕ ๒๕ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๗๓ บริษัท บิวตี้เทรนด์ จำกัด ๐๕๒๕๕๖๑๐๐๐๙๕๖ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๗๔ บริษัท กฤตยามนต์ เฮ้าส์ จำกัด ๐๒๐๕๕๔๘๐๓๒๑๖๘ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๗๕ บริษัท บุญเสริม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๗๔๕๕๕๗๐๐๖๒๕๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๔๗๖ บริษัท ศิลาเทค -เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ๐๗๗๕๕๖๒๐๐๐๓๖๒ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๔๗๗ บริษัท ซีค เนเจอร์ เวิลด์ จำกัด ๐๗๓๕๕๖๑๐๐๐๒๐๒ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๔๗๘ บริษัท ทีเอ็ม .เซนโตซา จำกัด ๐๙๖๕๕๕๙๐๐๐๑๐๐ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นราธิวาส ๔๗๙ บริษัท เวฟ แอนิเมชัน จำกัด ๐๘๔๕๕๖๑๐๑๒๕๖๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๔๘๐ บริษัท คณาสิน เซิร์ฟเทค จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๑๗๓๕๕ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี 38ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๘๑ บริษัท สุพพัตรา เจริญมาก ก่อสร้าง จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๓๕๓๕๓ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๘๒ บริษัท ริชลี่คอสเมติกส์ กรุ๊ป จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๓๙๖๑๘ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๘๓ บริษัท พี .พี.เนิร์ส เซอร์วิส จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๐๑๘๔๓ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๔๘๔ บริษัท เอ็น ทู เอส กรุ๊ป โซลูชั่น จำกัด ๐๒๑๕๕๕๙๐๐๓๔๗๔ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๔๘๕ บริษัท โชคเมธีจำกัด ๐๒๒๕๕๖๑๐๐๐๗๐๓ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ จันทบุรี ๔๘๖ บริษัท ยุน เทคโนโลยี ๒๐๒๐ จำกัด ๐๓๑๕๕๖๓๐๐๑๒๕๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๔๘๗ บริษัท ค้ำคูณ เอสเตท จำกัด ๐๓๔๕๕๖๑๐๐๒๗๕๖ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๔๘๘ บริษัท เพชรทวีเลิงนกทำ จำกัด ๐๓๕๕๕๕๘๐๐๐๒๒๕ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ยโสธร ๔๘๙ บริษัท บริตต้า (ประเทศไทย) จำกัด ๐๔๐๕๕๕๙๐๐๐๘๘๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๔๙๐ บริษัท มายเวิลด์ ชำพัฒนา จำกัด ๐๔๐๕๕๖๐๐๐๕๖๒๙ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๔๙๑ บริษัท เฟม เคอเรจ จำกัด ๐๔๑๕๕๖๒๐๐๓๑๕๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๔๙๒ บริษัท อนวิน ซีเอ็ม คอสเมติค จำกัด ๐๕๐๕๕๖๑๐๑๗๕๕๗ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๔๙๓ บริษัท เอมแมช จำกัด ๐๑๐๕๕๔๖๐๙๖๒๗๕ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา 39ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๙๔ บริษัท สมาร์ท คาร์ โซลูชั่น จำกัด ๐๑๑๕๕๕๙๐๐๕๑๑๗ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๙๕ บริษัท แคนเดลา บิวตี้ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๑๘๒๑๙ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๔๙๖ บริษัท พี .พี เรสซิเดนท์ เซอร์วิส จำกัด ๐๑๒๕๕๕๓๐๐๗๑๗๗ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๙๗ บริษัท เอเอฟที (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๑๖๑๐๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๙๘ บริษัท ทัวร์มาลีน ทราเวล จำกัด ๐๑๓๕๕๕๘๐๑๙๒๗๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๔๙๙ บริษัท อินเตอร์เรลเอนจิเนียริ่ง แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๑๓๓๒๒ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๐๐ บริษัท โชคอนันต์ บิสซิเนสพลัส จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๐๙๒๓๐ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๐๑ บริษัท อริสเทล เซ็นทรัล จำกัด ๐๑๙๕๕๕๙๐๐๒๑๗๗ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ สระบุรี ๕๐๒ บริษัท ช .ชลบุรีแบตเตอรี่จำกัด ๐๒๐๕๕๔๘๐๒๙๗๙๕ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๐๓ บริษัท ไอลดา เจแปน จำกัด ๐๖๐๕๕๕๙๐๐๑๓๗๑ ๒๘ ก .ย. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๕๐๔ บริษัท มณีเลิศ จำกัด ๐๗๐๕๕๔๒๐๐๐๔๔๘ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๕๐๕ บริษัท อิวาน พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ๐๒๐๕๕๔๙๐๒๕๖๘๘ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๐๖ บริษัท อันซีน เซอร์วิส จำกัด ๐๗๕๕๕๖๐๐๐๐๐๘๐ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสงคราม 40ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๐๗ บริษัท คลอรีน พูล แอนด์ สวิมมิ่ง จำกัด ๐๘๓๕๕๖๒๐๑๖๔๔๖ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๕๐๘ บริษัท ปานามาแจ็ค จำกัด ๐๘๔๕๕๔๕๐๐๐๘๙๘ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๐๙ บริษัท เอ็นจอย สมุย จำกัด ๐๘๔๕๕๕๓๐๐๖๗๐๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๑๐ บริษัท โอเว่อร์อิท จำกัด ๐๘๔๕๕๕๕๐๐๑๑๓๗ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๑๑ บริษัท สตู โคเบลย์ โยคะ จำกัด ๐๘๔๕๕๕๙๐๐๔๓๗๘ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๑๒ บริษัท มณีโรจน์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ๐๙๐๕๕๕๒๐๐๐๒๙๕ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๕๑๓ บริษัท บิ๊กอเบาท์ ออโตเมชั่น จำกัด ๐๒๐๕๕๕๔๐๐๓๘๐๘ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๑๔ บริษัท เอสเค. เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่น จำกัด ๐๒๐๕๕๕๕๐๒๒๕๐๔ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๑๕ บริษัท แซทเทอร์เดย์ แรบบิท จำกัด ๐๒๐๕๕๕๘๐๓๑๑๘๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๑๖ บริษัท ศศิธร ไทย ฟู้ดส์ จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๒๑๑๙๗ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๑๗ บริษัท มิตร แมคคานิค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๖๐๐๒๒๕๖๘ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๑๘ บริษัท บุญล้อม ฟูดส์ จำกัด ๐๔๘๕๕๖๒๐๐๐๘๑๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นครพนม ๕๑๙ บริษัท เมทติโต้ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด ๐๒๑๕๕๖๐๐๐๑๕๕๒ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง 41ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๒๐ บริษัท แอเดียนท์ แอนด์ ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น อินทีเรียส์ จำกัด ๐๒๑๕๕๖๐๐๐๒๓๕๔ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๕๒๑ บริษัท เอสพีอินโนเวชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ๐๒๒๕๕๕๘๐๐๐๗๐๖ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ จันทบุรี ๕๒๒ บริษัท เอเชีย ฟรุ๊ต โปรดักชั่น จำกัด ๐๒๒๕๕๖๐๐๐๒๑๗๖ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ จันทบุรี ๕๒๓ บริษัท ไทเพิ่มสิน จำกัด ๐๒๓๕๕๕๕๐๐๐๕๔๓ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๕๒๔ บริษัท คเณศิลป์ ๕๔ จำกัด ๐๒๔๕๕๕๕๐๐๒๑๔๗ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๕๒๕ บริษัท ทองพันชั่ง๕๙ จำกัด ๐๒๔๕๕๖๐๐๐๐๐๘๔ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๕๒๖ บริษัท ทองปราจีน จำกัด ๐๒๕๕๕๖๐๐๐๑๙๔๓ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๕๒๗ บริษัท ปรีดากุลวาณิช ๙ จำกัด ๐๒๕๕๕๖๑๐๐๑๘๔๐ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๕๒๘ บริษัท ที เอ็น เค ไบโอแมส เอ็กซ์เปิร์ต จำกัด ๐๓๔๕๕๕๗๐๐๑๖๐๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๕๒๙ บริษัท ทรอปิคอล ๑๐๑ จำกัด ๐๔๕๕๕๖๐๐๐๑๓๐๕ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด ๕๓๐ บริษัท คูล ซิตี้จำกัด ๐๕๐๕๕๖๐๐๐๓๑๙๖ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๓๑ บริษัท เบอร์เจอร์สัน เนเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ๐๑๐๕๕๖๑๐๕๓๙๘๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๕๓๒ บริษัท เซล อินโนเวชั่น มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ๐๑๐๕๕๖๒๑๗๐๐๔๒ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี 42ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๓๓ บริษัท เอ .เอ็น .ทีซัพพลาย (๒๐๑๗) จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๐๙๓๕๐ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๓๔ บริษัท นูโว ทรานส์ จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๒๗๗๒๒ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๓๕ บริษัท นิวเจน พลำสแพ็ค จำกัด ๐๑๑๕๕๖๑๐๒๖๔๗๙ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๓๖ บริษัท ท๊อปแรงค์ อีโนวา จำกัด ๐๑๒๕๕๕๑๐๐๔๓๑๖ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๓๗ บริษัท บีเจอาร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๒๐๕๐๗ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๓๘ บริษัท ดูดีอินเตอร์เนชั่นแนล คอร์เปอเรชั่น จำกัด ๐๑๒๕๕๕๔๐๑๖๗๓๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๓๙ บริษัท เอ็นอีซี ๒๖ จำกัด ๐๑๓๕๕๕๙๐๒๒๒๘๓ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๔๐ บริษัท เจ แอนด์ เอ็น จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๒๒๓๙๒ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๔๑ บริษัท เดอะ กู๊ดวิล กรุ๊ป จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๑๓๘๕๑ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๔๒ บริษัท พิชชาภา ทรานสปอร์ต จำกัด ๐๑๔๕๕๕๙๐๐๓๙๓๙ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๕๔๓ บริษัท ป้ญจพล ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ๐๑๘๕๕๕๘๐๐๐๒๓๕ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ ชัยนาท ๕๔๔ บริษัท ฟรีไลฟ์ ดีไซน์ จำกัด ๐๑๙๕๕๔๖๐๐๐๑๕๔ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สระบุรี ๕๔๕ บริษัท มะลิแก้ว โฮลดิ้ง จำกัด ๐๗๔๕๕๖๒๐๐๔๖๑๙ ๒๙ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร 43ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๔๖ บริษัท ระนอง บราเธอร์ จำกัด ๐๘๕๕๕๖๑๐๐๐๕๑๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ระนอง ๕๔๗ บริษัท ลา -มูน คลับ ๒๐๑๗ จำกัด ๐๙๐๕๕๖๐๐๐๒๘๐๓ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สงขลา ๕๔๘ บริษัท มาคอส เมเลนเดส จำกัด ๐๘๔๕๕๔๘๐๐๗๙๑๕ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๔๙ บริษัท กรุงเทพวรรณกิจ จำกัด ๐๑๐๕๕๓๑๐๑๖๙๕๕ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๕๐ บริษัท จีโอคอน จำกัด ๐๑๐๕๕๓๕๑๑๙๒๘๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำปาง ๕๕๑ บริษัท อโกมา เมีย จำกัด ๐๑๐๕๕๕๕๑๕๕๒๒๐ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๕๒ บริษัท เวิลด์ สตรีทแวร์ จำกัด ๐๑๐๕๕๖๑๒๑๔๑๓๕ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๕๕๓ บริษัท น่ำฮงรับเบอร์อินดัสตรีส จำกัด ๐๑๑๕๕๒๖๐๐๐๔๕๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๕๔ บริษัท เคเอส วินเทจ (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๑๐๕๕๕๙๐๙๕๗๐๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๕๕ บริษัท ปรีหะจินดา จำกัด ๐๑๑๕๕๕๕๐๒๐๑๖๒ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๕๖ บริษัท เจ .เอช.เค. เมทัล เซอร์วิส จำกัด ๐๑๑๕๕๕๖๐๒๔๖๖๘ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๕๗ บริษัท ฆณา อินเตอร์เทรด จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๑๙๑๐๐ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๕๘ บริษัท มาร์ อินเตอร์เทคโน จำกัด ๐๑๑๕๕๖๐๐๒๕๙๖๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ 44ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๕๙ บริษัท ถุงทอง อินโนเวชั่น จำกัด ๐๑๑๕๕๖๒๐๒๑๙๐๐ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๖๐ บริษัท บ้านสองยาย จำกัด ๐๑๑๕๕๖๓๐๐๐๓๙๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๖๑ บริษัท คัมเวล จำกัด ๐๑๒๕๕๕๑๐๐๖๘๔๐ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๖๒ บริษัท บราเธอร์ แอนด์ ไวฟ์ จำกัด ๐๑๒๕๕๕๒๐๐๔๑๗๔ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๖๓ บริษัท เวิร์ฟ คอมมูนิเคชั่น คอนซัลติ้ง จำกัด ๐๑๒๕๕๖๐๐๑๐๔๗๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๖๔ บริษัท ครีเอทีฟ แมนส์ จำกัด ๐๑๒๕๕๖๓๐๐๐๔๐๐ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๕๖๕ บริษัท พีแอนด์ยูเอ็น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๑๓๕๕๔๕๐๐๔๓๑๘ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๖๖ บริษัท สหมิตร การสำรวจ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๑๐๒๓๓๕๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๖๗ บริษัท คอบีย๊ะ จำกัด ๐๑๓๕๕๖๒๐๒๔๔๑๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๕๖๘ บริษัท ดับเบิ้ลยูซี แอนด์ อาร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ๐๑๔๕๕๖๑๐๐๔๑๐๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๕๖๙ บริษัท ทิพอารีคอสเมติค จำกัด ๐๑๖๕๕๖๐๐๐๐๔๒๕ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ลพบุรี ๕๗๐ บริษัท เอส แอนด์ เอ พลัมเบอร์ (๒๐๑๙) จำกัด ๐๑๘๕๕๖๒๐๐๐๑๑๒ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชัยนาท ๕๗๑ บริษัท พี .พี.เค.ทรานส์ จำกัด ๐๑๙๕๕๕๗๐๐๑๙๔๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สระบุรี 45ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๗๒ บริษัท คีย์ เซฟตี้ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ๐๒๐๕๕๔๔๐๐๘๐๗๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๗๓ บริษัท ออสเตรีย -ไทย สปีคเรซิ่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๔๘๐๐๑๘๐๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๗๔ บริษัท พัทยามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ๐๒๐๕๕๕๖๐๐๘๗๔๒ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๗๕ บริษัท โอเจซิสเต็ม (ประเทศไทย) จำกัด ๐๒๐๕๕๕๙๐๐๒๒๐๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๗๖ บริษัท เจอหย่ง จำกัด ๐๒๐๕๕๖๑๐๑๐๖๗๙ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๗๗ บริษัท เจเอ็นเอ็นแอล กรุ๊ป จำกัด ๐๒๐๕๕๖๒๐๓๘๔๖๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๗๘ บริษัท โซลเทค เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด ๐๒๑๕๕๖๑๐๐๖๒๗๒ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ระยอง ๕๗๙ บริษัท พานาโซนิค แอ็พไลแอ็นซ์ อาร์ แอนด์ ดี เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด๐๒๔๕๕๔๘๐๐๑๑๖๕ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๕๘๐ บริษัท อบอุ่ณ ทราเวล จำกัด ๐๒๖๕๕๕๖๐๐๐๔๐๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครนายก ๕๘๑ บริษัท โชคชัย เรสซิเด้นซ์ จำกัด ๐๓๐๕๕๕๖๐๐๒๑๙๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๕๘๒ บริษัท โลคอลโฮสต์ เวนเจอร์ จำกัด ๐๓๐๕๕๖๒๐๐๕๒๘๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๕๘๓ บริษัท บุรีรัมย์วิจัยและพัฒนาอ้อย จำกัด ๐๓๑๕๕๓๙๐๐๐๒๙๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๕๘๔ บริษัท ขอนแก่นฟิลาเม้นท์ อินดัสทรีจำกัด ๐๔๐๕๕๕๐๐๐๐๐๕๕ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ขอนแก่น 46ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๘๕ บริษัท อาคมมิวเซียม จำกัด ๐๔๔๕๕๖๓๐๐๐๒๑๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๕๘๖ บริษัท เอ็นพี เอ็นจิเนียร์ แอนด์ คอนทรัคชั่น จำกัด ๐๔๗๕๕๕๙๐๐๐๖๑๙ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ สกลนคร ๕๘๗ บริษัท กำแพงเพชร กรีน เทคโนโลยีจำกัด ๐๖๒๕๕๖๒๐๐๐๙๐๘ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๕๘๘ บริษัท เจน ชำนน จำกัด ๐๕๐๕๕๕๕๐๐๔๒๓๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๘๙ บริษัท เคซีอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ๐๕๐๕๕๕๖๐๐๕๘๑๓ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๙๐ บริษัท จียู เอ จำกัด ๐๕๐๕๕๕๗๐๐๔๔๙๗ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๙๑ บริษัท ดวงดีคำข้าว จำกัด ๐๕๐๕๕๕๘๐๐๕๘๖๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๙๒ บริษัท ไบร์ท อัลโกเทรด จำกัด ๐๕๐๕๕๕๙๐๑๒๓๙๐ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๙๓ บริษัท ไทยไทยของฝาก จำกัด ๐๕๐๕๕๖๒๐๑๓๖๓๖ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๙๔ บริษัท เอกอะโกร ไบโอไซเอนซ์ จำกัด ๐๕๑๕๕๕๖๐๐๐๔๒๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ ลำพูน ๕๙๕ บริษัท นิวไทย อินเตอร์ทราเวล แอนด์ เอเจนซี่จำกัด ๐๕๗๕๕๖๒๐๐๑๒๒๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ เชียงราย ๕๙๖ บริษัท ทรัพย์ส่งแสง ออยล์ จำกัด ๐๗๓๕๕๓๗๐๐๒๕๐๑ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๕๙๗ บริษัท เบสท์ ท็อป ฟลาวเวอร์ จำกัด ๐๗๓๕๕๔๒๐๐๐๙๒๘ ๓๐ ก .ย. ๒๕๖๓ นครปฐม 47ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๙๘ บริษัท อาร์ แอนด์ ซีคลังข้าว จำกัด ๐๗๓๕๕๕๕๐๐๕๐๔๔ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๕๙๙ บริษัท เคเอ็มไอ .ทีม เซอร์วิส จำกัด ๐๗๓๕๕๕๖๐๐๑๘๐๘ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๖๐๐ บริษัท สแตนอโลน จำกัด ๐๗๓๕๕๕๘๐๐๓๒๑๒ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๖๐๑ บริษัท เคเอ็น มอเตอร์ ๒๐๑๗ จำกัด ๐๗๓๕๕๖๐๐๐๖๑๓๔ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ นครปฐม ๖๐๒ บริษัท เอส .เอ็ม .เค. ปิโตรเลี่ยม จำกัด ๐๗๔๕๕๕๔๐๐๐๓๖๗ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๖๐๓ บริษัท เหล็กบริบูรณ์ จำกัด ๐๗๔๕๕๕๕๐๐๑๕๗๐ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๖๐๔ บริษัท ห้างทองแม่เง็ก จำกัด ๐๗๔๕๕๕๙๐๐๗๐๐๙ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๖๐๕ บริษัท บลูออคิด บีชรีสอร์ท จำกัด ๐๘๑๕๕๖๒๐๐๑๒๖๑ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ กระบี่ ๖๐๖ บริษัท เพรงภัทร การสุรา จำกัด ๐๗๑๕๕๕๑๐๐๐๕๖๑ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ กาญจนบุรี ๖๐๗ บริษัท พี โอ เค พลัส จำกัด ๐๘๑๕๕๖๑๐๐๐๖๑๙ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ กระบี่ ๖๐๘ บริษัท เวทเตอร์ จำกัด ๐๘๔๕๕๔๗๐๐๐๖๙๑ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๖๐๙ บริษัท รีลิสซิ่ง (ไทยแลนด์) จำกัด ๐๘๔๕๕๕๕๐๐๕๒๕๖ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๖๑๐ บริษัท แก่งเชี่ยวหลาน เรียลเอสเตท จำกัด ๐๘๔๕๕๕๖๐๐๖๔๗๗ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี 48ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๖๑๑ บริษัท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (๒๐๑๙) จำกัด ๐๘๔๕๕๖๒๐๐๒๐๒๐ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๖๑๒ บริษัท ลูน่า ไลท์ จำกัด ๐๘๔๕๕๖๒๐๑๐๑๑๑ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๕ ค ประกาศ ณ: ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:114878", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๒๖๑/๒๕๖๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/C/005/T_0006.PDF", "year": null }
nonweb_122674
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดปัตตานี เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำจังหวัดปัตตานี เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ด้วย นายศิริชัย อธิคมวัตร ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสมาคมสหพันธ์มวยไทย นานาชาติ ดังนี้ ข้อบังคับ ของ สมาคมสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ------------- --------------------- -------- หมวดที่ ๑ ความทั่วไป ข้อ ๒ สำนักงานใหญ่ของสมาคม ตั้งอยู่ณ บ้านเลขที่ ๑๘๑/๘๗ ถนนยะรัง ตำบลจะบังติกอ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ๙๔๐๐๐ วันเวลาเปิดทำการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำนักงานสาขาของสมาคมตั้งอยู่ณ เลขที่ ๒๘๖ การกีฬาแห่งประเทศไทย อาคารห้องสมุดประชาชน (อาคาร ๑) ชั้น ๒ ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๔๐ วันเวลาเปิดทำการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ข้อ ๘ การสมัครเข้าเป็นสมาชิกวิสามัญของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกวิสามัญ ของสมาคมยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขาธิการ โดยมีสมาชิกสามัญรับรองอย่างน้อย ๑ คน และให้เลขาธิการติดประ กาศรายชื่อผู้สมัครไว้ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน เพื่อให้สมาชิกอื่น ๆ ของสมาคมจะได้คัดค้านของสมาชิก (ถ้ามี) เมื่อครบกำหนดประกาศแล้ว ให้เลขาธิการ หน้า ๒๒๖ นำใบสมัครและหนังสือคัดค้านของสมาชิก (ถ้ามี) เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณา เมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ให้เลขาธิการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบภายใน ๑๐ วัน ข้อ ๙ ถ้าคณะกรรมการสมาคมพิจารณาอนุมัติให้รับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกวิสามัญ ก็ให้ผู้สมัครนั้นชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุ งประจำปีให้เสร็จภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับ แจ้ง จากเลขาธิการ และสมาชิกภาพของผู้สมัคร ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้ชำระเงินค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าผู้สมัครมีได้ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมภายในกำหนด ก็ให้ถือว่าการสมัครคราวนั้นเป็นอันยกเลิก ข้อ ๑๐ สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญ ของผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม และคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งมีมติเห็นชอบ และรับรองโดยเสียงข้างมาก สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่คณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง มีมติเห็นชอบและรับรองโดยเสียงข้างมาก ข้อ ๑๑ สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้ ๑๑.๑ ตาย ๑๑.๒ ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขาธิการ และคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง ได้พิจารณาอนุมัติโดยเสียงข้างมาก และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย ๑๑.๓ ขาดคุณสมบัติสมาชิก ๑๑.๔ ไม่ชำระค่าบำรุงสมาคม เป็นระยะเวลาสองปีติดต่อกัน ๑๑.๕ ที่ประชุมใหญ่ของสมาคมได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน เพราะสมาชิกผู้นั้นได้ประพฤตินำความเสื่อมเสียสู่สมาคม และคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งได้พิจารณาอนุมัติ โดยเสียงข้างมาก หมวดที่ ๓ การดำเนินกิจการสมาคม ข้อ ๑๓ ให้มีคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อยเก้าคน และอย่างมากไม่เกินสิบเก้าคน โดยนายกสมาคมและเลขาธิการเป็นผู้ที่ได้รับการ เลือกตั้งจากสมาชิกสามัญ ตามข้อ ๕.๒ สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ได้รับการแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ คณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งโดยเสียงข้างมาก ทั้งนี้กรรมการของสมาคมมีตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ โดยสังเขป ดังนี้หน้า ๒๒๗ ๑๓.๑ นายกสมาคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าใน การบริหารกิจการของสมาคม ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม ๑๓.๒ อุปนายกอาวุโส ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกสมาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายกสมาคมให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่ง เป็นผู้กระทำการแทน ๑๓.๓ อุปนายก ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกสมาคม หรืออุปนายกอาวุโสมอบหมาย ๑๓.๔ เลขาธิการ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมทั้งหมด ในการปฏิบัติกิจการ ของสมาคม และเป็นเลขาธิการในการประชุมของสมาคม ๑๓.๕ รองเลขาธิการ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาธิการสมาคม ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่เลขาธิการสมาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนเลขาธิการสมาคมเมื่อเลขาธิการสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ๑๓.๖ เหรัญญิก ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน การบัญชี บัญชีทรัพย์สินของสมาคม จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายบัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบ ๑๓.๗ ปฏิคม ทำหน้าที่เกี่ยวกับการต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้า จัดเตรียมสถานที่ต่าง ๆ และเตรียมสถานที่ประชุมของสมาคม ๑๓.๘ นายทะเบียน ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนสมาชิก ทะเบียนประวัติ ตรวจสอบ คุณสมบัติของสมาชิกให้เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคม รวมทั้งประสานงานกับเหรัญญิก ในการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงจากสมาชิก ๑๓.๙ ประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่เผยแพ ร่การดำเนินกิจกรรมและชื่อเสียงเกียรติคุณ ของสมาคมแก่สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ๑๓.๑๐ กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับ ได้กำหนดไว้หน้า ๒๒๘ แต่ถ้าคณะกรรมการมิ ได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง นายกสมาคม อุปนายกอาวุโส อุปนายก คนใดคนหนึ่งลงลายมือชื่อร่วมกับเลขาธิการ หรือรองเลขาธิการ รวมเป็นสองคนเป็นผู้มีสิทธิลงนามร่วมกัน ในนามของสมาคม ข้อ ๑๔ คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ ในตำแหน่งคราวละ ๔ ปี นับตั้งแต่ที่ได้รับแต่งตั้ง กรรมการตำแหน่งต่าง ๆ ตามข้อบังคับ ๑๓ และอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ ข้อ ๑๕ ในกรณีตำแหน่งกรรมการสมาคมยกเว้นนายกสมาคมและเลขาธิการว่างลงก่อนครบวาระ ให้แต่งตั้งบุคคลที่เห็นสมควร เข้าดำรงตำแหน่งแทนโดยความเห็นชอบของคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง โดยเสียงข้างมากภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่กรรมการพ้นจากตำแหน่ง โดยให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระ ของกรรมการผู้นั้น ข้อ ๑๖ เมื่อตำแหน่งนายกสมาคมและหรือเลขาธิการว่างลง ให้คณะกรรมการจัดให้มีการประชุ มใหญ่ เพื่อเลือกตั้งเลขาธิการสมาคมภายใน ๔๕ วันนับแต่วันที่ตำแหน่งนายกสมาคมและหรือเลขาธิการสมาคมว่างลง ข้อ ๑๘ กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิ ใช่เป็นการออกตามวาระ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้คือ ๑๘.๑ ตาย ๑๘.๒ ลาออก ๑๘.๓ ที่ประชุมใหญ่มีมติให้พ้นจากตำแหน่ง และคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง ได้พิจารณาอนุมัติแล้ว ๑๘.๔ ขาดการประชุมสามครั้ง ติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือรวมหำครั้ง ในวาระของกรรมการชุดนั้นโดยให้เลขาธิการแจ้งให้กรรมการผู้นั้นทราบถึงการพ้นจากตำแหน่งด้วย ๑๘.๕ เมื่อนายกสมาคมและหรือเลขาธิการพ้นจากตำแหน่งตามข้อ ๑๘.๑ หรือ ๑๘.๒ ให้สมาชิกสามัญตามข้อ ๕.๒ ดำเนินการเลือกตั้งนายกสมาคมและหรือเลขาธิการสมาคมมาทำหน้าที่ แทนนายกสมาคมและหรือเลขาธิการที่พ้นจากตำแหน่ง ข้อ ๑๙ กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการ ให้ยื่นใบลาอ อกโดยทำหนังสือ เป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขาธิการและให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งมีมติเห็นชอบ โดยเสียงข้างมาก ข้อ ๒๐ อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ ๒๐.๑ มีอำนาจเสนอต่อคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งเพื่อออกระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบนั้นจะต้อ งไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้หน้า ๒๒๙ ๒๐.๒ มีอำนาจเสนอรายชื่อกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการเพื่อให้นายกสมาคม และเลขาธิการแต่งตั้งโดยให้อยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง ๒๐.๓ มีอำนาจจัดการประชุมใหญ่สามัญ (ordinary) และการประชุมใหญ่พิเศษ หรือวิสามัญ (extraordinary) ของสมาคม ๒๐.๔ มีอำนาจบริหารกิจการสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจน มีอำนาจอื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ ๒๐.๕ มีหน้าที่จัดเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ทรัพย์สิน และการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของสมาค มให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถให้สมาชิกตรวจดูได้ เมื่อสมาชิกร้องขอ ๒๐.๖ มีหน้าที่จัดทำบันทึกการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจัดส่งให้สมาชิกรับทราบ ๒๐.๗ มีหน้าที่อื่น ๆ ตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม ข้อ ๒๓ ในการประชุมคณะกรรม การ หากนายกสมาคมติดภารกิจ หรือไม่สามารถ เข้าประชุมได้ ให้อุปนายกอาวุโสเป็นประธานที่ประชุมแทน หากอุปนายกอาวุโสไม่สามารถ เข้าร่วมประชุมได้ ให้อุปนายกสมาคมที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุด เป็นประธานที่ประชุมแทน ถ้านายกสมาคม อุปนายกอาวุโส และอุปนายก ไม่อาจ เข้าร่วมประชุมได้ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม หมวดที่ ๔ การประชุมใหญ่ ข้อ ๒๕ การประชุมใหญ่สามัญประจำปี เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่จะต้องเสนอ คณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งเห็นชอบโดยเสียงข้างมาก เพื่อจัดให้มีขึ้นปีละครั้ง ไม่เกินเดือนเมษายนของทุก ๆ ปี โดยควรมีวาระการประชุมพอสังเขปดังต่อไปนี้ ๒๕.๑ ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ๒๕.๒ รับรองรายงานการประชุมใหญ่ครั้งที่แล้ว ๒๕.๓ แถลงผลงานที่ผ่านมาในรอบปี ๒๕.๔ แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และงบดุลของสมาคม ให้ที่ประชุมใหญ่อนุมัติ หน้า ๒๓๐ ๒๕.๕ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ๒๕.๖ เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี) ข้อ ๒๖ การประชุมใหญ่วิสามัญ จะมีขึ้นได้โดยเหตุที่คณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งโดยเสียงข้างมาก เห็นควรจัดให้มีขึ้น ข้อ ๒๘ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือการประชุมใหญ่วิสามัญ จะต้องมีสมาชิกสามัญ เข้าประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม แต่ถ้าเมื่อถึงกำหนด เวลาประชุมแล้วยังมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ก็ให้ขยายเวลาออกไปอีกตามสมควร แต่เมื่อครบเวลาที่ขยายออกไปแล้วยังมีสมาชิกสามัญ เข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประ ชุม ก็ให้เลื่อนการประชุม คราวนั้นออกไป แล้วจัดการประชุมใหม่อีกครั้งหนึ่งภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก สำหรับการประชุมครั้งหลังนี้ถ้ามีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม ยกเว้นถ้าเป็นการประชุมใหญ่วิสามัญที่ เกิดขึ้นจากการเชิญประชุมของคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งก็ไม่ต้องจัดประชุมใหญ่ ให้ถือว่าการประชุมเป็นอันยกเลิก ข้อ ๓๐ ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคม อุปนายกอาวุโส และอุปนายกสมาคม ไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้สมาชิกที่มีสิท ธิออกเสียงและลงคะแนน ที่มาประชุมเลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่ง ให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น หมวดที่ ๕ การเงินและทรัพย์สิน ข้อ ๓๒ การลงนามในตั๋วเงิน หรือเช็คของสมาคม หรือการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม อุปนายกอาวุโส อุปนายก คนใดคนหนึ่งลงลายมือชื่อร่วมกับเลขาธิการ หรือรองเลขาธิการ รวมเป็นสองคนพร้อมกับประทับตราของสมาคมจึงจะถือว่าใช้ได้ หมวดที่ ๖ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม ข้อ ๓๙ ข้อบังคับของสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ โดยคณะผู้เริ่มก่อการจัดตั้งโดยเสียงข้างมาก เสนอเข้าที่ประชุมใหญ่เท่านั้น และองค์ประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ของสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่ในการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับจะต้องมีคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด หน้า ๒๓๑ นายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งรับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ สมาคมรายนี้แล้ว ตามทะเบียนเลขที่ ๐๗/๒๕๖๑ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ และมาตรา ๘๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ณัฐกฤช สิทธิโอสถ ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดปัตตานี เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๖๔ ง ประกาศ ณ: ๐๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๒๒๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:122675", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดปัตตานี เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/D/064/T_0226.PDF", "year": null }
nonweb_139422
ประกาศวุฒิสภา เรื่อง ตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่าง [ผู้ช่วยศาตราจารย์ เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ] ประกาศวุฒิสภา เรื่อง ตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา แทนตำแหน่งที่ว่าง ด้วยในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๑๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันจันทร์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๖ ที่ประชุมได้ลงมติเลือก ผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ เป็นกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามนัยแห่งข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๘๓ ประกอบ ข้อ ๑๐๓ จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เล่ม: 140 หมวด: 20 ง ประกาศ ณ: 09/03/2023 หน้า: 8
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:139423", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศวุฒิสภา เรื่อง ตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่าง [ผู้ช่วยศาตราจารย์ เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ]", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D020N0000000000800.pdf", "year": null }
nonweb_91532
ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดสมุทรปราการ ว่าด้วยการห้ามรถทุกชนิดเดินในงานประเพณีนมัสการหลวงพ่อปาน พ.ศ. ๒๕๕๘ ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดสมุทรปราการ ว่าด้วยการห้ามรถทุกชนิดเดินในงานประเพณีนมัสการหลวงพ่อปาน พ.ศ. ๒๕๕๘ ด้วยในระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ คณะกรรมการ จัดงานนมัสการหลวงพ่อปาน ได้กำหนดจัดงานประเพณีนมัสการหลวงพ่อปาน ประจำปี ๒๕๕๘ ณ บริเวณหน้าที่ว่ากำรอำเภอบางบ่อ ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในงานนี้ จะมีประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางเข้ามานมัสการหลวงพ่อปาน และเที่ยวชมงานออกร้านมหรสพต่าง ๆ ในบริเวณงานเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา ๑๓๙ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๙) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดสมุทรปราการจึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดสมุทรปราการ ว่าด้วยการห้าม รถทุกชนิดเดินในงานประเพณีนมัสการหลวงพ่อปาน พ.ศ. ๒๕๕๘” ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ข้อ ๓ ห้ามรถทุกชนิดเดินเข้าไปในบริเวณงาน ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๒.๐๐ นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น ช่วงระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ในถนนดังต่อไปนี้ ๓.๑ ถนนรัตนราช ตั้งแต่สามแยกตัดกับถนนบายพาส จนถึงสะพานข้ามคลองสำโรง (โค้งรังสรรค์) ๓.๒ ถนนปานวิถี ตั้งแต่สะพานข้ามคลองสำโรง (โค้งรังสรรค์) จนถึงสามแยก ตัดกับถนนเทพารักษ์ ข้อ ๔ กำหนดให้เดินรถทางเดียวในถนน ตั้งแต่เวลา ๐๒.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ช่วงระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ในถนนดังต่อไปนี้ ๔.๑ ถนนรัตนราช ตั้งแต่แยกตัดกับซอยเซนเดย์จนถึงสะพานข้ามคลองสำโรง (โค้งรังสรรค์) ๔.๒ ถนนปานวิถี ตั้งแต่สะพานคลองสำโรง (โค้งรังสรรค์) จนถึงแยกตัดกับถนน สายวัดบางบ่อ ข้อ ๕ ข้อบังคับนี้มิให้บังคับรถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร ข้อ ๖ บรรดาข้อบังคับ ประกาศ ระเบียบใด ที่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ให้ยกเลิกและให้ใช้ ข้อบังคับนี้แทน ประกาศ ณ วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ พันตำรวจเอก ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าพนักงานจราจรจังหวัดสมุทรปราการ เล่ม: ๑๓๒ หมวด: ๓๑๐ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ หน้า: ๒๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:91533", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดสมุทรปราการ ว่าด้วยการห้ามรถทุกชนิดเดินในงานประเพณีนมัสการหลวงพ่อปาน พ.ศ. ๒๕๕๘", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/310/27.PDF", "year": null }
nonweb_145621
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. 156/2566 เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๑๕๖/๒๕๖๖ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ กิตติศักดิ์ โชติพนิชเศรษฐ์ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน หน้า ๑๓ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่ำรวยโภชนา ๐๑๐๓๕๖๔๐๐๗๔๓๑ 1 มิ.ย. 2566 ๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟาร์มาโลจิสติกส์ ๐๑๐๓๕๕๗๐๐๗๐๗๒ 2 มิ.ย. 2566 ๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉลากชัยมงคล ๐๑๐๓๕๕๓๐๑๓๓๕๓ 6 มิ.ย. 2566 ๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยำ ๓ แซ่บ ปูไข่ดอง ๐๑๐๓๕๖๓๐๐๓๗๕๐ 6 มิ.ย. 2566 ๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกิจโลหะภัณฑ์ ๐๑๐๓๕๒๔๐๒๒๓๙๑ 6 มิ.ย. 2566 ๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี .เอ็น.พี.ผลิตภัณฑ์ ๐๑๐๓๕๔๙๐๒๙๖๘๒ 6 มิ.ย. 2566 ๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สลากเจษฎาบดินทร์ ๐๑๐๓๕๕๓๐๑๓๓๘๘ 6 มิ.ย. 2566 ๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ควอลิตี้สตีล เทรด ๐๑๐๓๕๕๙๐๐๕๓๙๕ 7 มิ.ย. 2566 ๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี .ที.เอ็ม. (เคอร์เท่น มอลล์) ๐๑๐๓๕๔๘๐๒๐๒๔๐ 9 มิ.ย. 2566 ๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนาภัณฑ์ เทรดดิ้ง ๐๑๐๓๕๔๗๐๒๗๘๓๖ 12 มิ.ย. 2566 ๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนสิงห์วัฒน์ ๐๑๐๓๕๕๘๐๐๒๖๘๖ 12 มิ.ย. 2566 ๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอสเอ การ์เม้นท์ ๐๑๐๓๕๖๕๐๐๓๔๘๐ 13 มิ.ย. 2566 ๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิพย์ธัญธร คอนซัลแตนท์ ๐๑๐๓๕๔๖๐๑๓๑๓๑ 13 มิ.ย. 2566 ๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม .วี. เคหะภัณฑ์ ๐๑๐๓๕๔๑๐๐๔๘๐๐ 13 มิ.ย. 2566รายละเอียดการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป . 156/2566 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 1 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .วี.เอส.คอมพิวเตอร์ ๐๑๐๓๕๒๖๐๑๒๘๗๒ 13 มิ.ย. 2566 ๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมดดิ เกเรท ๐๑๐๓๕๖๔๐๑๒๙๑๔ 15 มิ.ย. 2566 ๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีทัช เอ็นเตอร์ไพรส ๐๑๐๓๕๕๖๐๕๙๓๘๙ 15 มิ.ย. 2566 ๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยิ้ม ยิ้ม บางโมย ๐๑๐๓๕๖๔๐๐๐๗๔๖ 16 มิ.ย. 2566 ๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซุ่นหลีคำไม้ ๐๑๐๓๕๐๓๐๐๑๓๗๘ 16 มิ.ย. 2566 ๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหแสง โปรดักซ์ ๐๑๐๓๕๓๙๐๒๔๐๙๒ 16 มิ.ย. 2566 ๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลาสท์ รีสอร์ท ๐๑๐๓๕๖๕๐๐๕๒๐๒ 16 มิ.ย. 2566 ๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิช บริ๊งค์ ไวท์ ๐๑๐๓๕๖๕๐๑๔๗๐๘ มิ.ย. 2566 ๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช . ช่วยชู ๐๑๐๓๕๔๘๐๓๘๐๘๔ 19 มิ.ย. 2566 ๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อลูกลาสซิสเท็ม ๐๑๐๓๕๔๘๐๓๔๙๗๖ 19 มิ.ย. 2566 ๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บัลวี ๐๑๐๓๕๓๖๐๑๕๐๓๓ 19 มิ.ย. 2566 ๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .เอ็ม.อีเลคทริค เวิร์ค ๐๑๐๓๕๔๖๐๓๕๓๙๘ 19 มิ.ย. 2566 ๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีฟา อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง ๐๑๐๓๕๔๙๐๔๒๕๓๑ 20 มิ.ย. 2566 ๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร้านเพ็ชรแม่ทองใบ ๐๑๐๓๕๑๒๐๐๙๕๖๔ 20 มิ.ย. 2566 ๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอเชีย บิลเลียด ๐๑๐๓๕๕๙๐๑๐๑๕๑ 21 มิ.ย. 2566 ๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วังเพชร เบียร์ กรุ๊ป ๐๑๐๓๕๔๗๐๐๕๘๙๑ 21 มิ.ย. 2566 2 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อะ -สติ ๐๑๐๓๕๖๔๐๐๑๓๓๕ 22 มิ.ย. 2566 ๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที .ซี.ยูนิแวร์ ๐๑๐๓๕๓๒๐๓๔๘๒๓ 22 มิ.ย. 2566 ๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิ้มหลี ๐๑๐๓๕๑๙๐๐๙๖๙๑ 22 มิ.ย. 2566 ๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส . บี. พี เซอร์วิส แอนด์ เซลส์ ๙๙ ๐๑๐๓๕๕๑๐๐๐๖๓๗ 22 มิ.ย. 2566 ๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โก ไบโอ - กรีน (ไทยแลนด์) ๐๑๑๓๕๕๓๐๐๒๘๕๘ 23 มิ.ย. 2566 ๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มายเค้กการ์เด้น ๐๑๐๓๕๖๑๐๑๖๖๙๒ มิ.ย. 2566 ๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟาสท์ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ๐๑๐๓๕๕๓๐๒๐๙๑๑ 23 มิ.ย. 2566 ๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟรีซ วอเตอร์ ๐๑๐๓๕๕๑๐๒๓๘๗๔ 23 มิ.ย. 2566 ๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทคโนวิทยาภัณฑ์ ๐๑๐๓๕๕๖๐๕๑๖๐๔ 26 มิ.ย. 2566 ๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอจิ แอร์ ทราเวล ๐๑๐๓๕๔๘๐๒๓๙๔๐ 26 มิ.ย. 2566 ๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่มินิ -สโตร์ ๐๑๐๓๕๔๖๐๒๓๓๒๒ 27 มิ.ย. 2566 ๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีทรัพย์จักรพันธ์ ทรานสปอร์ต ๐๑๐๓๕๖๐๐๐๙๙๔๓ 27 มิ.ย. 2566 ๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มิตรแท้สองล้อ ๐๑๐๓๕๖๐๐๑๔๒๓๘ 27 มิ.ย. 2566 ๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรินยา ซัพพลาย ๐๑๐๓๕๖๔๐๑๒๗๘๗ 28 มิ.ย. 2566 ๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป้ทมาเอี่ยมปิยะ ๐๑๐๓๕๔๘๐๑๔๗๒๐ 29 มิ.ย. 2566 ๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นีตนาทคลีนิกสาทร ๐๑๐๓๕๔๙๐๑๘๓๔๖ 29 มิ.ย. 2566 3 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คลาวด์ คราฟท์ โปรดักชั่น ๐๑๐๓๕๖๕๐๑๑๒๔๕ 29 มิ.ย. 2566 ๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รีเมมเบอร์ ชอป ๐๑๐๓๕๕๓๐๒๔๗๕๔ 29 มิ.ย. 2566 ๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บงพิพัฒน์ ๐๑๐๓๕๓๓๐๒๒๐๔๗ 30 มิ.ย. 2566 4 เล่ม: 140 หมวด: 61 ค ประกาศ ณ: 15/09/2023 หน้า: 13
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:145622", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. 156/2566 เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140C061N0000000001300.pdf", "year": null }
nonweb_113948
ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ ในการจัดสรรเงินและการพิจารณาโครงการชุมชนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา ๙๗ (๓) พ.ศ. ๒๕๕๕ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙๗ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ และข้อ ๔๐ ข้อ ๔๑ (๓) (๔) และข้อ ๔๒ (๓) ของระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบกับมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในการประชุมครั้งที่ ๕๑/๒๕๖๓ (ครั้งที่ ๖๙๔) เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบ จากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๖๓” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิก (๑) ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ในการจัดสรรเงินและ การพิจารณาโครงการชุมชนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา ๙๗ (๓) พ.ศ. ๒๕๕๕ (๒) ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ในการจัดสรรเงินและ การพิจารณาโครงการชุมชนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา ๙๗ (๓) (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔ ในประกาศนี้ “กกพ.” หมายความว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน “สำนักงาน กกพ.” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน “คพรฟ.” หมายความว่า คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า “คพรต.” หมายความว่า คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล หน้า ๓๕ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ ที่จัดตั้งในสำนักงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตามมาตรา ๙๓ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ และมีวัตถุประสงค์ใช้จ่ายเพื่อกิจการตามมาตรา ๙๗ (๓) เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า “ระเบียบ” หมายความว่า ระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยกองทุนพัฒนา ไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๖๓ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานในกำกับของรัฐ องค์การมหาชน หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่น ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้น ตามกฎหมายเฉพาะ “นิติบุคคลในชุมชนซึ่งมาจากการจดทะเบียน” หมายความว่า นิติบุคคลซึ่งมาจากการรวมกลุ่มกัน โดยคนในชุมชนและจดทะเบียนตามกฎหมาย เช่น วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม สหกรณ์ เป็นต้น และได้รับการรับรองการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาลผ่านเกณฑ์การประเมินโดยนายทะเบียน หรือหน่วยงานที่กำกับตามกฎหมาย “ผู้ได้รับจัดสรร” หมายความว่า (๑) หน่วยงานของรัฐ (๒) นิติบุคคลในชุมชนซึ่งมาจากการจดทะเบียน (๓) มูลนิธิ “โครงการชุมชน” หมายความว่า โครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุน ซึ่งดำเนินการ โดยผู้ได้รับจัดสรร หรือผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล ข้อ ๕ ให้คพรฟ. หรือ คพรต. แล้วแต่กรณี จัดเวทีประชาคมหมู่บ้านหรือตำบล และจัดทำบันทึกรายงานการประชุม ตามเอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๑ เพื่อประกอบการพิจารณา กลั่นกรองหรืออนุมัติโครงการชุมชน ข้อ ๖ ให้ผู้ประสงค์จะดำเนินโครงการชุมชน เสนอขอรับการจัดสรรเงินกองทุน ตามเอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๒ โดยหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนต้องอยู่ภายใต้ กรอบวัตถุประสงค์และมีลักษณะประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้ (๑) ด้านสาธารณสุข เพื่อลดหรือป้องกันปัญหาสุขภาพของชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งกำหนด เป็นประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้ (ก) โครงการสร้าง ขยาย ปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อยกระดับการบริการ สาธารณสุข (ข) โครงการซื้ออุปกรณ์ ครุภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์และการสาธารณสุข หน้า ๓๖ (ค) โครงการให้ความรู้ป้องกันและลดปัญหาด้านสุขภาพ (ง) โครงการเวชศาสตร์ครอบครัว จัดหาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาและ การดูแลรักษาสุขภาพของคนในชุมชน (จ) โครงการคลินิกพิเศษ เพื่อให้การรักษานอกเวลา (ฉ) โครงการส่งเสริมด้านการกีฬาและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ (๒) ด้านการศึกษา เพื่อเพิ่มคุณภาพด้านการศึกษาของเยาวชนและครูผู้สอนในสถานศึกษา ของรัฐในพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งกำหนดเป็นประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้ (ก) โครงการให้ทุนการศึกษารายปี (ข) โครงการให้ทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องเพื่อสร้างบุคลากรในการพัฒนาชุมชน เช่น วิศวกร แพทย์ ครู เป็นต้น (ค) โครงการจัดหาครูในวิชาที่ขาดแคลน (ง) โครงการพัฒนาหลักสูตรและระบบการเรียนรู้ของนักเรียนและเพิ่มศักยภาพครู (จ) โครงการส่งเสริมหลักสูตรและการเรียนรู้นอกหลักสูตรปกติของสถานศึกษาของรัฐ เช่น โครงการนักสืบสายน้ำ (ฉ) โครงการปรับปรุง สนับสนุนอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ ด้านการศึกษาและการเรียนการสอน (ช) โครงการโรงเรียนต้นแบบตามแผนปฏิรูปการศึกษา (ซ) โครงการสร้าง ขยาย หรือปรับปรุงอาคารโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและสถานศึกษา (๓) ด้านเศรษฐกิจชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ของชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ซึ่งกำหนดเป็น ประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้ (ก) โครงการสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจ เพื่อสังคม หรือหน่วยงานที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชนที่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลที่ได้รับ การรับรองสถานภาพ ตามกฎหมายและดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล (ข) โครงการส่งเสริม เพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต หรือเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ของวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ชุมชน (ค) โครงการอบรมเพื่อพัฒนาและสร้างอาชีพ ให้กับกลุ่มบุคคลที่มีการขึ้นทะเบียนและ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ (ง) โครงการสร้าง ขยาย ปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อสนับสนุนกลุ่มอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น โรงเพาะเห็ด คอกเลี้ยงสัตว์ (๔) ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มหรือบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมในพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกำหนดเป็นประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้ (ก) โครงการป้องกันและลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน หน้า ๓๗ (ข) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากโร งไฟฟ้าในชุมชน เช่น จัดหาอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่มเติม เพื่อสื่อสารเผยแพร่ข้อมูลให้คนในชุมชน เป็นต้น (ค) โครงการบริหารจัดการแนวกันไฟชุมชน (ง) โครงการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้ (จ) โครงการบริหารจัดการลำน้ำแบบครบวงจร รวมถึงการขุดลอกคลองและคูระบายน้ำ (ฉ) โครงการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาความสามารถชุมชนในการดูแลสิ่งแวดล้อม (ช) โครงการปลูกป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชน (ซ) โครงการปรับปรุงระบบการเกษตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน วนเกษตร (ฌ) โครงการปรับปรุงระบบการผลิตทางการเกษตร เพื่อลดหรือเลิกการเผาซากและ เศษวัสดุทางการเกษตร (๕) ด้านสาธารณูปโภค เพื่อยกระดับการเข้าถึงและความครอบคลุมของสาธารณูปโภค ได้แก่ แหล่งน้ำ ถนน ประปา ไฟฟ้า ที่เพียงพอต่อชุมชนในพื้นที่รอบโรง ไฟฟ้า ซึ่งกำหนดเป็นประเภท โครงการ ดังต่อไปนี้ (ก) โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคตามแผนพัฒนาชุมชนหรืออำเภอหรือจังหวัด ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับงบประมาณของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น พัฒนาแหล่งน้ำชุมชน ขุดบ่อน้ำ หรือบ่อบาดาลเพื่อชุมชน ถนน ประปา ไฟฟ้า เป็นต้น (ข) โครงการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคกรณีเร่งด่วนอันเนื่องมาจากภัยพิบัติซึ่งหน่วยงาน ของรัฐไม่มีงบประมาณในการดำเนินการรองรับไว้ (๖) ด้านพลังงานชุมชน เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของโรงไฟฟ้าและชุมชนในพื้นที่รอบ โรงไฟฟ้าการใช้พลังงานหมุนเวียน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งกำหนดเป็น ประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้ (ก) โครงการผลิตผลผลิตหรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและชุมชนเพื่อเป็นเชื้อเพลิง จำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าในชุมชน เช่น ชีวมวล ชีวภาพ ขยะ เป็นต้น (ข) โครงการลดต้นทุนด้านพลังงานแก่ชุมชน (ค) โครงการส่งเสริมการประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานของชุมชน เช่น ติดแผงโซลาเซลล์ให้แก่ชุมชน ศาสนสถาน โรงเรียนของรัฐ โรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบล เป็นต้น (๗) แผนงานอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน โดยกำหนดกรอบวงเงินขั้นสูงสุด ที่สามารถใช้ในแผนด้านนี้ได้ร้อยละ ๑๕ ของเงินจัดสรรรายปีตามมาตรา ๙๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติ การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยไม่นับรวมเงินเหลือจ่ายที่สมทบมาและต้องไม่เกิน ๒๕ ล้านบาทต่อปี ซึ่งกำหนดเป็นประเภทโครงการ ดังต่อไปนี้หน้า ๓๘ (ก) โครงการจัดงานประเพณี วัฒนธรรม และส่งเสริมกิจกรรมด้านศาสนา (ข) โครงการปรับปรุงหรือสนับสนุนอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชน เช่น ปรับปรุงห้องประชุม อาคาร จัดหาโต๊ะ เต็นท์ เก้าอี้ เสียงตามสาย เป็นต้น (ค) โครงการศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกองทุน (ง) โครงการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ และเสียชีวิต (จ) โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ กรณีฉุกเฉินตามประกาศ กกพ. กำหนด (ฉ) โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับพื้นที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์ ต่อชุมชนและเพื่อความปลอดภัยในโรงเรียนของรัฐตามที่กกพ. กำหนด โดยต้องจัดให้มีหน่วยงาน ในการดูแลรักษาและรับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องเพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้กรอบวงเงินเกิน ๒๕ ล้านบาทต่อปี ให้คพรฟ. สามารถ พิจารณาอนุมัติเกินกรอบวงเงินได้ โดยต้องไม่เกินร้อยละ ๑๕ ของเงินจัดสรรรายปีตามที่กกพ. กำหนด ข้อ ๗ โครงการชุมชนต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ (๑) โครงการที่เป็นการจัดซื้อที่ดิน หรือการดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินส่วนบุคคล (๒) โครงการที่มีลักษณะแสวงหากำไรโดยการกู้ยืมเงินกองทุน ข้อ ๘ สำหรับกองทุนขนาดใหญ่ ให้คพรต. พิจารณากลั่นกรองโครงการชุมชนก่อนเสนอ คพรฟ. ตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนข้อ ๖ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๗ เพื่อให้เกิด การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริม ให้ชุมชนบริหารจัดการตนเองอย่างมีธรรมาภิบาล ผ่านการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนทุกภาคส่วน ข้อ ๙ สำหรับกองทุนขนาดใหญ่ และกองทุนขนาดกลาง ให้คพรฟ. พิจารณากลั่นกรอง และอนุมัติโครงการชุมชน ตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนข้อ ๖ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามข้อ ๗ โดยให้คำนึงถึงความจำเป็น ความเร่งด่วน ผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ความเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาชุมชน แผนพัฒนาจังหวัด เพื่อให้การพัฒนาในพื้นที่เป็น ไปอย่างยั่งยืนและทั่วถึง ข้อ ๑๐ เมื่อ คพรต. หรือ คพรฟ. แล้วแต่กรณี พิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติโครงการชุมชน ตามข้อ ๘ หรือข้อ ๙ แล้ว ให้เรียงลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนของโครงการชุมชน ก่อนบรรจุในแผนงานประจำปีของกองทุน ตามเอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๓ ข้อ ๑๑ ให้คพรฟ. เสนอแผนงานประจำปีต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่พิจารณา ให้ความเห็นประกอบภายใน ๑๕ วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ได้ประทับรับหนังสือ หากพ้นระยะเวลา ที่กำหนดให้คพรฟ. รายงานผลการพิจารณาและอนุมัติแผนงานประจำปีแก่สำนักงาน กกพ. พร้อมทั้ง บันทึกข้อมูลลงระบบสารสนเทศของกองทุน หน้า ๓๙ ข้อ ๑๒ เมื่อ กกพ. อนุมัติเงินกองทุนตามโครงการที่เสนอขอรับการจัดสรรแล้ว ให้ประธาน คพรฟ. ทำสัญญาหรือข้อตกลงกับผู้ได้รับจัดสรรแล้วรายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวให้คพรฟ. ทราบ โดยโครงการชุมชนต้องดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และผู้ได้รับจัดสรร จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้า งตามกฎหมายว่าด้วย การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (๒) ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นนิติบุคคลในชุมชนซึ่งมาจากการจดทะเบียน และมูลนิธิ ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุตามระเบียบด้านการพัสดุของหน่วยงานนั้น ข้อ ๑๓ คพรฟ. อาจแต่งตั้งคณะกรรมการตร วจสอบโครงการ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างของ ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล เพื่อตรวจสอบโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินว่าเป็นไปตามแผนงาน โครงการ และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กำหนดในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง และให้รายงานผลการตรวจสอบ ต่อ คพรฟ. กรณีพบว่าการจัดซื้อจัดจ้าง และการตรวจรับของโครงการไม่เป็นไปตามสัญญา เงื่อนไข และประกาศที่เกี่ยวข้องให้คพรฟ. ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามข้อ ๑๔ ต่อไป คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งให้ประกอบด้วยกรรมการอย่างน้อย ๓ คน โดยแต่งตั้ง จากกรรมการ คพรฟ. หรือ คพรต. อย่างน้อย ๑ คน และเจ้าหน้าที่กองทุน และบุคคลที่มีภูมิลำเนา อยู่ในพื้นที่ประกาศที่มิใช่เป็นผู้ดำเนินโครงการ ข้อ ๑๔ ผู้มีอำนาจหรือหน้าที่ดำเนินการตามประกาศนี้หรือผู้หนึ่งผู้ใดกระทำการใดโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้หรือกระทำการโดยมีเจตนาทุจริต หรือกระทำการ โดยปราศจากอำนาจ หรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่รวมทั้งมีพฤติกรรมที่เอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าเสนอราคา หรือเสนองานให้มีการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เมื่อปรากฏชัดว่ามีการกระทำผิดจริง ให้คพรฟ. ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป การได้รับการลงโทษตามวรรคหนึ่ง ไม่เป็นเหตุให้ผู้กระทำหลุดพ้นจากความรับผิดในทางแพ่ง หรือความรับผิดทางอาญาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๕ เอกสารแนบท้ายประกาศและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของประกาศฉบับนี้ (๑) แบบบันทึกรายงานการประชุมประชาคมเพื่อสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประกาศ (๒) แบบเสนอโครงการชุมชน (๓) แบบสรุปรายละเอียดของโครงการที่ได้รับการพิจารณาสนับสนุนตามแผนงานประจำปี งบประมาณ พ.ศ. .... (๔) แบบรับรองการดำเนินงานของกลุ่มบุคคล (๕) วิธีการจัดซื้อจัดจ้างของผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลเฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๑๖ ให้ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นผู้รักษาการและให้กกพ. มีอำนาจ วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้หน้า ๔๐ บทเฉพาะกาล ข้อ ๑๗ ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงาน ของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๓ และระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการพัสดุ ของ กองทุนพัฒนาไฟ ฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๕ สามารถขอรับการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่น เพื่อดำเนินการโครงการชุมชนได้เฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามข้อ ๖ (๗) และอยู่ในวงเงิน ไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาทต่อโครงการ ข้อ ๑๘ ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลต้องได้รับการรับรองจาก คพรฟ. หรือ คพรต. หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าได้มีการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล ตามเอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๔ ข้อ ๑๙ ให้คพรฟ. แต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการดำเนินการควบคุม และจำหน่ายพัสดุของ ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล ดังนี้ (๑) จัดทำทะเบียนพัสดุ (๒) ตรวจสอบพัสดุประจำปีงบประมาณในเดือนสุดท้ายของทุกปีและรายงานให้คพรฟ. ทราบ ข้อ ๒๐ ในการขอจัดสรรเงินกองทุนซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลให้นำความในข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ และข้อ ๑๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ ๒๑ วิธีการจัดซื้อจัดจ้างของผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลให้ดำเนินการ ตามเอกสาร แนบท้ายประกาศหมายเลข ๕ ประกาศ ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖ เสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หน้า ๔๑ แบบบันทึกรายงานการประชุมประชาคมเพื่อสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประกาศ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ชื่อหมู่บ้าน/ชุมชน หมู่ตำบล/แขวง อบต./เทศบาล อำเภอ/เขต จังหวัด วันที่ เดือน พ.ศ. สถานที่จัดประชาคม ชื่อ คพรต./คพรฟ. ผู้รับผิดชอบในการสำรวจความต้องการ ชื่อผู้ทำหน้าที่ประธานการประชาคม ตำแหน่ง รหัสหมู่บ้านของกรมการปกครอง (ถ้ามี) กรณีจัดเวทีประชาคมระดับหมู่บ้าน/ชุมชน  เป็นประชากรที่มีสิทธิ เลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕ ของประชากรที่มีสิทธิ เลือกตั้งในหมู่บ้าน/ชุมชน (จำนวนผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง....................................คน)  เป็นตัวแทนครัวเรือน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ ของ ตัวแทนจำนวนครัวเรือนในหมู่บ้าน/ชุมชน (จำนวนครัวเรือน........... ........................ครัวเรือน) หมายเหตุ : เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง กรณีจัดเวทีประชาคมระดับตำบล/แขวง  เป็นประชากรที่มีสิทธิ เลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒ ของ ประชากรที่มีสิทธิ เลือกตั้งในตำบล /แขวง (จำนวนผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง....................................คน)  เป็นตัวแทนครัวเรือน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕ ของตัวแทน จำนวนครัวเรือนในตำบล /แขวง (จำนวนครัวเรือน...................................ครัวเรือน) หมายเหตุ : เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนที่ ๑ รายชื่อผู้เข้าร่วมประชาคม ชื่อ – นามสกุล บ้านเลขที่ / หมู่ที่ / ชุมชน ลายมือชื่อ เอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๑ (กฟ. 97(3)-01) ชื่อ – นามสกุล บ้านเลขที่ / หมู่ที่ / ชุมชน ลายมือชื่อ ส่วนที่ ๒ รายงานการประชุมประชาคม เริ่มประชุมเวลา น. ประธานการประชาคม ขอให้ที่ประชุมประชาคมร่วมกันเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นและความต้องการในการพัฒนาที่ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ที่ประชุมประชาคม ได้ร่วมกันเสนอความต้องการในการพัฒนาหรือความต้องการในแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน ชุมชน หรือตำบล ซึ่งจัดกลุ่มได้ดังนี้ ๑) ๒) ๓) ๔) ๕) ๖) ๗) ๘) ๙) ๑๐) ประธานการประชาคม ขอให้ที่ประชุมประชาคมร่วมกันเสนอชื่อกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนา หรือสามารถแก้ไขปัญหาข้างต้น โดยแต่ละกิจกรรมที่เสนอต้องมีผู้รับรองหรือผู้สนับสนุนอย่างน้อย ๑๕ คน ที่ประชุมประชาคมได้ร่วมกันเสนอชื่อกิจกรรม และที่ประชุมประชาคมให้การรับรองหรือสนับสนุนทั้งสิ้นจำนวน ...................กิจกรรม ดังนี้ ๑) ๒) ๓) ๔) ๕) ๖) ๗) ๘) ๙) ๑๐) ประธานในการประชาคม ขอให้ที่ประชุมประชาคมร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา/ความต้องการ และจัดลำดับความสำคัญ ของกิจกรรมที่ประชาคมเสนอ โดยให้คะแนนกิจกรรมทีละกิจกรรม และเรียงลำดับจากกิจกรรมที่มีคะแนนสูงสุดไปน้อยสุด ตามลำดับ ดังนี้ ลำดับที่กิจกรรมที่ต้องการ (ให้ใส่ชื่อกิจกรรม) คะแนน ลำดับที่กิจกรรมที่ต้องการ (ให้ใส่ชื่อกิจกรรม) คะแนน หมายเหตุ : หน่วยดำเนินการ : (๑) หน่วยงานราชการ (๒) นิติบุคคลซึ่งมาจากการรวมกลุ่มกันโดยคนในชุมชนและจดทะเบียนตามกฎหมาย เช่น วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม สหกรณ์ เป็นต้น และได้รับการรับรองการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาลผ่านเกณฑ์การประเมินโดยนายทะเบียนหรือหน่วยงานที่กำกับตาม กฎหมาย (๓) มูลนิธิ เงื่อนไขเพิ่มเติม : (๑) ห้ามจัดซื้อที่ดิน / ห้ามดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินส่วนบุคคล (๒) การดำเนินการโครงการชุมชนต้องดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่าง เคร่งครัด (๓) ห้ามดำเนินโครงการที่มีลักษณะแสวงหากำไรโดยการกู้ยืมเงินกองทุนฯ ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นเพิ่มเติมจากที่ประชุมประชาคม ๑) ๒) ๓) ๔) ๕) ปิดประชุมเวลา.......................น. ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบแล้วขอรับรองว่า รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมประชาคมเสนอแผนงานการจัดทำโครงการชุมชน/โครงการ ภาครัฐเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ............ ตามรายชื่อข้างต้น จำนวน...............................คน เป็นประชากรที่มีสิทธิเลือกตั้ง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในหมู่บ้าน/ชุมชน หรือในตำบล/แขวง .................... จริง ลงนาม.......................................................... กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้นำชุมชน (............................................................) ลงนาม................................................................................ คพรฟ./คพรต. (................................................................) ลงนาม.............................. ............................ ประธานประชาคม (.................................................. .......) ตำแหน่ง .............................................. ........... วันที่ .................................................. ............... ลงนาม..........................................................พยาน (.........................................................) ลงนาม..........................................................พยาน (..........................................................) กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. แบบเสนอโครงการชุมชน กองทุนพัฒนาไฟฟ้า กองทุนขนาด ชื่อหมู่บ้าน/ชุมชน หมู่ตำบล/แขวง เทศบาล อำเภอ/เขต จังหวัด ปีงบประมาณ รหัสหมู่บ้านของกรมการปกครอง (ถ้ามี) ๑. ชื่อโครงการชุมชน ๑.๑ สอดคล้องตามความต้องการของประชาชน ซึ่งผ่านการประชาคมเมื่อวันที่ เป็นโครงการที่มีความสำคัญลำดับที่ ๑.๒ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกองทุนฯระดับพื้นที่ในด้าน ๑.๓ สอดคล้องกับผลการประเมินผลกระทบจากการดำเนินงานโรงไฟฟ้าในหมวดใด (ทำเครื่องหมาย  ในช่อง  ในด้านที่ใกล้เคียงมากที่สุดเพียงด้านเดียว) (๑)  ผลกระทบด้านเศรษฐกิจท้องถิ่น (๒)  ผลกระทบด้านสังคม (๓)  ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ (๔)  ผลกระทบด้านสุขภาพ ๒. สอดคล้องกับกรอบการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในแผนงานด้านใด (ทำเครื่องหมาย  ในช่อง  ในด้านที่ใกล้เคียงมากที่สุดเพียงด้านเดียว) (๑)  ด้านสาธารณสุข ประเภทโครงการ:  โครงการสร้าง ขยาย ปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลและ ศูนย์บริการ สาธารณสุข เพื่อยกระดับการบริการสาธารณสุข  โครงการซื้ออุปกรณ์ ครุภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ และการ สาธารณสุข  โครงการให้ความรู้ป้องกัน และลดปัญหาด้านสุขภาพ  โครงการเวชศาสตร์ครอบครัว จัดหาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้ คำปรึกษาและการดูแลรักษาสุขภาพข องคนในชุมชน  โครงการคลินิกพิเศษเพื่อให้การรักษานอกเวลา  โครงการส่งเสริมด้านการกีฬาและการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ เอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๒ (กฟ. 97(3)-03) สำหรับเจ้าหน้าที่กองทุน รหัสกองทุน.................................................. กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. (๒)  ด้านการศึกษา ประเภทโครงการ:  โครงการให้ทุนการศึกษารายปี  โครงการให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องเพื่อสร้างบุคลากรในการพัฒนา ชุมชน เช่น วิศวกร แพทยศาสตร์ ครู เป็นต้น  โครงการจัดหาครูในวิชาที่ขาดแคลน  โครงการพัฒนาหลักสูตรและระบบการเรียนรู้ของนักเรียน และเพิ่ม ศักยภาพครู  โครงการส่งเสริมการเรียนรู้นอกหลักสูตรปกติของสถานศึกษาของรัฐ เช่น โครงการนักสืบสายน้ำ  โครงการปรับปรุง สนับสนุนอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ ด้านการศึกษาและการ เรียนการสอน  โครงการโรงเรียนต้นแบบ ตามแผนปฏิรูปการศึกษา  โครงการสร้าง ขยาย หรือปรับปรุงอาคารโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานศึกษา (๓)  ด้านเศรษฐกิจชุมชน ประเภทโครงการ:  โครงการสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานของวิสาหกิจ ชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือหน่วยงานที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่ม ของคนในชุมชนที่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลที่ได้รับการรับรอง สถานภาพตามกฎหมายและดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล  โครงการส่งเสริม เพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต หรือเพิ่มช่องทางการจัด จำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ชุมชน  โครงการอบรมเพื่อพัฒนาและสร้างอาชีพให้กับกลุ่มบุคคลที่มีการขึ้น ทะเบียนและได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ  โครงการสร้าง ขยาย ปรับปรุงอาคารและ สิ่งปลูกสร้างเพื่อสนับสนุน กลุ่มอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น โรงเพาะเห็ด คอกเลี้ยง สัตว์ (๔)  ด้านสิ่งแวดล้อม ประเภทโครงการ:  โครงการป้องกันและลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน  โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก โรงไฟฟ้าในชุมชน เช่น จัดหาอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากา ศเพิ่มเติม เพื่อสื่อสารและ เผยแพร่ข้อมูลให้คนในชุมชน เป็นต้น  โครงการบริหารจัดการแนวกันไฟชุมชน  โครงการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจรเพื่อลดผลกระทบ สิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้  โครงการบริหารจัดการลำน้ำแบบครบวงจร รวมไปถึงการขุดลอก กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. คลองและคูระบายน้ำ  โครงการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาความสามารถชุมชนในการดูแล สิ่งแวดล้อม  โครงการปลูกป่าเศรษฐกิจและ ป่าชุมชน  โครงการปรับปรุงระบบการเกษตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น เกษตร อินทรีย์ เกษตรผสมผสาน วนเกษตร  โครงการปรับปรุงระบบการผลิตทางการเกษตร เพื่อลดหรือ เลิกการเผาซาก และเศษวัสดุทางการเกษตร (๕)  ด้านสาธารณูปโภค ประเภทโครงการ:  โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคตามแผนพัฒนาชุมชน หรืออำเภอ หรือจังหวัด ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับงบประมาณของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น พัฒนาแหล่งน้ำชุมชน ถนน ประปา ไฟฟ้า เป็นต้น  โครงการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคกรณีเร่งด่วนอันเนื่องมาจาก ภัยพิบัติซึ่งหน่วยงาน รัฐไม่มีงบประมาณในการดำเนินการรองรับไว้ (๖)  ด้านพลังงานชุมชน ประเภทโครงการ:  โครงการผลิตผลผลิต หรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและชุมชนเพื่อ เป็นเชื้อเพลิงจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าใน ชุมชน เช่น ชีวมวล ชีวภาพ ขยะ เป็นต้น  โครงการลดต้นทุนด้านพลังงานแก่ชุมชน  ส่งเสริมการประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานของชุมชน เช่น ติดแผงโซลาเซลล์ให้แก่ชุมชน ศาสนสถาน โรง เรียนของรัฐ โรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นต้น (๗)  ด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน (ไม่เกินสัดส่วนและวงเงินที่ กกพ. กำหนด) ประเภทโครงการ:  โครงการจัดงานประเพณี วัฒนธรรม และส่งเสริม กิจกรรมด้านศาสนา  โครงการปรับปรุง หรือสนับสนุนอุปกรณ์ ครุภัณฑ์สนับสนุนการ ดำเนินกิจกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชน เช่น ปรับปรุงห้อง ประชุม อาคาร จัดหาโต๊ะ เต็นท์ เก้าอี้ เสียงตามสาย เป็นต้น  โครงการศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนฯ  โครงการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ และเสียชีวิต  โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภัยธรรมชาติกรณีฉุกเฉินตาม ประกาศ กกพ. กำหนด  โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับพื้นที่สาธารณะที่เป็น ประโยชน์ต่อชุมชนและเพื่อความปลอดภัยในโรงเรียนของรัฐตามที่ กกพ. กำหนด โดยต้องจัดให้มีหน่วยงานในการดูแลรักษาและ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. รับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องเพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง หมายเหตุ: รายละเอียดประเภทโครงการตามคำอธิบายด้านหลังแบบฟอร์ม ๓. ที่มาของโครงการ (ให้ผู้เสนอโครงการอธิบายถึงปัญหา ความสำคัญและความจำเป็นในการดำเนินโครงการ และความจำเป็นในการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า) ๔. วัตถุประสงค์ของโครงการ (โครงการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหา หรือสนองตอบความต้องการของประชาชนในเรื่องอะไร) ๑) ๒) ๓) ๕. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับและวิธีการวัดผล (โครงการนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ การวัดผล (ตัวชี้วัด) ๖. กลุ่มเป้าหมายโครงการ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ (เช่น เยาวชน เกษตรกร แม่บ้าน) จำนวน (คน) กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. ๗. พื้นที่/สถานที่ดำเนินการ (ให้ระบุชื่อสถานที่ เช่น วัด โรงเรียน แปลงทดลอง ฯลฯ และให้ระบุชื่อหมู่บ้าน - ชุมชน/ หมู่ที่/ ตำบล/ อำเภอ/ จังหวัด โดยจะต้องไม่เป็น พื้นที่ส่วนบุคคลหรือพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ราชการ เช่น พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ป่าสงวน เขตอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น) ชื่อสถานที่...................................................................................................หมู่ที่ …...........................…. ตำบล..........................................อำเภอ........................................จังหวัด........................... ................... ๘. ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่วันที่..........เดือน.......................พ.ศ. ……........…. ถึงวันที่...........เดือน...................... พ.ศ. ................ รวมระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น...................ปี..........................เดือน.........................วัน ๙. งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน เป็นเงินจำนวน.................................บาท ประกอบด้วย ๙.๑ เงินงบประมาณ ประจำปีที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า จำนวน.........................บาท เงินงบประมาณสนับสนุนจากแหล่งอื่นๆ ได้แก่ ๑) ................................................................................................จำนวน...................... บาท ๒) .................................................................. .............................. จำนวน...................... บาท ๓) ................................................................................................จำนวน...................... บาท ๙.๒ เงินงบประมาณ โครงการชุมชนที่มีแผนการดำเนินโครงการ ๓ ปี (กรณีโครงการชุมชนที่เสนอขอเป็น โครงการ ๓ ปี) รายการ จำนวนเงิน (บาท) รายละเอียด พ.ศ. ............. พ.ศ. ............ พ.ศ. ............ ๑) ๒) ๓) ๑๐. รายละเอียดงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า รายการ จำนวนเงิน (บาท) งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๑. งบดำเนินงาน 1.1 ค่าตอบแทนบุคลากร (เป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจ่ายเงินให้กับบุคลากร เช่น ค่าวิทยากร ค่าจ้างบุคลากร เป็นต้น) ๑) จำนวน คน คนละ บาท ๒) จำนวน คน คนละ บาท ๓) จำนวน คน คนละ บาท ๔) จำนวน คน คนละ บาท ๕) จำนวน คน คนละ บาท ๑.๒ ค่าใช้สอย (เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการบริการและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ) ๑) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๒) จำ นวน หน่วย หน่วยละ บาท ๓) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๔) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๕) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. รายการ จำนวนเงิน (บาท) ๑.๓ ค่าวัสดุ (เป็นค่าใช้จ่ายที่จัดซื้อวัสดุสิ้นเปลืองหรือวัสดุทั่วไป) ๑) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๒) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๓) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๔) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๕) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๑.๔ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ๑) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๒) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๓) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๔) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๕) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๒. งบลงทุน ๒.๑ ค่าครุภัณฑ์ (เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อครุภัณฑ์) ๑) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๒) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๓) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๔) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๕) จำนวน หน่วย หน่วยละ บาท ๒.๒ สิ่งก่อสร้าง (ให้ระบุประเภทงานก่อสร้าง แบบรูปรายการ/ขนาด/ปริมาณงาน) ๑) ๒) ๓) ๔) ๕) - กรณีค่าครุภัณฑ์ ให้จัดทำแบบรายการประมาณราคาค่าครุภัณฑ์ และคุณลักษณะของครุภัณฑ์ที่จะจัดซื้อแนบท้ายโครงการด้วย - กรณีสิ่งก่อสร้าง ให้จัดทำประมาณราคาก่อสร้าง พร้อมแนบรูปรายการ แบบแปลน แผนผังท้ายโครงการด้วย โดยห้ามมิให้มีการจัดซื้อที่ดินและ ห้ามดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินส่วนบุคคล หรือพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๑๑. วิธีการบริหารจัดการหรือการดูแลรักษา เมื่อโครงการแล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของโครงการ  มีผู้ดูแลรักษา และรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ.......................................................  มีการขยายผล/ต่อยอดโครงการ คือ ........................................................................ ......  อื่นๆ ....................................................................................................................... ........ ๑๒. ชื่อผู้เสนอโครงการ  ผ่านการประชาคมเมื่อ.......................................................... .......... โดยประชาชนในพื้นที่ประกำศ............. .................................................. จำนวน...............คน  หน่วยงานของรัฐ คือ........................................................................................................... กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../..............  นิติบุคคลในชุมชนซึ่งมาจากการจดทะเบียน  วิสาหกิจชุมชน................................................................... ...........  วิสาหกิจเพื่อสังคม........................................................................  สหกรณ์.........................................................................................  อื่นๆ........................................................... (ให้คพรฟ. ตรวจสอบให้เป็นไปตามระเบียบ กกพ. กำหนด)  มูลนิธิ.........................................................................................  กลุ่มบุคคล................. ........................................................................ จำนวน...........คน (ทั้งนี้กลุ่มบุคคลเป็นผู้ดำเนินโครงการเฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เฉพาะแผนงานที่ ๗) ๑๓. ชื่อผู้รับผิดชอบโครงการ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ผลการกลั่นกรองโครงการชุมชน โดย  คพรต. ตำบล.......................................................................  คพรฟ. กองทุนพัฒนาไฟฟ้า................................................. ในการประชุมเมื่อวันที่......................................................... ผลการพิจารณา  เห็นชอบ  เห็นควรให้ปรับปรุงโครงการ  เห็นควรไม่อนุมัติ เหตุผล………………………………………..………………………………………… ...........……………………………………..………………………………………....... ....…………………………………………..…………………………………………….. ลงชื่อ............................................................. ตำแหน่ง............................................ ........... วันที่............................................................... ผลการพิจารณาโครงการชุมชน โดย  คพรฟ. กองทุนพัฒนาไฟฟ้า.................................................... ในการประชุมเมื่อวันที่............................................................. ผลการพิจารณา  เห็นชอบ เพื่อบรรจุในแผนงานประจำปี  เห็นควรให้ปรับปรุงโครงการก่อนบรรจุในแผนงานประจำปี  เห็นควรไม่อนุมัติ เหตุผล…………………………………………… ………………………………..…….. ...........……………………………………………………………………………………. ...........…………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................................. ตำแหน่ง............................................................. วันที่.................................................................... ลงชื่อ.................................................... (..................................................) ผู้เสนอโครงการ วันที่..........เดือน..................พ.ศ. ............. ลงชื่อ.................................................... (...............................................) ผู้รับผิดชอบโครงการ วันที่..........เดือน..................พ.ศ. ............. กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. คำอธิบายการกรอกข้อความในแบบเสนอโครงการชุมชน ๑. ชื่อโครงการ ให้ระบุชื่อโครงการชุมชนที่เสนอ พร้อมทั้งระบุวันที่ผ่านการประชาคม ความสอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์ของกองทุนฯ และผลการประเมินผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า (บังคับใช้ เฉพาะกองทุนขนาดใหญ่) ๒. สอดคล้องกับกรอบแผนการดำเนินโครงการหรือแผนงานยุทธศาสตร์ ด้านใด (ให้ทำเครื่องหมาย  ใน ช่อง  ในด้านที่ใกล้เคียงมากที่สุดเพียงด้านเดียว) พร้อมทั้งระบุประเภทโครงการให้ชัดเจนซึ่งแต่ละ แผนงานจะมีประเภทโครงการที่สามารถดำเนินการได้ดังนี้ แผนงานที่ ๑ ด้านสาธารณสุข โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลด หรือป้องกันปัญหาสุขภาพของชุมชนรอบ โรงไฟฟ้า - โครงการสร้าง ขยาย ปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อยกระดับ การบริการสาธารณสุข - โครงการซื้ออุปกรณ์ ครุภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์และการสาธารณสุข - โครงการให้ความรู้ป้องกันและลดปัญหาด้านสุขภาพ - โครงการเวชศาสตร์ครอบครัว จัดหาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาและการดูแลรักษาสุขภาพ ของคนในชุมชน - โครงการคลินิกพิเศษเพื่อให้การรักษานอกเวลา - โครงการส่งเสริมด้านการกีฬาและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แผนงานที่ ๒ ด้านการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มคุณภาพด้านการศึกษาของเยาวชนและครูผู้สอน ในสถานศึกษาของรัฐในพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า - โครงการให้ทุนการศึกษา รายปี - โครงการให้ทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องเพื่อสร้างบุคลากรในการพัฒนาชุมชน เช่น วิศวกร แพทย์ ครู เป็น ต้น - โครงการจัดหาครูในวิชาที่ขาดแคลน - โครงการพัฒนาหลักสูตรและระบบการเรียนรู้ของนักเรียน และเพิ่มศักยภาพครู - โครงการส่งเสริมหลักสูตรและการเรียนรู้นอกหลักสูตรปกติของสถานศึกษาของรัฐ เช่นโครงการ นักสืบสายน้ำ - โครงการปรับปรุง สนับสนุนอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ ด้านการศึกษาและการเรียนการสอน - โครงการโรงเรียนต้นแบบตามแผนปฏิรูปการศึกษา - โครงการสร้าง ขยาย หรือปรับปรุงอาคารโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและสถานศึกษา แผนงานที่ ๓ ด้านเศรษฐกิจชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ของชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า - โครงการสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ หน่วยงานที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชนที่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลที่ได้รับการรับรอง สถานภาพ ตามกฎหมายและดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล - โครงการส่งเสริม เพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต หรือเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ชุมชน กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. - โครงการอบรมเพื่อพัฒนาและสร้างอาชีพ ให้กับกลุ่มบุคคลที่มีการขึ้นทะเบียนและได้รับการรับรองจาก หน่วยงานราชการ - โครงการสร้าง ขยาย ปรับปรุง อาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อสนับสนุนกลุ่มอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับ ชุมชน เช่น โรงเพาะเห็ด คอกเลี้ยงสัตว์ แผนงานที่ ๔ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่ม หรือบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมในพื้นที่ชุมชน รอบโรงไฟฟ้าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี - โครงการป้องกันและลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน - โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากโรงไฟฟ้าในชุมชน เช่นจัดหาอุปกรณ์ ตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่มเติม เพื่อสื่อสารเผยแพร่ข้อมูลให้คนใน ชุมชน เป็นต้น - โครงการบริหารจัดการแนวกันไฟชุมชน - โครงการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจรเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้ - โครงการบริหารจัดการลำน้ำแบบครบวงจร รวมถึงการขุดลอกคลอง และคูระบายน้ำ - โครงการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาความสามารถชุมชนในการดูแลสิ่งแวดล้อม - โครงการปลูกป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชน - โครงการปรับปรุงระบบการเกษตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน วนเกษตร - โครงการปรับปรุงระบบการผลิตทางการเกษตร เพื่อลดหรือเลิกการเผาซากและเศษวัสดุทาง การเกษตร แผนงานที่ ๕ ด้านสาธารณูปโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการเข้าถึง/ครอบคลุม สาธารณูปโภค ได้แก่ แหล่งน้ำ ถนน ประปา ไฟฟ้า ที่เพียงพอของชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า - โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคตามแผนพัฒนาชุมชนหรืออำเภอหรือจังหวัด ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับ งบประมาณของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อ ง เช่น พัฒนาแหล่งน้ำชุมชน ขุดบ่อน้ำหรือบ่อบาดาลเพื่อ ชุมชน ถนน ประปา ไฟฟ้า เป็นต้น - โครงการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคกรณีเร่งด่วนอันเนื่องมาจากภัยพิบัติซึ่งหน่วยงานของรัฐ ไม่มี งบประมาณในการดำเนินการรองรับไว้ แผนงานที่ ๖ ด้านพลังงานชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของโรงไฟฟ้าและชุมชนใน พื้นที่รอบโรงไฟฟ้า การใช้พลังงานหมุนเวียน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน - โครงการผลิตผลผลิตหรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและชุมชนเพื่อเป็น เชื้อเพลิงจำหน่ายให้กับ โรงไฟฟ้าในชุมชน เช่น ชีวมวล ชีวภาพ ขยะ เป็นต้น - โครงการลดต้นทุนด้านพลังงานแก่ชุมชน - โครงการส่งเสริมการประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานของชุมชน เช่น ติดแผงโซลาเซลล์ ให้แก่ชุมชน ศาสนสถาน โรงเรียนของรัฐ โรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นต้น แผนงานที่ ๗ ด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน โดยกำหนดกำหนดวงเงินขั้นสูง ไม่เกินร้อยละ ๑๕ ของงบประมาณโครงการชุมชนที่ได้รับจัดสรรรายปี (ไม่รวมเงินสมทบจากปีก่อนหน้า) แต่ไม่เกิน ๒๕ ล้านบาทต่อปี - โครงการจัดงานประเพณีวัฒนธรรม และส่งเสริมกิจกรรมด้านศาสนา กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. - โครงการปรับปรุงหรือสนับสนุนอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน ของชุมชน เช่น ปรับปรุงห้องประชุม อาคาร จัดหาโต๊ะ เต็นท์ เก้าอี้ เสียงตามสาย เป็นต้น - โครงการศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนฯ - โครงการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ และเสียชีวิต - โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภัยธรรมชาติกรณีฉุกเฉินตามประกาศ กกพ.กำหนด - โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับพื้นที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและเพื่อความ ปลอดภัยในโรงเรียนของรัฐตามที่กกพ. กำหนด โดยต้องจัดให้มีหน่วยงานในการดูแลรักษาและรับภาระ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องเพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง กำหนดประเภทโครงการที่ไม่อนุมัติให้ดำเนินการ ดังนี้ ๑. ห้ามจัดซื้อที่ดิน / ห้ามดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินส่วนบุคคล ๒. ห้ามดำเนินโครงการที่มีลักษณะแสวงหากำไรโดยการกู้ยืมเงินกองทุนฯ ทั้งนี้ต้องดำเนินการโครงการชุมชนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ๓. ที่มาของโครงการ ให้อธิบายถึงสภาพปัญหาและความสำคัญของปัญหาและข้อจำกัดด้านงบประมาณใน การดำเนินงานที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งทำให้มีความจำเป็นต้องเสนอขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนา ไฟฟ้าเพื่อดำเนินโครงการชุมชนนี้ ๔. วัตถุประสงค์ของโครงการ ให้อธิบายว่า การจัดทำโครงการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหา หรือสนองตอบความ ต้องการของประชาชนในเรื่องอะไร ๕. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับและวิธีการวัดผลจาก โครงการ ให้อธิบายว่า โครงการนี้มีประโยชน์อย่างไร ประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรจากการดำเนินโครงการนี้ และจะมีวิธีการวัดผลที่จะได้รับหรือตัวชี้วัดการ ดำเนินโครงการได้อย่างไร ๖. กลุ่มเป้าหมายโครงการ ให้อธิบายว่า โครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายใด (เช่น เยาวชน เกษตรกร แม่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ เป็นต้น) จำนวนผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มีเท่าใด ๗. พื้นที่/สถานที่ดำเนินการ ให้ระบุชื่อสถานที่ เช่น วัด โรงเรียน หรือแปลงทดลอง เป็นต้น และให้ระบุชื่อ หมู่บ้าน/ หมู่ที่/ตำบล/อำเภอ/จังหวัด โดยพื้นที่/สถานที่ในการดำเนินการ จะต้องไม่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล หรือพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ เช่น พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ป่าสงวน เขตอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น ๘. ระยะเวลาดำเนินการ ให้ใส่วัน / เดือ น / ปีที่เริ่มดำเนินการ , วัน / เดือน / ปีที่จะดำเนินโครงการเสร็จสิ้น และระยะเวลาดำเนินการรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน ปี/เดือน/วัน ๙. งบประมาณที่ใช้ ให้ระบุให้ชัดเจนว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการจำนวนกี่บาท โดยเป็น งบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าจำนวนกี่บาท และมีเงินงบประมาณสนับสนุน จากหน่วยงานอื่น เช่น ท้องถิ่น ภาคเอกชน หรือเงินบริจาคหรือไม่จำนวนเท่าใด ระบุให้ครบถ้วน ๑๐. รายละเอียดงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ให้ระบุว่างบประมาณที่ขอรับการ สนับสนุนจะมีการใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมใด เช่น เป็นค่าจ้างแรงงาน วัสดุอุปกรณ์ ค่าก่อสร้าง ค่าที่ดิน อย่าง ใดบ้าง จำนวนเท่าใด เป็นต้น ทั้งนี้ ในกรณีค่าครุภัณฑ์ให้จัดทำรายละเอียดประมาณการราคาค่าครุภัณฑ์และ คุณลักษณะของครุภัณฑ์ที่จะจัดซื้อ และในกรณีค่าสิ่งก่อสร้างให้จัดทำประมาณการราคาก่อสร้าง พร้อม แนบรูปรายการ แบบแปลน แผนผัง ท้ายแบบเสนอโครงการร่วมด้วย กองทุนพัฒนาไฟฟ้า …………………………………………………………………… หน้าที่........../.............. ๑๑. วิธีการบริหารจัดการหรือการดูแลรักษา เมื่อโครงการแล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของโครงการ ให้ อธิบายว่า ผู้เสนอโครงการชุมชนมีวิธีการใดในการบริหารจัดการวัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง รวมทั้ง วิธีการ ดูแลรักษาสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการดำเนินโครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ๑๒. ชื่อผู้เสนอโครงการ ให้ระบุว่าเป็นการประชาคมเมื่อ ใด หน่วยงานใดที่เสนอขอใช้เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า รวมทั้ง รายชื่อผู้ประสานงานโครงการ ลักษณะการดำเนินโครงการ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้ ประสานงานงานโครงการ ๑๓. ผู้รับผิดชอบโครงการ ให้ระบุชื่อผู้รับผิดชอบโครงการ ในกรณีที่เป็น นิติบุคคลซึ่งมาจากการรวมกลุ่มกัน โดยคนในชุมชนและจดทะเบียนตามกฎหมาย เช่น วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม สหกรณ์ เป็นต้น และได้รับการรับรองการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาลผ่านเกณฑ์การประเมินโดยนายทะเบียนหรือ หน่วยงานที่กำกับตามกฎหมาย ทั้งนี้ ให้ผู้เสนอโครงการและผู้รับผิดชอบโครงการ ลงลายมือชื่อให้ครบถ้วน ก่อนยื่นแบบเสนอโครงการต่อ คพรต. (ในกรณีกองทุน ขนาดใหญ่) และ คพรฟ. (กรณีกองทุนขนาดกลาง) เพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการ ๑๔. ผลการกลั่นกรอง โครงการชุมชน - ให้กรรมการและเลขานุการ คพรต. (ในกรณีกองทุน ขนาดใหญ่) หรือกรรมการและเลขานุการ คพรฟ. (ในกรณีกองทุน ขนาดกลาง) แล้วแต่กรณีบันทึกผลการกลั่นกรองโครงการชุมชนตามผลการประชุมของ คพรต. หรือ คพรฟ. พร้อมระบุเหตุผลการพิจารณาแบบเสนอโครงการชุมชนให้ชัดเจน ในช่องทางซ้ายมือ - ให้กรรมการและเลขานุการ คพรฟ. บันทึกผลการพิจารณาตามผลการประชุมของ คพรฟ. ว่าเห็นชอบ โครงการชุมชนสำหรับบรรจุในแผนงาน ประจำปีพร้อมระบุเหตุผลการพิจารณาให้ชัดเจนไว้ในช่องทางขวามือ เอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๓ (กฟ. 97(3)-06) ลายมือชื่อ .......................................................................... ตำแหน่ง วัน/ เดือน/ ปี ..........................................................................นิติบุคคลในชุมชนซึ่งมาจาก การจดทะเบียนหน่วยงานของรัฐ กรรมการ คพรฟ. / เลขานุการ คพรฟ. รวมจำนวนโครงการแบบสรุปรายละเอียดของโครงการที่ได้รับการพิจารณาสนับสนุนตามแผนงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... กองทุนพัฒนาไฟฟ้า .............. (ระบุชื่อกองทุน).............................. ลำดับที่ คพรฟ.โครงการชุมชนแผนงาน (1-7)สอดคล้อง กับแผน ยุทธศาสตร์ ที่พื้นที่ดำเนินโครงการ หน่วยดำเนินงาน งบประมาณ (บาท) มูลนิธิชุมชนหมู่บ้านตำบลอำเภอจังหวัด แบบรับรองการดำเนินงาน ของกลุ่มบุคคล เขียนที่ วันที่ เดือน พ.ศ. เรียน คพรฟ. กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้า (นาย/นาง/นางสาว) อายุ ปี บัตรประจำตัวข้าราชการ/บัตรประจำตัว ประชาชน เลขที่ ออกให้โดย วันออกบัตร วันหมดอายุ มีสถานภาพเป็น กรรมการ ใน คพรฟ. กรรมการ ใน คพรต. กำนันตำบล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่/หมู่บ้าน ตำบล ข้าพเจ้าขอรับรองว่ากลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้ เป็นผู้ที่มีการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล และได้ตรวจสอบแล้วว่า แต่ ละบุคคลดังกล่าวรับดำเนินโครงการชุมชนไม่เกิน ๓ โครงการ ๑. ๒. ๓. ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อความที่ได้ให้ไว้ข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ หมายเหตุ : การรับรองเอกสารอันเป็นเท็จมีความผิดตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา เอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๔ (กฟ. 97(3)-24) ลงนาม................................................................................ ผู้รับรอง (................................................................) ตำแหน่ง ......................................................... วันที่ ................................................................. เอกสารแนบท้ายประกาศหมายเลข ๕ วิธีการจัดซื้อจัดจ้างของผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล เฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑. เมื่อโครงการชุมชนได้รับอนุมัติเงินกองทุนตามโครงการที่เสนอขอแล้ว ให้ประธาน คพรฟ. ทำ ข้อตกลงกับผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล ประกอบด้วยประชาชนในพื้นที่ประกาศจำนวน ๓ คน ทำหน้าที่จัดซื้อ จัดจ้างพัสดุ โดยพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้างต้องมีคุณภาพดีและราคาเหมาะสม แล้วรายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวให้ คพรฟ. ทราบ ๒. ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล จะกำหนดให้บุคคลหนึ่งทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างพัสดุได้ไม่เกิน ๓ โครงการต่อปีเท่านั้น ๓. การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุของผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลกระทำได้ ๒ วิธีดังต่อไปนี้ (๑) วิธีติดต่อตกลงราคากับผู้ขาย ผู้รับจ้าง หรือผู้ให้เช่าโดยตรง ในกรณีที่มีวงเงินการจัดซื้อจัดจ้าง พัสดุไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (๒) วิธีประกาศการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ เพื่อให้ผู้ขา ย ผู้รับจ้าง หรือผู้ให้เช่ามากกว่าหนึ่งรายขึ้นไปยื่น ข้อเสนอราคา ในกรณีที่มีวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างเกินกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยปิดป้ายประกาศ ตามที่สาธารณะ หรือทำหนังสือเชิญ หรือประกาศเสียงตามสายล่วงหน้าอย่างน้อย ๓ วัน เพื่อเชิญชวน ๔. ให้ผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลเป็นผู้รับผิดชอบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างตาม ๓. และเมื่อมีผล การจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวแล้ว ให้ประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาตรวจรับการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๕. เมื่อผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลตรวจรับการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ให้ลงชื่อกำกับในหลักฐานการ ตรวจรับอย่างน้อย ๒ ใน ๓ คนทุกครั้ง แล้วรายงานให้ประธาน คพรฟ. ทราบ เพื่อให้กองทุนจ่ายเงินตรงให้กับ ผู้รับจ้างหรือร้านค้าที่เป็นคู่สัญญาต่อไป ๖. พัสดุของผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่มบุคคล ให้ตัดเป็นค่าใช้จ่าย และตัดออกจากการบันทึกบัญชีของ กองทุน ๗. กรณีผู้ยื่นข้อเสนอการจัดซื้อ จัดจ้าง หรือการจ้างที่ปรึกษา ซึ่งได้รับการคัดเลือกแล้วไม่ยอมมาทำ สัญญาหรือข้อตกลงภายในเวลาที่กำหนด หรือกรณีผู้ขาย หรือผู้รับจ้าง หรือที่ปรึกษา ไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือ ข้อตกลงโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ประธาน คพรฟ. รายงานให้สำนักงานทราบ ทั้งนี้ห้ามผู้ได้รับจัดสรรซึ่งเป็นกลุ่ม บุคคล ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ขายหรือผู้รับจ้างหรือที่ปรึกษาดังกล่าว รวมถึงบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชี รายชื่อผู้ทิ้งงานของราชการหรือสำนักงานจนกว่าจะมีการพิจารณาเป็นอย่างอื่น เล่ม: ๑๓๗ หมวด: ๒๒๙ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ หน้า: ๓๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:113949", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๖๓", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/229/T_0035.PDF", "year": null }
nonweb_138490
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ยางชะลอความเร็ว ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 44 (พ.ศ. ๒๕๖5) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ยางชะลอความเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายใน การตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๐ ทวิ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๑ ทวิ และมาตรา ๔๔ (๑) เฉพาะผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องหมายมาตรฐานตามมาตรา ๑๖ หรือที่ได้รับใบอนุญาตหรือได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๒๐ มาตรา ๒๐ ทวิ มาตรา ๒๑ หรือมาตรา ๒๑ ทวิ ไว้ดังต่อไปนี้ มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม เลขที่ มาตรฐาน รายละเอียด อัตราค่าใช้จ่าย ต่อตัวอย่าง 1 ชุด (บาท) หมายเหตุ ยางชะลอ ความเร็ว มอก. 2726-2559 มิติและ เกณฑ์ความ คลาดเคลื่อน ความกว้าง ความยาว และ ความสูงของยางชะลอความเร็ว 500 คุณลักษณะ ที่ต้องการ ลักษณะทั่วไป 200 สมบัติทาง ฟิสิกส์ ความแข็ง 500 ความต้านแรงดึง 500 ความยืดเมื่อขาด มอดุลัสการ กดอัด 3,000 การเร่ง การเสื่อมอายุ เปลี่ยนแปลง ไม่เกินจากค่า ก่อนการเร่ง 1,500 การยุบตัว เนื่องจากแรงอัด 500 หน้า ๔๔ มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม เลขที่ มาตรฐาน รายละเอียด อัตราค่าใช้จ่าย ต่อตัวอย่าง 1 ชุด (บาท) หมายเหตุ ความทนต่อ การขัดสี 1,500 ความคงทน ของสีต่อ สภาพลมฟ้า อากาศ โดยวิธี เร่งภาวะ 1,250 ความทนต่อ โอโซน 1,500 การบรรจุ 200 เครื่องหมายและฉลาก 200 ทั้งนี้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เล่ม: 140 หมวด: 31 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 09/02/2023 หน้า: 44
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:138491", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ยางชะลอความเร็ว", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D031S0000000004400.pdf", "year": null }
nonweb_110745
ประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง ยกเลิกประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง กำหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง ยกเลิกประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง กำหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕6๒ ตามที่คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยองได้ประกาศกำหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล ออกโดยอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๗๗ แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดให้เขตท้องที่จังหวัดระยอง เป็นเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล นั้น เนื่องจากการกำหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล ดังกล่าว ทับซ้อนกับพื้นที่ตามคำสั่งจังหวัดระยอง ที่ ๘๒๕๘/๒๕๕๙ เรื่อง การระงับใช้ความเค็มในการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่น้ำจืดจังหวัดระยอง ลงวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่กำหนดให้ ระงับใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดจังหวัดระย อง ทำให้ประกาศคณะกรรมการ ประมงประจำจังหวัดระยองขัดแย้งกับคำสั่งจังหวัดระยอง จึงต้องยกเลิกประกาศคณะกรรมการประมง ประจำจังหวัดระย อง เรื่อง กำหนดเขตเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำสำหรับกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ดังนั้น อาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๗๗ แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง กำหน ดเขต เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสำหรับกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ สุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประธานกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๒๒๒ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๓๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:110746", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง ยกเลิกประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดระยอง เรื่อง กำหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๒", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/222/T_0031.PDF", "year": null }
nonweb_112953
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๒๓๓/๒๕๖๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๒๓๓/๒๕๖๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า หำ งหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จิตรกร ว่องเขตกร ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน หน้า ๗ 1ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เอ็น .ดี. พาวเวอร์ ๐๘๓๓๕๕๖๐๐๒๐๓๘ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามพีพาร์ท แอนด์ ซัพพลาย (ประเทศไทย) ๐๑๓๓๕๔๕๐๐๑๒๔๔ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านสวน ซัพพลาย ๒๕๕๘ ๐๑๕๓๕๕๘๐๐๐๔๕๔ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ อ่างทอง ๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อูซี่ เรียล เอสเตท ๐๒๐๓๕๖๐๐๐๕๘๓๑ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส . มั่นคง ๐๑๖๓๕๕๙๐๐๑๐๓๙ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ลพบุรี ๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธัญชนก อีควิปเมนท์ ๐๑๙๓๕๖๐๐๐๐๔๗๔ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ สระบุรี ๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเฟิร์ม เน็ตเวิร์ค ๐๓๑๓๕๕๙๐๐๒๑๗๓ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านกตัญูเนิสซิ่งโฮม ๐๕๐๓๕๕๙๐๐๓๒๑๖ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่กูรู เซอร์วิส ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๕๖๔๖ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่สุทธิพร หางดง ๐๕๐๓๕๖๒๐๐๒๕๒๗ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พริมโรส เบเนฟิเชียล ๐๕๐๓๕๖๒๐๐๖๑๓๑ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .ร่มโพธิ์ทองการโยธา ๐๔๗๓๕๖๐๐๐๓๐๕๕ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ สกลนครรายละเอียดการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป . 233/ 2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 2ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก้องฟ้า ขนส่งและโยธา ๐๕๗๓๕๕๒๐๐๑๔๔๗ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรีเมี่ยมโกท ๐๗๐๓๕๕๙๐๐๐๔๙๕ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกสิทธิ์เพชรบุรี ๒๐๐๓ ๐๗๖๓๕๔๖๐๐๐๐๙๒ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เพชรบุรี ๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอเนอร์ คาเฟ๋ ๑ ๐๗๖๓๕๖๐๐๐๐๕๖๘ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ เพชรบุรี ๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พอเพียง ๒๔๗๐ ๐๗๑๓๕๕๙๐๐๑๒๘๙ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ กาญจนบุรี ๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูเก็ตรสเยี่ยม ๐๘๓๓๕๓๘๐๐๑๔๒๔ ๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลูกทุ่งตะวันตก ๐๓๓๓๕๕๖๐๐๐๙๒๗ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ศรีสะเกษ ๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภิญโญ โฆษณา ๐๗๐๓๕๕๖๐๐๐๐๓๖ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพอุดมพัทธ์ ๐๗๒๓๕๕๙๐๐๐๘๔๓ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุพรรณบุรี ๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทราเวลเฮาส์ โดย เสรีภาพ ๐๗๒๓๕๕๘๐๐๐๙๕๕ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุพรรณบุรี ๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีอาร์ เอ็นจิเนียริง เชียงใหม่ ๒๐๑๘ ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๕๗๔๓ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีพาร์ทเม้นท์ ๙๙ ๐๕๐๓๕๔๒๐๐๐๗๕๘ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นพีรถทำเงินทรานสปอร์ต ๐๔๕๓๕๖๓๐๐๑๒๐๗ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด 3ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นภสร เฮลธ์ แคร์ ๐๕๒๓๕๕๓๐๐๑๒๒๐ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง ๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไนซ์ แอนด์ พีพีทีดีดักชั่น ๐๔๘๓๕๖๒๐๐๐๘๙๔ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ นครพนม ๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ถาวรีย์ การโยธา (๒๐๐๕) ๐๘๐๓๕๔๘๐๐๑๗๒๙ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธิดารัตน์ ทรานสปอร์ต แอนด์ เซอร์วิส ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๒๐๗๑ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันทสอน เทรดดิ้ง ๐๒๐๓๕๖๐๐๐๕๘๙๑ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลธิชา ๑-๒ คอนสตรัคชั่น ๐๒๐๓๕๕๖๐๐๒๒๓๘ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มิลเลี่ยน โกร ซัพพลาย ๐๑๔๓๕๖๓๐๐๑๐๖๔ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุกด์ เอ็นเตอร์ไพร์ส ๐๒๐๓๕๔๗๐๐๓๕๑๑ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาริชาติ เฮลตี้ ๐๑๓๓๕๖๐๐๐๐๖๐๑ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไบรท์ เคมเทค ๐๑๐๓๕๓๕๐๒๔๑๓๖ ๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รชตะเจริญทรัพย์ ๐๓๐๓๕๕๔๐๐๐๕๕๕ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนัท ลำปางก่อสร้าง ๐๕๒๓๕๕๕๐๐๑๖๕๑ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง ๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล . เอส. ทราเวล เอเจนซี่ ๐๘๔๓๕๕๕๐๐๑๖๓๑ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี 4ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอเดีย ปริ้น สมุย ๐๘๔๓๕๖๐๐๐๑๓๘๕ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล .เค.ซีคอนสตรัคชั่น ๐๙๑๓๕๕๘๐๐๐๑๑๒ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ สตูล ๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาสเตอร์มายด์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๔๘๖๔ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยาริสคริสตัลเจซีซี ๐๔๒๓๕๖๐๐๐๐๔๓๙ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ เลย ๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ โอ เอส อยุธยา พาส เซอร์วิส แอนด์ ซับคอนแทรคท์ ๐๑๔๓๕๕๙๐๐๐๖๒๘ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวลท์ เอ็กซ์เชนจ์ ๐๘๓๓๕๕๙๐๐๐๓๕๔ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตวงทรัพย์ การเกษตร ๐๓๖๓๕๖๒๐๐๑๖๗๑ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ชัยภูมิ ๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรงพล การไฟฟ้า ๐๓๖๓๕๖๑๐๐๑๗๕๘ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ชัยภูมิ ๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญทวีรวย ก่อสร้าง ๐๓๔๓๕๕๗๐๐๐๗๔๒ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปราณธนชัย ๒๖๘ ๐๗๗๓๕๕๔๐๐๐๘๐๒ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ทวีคูณไพศาล ๐๒๐๓๕๖๓๐๐๒๑๖๗ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แพร -พิมพ์ ๐๕๐๓๕๕๑๐๐๐๑๔๕ ๕ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .ดับบิว คอนกรีต ๐๔๘๓๕๕๐๐๐๐๔๐๑ ๖ ส.ค. ๒๕๖๓ นครพนม 5ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีเชลล์ สมุย ๐๘๔๓๕๖๐๐๐๒๐๖๓ ๖ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลีลามาร์เก็ตติ้ง ๐๑๐๓๕๓๖๐๒๗๖๒๗ ๖ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคเจริญการสร้าง (๑๙๙๔) ๐๗๖๓๕๓๗๐๐๐๒๑๒ ๖ ส.ค. ๒๕๖๓ เพชรบุรี ๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ เค สไลด์ออน ๐๓๐๓๕๖๒๐๐๔๒๕๔ ๖ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคมป์ ๔๑ ๐๔๐๓๕๖๒๐๐๒๗๘๑ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศศิชา ทรานสปอร์ต ๐๑๑๓๕๖๐๐๐๖๐๐๖ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วาย .ซี.เอส .อินทีเรียร์แอนด์ดีไซน์ ๐๑๔๓๕๔๙๐๐๐๒๗๗ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เนวิเกชั่นส์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ เอ็กเปอร์ทิส ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๐๓๙๗ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมาตาไฟ ๐๑๒๓๕๖๒๐๐๒๓๐๐ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อภินทร์พร ๐๔๐๓๕๖๑๐๐๑๐๕๖ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เหยื่อปลอม กบสกล ๐๔๗๓๕๖๒๐๐๑๔๘๓ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สกลนคร ๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช ชัชวาล ๐๖๖๓๕๖๐๐๐๐๑๘๖ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ พิจิตร ๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีทีเอส ทรานสปอร์ต ๐๑๔๓๕๕๗๐๐๐๙๐๖ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา 6ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มิตรซาลาเปา ๐๓๒๓๕๖๐๐๐๐๕๕๓ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สุรินทร์ ๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประไพพร คลีนนิ่ง ๐๑๖๓๕๔๔๐๐๐๒๕๒ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ลพบุรี ๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส เอส เอส ซีเคียวริตีแอนด์เซอร์วิส ๐๔๔๓๕๕๘๐๐๑๒๕๓ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส .พาณิชย์จักรกล ๐๑๑๓๕๔๗๐๐๒๐๙๔ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชร รุ่งเรืองอิเล็คทริค ๐๖๒๓๕๖๑๐๐๐๓๕๐ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจอาร์ แอนด์ ดี เซซามิ ๑๘๖๔ ๐๕๘๓๕๖๓๐๐๐๐๙๙ ๗ ส.ค. ๒๕๖๓ แม่ฮ่องสอน ๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฮงเจริญ โมบาย ๒๐๐๙ ๐๖๕๓๕๕๓๐๐๑๔๕๘ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทกอน เดคคอเรท ๐๖๖๓๕๕๘๐๐๐๙๙๙ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ พิจิตร ๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกลด์ กัน ๐๒๔๓๕๖๑๐๐๐๔๓๔ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทย พีแม็ค ๐๔๑๓๕๕๗๐๐๒๕๙๑ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .พี.ซี. โกลด์ เทรดดิ้ง ๐๓๙๓๕๖๓๐๐๐๓๔๑ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ หนองบัวลำภู ๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก .วัสดุก่อสร้าง ๐๗๗๓๕๒๔๐๐๐๑๕๔ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นชัย (๒๐๑๙) ๐๑๙๓๕๖๒๐๐๑๔๒๗ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๓ สระบุรี 7ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภู่หลานเดอะเบสท์ ๐๕๐๓๕๖๓๐๐๒๒๕๓ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมิงซ่อมบำรุง ๐๑๖๓๕๖๒๐๐๐๒๔๒ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ลพบุรี ๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจที เวนเจอร์ ๐๓๐๓๕๖๒๐๐๔๒๘๙ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมออโต้ เซอร์วิส (๒๕๑๑) ๐๑๔๓๕๔๙๐๐๐๔๙๘ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วนิดา เทเลอร์ ๐๗๗๓๕๕๖๐๐๐๓๐๓ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปุณณวัฒน์ ๐๑๔๓๕๔๗๐๐๑๔๑๑ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โพธิ์ทัยบริการ ๐๑๓๓๕๓๖๐๐๐๑๒๕ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด การพาณิชย์อุตรดิตถ์ ๐๕๓๓๕๖๐๐๐๑๐๔๓ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญชัยราชสีมา ๐๓๐๓๕๒๔๐๐๐๓๔๔ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะวัน ๒๕๕๙ ๐๔๖๓๕๕๙๐๐๐๘๔๖ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิว ฟูด โพรดัก ๐๕๑๓๕๖๐๐๐๑๕๘๒ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำพูน ๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สักลอยางพารา ๐๕๖๓๕๖๒๐๐๐๑๕๐ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ พะเยา ๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไบโอแมส อีโค่กรีน ๐๕๒๓๕๕๖๐๐๐๐๕๔ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง 8ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นัทธิ์นรีกุล เฮลท์แคร์ ๐๕๖๓๕๕๕๐๐๐๔๖๘ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ พะเยา ๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค เอ็ม พีซัพพลายเออร์ ๒๐๑๘ กรุ๊ป ๐๕๑๓๕๖๑๐๐๑๑๑๐ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำพูน ๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงศิริพันธ์ พลาสติก ๐๗๔๓๕๕๗๐๐๐๑๖๑ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรสาคร ๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิชยดาพืชผล ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๐๑๘๑ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง ๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัตติกาล ลำปางปิโตรเลียม ๐๕๒๓๕๕๕๐๐๐๕๔๙ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง ๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี .ดี. เจ้าทรัพย์ เทรดดิ้ง ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๑๙๖๒ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรีรัญญา ๐๑๓๓๕๕๙๐๐๑๐๘๐ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธานี เก่ง การช่าง ๐๑๓๓๕๕๗๐๐๓๐๐๐ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอซีที แอดวานซ์ เซอร์วิส ๐๒๐๓๕๖๒๐๐๓๕๘๕ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนกรร่วมสร้าง ๐๔๔๓๕๕๙๐๐๐๕๐๑ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๑๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นรมน การโยธา ๐๖๑๓๕๕๙๐๐๐๓๔๘ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ อุทัยธานี ๑๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่สอดดวงกมล ๐๖๓๓๕๓๖๐๐๐๕๔๖ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ตาก ๑๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีเอ็นพี .ทรัค แอนด์ คอนสทรัคชั่น ๐๖๔๓๕๕๘๐๐๐๒๕๕ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุโขทัย 9ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บาลเมืองการค้า ๐๖๔๓๕๖๐๐๐๐๙๓๓ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุโขทัย ๑๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เก้าหำประชาร่วมใจ ๐๖๔๓๕๖๒๐๐๐๐๙๔ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุโขทัย ๑๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เก้า -ไทยโฮเทล แอนด์ พูล ๐๗๑๓๕๕๙๐๐๐๘๗๘ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ กาญจนบุรี ๑๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นพรัตน์ พูล วิลลัส ๐๘๑๓๕๕๙๐๐๐๑๙๒ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ กระบี่ ๑๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สองพี่น้องยางแผ่น ๐๙๑๓๕๖๒๐๐๐๓๑๘ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สตูล ๑๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชนะวัตร รีเอ็นจิเนียริ่ง ๐๘๓๓๕๕๒๐๐๐๑๓๘ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชตินันท์อินเตอร์กรุ๊ป ๐๔๐๓๕๕๐๐๐๒๗๑๔ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๑๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อีแอนด์พี เพาเวอร์ พาร์ท แอนด์ เซอร์วิส ๐๕๑๓๕๕๘๐๐๐๙๐๖ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำพูน ๑๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรพัฒน์เจริญโลหะ ๐๒๕๓๕๕๘๐๐๐๐๘๙ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๑๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส ๐๕๐๓๕๔๘๐๐๔๘๙๕ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โคตรของฝาก ๐๑๘๓๕๖๐๐๐๐๓๖๙ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ชัยนาท ๑๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกระวีการช่าง ๐๑๙๓๕๔๙๐๐๑๖๔๘ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สระบุรี ๑๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพี เบเกอรี่ เฮ้าส์ ๐๙๐๓๕๖๓๐๐๐๗๗๐ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สงขลา 10ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .เค. การบัญชีและกฎหมาย ๐๒๐๓๕๖๐๐๐๔๓๖๓ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี .พี.เอ็ม เคมซัพพลาย ๐๑๑๓๕๖๑๐๐๒๙๙๓ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี .ที.เอส. พรีซิชั่น ๐๑๓๓๕๕๕๐๐๔๐๗๖ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซูปา สเตค ๐๕๐๓๕๕๓๐๐๒๗๑๔ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามพาราไดร์รีสอร์ท ๐๘๐๓๕๕๒๐๐๑๕๙๒ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๑๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทย สเปเชี่ยล การ์ด ๐๓๒๓๕๕๗๐๐๑๐๔๘ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ สุรินทร์ ๑๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม เอ็น ขนส่ง ๐๒๐๓๕๕๘๐๐๕๒๓๔ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มันนี่ เอ็มไพร์ ๐๒๐๓๕๕๗๐๐๖๔๖๖ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อะเบาท์ มันนี่ ๐๒๐๓๕๕๗๐๐๖๔๔๐ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เติมดี ๔๙ ๐๓๐๓๕๔๙๐๐๒๘๑๒ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๑๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคชัย เขตมงคล ๐๓๐๓๕๔๙๐๐๒๐๙๐ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๑๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พูนธนาทรัพย์ ๖๓ ๐๑๓๓๕๖๐๐๐๒๒๘๑ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทีเอ็นวีซัพพลาย แอนด์ เทรด ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๑๒๘๘ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 11ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รื่นฤดีปิโตรเลียม แอนด์ เอ็น .จี.วี. ๐๘๔๓๕๕๑๐๐๑๘๐๗ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๑๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญเลิศ เรดิโอ สเตชั่น ๐๖๗๓๕๕๙๐๐๐๖๓๑ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ เพชรบูรณ์ ๑๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มงคลทรัพย์ ๘๙ ๐๖๔๓๕๖๐๐๐๐๕๓๔ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ สุโขทัย ๑๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นอร์ทเทิร์น โฮม บิลเดอร์ ๐๕๐๓๕๖๒๐๐๒๐๗๑ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รวมขนม ๐๔๕๓๕๖๓๐๐๑๐๐๒ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด ๑๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีทีลอจิสติกส์ แอนด์ เซอร์วิส ๐๓๐๓๕๖๒๐๐๕๑๒๙ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๑๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ทีเอ็มเค ๐๔๘๓๕๕๗๐๐๐๐๘๓ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ นครพนม ๑๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสทีพี เคเบิล ๐๒๒๓๕๔๖๐๐๑๑๘๒ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ จันทบุรี ๑๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างคำทองอึ้งเฮงหลีตราส้ม ๐๓๐๓๕๕๔๐๐๔๑๐๑ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๑๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศูนย์ป้องกันสนิม -นครสวรรค์ ๐๖๐๓๕๓๒๐๐๐๔๒๘ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๑๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีบีบีฟู้ด พรีเมี่ยม ๐๑๓๓๕๖๓๐๐๑๗๑๔ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คูลิน ๑๙ โปร ซัพพลาย ๐๓๔๓๕๖๐๐๐๒๖๕๓ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๑๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิตธินันท์ กรุ๊ป ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๐๒๒๒ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 12ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์ โฟกัส ๒๐๑๘ ๐๗๐๓๕๖๑๐๐๐๖๔๒ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ นครปฐม ๑๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณิชานันท์ เอ็นจิเนียร์ ๐๘๔๓๕๖๒๐๐๒๕๑๖ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๑๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริทึ่ม เดคคอร์ ๐๕๐๓๕๖๒๐๐๐๒๖๕ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรสินวิศวะภัณฑ์ ๐๑๙๓๕๖๒๐๐๑๑๓๓ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ สระบุรี ๑๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทุ่งกองทรัพย์ ๐๓๔๓๕๕๘๐๐๐๔๕๒ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๑๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีเจเจ มีเดีย แอดเวอร์ไทซิ่ง ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๐๖๒๗ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๓ พิษณุโลก ๑๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สาระศิลป์ กรุ๊ป ๐๕๐๓๕๕๗๐๐๖๑๘๘ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนดินแดงสังฆภัณฑ์ ๐๓๑๓๕๖๒๐๐๐๕๗๗ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๑๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลำพูน อาร์คิเทค ๐๕๑๓๕๕๘๐๐๐๘๕๐ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำพูน ๑๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟิลิปโป ๐๕๒๓๕๖๑๐๐๐๐๒๔ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง ๑๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านแซทเทลไลท์ ๐๕๕๓๕๖๓๐๐๐๔๘๐ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ น่าน ๑๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไพร์ม ธารา ๐๖๐๓๕๕๘๐๐๐๓๖๑ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๑๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงศ์พิชา บูติคเฮ้าส์ ๐๖๓๓๕๕๔๐๐๐๗๗๓ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ตาก 13ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเค คอนสตรัคชั่น เพชรบุรี ๐๗๖๓๕๔๘๐๐๐๒๖๐ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ เพชรบุรี ๑๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองเสริมชัย ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๑๒๒๒ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๑๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมศักดิ์ปิโตรเลียม (๑๙๙๔) ๐๘๐๓๕๓๗๐๐๑๕๖๑ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๑๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟอร์จูนฟรุ๊ต ๐๑๓๓๕๕๓๐๐๗๐๕๑ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น แอนด์ พีคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๐๔๗๘ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๑๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ล .เลิศล้ำ ๒๐๑๗ ๐๑๔๓๕๖๐๐๐๑๕๗๘ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๑๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม .เอส .เอ็ม. โลจิสติกส์ ๐๒๐๓๕๕๙๐๐๔๔๔๔ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญป้ณณ์ทอง ๐๒๖๓๕๕๑๐๐๐๓๗๗ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ นครนายก ๑๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธันเดอร์ทีม ๙ ๐๓๑๓๕๕๕๐๐๑๐๘๓ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๑๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สวรรฑนา เค .เค. ๐๓๑๓๕๔๘๐๐๐๙๙๙ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๑๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญพิวรรณ ๒๐๑๙ ๐๓๑๓๕๖๒๐๐๐๕๕๑ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๑๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยพาลี ๐๓๑๓๕๖๓๐๐๐๔๖๕ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๑๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ .ดี.ผลบุญ กรุ๊ป ๐๓๕๓๕๕๙๐๐๐๙๐๑ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ ยโสธร 14ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธันเดอร์ทีม ๑๐ ๐๓๑๓๕๕๕๐๐๑๐๙๑ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ บุรีรัมย์ ๑๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร็อคกี้อินเตอร์ กรุ๊ป ๐๕๐๓๕๖๐๐๐๗๓๔๓ ๒๐ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรแสง ๘๘๙ ๐๕๗๓๕๖๐๐๐๕๘๖๓ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๑๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แก้ม คอสเมติก ๐๗๗๓๕๖๒๐๐๐๔๖๘ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ประจวบคีรีขันธ์ ๑๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮาร์ดแวร์ฮับ ๐๘๓๓๕๕๗๐๐๑๗๐๑ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๑๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช่างหน่อย เลธ พาร์ท ๐๑๑๓๕๖๒๐๐๐๕๔๔ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๑๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอไอ ซัพพอร์ต ๐๑๓๓๕๖๐๐๐๔๗๑๒ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิณต์มณี เนอร์สซิ่งโฮม ๐๑๓๓๕๖๓๐๐๑๐๐๕ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงงานทำอิฐ บบก .อุตสาหกรรม ๐๑๕๓๕๔๐๐๐๐๓๖๓ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อ่างทอง ๑๗๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กูยไฮ เพ้นติ้ง แอนด์ ซัพพลาย ๐๒๐๓๕๖๒๐๐๐๕๑๙ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๗๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฤชากร ซัพพลาย แอนด์ เซอร์วิส ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๑๑๔๗ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๘๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี .เอ็ม รุ่งเรือง ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๐๗๗ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อำนาจเจริญ ๑๘๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฝ้นศิริ ๐๕๐๓๕๕๘๐๐๕๘๓๕ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำปาง 15ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๘๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส .เค. ค้าส่ง ๐๕๓๓๕๖๓๐๐๐๓๒๓ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๑๘๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอ็มที มีเดีย ๐๕๗๓๕๕๙๐๐๒๗๓๒ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๑๘๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งเจริญทรัพย์ ตะพานหิน ๐๖๖๓๕๕๘๐๐๐๔๘๔ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ พิจิตร ๑๘๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธรรมจักรก่อสร้าง ๐๗๒๓๕๓๘๐๐๐๙๓๓ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุพรรณบุรี ๑๘๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านช้างเขาสก ๐๘๔๓๕๖๐๐๐๒๑๖๑ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๑๘๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นัมเบอร์ ๓๐๕ ๐๘๐๓๕๖๑๐๐๑๔๗๘ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ นครศรีธรรมราช ๑๘๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จันดาเวียง ทรานสปอร์ต ๐๔๐๓๕๖๐๐๐๐๓๘๒ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๑๘๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชากริส ทรานสปอร์ต ๐๑๔๓๕๖๐๐๐๐๕๐๔ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๑๙๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี แอร์ แลนด์ ทราเวล แอนด์ เซอร์วิส ๐๒๐๓๕๕๗๐๐๑๔๒๑ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๙๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โคตรพัฒน์ ไวน์ ๐๒๐๓๕๕๘๐๐๒๖๒๖ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๑๙๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉมวยการโยธา ๐๒๔๓๕๓๖๐๐๐๑๙๑ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ฉะเชิงเทรา ๑๙๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค .ที.ที.กู๊ดเทรดดิ้ง ๐๔๐๓๕๕๖๐๐๔๕๒๒ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๑๙๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิตรกร คอนสตรัคชั่น (๒๐๑๗) ๐๔๙๓๕๖๐๐๐๑๐๕๒ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ มุกดาหาร 16ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๑๙๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ .ซี.มาร์เก็ตติ้ง ๒๐๑๘ ๐๑๓๓๕๖๑๐๐๑๐๖๗ ๒๔ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๑๙๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิวาการก่อสร้าง ๐๖๒๓๕๖๐๐๐๐๗๔๗ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๑๙๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่อกนิษฐ์ กรุ๊ป ๐๕๐๓๕๔๘๐๐๑๘๒๙ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๑๙๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัตนาวดีกรุ๊ป ๐๖๒๓๕๖๐๐๐๐๗๘๐ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๑๙๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกชัยการโยธา ๐๖๒๓๕๖๐๐๐๐๗๖๓ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๐๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับเบิ้ลยู เซฟตี้ไฟร์ ๒๐๑๘ ๐๘๔๓๕๖๑๐๐๒๔๙๑ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหะการปลาป๋นปากน้ำชุมพร ๐๘๖๓๕๑๑๐๐๐๑๔๑ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ชุมพร ๒๐๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัชรา น้ำยางสด ๐๙๐๓๕๖๑๐๐๒๘๓๐ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๐๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กนกพัฒนา การก่อสร้าง ๐๑๐๓๕๕๗๐๑๙๒๗๕ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรมงคล วิศวกรรม ๒๕ ๐๑๐๓๕๕๗๐๑๙๒๖๗ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๐๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พลาสติก สยาม (๒๕๕๙) ๐๑๔๓๕๕๙๐๐๐๗๘๔ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ พระนครศรีอยุธยา ๒๐๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยอดพลอย คอนสตรัคชั่น ๐๑๖๓๕๕๙๐๐๑๐๗๑ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ลพบุรี ๒๐๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามกัมพูชา ทรานสปอร์ต ๐๒๓๓๕๕๗๐๐๐๔๗๖ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ตราด 17ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๐๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกตเวย์ แอร์ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส ๐๒๔๓๕๕๐๐๐๐๕๔๓ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๐๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสทีเค .การโยธา ๐๓๐๓๕๕๙๐๐๐๘๓๙ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๒๑๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซีที เอ็น ซัพพลาย แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๒๐๓๕๕๔๐๐๗๑๒๗ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๑๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประสิทธิ์สุข เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ซัพพลาย ๐๒๕๓๕๖๒๐๐๐๘๒๙ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ ปราจีนบุรี ๒๑๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ควีนบีฟาร์ม ๐๕๐๓๕๖๑๐๐๓๐๑๕ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๑๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัฐพล การโยธา ๒๐๑๗ ๐๖๒๓๕๖๐๐๐๐๗๕๕ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๑๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นายพันธ์ ก่อสร้าง ๐๕๗๓๕๕๘๐๐๒๑๙๔ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๒๑๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี ๖๒ คอนสตรัคชั่น ๐๕๕๓๕๖๒๐๐๐๘๖๙ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ น่าน ๒๑๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป๋าก๊อ เรดิโอ ๐๕๗๓๕๕๕๐๐๒๔๓๖ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๒๑๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขุนแผน เซอร์วิส ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๗๘๓ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ พิจิตร ๒๑๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อรุณ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ๒๐๑๙ ๐๗๑๓๕๖๒๐๐๐๔๓๓ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ กาญจนบุรี ๒๑๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามรับเบอร์พาทส์ อินดัสทรีส์ ๐๗๓๓๕๔๗๐๐๐๐๗๐ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ นครปฐม ๒๒๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดลีเชียส ๐๕๐๓๕๕๓๐๐๖๔๓๔ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ 18ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๒๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมาธิเคชั่น ๐๑๓๓๕๖๒๐๐๔๖๙๘ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๒๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมายล์บิวตี้ (๒๐๑๙) ๐๓๔๓๕๖๒๐๐๑๔๗๖ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี ๒๒๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แก่นสยาม ขอนแก่น แทรเวล ๐๔๐๓๕๕๖๐๐๑๗๘๗ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๒๒๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรชาญชัย ไอซ์ ๐๔๕๓๕๕๖๐๐๐๘๖๑ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ ร้อยเอ็ด ๒๒๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุวิน อาร์ต ๐๕๐๓๕๖๓๐๐๒๕๕๕ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๒๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับบลิว เค ออโต้ ๒๐๑๑ ๐๑๑๓๕๕๔๐๑๐๐๐๕ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๒๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรดา สถาป้ตย์ ๐๕๗๓๕๖๑๐๐๐๕๖๓ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๒๒๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป้ทนิจ ๐๖๓๓๕๖๓๐๐๐๕๘๖ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ตาก ๒๒๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุโขทัยเมืองใหม่ ๐๖๔๓๕๕๗๐๐๐๑๘๙ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สุโขทัย ๒๓๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนพัต ซัพพลาย ๐๗๐๓๕๕๖๐๐๐๘๙๓ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ราชบุรี ๒๓๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉวาง ชุมแก้ว ทัวร์ ๐๙๒๓๕๕๑๐๐๐๐๒๘ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ตรัง ๒๓๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียร์ คอนซัลแทนท์ แอนด์ ดีเวลลอฟเม้นท์ ๐๕๑๓๕๕๖๐๐๐๗๑๒ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ลำพูน ๒๓๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิว ซัพพลาย ๐๒๐๓๕๖๒๐๐๑๐๒๗ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี 19ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๓๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อ .ไฮปิง ๐๑๙๓๕๓๓๐๐๐๙๐๖ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ สระบุรี ๒๓๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม บราเธอร์ กรุ๊ป ๐๒๐๓๕๖๑๐๐๔๑๕๔ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๓๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชำลาล่า บลอสซั่ม ๐๕๐๓๕๕๘๐๐๒๘๙๕ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๓๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชีพสุวรรณ เอ็นจิเนียริ่ง ๐๑๐๓๕๕๕๐๔๑๘๐๐ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๓ ระยอง ๒๓๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขวัญตารุ่งกิจพัฒนา ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๓๐๙ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๓๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสดีการ์ด แอนส์ เซอร์วิส ๐๕๓๓๕๔๙๐๐๐๒๙๐ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๒๔๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนพรภูเก็ต อินเตอร์เทรดดิ้ง ๐๘๓๓๕๕๘๐๐๐๑๑๓ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๒๔๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นอร์ท เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ๐๑๑๓๕๕๖๐๐๕๓๔๓ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๔๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยูนิตี้การโยธา ๐๑๐๓๕๕๗๐๑๘๔๑๔ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๔๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี .ซี.ทูลส์ แอนด์ ดายส์ เมคกิ้ง ๐๑๑๓๕๔๐๐๐๒๘๔๖ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ สมุทรปราการ ๒๔๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียเฮงเส็งบริการ ๐๑๒๓๕๕๓๐๐๔๒๘๑ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอลลูชั่น อีเว้นท์ โปรดักชั่น ๐๑๒๓๕๖๑๐๐๕๒๗๕ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ นนทบุรี ๒๔๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิวคัลเชอร์อาร์ต ๐๑๓๓๕๕๗๐๐๕๒๘๒ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี 20ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๔๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกพงษ์เจริญยนต์ ๐๓๒๓๕๖๓๐๐๑๑๓๕ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ สุรินทร์ ๒๔๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองไชยรุ่งโรจน์ ๐๓๕๓๕๕๘๐๐๐๖๑๔ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ยโสธร ๒๔๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี เอส เทรดดิ้ง ๒๐๒๙ ๐๔๑๓๕๖๐๐๐๓๑๖๑ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๒๕๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คูณทรัพย์ ไอซ์ ๐๔๖๓๕๖๑๐๐๑๖๒๕ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ กาฬสินธุ์ ๒๕๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นายาง ๒๐๑๓ ๐๔๘๓๕๕๗๐๐๐๗๑๗ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ นครพนม ๒๕๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มหาประฤทธิ์ ๐๖๖๓๕๖๑๐๐๐๕๐๓ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ พิจิตร ๒๕๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จีไอวีอี ๐๑๓๓๕๕๓๐๐๕๐๐๘ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี ๒๕๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคจีรพัฒน์วัสดุก่อสร้าง ๐๙๔๓๕๕๒๐๐๐๗๐๖ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ป้ตตานี ๒๕๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธัญทิพย์รังนก ๐๒๐๓๕๖๐๐๐๐๐๒๓ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ชลบุรี ๒๕๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ .ที.เจริญพาณิชย์ ๐๓๐๓๕๖๐๐๐๔๓๔๖ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ นครราชสีมา ๒๕๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดอกมะลิ ๐๒๓๓๕๔๙๐๐๐๓๕๗ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ตราด ๒๕๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณพลอยดาว คอนสตรัคชั่น ๐๓๓๓๕๖๒๐๐๐๑๘๖ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ศรีสะเกษ ๒๕๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พลอยเกษตรพันธุ์ ๐๓๔๓๕๕๕๐๐๑๕๖๓ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อุบลราชธานี 21ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๖๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๓ ต.เซอร์เวย์ อำนาจเจริญ ๐๓๗๓๕๖๑๐๐๐๒๔๗ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อำนาจเจริญ ๒๖๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะทีมเมท ๐๔๐๓๕๖๒๐๐๒๘๑๑ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ขอนแก่น ๒๖๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคมอเตอร์ ๐๔๑๓๕๕๐๐๐๐๒๕๘ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อุดรธานี ๒๖๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรรณะวิศวกรรมวาปีปทุม ๐๔๔๓๕๕๗๐๐๐๑๖๔ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ มหาสารคาม ๒๖๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม็กซ์ ซัพพลาย ๐๕๐๓๕๕๖๐๐๐๒๔๑ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๖๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วัน .บี.ทู มาร์เก็ตติ้ง ๐๕๓๓๕๕๙๐๐๐๑๓๖ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ อุตรดิตถ์ ๒๖๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อรชาการโยธา ๐๖๐๓๕๖๓๐๐๐๖๕๙ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ นครสวรรค์ ๒๖๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วักกะเทวา ๐๕๐๓๕๕๖๐๐๒๑๒๐ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงใหม่ ๒๖๘ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงท่านั่ง ๐๖๒๓๕๕๖๐๐๑๐๑๗ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๖๙ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กีรติการโยธา ๒๕๔๐ ๐๖๒๓๕๖๐๐๐๐๗๓๙ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ กำแพงเพชร ๒๗๐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คานันดีทราเวล ๐๕๗๓๕๕๓๐๐๒๔๕๕ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ เชียงราย ๒๗๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ .บี.ฮัจย์เซอร์วิส ๐๗๖๓๕๖๐๐๐๐๑๘๕ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ เพชรบุรี ๒๗๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชาร์มมิ่ง ริช ๐๖๕๓๕๖๑๐๐๑๕๒๖ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ พิษณุโลก 22ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนวันที่รับ จดทะเบียนหมายเหตุ ๒๗๓ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮาร์ท แอนด์ โซล ไดเวิร์ซ ๐๘๓๓๕๕๖๐๐๐๒๔๘ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ภูเก็ต ๒๗๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลอ จาร์ดีน สมุย ๐๘๔๓๕๖๒๐๐๑๒๗๗ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ สุราษฎร์ธานี ๒๗๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวชสุภัคก่อสร้าง ๐๙๐๓๕๓๒๐๐๐๗๖๐ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ สงขลา ๒๗๖ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิตติพล ป้ตตานีคอนสตรัคชั่น ๐๙๔๓๕๕๕๐๐๐๕๐๒ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ป้ตตานี ๒๗๗ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรเจริญชัยธุรกิจ เคมิคอล ๐๑๓๓๕๕๒๐๐๔๘๒๒ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ปทุมธานี เล่ม: ๑๓๗ หมวด: ๖๙ ค ประกาศ ณ: ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ หน้า: ๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:112954", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๒๓๓/๒๕๖๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/C/069/T_0007.PDF", "year": null }
nonweb_98561
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสิงห์บุรี เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิวัดจุกคลี" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดสิงห์บุรี เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิวัดจุกคลี” ด้วย นายพินิจ ช่วยบุญ อยู่บ้านเลขที่ ๑/๑ หมู่ที่ ๒ ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัด สิงห์บุรี ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิวัดจุกคลี มีใจความสำคัญตาม ข้อบังคับมูลนิธิ ดังต่อไปนี้ ๑. ชื่อมูลนิธิ “มูลนิธิวัดจุกคลี” ๒. วัตถุประสงค์ของมูลนิธิเพื่อ ๒.๑ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของสงฆ์ ๒.๒ เป็นทุนภัตตาหารพระสงฆ์ ๒.๓ สนับสนุนในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๒.๔ บำรุงซ่อมแซมศาสนสถานในวัดจุกคลี ๒.๕ ส่งเสริมสาธารณูปโภค ๒.๖ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ๓. สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่วัดจุกคลี หมู่ที่ ๕ ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ๔. คณะกรรมการมูลนิธิ ประกอบด้วย ๔.๑ นายพินิจ ช่วยบุญ ประธานกรรมการ ๔.๒ นายแว่น แสงน้อย รองประธานกรรมการ ๔.๓ นายวัลลภ มีสอาด กรรมการ ๔.๔ นางสุนทรี สว่างเรือง กรรมการ ๔.๕ นางเบญจมาศ ไกรสมจิตร์ กรรมการ ๔.๖ เรืออากาศตรีวิโรจน์ ภักดิ์พิบูลย์ กรรมการและเหรัญญิก ๔.๗ นายคมสันติ แสงเหลือ กรรมการและเลขานุการ นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสิงห์บุรี ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิรายนี้แล้ว เลขทะเบียนที่ ๑/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๑ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ วิทิต ปินนิกร ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัด สิงห์บุรี นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัด สิงห์บุรี เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๑๓ ง ประกาศ ณ: ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๑๐๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:98562", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสิงห์บุรี เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้ง \"มูลนิธิวัดจุกคลี\"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/013/106.PDF", "year": null }
nonweb_142151
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2563 ข้อบัญญัติองค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองหัวช้าง เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยที่เป็นการสมควรตราข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง ว่าด้วยการควบคุม การเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับมาตรา ๒๙ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองหัวช้างและนายอำเภอพรเจริญ จึงตราข้อบัญญัติไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง เรื่อง การควบคุม การเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๓” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำ บลหนองหัวช้าง ตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในข้อบัญญัตินี้ “การเลี้ยงสัตว์” หมายความว่า การเลี้ยงสัตว์ในสถานที่เลี้ยงสัตว์ “การปล่อยสัตว์” หมายความว่า การเลี้ยงสัตว์ในลักษณะที่มีการปล่อยให้อยู่นอก สถานที่เลี้ยงสัตว์ รวมทั้งการสละการครอบครองสัตว์ “สถานที่เลี้ยงสัตว์” หมายความว่า คอกสัตว์ กรงสัตว์ ที่ขังสัตว์ หรือสถานที่ในลักษณะอื่น ที่ใช้ในการควบคุมสัตว์ที่เลี้ยง “เจ้าของสัตว์” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเป็นเจ้าของสัตว์นั้นรวมถึงผู้ครอบครองสัตว์นั้นด้วย “ราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ หน้า ๒๓๖ ข้อ ๔ เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ในท้องถิ่นหรือเพื่อป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคที่เกิดจากสัตว์ ให้พื้นที่ในเขตอำนาจของราชการส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ เป็นเขตควบ คุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ (๑) ให้พื้นที่ต่อไปนี้เป็นเขตห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์เกินจำนวนที่กำหนด ดังนี้ (๑.๑) พื้นที่อยู่อาศัยบ้านเรือนเป็นเขตห้ามเลี้ยงสัตว์และปล่อยสัตว์ประเภท สุนัข เกินจำนวน ๗ ตัว (๑.๒) พื้นที่อยู่อาศัยบ้านเรือนเป็นเขตห้ามเลี้ยงสัตว์และปล่อยสัตว์ประเภท แมว เกินจำนวน ๓ ตัว (๒) ให้พื้นที่เกษตรกรรมเป็นเขตที่การเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ประเภท สุนัข แมว เป็ด ไก่สุกร โค กระบือ ช้าง ม้า แพะ ห่าน ฯลฯ ต้องมีมาตรการควบคุม กลิ่น เสียง และน้ำเสีย ข้อ ๕ ในกรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นพบสัตว์ในที่หรือทางสาธารณะอันเป็นการฝ๋าฝืนข้อ ๔ ตามข้อบัญญัตินี้ โดยไม่ปรากฏเจ้าของ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจกักสัตว์ดังกล่าวไว้เป็นเวลาอย่างน้อย สามสิบวัน เมื่อพ้นกำหนดแล้วยังไม่มีผู้ใดมาแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของเพื่อรับสัตว์คืนให้สัตว์นั้น ตกเป็นของราชการส่วนท้องถิ่น แต่ถ้าการกักสัตว์ไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่สัตว์นั้นหรือสัตว์อื่นหรือต้อง เสียค่าใช้จ่ายเกินสมควร เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะจัดการขายหรือ ขายทอดตลาดสัตว์นั้นตามควรแก่กรณี ก่อนถึงกำหนดเว ลาดังกล่าวก็ได้ เงินที่ได้จากการขายหรือขายทอดตลาดเมื่อได้หักค่าใช้จ่ายในการขาย หรือขายทอดตลาดและค่าเลี้ยงดูสัตว์แล้วให้เก็บรักษาไว้แทนสัตว์ กรณีที่มิได้มีการขายหรือขายทอดตลาดสัตว์ตามวรรคหนึ่งและเจ้าของสัตว์มาขอรับสัตว์คืน ภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งเจ้าของสัตว์ต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงดูสัตว์ให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น ตามจำนวนที่ได้จ่ายจริงด้วย กรณีที่ปรากฏว่าสัตว์ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นพบนั้นเป็นโรคติดต่ออันอาจเป็นอันตรายต่อประชาชน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจทำลายหรือจัดการตามที่เห็นสมควรได้ ข้อ ๖ ผู้ใดฝ๋าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ ในบทกำหนดโทษแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หน้า ๒๓๗ ข้อ ๗ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้างเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ ประกาศ ณ วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ พูนทรัพย์ อินทร์งาม ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง เล่ม: 140 หมวด: 129 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 02/06/2023 หน้า: 236
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:142152", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวช้าง เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2563", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D129S0000000023600.pdf", "year": null }
nonweb_118545
ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ (Coronavirus Disease ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)) ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตน ที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโร นา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) โดยที่เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ในกรณี ที่ผู้ประกันตนได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ แก่ผู้ประกันตน คณะกรรมการการแพทย์ จึงมีมติเห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราค่าใช้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น สำหรับประโยชน์ ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการประกันสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ (๒) และมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการการแพทย์จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วัน ที่ 5 เมษายน พ.ศ. ๒๕ เป็นต้นไป ข้อ ๒ ในประกาศนี้ “คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการการแพทย์ ให้วินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการ รับ วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) “เงินช่วยเหลือเบื้องต้น” หมายความว่า เงินที่จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในกรณีที่ ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) โดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด ข้อ 3 เงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้จ่ายให้แก่ผู้ประกันตนหรือกรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต ให้เฉลี่ยจ่ายให้แก่สามีหรือภริยา บิดามารดา บุตร ทั้งนี้ผู้ประกันตนดังกล่าวจะต้องไม่ได้รับสิทธิจาก หน่วยงานภาครัฐอื่น ข้อ 4 ความเสียหายที่เกิดจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโร นา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) ที่จะเป็นเหตุให้ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามประกาศนี้จะต้องเป็นการเข้ารับวัคซีนตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมการป้องกัน และขจัด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) จากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และให้รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากเหตุสุดวิสัยจากการรับวัคซีนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ไม่รวมถึงวัคซีนทางเลือก ที่ให้บริการโดยสถานบริการของเอกชนซึ่งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจาก ผู้ประกันตน หน้า ๖๕ ข้อ 5 ประเภทของความเสียหายที่เกิดจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แบ่งเป็น (๑) เสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต และมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน ๔๐0,๐๐๐ บาท (๒) สูญเสียอวัยวะ หรือพิการที่มีผล กระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ได้ตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน ๒๔๐,๐๐๐ บาท (๓) บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่องจากการรับวัคซีนป้องกัน โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ในอัตรา ไม่เกิน 100,000 บาท กรณีที่ความเสียหายไม่อาจจัดเป็นประเภทใดประเภทหนึ่งตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) หรือ (๓) ได้ ให้เป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการที่จะพิจารณาเทียบเคียงกับประเภทความเสียหายที่กำหนดไว้ได้ ตามความเหมาะสม การพิจารณาควา มเสียหายและอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ การแพทย์หรือคณะอนุกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการแพทย์พิจารณา ข้อ 6 ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิที่อ้างว่าผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีน ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโร นา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) มีสิทธิยื่นคำขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามแบบที่กำหนดท้ายประกาศได้ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่หรือสำนักงานประกันสังคม จังหวัดหรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา และให้หน่วยงานดังกล่าวส่งคำขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการการแพทย์ หรือคณะอนุกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ การแพทย์พิจารณา สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดหรือสำนักงา น ประกันสังคมจังหวัดสาขาที่ได้รับคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามมติของคณะกรรมการการแพทย์หรือคณะอนุกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการแพทย์ ประกาศ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณเหลือพร ปุณณกันต์ ประธานกรรมการการแพทย์ เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๗๘ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๖๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:118546", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ (Coronavirus Disease ๒๐๑๙ (COVID-๑๙))", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/178/T_0065.PDF", "year": null }
nonweb_77162
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (จำนวน ๘ ราย) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จำนวน ๘ ราย ดังนี้ ๑. รองศาสตราจารย์สยมพร ศิรินาวิน ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ ภาควิชากุมาร เวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชากุมารเวชศาสตร์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๘ ๒. รองศาสตราจารย์ยุวดี เชี่ยววัฒนา ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาเคมี ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ๓. รองศาสตราจารย์ชวน เพชรแก้ว ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๘ ๔. รองศาสตราจารย์ศิริชัย กาญจนวาสี ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ ภาควิชาวิจัย และจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาวิจัยการศึกษา ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๘ ๕. รองศาสตราจารย์สุวิมล ว่องวาณิช ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ ภาควิชาวิจัย และจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาวิจัยการศึกษา ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๘ ๖. รองศาสตราจารย์ปิติ พลังวชิรา ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาตจวิทยา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ๗. รองศาสตราจารย์สมบูรณ์ เทียนทอง ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๙ ภาควิชา วิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชา วิสัญญีวิทยา ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ๘. รองศาสตราจารย์ปริญญา จินดาประเสริฐ ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ระดับ ๑๐ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เล่ม: ๑๒๓ หมวด: ๑๓๓ ง ประกาศ ณ: ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ หน้า: ๑๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:77163", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (จำนวน ๘ ราย)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/D/133/16.PDF", "year": null }
nonweb_100655
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง กำหนดแบบคำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง กำหนดแบบคำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดแบบคำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ เพื่อให้การกำกับดูแลวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๒ แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้มีไว้ ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยำกำหนดแบบคำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ คำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ให้ใช้แบบ ค.ว.จ. ๒/๓/๔-๓ ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หน้า ๖  ย้ายสถานที่  เปลี่ยนแปลงสถานที่  เพิ่มสถานที่ เขียนที่ ................... .................. ................... .................. วันที่ .................... เดือน .................... .......... ............ พ.ศ. .................. .. ๑. ข้อมูลผู้ขออนุญาต ข้าพเจ้า (ชื่อบุคคล/นิติบุคคล) .............................. ................ ................... ............... ................ ............... .............. ............... .............. ....................................... .................... .................. ............................ ..................... ...................... ................... .................. ................... (กรณีเป็นสถานพยาบาลเอกชน : ให้ระบุชื่อผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลหรือกฎหมายว่าด้วย สถานพยาบาลสัตว์ และหากเป็นสถานพยาบาลของนิติบุคคลให้ระบุข้อความเพิ่มว่า เพื่อการดำเนินการของนิติบุคคลนั้น ดังนี้ “นาย ก. เพื่อการดำเนินการของบริษัท โรงพยาบาล ................จำกัด”) เลขประจำตัวประชาชน ........................... ............... ............................ ............................ ............... ............. ...................... .................. หรือบัตรประจำตัวอื่นที่ทางราชการออกให้คือ................ ................... ............ ........เลขที่ ................ ................. (กรณีไม่ใช่ผู้มีสัญชาติไทย) หรือทะเบียนนิติบุคคล / บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่................... ..................... .............. ................... ................. ........................... อยู่เลขที่ ....................... ................... ................ ................. ......................... ................. ........................... ................ ................. ............. หมู่ที่.................... .................ตรอก/ซอย ..................... ................. ................ ............ ถนน............. ................ ................. .......... ......... ตำบล/แขวง ............. ................ ............... ............... ..............อำเภอ/เขต ...................... ................... .................. ............... ................ จังหวัด ..................... .............. ............... ........................... รหัสไปรษณีย์ .......... ............... .......... โทรศัพท์ ..................... .................. โทรสาร ........................ ................. ................ ............. .......... E-mail .................... .................. ..................... ................... ................. ๒. ข้อมูลผู้ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งให้ดำเนินการหรือดำเนินกิจการเกี่ยวกับใบอนุญาต ชื่อ ..................... .............. ..................... ............ ................... ............... .......... ............... ........................................................................ เลขประจำตัวประชาชน ....................... ................... ................ ................. ......................... ............... ........... ...................... .................. หรือบัตรประจำตัวอื่นที่ทางราชการออกให้คือ................ ................... ............ ........เลขที่ ................ ................. (กรณีไม่ใช่ผู้มีสัญชาติไทย) หรือทะเบียนนิติบุคคล / บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่................... ..................... .............. ................... ............... ................ ............. อยู่เลขที่ ....................... ................... ................ ................. ......................... ................. ........................... ................ ................. ............. หมู่ที่.................... .................ตรอก/ซอย ..................... ................. ................ ............ ถนน............. ................ ................. .......... ......... ตำบล/แขวง ............. ................ ............... ............... ..............อำเภอ/เขต ...................... ................... ................ ............... .................. จังหวัด ..................... .............. ............... ........................... รหัสไปรษณีย์ .......... ............... .......... โทรศัพท์ ..................... .................. โทรสาร ........................ ................. ................ ............. .......... E-mail .................... .................. ..................... ................... .................. ๓. ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาตดังต่อไปนี้ กรณีย้ายสถานที่คือ สถานที่เดิม ตั้งอยู่เลขที่ ....................... ................... ................ ................. ......................... ................. ................................. ............... หมู่ที่.................... .................ตรอก/ซอย ..................... ................. ................ ............ ถนน............. ................ ................. .......... ......... ตำบล/แขวง ............. ................ ............. .............อำเภอ/เขต ................... ..................... ...............จังหวัด .................... .................... รหัสไปรษณีย์ ............... ........... โทรศัพท์ ............... .................. ................... ................. โทรสาร ................. ................... .................. สถานที่ใหม่ตั้งอยู่เลขที่ ................. .................................. ...................... ............ ............... ............. ............. .................... .................. หมู่ที่.................... .................ตรอก/ซอย ..................... ................. ................ ............ ถนน............. ................ ................. .......... ......... ตำบล/แขวง ............. ................ ............. .............อำเภอ/เขต ................... ..................... ...............จังหวัด .................... .................... รหัสไปรษณีย์ ............... ........... โทรศัพท์ ............... ..................... ................ ................. โทรสาร ................. ............... ...................... กรณีเปลี่ยนแปลงสถานที่หรือเพิ่มสถานที่ (ให้ระบุเหตุผลความจำเป็น และลักษณะของการเปลี่ยนแปลงหรือการเพิ่มสถานที่ เช่น เพิ่ม/ลดขนาดพื้นที่ของอาคาร หรือเพิ่มอาคารแห่งใหม่)................. ................... ................... .................. ........... ............ ............ ......................................... .............. .................... ....................... ............... .............. ......................................... ................... ................ ......................................... .............. .................... ....................... ............... .............. ............................. ................. ................ ............... ………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. แบบ ค.ว.จ. ๒/๓/๔-๓ เลขรับที่ ……………………... วันที่ ……………………...….. (สำหรับเจ้าหน้าที่เป็นผู้กรอก) ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์  ในประเภท ๒  ในประเภท ๓  ในประเภท ๔ ใบอนุญาตเลขที่.............. ................... .........../.... ................ .................. ณ สถานที่ชื่อ.................. ............... ................ ............... ................. .............. ...............คำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ๔. พร้อมกับคำขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหรือหลักฐานต่างๆ มาด้วย คือ (๔.๑) เพื่อการบำบัดรักษาหรือป้องกันโรคให้แก่ผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยในทางการแพทย์  ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔  สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่แห่งใหม่  สำเนาใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล (ส.พ.๗) หรือสำเนาใบอนุญาตให้ตั้งสถานพยาบาลสัตว์ (สส.๓) ของสถานที่แห่งใหม่  สำเนาใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล (ส.พ.๑๙) หรือสำเนาใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลสัตว์ (สส.๔) ของสถานที่แห่งใหม่  รูปถ่ายสถานพยาบาล จำนวน ๒ รูป ของสถานที่แห่งใหม่ (รูปที่ ๑ แสดงลักษณะอาคาร รูปที่ ๒ แสดงป้ายและเลขที่ของ สถานที่ตั้ง)  แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานที่แห่งใหม่ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม)  แผนผังแสดงที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ของสถานที่แห่งใหม่ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม) (๔.๒) เพื่อการวิเคราะห์หรือการศึกษาวิจัยหรือเพื่อประโยชน์อื่น ทางด้านการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์  ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔  สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่แห่งใหม่ (๔.๓) เพื่อการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์  ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ (๔.๔) เพื่อใช้ประจำในการปฐมพยาบาลหรือในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ ระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร  ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔  สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่แห่งใหม่  แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานที่แห่งใหม่ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม)  แผนผังแสดงที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ของสถานที่แห่งใหม่ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม)  รูปถ่ายแสดงที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ของสถานที่แห่งใหม่จำนวน ๑ รูป (๔.๕) เพื่อประโยชน์ทางอุตสาหกรรม  ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔  สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่แห่งใหม่  แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานที่แห่งใหม่ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม)  แผนผังแสดงที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ของสถานที่แห่งใหม่ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม)  รูปถ่ายแสดงที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ของสถานที่แห่งใหม่จำนวน ๑ รูป ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความและเอกสารหรือหลักฐานทั้งหมดที่ยื่นเพื่อประกอบคำขอรับใบอนุญาตเป็นความจริงทุกประการ (ลายมือชื่อ) ………………………………………………… ผู้ขออนุญาต/ผู้ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งให้ดำเนินการหรือดำเนินกิจการ (… …………………………… ……….……………) หมายเหตุ : (๑) ให้ยื่นคำขอ ๑ ฉบับต่อ ๑ ใบอนุญาตเท่านั้น (๒) ให้ขีดเลือกข้อความในช่อง  ให้ตรงตามที่ประสงค์จะดำเนินการ (๓) รับรองสำเนาถูกต้องในเอกสารที่เป็นสำเนาทุกฉบับ (๔) ในที่นี้  “ย้ายสถานที่” หมายถึง กรณีผู้ขออนุญาตย้ายสถานที่ที่ได้รับอนุญาต ไปตั้ง ณ สถานที่อื่นหรือสถานที่แห่งใหม่ซึ่งย้าย สถานที่ที่ได้รับอนุญาตแห่งเดิมทั้งหมด มิใช่ย้ายเพียงบางส่วนหรือบางแผนก  “เปลี่ยนแปลงสถานที่” หมายถึง กรณีผู้ขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสถานที่ที่ได้รับอนุญาตแห่งเดิม โดยการขยายพื้นที่ของ อาคาร ลดพื้นที่ของอาคารลง หรือมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงลักษณะของอาคารที่ได้รับอนุญาต  “เพิ่มสถานที่” หมายถึง กรณีผู้ขออนุญาตเพิ่มสถานที่จากที่ได้รับอนุญาตอีกแห่งหนึ่ง เช่น มีอาคารเพิ่มอีกแห่งหนึ่งใน พื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับแห่งเดิม โดยสถานที่แห่งใหม่อาจจะอยู่บนโฉนดที่ดินเดียวกับสถานที่ที่ได้รับอนุญาตแห่งเดิม หรือ โฉนดที่ดินติดกัน แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการเพิ่มสาขาหรือขยายสาขา (๕) กรณีการยื่นคำขอโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารหรือหลักฐานประกอบคำขอให้เป็นไปตามระบบการยื่นทาง อิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด -๒- เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๒๑๖ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:100656", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง กำหนดแบบคำขอย้าย เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ กรณีการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/216/T6.PDF", "year": null }
nonweb_142277
ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา [วัดโนนเพชรธรรมาราม] ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ตามที่นายเชิดพงษ์ นามลัง ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด ณ บ้านโนนเพชร หมู่ที่ ๑๐ ตำบลหลุ่งตะเคียน อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา นั้น บัดนี้ผู้รับอนุญาตได้สร้างเสนาสนะขึ้น สมควรเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์และประกอบศาสนกิจแล้ว อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๐ แห่งกฎกระทรวงการสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. ๒๕๕๙ และด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนา มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีชื่อว่า “วัดโนนเพชรธรรมาราม” สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้วัดโนนเพชรธรรมาราม สถิตสถาพรตลอดกาลนาน ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ อินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เล่ม: 140 หมวด: 43 ง ประกาศ ณ: 08/06/2023 หน้า: 45
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:142278", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา [วัดโนนเพชรธรรมาราม]", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D043N0000000004500.pdf", "year": null }
nonweb_79642
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ณ วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นปีที่ ๖๒ ในรัชกาลป้จจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสภากาชาดไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในหมวดที่ ๓ ทวิ เหรียญกาชาด มาตรา ๒๕ ทวิ มาตรา ๒๕ ตรี มาตรา ๒๕ จัตวา มาตรา ๒๕ เบญจ มาตรา ๒๕ ฉ และมาตรา ๒๕ สัตต แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วยสภากาชาดไทย พระพุทธศักราช ๒๔๖๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “หมวดที่ ๓/๑ เหรียญกาชาด มาตรา ๒๕/๑ เหรียญกาชาดมีสามประเภท คือ เหรียญกาชาดสมนาคุณ เหรียญกาชาด สรรเสริญ และเหรียญกาชาดสดุดี มาตรา ๒๕/๒ เหรียญกาชาดสมนาคุณ มีลักษณะเป็นเหรียญโลหะกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลาง ๒๗ มิลลิเมตร ด้านหน้ามีรูปกาชาดและรูปนางพยาบาลประคองทารกกับคนชรา ด้านหลังกลางเหรียญ มีที่ว่างสำหรับจารึกนามผู้ได้รับเหรียญและพุทธศักราช ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “สภากาชาด” และภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “สมนาคุณ” ด้านหน้ามีห่วงเป็นรูป กระหนก สำหรับบุรุษใช้ห้อยกับแพรแถบสีขาวกว้าง ๓๐ มิลลิเมตร ด้านหน้าแพรแถบตรงกลาง มีกาชาดลงยา สำหรับสตรีใช้ห้อยกับแพรแถบดังกล่าวผูกเป็นรูปแมลงปอ เหรียญกาชาดสมนาคุณ มีลำดับเป็น ๓ ชั้น คือ ชั้นที่ ๑ ทองคำลงยาที่กาชาด ชั้นที่ ๒ เงินกาไหล่ทอง ชั้นที่ ๓ เงินรมดำ มาตรา ๒๕/๓ เหรียญกาชาดสรรเสริญ มีลักษณะเป็นเหรียญทองแดงแบนรูปกาชาด มีวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๐ มิลลิเมตรทับอยู่ด้านหน้ามีรูปนางเมขลาอุ้มพระชนกขึ้นจากมหาสมุทร ด้านหลังกลางเหรียญมีข้อความว่า “กาชาดสรรเสริญ” มีห่วงห้อย สำหรับบุรุษใช้ห้อยกับแพรแถบสีขาว กว้าง ๓๐ มิลลิเมตร มีริ้วสีแดงใกล้ขอบทั้งสองข้าง ด้านหน้าแพรแถบตรงกลางมีกาชาดลงยา สำหรับ สตรีใช้ห้อยกับแพรแถบดังกล่าวผูกเป็นรูปแมลงปอ มาตรา ๒๕/๔ เหรียญกาชาดสดุดี มีลักษณะเป็นเหรียญกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๐ มิลลิเมตร ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระรูปสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยประยุกต์ ทรงสายสะพายและสายสร้อยแห่งเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ พระอังสาเบื้องซ้ายประดับดวงตราปฐมจุลจอมเกล้า เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา และเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๙ ชั้นที่ ๑ ภายในวงขอบเหรียญ มีข้อความว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย” ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ ขนาบด้านขวา และซ้ายด้วยเครื่องหมายกาชาด ด้านล่างมีข้อความว่า “กาชาดสดุดี” เหนือขอบเหรียญมีอักษร พระนามาภิไธย “ส.ก.” ไขว้ภายใต้พระมหามงกุฎ ด้านหลังมีห่วงสำหรับบุรุษใช้ห้อยกับแพรแถบ กว้าง ๓๐ มิลลิเมตร พื้นของแพรแถบเป็นสีขาวและตรงกลางแพรแถบมีริ้วสีแดง สำหรับสตรีใช้ห้อย กับแพรแถบดังกล่าวผูกเป็นรูปแมลงปอ เหรียญกาชาดสดุดีมีลำดับเป็น ๓ ชั้น คือ ชั้นพิเศษ ทองคำ ชั้นที่ ๑ เงิน ชั้นที่ ๒ บรอนซ์ มาตรา ๒๕/๕ การให้เหรียญกาชาดสมนาคุณ เหรียญกาชาดสรรเสริญ และเหรียญกาชาดสดุดี ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภากาชาดไทย มาตรา ๒๕/๖ เหรียญกาชาดสมนาคุณ เหรียญกาชาดสรรเสริญ และเหรียญกาชาดสดุดี ให้ประดับได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และให้มีประกาศนียบัตรกำกับ เหรียญจำลองและดุมเสื้อ ทั้งนี้ตามที่กำหนดในข้อบังคับสภากาชาดไทย มาตรา ๒๕/๗ เหรียญกาชาดสมนาคุณ เหรียญกาชาดสรรเสริญ และเหรียญกาชาดสดุดี ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ได้รับ และเมื่อผู้ได้รับวายชนม์ให้ตกทอดแก่ทายาทเพื่อรักษาไว้เป็นที่ระลึก” ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือ โดยที่เป็นการสมควรจัดสร้างเหรียญ กาชาดสดุดีเพื่อพระราชทานแก่ผู้ประกอบคุณงามความดีช่วยเหลือหรือส่งเสริมสนับสนุนกิจการอันเป็น กำรอำนวยประโยชน์แก่สภากาชาดไทย และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทยที่ยาวนานที่สุด เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๖ รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ เล่ม: ๑๒๔ หมวด: ๒๐ ก ประกาศ ณ: ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:79643", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "พระราชบัญญัติ ว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/A/020/1.PDF", "year": null }
nonweb_143325
ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 29/2566 เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก (เล่มที่ 2) ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ ๒๙/๒๕๖๖ เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ ๕ เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก อาศัยอำนาจตามมาตรา ๗ (๓) และมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗ ที่กำหนดให้สภาวิชาชีพบัญชีมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดและปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและกฎหมายอื่น ทั้งนี้มาตรฐาน การบัญชีนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงจะใช้บังคับได้ สภาวิชาชีพบัญชี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี ในการประชุมครั้งที่ ๗๒ (๒/๒๕๖๖) เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ ๖๒/๒๕๖๒ เรื่อง มาตรฐานการรายงาน ทางการเงิน ฉบับที่ ๕ เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก ข้อ ๓ ให้ใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ ๕ เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก ตามที่กำหนดท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕ วรวิทย์ เจนธนากุล นายกสภาวิชาชีพบัญชี หน้า ๑๗ (เล่มที่ ๒) มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ก มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก คำนำ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นโดยมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินระหว่างประเทศ ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงาน ที่ยกเลิก ฉบับรวมเล่มปี 2566 (IFRS 5: Non-current Assets Held for Sale and Discontinued Operations (Bound volume 2023 Consolidated without early application)) ประวัติการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ (ใช้อ้างอิงเฉพาะสำหรับประเทศไทย เท่านั้น) ฉบับแก้ไข เพิ่มเติมปีการแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับปีก่อนหน้า การแก้ไขเพิ่มเติมเนื่องมาจาก 2566 โดยแก้ไขเพิ่มเติมย่อหน้าที่ 5 และเพิ่ม ย่อหน้าที่ 44ฐ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย 2565 ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ จากฉบับปีก่อน 2564 ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ จากฉบับปีก่อน 2563 ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ จากฉบับปีก่อน 2562 โดยแก้ไขเพิ่มเติมการอ้างอิงมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับอื่น แต่ทั้งนี้ไม่ได้ มีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำหรือเนื้อหาใดๆ - **คำนำนี้ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้** มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 2 สารบัญ จากย่อหน้าที่ วัตถุประสงค์ 1 ขอบเขต 2 การจัดประเภทของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะ จำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย หรือสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่าย ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ 6 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่จะทิ้ง 13 การวัดมูลค่าของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะ จำหน่าย) ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย 15 การวัดมูลค่าของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) 15 การรับรู้รายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าและการกลับรายการ 20 การเปลี่ยนแปลงแผนการขายหรือแผนการจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ 26 การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูล 30 การแสดงรายการกำรดำเนินงานที่ยกเลิก 31 ผลกำไรหรือขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่อง 37 การแสดงรายการของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนหรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย 38 การเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม 41 การปฏิบัติในช่วงเปลี่ยนผ่าน 43 วันถือปฏิบัติ 44 การยกเลิกมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับเดิม 45 ภาคผนวก ก ศัพท์บัญญัติ ข แนวทางปฏิบัติ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 3 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงาน ที่ยกเลิก ประกอบด้วยย่อหน้าที่ 1 ถึง 45 ภาคผนวก ก และ ภาคผนวก ข ทุกย่อหน้ามีความสำคัญเท่ากัน โดยตัวอักษรหนาถือเป็นหลักการที่สำคัญ คำนิยามในภาคผนวก ก ที่ปรากฏเป็นครั้งแรกในมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้จะเป็นตัวอักษรเอน และมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ต้องอ่าน โดยคำนึงถึงข้อกำหนดของ กรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงิน ในกรณีที่ไม่ได้ให้แนวปฏิบัติ ในการเลือกและการใช้นโยบายการบัญชี ให้กิจการถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 8 เรื่อง นโยบายการบัญชีการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก วัตถุประสงค์ 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดวิธีปฏิบัติทางบัญชีสำหรับ สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย รวมถึงการนำเสนอและการเปิดเผยข้อมูลของการดำเนินงานที่ยกเลิก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ต้องการให้ 1.1 วัดมูลค่าของสินทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์การจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย โดยใช้ มูลค่าที่ต่ำกว่าระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขาย และหยุด คิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ดังกล่าว และ 1.2 นำเสนอสินทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์การจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายเป็นรายการ แยกต่างหากในงบฐานะการเงิน และนำเสนอผลของการดำเนินงานที่ยกเลิกเป็น รายการแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ ขอบเขต 2 การจัดประเภทและการนำเสนอตามข้อกำหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ให้ถือ ปฏิบัติกับสินทรัพย์ที่จัดเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนทุกชนิดและกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย ทุกกลุ่มในกิจการ การวัดมูลค่าตามข้อกำหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ให้ ถือปฏิบัติกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่เข้าเกณฑ์การรับรู้ทุกชนิดและกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย (ตามที่กำหนดในย่อหน้าที่ 4) ยกเว้นสินทรัพย์ที่แสดงไว้ในย่อหน้าที่ 5 ซึ่งยังคงต้องวัดมูลค่า ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง 1 สำหรับสินทรัพย์ที่จัดประเภทตามการแสดงรายการตามสภาพคล่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนคือสินทรัพย์ที่รวมถึงจำนวน ที่คาดว่าจะได้รับคืนเกินกว่า 12 เดือนหลังจากรอบระยะเวลารายงาน ย่อหน้าที่ 3 ใช้กับการจัดประเภทสินทรัพย์ ดังกล่าว มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 4 3 สินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 1 เรื่อง การนำเสนองบการเงิน ต้องไม่จัดประเภทใหม่เป็นสินทรัพย์หมุนเวียนจนกว่าสินทรัพย์นั้น จะเข้าเกณฑ์ในการจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้กิจการต้องไม่จัดประเภทสินทรัพย์ที่โดยปกติแล้วจะจัดเป็น สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ซื้อมาสำหรับขายต่อโดยเฉพาะเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนเว้นแต่ สินทรัพย์นั้นเข้าเกณฑ์ที่จะจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้ 4 ในบางครั้งกิจการจำหน่ายกลุ่มของสินทรัพย์ อาจมีหนี้สินที่เกี่ยวข้องโดยตรงในรายการเดียวกัน กลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายนั้นอาจเป็นกลุ่มของหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด หน่วยสินทรัพย์ ที่ก่อให้เกิดเงินสดเพียงหน่วยเดียวหรือบางส่วนของหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด กลุ่มที่ยกเลิกอาจรวมไปถึงสินทรัพย์และหนี้สินใดๆ ของกิจการซึ่งรวมทั้งสินทรัพย์หมุนเวียน หนี้สินหมุนเวียนและสินทรัพย์ที่ไม่ได้มีการวัดมูลค่าตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 5 ของ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้หากสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่อยู่ในขอบเขตของ การวัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย ให้นำข้อกำหนดในการวัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ มาถือปฏิบัติกับสินทรัพย์ทั้งกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายวัดมูลค่าโดยใช้จำนวน ที่ต่ำกว่าระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขาย ข้อกำหนดใน การวัดมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินแต่ละรายการที่อยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย กำหนดไว้ใน ย่อหน้าที่ 18 19 และ 23 5 ข้อกำหนดในการวัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่นำมาถือปฏิบัติกับ สินทรัพย์ต่อไปนี้ (ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์เดี่ยวหรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) โดยข้อกำหนดของสินทรัพย์เหล่านี้อยู่ภายใต้มาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 5.1 สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้) 5.2 สินทรัพย์ที่เกิดจากผลประโยชน์ของพนักงาน (มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 เรื่อง ผลประโยชน์ของพนักงาน) 5.3 สินทรัพย์ทางการเงินที่อยู่ในขอบเขตของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 เรื่อง เครื่องมือทางการเงิน 2 อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสเงินสดจากสินทรัพย์หรือกลุ่มของสินทรัพย์คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยหลักมาจากการขายมากกว่า การใช้อย่างต่อเนื่อง สินทรัพย์ดังกล่าวก็จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดจากสินทรัพย์อื่นน้อยลง และกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสดก็จะกลายเป็นหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด แยกต่างหาก 3 นอกเหนือจากย่อหน้าที่ 18 และ 19 ซึ่งกำหนดให้สินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะด้อยค่าให้วัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับอื่นที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 5 5.4 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือปฏิบัติตามวิธีมูลค่ายุติธรรมในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 40 เรื่อง อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 5.5 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่วัดมูลค่าโดยใช้มูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายตาม มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 41 เรื่อง เกษตรกรรม 5.6 กลุ่มของสัญญาภายในขอบเขตของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย 5ก การจัดประเภท การนำเสนอข้อมูล และการวัดมูลค่าที่กำหนดในมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับนี้ให้ถือปฏิบัติกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ซึ่งจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย รวมถึงสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย) ซึ่งจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของในฐานะที่เป็น เจ้าของกิจการ (สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ) 5ข มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กำหนดการเปิดเผยที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือสินทรัพย์ที่ถือไว้ ในการดำเนินงานที่ยกเลิก การเปิดเผยในมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับอื่นไม่ใช้กับ สินทรัพย์ดังกล่าว (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เว้นแต่มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับอื่นกำหนดถึง 5ข.1 การเปิดเผยอย่างเฉพาะเจาะจงที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือสินทรัพย์ที่ถือไว้ใน การดำเนินงานที่ยกเลิก หรือ 5ข.2 การเปิดเผยเกี่ยวกับการวัดมูลค่าสินทรัพย์หรือหนี้สินที่อยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย ซึ่งไม่ได้อยู่ในขอบเขตของการวัดมูลค่าตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้ และการเปิดเผยเหล่านั้นไม่ได้รับการเปิดเผยไว้ใน หมายเหตุประกอบงบการเงินข้ออื่น การเปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภทไว้เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือสินทรัพย์ที่ถือไว้ในการดำเนินงานที่ยกเลิก อาจจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อกำหนดทั่วไปตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 15 และ 125 ของมาตรฐาน การบัญชีฉบับที่ 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 6 การจัดประเภทของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ ที่ถือไว้เพื่อขาย หรือสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ 6 กิจการต้องจัดประเภทสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ ที่ถือไว้เพื่อขายหากมูลค่าตามบัญชีที่จะได้รับคืนส่วนใหญ่มาจากการขาย มิใช่มาจาก การใช้สินทรัพย์นั้นต่อไป 7 ในกรณีเช่นนี้สินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ต้องมีไว้เพื่อขายในทันทีในสภาพ ปัจจุบัน ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่เป็นปกติและถือปฏิบัติกันทั่วไปสำหรับการขายสินทรัพย์เหล่านั้น (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) และการขายต้องมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมาก 8 สำหรับการขายที่จะมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมากนั้น ระดับการบริหารที่เหมาะสม ต้องผูกพันกับแผนการขายสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) และต้องเริ่มดำเนินการ ตามแผนเพื่อหาผู้ซื้อ และเพื่อทำตามแผนให้สมบูรณ์ นอกจากนี้กิจการต้องมีการเสนอขาย สินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) อย่างจริงจังในราคาที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับ มูลค่ายุติธรรมในปัจจุบันของสินทรัพย์นั้น นอกจากนี้การขายดังกล่าวควรคาดว่าจะเข้าเงื่อนไข ในการรับรู้รายการเป็นการขายที่เสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่จัดประเภทสินทรัพย์ เว้นแต่จะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 9 และการดำเนินการเพื่อให้แผนเสร็จสมบูรณ์ ควรบ่งบอกได้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแผนอย่างมีนัยสำคัญหรือจะยกเลิก แผนนั้น ความเป็นไปได้ของการได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น(หากกฎหมายมีข้อกำหนดไว้) ควรถือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินว่าการขายดังกล่าวมีความเป็นไปค่อนข้างแน่ในระดับสูง มากหรือไม่ 8ก กิจการซึ่งผูกพันกับแผนการขายสินทรัพย์ที่ส่งผลให้กิจการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยต้อง จัดประเภทรายการสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทย่อยเหล่านั้นเป็นสินทรัพย์และหนี้สิน ที่ถือไว้เพื่อขายเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขทุกข้อที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 6 ถึง 8 โดยไม่คำนึงถึงว่า กิจการจะยังคงมีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทย่อยดังกล่าวหลังการขายหรือไม่ 9 โดยทั่วไปอาจมีเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้ระยะเวลาการขายที่เสร็จสมบูรณ์ขยายเกิน กว่า 1 ปีการขยายระยะเวลาในการขายที่เสร็จสมบูรณ์นั้นไม่ได้เป็นเหตุให้สินทรัพย์ (หรือกลุ่ม สินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) นั้นไม่สามารถจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย หากความล่าช้านั้น เกิดจากเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของกิจการ และมีหลักฐาน เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ากิจการยังคงผูกพันต่อแผนในการขายสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย) กรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเข้าเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในภาคผนวก ข 10 รายการขายให้รวมถึงการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นเมื่อ การแลกเปลี่ยนนั้นมีเนื้อหาเชิงพาณิชย์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 16 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 11 เมื่อกิจการได้มาซึ่งสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) โดยมีแผนที่จะ จำหน่ายออกไปในภายหลัง กิจการต้องจัดประเภทสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 7 ที่จะจำหน่าย) ดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย ณ วันที่ได้สินทรัพย์นั้นมา ก็ต่อเมื่อ เข้าเกณฑ์ระยะเวลา 1 ปีตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 8 (นอกจากจะได้รับยกเว้นตามย่อหน้าที่ 9) และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมากที่เงื่อนไขอื่นในย่อหน้าที่ 7 และ 8 (ซึ่งยังไม่ได้ เป็นไปตามที่กำหนดในวันนั้น) จะเป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวภายในระยะเวลาอันสั้นหลังจากที่ได้ สินทรัพย์นั้นมา (ปกติภายใน 3 เดือน) 12 หากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 7 และ 8 ครบถ้วนหลังสิ้นรอบระยะเวลารายงาน กิจการต้อง ไม่จัดประเภทสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้ เพื่อขายในงบการเงินที่เผยแพร่อย่างไรก็ตาม หากเงื่อนไขดังกล่าวครบถ้วนหลังจากสิ้นรอบ ระยะเวลารายงาน แต่ก่อนการอนุมัติให้เผยแพร่งบการเงิน กิจการต้องเปิดเผยข้อมูลตามที่ กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 41.1 41.2 และ 41.4 ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน 12ก สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) จะจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้ เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของก็ต่อเมื่อกิจการผูกพันในการจ่ายสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะ จำหน่าย) ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ในกรณีนี้สินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องมีไว้เพื่อการจ่ายในทันที ในสภาพปัจจุบัน และการจ่ายมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมาก สำหรับการจ่ายที่มี ความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมาก การดำเนินการที่จะทำให้การจ่ายเสร็จสมบูรณ์ต้องมี การเริ่มต้นแล้วและคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในหนึ่งปีนับจากวันที่มีการจัดประเภท สินทรัพย์ การดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้การจ่ายเสร็จสมบูรณ์ต้องบ่งบอกได้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการจ่ายอย่างมีนัยสำคัญหรือจะยกเลิกการจ่ายนั้น ความเป็นไปได้ของ การได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น (หากกฎหมายมีข้อกำหนดไว้) ควรถือเป็นส่วนหนึ่งของ การประเมินว่าการจ่ายดังกล่าวมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมากหรือไม่ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่จะทิ้ง 13 กิจการต้องไม่จัดประเภทสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จะทิ้งเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย เนื่องจากมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่จะได้รับคืนส่วนใหญ่จะเกิด จากการใช้งานต่อไป อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จะทิ้งนั้นเข้าเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 32.1 ถึง 32.3 กิจการต้องแสดงผลประกอบการและกระแสเงินสดของ กลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายเป็นการดำเนินงานที่ยกเลิกตามที่กำหนดในย่อหน้าที่ 33 และ 34 ณ วันที่หยุดใช้สินทรัพย์นั้น สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จะทิ้ง รวมถึงสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จะใช้ไปจนสิ้นสุดอายุ ทางเศรษฐกิจ และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จะถูกปิดไป มากกว่าที่จะถูกขาย 14 กิจการต้องไม่ปฏิบัติกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่เลิกใช้ชั่วคราวเป็นสินทรัพย์ที่จะทิ้ง มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 8 การวัดมูลค่าของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย การวัดมูลค่าของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) 15 กิจการต้องวัดมูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายด้วยจำนวนที่ต่ำกว่าระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรม หักต้นทุนในการขาย 15ก กิจการต้องวัดมูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของด้วยจำนวนที่ต่ำกว่าระหว่างมูลค่าตามบัญชี กับมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการจ่าย 16 หากสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่ได้มาใหม่เข้าเงื่อนไขในการจัดประเภทเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย (ดูย่อหน้าที่ 11) การปฏิบัติตามข้อกำหนดในย่อหน้าที่ 15 จะทำให้ สินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ถูกวัดมูลค่าในการรับรู้เมื่อเริ่มแรกโดยใช้จำนวน ที่ต่ำกว่าระหว่างมูลค่าตามบัญชีหากสินทรัพย์นั้นไม่ถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย (เช่น ราคาทุน) กับมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขาย ดังนั้น หากสินทรัพย์ (หรือกลุ่ม สินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ได้มาโดยเป็นส่วนหนึ่งของการรวมกิจการ สินทรัพย์นั้นต้องถูก วัดมูลค่าโดยใช้มูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขาย 17 เมื่อคาดว่าการขายจะเกิดขึ้นเกินกว่าระยะเวลา 1 ปีกิจการต้องวัดต้นทุนในการขายด้วยมูลค่า ปัจจุบัน มูลค่าปัจจุบันของต้นทุนในการขายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านไปต้องแสดงเป็น ต้นทุนทางการเงินในกำไรหรือขาดทุน 18 ทันทีก่อนการจัดประเภทเมื่อเริ่มแรกของสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ (หรือสินทรัพย์และหนี้สินทั้งหมดใน กลุ่ม) ต้องวัดมูลค่าให้สอดคล้องกับมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง 19 ในการวัดมูลค่าใหม่ของกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายในภายหลัง มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์และ หนี้สินใดๆ ที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของข้อกำหนดในการวัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับนี้ แต่รวมอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่ถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ ที่ถือไว้เพื่อขาย ต้องมีการวัดมูลค่าใหม่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะมีการวัดมูลค่าใหม่ของมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายของกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย 4 ต้นทุนในการจ่าย หมายถึง ต้นทุนส่วนเพิ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจ่ายไม่รวมต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 9 การรับรู้รายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าและการกลับรายการ 20 กิจการต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสำหรับการลดมูลค่าในครั้งแรกหรือในครั้งต่อๆไป ของสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เพื่อให้มูลค่าของสินทรัพย์เท่ากับมูลค่ายุติธรรม หักต้นทุนในการขาย ทั้งนี้จนเท่ากับจำนวนที่ไม่เคยรับรู้ตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 19 21 กิจการต้องรับรู้ผลกำไรจากการเพิ่มขึ้นในภายหลังของมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายของ สินทรัพย์ แต่ไม่เกินยอดผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสมที่เคยรับรู้ตามมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับนี้หรือที่เคยรับรู้ก่อนหน้านี้ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 36 เรื่อง การด้อยค่า ของสินทรัพย์ 22 กิจการต้องรับรู้ผลกำไรจากการเพิ่มขึ้นในภายหลังของมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายของ กลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย 22.1 จนเท่ากับจำนวนที่ไม่เคยรับรู้ตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 19 แต่ 22.2 ไม่เกินยอดผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสมของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่อยู่ในขอบเขต ของการวัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสมที่เคยรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ หรือที่เคยรับรู้ก่อนหน้านี้ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 36 23 ผลขาดทุนจากการด้อยค่า (หรือผลกำไรที่เกิดขึ้นในภายหลัง) ที่รับรู้สำหรับกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่ายต้องนำไปลด (หรือเพิ่ม) มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนในกลุ่มที่อยู่ใน ขอบเขตของการวัดมูลค่าตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ตามลำดับของการปันส่วน ที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 104.1 และ 104.2 และย่อหน้าที่ 122 ของมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 36 24 ในวันที่เลิกรับรู้รายการ กิจการต้องรับรู้ผลกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่เคยรับรู้ในวันที่ขายสินทรัพย์ ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการเลิกรับรู้รายการ แสดงไว้ใน 24.1 ย่อหน้าที่ 67 ถึง 72 ของมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 16 และ 24.2 ย่อหน้าที่ 112 ถึง 117 ของมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 38 เรื่อง สินทรัพย์ไม่มีตัวตน 25 กิจการต้องไม่บันทึกค่าเสื่อมราคา (หรือค่าตัดจำหน่าย) ของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนระหว่าง ที่สินทรัพย์นั้นถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย หรือระหว่างที่สินทรัพย์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย ส่วนดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินซึ่งอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายนั้นต้องยังคงรับรู้ต่อไป การเปลี่ยนแปลงแผนการขายหรือแผนการจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ 26 หากกิจการจัดประเภทของสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ ที่ถือไว้เพื่อขาย หรือถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ แต่ภายหลังไม่เข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในย่อหน้าที่ 7 ถึง 9 (สำหรับที่ถือไว้เพื่อขาย) หรือย่อหน้าที่ 12ก (สำหรับที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 10 ผู้เป็นเจ้าของ) อีกต่อไป กิจการต้องเลิกจัดประเภทสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย) นั้นเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย หรือถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ (ตามลำดับ) ในกรณีดังกล่าวกิจการต้องถือปฏิบัติตามแนวทางในย่อหน้าที่ 27 ถึง 29 เพื่อปฏิบัติกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ยกเว้นเมื่อเป็นไปตามย่อหน้าที่ 26ก 26ก หากกิจการจัดประเภทใหม่สำหรับสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) โดยตรงจาก ถือไว้เพื่อขายเป็นถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ หรือจัดประเภทใหม่โดยตรงจากถือไว้ เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของเป็นถือไว้เพื่อขาย การจัดประเภทใหม่ดังกล่าวจะพิจารณาเป็น การต่อเนื่องของแผนการจำหน่ายเริ่มแรก ในกรณีดังกล่าวกิจการต้องดำเนินการดังนี้ 26ก.1 ต้องไม่ปฏิบัติตามแนวทางในย่อหน้าที่ 27 ถึง 29 เพื่อปฏิบัติกับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยกิจการต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของการจัดประเภทรายการ การแสดงรายการ และการวัดมูลค่าในมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ซึ่งใช้ถือปฏิบัติสำหรับ วิธีการจำหน่ายใหม่ 26ก.2 ต้องวัดมูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) โดยปฏิบัติตาม ข้อกำหนดของย่อหน้าที่ 15 (หากจัดประเภทใหม่เป็นถือไว้เพื่อขาย) หรือ ย่อหน้าที่ 15ก (หากจัดประเภทใหม่เป็นถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ) และรับรู้ การลดลงหรือการเพิ่มขึ้นของมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายหรือต้นทุน ในการจ่ายของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) โดยปฏิบัติ ตามแนวทางในย่อหน้าที่ 20 ถึง 25 26ก.3 ต้องไม่เปลี่ยนแปลงวันที่จัดประเภทตามย่อหน้าที่ 8 และ 12ก กรณีนี้ไม่ได้เป็น การห้ามการขยายระยะเวลาที่จำเป็นที่จะทำให้การขายหรือการจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ เสร็จสมบูรณ์ หากเป็นไปตามเงื่อนไขในย่อหน้าที่ 9 27 กิจการต้องวัดมูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่เลิกจัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ (หรือเลิกรวมเป็นส่วนหนึ่ง ของกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือถือไว้เพื่อจ่าย ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ) โดยใช้มูลค่าที่ต่ำกว่าระหว่าง 27.1 มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ก่อนจะถูกจัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ และปรับปรุงด้วย ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย หรือการตีราคาใหม่ที่ควรจะรับรู้หากสินทรัพย์ (หรือกลุ่ม สินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) นั้นไม่ได้ถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือถือไว้ เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ และ 27.2 มูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน ณ วันที่ตัดสินใจเลิกขายหรือเลิกจ่ายในเวลาต่อมา 5 หากสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด มูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของสินทรัพย์ ดังกล่าวคือมูลค่าตามบัญชีหลังจากหักขาดทุนจากการปันส่วนการด้อยค่าซึ่งเกิดขึ้นจากหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 36 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 11 28 กิจการต้องรวมการปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่เลิกจัดประเภทเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ในกำไรหรือ ขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง ในรอบระยะเวลาที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในย่อ หน้าที่ 7 ถึง 9 หรือ ย่อหน้าที่ 12ก ตามลำดับอีกต่อไป กิจการต้องปรับปรุงงบการเงินสำหรับรอบ ระยะเวลาหลังจากที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ด้วยเช่นกัน หากกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย หรือสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่เลิกจัดประเภทเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของเป็นบริษัทย่อย การดำเนินงาน ร่วมกัน การร่วมคำ บริษัทร่วม หรือส่วนได้เสียในการร่วมคำ หรือบริษัทร่วม กิจการต้องแสดง รายการปรับปรุงดังกล่าวในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในส่วนเดียวกันกับการแสดงผลกำไรหรือ ขาดทุน (ถ้ามี) ที่รับรู้ตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 37 29 หากกิจการย้ายสินทรัพย์หรือหนี้สินใดออกจากกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จัดประเภทเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย สินทรัพย์และหนี้สินที่เหลืออยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่ยกเลิกซึ่งจะขายนี้ จะต้องมีการวัดมูลค่าเป็นกลุ่มต่อไปก็ต่อเมื่อกลุ่มนั้นเข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 7 ถึง 9 หากกิจการย้ายสินทรัพย์ หรือหนี้สินบางรายการออกจากกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ สินทรัพย์และหนี้สินที่เหลืออยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ ที่ยกเลิกซึ่งจะจำหน่ายนี้จะต้องวัดมูลค่าเป็นกลุ่มต่อไป ก็ต่อเมื่อกลุ่มนั้นเข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในย่อหน้าที่ 12ก มิฉะนั้น สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่เหลืออยู่ในกลุ่มซึ่งแต่ละรายการยังคงเข้า เงื่อนไขการจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย (หรือเพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ) ต้องวัด มูลค่าสินทรัพย์แต่ละรายการโดยใช้จำนวนที่ต่ำกว่าระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรม หักต้นทุนในการขาย (หรือต้นทุนในการจ่าย) ในวันนั้นกิจการต้องเลิกจัดประเภทสินทรัพย์ ไม่หมุนเวียนที่ไม่เข้าเงื่อนไขเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 26 กิจการต้องยกเลิกการจัดประเภทสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ไม่เข้าเงื่อนไขเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้ เพื่อจ่ายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 26 การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูล 30 กิจการต้องแสดงรายการและเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้ผู้ใช้งบการเงินสามารถประเมิน ผลกระทบทางการเงินของการดำเนินงานที่ยกเลิกและการเลิกใช้สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) 6 ยกเว้น กรณีที่สินทรัพย์เป็นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ หรือสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่เคยตีราคาใหม่ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 16 หรือมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 38 ซึ่งการปรับปรุงต้องถือเป็นการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของส่วนเกินทุนจาก การตีราคาสินทรัพย์ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 12 การแสดงรายการกำรดำเนินงานที่ยกเลิก 31 ส่วนประกอบของกิจการ ประกอบด้วยการดำเนินงานและกระแสเงินสดที่สามารถแยกได้ อย่างชัดเจน (ทั้งในด้านการดำเนินงานและด้านวัตถุประสงค์ของการรายงานทางการเงิน) จากส่วนที่เหลือของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง ส่วนประกอบของกิจการจะเป็นหน่วยสินทรัพย์ที่ ก่อให้เกิดเงินสดหรือกลุ่มของหน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสดในขณะที่มีไว้สำหรับดำเนินงาน 32 การดำเนินงานที่ยกเลิก คือส่วนประกอบของกิจการ ที่ถูกจำหน่ายออกไปแล้ว หรือ ที่ถูกจัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย และ 32.1 เป็นสายงานธุรกิจที่สำคัญหรือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่แยกต่างหาก 32.2 เป็นส่วนหนึ่งของแผนร่วมกันที่จะยกเลิกสายงานธุรกิจที่สำคัญ หรือเขตภูมิศาสตร์ใน การดำเนินงานที่แยกต่างหาก หรือ 32.3 เป็นบริษัทย่อยที่ซื้อมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขายต่อ 33 กิจการต้องเปิดเผย 33.1 จำนวนเงินในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จซึ่งประกอบด้วยยอดรวมของ 33.1.1 กำไรหรือขาดทุนหลังจากการหักภาษีของการดำเนินงานที่ยกเลิก และ 33.1.2 ผลกำไรหรือขาดทุนหลังจากการหักภาษีที่รับรู้ในการวัดมูลค่าให้เป็นมูลค่า ยุติธรรมหักต้นทุนในการขาย หรือในการจำหน่ายสินทรัพย์หรือกลุ่ม สินทรัพย์ที่จะจำหน่ายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่ยกเลิก 33.2 การวิเคราะห์จำนวนเงินในข้อ 33.1 โดยแสดงเป็น 33.2.1 รายได้ค่าใช้จ่าย และกำไรหรือขาดทุนก่อนหักภาษีของการดำเนินงาน ที่ยกเลิก 33.2.2 ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 81.8 ของ มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 และ 33.2.3 ผลกำไรหรือขาดทุนที่รับรู้ในการวัดมูลค่าให้เป็นมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุน ในการขาย หรือในการจำหน่ายสินทรัพย์หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่ยกเลิก การวิเคราะห์ดังกล่าวอาจนำเสนอในหมายเหตุประกอบงบการเงิน หรือในงบกำไร ขาดทุนเบ็ดเสร็จ หากกิจการนำเสนอการวิเคราะห์ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ กิจการ ต้องนำเสนอไว้ในส่วนที่ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานที่ยกเลิก ซึ่งหมายถึง แยกต่างหากจากการดำเนินงานต่อเนื่อง การวิเคราะห์นี้ไม่จำเป็นต้องทำสำหรับกลุ่ม สินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่เป็นบริษัทย่อยที่ซื้อมาใหม่ซึ่งเข้าเงื่อนไขในการจัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายตั้งแต่ตอนซื้อมา (ดูย่อหน้าที่ 11) 33.3 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินของ การดำเนินงานที่ยกเลิก การเปิดเผยเหล่านี้อาจนำเสนอในหมายเหตุประกอบ งบการเงินหรือในงบการเงิน การเปิดเผยนี้ไม่จำเป็นต้องทำสำหรับกลุ่มสินทรัพย์ที่จะ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 13 จำหน่ายที่เป็นบริษัทย่อยที่ซื้อมาใหม่ซึ่งเข้าเงื่อนไขในการจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ ที่ถือไว้เพื่อขายตั้งแต่ตอนซื้อมา (ดูย่อหน้าที่ 11) 33.4 จำนวนของกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่องและจากการดำเนินงานที่ยกเลิกซึ่ง ปันส่วนให้แก่เจ้าของของบริษัทใหญ่การเปิดเผยเหล่านี้อาจเปิดเผยในหมายเหตุ ประกอบงบการเงิน หรือแสดงในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ 33ก หากกิจการแสดงรายการกำไรหรือขาดทุนในงบกำไรขาดทุนที่แสดงแยกต่างหากตามที่อธิบายไว้ ในย่อหน้าที่ 10ก ของมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 1 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานที่ยกเลิกจะ นำเสนอในงบกำไรขาดทุนที่แสดงแยกต่างหากนั้น 34 กิจการต้องแสดงการเปิดเผยข้อมูลใหม่ตามย่อหน้าที่ 33 สำหรับงบการเงินรอบระยะเวลาก่อน เพื่อเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานที่ได้ยกเลิกไปในวันสิ้นรอบระยะเวลารายงานสำหรับ รอบระยะเวลาที่นำเสนอครั้งล่าสุด 35 กิจการต้องจัดประเภทการปรับปรุงในรอบระยะเวลาปัจจุบันของจำนวนเงินที่เคยนำเสนอในการ ดำเนินงานที่ยกเลิก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการจำหน่ายการดำเนินงานที่ยกเลิกในรอบระยะเวลา ก่อนแยกต่างหากในส่วนของการดำเนินงานที่ยกเลิก กิจการต้องเปิดเผยธรรมชาติและจำนวน ของการปรับปรุงดังกล่าว ตัวอย่างสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้เกิดการปรับปรุงเหล่านี้รวมถึง ตัวอย่างต่อไปนี้ 35.1 การแก้ปัญหาความไม่แน่นอนที่เกิดจากข้อตกลงในการยกเลิกการดำเนินงาน เช่น การได้ข้อยุติเกี่ยวกับการปรับปรุงราคาซื้อและการรับประกันกับผู้ซื้อ 35.2 การแก้ปัญหาความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากและเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินงานของ ส่วนประกอบของกิจการก่อนการจำหน่าย เช่น ภาระผูกพันที่ผู้ขายยังคงต้อง รับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมและการรับประกันสินค้าของผู้ขาย 35.3 มีการจ่ายชำระภาระผูกพันของโครงการผลประโยชน์ของพนักงานโดยที่การจ่าย ชำระนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับรายการที่ยกเลิก 36 หากกิจการเลิกจัดประเภทส่วนประกอบของกิจการเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย กิจการต้อง จัดประเภทผลการดำเนินงานของส่วนประกอบดังกล่าวที่เคยนำเสนอในการดำเนินงาน ที่ยกเลิกตามย่อหน้าที่ 33 ถึง 35 ใหม่ผลการดำเนินงานดังกล่าวต้องรวมอยู่ในกำไรจาก การดำเนินงานต่อเนื่องสำหรับทุกรอบระยะเวลาที่นำเสนอ กิจการต้องอธิบายว่าจำนวนเงิน สำหรับรอบระยะเวลาก่อนเป็นการนำเสนอใหม่ 36ก กิจการซึ่งผูกพันกับแผนการขายสินทรัพย์ที่ส่งผลให้กิจการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อย ต้องเปิดเผยข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 33 ถึง 36 เมื่อบริษัทย่อยดังกล่าวเป็น กลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่ยกเลิกซึ่งเป็นไปตามคำนิยามของการดำเนินงานที่ยกเลิก ตามข้อกำหนดในย่อหน้าที่ 32 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 14 ผลกำไรหรือขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่อง 37 ผลกำไรหรือขาดทุนจากการวัดมูลค่าใหม่ของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายที่ไม่เป็นไปตามคำนิยามของการดำเนินงาน ที่ยกเลิกต้องรวมอยู่ในกำไรหรือขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง การแสดงรายการของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนหรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จัดประเภท เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย 38 กิจการต้องแสดงรายการสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายและ สินทรัพย์ของกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย แยกต่างหากจากสินทรัพย์อื่นในงบฐานะการเงิน หนี้สินในกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย ที่จัดประเภทเป็นถือไว้เพื่อขายต้องนำเสนอแยกต่างหากจากหนี้สินอื่นในงบฐานะการเงิน สินทรัพย์และหนี้สินเหล่านี้ต้องไม่นำมาหักกลบกันและนำเสนอเป็นจำนวนเดียว กิจการต้อง เปิดเผยประเภทของสินทรัพย์และหนี้สินที่สำคัญซึ่งถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย แยกต่างหากในงบฐานะการเงินหรือในหมายเหตุประกอบงบการเงิน เว้นแต่จะได้รับยกเว้นตาม ย่อหน้าที่ 39 กิจการต้องนำเสนอรายได้หรือค่าใช้จ่ายสะสมที่รับรู้โดยตรงไปยังกำไรขาดทุน เบ็ดเสร็จอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายแยกต่างหาก 39 กิจการไม่จำเป็นต้องเปิดเผยประเภทของสินทรัพย์และหนี้สินที่สำคัญหากกลุ่มสินทรัพย์ที่จะ จำหน่ายเป็นบริษัทย่อยที่ซื้อมาใหม่ซึ่งเข้าเงื่อนไขการจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย จากการซื้อ (ดูย่อหน้าที่ 11) 40 กิจการต้องไม่จัดประเภทใหม่หรือแสดงใหม่สำหรับจำนวนเงินที่ได้นำเสนอเป็นสินทรัพย์ ไม่หมุนเวียน หรือเป็นสินทรัพย์และหนี้สินของกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่ายที่ได้จัดประเภทเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายในงบฐานะการเงินสำหรับรอบระยะเวลาก่อน เพื่อสะท้อนถึงการจัด ประเภทในงบฐานะการเงินสำหรับรอบระยะเวลาที่นำเสนอครั้งล่าสุด การเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม 41 กิจการต้องเปิดเผยข้อมูลต่อไปนี้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินในรอบระยะเวลาที่สินทรัพย์ไม่ หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหรือ เมื่อมีการขายสินทรัพย์ดังกล่าว 41.1 คำอธิบายของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) 41.2 คำอธิบายถึงข้อเท็จจริงและสภาพแวดล้อมของการขาย หรือที่นำไปสู่การจำหน่ายที่ คาดไว้ และลักษณะและระยะเวลาที่คาดว่าจะจำหน่าย มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 15 41.3 ผลกำไรหรือขาดทุนที่รับรู้ตามย่อหน้าที่ 20 ถึง 22 และหัวข้อในงบกำไรขาดทุน เบ็ดเสร็จที่รวมผลกำไรหรือขาดทุนนั้นไว้ (หากไม่ได้นำเสนอแยกต่างหากในงบกำไร ขาดทุนเบ็ดเสร็จ) 41.4 ส่วนงานที่รายงานมีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 8 เรื่อง ส่วนงานดำเนินงาน 42 หากเป็นไปตามย่อหน้าที่ 26 หรือย่อหน้าที่ 29 ในรอบระยะเวลาที่กิจการตัดสินใจเปลี่ยนแปลง แผนการขายสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) กิจการต้องเปิดเผย คำอธิบายของข้อเท็จจริงและสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าวและผลของการ ตัดสินใจที่มีต่อผลการดำเนินงานสำหรับรอบระยะเวลานั้นและรอบระยะเวลาก่อนที่มีการ นำเสนอ การปฏิบัติในช่วงเปลี่ยนผ่าน 43 กิจการต้องใช้วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไปเมื่อกิจการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ มาถือปฏิบัติกับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่เข้าเงื่อนไข การจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่เข้าเงื่อนไขการจัดประเภทเป็น การดำเนินงานที่ยกเลิกหลังจากวันที่มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้มีผลบังคับใช้ กิจการอาจปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กับสินทรัพย์ ไม่หมุนเวียนทุกประเภท (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่เข้าเงื่อนไขการจัดประเภทเป็น สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่เข้าเงื่อนไขการจัดประเภทเป็นการดำเนินงาน ที่ยกเลิกก่อนวันที่มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้หากกิจการทราบ มูลค่าและข้อมูลอื่นที่ต้องนำมาใช้ในมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้เมื่อเข้าเงื่อนไข ที่กำหนดไว้เป็นครั้งแรก วันถือปฏิบัติ 44 กิจการต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลา ประจำปีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้สนับสนุนให้ถือปฏิบัติได้ก่อน วันบังคับใช้หากกิจการถือปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้สำหรับรอบระยะเวลา ก่อนวันบังคับใช้กิจการต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย 44ก (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ข (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ค (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ง (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44จ (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ฉ (ย่อหน้านี้ไม่ใช้) มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 16 44ช (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ซ (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ฌ (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ญ (ย่อหน้านี้ไม่ใช้) 44ฎ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 ออกโดยคณะกรรมการมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินระหว่างประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2557 ทำให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้ในปี 2561 โดยแก้ไขเพิ่มเติมย่อหน้าที่ 5 และตัดย่อหน้าที่ 44ฉ และ 44ญ กิจการต้องถือปฏิบัติตามการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเมื่อกิจการถือปฏิบัติตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 44ฏ (ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง) 44ฐ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 ที่ออกโดยคณะกรรมการมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินระหว่างประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2560 ทำให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้ในปี 2566 โดยแก้ไขเพิ่มเติมย่อหน้าที่ 5 กิจการต้องถือปฏิบัติ ตามการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเมื่อกิจการถือปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 การยกเลิกมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับเดิม 45 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ใช้แทนมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 (ปรับปรุง 2561) เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 17 ภาคผนวก ก ศัพท์บัญญัติ ภาคผนวกนี้เป็นส่วนเสริมที่จำเป็นของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน หน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด หมายถึง สินทรัพย์กลุ่มที่เล็กที่สุดที่สามารถระบุได้ที่ก่อให้เกิด กระแสเงินสดรับ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นอิสระจากกระแส เงินสดรับที่เกิดจากสินทรัพย์อื่นหรือกลุ่มสินทรัพย์อื่น ส่วนประกอบของกิจการ หมายถึง การดำเนินงานและกระแสเงินสดที่สามารถแยกได้อย่าง ชัดเจน (ทั้งในด้านการดำเนินงานและสำหรับวัตถุประสงค์ ของการรายงานทางการเงิน) จากส่วนที่เหลือของกิจการ ต้นทุนในการขาย หมายถึง ต้นทุนส่วนเพิ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจำหน่าย สินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ไม่รวม ต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ สินทรัพย์หมุนเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ (ก) คาดว่าจะได้รับประโยชน์ หรือตั้งใจสำหรับขาย หรือใช้ภายในรอบระยะเวลาการดำเนินงาน ตามปกติของกิจการ (ข) ถือสินทรัพย์โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ถือไว้เพื่อคำ (ค) คาดว่าจะใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ภายใน 12 เดือนหลังจากรอบระยะเวลารายงาน หรือ (ง) สินทรัพย์ที่เป็นเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด (ตามคำนิยามในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 7) และ ที่ไม่มีข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนหรือการใช้ในการ ชำระหนี้สินอย่างน้อย 12 เดือนหลังจากรอบ ระยะเวลารายงาน การดำเนินงานที่ยกเลิก หมายถึง ส่วนประกอบของกิจการที่ยกเลิกหรือที่จัดประเภทไว้ เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย และ (ก) เป็นสายงานธุรกิจที่สำคัญหรือเขตภูมิศาสตร์ที่แยก ต่างหาก (ข) เป็นส่วนหนึ่งของแผนร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกิจที่ สำคัญหรือเขตภูมิศาสตร์ที่แยกต่างหาก หรือ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 18 (ค)เป็นบริษัทย่อยที่ซื้อมาเพื่อขายต่อ กลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย หมายถึง กลุ่มของสินทรัพย์ที่ยกเลิก (โดยการขายหรือไม่ใช่ การขาย) รวมกันเป็นกลุ่มในรายการเดียว และหนี้สิน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสินทรัพย์เหล่านั้นที่จะถูกโอนไป พร้อมกับรายการดังกล่าว กลุ่มสินทรัพย์รวมถึง ค่าความนิยมที่ได้มาในการรวมธุรกิจถ้ากลุ่มสินทรัพย์เป็น หน่วยสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสดที่ได้รับปันส่วน ค่าความนิยมตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 80 ถึง 87 ของ มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 36 เรื่อง การด้อยค่าของ สินทรัพย์ หรือเป็นการดำเนินงานภายในหน่วยสินทรัพย์ ที่ก่อให้เกิดเงินสด มูลค่ายุติธรรม หมายถึง มูลค่ายุติธรรม หมายถึง ราคาที่จะได้รับจากการขาย สินทรัพย์ หรือจะจ่ายเพื่อโอนหนี้สินในรายการที่เกิดขึ้น ในสภาพปกติระหว่างผู้ร่วมตลาด ณ วันที่วัดมูลค่า (ดูมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 13) ข้อผูกมัดการซื้อที่แน่นหนา หมายถึง ข้อตกลงกับผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันซึ่งผูกพันทั้งสอง ฝ่ายและมักมีผลบังคับตามกฎหมาย ซึ่ง (ก) กำหนด ข้อตกลงที่มีนัยสำคัญทั้งหมด รวมถึงราคาและระยะเวลา ของรายการ และ (ข) รวมถึงมีบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติ ตามข้อผูกพันซึ่งมากเพียงพอ ที่ทำให้การปฏิบัติตาม ข้อผูกพันมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมาก ความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ใน ระดับสูงมาก หมายถึง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นสูงมากกว่าความเป็นไปได้ ค่อนข้างแน่ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่ไม่เป็นไปตามคำนิยามของสินทรัพย์หมุนเวียน มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่หมายถึง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมากกว่าที่จะไม่เกิดขึ้น มูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน หมายถึง จำนวนที่สูงกว่าระหว่างมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ หักต้นทุนในการขายและมูลค่าจากการใช้ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 19 มูลค่าจากการใช้หมายถึง มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคตที่คาดว่าจะเกิด จากการใช้สินทรัพย์อย่างต่อเนื่องและจากการเลิกใช้เมื่อ สิ้นสุดอายุใช้งาน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 20 ภาคผนวก ข แนวทางปฏิบัติ ภาคผนวกนี้เป็นส่วนเสริมที่จำเป็นของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน การขยายระยะเวลาที่ต้องใช้ในการขายให้เสร็จสมบูรณ์ ขตามที่ได้กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 9 การขยายระยะเวลาที่ต้องใช้ในการขายให้เสร็จสมบูรณ์ไม่ได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถจัดประเภทสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายหากความล่าชำนั้นเกิดจากเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่อยู่ นอกเหนือการควบคุมของกิจการและมีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า กิจการยังคงยึดถือ ในแผนการขายสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ข้อยกเว้นสำหรับข้อกำหนด 1 ปี ตามย่อหน้าที่ 8 ต้องนำมาถือปฏิบัติเมื่อมีเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมดังต่อไปนี้เกิดขึ้น ข1.1 ในวันที่กิจการตัดสินใจปฏิบัติตามแผนที่จะขายสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่ม สินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) กิจการคาดหวังอย่างสมเหตุสมผลว่าผู้อื่น (ซึ่งไม่ใช่ผู้ซื้อ) จะบังคับใช้เงื่อนไขในการโอนสินทรัพย์ (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่จะทำให้ ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการขายให้เสร็จสมบูรณ์นั้นต้องขยายออกไป และ ข1.1.1 การกระทำที่จำเป็นเพื่อตอบสนองต่อเงื่อนไขเหล่านั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จนกระทั่ง หลังจากได้ทำข้อผูกมัดการซื้อที่แน่นหนา และ ข1.1.2 ข้อผูกมัดการซื้อที่แน่นหนามีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ในระดับสูงมากกว่า จะเกิดขึ้นภายใน 1 ปี ข1.2 กิจการได้รับข้อผูกมัดการซื้อที่แน่นหนาและเป็นผลให้ผู้ซื้อหรือผู้อื่นบังคับใช้เงื่อนไข อย่างที่ไม่ได้คาดการณ์มาก่อนในการโอนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่ จะจำหน่าย) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายที่จะขยาย ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการขายให้เสร็จสมบูรณ์ และ ข1.2.1 การกระทำที่จำเป็นเพื่อตอบสนองต่อเงื่อนไขได้เกิดขึ้นแล้วอย่างทันเวลา และ ข1.2.2 คาดว่าปัจจัยที่ก่อให้เกิดความล่าช้าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ข1.3 ในระหว่างรอบระยะเวลา 1 ปีแรก สภาพแวดล้อมที่เคยคาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เกิดขึ้น และเป็นผลให้สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) ที่เคย จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายยังไม่ได้ถูกขายออกไปเมื่อสิ้นรอบระยะเวลา และ ข1.3.1 ในระหว่างรอบระยะเวลา 1 ปีแรก กิจการได้กระทำการที่จำเป็นเพื่อ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ข1.3.2 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย) มีการซื้อขายใน ตลาดซื้อขายคล่องในราคาที่สมเหตุสมผลในกรณีที่มีสภาพแวดล้อม เปลี่ยนแปลง และ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 29/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 21 ข1.3.3 เข้าเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 7 และ 8 เล่ม: 140 หมวด: 188 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 08/08/2023 หน้า: 17
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:143326", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 29/2566 เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก (เล่มที่ 2)", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D188S0000000001700.pdf", "year": null }
nonweb_141344
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสมุทรปราการ เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิ สุนัขป่วยโรคมะเร็ง(Dogs cancer)" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดสมุทรปราการ เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิสุนัขป๋วยโรคมะเร็ง (Dogs cancer)” ด้วย นางสาวธนินทรา จิรโชควิชญา ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิสุนัขป๋วยโรคมะเร็ง (Dogs cancer) ต่อนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสมุทรปรำ การ มีใจความสำคัญตามข้อบังคับของมูลนิธิ ดังนี้ ๑. มูลนิธิชื่อ “มูลนิธิสุนัขป๋วยโรคมะเร็ง (Dogs cancer)” ๒. วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ คือ ๒.๑ เพื่อช่วยเหลือรักษาสัตว์ที่ป๋วยอนาถา เช่น สุนัขและแมวจรจัดในโร คมะเร็ง ถูกทารุณกรรม ได้รับอุบัติเหตุ และไม่มีที่อยู่อาศัย ๒.๒ เพื่อต่อต้านการค้าสัตว์ข้ามชาติและการทารุณกรรม ๒.๓ ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลเพื่อการกุ ศล และองค์กรสาธารณประโยชน์ เพื่อสาธารณประโยชน์ ๒.๔ ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด ๓. สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๒๐๑/๗๓๔ หมู่ที่ ๗ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๕๗๐ ๔. ทรัพย์สินของมูลนิธิ คือ เงินสด จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท (สองแสนหำหมื่นบาทถ้วน) รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลเสริมหลังคายี่ห้อมิตซูบิชิไทรทัน จำนวน ๑ คัน มูลค่า ๒๕๐,๐๐๐ บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน ๑ เครื่อง มูลค่า ๑๑,๙๐๐ บาท คอมพิวเตอร์ จำนวน ๑ เครื่อง มูลค่า ๑๕,๐๐๐ บาท เครื่อง Printer จำนวน ๑ เครื่อง มูลค่า ๔,๐๐๐ บาท ๕. การจัดการของมูลนิธิในวาระเริ่มแรก มีคณะกรรมการดำเนินงานดังรายนามต่อไปนี้ ๕.๑ นางสาวธนินทรา จิรโชควิชญา ประธานกรรมการ ๕.๒ นายศรนรินทร์ ศาลาประทีป กรรมการและเลขานุการ ๕.๓ นายณัฏฐ์นันทน์ ศาลาประทีป กรรมการและเหรัญญิก นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสมุทรปราการ มีคำสั่งรับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิรายนี้แล้ว เลขทะเบียน ลำดับที่ ๕/๒๕๖๖ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ ประทีป นทีทวีวัฒน์ ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสมุทรปราการ เล่ม: 140 หมวด: 35 ง ประกาศ ณ: 11/05/2023 หน้า: 165
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:141345", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดสมุทรปราการ เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง \"มูลนิธิ สุนัขป่วยโรคมะเร็ง(Dogs cancer)\"", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D035N0000000016500.pdf", "year": null }
nonweb_99258
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ "มูลนิธิสหชาติ" ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ “มูลนิธิสหชาติ” ด้วย พระชายกลาง อภิญาโณ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิสหชาติ ข้อ ๓ มีใจความ ดังนี้ ข้อ ๓ สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่เลขที่ ๘๘/๑๗๒ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิรายนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๑ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองอธิบดี รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๘๕ ง ประกาศ ณ: ๐๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๑๒๓
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:99259", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ \"มูลนิธิสหชาติ\"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/085/T_0123.PDF", "year": null }
nonweb_142828
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. 2563 ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยที่เป็นการสมควรตราข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ว่าด้วยการกำจัด สิ่งปฏิกูลและมูลฝอย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหา รส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมาตรา ๒๐ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ องค์การบริหารส่ว นตำบลขามป้อม โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมและนายอำเภอวาปีปทุม จึงตราข้อบัญญัติไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เรื่อง การจัดการ สิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. ๒๕๖๓” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ บรรดาข้อบัญญัติ ประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งอื่นใดในส่วนที่ได้ตราไว้แล้ว ในข้อบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับข้อบัญญัตินี้ ให้ใช้ข้อบัญญัตินี้แทน ข้อ ๔ ในข้อบัญญัตินี้ “สิ่งปฏิกูล” หมายความว่า อุจจาระหรือป้สสาวะ และหมายความรวมถึงสิ่งอื่นใด ซึ่งเป็นสิ่งโสโครกหรือมีกลิ่นเหม็น “มูลฝอยทั่วไป” หมายความว่า เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร เศษสินค้า เศษวัตถุ ถุงพลาสติก ภาชนะที่ใส่อาหาร เถ้า มู ลสัตว์ ซากสัตว์ หรือสิ่งอื่นใดที่เก็บกวาดจากถนน ตลาด ที่เลี้ยงสัตว์หรือที่อื่น และหมายความรวมถึงมูลฝอยติดเชื้อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน “มูลฝอยนำกลับมาใช้ใหม่” หมายความว่า มูลฝอยทั่วไปที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้ เช่น แก้ว กระดาษ โลหะ พ ลาสติก หน้า ๖ “มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายต่อชุมชน” หมายความว่า มูลฝอยที่เป็นพิษ หรืออันตรายจากชุมชนตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด “อาคาร” หมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงาน หรือสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ “ที่หรือทางสาธารณะ” หมายความว่า สถานที่หรือทางซึ่งมิใช่เป็นของเอกชน และประชาชนสามารถใช้ประโยชน์หรือใช้สัญจรได้ “สถานที่จำหน่ายอาหาร” หมายความว่า อาคาร สถานที่หรือบริเวณใด ๆ ที่มิใช่ที่ หรือทางสาธารณะที่จัดไว้ เพื่อประกอบอาหารหรือปรุงอาหารจนสำเร็จและจำหน่ายให้ผู้ซื้อสามารถ บริโภคได้ทันที ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายโดยจัดให้มีบริเวณไว้สำหรับการบริโภค ณ ที่นั้น หรือนำไปบริโภคที่อื่นก็ตาม “ตลาด” หมายความว่า สถานที่ซึ่งปกติจัดไว้ให้ผู้ค้าขายใช้เป็นที่ชุมชนเพื่อจำหน่ายสินค้า ประเภทสัตว์ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้หรืออาหารอันมีสภาพเป็นของสด ประกอบหรือปรุงแล้ว หรือของเสียง่าย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการจำหน่ายสินค้าประเภทอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ก็ตาม และหมายความร่วมถึงบริเวณซึ่งจัดไว้ สำหรับให้ผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมชนเพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทดังกล่าวเป็นประจำหรือเป็นครั้งคราวหรือตามวันที่กำหนด “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๕ การเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ให้เป็นอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง องค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมอาจร่วมกับหน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่นดำเนินการภายใต้ข้อตกลงร่วมกันก็ได้ ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมอาจมอบให้บุคคลใดดำเนินการ ตามวรรคหนึ่งแทนภายใต้การควบคุมดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม หรืออาจอนุญาต ให้บุคคลใดเป็นผู้ดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยโดยทำเป็นธุรกิจ หรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการก็ได้หน้า ๗ บทบัญญัติตามข้อนี้มิให้ใช้บังคับกับการจัดการของเสียอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโร งงาน แต่ให้ผู้ดำเนินกิจการโรงงานที่มีของเสียอันตราย และผู้ดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัด ของเสียอันตรายดังกล่าวแจ้งการดำเนินกิจการเป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๖ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนดเขตพื้นที่การให้บริการเก็บ ขน หรือกำจัด สิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยหรือเขตพื้นที่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมมอบให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน หรือเขตพื้นที่การอนุญาตให้บุคคลใดดำเนินกิจการโดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทน ด้วยการคิดค่าบริการในเขตอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมและระเบียบปฏิบัติได้ตามความจำเป็น ข้อ ๗ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่การให้บริการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม หรือเขตพื้นที่ที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลขามป้อมมอบให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการให้บริการแก่องค์การบริหาร ส่วนตำบลขามป้อมตามอัตราที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ทั้งนี้การจะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย องค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมจะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ข้อ ๘ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสะอาดและการจัดระเบียบในการเก็บ ขน และกำจัด สิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ในกรณีที่ยังไม่มีกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยใช้บังคับ ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยให้ปฏิบัติตามข้อบัญญัติ ดังต่อไปนี้ (๘.๑) ห้ามมิให้ผู้ใดทำการถ่าย เท ทิ้ง หรือทำให้มีขึ้นซึ่งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ในที่หรือทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณอื่นใด เป็นต้นว่า ถนน ซอย ตรอก บึง แม่น้ำ คลอง คู สระน้ำ บ่อน้ำ เว้นแต่ที่ซึ่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นอนุญาตให้จัดไว้โดยเฉพาะ (๘.๒) เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ใด ๆ ต้องจัดให้มีที่รองรับสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยที่ถูกสุขลักษณะอย่างเพียงพอและเหมาะสมตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยคำแนะนำของ เจ้าพนักงานสาธารณสุขประกาศกำหนด (๘.๓) ห้ามผู้ใดทำการถ่าย เท ขน หรือเคลื่อนย้ายสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยในที่ถังรับ รถขน เรือขน สถานที่เท เก็บ หรือพักสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม หน้า ๘ เว้นแต่เป็นการกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบล ขามป้อมมอบหมาย (๘.๔) ห้ามผู้ใดทำการขน ถ่าย เท คุ้ย เขี่ย หรือขุดมูลฝอยในที่รองรับ รถขน เรือขน หรือสถานที่พักมูลฝอยใด ๆ ขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เว้นแต่เป็นการกระทำของ พนักงานเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม (๘.๕) ห้ามมิให้ผู้ใดถ่ายเท หรือระบายสิ่งปฏิกูลจากอาคารหรือยานพาหนะในที่ หรือทางสาธารณะ หรือทางระบายน้ำสาธารณะ ข้อ ๙ ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการเว้นแต่จะได้รับใบอนุญา ตจาก เจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๑๐ ผู้ใดประสงค์จะเป็นผู้ดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม จะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามแบบที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้พร้อมกับเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (๑) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ (๒) สำเนาทะเบียนบ้าน (๓) สำเนาการจดทะเบียนนิติบุคคล/ทะเบียนพาณิชย์ (๔) หนังสือมอบอำนาจ/ใบทะเบียนพาณิชย์ (ถ้ามี/กรณีมอบอำนาจ) (๕) สำเนาใบอนุญาตตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง (๖) สำเนาเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๑ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามข้อ ๑๐ จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ ก. ผู้ขอรับใบอนุญาตดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขนสิ่งปฏิกูล (๑) ต้องมีพาหนะขนถ่ายสิ่งปฏิกูล (รถดู ดส้วม) ซึ่งมีคุณลักษณะ ดังนี้ (๑.๑) ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก (๑.๒) ส่วนของรถที่ใช้ขนถ่ายสิ่งปฏิกูลต้องปกปิดมิดชิด สามารถป้องกันกลิ่น และสัตว์แมลงพาหะนำโรคได้มีฝาปิด - เปิดอยู่ด้านบน หน้า ๙ (๑.๓) มีป้มดูดสิ่งปฏิกูลและติดตั้งมาตรวัดปริมาณของสิ่งปฏิกูลด้วย (๑.๔) ท่อหรือสายที่ใช้ดูดสิ่งปฏิกูลต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่รั่วซึม (๑.๕) มีอุปกรณ์ทำความสะอาดประจำรถ เช่น ถังตักน้ำ ไม้กวาด น้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เช่น ไลโซน ๕%) (๑.๖) ต้องจัดให้มีการแสดงข้อความที่ตัวพาหนะขนถ่ายสิ่งปฏิกูลให้รู้ว่าเป็น พาหนะขนถ่ายสิ่งปฏิกูล เช่น “รถดูดสิ่งปฏิกูล” เป็นต้น และต้องแสดงเลขทะเบียนใบอนุญาต ประกอบกิจการ ชื่อหน่วยงานที่เป็นผู้ออกใบอนุญาต ชื่อบริษัทหรือเจ้าของกิจการด้วยตัวอักษรไทย ซึ่งมีขนาดที่เห็นได้ชัดเจน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ไว้ทั้งสองด้านของตัวรถ โดยขนาดตัวอักษรต้องสูง ไม่น้อยกว่า ๑๐ เซนติเมตร (๑.๗) สีของรถพาหนะเก็บขนถ่ายสิ่งปฏิกูล ต้องกำหนดให้มีสีต่างจากรถเก็บ ขนถ่ายสิ่งปฏิกูลขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม (๒) ต้องจัดให้มีเสื้อคลุม ถุงมือยาง รองเท้าหนังยางหุ้มสูงถึงแข้ง ผำปิดปากปิดจมูก สำหรับผู้ปฏิบัติงาน (๓) กรณีที่ไม่มีระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลของตนเองต้องแสดงหลักฐานว่าจะนำสิ่งปฏิกูล ไปกำจัด ณ แหล่งกำจัดที่ถูกสุขลักษณะแห่งใด ข. ผู้ขอรับใบอนุญาตดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขนมูลฝอย (๑) ต้องมีพาหนะเก็บ ขนมูลฝอย (รถเก็บขยะ) ซึ่งมีคุณลัก ษณะ ดังนี้ (๑.๑) ส่วนของรถที่ใช้เก็บขนมูลฝอย ต้องปกปิดมิดชิดสามารถป้องกันกลิ่น และสัตว์แมลงพาหะนำโรคได้และไม่ทำให้มูลฝอยหกล้นหรือปลิวฟุ้งกระจายขณะขนย้าย (๑.๒) ส่วนของรถที่ใช้เก็บ ขนมูลฝอยต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่รั่วซึม (๑.๓) มีอุปกรณ์ทำความสะอา ดประจำรถ เช่น ไม้กวาด น้ำยาดับกลิ่น น้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เช่น ไลโซน ๕%) (๑.๔) ต้องมีข้อความแสดงที่ตัวรถพาหนะเก็บ ขนมูลฝอย เพื่อให้รู้ว่าเป็น รถที่ใช้เก็บขนมูลฝอย เช่น “รถเก็บ ขนมูลฝอย” เป็นต้น และต้องแสดงเลขทะเบียนใบอนุญาต ประกอบกิจการ ชื่อห น่วยงานที่เป็นผู้ออกใบอนุญาต ชื่อบริษัทหรือเจ้าของกิจการด้วยตัวอักษรไทย หน้า ๑๐ ซึ่งมีขนาดที่เห็นได้ชัดเจน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ไว้ทั้งสองด้านของตัวรถ โดยขนาดตัวอักษรต้องสูง ไม่น้อยกว่า ๑๐ เซนติเมตร (๑.๕) สีของรถพาหนะเก็บ ขนมูลฝอย ต้องกำหนดให้มีสีต่างจากร ถเก็บ ขนมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม (๒) ต้องจัดให้มีผำปิดปากปิดจมูก เสื้อสะท้อนแสง ถุงมือยาง รองเท้าหนังยาง หุ้มสูงถึงแข้ง อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ถังตักน้ำ ไม้กวาด พลั่ว น้ำยาดับกลิ่น น้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เช่น ไลโซน ๕%) สำหรับผู้ปฏิบัติงาน (๓) กรณีที่ไม่มีระบบกำจัดมูลฝอยของตนเองต้องแสดงหลักฐานว่าจะนำมูลฝอย ไปกำจัด ณ แหล่งกำจัดที่ถูกสุขลักษณะแห่งใด ข้อ ๑๒ เมื่อได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาตให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น ตรวจความถูกต้องและความส มบูรณ์ของคำขอ ถ้าปรากฏว่าคำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นรวบรวมความไม่ถูกต้อง หรือความไม่สมบูรณ์นั้นทั้งหมด และแจ้งให้ผู้ขออนุญาตแก้ไขให้ถูกต้องและสมบูรณ์ในคราวเดียวกัน และในกรณีจำเป็นที่จะต้องส่งคืนคำขอแก่ผู้ขออนุญาตก็ให้ส่งคืนคำขอพร้อมทั้งแจ้งความไม่ถูกต้อง หรือความไม่สมบูรณ์ให้ทราบภายใน ๑๕ วันนับแต่วันได้รับคำขอ เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผล ให้ผู้ขออนุญาตทรายภายใน ๓๐ วันนับแต่วันได้รับคำขอ ซึ่งมีรายละเอียดถูกต้องหรือครบถ้วน ตามที่กำหนดในข้อบัญญัตินี้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่อาจออกใบอนุญาตหรือยังไม่อาจมีคำสั่งไม่อนุญาตได้ ภายในกำหนดเวลาตามวรรคสองให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกิน ๒ ครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๑๕ วัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งการขยายเวลาและเหตุจำเป็นแต่ละครั้งให้ผู้ขออนุญาตทราบก่อนสิ้นกำหนดเวลา ตามวรรคสอง หรือตามที่ได้ขยายเวลาไว้แล้วนั้น แล้วแต่กรณี ข้อ ๑๓ ผู้ได้รับอนุญาตต้องมารับใบอนุญาตภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งการอนุญาต จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากไม่มารับภายในกำหนดเวลาดังกล่าวโดยไม่มีเหตุอันสมควรให้ถือว่าสละสิทธิ์ ข้อ ๑๔ ในการดำเนินการกิจการผู้ได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้หน้า ๑๑ ก. ผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขนสิ่งปฏิกูล (๑) ขณะทำการดูดสิ่งปฏิกูลต้องควบคุมให้ผู้ปฏิบัติงานสวมเสื้อคลุม สวมผำปิดปาก ปิดจมูก ถุงมือยาง และรองเท้าหนังยางหุ้มสูงถึงแข้ง และทำความสะอาดเสื้อคลุม ถุงมือยาง รองเท้าหนังยาง หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานประจำวัน (๒) ทำความสะอาดท่อหรือสายที่ใช้ดูดสิ่งปฏิกูล โดยหลังจากดูดสิ่งปฏิกูลเสร็จแล้ว ให้ทำการดูดน้ำสะอาดจากถังเพื่อล้างภายในท่อหรือสายที่ใช้ดูดสิ่งปฏิกูล และทำความสะอาดท่อ หรือสายที่ใช้ดูดสิ่งปฏิกูลด้านนอกที่สัมผัสสิ่งปฏิกูลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เช่น ไลโซน ๕%) (๓) ทำความสะอาดรถขนถ่ายสิ่งปฏิกูลอย่างน้อยวันละ ๑ ครั้ง หลังจากที่ ออกปฏิบัติงาน ขนถ่ายสิ่งปฏิกูลเสร็จแล้ว สำหรับน้ำเสียที่เกิดจากการล้างต้องได้รับการบำบัดหรือกำจัด ด้วยวิธีการที่ถูกหลักสุขาภิบาล คือน้ำล้างจะต้องผ่านการบำบัดเสียหรือปล่อยลงสู่ลานทรายซึมชนิดร่องซึม โดยต้องห่างจากแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร (๔) กรณีที่มีสิ่งปฏิกูลหกเรี่ยราด ให้ทำการฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เช่น ไลโซน ๕%) แล้วทำการล้างด้วยน้ำสะอาด (๕) มีการตรวจสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานขนถ่ายสิ่งปฏิกูล อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง (๖) หำมนำรถไปใช้ในกิจการอื่น (๗) ต้องดูแลมิให้ข้อความบนตัวถังรถลบเลือน (๘) ต้องมีใบอนุญาตติดประจำรถ (๙) รักษาคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๑ ตลอดเวลาที่ยังดำเนินกิจการ ตามใบอนุญาต (๑๐) ปฏิบัติการอื่นใดเกี่ยวด้วยสุขลักษณะ ความสะอาด ปลอดภัย และการรัก ษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมตามคำแนะนำหรือคำสั่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข และคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งข้อบัญญัติ ระเบียบ และประกาศขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ข. ผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขนมูลฝอย (๑) ขณะทำการเก็บ ขนมูลฝอยต้องควบคุม ให้ผู้ปฏิบัติงานสวมผำปิดปากปิดจมูก สวมถุงมือยาง สวมเสื้อสะท้อนแสง รองเท้าหนังยางหุ้มสูงถึงแข้ง สวมเสื้อและกางเกงให้มิดชิด หน้า ๑๒ และทำความสะอาดผำปิดปากปิดจมูก เสื้อ กางเกง ถุงมือยาง รองเท้าหนังยางหลังจากเสร็จสิ้น การปฏิบัติงานประจำวัน (๒) การเก็บ ขนมูลฝอยต้องจัดเก็บให้เรียบร้อยมิให้มีมูลฝอยตกค้าง (๓) ขณะขนย้ายต้องไม่ทำให้มูลฝอยตกหล่น หรือฟุ้งกระจายตามท้องถนน (๔) ทำความสะอาดรถเก็บ ขนมูลฝอยอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง สำหรับน้ำเสีย ที่เกิดจากการล้างต้องได้รับการบำบัดหรือกำจัดด้วยวิธีการที่ถูกห ลักสุขาภิบาล คือ น้ำล้างจะต้องผ่าน การบำบัดเสียหรือปล่อยลงสู่ลานทรายซึมชนิดร่องซึม โดยต้องห่างจากแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร (๕) มีการตรวจสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง โดยเฉพาะการตรวจโรค ระบบทางเดินอาหาร (๖) หำมนำรถไปใช้ในกิจการอื่น (๗) ต้องดูแลมิให้ข้อความบนตัวถังรถลบเลือน (๘) ต้องมีใบอนุญาตติดประจำรถ (๙) รักษาคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๑ ตลอดเวลาที่ยังดำเนินกิจการ ตามใบอนุญาต (๑๐) ปฏิบัติการอื่นใดเกี่ยวด้วยสุขลักษณะ ความสะอาด ปลอดภัย และการรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมตามคำแนะนำหรือคำสั่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขและคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งข้อบัญญัติ ระเบียบ และประกาศขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ข้อ ๑๕ บรรดาใบอนุญาตที่ออกให้ตามข้อบัญญัตินี้ให้มีอายุ ๑ ปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต และให้ใช้ได้เพียงใน เขตอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อมเท่านั้น การขอต่ออายุใบอนุญาตจะต้องยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคำขอพร้อมกับ เสียค่าธรรมเนียมแล้วให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนด ข้อ ๑๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามอัตราที่กำหนดไว้ ท้ายข้อบัญญัตินี้ในวันที่มารับใบอนุญาตสำหรับกรณีที่เป็นการขอรับใบอนุญาตครั้งแรกหรือก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ หน้า ๑๓ สำหรับกรณีที่เป็นการขอต่ออายุใบอนุญาตตลอดเวลาที่ยังดำเนินกิจการนั้น ถ้ามิได้เสียค่าธรรมเนียม ภายในเวลาที่กำหนดให้ชำระค่าปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ ๒๐ ของจำนวนค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระ เว้นแต่ผู้ได้รับใบอนุญาตจะได้บอกเลิกการดำเนินกิจการ นั้นก่อนถึงกำหนดการเสียค่าธรรมเนียมครั้งต่อไป ในกรณีที่ผู้มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งค้างชำระค่าธรรมเนียมติดต่อกัน เกินกว่า ๒ ครั้ง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการดำเนินกิจการไว้จนกว่าจะได้เสียค่าธรรมเนียม และค่าปรับจนค รบจำนวน ข้อ ๑๗ บรรดาค่าธรรมเนียมและค่าปรับตามข้อบัญญัตินี้ให้เป็นรายได้ขององค์การบริหาร ส่วนตำบลขามป้อม ข้อ ๑๘ ผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ดำเนินกิจการตามข้อบัญญัตินี้จะพึงเรียกเก็บค่าบริการจาก ผู้ใช้บริการได้ไม่เกินอัตราค่าบริการขั้นสูงตามที่กำหนดไว้ท้าย ข้อบัญญัตินี้ ข้อ ๑๙ ผู้ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ประกอบกิจการตลอดเวลาที่ประกอบกิจการ ข้อ ๒๐ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระที่สำคัญให้ผู้ได้รับใบอนุญาต ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุด ตามแบบที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ การขอรับใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีใบอนุญาตสูญหายให้ผู้ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุ ญาตนำสำเนาบันทึก การแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แห่งท้องที่ที่ใบอนุญาตสูญหายมาแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ประกอบด้วย (๒) ในกรณีใบอนุญาตถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระที่สำคัญให้ผู้ยื่นคำขอรับ ใบแทนใบอนุญาตนำใบอนุญาตเดิมเท่าที่เหลืออยู่มาแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นประกอบด้วย ข้อ ๒๑ ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ การสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือข้อบัญญัตินี้หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตในเรื่องที่กำหนดไว้หน้า ๑๔ เกี่ยวกับการประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งพักใช้ ใบอนุญาตได้ภายในเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน ๑๕ วัน ข้อ ๒๒ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาต (๑) ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตั้งแต่ ๒ ครั้งขึ้นไป และมีเหตุที่จะต้องถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอีก (๒) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ (๓) ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือข้อบัญญัตินี้ หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตในเรื่องที่กำหนดไว้เกี่ยวกับการประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาต ตามข้อบัญญัตินี้และการไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องนั้นก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพ ของประชาชนหรือมีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ข้อ ๒๓ คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตและคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ทำเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้รับ ใบอนุญาตทราบในกรณีที่ไม่พบผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบอนุญาตไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าวให้ส่งคำสั่ง โดยทางไปรษณีย์ตอบรับหรือให้ปิดคำสั่งนั้นไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงาน ของผู้รับใบอนุญาตและให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตนั้นได้รับทราบคำสั่งแล้วตั้งแต่เวลาที่คำสั่งไปถึงหรือวันปิดคำสั่ง แล้วแต่กรณี ข้อ ๒๔ ผู้ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตสำหรับการประกอบกิจการที่ถูกเพิกถอน ใบอนุญาตอีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นกำหนด ๑ ปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ข้อ ๒๕ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ใด ๆ ที่อยู่นอกเขตพื้นที่การให้บริการ เก็บ ขนสิ่งปฏิกู ลหรือมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม หรือเขตพื้นที่การให้บริการ ของผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขนสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยโดยทำเป็นธุรกิจ หรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการต้องดำเนินการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะตามวิธีการที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข ประกาศกำหนด ข้อ ๒๖ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ. ศ. ๒๕๓๕ ในเขตอำนาจของ องค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม ในเรื่องใดหรือทุกเรื่องก็ได้ ข้อ ๒๗ ผู้ใดฝ๋าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในบทกำหนดโทษ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๒๘ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จันทร์ สมศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม หน้า ๑๖ บัญชีอัตราค่าธรรมเนียม ท้ายข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. ๒ ลำดับที่รายการ ค่าธรรมเนียม (บาท) ๑ อัตราค่าเก็บขนสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย 1.1 ค่าเก็บและขนอุจจาระหรือสิ่งปฏิกูลครั้งหนึ่ง ๆ (1) เศษของลูกบาศก์เมตร หรือลูกบาศก์เมตรแรก และลูกบาศก์เมตรต่อไป ลูกบาศก์เมตรละ (2) เศษไม่เกินครึ่งลูกบาศก์เมตรต่อไป ลูกบาศก์เมตรละ (เศษเกินครึ่งลูกบาศก์เมตร ให้คิดเท่ากับ ๑ ลูกบาศก์เมตร) 1.2 ค่าเก็บและขนมูลฝอยประจำเดือน (1) ประเภทที่อยู่อาศัย เดือนละ (2) ร้านค้า เดือนละ (3) สถานที่ราชการ เดือนละ (4) สถานที่ประกอบการ เดือนละ (5) โรงแรม เดือนละ (6) โรงงานอุตสาหกรรม เดือนละ 1.3 ค่าบริการนอกจากข้อ ๑.๑ - ๑.๒ ให้อยู่ในดุลพินิจเจ้าพนักงานท้องถิ่น ๑๒๐ ๑๐๐ ๑๐ 50 1๐๐ 300 400 1,000 ๒ อัตราค่าธรรมเนียมในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการทำการเก็บ ขน หรือกำจัด สิ่งปฏิกูลและมูลฝอยโดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ ๒.๑ รับทำการเก็บ ขน สิ่งปฏิกูลและมูลฝอย ฉบับละ ๒.๒ รับทำการกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย ฉบับละ ๒.๓ ให้บริการตั้งห้องสุขาภิบาลชั่วคราว ฉบับละ ๒.๔ ให้บริการรถสุขาชั่วคราว ฉบับละ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๓๐๐ ๓๐๐ แบบคำขอรับใบอนุญาต ประกอบกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย เลขที่รับ................/............. เขียนที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม วันที่...........เดือน....................... .............พ.ศ. ............. ข้าพเจ้า................................................................... ...................อายุ.......... .......ปี สัญชาติ.......................... อยู่บ้านเลขที่............... ........หมู่ที่......... .........ตรอก/ซอย.................... ...........................ถนน.......................... .................... ตำบล/แขวง.........................................อำเภอ/เขต..................................................จังหวัด............................................... หมายเลขโทรศัพท์.........................................................................โทรสาร..................................... .................................... ขอยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการรับทำการ เก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ประเภท ...................................................................................................... ...ต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม โดยใช้ชื่อกิจการว่า.................................................................. .............................. ........จำนวนคนงาน..........................คน ตั้งอยู่ณ เลขที่...............หมู่ที่........ .......ตำบล........................ ......อำเภอ..................... ..........จังหวัด.............................. . โทรศัพท์..........................................................โทรสาร.......................................................... พร้อมคำขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ มาด้วยแล้ว คือ  สำเนาเอกสารรถยนต์สิ่งปฏิกูลขนาด.................... .....................ยี่ห้อ.......................... ........................... ทะเบียนเลขที่..................................................................ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการดูดสิ่งปฏิกูลของกรมขนส่งทางบก เลขที่................................................................  สำเนาบัตรประจำตัว (ประชาชน/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ /อื่น ๆ ระบุ.............................. ...) ที่รับรองถูกต้อง  สำเนาทะเบียนบ้านที่รับรองถูกต้อง  สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำ ตัวประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล (ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตเป็นนิติบุคคล)  หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่เจ้าของกิจการไม่มายื่นขออนุญาตด้วยตนเอง  เอกสารและหลักฐานอื่น ๆ (1) ........................................................................................................................................... (2) ........................................................................................................................................... ขอรับรองว่า ข้อความตามแบบคำขอนี้เป็นความจริงทุกประ การ (ลงชื่อ)...........................................................ผู้ขอรับใบอนุญาต (...........................................................) ส่วนของเจ้าหน้าที่ เลขที่..................................ได้รับเรื่องเมื่อวันที่.......... ....เดือน......................................พ.ศ. ................. ....... ตรวจสอบแล้ว เอกสารหลักฐาน  ครบ  ไม่ครบ คือ (๑) .............................................................. (๒) .............................................................. (๓) .............................................................. (ลงชื่อ) ............................................................... (..............................................................) ตำแหน่ง.............................................................. ความเห็นของเจ้าพนักงานสาธารณสุข () เห็นสมควรอนุญาต () เห็นควรไม่อนุญาต เพราะ.................................................................................................................................... (ลงชื่อ) ...............................................................เจ้าพนักงานสาธารณสุข (..............................................................) ตำแหน่ง.............................................................. วันที่....... ............/....................../................... ความเห็นของปลัดองค์การบริหารส่วนตำ บล () เห็นสมควรอนุญาต () เห็นควรไม่อนุญาต เพราะ.................................................................................................................................... (ลงชื่อ) ............................................................... (..............................................................) ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม วันที่....... .........../.................../................ คำสั่งของเจ้าพนักงาน ท้องถิ่น ( ) อนุญาตให้ประกอบกิจการได้ ( ) ไม่อนุญาตให้ประกอบกิจการ (ลงชื่อ) ......................................................... ........ (............................................................ ...) นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม วันที่....... .........../.................../................. แบบ สม. 2 ใบอนุญาต ประกอบกิจการรับ ทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย เล่มที่...................เลขที่...................ปี .................... อนุญาตให้............................................. ......................... ...........อายุ............... .ปี สัญชาติ........ .................... อยู่บ้าน/สำนักงานเลขที่....... ................. ...หมู่ที่............. .....ตรอก/ซอย ........... ........................ถนน ....................... .............. ตำบล/แขวง ................................................ อำเภอ/เขต......................... .............. ....จังหวัด ................................... ............ โทรศัพท์ ......................................................โทรสาร................................................... ข้อ ๑ ประกอบกิจการรับทำ การเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ประเภท....................... ....... ..................................................... ........ค่าธรรมเนียม ................. ............ ...บาท ใบเสร็จรับเงินเล่มที่................................ เลขที่................................. ...........ลงวันที่........... .........เดือน............. ........................................พ.ศ. ................................. โดยใช้ชื่อกิจการว่า......................................................................................... จำนวนคนงาน... ...................... ................คน ตั้งอยู่ณ เลขที่.......... ............หมู่ที่....... ....ถนน...... .................. ............ตำบล................... .............อำเภอ......................... จังหวัด......................................... .........โทรศัพท์ ...................... ........................... โทรสาร ................................................... ข้อ ๒ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล และมูลฝอย พ.ศ. ๒๕ (๒) หากปรากฏในภายหลังว่าการประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตนี้เป็นการขัดต่อกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้องโดยมิอาจแก้ไขได้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นอาจพิจารณาให้เพิกถอนการอนุญาตนี้ได้ (๓) ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเฉพาะดังต่อไปนี้อีกด้วย คือ (๓.๑) .......................................................................................................... (๓.๒) .......................................................................................................... ใบอนุญาตฉบับนี้ออกให้เมื่อวันที่...... ..........เดือน ..................................พ.ศ. ......... ........... ใบอนุญาตฉบับนี้สิ้นอายุวันที่...... ................เดือน ..................................พ.ศ. .................... (ลงชื่อ)............................................................... (..............................................................) ตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เจ้าพนักงานท้องถิ่น คำเตือน (๑) ต้องแสดงใบอนุญาตนี้ไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ที่ได้รับใบอนุญาต (๒) ต้องต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ แบบ สม. 3 คำขอต่ออายุใบอนุญาต ประกอบกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งป ฏิกูลหรือมูลฝอย เลขที่รับ................../................... เขียนที่ .......... .................... ....................... ....................... วันที่...........เดือน.......................... ........พ.ศ. ....... ........... ข้าพเจ้า................................................................. ........อายุ.................ปี สัญชาติ............... ........................ อยู่บ้านเลขที่................ .....หมู่ที่..................ตรอก/ซอย ............ ................................... ถนน............................. ................... ตำบล/แขวง .................. ................. ..............อำเภอ/เขต...... ................. .......... ............จังหวัด............................................ โทรศัพท์ ......................................................โทรสาร.................................................... ขอยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการรับ ทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ประเภท ................................................................................................. ........ต่อนายกองค์การบริหารส่วน ตำบลขามป้อม โดยใช้ชื่อกิจการว่า.................. ............................................................................. .......จำนวนคนงาน. ........................... คน ตั้งอยู่ณ เลขที่.......... ...........หมู่ที่..........ถนน....................... .......ตำบล.................................. อำเภอ............................... จังหวัด.......................................................โทรศัพท์ .................................. ............โทรสาร................................................. พร้อมคำขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ มาด้วยแล้ว คือ ๑. ใบอนุญาตเดิม ๒. ...................................................................................................................................................... ๓. ...................................................................................................................................................... 4. ...................................................................................................................................................... ขอรับรองว่า ข้อความในใบคำขอนี้เป็นความจริงทุกประการ (ลงชื่อ) ..............................................................ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต (..............................................................) ส่วนของเจ้าหน้าที่ เลขที่..................................ได้รับเรื่องเมื่อวันที่.......... ....เดือน......................................พ.ศ. ................. ....... ตรวจสอบแล้ว เอกสารหลักฐาน  ครบ  ไม่ครบ คือ (๑) .............................................................. (๒) .............................................................. (๓) .............................................................. (ลงชื่อ) ............................................................... (..............................................................) ตำแหน่ง.............................................................. ความเห็นของเจ้าพนักงานสาธารณสุข () เห็นสมควรอนุญาต () เห็นควรไม่อนุญาต เพราะ.................................................................................................................................... (ลงชื่อ) ...............................................................เจ้าพนักงานสาธารณสุข (..............................................................) ตำแหน่ง.............................................................. วันที่....... ............/....................../................... ความเห็นของปลัดองค์การบริหารส่วนตำ บล () เห็นสมควรอนุญาต () เห็นควรไม่อนุญาต เพราะ.............. ...................................................................................................................... (ลงชื่อ) ............................................................... (..............................................................) ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม วันที่....... .........../.................../................ คำสั่งของเจ้าพนักงาน ท้องถิ่น ( ) อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตได้ ( ) ไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตได้ (ลงชื่อ) ......................................................... ........ (............................................................ ...) นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม วันที่....... .........../.................../................. แบบ สม. ๔ คำขออนุญาตการต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกอบกิจการรับ ทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย เลขที่รับ................../...................... เขียนที่....... ..................................... .................. .............. .. วันที่...........เดือน....................... .........พ.ศ. ....... .............. ข้าพเจ้า................................................................. ........อายุ.................ปี สัญชาติ....................................... อยู่บ้านเลขที่................ .....หมู่ที่..................ตรอก/ซอย ............................................... ถนน............................. ................... ตำบล/แขวง .................. ....................... ........อำเภอ/เขต...... ................. .......... ............จังหวัด............................................ โทรศัพท์ ......................................................โทรสาร.................................................... โดยใช้ชื่อกิจการว่า....................................................... ................................จำนวนคนงาน.....................คน ตั้งอยู่ณ เลขที่................. .........หมู่ที่........ ..........ตำบล........................................... .......อำเภอ............... ............ ............. จังหวัด.......................... ...........................โทรศัพท์ ............................. ..................โทรสาร.................................................. ขอยื่นคำขอต่อนายกองค์การบริหารส่วน ตำบลขามป้อม ด้วยข้าพเจ้ามีความประสงค์ ........................... ................................................................................................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. ................................................................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................................................................................ ขอรับรองว่า ข้อความในใบคำขอนี้เป็นความจริงทุกประการ (ลงชื่อ) ...................................................ผู้ขออนุญาต (.................................................) เล่ม: 140 หมวด: 148 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 23/06/2023 หน้า: 6
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:142829", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลขามป้อม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. 2563", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D148S0000000000600.pdf", "year": null }
nonweb_138318
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2562 ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง ว่าด้วยการควบคุม กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบมาตรา ๓๒ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง โดยความเห็นชอ บของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง และนายอำเภอราศีไศล จึงตราข้อบัญญัติไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง เรื่อง การควบคุม กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๒” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง ตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง เรื่อง การควบคุมกิจการ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้ข้อบัญญัตินี้แทน ข้อ ๔ ในข้อบัญญัตินี้ “สถานประกอบกิจการ” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้ในการประกอบกิจการที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามความในมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม “ผู้ดำเนินกิจการ” หมายความว่า เจ้าของ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินการ ของสถานประกอบกิจการนั้น “ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการ “มลพิษทางเสียง” หมายความว่า สภาวะของเสียงอันเกิดจากการประกอบกิจการ ของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาช น “มลพิษทางอากาศ” หมายความว่า สภาวะของอากาศอันเกิดจากการประกอบกิจการ ของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนชน “มลพิษทางน้ำ” หมายความว่า สภาวะของน้ำทิ้งอันเกิดจากการประกอบกิจการ ของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนชน “มลพิษทางแสง” หมายความว่า สภาวะของแสงอันเกิดจากการประกอบกิจการ ของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน “มลพิษทางความร้อน” หมายความว่า สภาวะของความร้อนอันเกิดจากการประ กอบกิจการ ของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน “มลพิษทางความสั่นสะเทือน” หมายความว่า สภาวะของความสั่นสะเทือนอันเกิดจาก การประกอบกิจการของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ของประชาชน “ของเสียอันตราย” หมายความว่า มูลฝอย สิ่งปฏิกูล น้ำเสีย อากาศเสีย มลสาร หรือสิ่งอื่นใดที่ปนเปื้อนสารพิษอันเกิดจากการประกอบกิจการของสถานประกอบกิจการที่ทำให้มีผลกระทบ หรืออาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน “วัตถุอันตราย” หมายความว่า วัตถุอัน ตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย “ราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๕ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคงเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญ ญัตินี้ หมวด ๑ บททั่วไป ข้อ ๖ ให้กิจการประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมภายในท้องถิ่น ๑. กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (๑) การเพาะพันธุ์ เลี้ยง และการอนุบาลสัตว์ทุกชนิด (๒) การประกอบกิจการเลี้ยง รวบรวมสัตว์ หรือธุรกิจอื่นใดอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าชมหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการเรียก เก็บค่าดูหรือค่าบริการ ในทางตรงหรือทางอ้อมหรือไม่ก็ตาม ๒. กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์และผลิตภัณฑ์ (๑) การฆ่า หรือชำแหละสัตว์ ยกเว้นในสถานที่จำหน่ายอาหาร เร่ขาย หรือขายในตลาด (๒) การหมัก ฟอก ตาก หรือสะสมหนังสัตว์ ขนสัตว์ (๓) การสะสมเขา กระดูก หรือชิ้นส่วนสัตว์ที่ยังมิได้แปรรูป (๔) การเคี่ยวหนัง เอ็น หรือไขสัตว์ (๕) การผลิตสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากเปลือก กระดอง กระดู ก เขา หนัง ขนสัตว์ หรือส่วนอื่น ๆ ของสัตว์ด้วยการต้ม นึ่ง ตาก เผาหรือกรรมวิธีใด ๆ ซึ่งมิใช่เพื่อเป็นอาหาร (๖) การผลิต โม่ป๋น บด ผสม บรรจุ สะสม หรือกระทำอื่นใดต่อสัตว์หรือพืช หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์หรือพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์หรือส่ว นประกอบของอาหารสัตว์ (๗) การผลิต แปรรูป สะสม หรือล้างครั่ง ๓. กิจการที่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม น้ำดื่ม ยกเว้นในสถานที่จำหน่ายอาหาร การเร่ขาย การขายในตลาด และการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือน (๑) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุน้ำพริกแกง น้ำพริก ปรุงสำเร็จ เต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว น้ำจิ้ม หรือซอสปรุงรสชนิดต่าง ๆ (๒) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุอาหารหมัก ดอง จากสัตว์ ได้แก่ปลาร้า ปลาเจ่า กุ้งเจ่า ปลาส้ม ปลาจ่อม แหนม หม่ำ ไส้กรอก กะปิ น้ำปลา หอยดอง น้ำเคย น้ำบูดู ไตปลา หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน หน้า ๒๓๒ (๓) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุอาหารหมัก ดอง แช่อิ่ม จากผัก ผลไม้ หรือพืชอย่างอื่น (๔) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุอาหารจากพืชหรือสัตว์โดยการตาก บด นึ่ง ต้ม ตุน เคี่ยว กวน ฉาบ ทอด อบ รมควัน ปิ้ง ย่าง เผา หรือวิธีอื่นใด (๕) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุลูกชิ้น (๖) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุเส้นหมี่ขนมจีน กวยเตี๋ยว เต้าฮวย เต้าหู้ วุ้นเส้น เกี้ยมอี๋ เนื้อสัตว์เทียม หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน (๗) การผลิตบะหมี่มักกะโรนี สปาเกตตี พาสต้า หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน (๘) การผลิต ขนมป้งสด ขนมป้งแห้ง จันอับ ขนมเปียะ ขนมอบอื่น ๆ (๙) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุน้ำนม หรือผลิตภัณฑ์จากน้ำนมสัตว์ (๑๐) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุเนย เนยเทียม เนยผสม ผลิตภัณฑ์ เนย ผลิตภัณฑ์ เนยเทียม และผลิตภัณฑ์เนยผสม (๑๑) การผลิตไอศกรีม (๑๒) การคั่ว สะสม หรือแบ่งบรรจุกาแฟ (๑๓) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุใบชาแห้ง ชาผง หรือเครื่องดื่มชนิดผงอื่น ๆ (๑๔) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุเอทิลแอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ ไวน์ น้ำส้มสายชู ข้าวหมาก น้ำตาลเมา (๑๕) การผลิตน้ำกลั่น น้ำบริโภค น้ำดื่มจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (๑๖) การผลิต สะสม แบ่งบรรจุ หรือขนส่งน้ำแข็ง (๑๗) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำโซดา น้ำจากพืช ผัก ผลไม้ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ บรรจุกระปอง ขวดหรือภาชนะอื่นใด (๑๘) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุอาหารบรรจุกระปอง ขวด หรือภาชนะอื่นใด (๑๙) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุผงชูรส หรือสารปรุงแต่งอาหาร (๒๐) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุน้ำตาล น้ำเชื่อม หน้า ๒๓๓ (๒๑) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุแบะแซ (๒๒) การแกะ ตัดแต่ง ล้างสัตว์น้ำ ที่ไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของกิจการห้องเย็น (๒๓) การประกอบกิจการห้องเย็นแช่แข็งอาหาร (๒๔) การเก็บ การถนอมอาหารด้วยเครื่องจักร ๔. กิจการที่เกี่ยวกับยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องสำอาง ผลิต ภัณฑ์ ทำความสะอาด (๑) การผลิต โม่บด ผสม หรือบรรจุยา (๒) การผลิต บรรจุยาสีฟ้น แชมพู ผ้าเย็น กระดาษเย็น เครื่องสำอาง รวมทั้ง สบู่ที่ใช้กับร่างกาย (๓) การผลิต บรรจุสำลี ผลิตภัณฑ์จากสำลี (๔) การผลิตผ้าพันแผล ผำปิดแผล ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมสำ เร็จรูป (๕) การผลิตผงซักฟอก สบู่น้ำยาทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ๕. กิจการที่เกี่ยวกับการเกษตร (๑) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุน้ำมันจากพืช (๒) การล้าง อบ รม หรือสะสมยางดิบ (๓) การผลิต หรือแบ่งบรรจุแป้งมันสำปะหลัง แป้งสา คู แป้งจากพืช หรือแป้งอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน (๔) การสีข้าว นวดข้าวด้วยเครื่องจักร หรือแบ่งบรรจุข้าวด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม (๕) การผลิตยาสูบ (๖) การขัด กะเทาะ หรือบดเมล็ดพืช (๗) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุปุยหรือวัสดุที่นำไปผลิตปุย (๘) การผลิตเส้นใยจากพืช (๙) การตาก สะสม ขนถ่ายผลิตผลของมันสำปะหลัง ข้าวเปลือก อ้อย ข้าวโพด ๖. กิจการที่เกี่ยวกับโลหะหรือแร่ (๑) การผลิตภาชนะ เครื่องประดับ เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วยโลหะหรือแร่หน้า ๒๓๔ (๒) การถลุงแร่การหลอม หรือหล่อ โลหะทุกชนิด ยกเว้นกิจการที่ได้รับ ใบอนุญาตใน ๖ (๑) (๓) การกลึง เจาะ เชื่อม ตี ตัด ประสาน รีด หรืออัดโลหะด้วยเครื่องจักร หรือก๊าซ หรือไฟฟ้า ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๖ (๑) (๔) การเคลือบ ชุบโลหะด้วยตะกั่ว สังกะสี ดีบุก โครเมียม นิกเกิล หรือโลหะอื่นใด ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๖ (๑) (๕) การขัด ล้างโลหะด้วยเครื่องจักร หรือสารเคมี ยกเว้นกิจการที่ได้รับ ใบอนุญาตใน ๖ (๑) (๖) การทำเหมืองแร่สะสม แยก คัดเลือก หรือล้างแร่ ๗. กิจการที่เกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล (๑) การต่อ ประกอบ เคาะ ปะผุ พ่นสี หรือพ่นสารกันสนิมยานยนต์ (๒) การผลิตยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล (๓) การซ่อม การปรับแต่งเครื่องยนต์ เครื่องจักร เครื่องกล ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของยานยนต์ เครื่องจักรห รือเครื่องกล (๔) การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล ซึ่งมีไว้บริการ หรือจำหน่ายและในการประกอบธุรกิจนั้นมีการซ่อมหรือปรับปรุงยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล ดังกล่าวด้วย (๕) การล้าง ขัดสี เคลือบสี หรืออัดฉีดยานยนต์ (๖) การผลิต สะสม จำหน่าย ซ่อม หรืออัดแบตเตอรี่ (๗) การจำหน่าย ซ่อม ปะ เชื่อมยางยานยนต์ หรือตั้งศูนย์ถ่วงล้อ (๘) การผลิต ซ่อม ประกอบ หรืออัดผำเบรก ผำคลัตช์ (๙) การสะสม การซ่อมเครื่องกล เครื่องจักรเก่าหรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบ ของยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกลเก่า ๘. กิจการที่เกี่ยวกับไม้หรือกระดาษ (๑) การผลิตไม้ขีดไฟ (๒) การเลื่อย ซอย ขัด ไส เจาะ ขุดร่อง ทำคิ้ว หรือตัดไม้ด้วยเครื่องจักร หน้า ๒๓๕ (๓) การผลิต พ่น ทำสารเคลือบเงา หรือสี แต่งสำเร็จสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ จากไม้หวาย ชานอ้อย (๔) การอบไม้ (๕) การผลิต สะสม แบ่งบรรจุธูป (๖) การผลิตสิ่งของ เครื่องใช้ เครื่องเขียน หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดด้วยกระดาษ (๗) การผลิตกระดาษชนิดต่าง ๆ (๘) การเผาถ่าน หรือสะสมถ่าน ๙. กิจการที่เกี่ยวกับการบริการ (๑) การประกอบกิจการสปา เว้นแต่เป็นการให้บริการในสถานพยาบาลตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานพยาบาล หรือในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (๒) การประกอบกิจการอาบ อบ นวด (๓) การประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพ เว้นแต่เป็นการให้บริการในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการ เพื่อสุขภาพ (๔) การประกอบกิจการสถานที่อาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่เป็นการให้บริการ ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (๕) การประกอบกิจการโรงแรม สถานที่พักที่มิใช่โรงแรมที่จัดไว้เพื่อให้บริการพักชั่วคราว สำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน หรือกิจการอื่นในทำนองเดียวกัน (๖) การประกอบกิจการหอพัก อาคารชุดให้เช่า ห้องเช่า หรือห้องแบ่งเช่า หรือกิจการอื่นในทำนองเดียวกัน (๗) การประกอบกิจการโรงมหรสพ (๘) การจัดให้มีมหรสพ การแสดงดนตรี เต้นรำ รำวง รองเง็ง ดิสโกเทก คาราโอเกะหรือตู้เพลง หรือการแสดงอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน หน้า ๒๓๖ (๙) การประกอบกิจการสระว่ายน้ำ หรือกิจการอื่น ๆ ใน ทำนองเดียวกัน เว้นแต่เป็นการให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๙ (๑) (๑๐) การประกอบกิจการการเล่นสเก ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน (๑๑) การประกอบกิจการเสริมสวย หรือแต่งผม เว้นแต่กิจการที่อยู่ในบังคับ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือตามกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (๑๒) การประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย (๑๓) การประกอบกิจการให้บริการควบคุมน้ำหนัก (๑๔) การประกอบกิจการสวนสนุก โบว์ลิ่ง หรือตู้เกม (๑๕) การประกอบกิจการให้บริการคอมพิวเตอร์ (๑๖) การประกอบกิจการสนามกอล์ฟ หรือสนามฝกซ้อมกอล์ฟ (๑๗) การประกอบกิจการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์ หรือสิ่งแวดล้อม (๑๘) การประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย (๑๙) การประกอบกิจการให้บริการเลี้ยงและดูแลเด็กที่บ้านของ ผู้รับบริการ (๒๐) การประกอบกิจการให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของผู้รับบริการ (๒๑) การประกอบกิจการให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ชั่วคราว (๒๒) การประกอบกิจการให้บริการลานสะสมตู้บรรจุสินค้า หรือลานจอดรถหัวลาก ตู้บรรจุสินค้า ๑๐. กิจการที่เกี่ยวกับสิ่งทอ (๑) การป้นด้าย กรอด้าย ทอผ้าด้วยเครื่องจักร หรือทอผ้าด้วยกี่กระตุก (๒) การสะสมปอ ป๋าน ฝ้าย นุ่น หรือใยสังเคราะห์ (๓) การป้นฝ้าย นุ่น ใยสังเคราะห์ด้วยเครื่องจักร (๔) การทอเสื่อ กระสอบ พรม หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร (๕) การเย็บ ป้กผำ หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร หน้า ๒๓๗ (๖) การพิมพ์ผำ และสิ่งทออื่น ๆ (๗) การซัก อบ รีด หรืออัดกลีบผำด้วยเครื่องจักร (๘) การย้อม ฟอก กัดสีผำหรือสิ่งทออื่น ๆ ๑๑. กิจการที่เกี่ยวกับหิน ดิน ทราย ซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑) การผลิตภาชนะดินเผาหรือผลิตภัณฑ์ดินเผา (๒) การระเบิด โม่บด หรือย่อยหินด้วยเครื่องจักร (๓) การผลิตสิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๔) การสะสม ผสมซีเมนต์ หิน ดิน ทราย วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งการขุด ตัก ดูด โม่บด หรือย่อยด้วยเครื่องจักร ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๑๑ (๒) (๕) การเจียระไนเพชร พลอย หิน หรือกระจก หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๖) การเลื่อย ตัด หรือประดิษฐ์หินเป็นสิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ (๗) การผลิตชอล์ก ปูนป ลาสเตอร์ ปูนขาว ดินสอพอง หรือเผาหินปูน (๘) การผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบหรือส่วนผสม (๙) การผลิต ตัด บดกระจกหรือผลิตภัณฑ์แก้ว (๑๐) การผลิตกระดาษทราย หรือผำทราย (๑๑) การผลิตใยแก้ว หรือผลิตภัณฑ์จา กใยแก้ว (๑๒) การล้าง การขัดด้วยการพ่นทรายลงบนพื้นผิวกระจก แก้ว หิน หรือวัตถุอื่นใด ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๖ (๕) ๑๒. กิจการที่เกี่ยวกับปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ถ่านหิน ถ่านโค้ก และสารเคมีต่าง ๆ (๑) การผลิต สะสม บรรจุ หรือขนส่งกรด ด่าง สารออกซิไดซ์ หรือสารตัวทำละลาย (๒) การผลิต สะสม บรรจุ หรือขนส่งก๊าซ (๓) การผลิต สะสม กลั่น หรือขนส่งปิโตรเลียมหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (๔) การผลิต สะสม หรือขนส่งถ่านหิน หรือถ่านโค้ก (๕) การพ่นสี ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๗ (๑) (๖) การผลิตสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ด้วยยางเทียม พลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง หน้า ๒๓๘ (๗) การโม่สะสม หรือบดชัน (๘) การผลิตสีหรือน้ำมันผสมสี (๙) การผลิต ล้างฟิล์มรูปถ่ายหรือฟิล์มภาพยนตร์ (๑๐) การเคลือบ ชุบวัตถุด้วยพลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๑) การผลิตพลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑๒) การผลิต หรือบรรจุสารเคมีดับเพลิง (๑๓) การผลิตน้ำแข็งแห้ง (๑๔) การผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบ ในการผลิตดอกไม้เพลิง (๑๕) การผลิตเชลแล็ก หรือสารเคลือบเงา (๑๖) การผลิต สะสม บรรจุ ขนส่งสารกำจัดศัตรูพืชหรือพาหะนำโรค (๑๗) การผลิต สะสม หรือบรรจุกาว ๑๓. กิจการอื่น ๆ (๑) การพิมพ์หนังสือหรือสิ่งพิมพ์อื่นที่มีลักษ ณะเดียวกันด้วยเครื่องจักร (๒) การผลิต ซ่อมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า (๓) การผลิตเทียน หรือเทียนไข หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๔) การพิมพ์แบบ พิมพ์เขียว หรือถ่ายเอกสาร (๕) การสะสมวัตถุหรือสิ่งของที่ชำรุด ใช้แล้วหรือเหลือใช้ (๖) การประกอบกิจการโกดังสินค้า (๗) การล้างขวด ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วเพื่อนำไปใช้ใหม่หรือแปรสภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ (๘) การพิมพ์ เขียน พ่นสี หรือวิธีอื่นใดลงบนวัตถุที่มิใช่สิ่งทอ (๙) การประกอบกิจการท่าเทียบเรือประมง สะพานปลา หรือแพปลา (๑๐) การบรรจุหีบห่อสินค้าโดยใช้เครื่องจักร หน้า ๒๓๙ (๑๑) การให้บริการควบคุมป้องกันและกำจัดแมลง หรือสัตว์พาหะนำโรค (๑๒) การผลิตสิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์จากยาง (๑๓) การผลิต สะสม หรือขนส่งไบโอดีเซลและเอทานอล ข้อ ๗ ผู้ดำเนินกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่ต้องควบคุมภายในท้องถิ่นต้องดำเนินการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดตามข้อบัญญัตินี้รวมทั้งกฎกระทรวงและประกาศ กระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สถานประกอบกิจการที่ตั้งอยู่ในท้องที่ที่กฎหมายว่าด้วยการผังเมืองหรือกฎหมายว่าด้วย การควบคุมอาคารมีผลใช้บังคับ สถานประกอบกิจการที่เป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน หรือสถานประกอบกิจการที่มีการประกอบกิจการเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ว่าด้วยการนั้นและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย แล้วแต่กรณี หมวด ๒ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขทั่วไปสำหรับให้ผู้ดำเนินกิจการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลสภาพ หรือสุขลักษณะของสถานที่ที่ใช้ดำเนินกิจการและมาตรการป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ ส่วนที่ ๑ สถานที่ตั้ง ลักษณะอาคาร และการสุขาภิบาล ข้อ ๘ สถานประกอบกิจการต้องตั้งอยู่ห่างจากศาสนสถาน โรงพยาบาล สถานศึกษา สถานเลี้ยงเด็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้ป๋วยพักฟื้นหรือผู้พิการ หรือสถานที่อื่นใดที่ต้องมีการคุ้มครองสุขภาพของประชาช น เป็นพิเศษ ซึ่งจะต้องไม่อยู่ในระยะที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประ ชาชนหรือต้องจัดให้มีระบบป้องกัน ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงลักษณะและประเภทของสถานประกอบกิจการ ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับสถานประกอบกิจการที่เป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ข้อ ๙ สถานประกอบกิจการที่มีอาคารต้องเป็นอาคารที่มีความมั่นคง แข็งแรง และเหมาะสม ที่จะประกอบกิจการที่ขออนุญาตได้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทางหนีไฟ บันไดหนีไฟ หรือทางออกฉุกเฉินให้มีลักษณะตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องไม่มีสิ่งกีด ขวาง มีแสงสว่างเพียงพอและมีป้ายหรือเครื่องหมาย แสดงชัดเจนโดยทางออกฉุกเฉินต้องมีไฟส่องสว่างฉุกเฉินเมื่อระบบไฟฟ้าปกติขัดข้อง หน้า ๒๔๐ ข้อ ๑๐ สถานประกอบกิจการที่มีอาคารต้องจัดให้มีระบบการจัดแสงสว่างและการระบายอากาศ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๑ สถานประกอบกิจการที่มีอาคารต้องมีห้องน้ำและห้องส้วม ตามแบบและจำนวนที่กำหนด ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีการดูแลรักษาความสะอาด ให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะเป็นประจำทุกวัน ข้อ ๑๒ สถานประกอบกิจการต้องมีการเก็บ รวบรวม หรือกำจัดมูลฝอยที่ถูกสุขลักษณะ ดังนี้ (๑) มีภาชนะบรรจุ หรือภาชนะรองรับที่เหมาะสมและเพียงพอกับประเภท และปริมาณของมูลฝอย รวมทั้งมีการทำความสะอาดภาชนะบรรจุหรือภาชนะรองรับและบริเวณ ที่เก็บภาชนะนั้นอยู่เสมอ (๒) ในกรณีที่มีการกำจัดมูลฝอยเอง ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของท้องถิ่นและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (๓) กรณีที่มีมูลฝอยที่ปนเปื้อนสารพิษ หรือวัตถุอันตราย หรือสิ่งอื่นใดที่อาจเป็นอันตราย ต่อสุขภาพ หรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๓ สถานประกอบกิจการต้องดูแลมิให้มีน้ำท่วมขังบริเวณสถานประกอบกิจการและจัดให้มี การระบายน้ำหรือการดำเนินการอย่างใด ๆ ด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพแก่ประชาชนในบริเวณใกล้เคียง ในกรณีที่มีน้ำทิ้งหรือน้ำเสียเกิดขึ้นจากสถานประกอบกิจการตามวรรคหนึ่งซึ่งการดำเนินการ ของสถานประกอบกิจการดังกล่าวอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยโรงงาน หรือกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สถานประกอบกิจการต้องดำเนินการตามที่กฎหมายดังกล่าวกำหนด ข้อ ๑๔ สถานประกอบกิจการต้องมีการป้องกัน และกำจัดแมลงและสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ข้อ ๑๕ สถานประกอบกิจการที่มีโรงอาหาร หรือห้องครัวที่จัดไว้สำหรับการประกอบอาหาร การปรุงอาหาร หรือการสะสมอาหารสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหาร ทั้งนี้ตามข้อกำหนดของท้องถิ่น หน้า ๒๔๑ ข้อ ๑๖ สถานประกอบกิจการต้องจัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย ปลอดภัย เป็นสัดส่วน และดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกต้องตามสุขลักษณะและอนามัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิด เหตุรำคาญหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ ๑๗ สถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีน้ำดื่มสะอาดที่มีคุณภาพไม่ต่ำกว่าเกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภค ของกรมอนามัยสำหรับผู้ปฏิบัติงานอย่างเพียงพอทุกวัน รวมทั้งจัดให้มีภาชนะรองรับน้ำดื่มที่สะอาด และปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่อาจเป็นอันต รายต่อสุขภาพและสถานที่ตั้งน้ำดื่มและลักษณะการนำน้ำมาดื่ม ต้องไม่เกิดการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกหรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ ๑๘ สถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีน้ำใช้ที่มีปริมาณและคุณภาพเหมาะสม ต่อการประกอบกิจการนั้น ๆ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต ส่วนที่ ๒ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และการป้องกันเหตุรำคาญ ข้อ ๑๙ สถานประกอบกิจการต้องมีมาตรการความปลอดภัยในการทำงานและปฏิบัติให้เป็นไป ตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๒๐ สถานประกอบกิจการที่มีการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายต้องมีสถานที่ที่ปลอดภัย สำหรับเก็บรักษาวัตถุอันตรายหรือสิ่งของที่อาจก่อให้ เกิดอันตรายหรืออัคคีภัยได้ง่าย ไว้โดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๒๑ สถานประกอบกิจการที่ผู้ปฏิบัติงานอาจเปรอะเปื้อนจากสารเคมี วัตถุอันตราย หรือสิ่งอื่นใด อันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องจัดให้มีน้ำชำระร่างกายฉุกเฉินและที่ล้างตาฉุกเฉินตามความจำเป็น และเหมาะสมกับคุณสมบัติของสารเคมี วัตถุอันตราย หรือสิ่งอื่นใดอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และขนาดของการประกอบกิจการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๒๒ สถานประกอบกิจการต้องใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักรที่มีสภาพที่ปลอดภัย สำหรับการใช้งานในสถานประกอบกิจการ และต้องมีการติดตั้งในลักษณะที่แข็งแรง มั่นคง และปลอดภัย โดยมีระบบป้องกันอันตราย และป้ายคำเตือ นหรือคำแนะนำในการป้องกันอันตราย จากอุปกรณ์ หน้า ๒๔๒ เครื่องมือ หรือเครื่องจักรนั้น ทั้งนี้การจัดวางหรือการจัดเก็บอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ต้องเป็นระเบียบไม่กีดขวางทางเดินและการปฏิบัติงาน และต้องมีการดูแล ตรวจสอบ และบำรุงรักษา ให้อยู่ในสภาพดีตลอดเวลา ข้อ ๒๓ สถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมาย ว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ข้อ ๒๔ สถานประกอบกิจการใดที่การประกอบกิจการอาจก่อให้ เกิดมลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำ มลพิษทางแสง มลพิษทางความร้อน มลพิษทางความสั่นสะเทือน ของเสียอันตรายหรือมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุอันตราย จะต้องดำเนินการควบคุมและป้องกันมิให้เกิดผลกระทบ จนเป็นเหตุรำคาญหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ที่ต้องประสบกับเหตุนั้น หมวด ๓ ใบอนุญาต ข้อ ๒๕ เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินกิจการ ที่ต้องมีการควบคุมภายในท้องถิ่นในลักษณะที่เป็นการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ในการออกใบอนุญาต เจ้าพนักงานท้องถิ่นอาจกำหนดเงื่อนไขโดยเฉพาะให้ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติ เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของสาธารณชนเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้โดยทั่วไปในข้อบัญญัตินี้ก็ได้ ใบอนุญาตให้ใช้ได้สำหรับกิจการประเภทเดียวและสำหรับสถานที่แห่งเดียว ข้อ ๒๖ ผู้ใดประสงค์จะเป็นผู้ดำเนินกิจการที่ต้องมีการควบคุมภายในท้องถิ่นในลักษณะที่เป็นการค้า จะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามแบบที่องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคงกำหนด พร้อมกับแสดงเอกสาร และหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (๑) บัตรประจำตัวประชาชน (๒) สำเนาเอกสารสิทธิของสถานประกอบกิจการ (ที่ดิน/อาคาร/ยานพาหนะ) (๓) หนังสือยินยอมรับกำจัดจากสถานประกอบกิจการกำจัดสิ่งปฏิกูล (กรณีที่ ส่งไปกำจัดที่อื่น) (๔) หนังสือให้ความเห็นชอบการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (กรณีที่กฎหมายกำหนด) หน้า ๒๔๓ (๕) หลักฐานการรับฟ้งความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย (กรณีที่กฎหมายกำหนด) (๖) ใบมอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ) (๗) หลักฐานอื่น ๆ ที่จำเป็นตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคงกำหนด ข้อ ๒๗ เมื่อได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาต ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น ตรวจสอบความถูกต้องของ คำขอและความครบถ้วนของเอกสารหลักฐานทันที กรณีไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งต่อผู้ยื่นคำขอให้แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการ หากไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนั้น ให้จดบันทึกความบกพร่องและรายการเอกสารหรือหลักฐานยื่นเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยให้เจ้าหน้าที่และผู้ยื่นคำขอลงนามไว้ในบันทึกนั้นด้วย เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผล ให้ผู้ขออนุญาตทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับคำขอซึ่งมีรายละเอียดถูกต้องหรือครบถ้วน ตามที่กำหนดในข้อบัญญัตินี้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่อาจออกใบอนุญาตหรือยังไม่อาจมีคำสั่งไม่อนุญาตได้ ภายในกำหนดเวลาตามวรรคสอง ให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งการขยายเวลาและเหตุจำเป็นแต่ละครั้งให้ผู้ขออนุญาตทราบก่อนสิ้นกำหนดเวลา ตามวรรคสองหรือตามที่ได้ขยายเวลาไว้แล้วนั้น แล้วแต่กรณี ข้อ ๒๘ ผู้ได้รับการอนุญาตต้องมารับใบอนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ แจ้งการอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควรและได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบแล้ว ข้อ ๒๙ บรรดาใบอนุญาตที่ออกให้ตามข้อบัญญัตินี้ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต และให้ใช้ได้เพียงในเขตอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบลเท่านั้น การขอต่ออายุใบอนุญาตจะต้องยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคำขอพร้อมกับ เสียค่าธรรมเนียมแล้วให้ประก อบกิจการต่อไปได้จนกว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาต ข้อ ๓๐ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ ประกอบกิจการตลอดเวลาที่ประกอบกิจการ ข้อ ๓๑ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูก ทำลาย หรือชำรุดในสาระที่สำคัญ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาต ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุด ตามแบบที่องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคงกำหนด หน้า ๒๔๔ การขอรับใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีใบอนุญาตสูญหาย ให้ผู้ยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตนำสำเนาบันทึก การแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แห่งท้องที่ที่ใบอนุญาตสูญหายมาแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ประกอบด้วย (๒) ในกรณีใบอนุญาตถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระที่สำคัญ ให้ผู้ยื่นคำขอรับ ใบแทนใบอนุญาตนำใบอนุญาตเดิมเท่าที่เหลืออยู่มาแสดงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นประกอบด้วย ข้อ ๓๒ ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทแห่งพระราชบัญญัติ การสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กฎกระทรวง หรือข้อบัญญัตินี้หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ในเรื่องที่กำหนดไว้เกี่ยวกับการประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ เจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตได้ภายในเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกินสิบห้าวัน ข้อ ๓๓ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาต (๑) ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตั้งแต่สองครั้งขึ้นไปและมีเหตุที่จะต้องถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอีก (๒) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ (๓) ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กฎกระทรวง ข้อบัญญัตินี้หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตในเรื่องที่กำหนดไว้เกี่ยวกับ การประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัตินี้ และการไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องนั้น ก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชนหรือมีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่ ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ข้อ ๓๔ คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตและคำสั่ง เพิกถอนใบอนุญาต ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้รับ ใบอนุญาตทราบในกรณีที่ไม่พบผู้รับใบอนุญาต หรือผู้รับใบอนุญาตไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าว ให้ส่งคำสั่ง โดยทางไปรษณีย์ ตอบรับหรือให้ปิดคำสั่งนั้นไว้ ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงาน ของผู้รับใบอนุญาตและให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตนั้นได้รับทราบคำสั่งแล้วตั้งแต่เวลาที่คำสั่งไปถึงหรือวันปิดคำสั่ง แล้วแต่กรณี หน้า ๒๔๕ ข้อ ๓๕ ผู้ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตสำหรับการประกอบกิจการที่ถูกเพิกถอน ใบอนุญาตอีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต หมวด ๔ ค่าธรรมเนียมและค่าปรับ ข้อ ๓๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามบัญชีค่าธรรมเนียม ที่กำหนดไว้ท้ายข้อบัญญัตินี้ในวันที่มารับใบอนุญาตสำหรับกรณีที่เป็นการขอรับใบอนุญาตครั้งแรก หรือก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุสำหรับกรณีที่เป็นการขอต่ออายุใบอนุญาตตลอดเวลาที่ยังดำเนินกิจการนั้น ถ้ามิได้เสียค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนดให้ชำระค่าปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละยี่สิบของจำนวน ค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระ เว้นแต่ผู้ได้รับใบอนุญาตจะได้บอกเลิกการดำเนินกิจการนั้นก่อนถึงกำหนด การเสียค่าธรรมเนียมครั้งต่อไป ในกรณีที่ผู้มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งค้างชำระค่าธรรมเนียมติดต่อกันเกินกว่าสองครั้ง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการดำเนินกิจการไว้จนกว่าจะได้ เสียค่าธรรมเนียมและค่าปรับ จนครบจำนวน ข้อ ๓๗ บรรดาค่าธรรมเนียมและค่าปรับตาม ข้อบัญญัตินี้ให้เป็นรายได้ขององค์การบริหาร ส่วนตำบลเมืองคง หมวด ๕ บทกำหนดโทษ ข้อ ๓๘ ผู้ใดฝ๋าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ ในบทกำหนดโทษแห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่ไขเพิ่มเติม ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ กิตติศักดิ์ แซ่จึง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง หน้า ๒๔๖ บัญชีอัตราค่าธรรมเนียมข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2562 ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) 1 กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (1) การเพาะพันธุ์ เลี้ยง และการอนุบาลสัตว์ทุกชนิด ก. การเลี้ยงม้า โค กระบือ 1) จำนวน ตั้งแต่ 5 - 20 ตัว 2) จำนวน ตั้งแต่ 21 - 40 ตัว 3) จำนวน ตั้งแต่ 41 ตัวขึ้นไป 100 200 300 ข. การเลี้ยงสุกร 1) จำนวน ตั้งแต่ 5 - 20 ตัว 2) จำนวน ตั้งแต่ 21 - 40 ตัว 3) จำนวน ตั้งแต่ 41 - 100 ตัว 4) จำนวน ตั้งแต่ 101 ตัวขึ้นไป 200 400 600 1,000 ค. การเลี้ยงเป็ด ไก่ห่านหรือสัตว์ปีกอื่น ๆ 1) จำนวน ตั้งแต่ 50 - 100 ตัว 2) จำนวน ตั้งแต่ 101 - 500 ตัว 3) จำนวน ตั้งแต่ 501 - 1,000 ตัว 3) จำนวน ตั้งแต่ 1,001 ตัวขึ้นไป 100 200 300 400 ง. การเลี้ยงสัตว์น้ำ 1) บ่อขนาด 50 ตารางเมตร 2) บ่อขนาด ตั้งแต่ 5 1 - 100 ตารางเมตร 3) บ่อเลี้ยงขนาด ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 200 300 500 จ. การเลี้ยง แพะ แกะ 1) จำนวน ตั้งแต่ 5 - 20 ตัว 2) จำนวน ตั้งแต่ 21 - 40 ตัว 3) จำนวน ตั้งแต่ 41 ตัวขึ้นไป 100 150 200 ฉ. การเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานหรือแมลง 200 (2) การประกอบกิจการเลี้ยง รวบรวมสัตว์ หรือธุรกิจอื่นใดอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าชมหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บค่าดู หรือค่าบริการในทางตรงหรือทางอ้อมหรือไม่ก็ตาม 5,000 - ๒ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) 2 กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์และผลิตภัณฑ์ (1) การฆ่า หรือชำแหละสัตว์ (ยกเว้นในสถานที่จำหน่ายอาหาร เร่ขาย หรือขายในตลาด) 1,000 (2) การหมัก ฟอก ตาก หรือสะสมหนังสัตว์ ขนสัตว์ 1,000 (3) การสะสมเขา กระดูก หรือชิ้นส่วนสัตว์ที่ยังมิได้แปรรูป 1,000 (๔) การเคี่ยวหนัง เอ็น หรือไขสัตว์ 1,000 (๕) การผลิตสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากเปลือก กระดอง กระดูก เขา หนัง ขนสัตว์หรือส่วนอื่น ๆ ของสัตว์ด้วยการต้ม นึ่ง ตาก เผาหรือกรรมวิธีใด ๆ ซึ่งมิใช่เพื่อเป็นอาหาร 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๖) การผลิต โม่ป๋น บด ผสม บรรจุ สะสม หรือกระทำอื่นใดต่อสัตว์หรือพืช หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์หรือพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์หรือส่วนประกอบ ของอาหารสัตว์ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๗) การผลิต แปรรูป สะสม หรือล้างครั่ง 100 3 กิจการที่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม น้ำดื่ม ยกเว้นในสถานที่จำหน่าย อาหาร การเร่ขาย การขายในตลาด และการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือน (๑) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ น้ำพริกแกง น้ำพริกปรุงสำเร็จ เต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว น้ำจิ้ม หรือซอสปรุงรสชนิดต่าง ๆ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๒) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ อาหารหมัก ดอง จากสัตว์ ได้แก่ปลาร้า ปลาเจ่า กุ้งเจ่า ปลาส้ม ปลาจ่อม แหนม หม่ำ ไส้กรอก กะปิ น้ำปลา หอยดอง น้ำเคย น้ำบูดู ไตปลา หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๓) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ อาหารหมัก ดอง แช่อิ่ม จากผัก ผลไม้ หรือพืชอย่างอื่น 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 - ๓ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๔) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ อาหารจากพืชหรือสัตว์โดยการตาก บด นึ่ง ต้ม ตุน เคี่ยว กวน ฉาบ ทอด อบ รมควัน ปิ้ง ย่าง เผา หรือวิธีอื่นใด 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๕) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุลูกชิ้น 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๖) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ เส้นหมี่ขนมจีน กวยเตี๋ยว เต้าฮวย เต้าหู้ วุ้นเส้น เกี้ยมอี๋ เนื้อสัตว์เทียม หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๗) การผลิตบะหมี่มักกะโรนี สปาเกตตี พาสต้า หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๘) การผลิต ขนมป้งสด ขนมป้งแห้ง จันอับ ขนมเปียะ ขนมอบอื่น ๆ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๙) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ น้ำนม หรือผลิตภัณฑ์จากน้ำนมสัตว์ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๐) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ เนย เนยเทียม เนยผสม ผลิตภัณฑ์เนย ผลิตภัณฑ์เนยเทียม และผลิตภัณฑ์เนยผสม 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๑) การผลิตไอศกรีม 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๒) การคั่ว สะสม หรือแบ่งบรรจุกาแฟ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 - ๔ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๑๓) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุใบชาแห้ง ชาผง หรือเครื่องดื่มชนิดผงอื่น ๆ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๔) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุเอ ทิลแอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ ไวน์ น้ำส้มสายชู ข้าวหมาก น้ำตาลเมา 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๕) การผลิตน้ำกลั่น น้ำบริโภค น้ำดื่ม 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๖) การผลิต สะสม แบ่งบรรจุ หรือขนส่งน้ำแข็ง 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๗) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำโซดา น้ำจากพืช ผัก ผลไม้ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ บรรจุกระปอง ขวดหรือภาชนะอื่นใด 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๘) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุอาหารบรรจุกระปอง ขวด หรือภาชนะอื่นใด 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๑๙) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ ผงชูรส หรือสารปรุงแต่งอาหาร 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๒๐) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุ น้ำตาล น้ำเชื่อม 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๒๑) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุแบะแซ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 - ๕ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๒๒) การแกะ ตัดแต่ง ล้างสัตว์น้ำที่ไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของกิจการห้องเย็น 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๒๓) การประกอบกิจการห้องเย็นแช่แข็งอาหาร 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 500 (๒๔) การเก็บ การถนอมอาหารด้วยเครื่องจักร 500 4 กิจการที่เกี่ยวกับยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (๑) การผลิต โม่บด ผสม หรือบรรจุยา 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๒) การผลิต บรรจุยาสีฟ้น แชมพู ผ้าเย็น กระดาษเย็น เครื่องสำอาง รวมทั้งสบู่ที่ใช้กับร่างกาย 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๓) การผลิต บรรจุสำลี ผลิตภัณฑ์จากสำลี 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๔) การผลิตผ้าพันแผล ผำปิดแผล ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมสำเร็จรูป 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๕) การผลิตผงซักฟอก สบู่น้ำยาทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 5 กิจการที่เกี่ยวกับการเกษตร (๑) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุน้ำมันจากพืช 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๒) การล้าง อบ รม หรือสะสมยางดิบ 1,000 (๓) การผลิต หรือแบ่งบรรจุแป้งมันสำ ปะหลัง แป้งสาคู แป้งจากพืช หรือแป้งอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน - ๖ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๔) การสีข้าว นวดข้าวด้วยเครื่องจักร หรือแบ่งบรรจุข้าวด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม 1) ใช้เครื่องจักรไม่เกิน 15 แรงม้า 2) ใช้เครื่องจักรเกิน 15 แรงม้า แต่ไม่เกิน 40 แรงม้า 3) ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 41 แรงม้าขึ้นไป 300 700 1,000 (๕) การผลิตยาสูบ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๖) การขัด กะเทาะ หรือบดเมล็ดพืช 500 (๗) การผลิต สะสม หรือแบ่งบรรจุปุยหรือวัสดุที่นำไปผลิตปุย 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๘) การผลิตเส้นใยจากพืช 500 (๙) การตาก สะสม ขนถ่ายผลิตผลของมันสำปะหลัง ข้าวเปลือก อ้อย ข้าวโพด 500 6 กิจการที่เกี่ยวกับ โลหะหรือแร่ (๑) การผลิตภาชนะ เครื่องประดับ เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วยโลหะหรือแร่ 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมกันไม่เกิน 2 แรงม้า 3) โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมกันเกิน 2 แรงม้า แต่ไม่เกิน 5 แรงม้า 4) โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 6 แรงม้าขึ้นไป 200 500 1,000 2,000 (๒) การถลุงแร่การหลอม หรือหล่อโลหะทุกชนิด ยกเว้นกิจการที่ได้รับ ใบอนุญาตใน ๖ (๑) 2,500 (๓) การกลึง เจาะ เชื่อม ตี ตัด ประสาน รีด หรืออัดโลหะด้วยเครื่องจัก ร หรือก๊าซ หรือไฟฟ้า ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๖ (๑) 2,500 (๔) การเคลือบ ชุบโลหะด้วยตะกั่ว สังกะสี ดีบุก โครเมียม นิกเกิล หรือโลหะอื่นใด ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๖ (๑) 2,500 (๕) การขัด ล้างโลหะด้วยเครื่องจักร หรือสารเคมี ยกเว้นกิจการที่ได้รับ ใบอนุญาตใน ๖ (๑) 2,500 (๖) การทำเหมืองแร่สะสม แยก คัดเลือก หรือล้างแร่ 5,000 - ๗ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) 7 กิจการที่เกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล (๑) การต่อ ประกอบ เคาะ ปะผุ พ่นสี หรือพ่นสารกันสนิมยานยนต์ 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๒) การผลิตยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล 5,000 (๓) การซ่อม การปรับแต่งเครื่องยนต์ เครื่องจักร เครื่องกล ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประก อบของยานยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องกล 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๔) การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล ซึ่งมีไว้บริการ หรือจำหน่าย และในการประกอบธุรกิจนั้นมีการซ่อมหรือปรับปรุงยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกลดังกล่าวด้วย 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๕) การล้าง ขัดสี เคลือบสี หรืออัดฉีดยานยนต์ 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๖) การผลิต สะสม จำหน่าย ซ่อม หรืออัดแบตเตอรี่ 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๗) การจำหน่าย ซ่อม ปะ เชื่อมยางยานยนต์ หรือตั้งศูนย์ถ่วงล้อ 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๘) การผลิต ซ่อม ประกอบ หรืออัดผำเบรก ผำคลัตช์ 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 (๙) การสะสม การซ่อมเครื่องกล เครื่องจักรเก่าหรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบ ของยานยนต์ เครื่องจักรหรือเครื่องกล เก่า 1) ขนาดสถานประกอบกิจการ ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 2) ขนาดสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ 101 ตารางเมตรขึ้นไป 500 1,000 - ๘ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) 8 กิจการที่เกี่ยวกับไม้หรือกระดาษ (๑) การผลิตไม้ขีดไฟ 1,000 (๒) การเลื่อย ซอย ขัด ไส เจาะ ขุดร่อง ทำคิ้ว หรือตัดไม้ด้วยเครื่องจักร โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลัง 1) โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมกันไม่เกิน 2 แรงม้า 2) โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมกันเกิน 2 แรงม้า แต่ไม่เกิน 5 แรงม้า 3) โดยใช้เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 6 แรงม้าขึ้นไป 250 500 1,000 (๓) การผลิต พ่น ทำสารเคลือบเงา หรือสี แต่งสำเร็จสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ จากไม้หวาย ชานอ้อย 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 500 (๔) การอบไม้ 500 (๕) การผลิต สะสม แบ่งบรรจุธูป 1,000 (๖) การผลิตสิ่งของ เครื่องใช้ เครื่องเขียน หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดด้วยกระดาษ 500 (๗) การผลิตกระดาษชนิดต่าง ๆ 500 (๘) การเผาถ่าน หรือสะสมถ่าน 1) ไม่เกิน 20 กระสอบ 2) ตั้งแต่ 21 กระสอบ แต่ไม่เกิน 40 กระสอบ 2) เกินกว่า 41 กระสอบขึ้นไป 100 200 300 9 กิจการที่เกี่ยวกับการบริการ (๑) การประกอบกิจการสปา เว้นแต่เป็นการให้บริการในสถานพยาบาลตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานพยาบาล หรือในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 250 (๒) การประกอบกิจการอาบ อบ นวด 5,000 (๓) การประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพ เว้นแต่เป็นการให้บริการในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 250 (๔) การประกอบกิจการสถานที่อาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่เป็นการให้บริการ ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลหรือในสถานประกอบการ เพื่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 250 - ๙ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๕) การประกอบกิจการโรงแรม สถานที่พักที่มิใช่โรงแรมที่จัดไว้เพื่อให้บริการ พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน หรือกิจการอื่น ในทำนองเดียวกัน 1) จำนวน 1 - 20 ห้อง 2) จำนวน 21 - 50 ห้อง 3) จำนวนตั้งแต่ 51 ห้องขึ้นไป 1,000 2,000 3,000 (๖) การประกอบกิจการหอพัก อาคารชุดให้เช่า ห้องเช่า หรือห้องแบ่งเช่า หรือกิจการอื่นในทำนองเดียวกัน 1) จำนวน 1 - 20 ห้อง 2) จำนวน 21 - 50 ห้อง 3) จำนวนตั้งแต่ 51 ห้องขึ้นไป 500 1,000 2,000 (๗) การประกอบกิจการโรงมหรสพ 250 (๘) การจัดให้มีมหรสพ การแสดงดนตรี เต้นรำ รำวง รองเง็ง ดิสโกเทก คาราโอเกะ หรือตู้เพลง งานบริการเครื่องเสียง หรือการแสดงอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน 250 (๙) การประกอบกิจการสระว่ายน้ำ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน เว้นแต่เป็นการให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๙ (๑) 250 (๑๐) การประกอบกิจการการเล่นสเก ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน 1,000 (๑๑) การประกอบกิจการเสริมสวย หรือแต่งผม เว้นแต่กิจการที่อยู่ในบังคับ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพเวชกรรม 250 (๑๒) การประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย 500 (๑๓) การประกอบกิจการให้บริการควบคุมน้ำหนัก 500 (๑๔) การประกอบกิจการสวนสนุก โบว์ลิ่ง หรือตู้เกม 1,000 (๑๕) การประกอบกิจการให้บริการคอมพิวเตอร์ 250 (๑๖) การประกอบกิจการสนามกอล์ฟ หรือสนามฝกซ้อมกอล์ฟ 1,000 (๑๗) การประกอบกิจการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์ หรือสิ่งแวดล้อม 1,000 (๑๘) การประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย 300 (๑๙) การประกอบกิจการให้บริการเลี้ยงและดูแลเด็กที่บ้านของผู้รับบริการ 300 (๒๐) การประกอบกิจการให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของผู้รับบริการ 300 - ๑๐ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๒๑) การประกอบกิจการให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ ชั่วคราว 300 (๒๒) การประกอบกิจการให้บริการลานสะสมตู้บรรจุสินค้า หรือลานจอดรถหัวลาก ตู้บรรจุสินค้า 500 10 กิจการที่เกี่ยวกับสิ่งทอ (๑) การป้นด้าย กรอด้าย ทอผ้าด้วยเครื่องจักร หรือทอผ้าด้วยกี่กระตุก 1) การป้นด้าย กรอด้าย ทอผ้าด้วยเครื่องจักร 2) การทอผ้าด้วยกี่กระตุกตั้งแต่ 5 กี่ แต่ไม่เกิน 10 กี่ 3) การทอผ้าด้วยกี่กระตุกตั้งแต่ 11 กี่ขึ้นไป 2,500 100 250 (๒) การสะสมปอ ป๋าน ฝ้าย นุ่น หรือใยสังเคราะห์ 250 (๓) การป้นฝ้าย นุ่น ใยสังเคราะห์ด้วยเครื่องจักร 1,000 (๔) การทอเสื่อ กระสอบ พรม หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร 500 (๕) การเย็บ ป้กผำ หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร 1) การเย็บ ป้กผำ หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร ตั้งแต่ 5 เครื่อง แต่ไม่เกิน 10 เครื่อง 2) การเย็บ ป้กผำ หรือสิ่งทออื่น ๆ ด้วยเครื่องจักร ตั้งแต่ 11 เครื่องขึ้นไป 250 500 (๖) การพิมพ์ผำ และสิ่งทออื่น ๆ 500 (๗) การซัก อบ รีด หรืออัดกลีบผำด้วยเครื่องจักร 1) เครื่องจักรที่มีกำลังไม่เกิน 2 แรงม้า 2) เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 3 แรงม้าขึ้นไป 100 250 (๘) การย้อม ฟอก กัดสีผำหรือสิ่งทออื่น ๆ 250 11 กิจการที่เกี่ยวกับหิน ดิน ทราย ซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง (๑) การผลิตภาชนะดินเผาหรือผลิตภัณฑ์ดินเผา 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 500 (๒) การระเบิด โม่บด หรือย่อยหินด้วยเครื่องจักร 5,000 (๓) การผลิตสิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 1,000 (๔) การสะสม ผสมซีเมนต์ หิน ดิน ทราย วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งการขุด ตัก ดูด โม่บด หรือย่อยด้วยเครื่องจักร ยกเว้นกิจการที่ ได้รับใบอนุญาตใน ๑๑ (๒) - ๑๑ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) 1) จำนวน ไม่เกิน 5,000 กิโลกรัม 2) จำนวน ตั้งแต่ 5,001 กิโลกรัมขึ้นไป 250 500 (๕) การเจียระไนเพชร พลอย หิน หรือกระจก หรือวัตถุที่คล้ายคลึง 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 500 (๖) การเลื่อย ตัด หรือประดิษฐ์หินเป็นสิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ 1,000 (๗) การผลิตชอล์ก ปูนปลาสเตอร์ ปูนขาว ดินสอพอง หรือเผาหินปูน 1,000 (๘) การผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบหรือส่วนผสม 1,000 (๙) การผลิต ตัด บดกระจกหรือผลิตภัณฑ์แก้ว 500 (๑๐) การผลิตกระดาษทราย หรือผำทราย 500 (๑๑) การผลิตใยแก้ว หรือผลิตภัณฑ์จากใยแก้ว 500 (๑๒) การล้าง การขัดด้วยการพ่นทรายลงบนพื้นผิวกระจก แก้ว หิน หรือวัตถุอื่นใด ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๖ (๕) 500 12 กิจการที่เกี่ยวกับ ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ถ่านหิน ถ่านโค้ก และสารเคมีต่าง ๆ (๑) การผลิต สะสม บรรจุ หรือขนส่งกรด ด่าง สารออกซิไดซ์ หรือสารตัวทำละลาย 1,000 (๒) การผลิต สะสม บรรจุ หรือขนส่งก๊าซ 2,500 (๓) การผลิต สะสม กลั่น หรือขนส่งปิโตรเลียม หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 1) การผลิตปิโตรเลียมหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 2) การสะสมปิโตรเลียมไม่เกิน 200 ลิตร 3) การสะสมปิโตรเลียมตั้งแต่ 201 - 1,000 ลิตร 4) การสะสมปิโตรเลียมตั้งแต่ 1,001 - 5,000 ลิตร 5) การสะสมปิโตรเลียมตั้งแต่ 5,001 ลิตรขึ้นไป 2,500 500 1,000 2,000 3,000 (๔) การผลิต สะสม หรือขนส่งถ่านหิน หรือถ่านโค้ก 1,000 (๕) การพ่นสี ยกเว้นกิจการที่ได้รับใบอนุญาตใน ๗ (๑) 250 (๖) การผลิตสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ด้วยยางเทียม พลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง 1) โดยใช้เครื่องจักรไม่เกิน 2 แรงม้า 2) โดยใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 3 แรงม้าขึ้นไป 250 500 (๗) การโม่สะสม หรือบดชัน 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 250 500 - ๑๒ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๘) การผลิตสีหรือน้ำมันผสมสี 500 (๙) การผลิต ล้างฟิล์มรูปถ่ายหรือฟิล์ มภาพยนตร์ 500 (๑๐) การเคลือบ ชุบวัตถุด้วยพลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง 300 (๑๑) การผลิตพลาสติก เซลลูลอยด์ เบเกอร์ไลท์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง 300 (๑๒) การผลิต หรือบรรจุสารเคมีดับเพลิง 1,000 (๑๓) การผลิตน้ำแข็งแห้ง 1,000 (๑๔) การผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบ ในการผลิตดอกไม้เพลิง 1,000 (๑๕) การผลิตเชลแล็ก หรือสารเคลือบเงา 1,000 (๑๖) การผลิต สะสม บรรจุ ขนส่งสารกำจัดศัตรูพืชหรือพาหะนำโรค 1,000 (๑๗) การผลิต สะสม หรือบรรจุกาว 500 13 กิจการอื่น ๆ (๑) การพิมพ์หนังสือ หรือสิ่งพิมพ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันด้วยเครื่องจักร 1) เครื่องจักรที่มีกำลังไม่เกิน 2 แรงม้า 2) เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 3 แรงม้า แต่ไม่เกิน 5 แรงม้า 3) เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 6 แรงม้าขึ้นไป 250 500 1,000 (๒) การผลิต ซ่อมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า 1) การผลิตเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า 2) การซ่อมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า 1,000 300 (๓) การผลิตเทียน หรือเทียนไข หรือวัตถุที่คล้ายคลึง 1) โดยไม่ใช้เครื่องจักร 2) โดยใช้เครื่องจักร 100 300 (๔) การพิมพ์แบบ พิมพ์เขียว หรือถ่ายเอกสาร 200 (๕) การสะสมวัตถุ หรือสิ่งของที่ชำรุ ด ใช้แล้วหรือเหลือใช้ 1,000 (๖) การประกอบกิจการโกดังสินค้า 500 (๗) การล้างขวด ภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วเพื่อนำไปใช้ใหม่หรือแปรสภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ 300 (๘) การพิมพ์ เขียน พ่นสี หรือวิธีอื่นใดลงบนวัตถุที่มิใช่สิ่งทอ 500 - ๑๓ - ลำดับที่ประเภทกิจการ อัตราค่าธรรมเนียม (บาท/ปี) (๙) การประกอบกิจการท่าเทียบเรือประมง สะพานปลา หรือแพปลา 300 (๑๐) การบรรจุหีบห่อสินค้าโดยใช้เครื่องจักร 300 (๑๑) การให้บริการควบคุมป้องกัน และกำจัดแมลง หรือสัตว์พาหะนำโรค 500 (๑๒) การผลิตสิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์จากยาง 500 (๑๓) การผลิต สะสม หรือขนส่ง ไบโอดีเซล เอทานอล หรือน้ำมันเชื้อเพลิง 500 เล่ม: 140 หมวด: 28 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 06/02/2023 หน้า: 230
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:138319", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2562", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D028S0000000023002.pdf", "year": null }
nonweb_96942
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง รายชื่อสถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล สำหรับกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง รายชื่อสถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับ การขยายเวลาพำนักในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล สำหรับกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้นโยบาย Medical Hub เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยให้มีการดำเนินงานในเรื่องของการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน สำหรับกรณี เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลในกลุ่มประเทศสมาชิก GCC ประกอบกับกระทรวงมหาดไทย ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสาร ใช้หนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรับการรักษาพยาบาลและผู้ติดตามได้รับ ยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน ๙๐ วัน ลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ และกฎกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และ การเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว และกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการออกคำสั่งให้สถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนัก ในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มประเทศสมาชิก คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ประกอบกับในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มจำนวน สถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ดังกล่าว นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ดังต่อไปนี้ ๑.๑ คำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๔๑๐/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ เรื่อง ประกาศรายชื่อสถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนัก ในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มประเทศสมาชิก คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ๑.๒ คำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๑๐๒๕ /๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เรื่อง ประกาศรายชื่อสถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนัก ในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มประเทศสมาชิก คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ชุดที่ ๒ ๑.๓ คำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๖๖๐/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เรื่อง ประกาศรายชื่อสถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนัก ในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มประเทศสมาชิก คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ชุดที่ ๓ ข้อ ๒ สถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนัก ในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มประเทศสมาชิก คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) จำนวน ๑๑๘ แห่ง ดังต่อไปนี้ ๑) โรงพยาบาลกรุงเทพ กรุงเทพมหานคร ๒) โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท กรุงเทพมหานคร ๓) โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งกมล กรุงเทพมหานคร ๔) โรงพยาบาลเทพธารินทร์ กรุงเทพมหานคร ๕) โรงพยาบาลไทยนครินทร์ กรุงเทพมหานคร ๖) โรงพยาบาลธนบุรี ๒ กรุงเทพมหานคร ๗) โรงพยาบาลนครธน กรุงเทพมหานคร ๘) โรงพยาบาลนวมินทร์ กรุงเทพมหานคร ๙) โรงพยาบาลนวมินทร์ ๙ กรุงเทพมหานคร ๑๐) โรงพยาบาลบางปะกอก ๑ กรุงเทพมหานคร ๑๑) โรงพยาบาลบางปะกอก ๘ กรุงเทพมหานคร ๑๒) โรงพยาบาลบางปะกอก ๙ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร ๑๓) โรงพยาบาลบางไผ่กรุงเทพมหานคร ๑๔) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร ๑๕) โรงพยาบาลบีแคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร ๑๖) โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กรุงเทพมหานคร ๑๗) โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน กรุงเทพมหานคร ๑๘) โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก กรุงเทพมหานคร ๑๙) โรงพยาบาลพญาไท ๑ กรุงเทพมหานคร ๒๐) โรงพยาบาลพญาไท ๒ กรุงเทพมหานคร ๒๑) โรงพยาบาลพญาไท ๓ กรุงเทพมหานคร ๒๒) โรงพยาบาลพระราม ๒ กรุงเทพมหานคร ๒๓) โรงพยาบาลพระรามเก้า กรุงเทพมหานคร ๒๔) โรงพยาบาลเพชรเกษม ๒ กรุงเทพมหานคร ๒๕) โรงพยาบาลเพชรเวช กรุงเทพมหานคร ๒๖) โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา กรุงเทพมหานคร ๒๗) โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ๒๘) โรงพยาบาลมเหสักข์ กรุงเทพมหานคร ๒๙) โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพมหานคร ๓๐) โรงพยาบาลยันฮีกรุงเทพมหานคร ๓๑) โรงพยาบาลรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ๓๒) โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม กรุงเทพมหานคร ๓๓) โรงพยาบาลวิภาวดีกรุงเทพมหานคร ๓๔) โรงพยาบาลเวชธานีกรุงเทพมหานคร ๓๕) โรงพยาบาลศรีวิชัย กรุงเทพมหานคร ๓๖) โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพมหานคร ๓๗) โรงพยาบาลมนารมย์ กรุงเทพมหานคร ๓๘) โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล กรุงเทพมหานคร ๓๙) โรงพยาบาลลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ๔๐) โรงพยาบาลวิภาราม กรุงเทพมหานคร ๔๑) โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กรุงเทพมหานคร ๔๒) โรงพยาบาลเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร ๔๓) โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพมหานคร ๔๔) โกลเด้นเยียส์สถานพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรัง กรุงเทพมหานคร ๔๕) สถานพยาบาลเจตนิน กรุงเทพมหานคร ๔๖) สถานพยาบาลเดอะซีเนียร์ สาขารัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร ๔๗) สถานพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรังเดอะซีเนียร์ ๓ กรุงเทพมหานคร ๔๘) สถานพยาบาลพระราม ๓ กรุงเทพมหานคร ๔๙) คลินิกเพชรรัตน์การแพทย์ กรุงเทพมหานคร ๕๐) คลินิกเวชกรรมพระราม ๓ กรุงเทพมหานคร ๕๑) ณพลักษณ์ศัลยกรรมคลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง กรุงเทพมหานคร ๕๒) โตไกคลินิกการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ๕๓) ปิ่นเกล้าคลินิกเวชกรรมการแพทย์สาขา ๓ กรุงเทพมหานคร ๕๔) เอช.เอช.เอช.คลินิกเวชกรรม กรุงเทพมหานคร ๕๕) เอส.พี คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางศัลยกรรม กรุงเทพมหานคร ๕๖) โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ๕๗) โรงพยาบาลนนทเวช จังหวัดนนทบุรี ๕๘) คุณหญิงคลินิก คลินิกเวชกรรม จังหวัดนนทบุรี ๕๙) โรงพยาบาลกรุงสยามเซ็นต์คาลอส จังหวัดปทุมธานี ๖๐) โรงพยาบาลแพทย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี ๖๑) โรงพยาบาลเอกปทุม จังหวัดปทุมธานี ๖๒) สถานพยาบาลอภิณพเวชกรรม จังหวัดสระบุรี ๖๓) สถานพยาบาลหมอสำเริง จังหวัดสุพรรณบุรี ๖๔) โรงพยาบาลซานเปาโล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๖๕) โรงพยาบาลโสธรเวช ๓๐๔ จังหวัดปราจีนบุรี ๖๖) โรงพยาบาลชัยอรุณเวชการ จังหวัดพิจิตร ๖๗) โรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก ๖๘) โรงพยาบาลรัตนเวช ๒ จังหวัดพิษณุโลก ๖๙) โรงพยาบาลธนกาญจน์ จังหวัดกาญจนบุรี ๗๐) โรงพยาบาลขอนแก่นราม จังหวัดขอนแก่น ๗๑) โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีจังหวัดจันทบุรี ๗๒) โรงพยาบาลโสธราเวช จังหวัดฉะเชิงเทรา ๗๓) โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จังหวัดชลบุรี ๗๔) โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จังหวัดชลบุรี ๗๕) โรงพยาบาลธนบุรี - ชุมพร จังหวัดชุมพร ๗๖) โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ จังหวัดเชียงราย ๗๗) โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค จังหวัดเชียงราย ๗๘) โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม จังหวัดเชียงใหม่ ๗๙) โรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ จังหวัดเชียงใหม่ ๘๐) โรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล จังหวัดเชียงใหม่ ๘๑) โรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ ๘๒) โรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่จังหวัดเชียงใหม่ ๘๓) โรงพยาบาลลานนา จังหวัดเชียงใหม่ ๘๔) โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ จังหวัดตรัง ๘๕) โรงพยาบาลกรุงเทพตราด จังหวัดตราด ๘๖) โรงพยาบาลโคราชเมโมเรียล จังหวัดนครราชสีมา ๘๗) โรงพยาบาลเซนต์แมรี่จังหวัดนครราชสีมา ๘๘) โรงพยาบาลป .แพทย์ จังหวัดนครราชสีมา ๘๙) โรงพยาบาลนครินทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ๙๐) โรงพยาบาลศรีสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ๙๑) โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ๙๒) โรงพยาบาลสิริโรจน์ จังหวัดภูเก็ต ๙๓) โรงพยาบาลมหาสารคามอินเตอร์เนชั่นแนล จังหวัดมหาสารคาม ๙๔) โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จังหวัดมุกดาหาร ๙๕) โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ จังหวัดยโสธร ๙๖) โรงพยาบาลหาญอินเตอร์เนชั่นแนล จังหวัดยโสธร ๙๗) โรงพยาบาลสิโรรส จังหวัดยะลา ๙๘) โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง จังหวัดระยอง ๙๙) โรงพยาบาลมงกุฎระยอง จังหวัดระยอง ๑๐๐) โรงพยาบาลเบญจรมย์ จังหวัดลพบุรี ๑๐๑) โรงพยาบาลเขลางค์นคร - ราม จังหวัดลำปาง ๑๐๒) โรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่จังหวัดสงขลา ๑๐๓) สถานพยาบาลจุฬารัตน์สุวรรณภูมิจังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๔) โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ๓ จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๕) โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ๙ จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๖) โรงพยาบาลบางนา ๕ จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๗) โรงพยาบาลบางปะกอก ๓ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๘) โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๙) โรงพยาบาลวิภาราม - ชัยปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ๑๑๐) โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ๑๑๑) โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร ๑๑๒) โรงพยาบาลเอกชัย จังหวัดสมุทรสาคร ๑๑๓) โรงพยาบาลกรุงเทพสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๑๑๔) โรงพยาบาลเอกอุดร จังหวัดอุดรธานี ๑๑๕) โรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี ๑๑๖) โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรีจังหวัดอุบลราชธานี ๑๑๗) โรงพยาบาลเอกชนร่มเกล้า จังหวัดอุบลราชธานี ๑๑๘) คลินิกนายแพทย์สุรพล จังหวัดสกลนคร จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เล่ม: ๑๓๔ หมวด: ๑๘๒ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ หน้า: ๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:96943", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง รายชื่อสถานพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลรองรับการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยรวม ๙๐ วัน ในกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล สำหรับกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/182/6.PDF", "year": null }
nonweb_144149
ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ยกเลิกลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน (ฉบับที่ 2/2566) [บริษัท ขายยาเพ็ญภาค จำกัด] ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ยกเลิกลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน (ฉบับที่ ๒/๒๕๖๖) ตามที่อธิบดีกรมสรรพสามิตได้ออกประกาศลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จดทะเบียนสำหรับสินค้าเครื่องดื่มของบริษัท ขายยาเพ็ญภาค จำกัด ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับจดทะเบียนไว้นั้น บัดนี้บริษัท ขายยาเพ็ญภาค จำกัด ได้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบถึงการยกเลิก เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียนบางลักษณะ ซึ่งอธิบดีกรมสรรพสามิตจะต้องประกาศยกเลิกลักษณะ เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียนในราชกิจจานุเบกษา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๙ แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ อธิบดีกรมสรรพสามิตจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จดทะเบียน (ฉบับที่ ๓๐/๒๕๖๒) ลงวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ว่าที่ร้อยตรี ประยุทธ เสตถาภิรมย์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี ๑ ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมสรรพสามิต เล่ม: 140 หมวด: 66 ง ประกาศ ณ: 31/08/2023 หน้า: 3
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:144150", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง ยกเลิกลักษณะเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน (ฉบับที่ 2/2566) [บริษัท ขายยาเพ็ญภาค จำกัด]", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D066N0000000000300.pdf", "year": null }
nonweb_115407
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง [นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล] ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง ด้วย ข้าราชการการเมืองในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการราย นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ดังนั้น ความเป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งดังกล่าวของ นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล จึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ขอลาออก ตามนัยมาตรา ๑๐ (๒) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ การเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศ ณ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๔๐ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๔๙
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:115408", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง [นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/040/T_0049.PDF", "year": null }
nonweb_111833
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ด้วย นางสาวสุทิสา นาคเสน ผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับของสมาคมการประปาแห่งประเทศไทย โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ข้อ ๑ ความว่า ข้อ ๑ สมาคมนี้ให้กำหนดชื่อว่า “สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย” ใช้คำย่อว่า “สปปท.” ชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Thai Water Works Association” ใช้คำย่อว่า “TWWA” นายทะเบียนสมาคมประจำ กรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคมรายนี้แล้ว เลขทะเบียนที่จ. ๑๐๙๒/๒๕๖๒ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๒ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ และมาตรา ๘๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ รัชกฤต พยัคฆ์ นิติกรชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย ๒ ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง นายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๒๖ ง ประกาศ ณ: ๐๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๑๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:111834", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/D/026/T_0116.PDF", "year": null }
nonweb_96686
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมนักเรียนเก่ามหาพฤฒาราม] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคม ด้วย คุณหญิงอุไรวรรณ ศิรินุพงศ์ ผู้ยื่นคำร้อง ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับของสมาคมนักเรียนเก่ามหาพฤฒาราม โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับทั้งฉบับ ตามข้อบังคับสมาคมสตรีมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ แนบท้ายประกาศนี้ นายทะเบียนสมาคมประจำ กรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคมรายนี้แล้ว เลขทะเบียนที่จ. ๙๓๐/๒๕๖๐ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๐ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ และมาตรา ๘๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐ รัชกฤต พยัคฆ์ นิติกรชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย ๒ ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง นายทะเบียนสมาคม ประจำกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๔ หมวด: ๔๑ ง ประกาศ ณ: ๐๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ หน้า: ๑๑๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:96687", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมนักเรียนเก่ามหาพฤฒาราม]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/D/041/112.PDF", "year": null }
nonweb_77891
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ ๑๓/๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของผู้ร้อง ซึ่งเป็นจำเลย ในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ สรุปได้ว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม โจทก์ ได้ยื่นฟ้องพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร เป็นจำเลย ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรม พระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อศาลทหารกรุงเทพในข้อหาความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท โดยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ สรุปได้ว่า โจทก์ ยังไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่บัญญัติให้การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหา เป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโดยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการ จึงได้รับ ความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวและประกอบกับคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่ จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ที่บัญญัติห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหา ตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะเป็นเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณา ของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว ดังนั้น จำเลยจึงขอให้ศาลทหารกรุงเทพ ยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ คัดคำนคำร้อง จำเลยว่า คำร้องของจำเลยเป็นการกล่าวอ้างบทกฎหมายอย่างฟ้นเฝือ เพราะตามกฎหมายที่จำเลยอ้าง ไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติว่า เมื่อมีกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการแล้ว ผู้เสียหายจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ แต่เพียงประการเดียว ในทางตรงกันข้ามคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามบทบัญญัติ กฎหมายดังกล่าวได้จะต้องมีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน ทั้งนี้โดยนัยมาตรา ๔๓ และ เมื่อพิจารณาตามมาตรา ๘๖ (๒) จะเห็นได้ว่า โจทก์ไม่ได้ถูกบังคับตามกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นเรื่อง ที่โจทก์มีสิทธิใช้ทางเลือกตามมาตรา ๘๖ (๒) เมื่อศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกันและอยู่ระหว่างการพิจารณา ของศาล จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวให้ครบถ้วนก่อน ดังนั้น คดีนี้ โจทก์ในฐานะผู้เสียหายตามกฎหมายจึงมีสิทธิที่จะเลือกดำเนินการตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับ ตามกฎหมายที่จำเลยอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๙ แล้ว บทบัญญัติดังกล่าวไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ในชั้น การไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องต่อศาลโดยลำพังให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเนื่องมาจากกระทำการตามมาตรา ๘๘ ให้ศาลต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมาย ที่กล่าวอ้างต่อไป หรือไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ให้ศาลยกฟ้องโจทก์และสั่งให้โจทก์ไปดำเนินการตามกฎหมาย ดังกล่าวแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ของจำเลย โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ ประกอบพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ ที่บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” และมาตรา ๑๖ ที่บัญญัติว่า “บุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหาร คือ (๑) นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ” โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและมีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีนี้และดำเนินคดีต่อจำเลยตามกฎหมาย ดังกล่าวได้ โจทก์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งไม่รับคำร้องของจำเลย นอกจากนี้คดีนี้อยู่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยยังไม่มีสิทธิดำเนินการอย่างใดนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งในชั้นการไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ว่า ข้อเท็จจริง จากการไต่สวนมูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่า คดีมีมูลตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยเสียก่อนว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง หรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริต ต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา ๔๓ ได้ ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ป้ญหาที่ จะต้องวินิจฉัยต่อไป คือ คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์ นำสืบแล้วเห็นว่า คู่ความเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารและคดีมีมูลเฉพาะในข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารอันเป็น หน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาทเห็นว่า ไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับฟ้องไว้พิจารณา จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาที่มีมูล จำเลยยื่นคำร้องและคำแถลงต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ และวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ สรุปได้ว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจ ศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพได้มีคำพิพากษาวางแนวทาง การฟ้องคดีในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไว้ในคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ แล้วว่า หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดดังกล่าว การไต่สวนและการวินิจฉัย ในกรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เมื่อไม่ดำเนินการ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว อัยการศาลทหารกรุงเทพจึงไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้อง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ ๓๖๕ /๒๕๔๗ เรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ดังนั้น โดยนัยเดียวกันผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารย่อมไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วย พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญ ให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยคดีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการ โดยมิได้ยกเว้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทใดหรือบุคคลใด ดังนั้น เมื่อคดีนี้เป็นการกระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๑๙ (๓) การดำเนินการต่อ ข้าราชการในหน่วยราชการของกระทรวงกลาโหมที่กระทำความผิดจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องเองได้ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ สรุปได้ว่า ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องไว้พิจารณาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ดังจำเลยอ้าง เนื่องจากรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้โจทก์นำคดีมาฟ้องต่อศาลเอง ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง ได้บัญญัติให้การรับรองไว้ว่า “บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้สามารถยก บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้” การที่จำเลยอ้าง คำพิพากษาของศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ ในคดีนั้นมีข้อเท็จจริง แตกต่างกันและคดียังไม่ถึงที่สุด เพราะในคดีที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นเรื่องของการสอบสวนของคณะกรรมการ ที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาใช่เป็นเรื่อง เกี่ยวกับกรณีที่โจทก์ฟ้องเอง ดังนั้น โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ขอให้ศาลยกคำร้องของจำเลยและ ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลย เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ชี้ขาดป้ญหา ข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และ ในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมาย ในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้ เมื่อเป็นผู้เสียหายตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหาย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งได้ส่วนที่จำเลยยกอ้างคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ นั้น ศาลทหารกรุงเทพเห็นว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็น การยกฟ้องโจทก์ในเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมการ กฤษฎีกา ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน เพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องจำเลย และดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ต่อไป จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โต้แย้งว่าคำสั่ง ให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้เพื่อมิให้ มีการช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน การที่ศาลทหารกรุงเทพวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหารยื่นฟ้อง จำเลยและศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องได้นั้น มีผลทำให้จำเลยไม่สามารถใช้สิทธิชี้แจง ข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐานหรือนำพยานบุคคลมาให้ปากคำประกอบคำชี้แจงตามมาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ได้เช่นเดียวกับ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่เป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหาร เพราะในการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหารต้องนำ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ซึ่งมีผลให้จำเลยไม่มีสิทธินำพยานมาสืบในชั้นการไต่สวนมูลฟ้อง และศาลทหารมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสอง และวรรคสาม ทำให้จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองในทางกฎหมายเท่าเทียมกับ บุคคลอื่นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และเมื่อยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติดังกล่าว จึงขอให้ศาลทหารกรุงเทพรอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้ง ของจำเลยให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำร้องของจำเลยต้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาเบื้องต้นมีว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องนี้ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ หรือไม่ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมาย บังคับแก่คดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติ มาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้นให้ศาลรอการพิจารณา พิพากษาคดีไว้ชั่วคราว และส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย” ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า ศาลทหารกรุงเทพได้ส่งคำโต้แย้งของผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลย ตามทางการให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย กรณีจึงเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีอำนาจรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่า ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องพิจารณาวินิจฉัยตามคำร้องมีว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจ หน้าที่ดังต่อไปนี้ … (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการ ต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้ บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้” มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พิจารณาแล้ว เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ เป็นบทบัญญัติรับรองหลักความเสมอภาค ของบุคคลโดยมีพื้นฐานมาจากหลักความเสมอภาคตามธรรมชาติที่ยอมรับว่า สิทธิและเสรีภาพของบุคคลนั้น เป็นสิทธิของป้จเจกชนที่มีความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกันทุกคน หลักความเสมอภาคของบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ จึงเป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน โดยให้ทุกคนมีความเสมอกันในกฎหมายและห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติอันทำให้เกิด ความไม่เสมอภาคแก่บุคคลที่เรียกว่า การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมแต่มิได้เป็นการห้ามโดยเด็ดขาด หากเป็นมาตรการเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคโดยทำให้บุคคลสามารถใช้สิทธิ และเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมกระทำได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคสี่ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติ ว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ โดยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๑) ถึง (๖) และตาม (๓) บัญญัติให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งขณะป้จจุบัน คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ สำหรับพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) เป็นบทบัญญัติว่าด้วย วิธีพิจารณาความคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนพิจารณาของการไต่สวน มูลฟ้องในกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารประสงค์จะเป็นโจทก์ฟ้องให้ดำเนินคดี กับจำเลยด้วยตัวเอง โดยกำหนดขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาลทหารไว้ในพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งว่า ให้อัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร แล้วแต่กรณีมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลาปกติได้ แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้อยู่ในอำนาจ ศาลทหารต้องให้อัยการทหารเป็นผู้ฟ้อง โดยในส่วนของวิธีพิจารณาความคดีอาญาของศาลทหารนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ บัญญัติว่า ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับ ซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่ได้บัญญัติไว้ก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม และถ้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติวิธี พิจารณาข้อใดไว้โดยเฉพาะ ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ เท่าที่จะใช้ได้ซึ่งกรณีตามคำร้องนี้ศาลทหารกรุงเทพนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาใช้บังคับ โดยปรับบทว่า ในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเองโดยลำพัง ให้ศาลทหารกรุงเทพจัดการสั่งไต่สวนมูลฟ้องก่อน และเมื่อศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คำฟ้องมีมูล ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งประทับฟ้องคำฟ้องนั้นได้บทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวถือว่า เป็นบทบัญญัติที่อุดช่องว่างในการใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ในกรณีที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ไม่ได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อให้การพิจารณาคดี ดำเนินการต่อไปได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังที่ปรากฏตามหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ ที่ว่า พระราชบัญญัตินี้ตราขึ้นใช้บังคับเพื่อความสะดวกในการใช้และความเหมาะสมกับ ความต้องการของทางราชการทหารที่ต้องการให้การพิจารณาพิพากษาคดีทหารเสร็จเด็ดขาดไปโดยรวดเร็ว ประเด็นที่ผู้ร้องโต้แย้งว่า การที่โจทก์ดำเนินคดีกับจำเลยซึ่งเป็นผู้ร้องและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต่อศาลทหารกรุงเทพและศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งประทับฟ้องตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) โดยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงก่อน เป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) นั้น ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่ำรวย ผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย เพื่อดำเนินการต่อไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หมวด ๘ ว่าด้วยการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๓๐๘ ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรมได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ของรัฐตามมาตรา ๘๙ เท่านั้น บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นกฎหมายเฉพาะที่ใช้บังคับในกรณีที่มีการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรณีที่มีการร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยให้ผ่านการไต่สวนข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียก่อน แต่บทบัญญัติดังกล่าวไม่รวมถึงกรณีที่ผู้เสียหายประสงค์จะดำเนินคดีทางศาลโดยใช้สิทธิในฐานะ เป็นผู้เสียหายฟ้องคดีด้วยตนเอง ซึ่งเห็นได้จากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๖ ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา ... (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้อง ในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” กล่าวคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ไม่มีบทบัญญัติ ห้ามมิให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเอกชนหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคล ตามมาตรา ๖๖ ต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ประกอบกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง บัญญัติให้บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้ดังนั้น ผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือเจ้าหน้าที่ ของรัฐเมื่อปรากฏว่าสิทธิและเสรีภาพของบุคคลดังกล่าวถูกละเมิด ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีโดยฟ้อง ต่อศาลที่มีอำนาจเพื่อให้พิจารณาพิพากษาคดีได้ โจทก์ในคดีตามคำร้องนี้ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงสามารถเลือก ที่จะดำเนินคดีโดยให้ผ่านคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนและวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) หรือจะดำเนินคดีในฐานะผู้เสียหายต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาก็ได้ และเมื่อข้อเท็จจริง ตามคำร้องปรากฏว่า ผู้เสียหายและผู้ร้องต่างเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา คดีได้แก่ศาลทหารกรุงเทพ อำนาจหน้าที่และวิธีพิจารณาคดีของศาลทหารเป็นคนละส่วนกันและไม่มี ความเกี่ยวข้องกันกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่อย่างใด ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องโต้แย้งว่า การที่ศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับฟ้อง คำฟ้องของโจทก์ตามที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บัญญัติไว้ ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถได้รับการไต่สวนและวินิจฉัยจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อใช้สิทธิชี้แจงข้อกล่าวหา และแสดงพยานหลักฐานตามวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตได้เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร จึงมีการเลือกปฏิบัติระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน ทำให้ผู้ร้องไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เสมอกันกับบุคคลอื่นตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งให้การรับรองไว้ เป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งนั้น ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า ในส่วนของวิธีพิจารณาคดี ของศาลทหารกรุงเทพที่เกี่ยวกับการไต่สวนมูลฟ้องนั้น มีหลักประกันการให้ความเป็นธรรมแก่จำเลย ซึ่งเป็นผู้ร้องอยู่แล้ว กล่าวคือ การไต่สวนมูลฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มีหลักการสำคัญในการให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลย เนื่องจาก การไต่สวนมูลฟ้องเป็นกระบวนการพิจารณาของศาลซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ใช้อำนาจตุลาการ ที่มีความเป็นกลางและมีความเป็นอิสระ โดยศาลจะพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานของโจทก์ในเบื้องต้นว่า คดีมีมูลเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปหรือไม่ถ้ามีเพียงพอก็จะมีคำสั่งว่าคดีมีมูลและประทับฟ้อง หากมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลก็จะมีคำสั่งว่าคดีไม่มีมูลและยกฟ้องโจทก์ ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๗ ที่บัญญัติว่า “ถ้าปรากฏว่าคดีมีมูล ให้ศาลประทับฟ้องไว้พิจารณา ต่อไปเฉพาะกระทงที่มีมูล ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง” แม้ว่าในชั้นการไต่สวนมูลฟ้องของศาล จะห้ามมิให้จำเลยนำพยานมาสืบข้อเท็จจริงว่า จำเลยมิได้กระทำความผิดที่เป็นประเด็นหลักแห่งคดี ในชั้นการไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม แต่จำเลยย่อมมีสิทธิมาฟ้งและซักค้านพยานของโจทก์ในชั้นการไต่สวน มูลฟ้องได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสาม ว่า “ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ศาลมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจำเลย ให้ศาลส่งสำเนาฟ้องแก่จำเลยรายตัวไป กับแจ้งวันนัดไต่สวนให้จำเลยทราบ จำเลยจะมาฟ้งการไต่สวนมูลฟ้อง โดยตั้งทนายให้ซักค้านพยานโจทก์ ด้วยหรือไม่ก็ได้หรือจำเลยจะไม่มา แต่ตั้งทนายมาซักค้านพยานโจทก์ก็ได้ห้ามมิให้ศาลถามคำให้การ จำเลย และก่อนที่ศาลประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น” จึงกล่าวได้ว่าหลักการไต่สวน มูลฟ้องในคดีอาญาของศาลมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการคุ้มครองจำเลยไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งโดยการฟ้องคดี ของโจทก์ และมิได้เป็นการตัดสิทธิในการต่อสู้คดีของจำเลยซึ่งเป็นผู้ร้องตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นการกลั่นกรอง ก่อนนำสู่การพิจารณาคดีอันเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลแล้ว ผู้ร้องในฐานะจำเลย จึงได้รับประโยชน์จากบทบัญญัติดังกล่าวในการคุ้มครองสิทธิยิ่งกว่าที่จะเป็นการลิดรอนสิทธิหรือทำให้ ไม่ได้รับความเท่าเทียมกันตามกฎหมายดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง การไต่สวนมูลฟ้องจึงเป็นวิธีพิจารณาความคดีอาญา ที่ให้หลักประกันความเป็นธรรมแก่คู่ความโดยเฉพาะจำเลยซึ่งเป็นผู้ร้อง เมื่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตไม่ได้บัญญัติให้รวมถึงกรณีที่ผู้เสียหายประสงค์ที่จะดำเนินคดีทางศาลกับเจ้าหน้าที่ ของรัฐโดยลำพัง บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหาร จึงไม่ใช่กรณีที่ก่อให้เกิด ความไม่เสมอภาค หรือไม่ให้ความคุ้มครองแก่บุคคลตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ ของรัฐที่ถูกดำเนินคดีโดยศาลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกไต่สวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่อย่างใด นอกจากนี้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ผู้ร้องโต้แย้งมีผลใช้บังคับเฉพาะบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ของศาลทหาร ซึ่งบุคคลที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันและมีสถานะอย่างเดียวกัน ย่อมจะได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกันและอย่างเท่าเทียมกันในการใช้บังคับกฎหมาย สำหรับบุคคล ที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป จึงเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ที่จัดกลุ่มบุคคลตามลักษณะของคู่ความและประเภทแห่งคดี เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมตามที่รัฐธรรมนูญ และกฎหมายบัญญัติไว้ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงไม่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายผัน จันทรปาน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติหน้าที่ ประธานที่ประชุมคณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ นายจิระ บุญพจนสุนทร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายจุมพล ณ สงขลา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายปรีชา เฉลิ มวณิชย์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายมงคล สระฏัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายมานิต วิทยาเต็ม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายศักดิ์ เตชาชาญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายสุธี สุทธิสมบูรณ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พลตำรวจเอก สุวรรณ สุวรรณเวโช ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายอภัย จันทนจุลกะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายอุระ หวังอ้อมกลาง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายผัน จันทรปาน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลย (พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร) เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ สรุปข้อเท็จจริง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลย (พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร) ในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบสรุปได้ว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรม พระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อศาลทหารกรุงเทพ โดยกล่าวอ้างว่า ในระหว่างที่ จำเลยได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกองกำลังพล กรมพระธรรมนูญ จำเลยได้กระทำผิดกฎหมาย หลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ ระหว่างวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ ถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๕ จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับทำเนียบประวัติ บัตรประจำตัว การเกษียณอายุ การย้าย ประเภท การเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล การตรวจสอบเวลาราชการและสถิติเกี่ยวกับกำลังพลและกรรมวิธี ข้อมูลกำลังพลด้วยเครื่องจักรคำนวณ ดำเนินการตรวจสอบทำเนียบประวัติตุลาการ จำเลยได้รับเอกสาร หนังสือรับรองผลการปฏิบัติงานโจทก์ไว้ตามหน้าที่แล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องรักษาไว้ซึ่งเอกสารดังกล่าว แต่จำเลยหาได้กระทำตามหน้าที่ดังกล่าวไม่จำเลยบังอาจทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ เป็นเหตุให้ไม่มีเอกสารหนังสือรับรองผลการปฏิบัติงานของโจทก์บันทึกลงประวัติ ในสมุดลงทะเบียนประวัติรับราชการทหารอันเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จากการไม่ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๔ จำเลยใช้อำนาจ ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่เจตนากลั่นแกล้งโจทก์ด้วยการไม่พิมพ์ชื่อโจทก์ลงไปในบัญชี แผนปรับย้ายดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่จำเลยทราบดีว่า โจทก์มีลำดับอาวุโสชั้นยศ พันโท อยู่ในลำดับที่ ๒ ตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นเหตุให้โจทก์ ได้รับความเสียหาย มิได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในอัตราพันเอก การกระทำของจำเลย เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ต้องเสียอาวุโส ในการที่โจทก์จะได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งครองยศสูงขึ้นในโอกาสต่อ ๆ ไป ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๔ จำเลยใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่เสนอชื่อโจทก์ ให้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในอัตราพันเอก ไม่เสนอหนังสือรับรองผลการปฏิบัติหน้าที่ ราชการของศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด และไม่เสนอผลการศึกษาของโจทก์ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทให้คณะกรรมการพิจารณาการปรับย้ายของกรมพระธรรมนูญพิจารณา ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรมีอาวุโสชั้นยศพันโท ในอันดับที่ ๒ ต้องเสียอาวุโสไป และ เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ จำเลยใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่บังอาจให้ ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปรับย้ายตุลาการพระธรรมนูญต่อเจ้ากรมพระธรรมนูญว่า โจทก์สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาโทที่มิได้เป็นหลักสูตรทางด้านกฎหมายที่ต้องนำมาใช้กับเหล่าทหารพระธรรมนูญโดยตรง อีกทั้งโจทก์เป็นผู้มีความประพฤติไม่เหมาะสมแก่การดำรงตำแหน่งตุลาการพระธรรมนูญ (อัตราพันเอก) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่างอยู่ความสามารถและผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของโจทก์ยังไม่มีขีดความสามารถ เพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งสูงขึ้น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ ได้รับความเสียหายมิได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น นอกจากนั้นการกระทำของจำเลยดังกล่าว ยังเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อเจ้ากรมพระธรรมนูญว่า โจทก์มีความประพฤติไม่เหมาะสม แก่การดำรงตำแหน่ง ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ โจทก์จึงยื่นคำฟ้องต่อ ศาลทหารกรุงเทพเพื่อขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย อาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จำเลยยื่นคำร้องสรุปได้ว่า การที่โจทก์ฟ้องจำเลยว่าจำเลย กระทำผิดฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ นั้น โจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ มิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่กำหนดว่า “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” และคำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตามมาตรา ๔ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงาน ส่วนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงาน ของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงาน ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ และให้หมายความรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้าง ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือคณะบุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับ มอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น การจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ” โดยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และ คดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ที่ว่า “ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา (๑) เรื่องที่มีข้อกล่าวหาหรือประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว และไม่มีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งคดีหรือ (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” ดังนั้นจำเลยจึงขอให้ ศาลยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในข้อหาดังกล่าวอีกต่อไป วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่ง สรุปได้ว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวน มูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่าคดีมีมูลตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัยคำร้อง ขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยเสียก่อนว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณี ที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจ ฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์ เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหารกรุงเทพได้ไต่สวนมูลฟ้อง ของโจทก์แล้ว มีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาเป็นเจ้าพนักงานทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครอง หรือรักษาไว้ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นทหารขัดขืนหรือละเลยมิกระทำตามคำสั่งและข้อบังคับ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาท อันทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังอย่างไร ไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับรับฟ้อง ไว้พิจารณา วันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ จำเลยได้ยื่นคำร้อง สรุปความได้ว่า ในชั้นการไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องในคดีความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการซึ่งศาลวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้นั้น จำเลยเห็นว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพ ดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มี การช่วยเหลือกัน หรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพก็ได้มีคำพิพากษาวางแนวทางเกี่ยวกับการฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการไว้ในคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ แล้วว่า “หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดดังกล่าว การไต่สวนและการวินิจฉัยในกรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เมื่อไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว อัยการศาลทหารกรุงเทพจึงไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้อง” ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการ กฤษฎีกาตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ โดยนัยเดียวกันผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่ อยู่ในอำนาจศาลทหารย่อมไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วย เนื่องจากเป็นป้ญหากฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย จำเลยจึงขอให้ศาลได้โปรดวินิจฉัยชี้ขาด ข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ก่อนดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ต่อมาจำเลยได้ยื่น คำแถลงประกอบคำร้อง ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โดยอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ หมวด ๑๐ ว่าด้วยการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการ ไต่สวนและวินิจฉัยคดีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การดำเนินการต่อข้าราชการในหน่วยราชการ ของกระทรวงกลาโหมจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องเองตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ได้ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพ สรุปได้ว่า ศาลมีคำสั่ง ประทับฟ้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญดังจำเลยอ้างและรัฐธรรมนูญและ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ก็ไม่มีบทบัญญัติ มิให้โจทก์นำคดีมาฟ้องต่อศาลเอง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง รับรองไว้การที่จำเลย อ้างคำพิพากษาของศาลทหารนั้น ข้อเท็จจริงแตกต่างกันและคดียังไม่ถึงที่สุดเพราะในคดีที่จำเลยอ้าง เป็นเรื่องการสอบสวนไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ หาใช่เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเองไม่ดังนั้น โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ขอให้ศาลยกคำร้อง ของจำเลยดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลย สรุปได้ว่า ศาลได้วินิจฉัย คำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยประกอบกับคำร้องคัดค้านของโจทก์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณี ที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหาย ได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใด ที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมายในส่วนวิธีสบัญญัติ บัญญัติให้อำนาจไว้ เมื่อเป็นผู้เสียหายตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหาย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งได้สำหรับกรณีที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาด ข้อกฎหมายเบื้องต้น โดยยกอ้างคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ นั้น เห็นว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นการยกฟ้องโจทก์ในเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของคณะกรรมการ สอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จำเลยยกกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้เสียหาย เป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหาร กรุงเทพได้จึงพร้อมกันมีคำสั่งให้ยกคำร้องจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ต่อไป วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพขอให้รอการพิจารณา ไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ สรุปได้ว่า ศาลทหารกรุงเทพดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท อันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพตามมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ ได้ศาลมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องและได้มีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อหาความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ นั้น จำเลยเห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ โดยคำสั่งของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าว ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลในอำนาจ ศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหาร กรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องในความผิดดังกล่าว ตามคำสั่งที่ ๑/๒๕๔๗ ของศาลทหารกรุงเทพ บทบัญญัติดังกล่าวจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และขอให้ส่งคำโต้แย้งของจำเลยให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องของจำเลยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ และส่งความเห็นตามทางการเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ประเด็นพิจารณาเบื้องต้น ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รับคำร้องนี้ไว้ดำเนินการตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๒ และรับไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ข้อกฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน...” มาตรา ๓๐๑ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการ ต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์ ศาลทหารในเวลาไม่ปกติหรือศาลอาญาศึก หรือศาลที่พิจารณาพิพากษาคดีแทนศาลอาญาศึก ตามความในมาตรา ๔๐ และมาตรา ๔๓ ให้อัยการทหารเท่านั้นมีอำนาจเป็นโจทก์ผู้เสียหายจะเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารหรือไม่ก็ตาม ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎ และข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้ บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) (๒) ในคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้องแต่ถ้าเห็นสมควรจะสั่งให้ ไต่สวนมูลฟ้องก่อนก็ได้ ในกรณีที่มีการไต่สวนมูลฟ้องดังกล่าวแล้ว ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพให้ศาลประทับฟ้องไว้ พิจารณา ประเด็นการวินิจฉัย พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อพิจารณาและคำวินิจฉัย พิจารณารัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติที่ให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคล โดยบัญญัติให้บุคคลมีความเสมอภาคกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นบทบัญญัติในหมวด ๑๐ ว่าด้วยการตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ ส่วนที่ ๒ เรื่องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยกำหนดให้มี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติขึ้นในรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ใน รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) กำหนดให้คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ ที่บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิ และอำนาจหน้าที่ในการฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหาร โดยกำหนดให้ในเวลาปกติอัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าเป็นกรณีศาลทหารในเวลา ไม่ปกติหรือศาลอาญาศึก กำหนดให้อัยการทหารเท่านั้นมีอำนาจเป็นโจทก์ สำหรับบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหาร พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ กำหนดบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ไว้หลายประเภท ซึ่งรวมถึงนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการด้วย ดังนั้นผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลทหาร ในเวลาปกตินอกจากอัยการทหารแล้วยังรวมถึงผู้เสียหายที่เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ และ บุคคลประเภทที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ อีกด้วย จึงเห็นได้ว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ได้ให้สิทธิแก่ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลา ปกติได้เช่นเดียวกับผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องที่ เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความอาญาทหารนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ บัญญัติ ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม เมื่อไม่มีกฎหมาย กฎ และข้อบังคับ ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับกับวิธีพิจารณาความอาญาทหารได้หรือถ้าวิธีพิจารณาความข้อใดซึ่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้ดังนั้น ในกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารเป็นโจทก์ ฟ้องคดีเอง และกรณีนี้วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ไม่มีกฎหมาย กฎ และข้อบังคับฝ๋ายทหารบัญญัติไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในเรื่องการฟ้องคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเอง ซึ่งต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องตามมาตรา ๑๖๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม การไต่สวนมูลฟ้อง ตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๑๒) หมายความถึงกระบวนไต่สวนของศาลเพื่อวินิจฉัย ถึงมูลคดี เพื่อให้ศาลได้พิจารณารูปคดีของโจทก์ในเบื้องต้นก่อนว่ามีมูลเพียงพอที่ศาลควรรับคดีไว้พิจารณา หรือไม่หากศาลจะรับฟ้องไว้พิจารณาเพื่อพิพากษาไปในทันทีอาจทำความเดือดร้อนและเป็นภาระแก่จำเลย โดยไม่จำเป็น ดังนั้น การไต่สวนมูลฟ้องของศาลจึงเป็นกระบวนการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบคำฟ้อง ของโจทก์โดยศาลว่า คำฟ้องนั้นมีมูลเป็นความผิดอาญาหรือไม่ สำหรับข้อโต้แย้งของผู้ร้องที่ว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ถูก กล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันนั้น เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปการเมืองเพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองให้มี เสถียรภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ได้อย่างแท้จริงอันเป็นการป้องกันมิให้มีการใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง และพวกพ้องในทางที่มิชอบ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงได้กำหนดแนวทางต่าง ๆ ขึ้น แนวทางหนึ่ง ก็คือ การจัดตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตขึ้นในรัฐธรรมนูญและกำหนดอำนาจหน้าที่ ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไต่สวนข้อเท็จจริง และทำความเห็นในกรณีที่มีการร้องขอให้ถอดถอนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งดำรงตำแหน่งในระดับสูงออกจาก ตำแหน่งหรือดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ รวมทั้งไต่สวน วินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และ ต่อมารัฐสภาได้ตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ซึ่งในหมวด ๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าวว่าด้วยการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา ๓๐๘ ของรัฐธรรมนูญ กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่นว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมให้ยื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับคำกล่าวหาแล้วให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามหลักเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติว่า ข้อกล่าวหาใดมีมูล ก็ให้ดำเนินการต่อไปโดยถ้ามีมูลความผิดทางวินัยก็ให้ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็น ไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ หรือถ้ามีมูลความผิดอาญาก็ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เจตนารมณ์ในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ของรัฐซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๘ ก็เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ในการเข้าดำรงตำแหน่ง ส่วนศาลเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตยอำนาจหนึ่งในสามอำนาจ โดยรัฐธรรมนูญ กำหนดตามกฎหมายและในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ และการพิจารณาคดีของศาลจะเป็นหลักประกัน ในการคุ้มครองการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพราะศาลมีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ มีหน้าที่พิจารณาและพิพากษาคดี จะปฏิเสธไม่พิจารณาพิพากษาคดีไม่ได้ และวิธีพิจารณาคดีของศาล เป็นไปอย่างเปิดเผย เปิดโอกาสให้สาธารณชนเข้าฟ้งการพิจารณาได้ แม้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมี อำนาจหน้าที่ในการไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมก็ตาม แต่ก็มิได้ตัดสิทธิของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีอาญาด้วยตนเองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ และเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญาในการไต่สวนมูลฟ้องคดีดังกล่าว และเนื่องจากศาลเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจตุลาการ ซึ่งมีวิธีพิจารณาคดีที่เป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น กระบวนการ ไต่สวนของศาลในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องคดีด้วยตนเอง จึงเป็นหลักประกันที่ทำให้บุคคลเสมอกัน ในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ และการฟ้องคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์โดยผ่านกระบวนการไต่สวนของศาลก็มิได้ขัดหรือแย้งต่ออำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เพราะเป็นสิทธิ ของประชาชนที่จะเลือกขอรับความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจากองค์กรตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ด้วยเหตุนี้การฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารของผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ในเวลาปกติ จึงไม่ขัดหรือแย้งต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และเป็นไปตามหลักประกันที่ทำให้บุคคลเสมอกันในกฎหมาย และได้รับ ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งแล้ว อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายผัน จันทรปาน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติหน้าที่ประธานที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายจิระ บุญพจนสุนทร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลย (พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร) เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ กรณีสืบเนื่องจากพันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม โจทก์ ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ซึ่งโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารสัญญาบัตรประจำการสังกัดกรมพระธรรมนูญ สำนักงาน ปลัดกระทรวงกลาโหม ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทต่อศาลทหารกรุงเทพ โดยขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และ มาตรา ๙๑ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ ต่อมา จำเลยยื่นคำร้อง สรุปความว่า โจทก์ไม่มี อำนาจฟ้องเพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ด้วยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่ (วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗) จึงไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์ โดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในข้อหาดังกล่าว ศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่าแม้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการ ไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิด อาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้สำหรับในส่วนที่ว่า คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลทหารกรุงเทพเห็นว่า ในข้อหาหมิ่นประมาทไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับรับฟ้องไว้พิจารณา จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง ไว้พิจารณาเฉพาะข้อหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จำเลยยื่นคำร้องและคำแถลงประกอบคำร้องว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหมวด ๑๐ เรื่องการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน และวินิจฉัยคดีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การดำเนินการต่อข้าราชการในหน่วยราชการ ของกระทรวงกลาโหมจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ฯ ฉบับนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ เอง ได้ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นในป้ญหาอำนาจฟ้องของโจทก์ด้วย โจทก์ยื่นคำร้องว่า ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ศาลยกคำร้องของจำเลย และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ต่อมา วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลยว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ ในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือ มีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้อง ของผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมายในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้ กรณีที่เป็นผู้เสียหายในความผิดอาญาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลย เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งได้จึงมี คำสั่งให้ยกคำร้องที่ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาคดี ต่อไป จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพว่าการที่ศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่ง ประทับฟ้องเฉพาะในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้น จำเลยเห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลใช้บังคับแก่คดีนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ โดยคำสั่งของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจ ศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้ วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจ ไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บทบัญญัติ ดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ขอให้ส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ความละเอียดของคำร้องและคำโต้แย้งคำร้องปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ (คำวินิจฉัยกลาง) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ มีป้ญหาต้องพิจารณาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเสนอต่อวุฒิสภาตามมาตรา ๓๐๕ (๒) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๓๐๘ (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการ ต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (๔) ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและ หนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา ๒๙๑ และมาตรา ๒๙๖ ตามบัญชีและเอกสารประกอบที่ได้ยื่นไว้ (๕) รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทุกปี และนำรายงานนั้นออกพิมพ์เผยแพร่ต่อไป (๖) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๑๔๖ และมาตรา ๒๖๕ มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย โดยอนุโลม” มาตรา ๓๐๘ “ในกรณีที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่น ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีอำนาจพิจารณาพิพากษา บทบัญญัติวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับกรณีที่บุคคลดังกล่าวหรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้หรือ ผู้สนับสนุนด้วย” มาตรา ๓๐๙ “ผู้เสียหายจากการกระทำตามมาตรา ๓๐๘ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อให้ดำเนินการตามมาตรา ๓๐๑ (๒) ได้ตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๓๐๕ วรรคหนึ่ง วรรคสี่ และวรรคหำ มาใช้บังคับโดยอนุโลม” พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ “ศาลมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ดังต่อไปนี้ (๑) คดีที่มีมูลแห่งคดีเป็นการกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่น ร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น (๒) คดีที่มีมูลแห่งคดีเป็นการกล่าวหาบุคคลตาม (๑) หรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้หรือ ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดทางอาญาตาม (๑) ฯลฯ” มาตรา ๒๓ “ผู้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้แก่ (๑) อัยการสูงสุด (๒) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการปฏิบัติตามมาตรา ๑๑” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่ จะใช้ได้” มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๖๖ “ในกรณีที่มีผู้เสียหายกล่าวหาว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่นร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ ตามกฎหมายอื่น ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. บทบัญญัติตามวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุนด้วย” มาตรา ๘๔ “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” พิเคราะห์แล้ว รัฐธรรมนูญได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติไว้รวม ๖ ประการดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๑ ที่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีนี้ได้บัญญัติไว้ ในมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ว่า “ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต” และเพื่อสอดรับกับรัฐธรรมนูญดังกล่าว พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ฯ ได้บัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับการกล่าวหา “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ไว้ในมาตรา ๘๔ ว่า “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหา ยื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” โดยที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา ๘๔ ดังกล่าว ไม่ได้เจาะจงว่าผู้เสียหายจะใช้สิทธิกล่าวหาได้แต่เฉพาะต้องผ่านทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อนำไปสู่ การไต่สวนและวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เท่านั้น แต่ผู้เสียหายจะใช้สิทธิ ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนก็ได้หาได้ตัดอำนาจผู้เสียหายที่จะไปใช้สิทธิฟ้องคดีได้เองไม่ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักทั่วไปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๘ (๒) โดยบัญญัติให้ผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้ด้วยตนเอง ต่างกับกรณี “ผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง” กระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๘ ซึ่งผู้เสียหายมีสิทธิเพียงยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อทำการไต่สวนข้อเท็จจริงและส่งความเห็นไปดำเนินคดียังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฯ มาตรา ๙ และมาตรา ๒๓ ที่บัญญัติให้สิทธิเฉพาะ (๑) อัยการสูงสุด และ (๒) คณะกรรมการ ป.ป.ช. เท่านั้นที่มีอำนาจฟ้อง การที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง นอกจากบัญญัติให้อัยการทหารเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาได้แล้วยังบัญญัติให้สิทธิ ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาได้ด้วยตนเอง อันเป็นไป ตามหลักการพื้นฐานของการคุ้มครองเยียวยาสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ทั้งบทบัญญัติมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มีผลใช้บังคับแก่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ซึ่งอยู่ในสถานะอย่างเดียวกันโดยเสมอกัน ในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ดังกล่าวจึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ส่วนพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ บัญญัติให้นำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้ โดยเฉพาะมาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา บัญญัติบังคับให้มีการไต่สวนมูลฟ้องในกรณีโจทก์ฟ้องด้วยตนเอง แสดงว่าแม้จะไม่ผ่านการไต่สวนหรือวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ศาลก็จะต้องทำการไต่สวน มูลฟ้องก่อนที่จะรับคำฟ้องไว้พิจารณา การไต่สวนมูลฟ้องของศาลนั้นมีหลักประกันการให้ความเป็นธรรม ในการต่อสู้คดีไม่แตกต่างกับการไต่สวนและวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นว่าพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ด้วย อาศัยเหตุดังได้พิจารณามา จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) นายจิระ บุญพจนสุนทร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายจุมพล ณ สงขลา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ความเป็นมาของเรื่องประกอบกับข้อเท็จจริงตามคำร้อง ข้อกฎหมาย ข้ออ้างของทุกฝ๋ายปรากฏใน คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พิเคราะห์แล้ว มีป้ญหาต้องวินิจฉัยตามคำร้องว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ข้อเท็จจริงรับฟ้งได้ยุติในเบื้องต้นว่า จำเลย (ผู้ร้อง) และโจทก์ (ผู้ถูกร้อง) ต่างเป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องผู้ร้อง ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท อันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหารกรุงเทพก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ของผู้ถูกร้องได้โดยชอบ ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ โดยไม่จำต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ เพียงประการเดียวเสียก่อนตามที่ผู้ร้องอ้าง เนื่องจากผู้เสียหาย มีสิทธิที่จะฟ้องคดีต่อศาลทหารได้เอง ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) หรืออาจมอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินคดีให้ก็ได้ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ และมาตรา ๘๙ เพราะมิได้มีบทบัญญัติใดบังคับว่า ผู้เสียหายจะต้องดำเนินคดีได้เฉพาะทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทางเดียวเท่านั้น กฎหมายที่สนับสนุนความข้อนี้คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๖ (๒) ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือที่ศาลพิพากษาหรือ มีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” ตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นการรับรองว่ามิได้ห้ามมิให้ผู้เสียหายฟ้องคดี ต่อศาลได้เอง และเมื่อศาลรับฟ้องแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ไม่มีอำนาจรับพิจารณาเรื่องของ ผู้กล่าวหาอีก พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงเป็นกฎหมายที่ใช้ในกรณีที่ ผู้เสียหายฟ้องคดีต่อศาลโดยตรง ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นบทบัญญัติที่ ใช้ในกรณีที่ผู้เสียหายกล่าวหาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ และมาตรา ๘๙ ซึ่งเป็นคนละเรื่องคนละกรณีกัน จึงไม่อาจขัดหรือแย้งกันตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง สำหรับกรณีของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ที่รับรองหลักความเสมอภาคกันในกฎหมาย และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันนั้น เห็นว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ผู้ร้องโต้แย้งนั้นศาลทหารกรุงเทพต้องนำบทบัญญัติดังกล่าวมาใช้ บังคับแก่คดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารกรุงเทพทุกคดีที่มีข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับคดีของผู้ร้อง ประกอบกับ หลักการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหารกรุงเทพก็มีหลักประกันการให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความ ไม่แตกต่างไปจากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. บทบัญญัติดังกล่าวจึงไม่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง อาศัยเหตุผลดังที่กล่าวมา จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มิได้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายจุมพล ณ สงขลา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลย เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลทหารกรุงเทพได้ส่งคำร้องของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร (จำเลย) เพื่อขอให้ศาล รัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องสรุปได้ว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ได้เป็นโจทก์ฟ้องพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร เป็นจำเลยต่อศาลทหารกรุงเทพในข้อหากระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท ซึ่งศาลทหารกรุงเทพได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าโจทก์ จำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้ พิจารณาเฉพาะข้อหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จำเลยยื่นคำร้องว่า คำสั่งให้ประทับฟ้อง ของศาลทหารกรุงเทพขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจ ศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลยดังกล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐได้เฉพาะในกรณีที่ มีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายร้องทุกข์หรือมี ผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๘๙ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยมิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของ ผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเอง จำเลยจึงเห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลทหารกรุงเทพใช้บังคับแก่คดีนี้ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เพราะทำให้จำเลย ไม่ได้รับความคุ้มครองในทางกฎหมายเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไปและเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม จึงขอให้ศาลทหารกรุงเทพรอการพิจารณาไว้ชั่วคราว และส่งความเห็นของจำเลยให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพพิจารณาแล้วเห็นว่า ความเห็นของจำเลยเป็นการโต้แย้งว่าพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับ บทบัญญัติดังกล่าว จึงให้ส่งความเห็นของจำเลยตามทางการ เพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยเบื้องต้นมีว่า จะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ได้หรือไม่ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ บัญญัติว่า “ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับ แก่คดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลรอการพิจารณา พิพากษาคดีไว้ชั่วคราว และส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคำโต้แย้งของคู่ความตามวรรคหนึ่งไม่เป็นสาระอันควรได้รับ การวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาก็ได้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้ได้ในคดีทั้งปวง แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงคำพิพากษา ของศาลอันถึงที่สุดแล้ว” พิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่า ประการที่หนึ่ง คำร้องของจำเลย มีสาระเป็นการโต้แย้งคำสั่งศาลทหารกรุงเทพ ที่สั่งประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาว่า ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ซึ่งบทบัญญัติที่สั่งประทับฟ้องดังกล่าวเป็นกระบวนการก่อนที่ศาลจะใช้ดุลพินิจหรือใช้อำนาจ ทางตุลาการในการวินิจฉัยคดีของศาลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๓ ซึ่งบัญญัติว่า “การพิจารณาพิพากษา อรรถคดีเป็นอำนาจของศาลซึ่งต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย และในพระปรมาภิไธย พระมหากษัตริย์” ประกอบกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘๑ วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า “ศาลทหารมีอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีอาญาทหารและคดีอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ” ซึ่งหมายถึงพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งให้ ประทับฟ้องตามที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ บัญญัติแล้ว การโต้แย้งของจำเลยถือเป็นการ โต้แย้งการกระทำทางตุลาการ ในการใช้ดุลพินิจสั่งคดีของตุลาการศาลทหารกรุงเทพที่นำพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหารฯ มาใช้บังคับแก่คดี แล้วจำเลยเห็นว่าไม่ต้องด้วยประเด็นแห่งคดีของตนที่เห็นว่า ควรจะนำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาใช้บังคับ อันเป็นการโต้แย้งว่าศาลใช้กฎหมายฉบับที่ไม่ถูกต้อง มิใช่เป็นการโต้แย้งว่าสาระของบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ ที่ศาลจะใช้บังคับแก่คดีต้องด้วยมาตรา ๖ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง อีกประการหนึ่ง กระบวนการในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เป็นกระบวนการ ระหว่างโจทก์ที่เป็นผู้เสียหายและศาลทหารกรุงเทพ จำเลยมิได้เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการไต่สวนมูลฟ้อง เป็นขั้นตอนที่ศาลจะตรวจสอบความน่าเชื่อของพยานหลักฐานโจทก์ในเบื้องต้น เพื่อวินิจฉัยถึงมูลคดี ที่จำเลยต้องหาว่าคดีมีมูลเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานต่อไป หมายความว่า ศาล จะพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์ว่า ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่โจทก์นำมาฟ้องนี้มีพยานหลักฐาน ที่พอจะเชื่อได้หรือไม่ว่ามีการกระทำความผิดจริงและน่าเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด ถ้าพอเชื่อได้ ว่าคดีมีมูลตามข้อกล่าวหาในฟ้อง ศาลก็จะสั่งว่าคดีมีมูลและประทับฟ้อง ถ้าไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อได้ ศาลก็จะสั่งว่าคดีไม่มีมูลและยกฟ้องโจทก์ สำหรับกรณีที่ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูลและ ประทับฟ้อง คำสั่งมีมูลดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๐ บัญญัติว่า “คำสั่งของศาลที่ให้คดีมีมูลย่อมเด็ดขาด ....” คือเป็นคำสั่งเด็ดขาดต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาเมื่อจำเลย ไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้ และจำเลยใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ แทนการอุทธรณ์ฎีกา จึงไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ที่ต้องการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ของประชาชน มิให้การบังคับใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายไปกระทำละเมิดหรือกระทบกระเทือนสิทธิ หรือเสรีภาพของประชาชนอันก่อให้เกิดความเสียหาย โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ตรวจสอบ ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย มิใช่เป็นช่องทางให้มีการโต้แย้งคำสั่งศาลที่ตนเห็นว่า ไม่ต้องตามประเด็นแห่งคดีของตนหรือต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกา นอกจากนี้หลักการของการไต่สวนมูลฟ้อง มิใช่การดำเนินกระบวนพิจารณาเต็มรูปแบบที่จะดำเนินการรับฟ้งพยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองฝ๋าย เป็นแต่เพียงศาลพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์เท่านั้นว่ามีหลักฐานพอเชื่อได้หรือไม่ว่าคดีที่กล่าวหา จำเลยกระทำความผิดมีมูล แม้จะไม่เปิดโอกาสให้จำเลยนำพยานเข้ามานำสืบพิสูจน์ แต่จำเลยอาจ ฟ้งการไต่สวนมูลฟ้อง โดยตั้งทนายความซักค้านพยานโจทก์ได้และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสาม บัญญัติว่า “....ก่อนที่ศาลประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะ เช่นนั้น” ซึ่งความประสงค์ของกฎหมายที่ให้มีการไต่สวนมูลฟ้อง ก็เพื่อจะกลั่นกรองคำฟ้องของโจทก์ โดยเฉพาะผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองว่า ได้นำคำฟ้องมายื่นโดยมีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ หากพิจารณาเหตุผลในการคุ้มครองสิทธิของจำเลยแล้ว การไต่สวนมูลฟ้องเป็นกระบวนการกลั่นกรองคดี ก่อนนำเข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นหลักการคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ที่จะไม่ถูกฟ้องโดยไม่มีหลักฐาน อันน่าเชื่อว่าเป็นผู้กระทำความผิด เพราะผู้ตกเป็นจำเลยต้องได้รับความเดือดร้อนจากการถูกจับ ขัง หรือประกันตัวในขั้นตอนของการพิจารณาคดี ประการที่สอง บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จำเลยโต้แย้งว่า ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นสาระหรือประเด็นหลักแห่งคดี และมีความจำเป็นที่จะได้รับ การวินิจฉัย โดยการวินิจฉัยของศาลขึ้นอยู่กับบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวถึงขนาดว่า หากศาลรัฐธรรมนูญ ไม่วินิจฉัยป้ญหาดังกล่าวก่อน การวินิจฉัยคดีของศาลนั้นอาจดำเนินต่อไปไม่ได้หรือถ้าหากบทบัญญัติ ของกฎหมายในเรื่องนั้นได้รับการวินิจฉัยว่าไม่อาจใช้บังคับได้จะมีผลทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดคดีนั้น เปลี่ยนแปลงไป อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้โต้แย้งในด้านการปกป้องหรือคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพหรือ บรรเทาความเสียหายที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายมากกว่าการโต้แย้งบทบัญญัติที่ไม่เป็นประเด็น ข้อพิพาทหลักแห่งคดี และไม่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้โต้แย้งแต่อย่างใด ซึ่งประเด็นข้อพิพาทหลักแห่งคดี ตามคำร้องมีว่าจำเลยกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือไม่จำเลยมิได้ยกบทบัญญัติดังกล่าวขึ้นอ้างว่า ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญอย่างใด การที่จำเลย โต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ให้อำนาจโจทก์ฟ้องคดีเองและให้อำนาจศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้อง จึงมิใช่ประเด็นข้อพิพาทหลักแห่งคดี แต่เป็นประเด็นเบื้องต้น หากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา และวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะไม่มีผลทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อพิพาทหลักแห่งคดี เปลี่ยนแปลงไป คงเป็นเพียงทำให้โจทก์ต้องไปใช้สิทธิยื่นคำกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. แทน และหากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าข้อกล่าวหามีมูลความผิดทางอาญาตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา ๙๑ (๒) ที่บัญญัติว่า “เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าข้อกล่าวหาใดไม่มีมูลให้ ข้อกล่าวหานั้นเป็นอันตกไป ข้อกล่าวหาใดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่ามีมูลความผิดให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ .... (๒) ถ้ามีมูลความผิดทางอาญา ให้ดำเนินการตามมาตรา ๙๗” ซึ่งมาตรา ๙๗ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่ข้อกล่าวหาใดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่ามีความผิดทางอาญา ให้ประธาน กรรมการส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด หรือฟ้องคดีต่อศาลกรณีผู้กล่าวหา เป็นอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี โดยให้ถือว่ารายงาน ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและ ให้ศาลประทับฟ้องไว้พิจารณาโดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง” การโต้แย้งของจำเลยเป็นเพียงความประสงค์ ที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ แทนการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหารกรุงเทพ โดยจำเลยเห็นว่ากระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้หลักประกันแก่จำเลย มากกว่า เพราะเป็นการไต่สวนโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย ดังนั้น เมื่อคำร้องนี้เป็นการโต้แย้งการกระทำ ทางตุลาการก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลและไม่ทำให้การวินิจฉัยประเด็นหลักแห่งคดีของ ศาลทหารกรุงเทพเปลี่ยนแปลงไปก็ถือว่าเป็นคำร้องที่ไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ วรรคสอง จึงวินิจฉัยไม่รับคำร้องไว้พิจารณา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากให้รับคำร้องไว้พิจารณา วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ จึงต้องวินิจฉัยประเด็นหลักแห่งคดีที่ว่าพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อ ทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพ ได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ฯลฯ (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ บัญญัติว่า “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับ ซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้” มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์ ฯลฯ” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลยโดย ข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้ว ให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย โดยรับรองหลักความเสมอภาคว่า บุคคลทุกคนย่อมมีความเสมอภาคกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญจะกระทำมิได้ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นบทบัญญัติที่มีเจตนารมณ์เพื่อให้คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์กรที่มีอำนาจในการตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ รวมทั้งป้องกันและปราบปรามการทุจริตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกัน หรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน โดยมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติถึงการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าจะดำเนินการเมื่อใดภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขใด ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ไต่สวนกรณีเจ้าหน้าที่ ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ความสะดวกในการ พิจารณาพิพากษาคดีทหารเสร็จเด็ดขาดไปโดยรวดเร็วซึ่งมาตรา ๔๕ เป็นบทบัญญัติที่ให้นำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาหรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม เพื่อเป็นการ อุดช่องว่างกรณีกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มิได้บัญญัติ เรื่องใดไว้เป็นการเฉพาะ และเพื่อประโยชน์ในการป้องกันมิให้มีบทบัญญัติที่ซ้ำซ้อนกันในกฎหมาย หลายฉบับ ส่วนบทบัญญัติมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งเป็นบทบัญญัติที่ให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้วแต่กรณีมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลาปกติได้ ซึ่งศาลทหารในเวลาปกติคือ ศาลทหารในเวลาที่ไม่มีการรบหรือการสงครามหรือประกาศใช้กฎอัยการศึก และบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีหลายประเภท เช่น นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ เป็นต้น ซึ่งบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร สามารถเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารได้ด้วยตนเอง โดยมิต้อง ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อผู้ใดรวมทั้งต้องเป็นการฟ้องคดีอาญาอันได้แก่คดีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญาและความผิดตามพระราชบัญญัติใด ๆ ซึ่งกำหนดให้มีโทษทางอาญา สำหรับประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) เป็นบทบัญญัติให้ศาลไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ราษฎร เป็นโจทก์ ซึ่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๕ บัญญัติให้นำมาใช้บังคับโดยอนุโลม บทบัญญัติมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เนื่องจาก มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นบทบัญญัติว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีอำนาจ ในการไต่สวนและวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวมิได้กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีสถานะเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการเช่นเดียวกับศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร การใช้ดุลพินิจ ในการสั่งรับฟ้องของศาลทหารจึงเป็นคนละส่วนไม่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) นอกจากนี้ศาลทหารและคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่างก็มีอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญและ กฎหมายกำหนด เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มิได้เป็นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการ แต่มีอำนาจในการสอบสวน ข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อเสนอองค์กรที่มีอำนาจดำเนินการต่อไป เขตอำนาจของศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ จึงไม่ไปขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญได้นอกจากนี้ แม้การไต่สวนมูลฟ้องของ ศาลทหารกรุงเทพจะห้ามจำเลยนำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม แต่จำเลยก็มีสิทธิมาฟ้งการ ไต่สวนมูลฟ้องหรือตั้งทนายซักค้านพยานโจทก์ รวมทั้งยังสามารถต่อสู้คดีในชั้นการพิจารณาของศาลได้ อีกประการหนึ่ง บทบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับเฉพาะบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ซึ่งบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารในกลุ่มเดียวกันและมีสถานะอย่างเดียวกัน จะได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกันและอย่างเท่าเทียมกัน ในการใช้บังคับกฎหมาย ส่วนบุคคลที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลทหารก็จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน ออกไป กล่าวคือ บุคคลที่มิได้อยู่ในอำนาจศาลทหารก็สามารถใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมที่มีอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีอาญาได้การจัดกลุ่มบุคคลต่าง ๆ เป็นไปเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมตามลักษณะ คู่ความและลักษณะของคดีไม่ถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่ขัดหรือแย้งต่อหลัก ความเสมอภาคหรือความไม่เท่าเทียมกัน จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง แต่อย่างใด โดยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายปรีชา เฉลิมวณิชย์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของผู้ร้อง ซึ่งเป็นจำเลย ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๖๔ ว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ ได้ความว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ได้ยื่นฟ้องพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นจำเลยต่อศาลทหารกรุงเทพในข้อหาความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ สรุปได้ว่าโจทก์ ยังไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่บัญญัติให้การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหา เป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโดยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการ จึงได้รับ ความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวและประกอบกับคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่ จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ที่บัญญัติห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหา ตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะเป็นเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว ดังนั้น จำเลยจึงขอให้ศาลทหารกรุงเทพยกฟ้องโจทก์ โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ คัดคำนคำร้อง จำเลยว่า ข้ออ้างของจำเลยไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติว่า เมื่อมีกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการแล้ว ผู้เสียหายจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ แต่เพียงประการเดียว ในทางตรงกันข้ามคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวได้จะต้องมีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน ทั้งนี้โดยนัยมาตรา ๔๓ และเมื่อพิจารณาตามมาตรา ๘๖ (๒) จะเห็นได้ว่า โจทก์ ไม่ได้ถูกบังคับตามกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิใช้ทางเลือกตามมาตรา ๘๖ (๒) เมื่อศาล รับฟ้องในประเด็นเดียวกันและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องปฏิบัติ ตามกฎหมายดังกล่าวให้ครบถ้วนก่อน ดังนั้น คดีนี้โจทก์ในฐานะผู้เสียหายตามกฎหมายจึงมีสิทธิที่จะเลือกดำเนินการตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายที่จำเลยอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา ๘๙ แล้ว บทบัญญัติ ดังกล่าวไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องต่อศาลโดยลำพังให้ ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเนื่องมาจากกระทำการตามมาตรา ๘๘ ให้ศาลต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายที่กล่าวอ้างต่อไป หรือไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ให้ศาลยกฟ้องโจทก์และ สั่งให้โจทก์ไปดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำที่ผิดกฎหมายของจำเลย โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ ประกอบพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ ที่บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” และมาตรา ๑๖ ที่บัญญัติว่า “บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร คือ (๑) นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ” โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและมีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีนี้และดำเนินคดีต่อจำเลยตามกฎหมาย ดังกล่าวได้ โจทก์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งไม่รับคำร้องของจำเลย นอกจากนี้คดีนี้อยู่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยยังไม่มีสิทธิดำเนินการอย่างใดนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนมูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการซึ่งต่างเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่า คดีมีมูลตามฟ้องโจทก์ หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยเสียก่อนว่าโจทก์ มีอำนาจฟ้องหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวน ข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและวินิจฉัยต่อไปว่า คดีโจทก์มีมูลบางข้อหา มีคำสั่งให้ ประทับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาที่มีมูล จำเลยยื่นคำร้องและคำแถลงต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ และวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ สรุปได้ว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพขัดต่อเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพได้มี คำพิพากษาวางแนวทางการฟ้องคดีในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไว้ในคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ แล้วว่า หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดดังกล่าว การไต่สวนและการวินิจฉัยในกรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริตฯ เมื่อไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว อัยการศาลทหารกรุงเทพจึงไม่มี อำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้อง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามบันทึก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ ๓๖๕ /๒๕๔๗ เรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ดังนั้น โดยนัยเดียวกันผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารย่อมไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการด้วย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยคดี กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยมิได้ยกเว้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทใดหรือบุคคลใด ดังนั้น เมื่อคดีนี้เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา ๑๙ (๓) การดำเนินการต่อข้าราชการในหน่วยราชการของกระทรวงกลาโหมที่กระทำความผิดจะต้องดำเนินการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โจทก์จึงไม่มี อำนาจนำคดีมาฟ้องเองได้ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ สรุปได้ว่า ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องไว้พิจารณาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญดังจำเลย อ้าง ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ขอให้ศาลยกคำร้องของจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณา ต่อไป ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลย เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ชี้ขาดป้ญหา ข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา ๔๓ ได้ เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และ ในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมาย ในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้ เมื่อเป็นผู้เสียหายตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะ ผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพตาม พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งได้อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน เพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องจำเลย และดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ต่อไป จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โต้แย้งว่า คำสั่งให้ ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน การที่ศาลทหารกรุงเทพวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหารยื่นฟ้อง จำเลยและศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องได้นั้น มีผลทำให้จำเลยไม่สามารถใช้สิทธิชี้แจง ข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐานหรือนำพยานบุคคลมาให้ปากคำประกอบคำชี้แจงตามมาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้อง คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บทบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และเมื่อยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติดังกล่าว จึงขอให้ ศาลทหารกรุงเทพรอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำร้องของจำเลยต้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาเบื้องต้นมีว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องนี้ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า ศาลทหารกรุงเทพได้ส่งคำโต้แย้งของผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลย ตามทางการให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย กรณีจึงเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีอำนาจรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่า ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องพิจารณาวินิจฉัยตามคำร้องมีว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้.... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับ ซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ เท่าที่จะใช้ได้” มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พิจารณาแล้ว เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ เป็นบทบัญญัติรับรองหลักความเสมอภาคของบุคคล โดยมีพื้นฐานมาจากหลักความเสมอภาคตามธรรมชาติที่ยอมรับว่า สิทธิและเสรีภาพของบุคคลนั้น เป็นสิทธิของป้จเจกชนที่มีความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกันทุกคน หลักความเสมอภาคของบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ จึงเป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน โดยให้ทุกคนมีความเสมอกันในกฎหมายและห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติอันทำให้เกิด ความไม่เสมอภาคแก่บุคคลที่เรียกว่า การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม แต่มิได้เป็นการห้ามโดยเด็ดขาด หากเป็นมาตรการเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาค โดยทำให้บุคคลสามารถใช้สิทธิ และเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมกระทำได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคสี่ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เป็นหลัก โดยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๑) ถึง (๖) และตาม (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งขณะป้จจุบัน คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ สำหรับพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) เป็นบทบัญญัติว่าด้วย วิธีพิจารณาความอาญาที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร โดยเป็นส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนพิจารณาของการ ไต่สวนมูลฟ้องในกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารประสงค์จะเป็นโจทก์ฟ้องให้ ดำเนินคดีกับจำเลยด้วยตัวเอง โดยกำหนดขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาลทหารไว้ในพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งว่า ให้อัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้วแต่กรณีมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลาปกติได้ แต่ถ้าผู้เสียหาย มิได้อยู่ในอำนาจศาลทหารต้องให้อัยการทหารเป็นผู้ฟ้อง โดยในส่วนของวิธีพิจารณาความคดีอาญาของศาลทหารนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๕ บัญญัติว่า ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่ได้บัญญัติไว้ก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม และ ถ้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติวิธีพิจารณาข้อใดไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้ ซึ่งกรณีตามคำร้องนี้ศาลทหารกรุงเทพนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาใช้บังคับ โดยปรับบทว่า ในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเองโดยลำพัง ให้ศาลทหารกรุงเทพ จัดการสั่งไต่สวนมูลฟ้องก่อน และเมื่อศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คำฟ้องมีมูล ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งประทับฟ้องคำฟ้องนั้นได้บทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวถือว่าเป็นบทบัญญัติ ที่อุดช่องว่างในการใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลทหารในกรณีที่ พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ ไม่ได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินการ ต่อไปได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังที่ปรากฏตามหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ ที่ว่า พระราชบัญญัตินี้ตราขึ้นใช้บังคับเพื่อความสะดวกในการใช้และความเหมาะสมกับความต้องการ ของทางราชการทหารที่ต้องการให้การพิจารณาพิพากษาคดีทหารเสร็จเด็ดขาดไปโดยรวดเร็ว บทบัญญัติมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๓๐๓ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ประเด็นที่ผู้ร้องโต้แย้งว่า การที่โจทก์ดำเนินคดีกับจำเลยซึ่งเป็นผู้ร้องและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต่อศาลทหารกรุงเทพและศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งประทับฟ้องตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) โดยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงก่อน เป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) นั้น พิจารณาแล้ว เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้การดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการหรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย เพื่อดำเนินการต่อไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการในกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ หมวด ๘ ว่าด้วยการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๓๐๘ ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมได้เฉพาะในกรณีที่มีการ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ เท่านั้น บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นกฎหมายเฉพาะที่ใช้บังคับในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรณีที่มีการร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยให้ผ่านการไต่สวนข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียก่อน แต่บทบัญญัติดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับถึงกรณีที่ผู้เสียหายประสงค์จะดำเนินคดีทางศาล โดยใช้สิทธิในฐานะเป็นผู้เสียหายฟ้องคดีด้วยตนเอง ซึ่งเห็นได้จากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๖ ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา .... (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องไว้ในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษา หรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” กล่าวคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตฯ ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเอกชนหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ประกอบกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง บัญญัติให้บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็น ข้อต่อสู้คดีในศาลได้ดังนั้น ผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อปรากฏว่าสิทธิและ เสรีภาพของบุคคลดังกล่าวถูกละเมิด ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีโดยฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจเพื่อให้ พิจารณาพิพากษาคดีได้ โจทก์ในคดีตามคำร้องนี้ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงสามารถเลือกที่จะดำเนินคดีโดย ให้ผ่านคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) หรือจะดำเนินคดีในฐานะผู้เสียหายต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาก็ได้ และเมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้อง ปรากฏว่า ผู้เสียหายและผู้ร้องต่างเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ได้แก่ศาลทหารกรุงเทพ อำนาจหน้าที่และวิธีพิจารณาคดีของศาลทหารเป็นคนละส่วนกันและไม่มี ความเกี่ยวข้องกันกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่อย่างใด ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องโต้แย้งว่า การที่ศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับฟ้อง คำฟ้องของโจทก์ตามที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บัญญัติไว้ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถได้รับการไต่สวนและวินิจฉัยจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อใช้สิทธิ ชี้แจงข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐานตามวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่เป็นบุคคลที่อยู่ใน อำนาจศาลทหาร จึงมีการเลือกปฏิบัติระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน ทำให้ผู้ร้องไม่ได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเสมอกันกับบุคคลอื่นตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งให้การรับรองไว้ บทบัญญัติดังกล่าวจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งนั้น ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า ในส่วนของวิธีพิจารณาคดีของศาลทหารกรุงเทพ ที่เกี่ยวกับการไต่สวนมูลฟ้องนั้น มีหลักประกันการให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยซึ่งเป็นผู้ร้องอยู่แล้ว กล่าวคือ การไต่สวนมูลฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มีหลักการสำคัญในการให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลย เนื่องจากการ ไต่สวนมูลฟ้องเป็นกระบวนการพิจารณาของศาลซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ใช้อำนาจตุลาการ ที่มีความเป็นกลางและมีความเป็นอิสระ โดยศาลจะพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานของโจทก์ ในเบื้องต้นว่า คดีมีมูลเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปหรือไม่ถ้ามีเพียงพอ ก็จะมีคำสั่งว่า คดีมีมูลและประทับฟ้อง หากเป็นพยานหลักฐานที่ไม่มีมูลเพียงพอศาลก็จะมีคำสั่งว่าคดีไม่มีมูลและ ยกฟ้องโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๗ ที่บัญญัติว่า “ถ้าปรากฏว่า คดีมีมูลให้ศาลประทับฟ้องไว้พิจารณาต่อไปเฉพาะกระทงที่มีมูล ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง” แม้ว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องของศาลจะห้ามมิให้จำเลยนำพยานมาสืบข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด ที่เป็นประเด็นหลักแห่งคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม แต่จำเลยย่อมมีสิทธิมาฟ้งและซักค้านพยานของโจทก์ ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสาม ว่า “ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ศาลมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจำเลย ให้ศาลส่งสำเนาฟ้องแก่จำเลย รายตัวไป กับแจ้งวันนัดไต่สวนให้จำเลยทราบ จำเลยจะมาฟ้งการไต่สวนมูลฟ้อง โดยตั้งทนายให้ซักค้าน พยานโจทก์ด้วยหรือไม่ก็ได้หรือจำเลยจะไม่มา แต่ตั้งทนายมาซักค้านพยานโจทก์ก็ได้ห้ามมิให้ศาล ถามคำให้การจำเลย และก่อนที่ศาลประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น” จึงกล่าวได้ว่าหลักการไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาของศาลมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการคุ้มครองจำเลย ไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งโดยการฟ้องคดีของโจทก์ และมิได้เป็นการตัดสิทธิในการต่อสู้คดีของจำเลยซึ่งเป็นผู้ร้อง ตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นการกลั่นกรองก่อนนำสู่การพิจารณาคดีอันเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลแล้ว ผู้ร้องในฐานะจำเลยจึงได้รับประโยชน์จากบทบัญญัติดังกล่าวในการคุ้มครองสิทธิยิ่งกว่า ที่จะเป็นการลิดรอนสิทธิหรือทำให้ไม่ได้รับความเท่าเทียมกันตามกฎหมายดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง การไต่สวน มูลฟ้องจึงเป็นวิธีพิจารณาความคดีอาญาที่ให้หลักประกันความเป็นธรรมแก่คู่ความโดยเฉพาะจำเลย ซึ่งเป็นผู้ร้อง เมื่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตไม่ได้บัญญัติให้รวมถึง กรณีที่ผู้เสียหายประสงค์ที่จะดำเนินคดีทางศาลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยลำพัง บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ว่าด้วยการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหาร จึงไม่ใช่กรณีที่ก่อให้เกิดความไม่เสมอภาค หรือไม่ให้ความคุ้มครอง แก่บุคคลตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกดำเนินคดีโดยศาลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ถูกไต่สวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่อย่างใด นอกจากนี้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ผู้ร้องโต้แย้งมีผลใช้บังคับเฉพาะบุคคลที่อยู่ในอำนาจของ ศาลทหาร ซึ่งบุคคลที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันและมีสถานะอย่างเดียวกัน ย่อมจะได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกันและอย่างเท่าเทียมกันในการใช้บังคับกฎหมาย สำหรับบุคคลที่ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป จึงเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ที่กำหนดกลุ่มบุคคลตามลักษณะของคู่ความและประเภทแห่งคดี เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมตามที่ รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติไว้ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฯ มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายปรีชา เฉลิมวณิชย์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายมงคล สระฏัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำโต้แย้งของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ในประเด็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยมีข้อเท็จจริงสรุปได้ดังนี้ ๑. พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อศาลทหารกรุงเทพตามคดีหมายเลขดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ ข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและ หมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ ๒. ต่อมาวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จำเลยยื่นคำร้อง สรุปความได้ว่า การที่โจทก์ฟ้องจำเลย หาว่าจำเลยกระทำผิดฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ นั้น โจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ และจำเลยเป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ดังนั้น จำเลยจึงขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์ โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในข้อหาดังกล่าวอีกต่อไป ๓. ต่อมาวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงจากการ ไต่สวนมูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่าคดีมีมูลตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัย คำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยเสียก่อนว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่ อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญา ต่อศาลทหารกรุงเทพได้ส่วนคดีโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งว่า คดีมีมูลเฉพาะในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นทหารขัดขืน หรือละเลยมิกระทำตามคำสั่งและข้อบังคับ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาทไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับรับฟ้อง ไว้พิจารณา จึงให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาที่มีมูล ๔. เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ จำเลยได้ยื่นคำร้อง สรุปว่า พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นกฎหมายพิเศษ ที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยกระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการในหน่วยราชการของกระทรวงกลาโหมจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเองตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้ ๕. วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพ สรุปว่า ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญดังจำเลยอ้าง ประกอบกับ รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้โจทก์นำคดีมาฟ้องต่อศาลเอง ๖. ต่อมา วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลย สรุปความได้ว่า ศาลได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยประกอบกับ คำร้องคัดค้านของโจทก์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ในส่วนที่เกี่ยวกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐาน ทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหาย ที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมายในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้ เมื่อเป็นผู้เสียหาย ตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง กรณีที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้น โดยยกอ้างคำพิพากษาศาลทหาร กรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ นั้น เห็นว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นการยกฟ้องโจทก์ ในเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของคณะกรรมการการสอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่จำเลยยกกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนเพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้จึงพร้อมกันมีคำสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ต่อไป ๗. เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพขอให้รอการ พิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ สรุปคำร้องได้ว่า เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพดำเนินการ ไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจเป็นโจทก์ ฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดต่อศาลทหารกรุงเทพ ตามมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ศาลมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้อง และได้มีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้นจำเลยเห็นว่า พระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลใช้บังคับแก่คดีนี้ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ โดยคำสั่งของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าว ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นการที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคล ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมี อำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ (๑) ซึ่งศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องในความผิดดังกล่าว ตามคำสั่งที่ ๑/๒๕๔๗ ของศาลทหารกรุงเทพ บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ขอให้ส่งคำโต้แย้งของจำเลย ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ๘. ศาลทหารกรุงเทพพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้รอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราวและให้ส่งคำโต้แย้ง ของจำเลยไปเพื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ข้อกฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ . . . (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมเพื่อ ดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้วต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์ มาตรา ๔๕ วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่ จะใช้ได้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลยโดย ข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ ได้พิเคราะห์แล้ว มีประเด็นวินิจฉัยในเบื้องต้นว่า ผู้ร้องมีสิทธิให้ศาลทหารกรุงเทพส่งคำโต้แย้ง มาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ หรือไม่ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมาย บังคับคดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้รอการพิจารณาพิพากษา ไว้ชั่วคราว และส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย” เห็นว่า กรณีตามคำร้องเป็นเรื่องที่ศาลทหารกรุงเทพส่งความเห็นของคู่ความ ซึ่งโต้แย้งว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลจะใช้บังคับแก่คดี ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัย จึงเป็นกรณีที่เข้าบทบัญญัติมาตรา ๒๖๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ผู้ร้องมีสิทธิให้ส่งคำร้องมาและศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยเรื่องนี้ได้ ประเด็นตามคำร้องที่ผู้ร้องโต้แย้งว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ เป็นบทบัญญัติรับรองว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย และได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกาย หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษา อบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนั้น กระทำมิได้ และรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ เป็นบทบัญญัติว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า มีอำนาจในการไต่สวน และวินิจฉัยโดยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีสถานะเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๓ บัญญัติให้ศาลมีอำนาจพิจารณา พิพากษาอรรถคดีซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย และในพระปรมาภิไธย พระมหากษัตริย์ เมื่อพิจารณาข้อโต้แย้งตามคำร้องเป็นเรื่องการกระทำทางตุลาการหรือกระบวนพิจารณา ของศาล ผู้ร้องโต้แย้งคำสั่งของศาลทหารกรุงเทพที่ยกคำร้องของจำเลยซึ่งโต้แย้งว่า โจทก์ไม่มีอำนาจ ฟ้องคดีได้เองโดยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อนว่า ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ซึ่งบทบัญญัติที่โต้แย้งเป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวกับอำนาจของ ศาลทหารในการพิจารณาสั่งกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีความประสงค์ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเอง โดยบัญญัติให้ศาลทหารต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อนสั่งประทับฟ้อง ซึ่งการสั่ง รับคำร้องของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวเป็นเรื่องการใช้ดุลพินิจของศาลทหาร เป็นการใช้อำนาจตุลาการ ที่จะวินิจฉัยคดีตามเขตอำนาจของตนที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติไว้ แม้ว่าผู้ร้องจะโต้แย้งว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลทหารกรุงเทพอาศัยอำนาจตามกฎหมายนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ผู้ร้องโต้แย้งเป็นกระบวนการนำไปสู่การใช้ดุลพินิจของศาลหรือการใช้ อำนาจตุลาการในการวินิจฉัยคดีของศาล ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ในมาตรา ๒๓๓ ว่า การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายและในพระปรมาภิไธย พระมหากษัตริย์ ประกอบกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ศาลทหารมีอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีอาญาทหารและคดีอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ (ซึ่งหมายถึงพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ และประมวลวิธีพิจารณาความอาญา) เมื่อศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งเป็นไปตามที่ กฎหมายบัญญัติแล้ว การโต้แย้งของผู้ร้องจึงเป็นการโต้แย้งเรื่องเขตอำนาจของศาลทหารกรุงเทพว่ามีอำนาจ พิจารณาคดีนี้หรือไม่ นอกจากนี้คำสั่งของศาลทหารกรุงเทพที่สั่งประทับฟ้องของโจทก์โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๔๕ และ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ (๑) นั้น เป็นกระบวนการในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายและศาลทหารกรุงเทพ ซึ่งการไต่สวนมูลฟ้องเป็นขั้นตอนที่ ศาลจะตรวจสอบความน่าเชื่อของพยานหลักฐานโจทก์ในเบื้องต้นว่า คดีนั้นจะมีมูลเพียงพอที่จะดำเนิน กระบวนพิจารณาสืบพยานต่อไป หรือไม่ซึ่งหมายความว่า ศาลจะพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์ว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำมาฟ้องนี้มีพยานหลักฐานที่พอจะเชื่อได้หรือไม่ว่ามีการกระทำความผิดจริงและ จำเลยน่าเชื่อว่าเป็นผู้กระทำความผิด ถ้าพอเชื่อได้ก็จะสั่งว่าคดีมีมูลและประทับฟ้อง ถ้าไม่มีหลักฐานที่ น่าเชื่อได้ศาลก็จะสั่งว่าคดีไม่มีมูล และพิพากษายกฟ้องโจทก์ แม้ว่ากรณีที่ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลประทับฟ้อง คำสั่งมีมูลดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๐ ถือเป็นคำสั่งเด็ดขาดต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งจำเลยไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งดังกล่าวได้ แต่การ ไต่สวนมูลฟ้อง มีหลักประกันในการให้ความเป็นธรรมในการต่อสู้คดีแก่จำเลย ไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง โดยการฟ้องคดีของโจทก์ ซึ่งคดีที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเสมอภาคกัน และเป็นคนละกรณีกับการดำเนินคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรที่มิได้ใช้อำนาจตุลาการ แต่เป็นองค์กรที่มีอำนาจสอบสวนคดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ดังนั้น บทบัญญัติของมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายมงคล สระฏัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายมานิต วิทยาเต็ม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม โจทก์ ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ซึ่งเป็น นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในข้อหาความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท ต่อมา จำเลยยื่นคำร้อง สรุปความได้ว่า โจทก์ยังไม่มี อำนาจฟ้อง เพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ด้วยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่ (วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗) จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ดังนั้น จำเลยจึงขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในข้อหาดังกล่าวอีกต่อไป ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง สรุปได้ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ สำหรับในส่วนที่ว่า คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลทหารกรุงเทพวินิจฉัยในข้อหาหมิ่นประมาทเห็นว่า ไม่มีมูล เพียงพอที่ศาลจะประทับฟ้องไว้พิจารณา จึงพร้อมกันมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะข้อหา กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จำเลยได้ยื่นคำร้อง สรุปความได้ว่า จำเลยเห็นว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพ ดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องการให้คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรม หรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกัน หรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพก็ได้มีคำพิพากษาวางแนวทาง เกี่ยวกับการฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไว้ในคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำ ที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพ สรุปได้ว่า ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องที่ชอบด้วย กฎหมายแล้ว การที่จำเลยอ้างคำพิพากษาของศาลทหารนั้น ในคดีนั้นมีข้อเท็จจริงแตกต่างกันและคดี ยังไม่ถึงที่สุด เพราะในคดีที่จำเลยอ้างเป็นเรื่องของการสอบสวนโดยคณะกรรมการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาใช่เป็นเรื่อง เกี่ยวกับการที่โจทก์ฟ้องเองไม่ดังนั้น โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ขอให้ศาลยกคำร้องของจำเลยและ ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งให้ยกคำร้องจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป จำเลยได้ยื่น คำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพขอให้รอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ สรุปคำร้องได้ว่า ศาลทหารกรุงเทพดำเนินการไต่สวน มูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ นั้น จำเลยเห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลใช้บังคับ แก่คดีนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ โดยคำสั่งของ ศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือ ศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น การที่ ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ และศาลทหารกรุงเทพ มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง จึงขอให้ส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้ดำเนินการตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ “มาตรา ๓๐ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อ ทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพ ได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม” “มาตรา ๓๒ บุคคลจะไม่ต้องรับโทษอาญา เว้นแต่จะได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้อยู่ ในเวลาที่กระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้นจะหนักกว่า โทษที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระทำความผิดมิได้” “มาตรา ๓๓ ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้น เสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” “มาตรา ๒๖๔ ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับแก่คดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือ คู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว และ ส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคำโต้แย้งของคู่ความตามวรรคหนึ่งไม่เป็นสาระอันควรได้รับ การวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาก็ได้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้ได้ในคดีทั้งปวง แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงคำพิพากษา ของศาลอันถึงที่สุดแล้ว” “มาตรา ๓๐๑ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเสนอต่อวุฒิสภาตามมาตรา ๓๐๕ (๒) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๓๐๘ (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (๔) ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและ หนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา ๒๙๑ และมาตรา ๒๙๖ ตามบัญชีและเอกสารประกอบที่ได้ยื่นไว้ (๕) รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทุกปี และนำรายงานนั้นออกพิมพ์เผยแพร่ต่อไป (๖) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๑๔๖ และมาตรา ๒๖๕ มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย โดยอนุโลม” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ “มาตรา ๑๖ บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร คือ (๑) นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ (๒) นายทหารชั้นสัญญาบัตรนอกประจำการ เฉพาะเมื่อกระทำผิดต่อคำสั่งหรือข้อบังคับ ตามประมวลกฎหมายอาญาทหาร (๓) นายทหารประทวนและพลทหารกองประจำการหรือประจำการ หรือบุคคลที่รับราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร (๔) นักเรียนทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด (๕) ทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจำการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ๋ายทหารได้รับตัวไว้เพื่อให้เข้ารับราชการ ประจำอยู่ในหน่วยทหาร (๖) พลเรือนที่สังกัดอยู่ในราชการทหาร เมื่อกระทำผิดในหน้าที่ราชการทหาร หรือกระทำผิด อย่างอื่นเฉพาะในหรือบริเวณ อาคาร ที่ตั้งหน่วยทหาร ที่พักร้อน พักแรม เรือ อากาศยาน หรือ ยานพาหนะใด ๆ ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝ๋ายทหาร (๗) บุคคลซึ่งต้องขังหรืออยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝ๋ายทหารโดยชอบด้วยกฎหมาย (๘) เชลยศึกหรือชนชาติศัตรูซึ่งอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝ๋ายทหาร” “มาตรา ๔๕ วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตาม กฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ เท่าที่จะใช้ได้” มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา “มาตรา ๑๖๒ ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ “มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมาย ว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ และให้หมายความรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือคณะบุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจ ทางการปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้น ในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ ฯลฯ “ผู้เสียหาย” หมายความว่า ผู้เสียหายจากการกระทำอันเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวย ผิดปกติ การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น “ผู้ถูกกล่าวหา” หมายความว่า ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาหรือมีพฤติการณ์ปรากฏแก่คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่า ได้กระทำการอันเป็นมูลที่จะนำไปสู่การถอดถอนจาก ตำแหน่ง การดำเนินคดีอาญา การขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือการดำเนินการทางวินัย ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้หมายความรวมถึงตัวการ ผู้ใช้หรือ ผู้สนับสนุนในการกระทำดังกล่าวด้วย ฯลฯ” “มาตรา ๘๖ ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา (๑) เรื่องที่มีข้อกล่าวหาหรือประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยเสร็จ เด็ดขาดแล้ว และไม่มีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งคดี หรือ (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษา หรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” การพิจารณาและคำวินิจฉัย คำร้องมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยผู้ร้อง ถูกโจทก์ผู้เสียหายฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพ โดยโจทก์ฟ้องเองในฐานะผู้เสียหาย ศาลทหารกรุงเทพพิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์ จำเลย และ ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามฟ้อง เป็นบุคคลและคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีด้วยตนเองต่อศาลทหารได้ตามที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการศาลทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา ...” ศาลทหารกรุงเทพได้ทำการไต่สวน มูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จำเลยผู้ร้อง โต้แย้งและขอให้ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ ของรัฐ การที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยในฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จะต้องมีการไต่สวนและ วินิจฉัยโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและดำเนินการตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเสียก่อน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) การที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บัญญัติให้ผู้เสียหายมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองและให้ศาลทหารมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องและประทับฟ้อง ในคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) พิจารณาแล้ว รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ บัญญัติว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ “... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวย ผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ...” พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไว้หลายกรณีเพื่อให้สอดรับกับบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญมาตราอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๕ เกี่ยวกับการถอดถอนบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๓ ออกจากตำแหน่ง รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๘ เกี่ยวกับการดำเนิน คดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเกี่ยวกับการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๙๑ ถึงมาตรา ๒๙๖ ในส่วนของมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งเป็นบทบัญญัติให้คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ไต่สวนวินิจฉัยเพื่อดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้น เห็นว่าก่อนที่จะมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญฉบับป้จจุบัน ผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการมีสิทธิฟ้องผู้กระทำความผิดด้วยตนเองต่อศาลที่มีเขตอำนาจ หรือร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำ ความผิดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิด หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงาน อัยการในคดีที่ตนเป็นผู้เสียหายได้การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติขึ้นมาอีกหน่วยงานหนึ่ง เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญก็เพื่อให้การป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต และการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงไม่อาจแปลได้ว่า การให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ในการไต่สวนและวินิจฉัยดำเนินคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มีผลเป็นการตัดสิทธิของ ผู้เสียหายในการที่จะฟ้องผู้กระทำละเมิดต่อตน การร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ จึงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งเพื่อผู้เสียหายอาจเลือกใช้ได้หรือผู้เสียหายจะเลือก ดำเนินการทางศาลด้วยตนเองโดยไม่พึ่งพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและโดยไม่พึ่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ก็ย่อมกระทำได้ เช่นเดียวกัน และนอกจากนี้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๖ (๒) ห้ามมิให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติรับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ขึ้นพิจารณาในเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเด็ดขาดแล้ว ซึ่งบทบัญญัติมาตรานี้ แสดงอยู่ในตัวว่า มีคดีฟ้องร้องต่อศาลโดยผู้เสียหายไม่จำต้องยื่นคำกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติก่อน สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเท่าเทียมกันนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่าในกรณีรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จะต้องตกอยู่ใน สภาพบังคับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะไต่สวนวินิจฉัยและดำเนินการ ตามกฎหมาย การดำเนินการเช่นนี้โดยสภาพมิใช่สิทธิของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดแต่อย่างใด และ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุกคนก็ตกอยู่ในสภาพบังคับ ตามรัฐธรรมนูญมาตรานี้เสมอกัน ในทางกลับกันสิทธิของผู้เสียหายต่างหากที่จะต้องได้รับความคุ้มครอง เสมอไม่ว่าผู้กระทำละเมิดต่อตนจะเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปหรือจะเป็นบุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตาม การที่ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลทหารโดยตรงซึ่งต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงมิได้เป็นการปฏิบัติโดยไม่เสมอกันต่อผู้กระทำ ความผิด และมิได้กระทบต่อความคุ้มครองตามกฎหมายที่ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจะต่อสู้คดี ในศาลและได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิดก่อนมีคำพิพากษา อันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มิได้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายมานิต วิทยาเต็ม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายศักดิ์ เตชาชาญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลยเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลย ( พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร ) ในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ ของศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริงตามคำร้องสรุปได้ว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ได้ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร ซึ่งป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นจำเลย ต่อศาลทหารกรุงเทพ ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท เพื่อขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ( ฉบับที่ ๑๑ ) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพในคดีดังกล่าวว่า โจทก์มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่บัญญัติให้การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ต้องให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการจึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว และเป็นคดีฟ้องใหม่จึงไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ ( ๒ ) ที่บัญญัติ ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะเป็นเรื่องที่ศาล รับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่ง เสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ศาลทหารกรุงเทพยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องไต่สวน มูลฟ้องโจทก์ในข้อหาดังกล่าว ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลทหารกรุงเทพพิจารณาแล้ว เห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคล ตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้ ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมี ผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ ( ๑ ) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และวินิจฉัยว่า ในข้อหาฐานหมิ่นประมาทเห็นว่าไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับฟ้องไว้พิจารณา ส่วนในข้อหาความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยยื่นคำร้องโต้แย้งว่า การที่ศาลทหารกรุงเทพวินิจฉัยและมีคำสั่งว่าผู้เสียหายมีอำนาจ ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลทหารกรุงเทพได้และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้อง เป็นการขัดต่อ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยมีผลทำให้จำเลยไม่สามารถใช้สิทธิชี้แจงตามมาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ได้เช่นเดียวกับ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่เป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหารเพราะในการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหารต้องนำ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) มาบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ซึ่งมีผลให้จำเลยไม่มีสิทธินำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และศาลทหารมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสอง และวรรคสาม ทำให้จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองในทางกฎหมายเท่าเทียมกับ บุคคลอื่นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำบทบัญญัติ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ประกอบประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) มาวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องและ ศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้นั้น บทบัญญัติ ดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ขอให้ศาลทหารกรุงเทพส่งคำโต้แย้งของจำเลยให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ซึ่งศาล ทหารกรุงเทพได้รอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งดังกล่าวมาตามทางการเพื่อให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้ดำเนินการตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณา ของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๒ วรรคหนึ่ง และรับไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ตามคำร้องคงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดี ให้อัยการทหารเป็นโจทก์ ” และมาตรา ๔๕ บัญญัติว่า “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหาร ก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้” ในส่วนของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นั้น มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา ( ๒ ) ฯลฯ ” สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและ ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน” และมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต .... ฯลฯ ” ข้อโต้แย้งตามคำร้องของจำเลยมีว่า การที่ศาลทหารกรุงเทพอาศัยบทบัญญัติมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) วินิจฉัยและมีคำสั่งว่า โจทก์หรือผู้เสียหาย มีอำนาจฟ้องต่อศาลทหารกรุงเทพและศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้อง นั้น บทบัญญัติแห่ง กฎหมายดังกล่าว เป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) และ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง พิจารณาแล้ว เห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติที่ให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเองได้ โดยมาตรา ๔๕ บัญญัติให้วิธีพิจารณาของศาลทหารใช้กฎหมายฝ๋ายทหาร กรณีถ้าไม่มีให้นำประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม อันเป็นเรื่องวิธีพิจารณาของศาลทหารและการใช้ ดุลพินิจของศาลทหาร ซึ่งเป็นการกระทำทางตุลาการหรือการใช้อำนาจทางตุลาการที่จะวินิจฉัยคดี ตามอำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๓ ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) เป็นบทบัญญัติว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่ามีอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยโดยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีสถานะเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการ เช่นเดียวกันกับศาลรัฐธรรมนูญ อำนาจของศาลตามกฎหมายว่าด้วยเขตอำนาจศาลจึงไม่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญได้ดังนั้น การใช้ดุลพินิจในการสั่งรับฟ้องของศาลทหารโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติที่ผู้ร้องโต้แย้งจึงเป็น คนละส่วนกัน ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) แต่อย่างใด สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นั้น เป็นบทบัญญัติรับรองหลักความเสมอภาคว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองในกฎหมายเท่าเทียมกัน ตามคำร้องที่อ้างว่า การที่โจทก์นำคดีไปฟ้องต่อศาลทหารกรุงเทพและศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งรับฟ้อง ทำให้ผู้ร้อง หรือจำเลยไม่ได้รับการไต่สวนและวินิจฉัยจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) เพื่อใช้สิทธิชี้แจงข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐานประกอบได้เช่นเดียวกันกับ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่เป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหาร ทำให้ผู้ร้องหรือจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครอง ในทางกฎหมายเสมอกันกับบุคคลอื่นตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งให้การรับรองไว้นั้น บทบัญญัติที่ผู้ร้องหรือจำเลยโต้แย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาด้วยตนเองตามมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ โดยมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว บัญญัติให้วิธีพิจารณาของ ศาลทหารใช้กฎหมายฝ๋ายทหารบังคับ กรณีถ้าไม่มีให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับ โดยอนุโลม และตามมาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้บัญญัติไว้ว่าในคดีที่ราษฎรหรือผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องเอง ให้ศาลไต่สวนมูลฟ้องก่อนสั่งประทับฟ้อง ซึ่งบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กล่าวมาใช้บังคับในคดีทุกคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องคดีโดยเสมอกัน เพื่อเป็นการคุ้มครองจำเลยมิให้ถูกกลั่นแกล้งฟ้องคดีโดยไม่มีมูลความผิดข้อโต้แย้งที่ว่าบทบัญญัติ ดังกล่าวทำให้โจทก์มีสิทธิเลือกฟ้องต่อศาลทหารหรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำให้มีการเลือกปฏิบัติ ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันนั้น จึงไม่อาจรับฟ้งได้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ผู้ร้องหรือจำเลยโต้แย้ง จึงไม่มีป้ญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีเนื้อหาสาระที่ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับเป็นการทั่วไป ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมและไม่มี ข้อความใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง อาศัยเหตุผลดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง ( ๑ ) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง ( ๓ ) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายศักดิ์ เตชาชาญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายสุธี สุทธิสมบูรณ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ข้อเท็จจริงโดยสรุป พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ ฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร เป็นจำเลย ต่อศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ ข้อหากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและ หมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลย จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม โจทก์ มีอำนาจฟ้องในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้หรือไม่ และศาลทหาร กรุงเทพพิจารณาคำร้องและมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย โดยวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มิได้มีบทบัญญัติให้ตัดอำนาจฟ้องของ ผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาด้วยตนเองตามที่กฎหมายในส่วนวิธีสบัญญัติให้อำนาจไว้ ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ โจทก์ในฐานะผู้เสียหาย จึงมี อำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพได้ตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง จำเลยยื่นคำร้องโต้แย้งคำสั่งศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวข้างต้นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เนื่องจากขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหา ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกันหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ศาลทหารกรุงเทพพิจารณาแล้วเห็นว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จำเลยโต้แย้ง เป็นบทบัญญัติ แห่งกฎหมายที่ศาลจะใช้บังคับแก่คดีและยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงส่งข้อโต้แย้งของจำเลย ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาและมีมติ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๔๘ ให้รับคำร้องไว้ดำเนินการ ตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๒ วรรคหนึ่ง และมีมติ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัย คือ พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติไว้ดังนี้ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจ หน้าที่ดังต่อไปนี้.... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ บัญญัติไว้ดังนี้ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตาม กฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ เท่าที่จะใช้ได้” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บัญญัติไว้ดังนี้ มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) (๒) ในคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าเห็นสมควรจะสั่ง ให้ไต่สวนมูลฟ้องก่อนก็ได้ ฯลฯ” พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งต้องมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) และเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับ คำกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง ผลการไต่สวนข้อเท็จจริง ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าข้อกล่าวหาใดไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหานั้นเป็นอันตกไป ข้อกล่าวหาใด ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่ามีมูลความผิด ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ (๑) ถ้ามีมูลความผิดทางวินัย ให้ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอีก และ (๒) ถ้ามีมูลความผิดทางอาญาให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี โดยให้ถือว่า รายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และให้ศาลประทับฟ้อง ไว้พิจารณาโดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ถึง มาตรา ๙๗ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าว เป็นขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลการกระทำความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ซึ่งผลการไต่สวนชี้มูลความผิด ทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังกล่าว ต้องส่งให้อัยการฟ้องคดีต่อศาล และศาลประทับฟ้อง ไว้พิจารณาโดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๘๔ ถึง มาตรา ๙๗ ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต ฯ โดยเฉพาะมาตรา ๘๖ วรรคหนึ่ง (๒) บัญญัติห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า กระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ขึ้นพิจารณา ในเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือที่ศาล พิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว ซึ่งบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ไม่มีข้อห้ามมิให้ผู้เสียหายใช้สิทธิฟ้อง คดีอาญาต่อศาล ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติอำนาจฟ้องคดีอาญาในศาลทหาร ในเวลาปกติ และมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ที่บัญญัติเกี่ยวกับวิธีพิจารณา ความอาญาของศาลทหารทั้งสองมาตราดังกล่าวไม่มีประเด็นที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เพราะข้าราชการทหาร ภายใต้พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ส่วนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ที่บัญญัติให้ไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ เพื่อกลั่นกรองให้ความเป็นธรรมแก่โจทก์และ จำเลยก่อนที่ศาลจะรับฟ้องคดีอาญานั้น การที่โจทก์ใช้สิทธิดำเนินคดีอาญาด้วยตนเองโดยไม่เสนอเรื่อง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางอาญาก่อนส่งเรื่องให้อัยการฟ้องคดี ต่อศาล ซึ่งการฟ้องคดีอาญาของโจทก์ต้องผ่านขั้นตอนการไต่สวนมูลฟ้องของศาลก่อนตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรมของโจทก์ในฐานะ ผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาลด้วยตนเอง และไม่มีกฎหมายห้ามโจทก์ช้สิทธิฟ้องคดีอาญา ต่อศาล แม้คดีนั้นจะอยู่ในเขตอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงไม่มีประเด็นที่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวน ข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดในคดีอาญา และไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เพราะบุคคลที่เป็นจำเลยในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเอง กฎหมายบัญญัติให้ศาลไต่สวนมูลฟ้อง ก่อนประทับฟ้อง และการใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาล ไม่ถือว่าเป็นการขัดต่อหลักความเสมอภาคแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายสุธี สุทธิสมบูรณ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ พลตำรวจเอก สุวรรณ สุวรรณเวโช ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของจำเลย (พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร) เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ข้อเท็จจริง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลยในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ สรุปข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบได้ดังนี้ ๑. พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม โจทก์ ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท โจทก์จึงยื่นคำฟ้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ ๒. ต่อมา วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จำเลยยื่นคำร้อง สรุปความได้ว่า การที่โจทก์ฟ้องจำเลย หาว่าจำเลยกระทำผิดฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ นั้น โจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ และคำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงาน ในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องถิ่น และให้หมายความรวมถึง กรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือ คณะบุคคล ซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใด อย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ” โดยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ดังนั้น จำเลยจึงขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ในข้อหาดังกล่าวอีกต่อไป ๓. ต่อมา วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งในชั้นการไต่สวนมูลฟ้อง สรุปได้ว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนมูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่าคดีมีมูล ตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลย เสียก่อนว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจ ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและมีคำสั่งว่า “คู่ความเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร และคดีมีมูลเฉพาะในข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสาร อันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ตามข้อหาข้อ ๓.๑ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นทหารขัดขืน หรือ ละเลยมิกระทำตามคำสั่งและข้อบังคับตามฟ้องข้อ ๓.๒ และข้อ ๓.๓ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาทนั้น โจทก์มิได้นำสืบให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าข้อความใดเป็นข้อความที่จำเลยหมิ่นประมาทอันทำให้โจทก์ ได้รับความเสียหายถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังอย่างไร ดังนั้นในข้อหาหมิ่นประมาทตามฟ้องข้อ ๓.๔ เห็นว่า ไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับรับฟ้องไว้พิจารณาจึงพร้อมกันมีคำสั่งดังนี้ ให้ประทับฟ้อง ไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาตามที่โจทก์ฟ้องข้อ ๓.๑ ข้อ ๓.๒ และข้อ ๓.๓ ส่งสำเนาฟ้องและหมายเรียก จำเลยมาให้การในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา” ๔. เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ จำเลยได้ยื่นคำร้อง สรุปความได้ว่า ในชั้นไต่สวน มูลฟ้องจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องในคดี ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการซึ่งศาลวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้นั้น จำเลยเห็นว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของ ศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องการให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกัน หรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพก็ได้มีคำพิพากษาวางแนวทางเกี่ยวกับการฟ้อง คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไว้ในคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ แล้วว่า “หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดดังกล่าว การไต่สวนและการวินิจฉัย ในกรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจะต้องดำเนินการให้เป็นไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เมื่อ ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว อัยการศาลทหารกรุงเทพจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และพิพากษายกฟ้อง” ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาตามบันทึกสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ฯ โดยนัยเดียวกันผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารย่อมไม่มี อำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วย เนื่องจากเป็นป้ญหากฎหมาย เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย จำเลยจึงขอให้ศาลได้โปรดวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า โจทก์มี อำนาจฟ้องหรือไม่ก่อนดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำแถลงประกอบคำร้อง ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โดยอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหมวด ๑๐ ว่าด้วยการตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยคดี กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การดำเนินการต่อข้าราชการในหน่วยงานราชการของ กระทรวงกลาโหมจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องเองตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารเองได้ ๕. วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพ สรุปได้ว่า ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญดังจำเลยอ้าง ประกอบกับ รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ก็ไม่มีบทบัญญัติมิให้โจทก์นำคดีมาฟ้องต่อศาลเอง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง รับรองไว้การที่จำเลยอ้างคำพิพากษาของศาลทหารนั้น ข้อเท็จจริงแตกต่างกันและคดียังไม่ถึงที่สุด เพราะในคดีที่จำเลยอ้างเป็นเรื่องการสอบสวนไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาใช่เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเองไม่ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ขอให้ศาลยกคำร้องของจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ๖. ต่อมา วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งคำร้องของจำเลย สรุปความได้ว่า ศาลได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยประกอบกับ คำร้องคัดค้านของโจทก์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิ ในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมายในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้ เมื่อเป็นผู้เสียหาย ตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็น นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่งได้ กรณีที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้น โดยยกอ้างคำพิพากษา ศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ นั้น เห็นว่า คำพิพากษาดังกล่าว เป็นการยกฟ้องโจทก์ในเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เช่นเดียวกับความเห็นของ คณะกรรมการกฤษฎีกาที่จำเลยยกกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง โจทก์จึงมีอำนาจ ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ จึงพร้อมกันมีคำสั่งให้ยกคำร้องจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ต่อไป ๗. เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพขอให้รอ การพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ สรุปคำร้องได้ว่า เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพดำเนินการไต่สวน มูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง จำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพ ตามมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ การที่ศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจ ไต่สวนมูลฟ้องและได้มีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ นั้น จำเลย เห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลใช้บังคับแก่ คดีนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ โดยคำสั่งของ ศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็น องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการจึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อ ศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งศาลทหารกรุงเทพไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่ง ให้ประทับฟ้องในความผิดดังกล่าว ตามคำสั่งที่ ๑/๒๕๔๗ ของศาลทหารกรุงเทพ บทบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง จึงขอให้ส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ข้อกฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๒๖๔ “ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับคดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือ คู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวและ ส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคำโต้แย้งของคู่ความตามวรรคหนึ่งไม่เป็นสาระอันควรได้รับ การวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาก็ได้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้ได้ในคดีทั้งปวง แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงคำพิพากษา ของศาลอันถึงที่สุดแล้ว” มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจ หน้าที่ดังต่อไปนี้..” (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้วต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตาม กฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ เท่าที่จะใช้ได้” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) คดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” ประเด็นที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ คำวินิจฉัย กรณีนี้ศาลทหารกรุงเทพได้ส่งคำโต้แย้งของผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยในคดีที่โต้แย้งว่า พระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ศาลทหารกรุงเทพใช้บังคับแก่คดี ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และยังไม่มี คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ประกอบกับศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่ง ให้รอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว พิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติรับคำร้องนี้ไว้ดำเนินการและพิจารณาวินิจฉัยตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณา ของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๒ ตามข้อเท็จจริงจำเลยในคดีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐได้โต้แย้งว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดี ด้วยตนเองต่อศาลทหารกรุงเทพ และศาลทหารกรุงเทพก็ย่อมไม่มีอำนาจรับฟ้องของโจทก์ในข้อหา ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็น องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตาม กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น เมื่อศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการ จึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดดังกล่าวได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จำเลยเป็นคู่กรณีในศาลทหารกรุงเทพได้โต้แย้งว่า โจทก์ไม่มีสิทธินำคดีขึ้นฟ้องต่อศาลโดยตรงได้ โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การที่ศาลทหารกรุงเทพนำบทบัญญัติ ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาใช้พิจารณาและมีคำสั่งในคดี จึงขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง พิจารณาแล้วมีความเห็นดังนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นบทบัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจ หน้าที่ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฯลฯ เพื่อดำเนินการ ไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พิจารณาบทบัญญัติมาตรา ๙๑ และมาตรา ๙๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการเมื่อไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า ข้อกล่าวหาใดมีมูลความผิดทางอาญาให้ส่งรายงานเอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาคดี โดยให้ถือว่า รายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเมื่อพิจารณามาตรา ๘๖ ประกอบมาตรา ๘๔ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ที่บัญญัติว่า การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมิใช่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่น กระทำผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ ให้ผู้กล่าวหายื่นเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และห้าม มิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการขึ้นพิจารณาในเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกันและอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล อีกทั้ง มาตรา ๘๘ แห่งพระราชบัญญัตินี้ก็บัญญัติไว้ว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับคำกล่าวหาเช่นนี้ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำผิดดังกล่าว ให้ดำเนินการไต่สวนตามหมวด ๔ ว่าด้วยการไต่สวน ข้อเท็จจริงแห่งพระราชบัญญัตินี้ จึงเห็นได้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง แล้วมีความเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฯลฯ อันเป็นความผิดอาญาหรือไม่ เพื่อส่งเรื่องให้อัยการฟ้องศาลต่อไป หรือให้ข้อกล่าวหานั้นตกไป หากเห็นว่าไม่มีมูลความผิดแล้วแต่กรณี เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งรัฐธรรมนูญ ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีมีผู้เสียหาย กล่าวหาซึ่งต้องยื่นข้อกล่าวหาเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงจะมี อำนาจหน้าที่ไต่สวนข้อเท็จจริง แล้วมีมติว่าข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่หากมีมูลก็ส่งเรื่องให้อัยการฟ้องศาล ต่อไป หรืออีกกรณีหนึ่งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการก็ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงได้เช่นกัน อันเป็นกระบวนการเช่นเดียวกับ การสอบสวนของพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รายงานการไต่สวน ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็คือสำนวนการสอบสวน ซึ่งศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้องเมื่ออัยการ ยื่นฟ้องต่อศาล เมื่อพิจารณารัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง ที่บัญญัติว่า บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อใช้สิทธิทางศาลได้ประกอบกับ กระบวนการดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๘ และมาตรา ๓๔ บัญญัติให้สิทธิผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีอาญาเองได้ แม้เป็นความผิดที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน ไปแล้วและอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีก็ตาม จึงเห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญได้ให้สิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐละเมิดสิทธิ และเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ได้ ๒ ทาง คือบุคคลผู้ถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพนั้นสามารถนำคดี ขึ้นสู่ศาลหรือฟ้องศาลด้วยตนเองได้หรืออีกทางหนึ่งก็คือยื่นข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อส่งอัยการฟ้องศาลได้ และถึงแม้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนแล้วมีมติว่า ยังไม่มีมูลก็ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายตัดสิทธิของผู้เสียหายมิให้นำคดีขึ้นสู่ศาลเอง อีกได้แต่อย่างใด เมื่อบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือโจทก์มีสิทธิและเสรีภาพในการนำคดีขึ้นสู่ศาลเองได้ตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง และรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) มิได้จำกัดสิทธิ และเสรีภาพในกรณีนี้หรือบัญญัติห้ามมิให้บุคคลฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อศาลในคดีอาญาไว้ด้วย ซึ่งเป็น บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่สอดคล้องกัน ดังนั้น เมื่อศาลทหารกรุงเทพนำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาใช้พิจารณาพิพากษาหรือบังคับแก่คดีตามอำนาจหน้าที่ ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๓ และมาตรา ๒๔๙ บัญญัติ อีกทั้งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับ เป็นการทั่วไปโดยเสมอกัน ไม่เลือกปฏิบัติและไม่เจาะจงใช้กับกรณีใดกรณีหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะ จึงเป็นบทบัญญัติที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่งแล้ว ประกอบกับข้อความตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่มีข้อความใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง แต่อย่างใด ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง พลตำรวจเอก สุวรรณ สุวรรณเวโช ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำร้องของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร ผู้ร้อง ซึ่งเป็นจำเลยในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ๑. พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ผู้ร้อง เป็นจำเลย ต่อศาลทหารกรุงเทพ ว่า ผู้ร้องกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ ๒. ต่อมา วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลย ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ ว่า โจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่บัญญัติว่า “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหา เป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” โดยเหตุที่ผู้ร้องเป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ ดังนั้น จึงขอให้ ศาลทหารกรุงเทพยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้อง ๓. เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อศาลทหารกรุงเทพ ว่า เมื่อโจทก์ ได้รับความเสียหายจากการกระทำโดยผิดกฎหมายของผู้ร้อง โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ ประกอบพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้ อัยการทหารเป็นโจทก์” และมาตรา ๑๖ ที่บัญญัติว่า “บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร คือ (๑) นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ” โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและมีอำนาจฟ้องผู้ร้องในคดีนี้ ๔. ต่อมา วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวน มูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และผู้ร้องเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่าคดีมีมูลตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัย คำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของผู้ร้องเสียก่อนว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณี ที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องผู้ร้องว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ ๕. เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องในคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องผู้ร้องในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญา ต่อศาลทหารได้นั้น ผู้ร้องเห็นว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ใน อำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกันหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ๖. ต่อมาวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ผู้ร้องได้ยื่นคำแถลงเพิ่มเติมประกอบคำร้องต่อ ศาลทหารกรุงเทพ ว่า แม้พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ กำหนดให้สิทธิผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาก็ตาม แต่เมื่อพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญ มีเจตนารมณ์ให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัย ตลอดจนดำเนิน คดีอาญาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งปวงที่กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม โดยมิได้ยกเว้นให้แก่เจ้าหน้าที่ ของรัฐประเภทใดหรือบุคคลใด ดังนั้น เมื่อคดีนี้เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนี้การดำเนินการต่อข้าราชการในหน่วยราชการของกระทรวงกลาโหมที่กระทำความผิด จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำคดีที่เกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการมาฟ้องเองได้ ป้ญหาว่า คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โจทก์มีสิทธิเลือกใช้กฎหมายโดยเลือก ฟ้องคดีเองตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ โดยไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๔ หรือมาตรา ๘๙ ได้หรือไม่ เห็นว่า ไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้สิทธิผู้เสียหายที่จะเลือกใช้กฎหมาย เนื่องจากไม่ถูกต้องด้วยหลัก การใช้กฎหมาย กฎหมายจะขาดสภาพการบังคับใช้ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิเลือก ๗. เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ได้ยื่นคำร้องคัดคำนคำแถลงของผู้ร้องว่า คดีนี้ศาล ได้วินิจฉัยชี้ขาดป้ญหาเบื้องต้นในป้ญหาประเด็นข้อนี้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง และมีคำสั่งประทับฟ้องไว้พิจารณาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญดังผู้ร้องอ้าง เพราะรัฐธรรมนูญก็ดี หรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ก็ดี มิได้บัญญัติตัดสิทธิโจทก์ไม่ให้นำคดีมาฟ้องต่อศาลเองเลย ๘. ต่อมา วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งว่า ศาลได้วินิจฉัยคำร้อง ขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยประกอบกับคำร้องคัดค้านของโจทก์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และ ในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะได้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมาย ในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้เมื่อเป็นผู้เสียหายตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติไว้ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และผู้ร้องเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องผู้ร้องในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพได้ ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ๙. เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ ว่า พระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลใช้บังคับแก่คดีนี้ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) จึงขอให้ศาลทหาร กรุงเทพรอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของผู้ร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ๑๐. ศาลทหารกรุงเทพได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ บัญญัติว่า ในการที่ศาล จะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับแก่คดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งว่า บทบัญญัติ แห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่ เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว และส่งความเห็นเช่นว่านั้น ตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย และเนื่องจากตามคำร้องของผู้ร้องยังไม่มีคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ บัญญัติไว้ดังนั้น จึงส่งเรื่องให้ศาล รัฐธรรมนูญพิจารณาตามคำร้องของผู้ร้องก่อน พิเคราะห์แล้ว ผู้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ ... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” มาตรา ๔๕ “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้ บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่ จะใช้ได้” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลยโดย ข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” ตามคำร้องของผู้ร้อง ผู้ร้องโต้แย้งว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องผู้ร้องได้เองโดยไม่ผ่านคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ซึ่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) นั้น เป็นบทบัญญัติ เกี่ยวกับอำนาจของศาลทหารในการพิจารณาสั่งกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร มีความประสงค์เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเอง โดยบัญญัติให้ศาลทหารต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อนสั่งประทับฟ้อง เป็นกระบวนการในชั้นไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหารซึ่งเป็นเรื่องระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายและ ศาลทหารกรุงเทพ การไต่สวนมูลฟ้องนี้เป็นขั้นตอนที่ศาลจะตรวจสอบความน่าเชื่อของพยานหลักฐานโจทก์ ในเบื้องต้นว่า คดีนั้นจะมีมูลเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานต่อไป หรือไม่ ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) นั้น เป็นบทบัญญัติให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะทำการไต่สวนและวินิจฉัยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จะเห็นได้ว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) นั้น เป็นวิธีดำเนินคดี ในศาลทหาร ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นวิธีดำเนินคดีในการพิจารณาไต่สวน และวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวคือ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ของศาลทหารกับการไต่สวนและวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมิได้มีความผูกพันหรือเกี่ยวข้องกันเลย จึงไม่อาจขัดหรือแย้งกันได้ ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติรับรองว่า บุคคลย่อมเสมอกัน ในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองในกฎหมายเท่าเทียมกัน ผู้ร้องอ้างว่า การที่โจทก์นำคดีไปฟ้อง ต่อศาลทหารกรุงเทพและศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งรับฟ้อง ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถได้รับการไต่สวนและ วินิจฉัยจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นเหตุให้ผู้ร้อง ไม่ได้รับความคุ้มครองในทางกฎหมายเสมอกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น นั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ มีผลใช้บังคับเฉพาะบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ของศาลทหารเท่านั้น ซึ่งบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันและมีสถานะอย่างเดียวกัน ก็จะได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกันและอย่างเท่าเทียมกันในการใช้บังคับกฎหมาย สำหรับบุคคลที่ไม่อยู่ ในอำนาจของศาลทหารก็จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ใช่ทหาร หากเป็นบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดทางอาญา โดยบุคคลที่มิได้อยู่ในอำนาจศาลทหารและประสงค์ดำเนินคดีด้วยตนเอง ก็ใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมได้ และศาลยุติธรรมก็มีอำนาจรับฟ้องได้หากศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล จึงกล่าวได้ว่า กฎหมายได้จัดกลุ่มบุคคลไว้โดยเฉพาะตามลักษณะและประเภทของคู่ความของแต่ละระบบศาลไว้แล้ว โดยพิจารณาจากประเภทของบุคคลที่เป็นคู่ความและลักษณะประเภทแห่งคดี อันเป็นการคุ้มครองสิทธิ และบรรเทาความเสียหายของผู้เสียหายให้ได้รับการเยียวยาโดยองค์กรตุลาการ การจัดกลุ่มบุคคลต่าง ๆ เป็นไปเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมตามลักษณะคู่ความและลักษณะของคดีตามที่รัฐธรรมนูญและ กฎหมายบัญญัติไว้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ ศาสตราจารย์ ดร.เสาวนีย์ อัศวโรจน์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพ ส่งคำร้องของจำเลย (พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร) เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ด้วยศาลทหารกรุงเทพ ส่งคำร้องของจำเลย (พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร) เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ๑. สรุปข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบสรุปความได้ดังนี้ พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ได้ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร ซึ่งเป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วยปฏิบัติราชการ ที่สำนักงานสงเคราะห์ทางกฎหมาย กรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวหาว่า ระหว่างที่พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร รับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการโรงเรียนเหล่าทหาร พระธรรมนูญ กรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และต่อมาได้รับการปรับย้าย ไปดำรงตำแหน่งตุลาการพระธรรมนูญ ประจำสำนักตุลาการทหาร กรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม และหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทางกฎหมาย กรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม ตามลำดับนั้น พันเอก จาตุภัทร ฯ ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกองการกำลังพล กรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่ง และได้กระทำความผิดหลายกรรม ต่างกัน ดังนี้ เมื่อระหว่างวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ ถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๕ พันเอก จาตุภัทร ฯ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับทำเนียบประวัติ บัตรประจำตัว การเกษียณอายุ การย้ายประเภท การเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล การตรวจสอบเวลาราชการและสถิติเกี่ยวกับกำลังพลและกรรมวิธี ข้อมูลกำลังพล ด้วยเครื่องจักรคำนวณ ดำเนินการตรวจสอบทำเนียบประวัติตุลาการได้รับเอกสารหนังสือรับรองผล การปฏิบัติงานของโจทก์ไว้ตามหน้าที่แล้ว และมีหน้าที่ต้องรักษาไว้ซึ่งเอกสารดังกล่าว แต่พันเอก จาตุภัทร ฯ มิได้กระทำตามหน้าที่ดังกล่าว แต่ได้ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ เป็นเหตุให้ไม่มีเอกสารหนังสือรับรองผลการปฏิบัติงานของโจทก์ เพื่อบันทึกลงในประวัติสมุด ลงทะเบียนประวัติรับราชการทหารอันเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายจากการ ไม่ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (๒) เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๔ พันเอก จาตุภัทร ฯ ใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจหน้าที่เจตนากลั่นแกล้งโจทก์ด้วยการไม่พิมพ์ชื่อโจทก์ลงไปในบัญชีแผนปรับย้ายดังกล่าว ทั้งที่พันเอก จาตุภัทร ฯ ทราบว่าโจทก์ มีลำดับอาวุโสชั้นยศ พันโท อยู่ในลำดับที่ ๒ ตามระเบียบ กระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการทหาร พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย มิได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในอัตราพันเอก การกระทำของพันเอก จาตุภัทร ฯ เป็นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ต้องเสียอาวุโสในการที่จะ ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งครองยศสูงขึ้นในโอกาสต่อ ๆ ไป (๓) เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๔๔ พันเอก จาตุภัทร ฯ ใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่เสนอชื่อโจทก์ให้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในอัตราพันเอกไม่เสนอ หนังสือรับรองผลการปฏิบัติหน้าที่ราชการของศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุดและ ไม่เสนอผลการศึกษาของโจทก์ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทให้คณะกรรมการพิจารณาการปรับย้าย ของกรมพระธรรมนูญพิจารณาทำให้โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรมีอาวุโสชั้นยศพันโท ในอันดับที่ ๒ ต้องเสียอาวุโสไป (๔) เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ พันเอก จาตุภัทร ฯ ใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจหน้าที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปรับย้ายตุลาการพระธรรมนูญต่อเจ้ากรมพระธรรมนูญ โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ ว่า โจทก์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่มิได้เป็นหลักสูตรทางด้านกฎหมาย ที่ต้องนำไปใช้กับเหล่าทหารพระธรรมนูญโดยตรง โจทก์เป็นผู้มีความประพฤติไม่เหมาะสมแก่ การดำรงตำแหน่งตุลาการพระธรรมนูญ (อัตราพันเอก) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่างอยู่ความสามารถและ ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของโจทก์ยังไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งสูงขึ้น การกระทำ ของพันเอก จาตุภัทร ฯ ดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากมิได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความต่อ เจ้ากรมพระธรรมนูญว่า โจทก์มีความประพฤติไม่เหมาะสมแก่การดำรงตำแหน่ง ทำให้โจทก์ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ ด้วยเหตุต่าง ๆ ดังกล่าว โจทก์ จึงยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขอให้ลงโทษ พันเอก จาตุภัทร ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ และประมวลกฎหมาย อาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ พันเอก จาตุภัทร ฯ จำเลย ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ซึ่งมีเนื้อหาสรุปความได้ว่า การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ นั้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากโจทก์มิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่กำหนดว่า “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหา เป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” และคำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องถิ่น และ ให้หมายความรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือคณะบุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐในการ ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือ กิจการอื่นของรัฐ” โดยเหตุที่จำเลยเป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จึงไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ที่ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตาม มาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะว่า มีข้อกล่าวหาหรือประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยเสร็จ เด็ดขาดแล้ว และไม่มีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งคดี หรือเรื่องที่ศาลรับฟ้องใน ประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว แต่เป็นกรณีที่ต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเนื่องจากโจทก์มิได้ดำเนินการทาง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์โดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้องในข้อหาดังกล่าวต่อไป ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อศาลทหารกรุงเทพ ในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ แถลงคัดค้าน คำร้องจำเลย สรุปได้ว่า คำร้องจำเลยเป็นการกล่าวอ้างบทกฎหมายอย่างฟ้นเฝือ เนื่องจากไม่มีบท มาตราใดตามกฎหมายที่จำเลยอ้างบัญญัติว่า เมื่อมีกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการแล้ว ผู้เสียหายต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เพียงประการเดียวก่อนแต่ข้อกฎหมายกลับเป็นไปใน ทางตรงกันข้าม คือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามกฎหมายดังกล่าวได้ ต้องมีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน ทั้งนี้โดยนัยมาตรา ๔๓ และเมื่อพิจารณา บทบัญญัติมาตรา ๘๖ (๒) ที่ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา ...(๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณา ของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว...” โจทก์จึงไม่ถูกบังคับตามกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิใช้ทางเลือกตามมาตรา ๘๖ (๒) นอกจากนั้น เมื่อพิจารณามาตรา ๘๙ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แล้ว ในกรณีที่ราษฎรเป็นผู้เสียหายฟ้องคดีอาญาโดยลำพังกฎหมายดังกล่าวจะต้องบังคับไว้ในทำนองเดียวกันว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องศาลโดยลำพังให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเนื่องมาจากได้กระทำการตามมาตรา ๘๘ จะต้องกำหนดให้ศาลส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวต่อไป หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องกำหนดว่า ให้ศาลยกฟ้องโจทก์และสั่งให้โจทก์ ไปดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว แต่กรณีนี้ไม่มีกฎหมายระบุไว้เช่นว่านั้น ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดกฎหมายของจำเลย โจทก์จึงมีสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ ประกอบกับพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ใน อำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าเป็นผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” และมาตรา ๑๖ ที่บัญญัติว่า “บุคคลที่อยู่ใน อำนาจศาลทหาร คือ (๑) นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ” โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและมีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีนี้ โจทก์จึงขอให้ศาล มีคำสั่งไม่รับคำร้องของจำเลย ต่อมาในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องสรุปได้ ดังนี้ โจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างอยู่ในอำนาจของศาลทหาร และเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา ๔๓ ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้อง ของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใดไม่ เมื่อโจทก์เป็น นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ ส่วนคดีโจทก์มีมูลหรือไม่นั้น เห็นว่าคดีมีมูลเฉพาะข้อหาเป็นเจ้าพนักงานทำให้เสียหาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะ ปกครองหรือรักษาไว้ และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นทหารขัดขืน หรือละเลย มิกระทำตามคำสั่งและข้อบังคับ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาท เห็นว่าไม่มีมูลเพียงพอที่จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณาและส่งสำเนาฟ้องและ หมายเรียกจำเลยมาให้การในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๗ จำเลยได้ยื่นคำร้องในวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๘ สรุปความได้ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และต่อมาได้ยื่นคำแถลงเพิ่มเติมด้วยเหตุผลต่าง ๆ รวมทั้งเหตุผลที่ว่า คำสั่งของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าว ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะอยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกันหรือกลั่นแกล้งกัน คือ จะฟ้องคดีกันเองมิได้แต่ต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับ ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพวินิจฉัยว่า ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหารยื่นฟ้องจำเลยและศาลทหารมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องได้มีผลทำให้จำเลย ไม่สามารถใช้สิทธิชี้แจงข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐานหรือนำพยานบุคคลมาให้ปากคำประกอบคำชี้แจง ตามมาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ได้เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่เป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหาร เพราะในการไต่สวนมูลฟ้องของศาลทหาร ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ซึ่งมีผลให้จำเลยไม่มีสิทธินำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และ ศาลทหารมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสอง และวรรคสาม ทำให้จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองในทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันกับบุคคลอื่น ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ที่ให้ศาล มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มาใช้วินิจฉัยว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้อง คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ได้บทบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติดังกล่าว จึงขอให้ศาลทหารกรุงเทพ รอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพ เห็นว่าคำโต้แย้งของ พันเอก จาตุภัทร ฯ จำเลย มีสาระสำคัญอันควร ได้รับการพิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากตามคำร้องของจำเลยยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและ มีหลักเกณฑ์ต้องตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ บัญญัติไว้จึงให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา วินิจฉัยตามคำร้องของจำเลยก่อน ๒. การดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ตรวจคำร้องแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รับไว้ดำเนินการตามข้อกำหนดของศาล รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๒ วรรคหนึ่ง เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๔๘ พร้อมทั้งให้แจ้งให้ศาลทหารกรุงเทพ เพื่อทราบ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มี คำสั่งให้รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ๓. ประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยและคำวินิจฉัย พิเคราะห์แล้ว มีป้ญหาต้องพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ซึ่งมีหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเสนอต่อวุฒิสภาตามมาตรา ๓๐๕ (๒) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๓๐๘ (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ บัญญัติว่า “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหาร มาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้ โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้” มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้วต้องมอบคดีให้ อัยการทหารเป็นโจทก์” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้ว ให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ... ฯลฯ” พิจารณาบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง แล้ว เห็นว่าเป็นบทบัญญัติที่มีขึ้น โดยมีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลว่าต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน จะมีการปฏิบัติต่อบุคคลให้แตกต่างกัน เพราะเหตุต่าง ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ ไม่ได้กล่าวคือ ให้บุคคลใดมีสิทธิหรือมีเสรีภาพหรือได้รับการคุ้มครองที่แตกต่างกันมิได้ การที่ประเทศไทยต้องมีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่รับรองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ก็เพราะประเทศไทยเป็นนิติรัฐ คือ รัฐที่ยอมตนอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย ซึ่งรัฐเป็นผู้ตราขึ้นเอง และในประการที่สำคัญในกฎหมายรัฐธรรมนูญของรัฐที่เป็นนิติรัฐจะต้องมีบทบัญญัติถึงสิทธิและ เสรีภาพของประชาชนและการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนนั้น ต้องให้การคุ้มครองทางกฎหมาย ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จะคุ้มครองบุคคลให้แตกต่างกันมิได้ แม้บุคคลจะมีความแตกต่างกันเพราะเหตุต่าง ๆ เช่น เพศ อายุ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคมก็ตาม สำหรับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ เป็นเรื่องการกำหนดอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยให้มีอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ คือ อำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และการปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ เช่น ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต แต่การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการในคดีใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการที่มีผู้เสนอเรื่องนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการและต้องเป็นไปตาม หลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ในการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ นักการเมืองว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมนั้น ผู้กล่าวหาต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีหลักเกณฑ์และรายละเอียดที่กำหนด คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงจะรับ คำกล่าวหาขึ้นพิจารณาได้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ และมาตรา ๘๕ แต่ก็มิได้บัญญัติบังคับว่าหาก มีกรณีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจะต้องดำเนินการต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เท่านั้น ผู้เสียหายจะดำเนินการต่าง ๆ เช่นฟ้องคดีด้วยตนเองมิได้ สำหรับพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ เป็นบทบัญญัติที่ให้นำกฎหมายต่าง ๆ มาใช้บังคับกับการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาลทหารเพื่ออำนวยความสะดวกในการพิจารณา กล่าวคือ ให้นำกฎหมายและข้อบังคับ ซึ่งออกโดยฝ๋ายทหารมาใช้บังคับกับวิธีพิจารณาความคดีอาญา ของทหาร แต่ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎ และข้อบังคับของฝ๋ายทหาร ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม นอกจากนั้นหากไม่มีบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญาในเรื่องนั้นก็ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่ใช้ได้ ส่วนมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ของกฎหมายดังกล่าวนี้บัญญัติถึงอำนาจฟ้องของผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร สามารถเป็นโจทก์ฟ้องเองได้ แต่ถ้าไม่อยู่ในอำนาจศาลทหารต้องให้อัยการทหาร เป็นโจทก์ ส่วนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) เป็นบทบัญญัติ ที่ให้มีการไต่สวนมูลฟ้องในกรณีที่ราษฎรเป็นโจทก์ แต่ถ้าอัยการได้ฟ้องจำเลยในข้อหาอย่างเดียวกัน ด้วยก็ไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าศาลเห็นสมควรจะให้ไต่สวนมูลฟ้องก่อนก็ได้ เมื่อพิจารณาบทบัญญัติของพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จะเห็นได้ว่า ในการฟ้องคดีและการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีอาญาในศาลทหารนั้นย่อมเป็นไปตาม พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร คือ ถ้าเรื่องใดมีบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับศาลทหารบัญญัติ ไว้ก็เป็นไปตามนั้น แต่ถ้าไม่มีกฎหมายทหารบัญญัติไว้ก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้บังคับ และถ้าไม่มีบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาก็ให้นำบทบัญญัติ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ ซึ่งในเรื่องการสอบสวนนั้นให้นายทหารพระธรรมนูญ หรืออัยการทหารมีอำนาจสอบสวน เว้นแต่เข้ากรณียกเว้นและในการฟ้องคดีนั้น ถ้ามิได้ฟ้อง โดยอัยการแต่ฟ้องโดยผู้เสียหายต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องก่อน เว้นแต่อัยการได้ฟ้องคดีนั้นแล้วก็ไม่ต้อง ไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อพิจารณาข้อโต้แย้งของผู้ร้องที่ระบุว่าศาลทหารกรุงเทพไม่มีอำนาจพิจารณาคดีเพราะโจทก์ ไม่มีอำนาจฟ้องคดีได้เอง เนื่องจากเป็นเรื่องการกล่าวหาว่าจำเลยซึ่งเป็นทหารกระทำผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการซึ่งต้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ดำเนินการ การที่ศาลทหารกรุงเทพรับฟ้องและ ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) มาใช้บังคับนั้นกระทำมิได้ เพราะบทบัญญัติเหล่านั้นเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง แล้วเห็นได้ว่า ข้อโต้แย้งของผู้ร้องไม่อาจรับฟ้งได้ เนื่องจากพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ เป็นเรื่องวิธีพิจารณาคดีของศาลทหาร และการใช้ดุลพินิจของศาลทหาร ในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาลทหาร การที่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาได้เอง ตามที่พระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ บัญญัติให้ใช้วิธีพิจารณาคดีของศาลทหาร ใช้กฎหมายทหารบังคับ แต่ถ้าไม่มีกฎหมายดังกล่าวให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาบังคับโดยอนุโลม และหากไม่มีบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้ใช้บทบัญญัติ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และการที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บัญญัติให้ศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ ก่อนศาลประทับรับฟ้องนั้น เป็นบทบัญญัติ ของกฎหมายซึ่งใช้บังคับกับกลุ่มบุคคลทุกคนที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารที่กระทำการอย่างเดียวกัน โดยเสมอกัน และให้ความคุ้มครองแก่บุคคลเหล่านั้นทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และการที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ บัญญัติถึงอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็มิได้บังคับว่า หากมีป้ญหาเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แล้วจะต้องดำเนินการทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. เท่านั้น ผู้เสียหายจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้จะเป็นบุคคลบางประเภท เช่น ข้าราชการทหาร และผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดจะเป็นทหารด้วยกัน ก็มิได้ถูกบังคับว่าจะเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองมิได้ดังนั้น หากมีการฟ้องคดี โดยผู้เสียหายซึ่งอยู่ในเขตอำนาจ ของศาลทหาร และศาลทหารใช้ดุลพินิจในการรับฟ้องและดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลทหาร อันเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) แล้ว ก็สามารถกระทำได้บทบัญญัติต่าง ๆ ดังกล่าวไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ศาสตราจารย์ ดร.เสาวนีย์ อัศวโรจน์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายอภัย จันทนจุลกะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ศาลทหารกรุงเทพส่งคำโต้แย้งของจำเลยเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ กรณีพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลทหารกรุงเทพส่งคำโต้แย้งของพันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลยในคดีดำที่ ๓๒/๒๕๔๗ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ สรุปข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบได้ว่า พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร จำเลย ซึ่งเป็น นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ประจำกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อศาลทหาร กรุงเทพ ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท เพื่อขอให้ลงโทษตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ แต่จำเลยยื่นคำร้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ยังมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ด้วยเหตุที่ จำเลยเป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่ (วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗) จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ดังนั้น จำเลยจึงขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์ โดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในข้อหาดังกล่าวอีกต่อไป ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องกรณีที่ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์และจำเลย เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการซึ่งต่างเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและก่อนที่จะได้วินิจฉัย ว่าคดีมีมูลตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้น ของจำเลยเสียก่อนว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมี อำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๖๖ (มิใช่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือ ข้าราชการการเมือง) ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้ ในกรณีที่มีการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๘๙ อย่างไรก็ดี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ไม่ได้ตัดอำนาจ ฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใด เมื่อโจทก์ เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) และมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและ หมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ส่วนที่ว่า คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลทหาร กรุงเทพวินิจฉัยในข้อหาหมิ่นประมาทแล้วเห็นว่า ไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะประทับรับฟ้องไว้พิจารณา จึงพร้อมกันมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะข้อหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ต่อมาจำเลย (ผู้ร้องในคดีนี้) ได้ยื่นคำร้องว่า การที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้นั้น จำเลยเห็นว่า คำสั่ง ให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรม หรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกันหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพก็ได้เคยมีคำพิพากษาวางแนวทาง เกี่ยวกับการฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไว้แล้วในคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาตามบันทึก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ โดยนัยเดียวกันผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ย่อมไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วย นอกจากนี้จำเลย ได้ยื่นคำแถลงประกอบคำร้องโดยอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หมวด ๑๐ ว่าด้วยการตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัย คดีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฉะนั้นการดำเนินการต่อข้าราชการในหน่วยราชการของ กระทรวงกลาโหมจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจ ฟ้องได้เองตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลทหารกรุงเทพว่า รัฐธรรมนูญประกอบพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้โจทก์นำคดีมาฟ้อง ต่อศาลเอง ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง รับรองไว้ให้กระทำได้การที่จำเลยอ้างคำพิพากษา ของศาลทหารดังกล่าว ในคดีที่อ้างนั้นมีข้อเท็จจริงแตกต่างกันและคดียังไม่ถึงที่สุด เพราะเป็นคดีที่จำเลยอ้าง เรื่องของการสอบสวนโดยคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่โจทก์ฟ้องเอง ดังนั้น โจทก์จึงมี อำนาจฟ้องจำเลย และที่ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ดังจำเลยอ้าง ศาลทหารกรุงเทพได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยประกอบกับ คำร้องคัดค้านของโจทก์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และ ในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่กฎหมาย ในส่วนวิธีสบัญญัติให้อำนาจไว้ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ในฐานะผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพ ได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง สำหรับกรณีที่จำเลยยื่นคำร้อง ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้น โดยยกอ้างคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีดำที่ ๕๒/๒๕๔๗ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ นั้น เห็นว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นการยกฟ้องโจทก์ในเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวน ของคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต ฯ เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จำเลยยกกล่าวอ้าง ซึ่งเป็น คนละเรื่องกับที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน แต่ประสงค์จะดำเนินคดีเองโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ศาลทหารกรุงเทพจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยและ ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพขอให้รอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลย ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ เนื่องจากการที่ศาลทหารกรุงเทพ ดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ นั้น จำเลยเห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาล ใช้บังคับแก่คดีนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ โดยคำสั่ง ของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการจึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญในการประชุมเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๔๘ มีคำสั่งให้รับคำร้องไว้ดำเนินการ ตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๑๒ วรรคหนึ่ง และเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ได้มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ มีประเด็นตามคำร้องที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและ เสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิป้กษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเท่าเทียมกัน” มาตรา ๒๘๑ บัญญัติว่า “ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทหารและคดีอื่นตามที่ กฎหมายบัญญัติ การแต่งตั้งและการให้ตุลาการศาลทหารพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) ... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการ ต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ บัญญัติว่า “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำ ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” มาตรา ๘๖ บัญญัติว่า “ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา (๑) ... (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษา หรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” มาตรา ๔๕ บัญญัติว่า “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับ ซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ เท่าที่จะใช้ได้” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่ง ต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ บัญญัติรับรองให้บุคคลมีความเสมอกันในกฎหมาย และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ วรรคสอง บัญญัติให้ บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้ และรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทหารและคดีอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลาปกติได้ และมาตรา ๔๕ บัญญัติว่า วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหาร มาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารดังกล่าวก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้ บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้ การที่พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ บัญญัติไว้ดังกล่าวทำให้ในกรณีที่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลาปกติ และไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ที่บัญญัติว่า ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ให้ศาลจัดการสั่ง ให้ไต่สวนมูลฟ้อง มาใช้บังคับแก่คดี การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ร้องในคดีนี้ได้ส่งคำโต้แย้งมายังศาลรัฐธรรมนูญโดยอ้างเจตนารมณ์และ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ที่บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กร ตามรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน กรณีที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญ ศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมี อำนาจฟ้องจำเลยได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จำเลยจึงเห็นว่า บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นั้น เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนและวินิจฉัย ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเพื่อดำเนินการต่อไป ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) มิได้จำกัดหรือห้ามมิให้ผู้เสียหายซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐฟ้องคดีอาญาต่อศาลที่มีเขตอำนาจได้ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ บัญญัติรับรองไว้ และมิได้บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนและวินิจฉัยในทุกกรณีที่มีการ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๖ (๒) ก็บัญญัติห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกันและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้วขึ้นพิจารณาอีก เมื่อพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ในส่วนที่บัญญัติให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลทหารในเวลาปกติได้ และมาตรา ๔๕ ในส่วนที่บัญญัติให้นำประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้ในกรณีที่ไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมาย ฝ๋ายทหารใช้บังคับประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ที่บัญญัติให้ศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ และไม่ได้บัญญัติให้ข้าราชการทหาร ที่ถูกฟ้องคดีอาญาเป็นจำเลยเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยตรงต่อศาลทหาร ให้ต้องได้รับการไต่สวนและวินิจฉัยโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียก่อน จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจากกรณีที่ข้าราชการประเภทอื่น เมื่อถูกฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลอาญาโดยตรงตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะการฟ้องคดีโดยตรงโดยผู้เสียหาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๔ และมาตรา ๘๖ (๒) ดังนั้น พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และไม่ใช่กรณีที่ก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคกัน หรือไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกฟ้องคดีโดยตรง ต่อศาลที่มีเขตอำนาจในส่วนที่จะต้องได้รับการไต่สวนและวินิจฉัยโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) อันจะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง แต่อย่างใด ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายอภัย จันทนจุลกะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของ นายอุระ หวังอ้อมกลาง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๑๓/๒๕๔๙ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ กรณีสืบเนื่องจาก พันเอก ศรายุทธ กลิ่นมาหอม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พันเอก จาตุภัทร รัตนวิจิตร เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท โดยบรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ ถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๕ จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับทำเนียบประวัติ บัตรประจำตัว การเกษียณอายุ การย้ายประเภท การเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล การตรวจสอบเวลาราชการและสถิติเกี่ยวกับกำลังพลและกรรมวิธีข้อมูลกำลังพล ด้วยเครื่องจักรคำนวณ ดำเนินการตรวจสอบทำเนียบประวัติตุลาการ จำเลยได้รับเอกสารหนังสือ รับรองผลการปฏิบัติงานโจทก์ไว้ตามหน้าที่แล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องรักษาไว้ซึ่งเอกสารดังกล่าว แต่จำเลยหาได้กระทำตามหน้าที่ดังกล่าวไม่จำเลยบังอาจทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ เป็นเหตุให้ไม่มีเอกสารหนังสือรับรองผลการปฏิบัติงานของโจทก์บันทึกลงประวัติ ในสมุดลงทะเบียนประวัติรับราชการทหารอันเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จากการไม่ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๔ จำเลยใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ เจตนากลั่นแกล้งโจทก์ด้วยการไม่พิมพ์ชื่อโจทก์ลงไปในบัญชีแผนปรับย้าย ทั้ง ๆ ที่จำเลยทราบดีว่า โจทก์มีลำดับอาวุโสชั้นยศ พันโท อยู่ในลำดับที่ ๒ ตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการจัดลำดับ อาวุโสของข้าราชการทหาร พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย มิได้รับการพิจารณา เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในอัตราพันเอก การกระทำของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ต้องเสียอาวุโสในการที่โจทก์จะได้รับการพิจารณาให้เลื่อน ตำแหน่งครองยศสูงขึ้น เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๔ จำเลยใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ ไม่เสนอชื่อโจทก์ให้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในอัตราพันเอก ไม่เสนอหนังสือรับรองผล การปฏิบัติหน้าที่ราชการของศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด และไม่เสนอผลการศึกษา ของโจทก์ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทให้คณะกรรมการพิจารณาการปรับย้ายของกรมพระธรรมนูญ พิจารณาทำให้โจทก์ซึ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรมีอาวุโสชั้นยศพันโท ในอันดับที่ ๒ ต้องเสีย อาวุโสไป เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ จำเลยใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ บังอาจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปรับย้ายตุลาการพระธรรมนูญต่อเจ้ากรมพระธรรมนูญว่า โจทก์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่มิได้เป็นหลักสูตรทางด้านกฎหมายที่ต้องนำมาใช้กับเหล่าทหาร พระธรรมนูญโดยตรง อีกทั้งโจทก์เป็นผู้มีความประพฤติไม่เหมาะสมแก่การดำรงตำแหน่งตุลาการ พระธรรมนูญ (อัตรา พันเอก) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่างอยู่ความสามารถและผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ของโจทก์ ยังไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งสูงขึ้น การกระทำของจำเลยเป็น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายมิได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น นอกจากนั้น การกระทำของจำเลยยังเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อเจ้ากรมพระธรรมนูญ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๙๑ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓ ต่อมา วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จำเลยยื่นคำร้องความว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องข้อหา ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๕๘ และ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ เพราะโจทก์มิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘๔ ที่กำหนดว่า “การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริต ต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการ ยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี” จำเลยเป็นข้าราชการ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔ และคดีนี้เป็นคดีฟ้องใหม่เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จึงมิเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘๖ (๒) ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหาตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา (๑) เรื่องที่มีข้อกล่าวหาหรือประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว และไม่มีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งคดี หรือ (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือ มีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” ขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์โดยศาลไม่จำต้องไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมคัดคำนคำร้องจำเลยว่า โจทก์ไม่ต้อง ดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ตามที่จำเลยกล่าวอ้าง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามบทบัญญัติกฎหมาย ดังกล่าวได้จะต้องมีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน ทั้งนี้โดยนัยมาตรา ๔๓ และ เมื่อพิจารณาตามมาตรา ๘๖ (๒) ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกคำกล่าวหา ตามมาตรา ๘๔ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ขึ้นพิจารณา ... (๒) เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้ว” จะเห็นได้ว่า โจทก์ไม่ได้ถูกบังคับตามกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิใช้ทางเลือกตามมาตรา ๘๖ (๒) เมื่อศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกันและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ ศาลจะต้องให้โจทก์ไปปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวให้ครบถ้วนก่อน คดีนี้โจทก์ในฐานะผู้เสียหาย ตามกฎหมายจึงมีสิทธิในการเลือกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายที่จำเลยอ้าง แต่อย่างใด นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาตามมาตรา ๘๙ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แล้ว ในกรณีที่ราษฎรเป็นผู้เสียหายฟ้องคดีอาญา โดยลำพัง กฎหมายจะต้องบังคับไว้ในทำนองเดียวกันว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ ฟ้องต่อศาลโดยลำพัง ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเนื่องมาจากได้กระทำการตามมาตรา ๘๘ จะต้องกำหนดให้ศาลส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวต่อไป หรือ ไม่เช่นนั้นก็ต้องกำหนดว่า ให้ศาลยกฟ้องโจทก์และสั่งให้โจทก์ไปดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว แต่กรณีเช่นนี้ไม่มีกฎหมายระบุไว้เช่นที่ว่านั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำโดยผิดกฎหมายของจำเลย โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ ประกอบกับพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือ ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” และมาตรา ๑๖ ที่บัญญัติว่า “บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร คือ (๑) นายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ” โจทก์ซึ่งเป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและมีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีนี้กับ ทั้งดำเนินคดีต่อจำเลยโดยการนำคดีมาสู่ศาลตามกฎหมาย ไม่ได้ถูกบังคับโดยกฎหมายที่จำเลยอ้าง แต่เป็นเรื่องกฎหมายให้สิทธิโจทก์เลือกกระทำการตามกฎหมาย โดยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลหรือเป็น ผู้กล่าวหาตามกฎหมายดังกล่าว อำนาจฟ้องโจทก์ยังคงสมบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จึงขอให้ศาลมีคำสั่ง ไม่รับคำร้องของจำเลย และเนื่องจากคดีนี้อยู่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลย ยังไม่มีสิทธิดำเนินการอย่างใดนอกจากที่กฎหมายกำหนด ต่อมา วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวน มูลฟ้องได้ความในเบื้องต้นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก่อนที่จะได้วินิจฉัยว่าคดีมีมูลตามฟ้องโจทก์หรือไม่นั้น สมควรได้วินิจฉัย คำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยเสียก่อนว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่พิเคราะห์ แล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวกับ การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา ๔๓ ได้ในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ของรัฐตามมาตรา ๘๙ แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ หาได้ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ แต่ประการใด เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ ป้ญหาต่อไป คือ คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลทหารกรุงเทพได้พิเคราะห์เห็นว่า คดีมีมูล เฉพาะในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานทำให้เสียหาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ และข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นทหาร ขัดขืน หรือละเลยมิกระทำตามคำสั่งและข้อบังคับ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาท นั้น โจทก์มิได้นำสืบ ให้ปรากฏข้อเท็จจริง เห็นว่า ไม่มีมูลพอที่จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณา จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้ พิจารณาเฉพาะข้อหาที่มีมูลดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำร้องว่า คำสั่งให้ประทับฟ้องของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็น ผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกัน หรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งศาลทหารกรุงเทพก็ได้มี คำพิพากษาวางแนวทางเกี่ยวกับการฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไว้แล้วว่า หากเจ้าหน้าที่ ของรัฐกระทำความผิดดังกล่าว การไต่สวนและการวินิจฉัยในกรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ทั้งนี้ตามคำพิพากษาของศาลทหารกรุงเทพ คดีหมายเลขแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำแถลงเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญ มีสาระสำคัญ คือ ส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เพิ่มขึ้น และปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการป้องกัน มิให้มีการใช้อำนาจในการปกครองแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องในทางที่มิชอบหรือ ทุจริตด้วยประการใด ๆ โดยรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้อำนาจหน้าที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำการ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยเฉพาะตามมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๒๙ (๒) ได้บัญญัติให้ดำเนินการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้แล้วเสร็จภายในสองปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และมาตรา ๓๓๑ ได้กำหนดสาระสำคัญ ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตไว้อันเป็นการแสดง เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างแจ้งชัดที่จะให้บังคับใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นกฎหมายเฉพาะในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมาย พิเศษที่ได้ตราขึ้นตามรัฐธรรมนูญ โดยมาตรา ๑๙ (๓) ได้บัญญัติให้อำนาจหน้าที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มาตรา ๘๔ ได้บัญญัติให้สิทธิผู้เสียหายจากการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ยื่นคำกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ เป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของตนต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และมาตรา ๘๙ ให้สิทธิผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกทางหนึ่งได้นอกจากนี้มาตรา ๔๗ ก็ได้บัญญัติให้สิทธิเจ้าหน้าที่ ของรัฐผู้ถูกกล่าวหาในการต่อสู้คดี ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ก็จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ นี้ สำหรับคดีนี้ แม้พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ กำหนดให้สิทธิผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาก็ตาม แต่เมื่อพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ เป็นกฎหมายพิเศษที่รัฐธรรมนูญ มีเจตนารมณ์ให้อำนาจแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัย เมื่อคดีนี้เป็น การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำคดีที่เกี่ยวกับ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการมาฟ้องเองได้ ป้ญหาว่า โจทก์มีสิทธิเลือกใช้กฎหมายโดยเลือกฟ้องคดีเองโดยไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๘๔ หรือมาตรา ๘๙ ได้หรือไม่ เห็นว่า ไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้สิทธิผู้เสียหายที่จะเลือกใช้กฎหมายได้ส่วนพระราชบัญญัติ ธรรมนูญศาลทหาร ฯ เป็นกฎหมายทั่วไป ดังนั้น จึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่บัญญัติไว้ตามกฎหมายพิเศษ นอกจากนี้การเลือกใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นโทษแก่จำเลย กล่าวคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา ๔๗ บัญญัติให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อกล่าวหา แต่กรณีผู้เสียหายฟ้องคดีเองในการไต่สวนมูลฟ้อง จำเลย ไม่มีสิทธิให้การต่อสู้คดี จึงเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน” โจทก์ได้ยื่นคำร้องคัดคำนคำแถลงของจำเลยว่า คดีนี้ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดป้ญหาเบื้องต้น ในป้ญหานี้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มิได้บัญญัติตัดสิทธิไม่ให้นำคดีมาฟ้อง ต่อศาลเลย นอกจากนี้ โจทก์ยังมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ ที่จะฟ้องคดีได้เอง ศาลทหารกรุงเทพได้วินิจฉัยคำร้องขอให้ชี้ขาดป้ญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นของจำเลยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหา เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่บุคคลตามมาตรา ๖๖ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามมาตรา ๔๓ ได้เฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๘๔ และ ในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์หรือมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๘๙ แต่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ฯ มิได้มีบทบัญญัติใดที่ตัดอำนาจฟ้องของผู้เสียหายที่จะได้สิทธิในการฟ้องคดีอาญาเองตามที่ กฎหมายในส่วนวิธีสบัญญัติบัญญัติให้อำนาจไว้ เมื่อเป็นผู้เสียหายตามความผิดในทางอาญาที่บัญญัติ ไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์ ในฐานะผู้เสียหายจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการต่อศาลทหารกรุงเทพได้ ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ที่จำเลยอ้างว่า ได้มีคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ คดีแดงที่ ๒๐/๒๕๔๘ ได้วินิจฉัยไว้เป็น บรรทัดฐานแล้วนั้น เห็นว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นการยกฟ้องโจทก์ในเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของ คณะกรรมการสอบสวนที่ไม่ชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต ฯ เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จำเลยยกกล่าวอ้าง ซึ่งเป็น คนละเรื่องกับที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง อีกทั้งคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพ จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกรุงเทพว่า ศาลได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ ว่า โจทก์เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็นความผิดต่อศาลทหารกรุงเทพได้ตามมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ ศาลมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องและได้มีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะ ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ นั้น จำเลยเห็นว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลใช้บังคับแก่คดีนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) โดยคำสั่งของศาลทหารกรุงเทพดังกล่าวขัดต่อ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมหรือศาลทหาร ทั้งนี้เพื่อมิให้มีการช่วยเหลือกันหรือกลั่นแกล้งฟ้องร้องกัน และเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน กล่าวคือ ก. รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจ หน้าที่ในการไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ฯ เพื่ออนุวัตรให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่จะให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด กรณีที่กล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ การกระทำความผิดฐานทุจริตต่อ หน้าที่ ฯ มิได้ยกเว้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ฯ กรณีของโจทก์อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ข. การที่ศาลทหารกรุงเทพวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายมีอำนาจยื่นฟ้องจำเลยได้โดยไม่ต้องดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ นั้น ทำให้สิทธิ ในการต่อสู้คดีถูกจำกัด เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ จำเลยไม่มีสิทธิ นำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองในทางกฎหมายเท่าเทียมกับบุคคลอื่น ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อจำเลยเพราะเหตุแห่ง สถานะของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคสาม ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖๔ บุคคล ผู้เป็นทหารย่อมมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ดังนั้น การที่ศาลทหารกรุงเทพนำพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง มาใช้วินิจฉัย เมื่อโจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ จึงเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหาร ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ และศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจ ไต่สวนมูลฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และขัดหรือแย้งต่อมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง และยังไม่มี คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติดังกล่าว จึงขอให้ศาลทหารกรุงเทพ รอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งคำโต้แย้งของจำเลยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ ศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๔ บัญญัติว่า ในการที่ศาล จะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับแก่กรณีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่ง กฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับ บทบัญญัตินั้น ให้ศาลรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวและส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการ เพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย และเนื่องจากตามคำร้องของจำเลยยังไม่มีคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย แจ้งคำสั่งให้ศาลทหารกรุงเทพ เพื่อทราบ คดีมีป้ญหาต้องวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเท่าเทียมกัน” มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้... (๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯลฯ” พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ศาลทหารในเวลาปกติให้อัยการทหารหรือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคล ที่อยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์” มาตรา ๔๕ บัญญัติว่า “วิธีพิจารณาความอาญาทหาร ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับ ซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎและข้อบังคับฝ๋ายทหารก็ให้นำประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าวิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้” ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่ง ต่อไปนี้ (๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย โดยข้อหาอย่างเดียวกันด้วยแล้วให้จัดการตามอนุมาตรา (๒) ฯลฯ” พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ เป็นบทบัญญัติรับรองสิทธิและเสรีภาพของ ชนชาวไทยโดยบัญญัติให้บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองในกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่าง ในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทาง เศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อ บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ต่อไป ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์กรณีมีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม โดยให้พนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติภายในสามสิบวัน เพื่อจะได้ดำเนินการตามบทบัญญัติในหมวด ๘ แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติ ถึงสิทธิของบุคคลที่จะฟ้องคดีในศาลทหารในเวลาปกติ ซึ่งกำหนดให้อัยการทหารหรือผู้เสียหายซึ่งเป็น บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดี แต่ถ้าผู้เสียหายมิได้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจ ศาลทหารแล้ว ต้องมอบคดีให้อัยการทหารเป็นโจทก์ กรณีตามคำร้องโจทก์และจำเลยเป็นนายทหาร ชั้นสัญญาบัตรประจำการ ซึ่งต่างเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร โจทก์เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ประจำการเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๑๖ (๑) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาทอันเป็น ความผิดอาญาต่อศาลทหารกรุงเทพได้ เมื่อคดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ บัญญัติเกี่ยวกับวิธีพิจารณาความอาญาทหาร ที่แตกต่างไปจากประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาโดยทั่วไป โดยให้นำกฎหมาย กฎ และข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหาร มาใช้บังคับ ถ้าไม่มีกฎหมาย กฎ และข้อบังคับของฝ๋ายทหาร จึงจะนำกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้บังคับโดยอนุโลม และถ้าไม่มีวิธีพิจารณา ซึ่งประมวลกฎหมายความอาญาบัญญัติไว้โดยเฉพาะ ก็ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่จะใช้ได้ ตามคำร้อง โจทก์ จำเลย เป็นทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ การดำเนินกระบวนพิจารณา จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ฯ มาตรา ๔๕ กล่าวคือ ให้นำกฎหมาย กฎและข้อบังคับซึ่งออกตามกฎหมายฝ๋ายทหารมาใช้บังคับ กรณีที่ทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการเป็นโจทก์ ฟ้องคดีเอง ถ้าไม่มีกฎหมายฝ๋ายทหารในเรื่องการไต่สวนมูลฟ้องไว้จึงต้องนำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนี้ (๑) ในคดีที่ราษฎร เป็นโจทก์ให้ไต่สวนมูลฟ้อง ... ซึ่งศาลทหารกรุงเทพก็ได้ดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องก่อนแล้ว จึงมีคำสั่งว่า คดีมีมูลความผิดและให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาสำหรับความผิดตามฟ้องบางมาตรา จึงเห็นว่า บทบัญญัติของพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ใช้บังคับกับทุกคน ที่มีคู่ความที่เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการอย่างเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง สำหรับกรณีที่ว่า การที่โจทก์ไม่ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) ก่อนที่จะยื่นฟ้องคดี จะทำให้พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ และ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) หรือไม่นั้น เห็นว่า เป็นเรื่องที่โจทก์จะเลือกใช้ สิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษก่อนหรือจะฟ้องคดีเอง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องบทบัญญัติของกฎหมาย ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด อาศัยเหตุผลดังกล่าวมาข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง นายอุระ หวังอ้อมกลาง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เล่ม: ๑๒๓ หมวด: ๑๐๔ ก ประกาศ ณ: ๐๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:77892", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ ๑๓/๒๕๔๙ เรื่อง พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๒ วรรคหนึ่ง (๑) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๐๑ วรรคหนึ่ง (๓) และมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง หรือไม่", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/A/104/1.PDF", "year": null }
nonweb_96044
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมนาทีทอง] ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ด้วย นายสุรชัย พงษ์พานิช ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม นาทีทอง โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ข้อ ๓ ความว่า ข้อ ๓ สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ณ เลขที่ ๒๘๑/๓ หมู่ที่ ๒ ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคมรายนี้แล้ว ตามทะเบียนเลขที่จ. ๓๐๒๙ /๒๕๕๙ ตั้งแต่วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ และมาตรา ๘๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ปรณต สุวรรณมาลำ ผู้อำนวยการส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย ๒ ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง นายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๔ หมวด: ๑ ง ประกาศ ณ: ๐๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ หน้า: ๑๒๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:96045", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมนาทีทอง]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/D/001/128.PDF", "year": null }
nonweb_81587
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน (นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนัก (วิศวกรโยธา ๙) สำนักทางหลวงชนบทที่ ๑๒ กรมทางหลวงชนบท ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก (นักวิชาการขนส่ง ๑๐ ชช.) สำนักงาน ปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐ ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี เล่ม: ๑๒๕ หมวด: ๑๖๓ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หน้า: ๑๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:81588", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน (นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/E/163/11.PDF", "year": null }
nonweb_105387
ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดมหาสารคาม เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม "สมาคมคนตาบอดอำเภอบรบือ" ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำจังหวัดมหาสารคาม เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม ด้วย ผู้เป็นสมาชิกของสมาคม ดังรายนามดังต่อไปนี้ (๑) นายศรีคุณ ศรีกะกุล (๒) นางสาวบรรเทา ศรีปน (๓) นายบุญเพ็ง กึกก้อง (๔) นางสาวผัน จันทร์นนท์ (๕) นางจำนงค์ ชูศรีสม (๖) นายสมร ศรีกะกุล (๗) นายบุดตรี แสนสุรินทร์ ได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม เพื่อให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่อนายทะเบียน มีใจความสำคัญตามข้อบังคับ ดังนี้ ๑. ชื่อสมาคม “สมาคมคนตาบอดอำเภอบรบือ” ๒. วัตถุประสงค์ของสมาคม ๒.๑ ส่งเสริมสนับสนุนการรวมกลุ่มของคนตาบอด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและประกอบอาชีพอิสระ ของคนตาบอดเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ๒.๒ พัฒนาความรู้ด้านการเกษตรและการประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรแก่คนตาบอด และครอบครัว ๒.๓ เป็นตัวแทนขององค์กรคนตาบอดในอำเภอ เพื่อร่วมมือประสานงานกับ องค์กร ของคนตาบอดอื่น ๆ องค์กรทั่วไปทั้งของรัฐและเอกชนในกิจกรรมการพัฒนาและฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคนตาบอดสู่ชุมชน ๒.๔ ส่งเสริมสนับสนุนความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการศึกษาและอาชีพ ให้คนตาบอดได้รับสิทธิประโยชน์ตา มเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ หน้า ๑๐๗ ๒.๕ สนับสนุนคนตาบอดให้มีส่วนร่วมและรับประโยชน์จากกิจกรรมการกีฬานันทนาการ การรับข้อมูลข่าวสารทั่วไปผ่านระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยว เนื่องกับอักษรเบลล์ เสนอป้ญหาและความต้องการของคนตาบอดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒.๖ ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการเมืองใด ๆ ทั้งนี้ ไม่จัดตั้งโต๊ะบิลเลียด ไม่ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการพนัน การหาผลกำไรมาแบ่งป้นกัน ตลอดจนทำให้เสื่อมเสียศีลธรรม จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ๓. สำนักงานใหญ่ของสมาคม ตั้งอยู่เลขที่ ๖๑ หมู่ที่ ๕ ตำบลวังไชย อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ๔. คณะกรรมการบริหารของสมาคม ประกอบด้วย ๔.๑ นายศรีคุณ ศรีกะกุล ๔.๒ นางสาวบรรเทา ศรีปน ๔.๓ นายบุญเพ็ง กึกก้อง ๔.๔ นางสาวผัน จันทร์นนท์ ๔.๕ นางจำนงค์ ชูศรีสม ๔.๖ นายสมร ศรีกะกุล ๔.๗ นายบุดตรี แสนสุรินทร์ นายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้อนุญาตให้รับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมรายนี้แล้ว เลขทะเบียนที่ ๑/๒๕๖๒ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงประกาศให้ทราบโดย ทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ นราธร ศรประสิทธิ์ ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดมหาสารคาม เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๗๑ ง ประกาศ ณ: ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๑๐๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:105388", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนสมาคมประจำจังหวัดมหาสารคาม เรื่อง การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม \"สมาคมคนตาบอดอำเภอบรบือ\"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/D/071/T_0107.PDF", "year": null }
nonweb_106476
ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง จดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ [มูลนิธิเพื่อแรงงานจากเพื่อนบ้านในลุ่มน้ำโขง] ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง จดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ “มูลนิธิเพื่อแรงงานจากเพื่อนบ้านในลุ่มน้าโขง” ด้วย นายประเวศน์ คิดอ่าน และคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อแรงงานจา กเพื่อนบ้านในลุ่มน้าโขง ได้ขอจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิเพื่อแรงงานจากเพื่อนบ้านในลุ่มน้าโขง ดังนี คณะกรรมการมีมติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิเพื่อแรงงานจากเพื่อนบ้านในลุ่มน้าโขง ใหม่ความว่า ข้อ ๑ ข้อบังคับนี เรียกว่า “ข้อบังคับมูลนิธิเพื่อแรงงานจากเพื่อนบ้านในลุ่มน้าโขง พ.ศ. ๒๕๖๑” ข้อ ๒ ให้แก้ไขความในข้อ ๑๒ และข้อ ๓๑ ของข้อบังคับมูลนิธิเพื่อแรง งานจากเพื่อนบ้าน ในลุ่มน้าโขง และให้ใช้ข้อความต่อไปนี แทน ข้อ ๑๒ กรรมการมูลนิธิอยู่ ในต้าแหน่งคราวละ ๔ ปี ข้อ ๓๑ ประธานกรรมการมูลนิธิหรือรองประธานกรรมการมูลนิธิในกรณีท้าหน้าที่แทน มีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้คราวละไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท (สามแสนบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจ้านวนดังกล่าว ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการมูลนิธิโดยเสียงข้างมาก เว้นแต่ก รณีจำเป็นและเร่งด่วนให้อยู่ในดุลพินิจ ของประธานกรรมการมูลนิธิที่จะอนุมัติให้จ่ายได้ แล้วต้องรายงานให้คณะกรรมการมูลนิธิทราบในการประชุม คราวต่อไป นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ ได้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิรายนี แล้ว ตังแต่วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ฉะนัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๖ บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ เล่ม: ๑๓๖ หมวด: ๕๐ ง ประกาศ ณ: ๐๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ หน้า: ๒๓๗
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:106477", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง จดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ [มูลนิธิเพื่อแรงงานจากเพื่อนบ้านในลุ่มน้ำโขง]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/D/050/T_0237.PDF", "year": null }
nonweb_120250
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ด้วยคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร เห็นสมควรกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง เป็นมาตรฐานทั่วไป ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ มาตรา ๑๕ และมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐาน สินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบมติคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๔ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงออกประกาศกำหนดมาตร ฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง มาตรฐานเลขที่มกษ. 6413-2564 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป ดังมีรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖ ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน้า ๒๕ มก ษ. 6413 -25 64 มา ตร ฐานสินค้าเกษต ร การปฏิบัติที่ดีสำหรับ ปาง ช้าง 1 . ขอบข่าย 1.1 มา ต ร ฐา น สิน ค้า เก ษ ต ร นี้ก า ห น ด การ ปฏิบัติที่ดีส า ห รับ ปำ ง ช้า ง ตำ ม ที่ก า ห น ด นิยำ ม ไว้ ใน ข้อ 2.1 ค ร อ บ ค ลุ ม อ ง ค์ ป ระ ก อ บ ปำ ง ช้า ง การ จัด การ ปำ ง ช้า ง บุ ค ลำ ก ร สุ ข ภา พ ช้า ง ส วัส ดิภา พ สัต ว์ สิ่ง แว ด ล้อ ม การ จัด การ ด้า น ค วา ม ป ล อ ด ภัย และ การ บัน ทึก ข้อ มู ล เพื่อ ให้ช้า ง มีสุ ข ภา พ ดี โดยค า นึง ถึง ส วัส ดิภาพ สัต ว์ สิ่ง แวด ล้อ ม ร ว มถึง สุ ข ภา พ ความ ปล อด ภัย และส วัส ดิภาพ ของ บุ คลำก ร และ ความปลอดภัย ของ ผู้มาใช้บ ริการ 1.2 มาต ร ฐา นสิน ค้า เกษตรนี้ ใช้กับ ปำ ง ช้า ง ที่ เลี้ย ง ห รือ ร ว บ ร ว ม ช้า ง บ้า น (domesticated elephant) ที่มีชื่อ วิทยาศาสตร์ ว่า Elephas maximus เท่านั้น 1.3 มาตรฐา นสินค้าเก ษตรนี้ ไม่ครอบ คลุ ม 1) การ เลี้ย ง ช้า ง ใน ค รัว เรือ น โด ย ไม่มีการ ป ระ ก อ บ กิจ การ เกี่ย ว กับ ช้า ง เพื่อ การ ท่อ ง เที่ย ว ห รือ การ แส ดง 2) การ เลี้ย ง ช้างไว้ ใช้ แร ง งาน เช่น การ ชักลาก 2. นิยาม ค วา ม ห มา ย ข อ ง ค า ที่ ใช้ ในมาตร ฐาน สินค้าเก ษตรนี้มีดัง ต่อไปนี้ 2.1 ปำ ง ช้า ง (elephant facility) ห มา ย ถึง ส ถา น ที่ที่มีการ ป ระ ก อ บ กิจ การ เลี้ย ง ห รือ ร ว บ ร ว ม ช้า ง เพื่อ การ ท่อ ง เที่ย ว การ แส ด ง หรือการ ป ระ กอบ กิจ การ อื่น ที่ แส วง หำป ระโย ชน์ จา ก ช้า ง ทั้ง นี้ ไม่ว่า จะ มี การ เรีย กเก็บ ค่าดู หรือค่าบ ริการ ในทาง ตรงห รือทำงอ้อมห รือไม่ก็ตาม มก ษ. 6413 -25 64 2 3 . ข้อ กำหนด 3.1 อ ง ค์ ป ระก อ บปาง ช้าง 3 . 1 . 1 ส ถาน ที่ตั้ง หลักการ การ เลือ ก ส ถา น ที่ตั้ง เพื่อ ป ระ ก อ บ กิจ การ ปำ ง ช้า ง มีค วา ม ส า คัญ ต้อ ง ค า นึง ถึง การ ป น เปื้อ น ของ อัน ตรา ย ทางกายภาพ เค มี และ ชีวภาพ จา กสภาพ แวด ล้อม การ มี แห ล่ง น้าใช้การ ค มนาค มเข้าถึง ปำ ง ช้า ง และ ป่า ต้น น้า เพื่อ ให้ แน่ ใจ ว่า ไม่มีผ ล ก ระ ท บ ต่อ สุ ข ภา พ และ ส วัส ดิภา พ สัต ว์ ไม่ เกิด ปัญ หำ การ ขำ ด แค ล น น้า ใช้สำ มา ร ถ ข น ส่ง ช้า ง อำ หำ ร สัต ว์ เว ช ภัณ ฑ์ และ อุ ป ก ร ณ์ ต่า ง ๆ ได้ และ ไม่ส่ง ผล กระทบต่อป่าต้นน้า 3 . 1 . 1 .1 ตั้ง อ ยู่ ใน ส ภา พ แว ด ล้อ ม ที่ ไม่ เสี่ย ง จำ ก การ ป น เปื้อ น ข อ ง อัน ต รำ ย ทำ ง กำ ย ภา พ เค มี และ ชีว ภา พ ที่มีผ ล ก ระ ท บ ต่อ สุ ข ภา พ และ ส วัส ดิภา พ สัต ว์ ห รือ มีมา ต ร การ ป้อ ง กัน ที่ เห มาะ ส ม 3. 1. 1.2 ตั้ง อ ยู่ ใน ท า เล ที่มีน้า สะ อำ ด ใช้ เพีย ง พ อ ต ล อ ด ปี 3 . 1 . 1 .3 มีเส้นทางการ คม นา คม เข้า ถึง ปา ง ช้าง ที่สำ มา ร ถ ขนส่ง ช้าง อา หาร สัตว์ เวชภัณฑ์ และอุป กร ณ์ต่างๆ 3. 1. 1.4 เป็น พื้น ที่ที่ ไม่ส่ง ผล กระทบต่อป่าต้นน้า 3 . 1 . 2 ขนาดพื้น ที่ และ ผัง ปาง ช้า ง หลักการ ข นำ ด พื้น ที่ และ ผัง ปำ ง ช้า ง มีค วา ม ส า คัญ ต่อ สุข ภา พ ช้า ง ส วัส ดิภา พ สัต ว์ สิ่ง แว ด ล้อ ม และ การ ปฏิบัติงำ น ที่มีประ สิทธิภาพ และถู กสุ ขลักษณะ 3. 1. 2 . 1 มีข นำ ด พื้น ที่ข อ ง ปำ ง ช้า ง ที่ เห มาะ ส ม กับ ลัก ษ ณะ กิจ ก ร ร ม และ จ า น ว น ช้า ง ตำ ม ป ระ เภ ท ข อ ง ปำ ง ช้า ง ดัง ข้อมู ล ในภา คผนวก ก และ กำ ย ภา พ ทำ ง พื้น ที่ข อ ง ปำ ง ช้า ง 3 . 1 . 2 . 2 มีการ วา ง ผัง ปา ง ช้าง ที่ เอื้อ ต่อ การ ปฏิบัติงาน ที่ถู ก สุ ข ลัก ษ ณะ 3.1.2.3 แย ก พื้น ที่ปฏิบัติงำ น เป็น สัด ส่ว น เช่น ส ถา น ที่พัก ช้า ง พื้น ที่พัก ผ่อ น ส า ห รับ ช้า ง พื้น ที่ เก็บ อำ หำ ร พื้น ที่ เก็บ อุป ก ร ณ์ และ พื้น ที่ร ว บ ร ว ม ข ยะ และ มู ล ช้า ง 3 . 1 . 3 ส ถาน ที่พักช้าง และ พื้น ที่พักผ่อ น ส าหรับช้าง หลักการ ส ถา น ที่พัก ช้า ง และ พื้น ที่พัก ผ่อ น ส า ห รับ ช้า ง มีค วา ม ส า คัญ ต่อ การ เลี้ย ง ช้า ง ต้อ ง ค า นึง ถึง ข นำ ด พื้น ที่ และ ส ภา พ แว ด ล้อ ม เพื่อ ให้ แน่ ใจ ว่า ส ถา น ที่พัก ช้า ง และ พื้น ที่พัก ผ่อ น ส า ห รับ ช้า ง มีค วา ม เห มาะ ส ม ช้า ง มีสุ ข ภา พ และ ส วัส ดิภา พ สัต ว์ ที่ดี 3 มก ษ. 6413 -25 64 3. 1. 3 . 1 มีส ถา น ที่พัก ช้า ง เพื่อร อให้บ ริการ หรือพักจา กการ บ ริการ 1) ก ร ณี เป็น อำ คำ ร พัก ช้า ง ต้อ ง มีพื้น ที่ เพีย ง พ อ ใน การ เลี้ย ง ช้า ง โด ย ค า นึง ถึง ห ลัก ส วัส ดิภา พ สัต ว์ มี โค ร ง ส ร้า ง แข็ง แร ง มีห ลัง คำ ส า ห รับ กัน แด ด กัน ฝ น มีการ ระ บา ย อำ กำ ศ ที่ดี ง่า ย ต่อ การ ท า ความสะอา ด และ บ ารุ ง รักษา และไม่มีน้าขังบริ เวณพื้นอำคา ร พักช้าง 2) ก ร ณี ไม่ ใช่อำ คำ ร พัก ช้า ง ให้ เลือ ก ส ถา น ที่พัก ช้า ง โด ย ค า นึง ถึง พื้น ที่ที่มีร่ม เงา และ มี แห ล่ง น้า เพีย ง พอ 3. 1. 3 . 2 มีพื้น ที่พัก ผ่อ น ส า ห รับ ช้า ง เพื่อ ใช้พัก ผ่อ น ใน ช่ว ง ที่ ไม่มีงาน บ ริการ หรือช่วง กลางคืน เช่น 1) ล่า ม ไว้ ใน ป่า ธ ร ร ม ชำ ติห รือ ส ว น ล่า ม ไว้กับ ห มุ ด ใน พื้น ที่ โล่ง ภา ย ใน ปำ ง ช้า ง ล่า ม ไว้ ใต้ต้น ไม้ ห รือ ใน อำ คำร ซึ่ง มีพื้น ที่ ไม่น้อ ย ก ว่า 16 m2 1/ ต่อ เชือ ก โด ย ใช้ เชือ ก มัด ห รือ โซ่ล่า ม ช้า ง ที่มีค วา ม ยำ ว ไม่น้อยกว่า 1.5 m 2/ 2) ป ล่อ ย ช้า ง ไว้ ใน พื้น ที่ที่มีข อ บ เข ต ป้อ ง กัน การ ห ลุ ด ข อ ง ช้า ง โด ย ค า นึง ถึง พื้น ที่ที่มีร่ม เงา และ มี แห ล่ง น้า เพีย ง พอ ร วมทั้ง ค านึง ถึง ความปลอดภัย ของ ช้าง ด้วย 3. 2 การจัดการปาง ช้าง 3 . 2 . 1 คู่มือการจัดการ ปาง ช้าง หลักการ คู่มือ การ จัด การ ปำ ง ช้า ง ที่ ให้รำ ย ละ เอีย ด การ ปฏิบัติงำ น ที่ส า คัญ ข อ ง ปำ ง ช้าง จะ ช่ว ย ให้บุ ค ลำ ก ร ที่ เกี่ย ว ข้อ ง สำ มา ร ถ ปฏิบัติงำ น ตำ ม ขั้น ต อ น ที่ก า ห น ด ไว้อ ย่า ง ถู ก ต้อ ง และ ช่ว ย ให้การ จัด การ ปำ ง ช้า ง เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ 3. 2. 1 . 1 มีคู่มือการ จัดการ ปา ง ช้าง ที่ แส ด ง ให้ เห็น รำ ย ละ เอีย ด การ ปฏิบัติงำ น ที่ส า คัญ ภา ย ใน ปา ง ช้าง เช่น 1) การ ดู แล และ การ จัด การ ช้า ง ท้อ ง ช้า ง ค ล อ ด ลู ก ช้า ง ช้า ง วัย รุ่น ช้า ง วัย ท า งำ น ช้า ง ช รำ และ ช้า ง พิการ 2) การ แยกและฝึกลู กช้าง 3) การ จัดการ ด้าน การ ผส มพันธุ์ 4) การ จัดการ ช้างตกมันและช้างอาละวา ด 5) การ จัดการ ด้าน อา หาร และน้า 6) การ ท า ค วา ม สะ อำ ด ส ถา น ที่พัก ช้า ง พื้น ที่พัก ผ่อ น ส า ห รับ ช้า ง และ อุป กร ณ์ 7) การ จัด การ ด้า น สุ ข ภา พ ช้า ง ป ระ ก อ บ ด้ว ย การ ฉีด วัค ซีน การ ใช้ยำ สัต ว์ การ ต ร ว จ และ รัก ษา โร ค การ จัดการ ช้าง ป่วย และ ช้าง ตาย 8) การ จัดการ ด้าน ส วัส ดิภาพ สัตว์ 1/ m2 เป็น สัญ ลัก ษ ณ์ ส า ห รับ ห น่ว ย ใน ระ บ บ เอ ส ไอ (International System of Units; SI) ที่ ใช้ แท น ค า ว่า “ตารางเม ตร (square meter)” 2/ m เป็น สัญ ลัก ษ ณ์ส า ห รับ ห น่ว ย ใน ระ บ บ เอ ส ไอ ที่ ใช้ แท น ค า ว่า “เมต ร (meter)” มก ษ. 6413 -25 64 4 9) การ จัดการ ด้าน สิ่ง แวดล้อม 10) การ จัดการ ด้าน การ บ ริการ การ แสดง และการ ท างาน ของ ช้าง 3. 2. 2 การจัดการอาหาร และ น้า หลักการ การ จัด การ อำ หำ ร ให้มีคุ ณ ภา พ และ ค วา ม ป ล อ ด ภัย และ มีอำ หำ ร และ น้า เพีย ง พ อ ต่อ ค วา ม ต้อ ง การ ของ ช้าง จะ ท าให้ช้า ง มีสุ ข ภา พ และ ส วัส ดิภา พ สัต ว์ ที่ดี 3. 2. 2 . 1 ให้ช้า ง ได้รับ อำ หำ ร ที่มีคุ ณ ภา พ ป ล อ ด ภัย และ เห มาะ ส ม ส า ห รับ การ เลี้ย ง ช้า ง โด ย เป็น ไป ตำ ม พระราชบัญญัติควบคุ มคุ ณภา พอา หาร สัตว์ พ.ศ. 2558 3 . 2 . 2 . 2 มีส ถา น ที่ เก็บ อำ หำ ร แย ก เป็น สัด ส่ว น และ เก็บ อำ หำ ร ใน ส ภา พ ที่ป้อ ง กัน การ เสื่อ ม ส ภา พ และ การ ป น เปื้อน 3 . 2 . 2 . 3 มีการ จัด การ ให้ช้าง ทุ ก เชือก ได้กิน อา หาร และน้า อย่า ง เพีย ง พ อ ต่อความต้องการ ของ ช้าง ร วม ทั้ง ได้รับ อา หาร ที่หลาก หลาย เช่น อา หาร หยาบ ผล ไม้หรืออา หาร เสริม 3 . 2 . 3 การจัดการ อาคาร และ อุ ป กรณ์ หลักการ การ จัด การ อำ คำ ร และ อุ ป ก ร ณ์ ให้มีค วา ม สะ อำ ด เพื่อ ลด การ สะ ส ม ของ เชื้อ ก่อ โร ค น อ ก จำ ก นี้อำ คำ ร และ อุ ป ก ร ณ์ ที่ป ล อ ด ภัย และ อ ยู่ ใน ส ภา พ ที่พ ร้อ ม ใช้งำ น จะ ช่ว ย ให้ปฏิบัติงำ น ได้อ ย่า ง มีป ระ สิท ธิภา พ และปลอดภัย ต่อช้างและบุ คลำก ร 3. 2. 3 . 1 ท า ค วา ม สะ อำ ด อำ คำ ร บ ริ เว ณ โด ย ร อ บ และ อุ ป ก ร ณ์ อ ย่า ง ส ม่า เส ม อ เพื่อ ล ด การ สะ ส ม ข อ ง มู ล ช้า ง และของเสีย ซึ่ง เป็นแหล่ง ของ เชื้อก่อ โรค 3. 2. 3 . 2 บ ารุ ง รักษา อา คาร และอุป กร ณ์ ให้อยู่ ในสภาพดี และปลอดภัย ต่อ ช้าง และบุ คลำก ร 3. 2. 4 การจัดการ แหล่ง ที่มาของ ช้าง หลักการ การ ทรา บ แห ล่ง ที่มา ข อ ง ช้าง มีค วา มส าคัญ ต่อการ ป้องกันการ ส วมทะเบีย นช้า ง บ้าน 3. 2. 4 . 1 ช้า ง บ้า น ทุ ก เชือ ก ต้อ ง มีห ลัก ฐา น ป ระ จ า ตัว ช้า ง ที่อ อ ก ให้ โด ย ห น่ว ย งำ น ที่รับ ผิด ช อ บ ตา ม พ ระ รำ ช บัญ ญัติ สัตว์ พา หนะ พ.ศ. 2482 เช่น ตั๋วพิมพ์ รู ปพ ร ร ณ บัญ ชีลู กครอ ก 5 มก ษ. 6413 -25 64 3. 3 บุ ค ลากร หลักการ บุ ค ลำ ก ร ที่มีค วา ม รู้ค วา ม สำ มา ร ถ ตำ ม ห น้า ที่ค วา ม รับ ผิด ช อ บ และ มีสุ ข ภา พ ที่ดีจะ ช่ว ย ให้ การ ปฏิบัติงาน เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ และช้างได้รับ การ ดู แล สุ ขภาพ และสวัส ดิภาพ อย่า ง ถู กต้อ ง 3. 3. 1 มีการ จัด แบ่ง หน้า ที่ และ ค วา ม รับ ผิด ช อ บ ข อ ง บุ ค ลำ ก ร อ ย่า ง ชัด เจ น โดยค านึง ถึง จ าน วนข อง ช้าง ที่ เลี้ย ง และประเภทของ ปา ง ช้าง 3. 3. 2 มีสัตวแพ ทย์ ผู้ควบคุ ม ปา ง ช้าง ก ากับ ดู แลด้าน สุ ขภาพ ช้าง 3. 3. 3 ค วา ญ ช้า ง ที่ท า ห น้า ที่ เลี้ย ง ช้า ง ต้อ ง มีค วา ม รู้ ได้รับ การ ฝึก อ บ ร ม ห รือ ฝึก ปฏิบัติ เกี่ย ว กับ การ เลี้ย ง ช้า ง การ บัง คับ ช้า ง และ ค วา ม เข้า ใจ พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง ช้า ง ร ว ม ทั้ง มีความ รับ ผิด ช อ บ ดู แล ใน เรื่อ ง การ จัด การ อา หาร น้า และ ที่พัก เพื่อให้จัดการ เลี้ย ง ช้าง ได้อย่างถู กต้อง 3. 3. 4 บุ ค ลำ ก ร อื่น ๆ ที่ ให้บ ริการ เช่น เจ้า ห น้า ที่ป ระ ชำ สัม พัน ธ์ เจ้า ห น้า ที่บ ริการ พ นัก งำ น รัก ษา ค วา ม ป ล อ ด ภัย ต้อ ง มีค วา ม รู้ทั่ว ไป เกี่ย ว กับ ช้า ง มีทัก ษะ ใน การ ให้บ ริการ ต ล อ ด จ น การ ดู แล และช่วย เหลือ ผู้มาใช้บ ริการ 3. 3. 5 บุ คลำก ร ทุ ก คนในปาง ช้าง มีสุ ข ลัก ษ ณะ ส่ว น บุ ค ค ล ที่ดี และได้รับ การ ตรว จสุ ขภาพ ประจ าปี โดย เฉพาะ อย่างยิ่ง โรคสัตว์ สู่คน 3.3.6 จัดหาอุปก ร ณ์เพื่อความปลอดภัย ของ ควาญ ช้าง และ มีการ ท าป ระกันอุบัติเห ตุส าหรับ ควาญ ช้าง 3. 4 สุ ขภาพ ช้าง 3 . 4 . 1 การป้อ ง กัน และ ค ว บคุ มโรค หลักการ การ ป้อ ง กัน และ ค ว บ คุ ม โร ค มีค วา ม ส า คัญ ต่อ สุ ข ภา พ ข อ ง ช้า ง บุ ค ลำ ก ร และ ผู้มา ใช้บ ริการ และ ต้อ ง ปฏิบัติตำ ม พ ระ รำ ช บัญ ญัติ โร ค ระ บา ด สัต ว์ พ . ศ . 2558 เพื่อ ให้ แน่ ใจ ว่า สำ มา ร ถ ป้อ ง กัน และควบคุ มโร ค ในปางช้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. 4. 1 . 1 มีการ สัง เก ต ค วา ม เป็น อ ยู่ และ สุ ข ภา พ ข อ ง ช้า ง ทุ ก วัน หำ ก พ บ ค วา ม ผิด ป ก ติ ให้ แจ้ง บุ ค ลำ ก ร ที่ เกี่ย ว ข้อ ง ท รำ บ ห รือ ป รึก ษา สัต ว แพ ท ย์ เพื่อ พิจำ ร ณา ด า เนิน การ แก้ ไข อ ย่า ง ทัน ท่ว ง ที 3. 4. 1. 2 มีการ ตรว จสุ ขภาพ ของ ช้างประจ าปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 3 . 4 . 1 . 3 มีการ ป้อ ง กัน และ ค ว บ คุ ม โร ค เช่น ให้ช้า ง ได้รับ การ ฉีด วัค ซีน ป้อ ง กัน โร ค ร ว ม ทั้ง มีการ ก า จัด ป ร สิต ภา ย ใน และ ภา ย น อ ก ที่ เห มาะ ส ม โด ย อ ยู่ภา ย ใต้การ ค ว บ คุ ม ดู แล ข อ ง สัต ว แพ ท ย์ ห รือ ผู้ที่ ได้รับ มอบหมายจา กสัตวแพ ทย์ 3. 4. 1. 4 มีมาตร การ เฝ้าระวัง และป้องกัน วัณโร ค มก ษ. 6413 -25 64 6 3 . 4 . 1 . 5 มีมาตร การ ควบคุ มสัตว์ พา หะน าโร ค 3 . 4 . 1 . 6 มีการ กักกันโร คส าหรับ ช้า ง ที่น าเข้าใหม่ และแยก ช้าง ป่วย ออก จา กพื้น ที่ เลี้ย ง ช้าง ปก ติ 3 . 4 . 1 . 7 ก ร ณีที่ เกิด โร ค ระ บา ด ห รือ ส ง สัย ว่า เกิด โร ค ระ บา ด ต้อ ง ปฏิบัติตำ ม พ ระ รำ ช บัญ ญัติ โร ค ระ บา ด สัต ว์ พ.ศ. 2558 และค าแนะ น าของ กร มปศุ สัตว์ 3. 4. 1. 8 ช้า ง ทุ ก เชือ ก มีส มุ ด ป ระ จ า ตัว ช้า ง ซึ่ง ป ระ ก อ บ ด้ว ย ป ระ วัติช้า ง ทะ เบีย น ป ระ จ า ตัว ช้า ง ไม โค ร ชิพ ประวัติการ ตก มัน การ รักษาพ ยำบาลและการ ฉีดวัคซีน ร วมทั้ง ประวัติการ ผส มพันธุ์ และการ ตกลู ก 3 . 4 . 2 การบ าบัดโรค สัตว์ หลักการ การ บ า บัด โร ค สัต ว์ จ า เป็น ต้อ ง อ ยู่ภา ย ใต้การ ก า กับ ดู แล ข อ ง ผู้ป ระ ก อ บ วิชา ชีพ การ สัต ว แพ ท ย์ เพื่อ ให้ช้า ง ได้รับ การ ต ร ว จ วินิจ ฉัย การ รัก ษา การ ป้อ ง กัน การ เกิด โร ค อ ย่า ง ถู ก ต้อ ง และ ไม่ก่อ ให้ เกิด ผล กระทบต่อสุ ขภาพ และสวัส ดิภาพ สัตว์ 3. 4. 2 . 1 การ บ า บัด โร ค สัต ว์ ต้อ ง อ ยู่ภา ย ใต้การ ก า กับ ดู แล ข อ ง ผู้ป ระ ก อ บ วิชา ชีพ การ สัต ว แพ ท ย์ ตำ ม พ ระ รำ ช บัญ ญัติ วิชาชีพการ สัตวแพ ทย์ พ.ศ. 2545 3. 5 ส วัส ดิภาพ สัตว์ หลักการ การ จัดการ การ เลี้ย ง ช้าง และ การ ใช้งำ นช้าง ต้อง ค านึง ถึง ห ลัก ส วัส ดิภา พสัตว์ เพื่อ ให้ช้าง สำมา ร ถแส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ตำ ม ธ ร ร ม ชำ ติมีค วา ม เป็น อ ยู่ที่ดี และ ปราศ จา ก ความทุ กข์ทรมาน 3. 5. 1 ดู แลและปฏิบัติต่อ ช้าง ให้มีค วา มเป็นอ ยู่ตา มหลักสวัส ดิภาพ สัตว์ 5 ประการ คือ 1) มีอิส ระจาก ความหิว กระหาย (ข้อ 3.1.1.2 และ ข้อ 3.2.2.3) 2) มีอิส ระ จำ ก ค วา ม ไม่สะ ด ว ก ส บา ย อัน เนื่อ ง มา จำ ก ส ภา วะ แว ด ล้อ ม (ข้อ 3.1.1.1 ข้อ 3.1.3.1 ข้อ 3.1.3.2 ข้อ 3.2.3.1 และข้อ 3.2.3.2) 3) มีอิส ระ จำ ก ค วา ม เจ็บ ป ว ด การ บา ด เจ็บ และ เป็น โร ค (ข้อ 3.4.1.1 ข้อ 3.4.1.2 ข้อ 3.4.1.3 ข้อ 3.4.1.4 ข้อ 3.4.1.5 และข้อ 3.4.1.6) 4) มีอิส ระจาก ความกลัวและความทุ กข์ทรมาน (ข้อ 3.3.3) 5) มีอิส ระ ใน การ แส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ตำ ม ป ก ติข อ ง ช้า ง (ข้อ 3.1.2.1 ข้อ 3.1.3.1 ข้อ 3.1.3.2 และข้อ 3.7.2) 3. 5.2 ต้อ ง ดู แล และ ปฏิบัติต่อ ช้า ง ให้มีค วา ม เป็น อ ยู่ตำ ม พ ระ รำ ช บัญ ญัติป้อ ง กัน การ ทำ รุ ณ ก ร ร ม และการ จัด ส วัส ดิภาพ สัตว์ พ.ศ. 2557 7 มก ษ. 6413 -25 64 3. 6 สิ่ง แวดล้อ ม หลักการ การ จัด การ ซำ ก ข ยะ ข อ ง เสีย และ น้า เสีย จำ ก ปำ ง ช้า ง จะ ส่ง ผ ล ก ระ ท บ ต่อ สิ่ง แว ด ล้อ ม จึง ต้อ ง มีการ ปฏิบัติอย่างถู กต้อง 3. 6. 1 ก าจัดซาก ขยะ ของ เสีย และ น้า เสีย โด ย วิธีที่ เห มาะ ส ม ตำ ม ก ฎ ห มา ย ที่ เกี่ย ว ข้อ ง 3.6.2 มีมา ต ร การ จัด การ มู ล ช้า ง ไม่ ให้ก ระ ท บ ต่อ สิ่ง แว ด ล้อ ม เช่น มีลำ น กัก มู ล ห รือ มีการ เก็บ มู ล ช้า ง ในแหล่ง น้าสาธา ร ณะ 3. 7 การจัดกำรด้าน ความป ลอ ดภัย หลักการ การ จัด การ ปำ ง ช้า ง จ า เป็น ต้อ ง มีมา ต ร การ ป้อ ง กัน อัน ต รำ ย ข อ ง ผู้มา ใช้บ ริการ เพื่อ ค วา ม ป ล อ ด ภัย ของ ผู้มาใช้บ ริการ และส่ง เสริม ภาพ ลักษณ์ ที่ดีด้า น การ ท่อ ง เที่ย ว ปา ง ช้าง 3. 7.1 มีบุ ค ลำ กร และ ป้า ย หรือเอก สำ ร ให้ค า แนะน าเรื่องค วา มปล อดภัย ในการเข้า หาช้าง การ ให้อา หาร ช้าง การ นั่ง บ นหลัง ช้าง และ การ ปฏิสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับ ช้าง ร วมทั้ง ข้อมู ล เรื่อง พฤติกร ร มข องช้าง 3.7.2 ควาญ ช้าง มีการ ตรว จสอบ พฤติกร ร มข องช้างก่อน เริ่มให้บ ริการ แก่ผู้มาใช้บ ริการ ทุ กครั้ง 3. 7.3 มีการ จัดการ ด้าน ความ ปลอดภัย เช่น การ ต ร ว จ ส อ บ อุป ก ร ณ์ที่นั่ง บ น ห ลัง ช้า ง ทุ ก ค รั้ง ที่อ อ ก ปฏิบัติงำ น เพื่อความปลอดภัย ของ ผู้มาใช้บ ริการ หรือ จัดให้มีอุป กร ณ์ควบ คุ มบัง คับ ช้าง ที่ เห มาะ ส ม 3. 7.4 มีรั้วกั้นหรือสิ่ง กีดขวาง ระหว่าง ผู้มาใช้บ ริการ กับ ช้าง ข ณะ ที่ช ม การ แส ด ง และ ให้อาหาร ช้าง 3 . 7 .5 มี แผ น และ ฝึก ซ้อ ม การ ปฏิบัติตำ ม แผ น ใน การ จัด การ ภา วะ ฉุ ก เฉิน ใน ปำ ง ช้า ง เช่น การ ช่ว ย เห ลือ ผู้ป ระ ส บ อุบัติเห ตุที่ เกิด จำ ก ช้า ง การ ควบคุ มช้างตกมันหรือช้างอาละวา ด 3. 7.6 มีส ถา น ที่ส า ห รับ ขึ้น- ล ง ห ลัง ช้า ง ที่มั่น ค ง แข็ง แร ง และ ป ล อ ด ภัย 3. 8 การบัน ทึกข้อ มู ล หลักการ การ บัน ทึก และ เก็บ รัก ษา ข้อ มู ล มีค วา ม ส า คัญ ที่จะ ช่ว ย ใน การ วิ เค รำะ ห์ หำ สำ เห ตุ ที่มา ข อ ง ปัญ หำ ห รือ ข้อ ผิด พ ลำ ด ใน การ จัด การ และ ตำ ม ส อ บ การ ท า งำ น ใน แต่ละ ขั้น ต อ น ว่า มีค วา ม ถู ก ต้อ ง ตำ ม วิธีปฏิบัติที่ก า ห น ด ไว้ 3. 8 . 1 มีการ บันทึกข้อมู ล ที่ส า คัญ ดัง นี้ 1) ประวัติบุ คลำก ร ประวัติการ ฝึกอบ ร มห รือฝึกปฏิบัติ และผล การ ตรว จสุ ขภาพ ประจ าปี 2) แห ล่ง ที่มา ข อ ง อำ หำ ร และ น้า 3) การ ใช้สาร เคมียำฆ่าเชื้อ ห รือวัตถุ อันตราย ทาง การ ปศุ สัตว์ มก ษ. 6413 -25 64 8 4) การ ใช้ยำสัตว์ และอา หาร เสริม 5) บันทึก ใบอนุ ญา ต เคลื่อน ย้ายช้าง 3. 8 . 2 ให้ เก็บ รักษาบันทึกข้อมู ล เป็นเวลาอ ย่างน้อย 3 ปี 9 มก ษ. 6413 -25 64 ภาคผ นวก ก (ให้ ไว้ เป็นข้อ มู ล) ประเภทของ ปางช้าง ก.1 ปาง ช้าง แบ่ง ตาม ลัก ษ ณะ กิจ กรรม ดัง นี้ 1) ปำ ง ช้า ง แบ บ ดั้ง เดิม คือ ปำ ง ช้า ง ที่มีกิจ ก ร ร ม การ ขี่ช้า ง โด ย นั่ง บ น แห ย่ง และ/ ห รือ การ ช ม การ แส ด ง ความสำมาร ถของช้าง 2) ปำ ง ช้า ง แบ บ ท่อ ง เที่ย ว เชิง นิ เว ศ คือ ปำ ง ช้า ง ที่มีกิจ ก ร ร ม การ ขี่ช้า ง โด ย นั่ง บ น แห ย่ง ห รือ ไม่มี แห ย่ง หรือเดิน ไปด้วย กันกับ ช้าง หรือ มีการ ให้ความรู้ เรื่องช้างและการ อนุ รักษ์ ช้าง 3) ปา ง ช้าง พิการ หรือชรา คือ ปำ ง ช้า ง ที่มีการ น าช้าง พิการ หรือช้างชรา มาเลี้ย ง และดู แล 4) ปำ ง ช้า ง แบ บ ผ ส ม ผ สำ น คือ ปำ ง ช้า ง ที่ร ว ม กิจ ก ร ร ม ข อ ง ปำ ง ช้า ง แบ บ ดั้ง เดิม และ ปำ ง ช้า ง แบ บ ท่อ ง เที่ย ว เชิง นิ เวศ และ มีการ ปรับ รู ปแบ บ ให้ เหมาะ ส มกับ ส ถา นการ ณ์ ก.2 ปาง ช้าง แบ่ง ตาม จ า น ว น ช้าง ดัง นี้ 1) ปา ง ช้างขนำ ดเล็ก โดย มีช้าง จ าน วน ไม่ เกิน 10 เชือก 2) ปา ง ช้างขนำ ดกลาง โดย มีช้าง จ าน วน ตั้ง แต่ 11 เชือก ถึง 30 เชือก 3) ปา ง ช้างขนำ ดให ญ่ โดย มีช้าง จ าน วน ตั้ง แต่ 31 เชือกขึ้นไป เล่ม: ๑๓๘ หมวด: ๑๙๖ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า: ๒๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:120251", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/196/T_0025.PDF", "year": null }
nonweb_141483
ประกาศเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยที่มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติว่าในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ให้เป็นสิทธิของ ผู้รับอนุญาตที่จะแสดงใบอนุญาตนั้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่ผู้อนุญาตประกาศกำหนดก็ได้ โดยให้ถือว่าการแสดงเช่นว่านั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว สมควรกำหนดวิธีการแสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองบางกรวย โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการอำนวย ความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ในประกาศนี้ “ใบอนุญาต” หมายความว่า เอกสารหลักฐานที่กฎหมายกำหนดให้ต้องแสดงไว้ในที่เปิดเผย ดังต่อไปนี้ (1) ใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (2) ใบอนุญาตการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามมาตรา 21 ตามกฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (3) ใบอนุญาตการขออนุญาตดัดแปลงอาคาร ตามมาตรา 21 ตามกฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (4) ใบอนุญาตการขออนุญาตรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 22 ตามกฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (5) ใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคาร ตามมาตรา 33 ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (6) ใบอนุญาตเคลื่อนย้ายอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (7) ใบรับรองการก่อสร้าง คัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ตามมาตรา 32 ตามกฎหมาย ว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (8) ใบอนุญาตดัดแปลง หรือใช้ที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้า - ออกของรถ เพื่อการอื่น ตามมาตรา 34 ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หน้า ๓๑ (9) ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (10) ใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (11) ใบอนุญาตรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (12) ใบอนุญาตรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (13) ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 (14) ใบอนุญาตประกอบกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอย ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยทั่วไป พ.ศ. 2560 เทศบัญญัติเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. 2548 (15) ใบอนุญาตให้ใช้สถานที่เป็นตลาดเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยพระรา ชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของตลาด พ.ศ. 2551 เทศบัญญัติเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง ตลาด พ.ศ. 2548 (16) ใบอนุญาตจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบ เรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เทศบัญญัติเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง การจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ พ.ศ. 2548 (17) ใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2560 และเทศบัญญัติเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2562 (18) ใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่สะสมอาหาร ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 และเทศบัญญัติเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง การควบคุมสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ. 2562 หน้า ๓๒ (19) หนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ. 2562 ตามกฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎระทรวงสุขลักษณะของสถานที่ จำหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 และเทศบัญญัติเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง การควบคุมสถานที่ จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ. 2562 (20) ใบทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 กรณีผู้ขอ จดทะเบียนเป็นบุคคลธรรมดา ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ข้อ ๓ ผู้รับอนุญาตสามารถเลือกแสดงใบ อนุญาตตามข้อ ๒ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) แสดงเป็นภาพผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (๒) แสดงเป็นคิวอาร์โคดที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถสแกนเพื่อเข้าถึงใบอนุญาต ที่เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ของใบอนุญา ต หรือ ข้อ ๔ การแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๓ ต้องมีขนาดของภาพและความละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอ รวมทั้งสามารถแสดงให้เห็นข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญของใบอนุญาตได้ครบถ้วน ผู้รับอนุญาตอาจเลือกแสดงภาพใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานที่ประกอบกิจการ มากกว่าหนึ่งใบหรือภาพผ่านหน้าจอเดียวกันก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาแสดงภาพใบอนุญาตแต่ละใบ ไม่น้อยกว่าหำวินาที ข้อ ๕ เมื่อผู้รับอนุญาตเลือกแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามข้อ ๓ แล้ว ผู้รับอนุญาตไม่ต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยตลอ ดเวลา ณ สถานที่ประกอบกิจการ อีกต่อไป แต่ต้องสามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาเมื่อมีการตรวจสอบ หรือต่อประชาชนที่ขอตรวจดู ประกาศ ณ วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖ สุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย เล่ม: 140 หมวด: 112 ง พิเศษ ประกาศ ณ: 15/05/2023 หน้า: 31
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:141484", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศเทศบาลเมืองบางกรวย เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์", "url": "https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D112S0000000003100.pdf", "year": null }
nonweb_85399
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๒๐๑/๒๕๕๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๒๐๑/๒๕๕๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ชัยณรงค์ โชไชย ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 1. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บูรพา แอสโซซิเอทส์ 0103526008336 2 มี.ค. 53 - 2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด มานะกิจ ฮาร์ดแวร์ 0103533005860 2 มี.ค. 53 - 3. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอเจ เวิร์ค มีเดีย 0103549026560 2 มี.ค. 53 - 4. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งมีคุณ 0103550026314 2 มี.ค. 53 - 5. ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิศาลฟูด แอนด์ แคทเตอร์ริ่ง 0103550030923 2 มี.ค. 53 - 6. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยูนิคอร์น ซิลเวอร์ 0103552019099 2 มี.ค. 53 - 7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งย่งเส็ง 0103506001000 3 มี.ค. 53 - 8. ห้างหุ้นส่วนจำกัด วอยซ์ สตูดีโอ 0103530008965 3 มี.ค. 53 - 9. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น.เค.ปิโตรเลียม 0103535044862 3 มี.ค. 53 - 10. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริรุ่งโรจน์ ซัพพลาย 0103538003725 3 มี.ค. 53 - 11. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธิงกิ้ง ออฟ แนน เฟิร์ส 0103549019300 3 มี.ค. 53 - 12. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ เอ พีอินเตอร์เนชั่นแนล 0103551022410 3 มี.ค. 53 - 13. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงษ์วัฒนาฮาร์ดแวร์ 0103516007108 4 มี.ค. 53 -รายละเอียดการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด แนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. 201/2553 ลงวันที่ 19 เมษายน 2553 1 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 14. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.เอ็น.พีมาร์เก็ตติ้ง 0103544037946 4 มี.ค. 53 - แอนด์พริ้นติ้ง 15. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น พีคูล 0103548021335 4 มี.ค. 53 - 16. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุภัทรโชค 0103548044599 4 มี.ค. 53 - 17. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สโนว์คูล 0103549013921 4 มี.ค. 53 - 18. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัจชณี เซอร์วิส (ปุ้ม) 0103552019943 4 มี.ค. 53 - 19. ห้างหุ้นส่วนจำกัด คีเฮี้ยงเฮง 0103524019021 5 มี.ค. 53 - 20. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ควอลลิตี้ เคมิคัล คอนสตรัคชั่น 0103539015913 5 มี.ค. 53 - 21. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลลิตา อินเตอร์เทรด 0103546033760 5 มี.ค. 53 - 22. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อเวนิว วัน 0103550021029 5 มี.ค. 53 - 23. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพีเอส อีเลคทริค 0103551013755 5 มี.ค. 53 - คอนแทร็คเทอ 24. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เอ็น.เจริญรุ่งเรืองกิจ 0103545037974 8 มี.ค. 53 - 25. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีที เอฟ ทรัพย์ทวี 0103548047709 8 มี.ค. 53 - 26. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี เอ็น เอ็ม 0103550006216 8 มี.ค. 53 -2 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 27. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญทวีทรัพย์ ก่อสร้าง 0103550012801 8 มี.ค. 53 - 28. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนสยาม ทราเวิล 0103551007143 8 มี.ค. 53 - 29. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซุพรีม ซัพพลาย 0103549032659 9 มี.ค. 53 - 30. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมศักดิ์ซัพพลาย 0103549038983 9 มี.ค. 53 - อินเตอร์ เทรดดิ้ง 31. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงหล่อสหกิจเจริญ 0103518012532 10 มี.ค. 53 - 32. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้องอาหารวาเลนไทน์ 0103519004100 10 มี.ค. 53 - 33. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลิฟลี่การ์เม้นท์ 0103521002119 10 มี.ค. 53 - 34. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยาม มีรัก 0103548039714 10 มี.ค. 53 - 35. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไม้งาม-แวนฮอยเซ็น 0103550001931 10 มี.ค. 53 - ไทยเทรดดิ้ง 36. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.วาย. ลอจิสติคส์ 0103548021637 11 มี.ค. 53 - 37. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม้า อารีขนส่ง 0103549030168 11 มี.ค. 53 - 38. ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาช่ำ เอ็นเตอร์ไพรซ์ 0103551023581 11 มี.ค. 53 - 39. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เนชั่น โกลด์ 0103549000901 12 มี.ค. 53 -3 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 40. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุรินา 0103526021014 15 มี.ค. 53 - 41. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรงศักดิ์ เอ็นยิเนียริ่ง 0103531014713 15 มี.ค. 53 - คอนโทรล 42. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ถนอมทรัพย์ แอดวานซ์ 0103549025849 15 มี.ค. 53 - 43. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไชยา โอเวอร์ซีส์ อิมปอร์ต 0103549042581 15 มี.ค. 53 - แอนด์ เอ็กซ์ปอร์ต 44. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยาม คงคา เทรดเดอร์ 0103527029256 16 มี.ค. 53 - 45. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซามาล คาร์เพ็ท 0103546013700 16 มี.ค. 53 - 46. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮุษณา เจมส์ 0103548037631 16 มี.ค. 53 - 47. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิรพน เอ็นเตอร์ไพรส์ 0103550017951 16 มี.ค. 53 - 48. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชุมพรโต การโยธา 0113537001729 16 มี.ค. 53 - 49. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณฎา การเกษตร 0103551002435 17 มี.ค. 53 - 50. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ถมทอง อัญมณีจิวเวลรี่ 0103552030491 17 มี.ค. 53 - 51. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ใส้กรอกดอนเมือง 0103534023152 18 มี.ค. 53 - 52. ห้างหุ้นส่วนจำกัด นครการรองเท้า 0103544028238 18 มี.ค. 53 -4 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 53. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เม โฟร์ทีน 0103549034651 18 มี.ค. 53 - 54. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริช เพลส แมนชั่น 0103550010515 18 มี.ค. 53 - 55. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ไทยพัฒนาทรานสปอร์ต 0103514008794 19 มี.ค. 53 - 56. ห้างหุ้นส่วนจำกัด หนุมาน เซอร์วิส 0103547002850 19 มี.ค. 53 - 57. ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัตนดารา อินเตอร์เนชั่นแนล 0103547006383 19 มี.ค. 53 - 58. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เอ็น.ที.แอ็ดเวอไทซิ่ง 0103547017644 19 มี.ค. 53 - 59. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมดิเฮ็ลท์ 0103552019196 19 มี.ค. 53 - 60. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซอฟท์ดิจิตอล 0103545038415 22 มี.ค. 53 - 61. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท็อปเท็น ดีวีลอปเมนท์ 0103548038769 22 มี.ค. 53 - 62. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดมสุข เซอร์วิส 0103550035305 22 มี.ค. 53 - 63. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีวีบี เอ็นจิเนียริ่ง 0103551023173 22 มี.ค. 53 - 64. ห้างหุ้นส่วนจำกัด นครหลวงการค้าพรม 0103516022671 23 มี.ค. 53 - 65. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.วี.เอส.โลหะการ 0103532032391 23 มี.ค. 53 - 66. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.เค.ดาวิน 0103539018904 23 มี.ค. 53 - 67. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี.เอส.ซี. ธุรกิจและบริการ 0103547018721 23 มี.ค. 53 -5 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 68. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประเสริฐเจริญชัย 0103547033801 23 มี.ค. 53 - 69. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โฮมออร์โตเมชั่นเซ็นเตอร์ 0103548020401 23 มี.ค. 53 - 70. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิทธิพรทรานสปอร์ต 0103549018559 23 มี.ค. 53 - 71. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เบส คิว มีท โปรดักส์ 0103551011531 23 มี.ค. 53 - 72. ห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟชั่น เลซ 0103552005349 23 มี.ค. 53 - 73. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นกล้าบีสเน็ซ (2009) 0103552027989 23 มี.ค. 53 - 74. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม.ที.เอฟ. แอสทรีติก 0103547003961 24 มี.ค. 53 - เซอร์เจอรี่ เซนตอร์ 75. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซายิดข่าน คอนสตรัคชั่น 0103552003702 24 มี.ค. 53 - 76. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟลาย แอนด์ ไดฟ์ ทราเวล 0103552021034 24 มี.ค. 53 - 77. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงพิมพ์นิยมกิจ 0103484000065 25 มี.ค. 53 - 78. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยู.เอ็น.ซัพพลาย แอนด์ เซอร์วิส 0103538039827 25 มี.ค. 53 - 79. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮเทคโนโลยี่สกรีน 0103544035722 25 มี.ค. 53 - แอนด์ พริ้นท์ เอ็นจิเนียริ่ง 80. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิวกรไชย 0103548003175 25 มี.ค. 53 -6 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 81. ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิตติเจริญไพศาล 0103548020380 25 มี.ค. 53 - 82. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จัมโบ้ เจท 0103552010628 25 มี.ค. 53 - 83. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.วาย.พี.ดีวอลลอปเม๊นต์ 0103529008582 26 มี.ค. 53 - 84. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พาวเวอร์สโตร์ 0103544037741 26 มี.ค. 53 - 85. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เสฏฐวานิช 0103546029045 26 มี.ค. 53 - 86. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริเสฏฐวานิช 0103547010976 26 มี.ค. 53 - 87. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอ.พี. อินสตอเรชั่น เซอร์วิส 0103548029611 26 มี.ค. 53 - 88. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดมอาภา 0103549023315 26 มี.ค. 53 - 89. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อัล อิติฮาด เอ็กซ์ปอร์ต 0103551023700 26 มี.ค. 53 - 90. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เรด โรส คอร์ด 0103526034353 29 มี.ค. 53 - 91. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีซี แอร์ เซอร์วิส 0103538002907 29 มี.ค. 53 - 92. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็กซ์เปิร์ด โปรดักชั่น 0103546016181 29 มี.ค. 53 - 93. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญมี และ สุภาพร 0103552010687 29 มี.ค. 53 - 94. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรสมบุญการช่าง 0103552028969 29 มี.ค. 53 - 95. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทอปเปอร์ เอนเตอร์ไพรส์ 0103535019141 30 มี.ค. 53 -7 ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียน วันที่รับจดทะเบียน หมายเหตุ 96. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โกสุมภ์แอนด์ซัน 0103549007751 30 มี.ค. 53 - คอนซัลติ้ง กรุ๊ป 97. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จีรพรรณ 0103549028279 30 มี.ค. 53 - 98. ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิท29กรุ๊ป 0103551003911 30 มี.ค. 53 - 99. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม.เอ็ม.เอส. เพสท์ คอนโทรล 0103551011001 30 มี.ค. 53 - 100. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคทวีซัพพอร์ท 0103552004687 30 มี.ค. 53 - 101. ห้างหุ้นส่วนจำกัด กัญญา ไฟร์อาร์ม 0103552026087 30 มี.ค. 53 - 102. ห้างหุ้นส่วนจำกัด กนกกานต์ ไฟร์อาร์ม 0103552026095 30 มี.ค. 53 - 103. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชิวฮ้งบริการ 0103525000021 31 มี.ค. 53 - 104. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี เจ เจ 0103531002626 31 มี.ค. 53 - 105. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส ทู เอ็น 0103538018811 31 มี.ค. 53 - 106. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โอภาส ซัน กรุ๊ป 0103551027900 31 มี.ค. 53 - 107. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.อาร์.พี. ทรานสปอร์ต 0103552007589 31 มี.ค. 53 - 108. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีพีแซด คอมพิวเตอร์เซอร์วิส 0103552026125 31 มี.ค. 53 - 109. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ถัง ฟูดส์ เทรดดิ้ง 0103552029752 31 มี.ค. 53 -8 เล่ม: ๑๒๘ หมวด: ๓๘ ค ประกาศ ณ: ๐๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หน้า: ๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:85400", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๒๐๑/๒๕๕๓ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/C/038/5.PDF", "year": null }
nonweb_85967
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปากลาวและป่าคลองบากัน จังหวัดกระบี่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปากลาวและป่าคลองบากัน จังหวัดกระบี่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง แต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปากลาวและป่าคลองบากัน จังหวัดกระบี่ ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๙ และโดยที่ได้มีพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ กำหนดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ นั้น บัดนี้ เป็นการสมควรแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ ประกอบมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงออกประกาศไว้ดังนี้ ข้อ ๑ แต่งตั้งให้ (๑) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ (๒) ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑๒ สาขากระบี่ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปากลาวและป่าคลองบากัน จังหวัดกระบี่ และมีอำนาจปฏิบัติการตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ สุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่ม: ๑๒๘ หมวด: ๒๐ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ หน้า: ๕๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:85968", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปากลาวและป่าคลองบากัน จังหวัดกระบี่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/E/020/56.PDF", "year": null }
nonweb_102855
คำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ที่ (๘) ๑๖/๒๕๖๐ เรื่อง เพิกถอนการจดทะเบียน คำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ที่ (๘) ๑๖/๒๕๖๐ เรื่อง เพิกถอนการจดทะเบียน ตามที่บริษัท เอ.เอส.เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ทะเบียนเลขที่ ๐๑๐๕๕๓๖๐๖๘๙๙๖ ได้ยื่น คำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๐๙ รับวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ ขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือ บริคณห์สนธิข้อ ๓ (วัตถุประสงค์) โดยอาศัยมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๑๓ รับวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ ขอจดทะเบียนกรรมการและแก้ไขเพิ่มเติมกรรมการผู้มีอำนาจ โดยอาศัยมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งรับจดทะเบียนเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ นั้น บัดนี้ปรากฏข้อเท็จจริงต่อนายทะเบียนว่า ก่อนที่จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ นางสุวารี ลิมป์ชัยโรจน์ ได้จัดให้มีการประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ ตามที่นายเมธี ธีรธนากร และนางสาวสุพิชชา แทนวารีรัตน์ ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งในหำแห่งจำนวนหุ้นทั้งหมด ของบริษัทได้ร้องขอให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา เลิกบริษัทและที่ประชุมได้มีมติ ให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีและผู้สอบบัญชี ถึงแม้ว่านายอนุชา แทนวารีรัตน์ กรรมการของบริษัท จะโต้แย้งว่าไม่ได้ประชุมกรรมการเพื่อมีมติให้นัดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ การนัดเรียกประชุมใหญ่จึงเป็นการฝ๋าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่หาทำให้การประชุมใหญ่และมติที่เกิดขึ้นเสียไปหรือตกเป็นโมฆะไม่จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง หรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสียก่อน ตามประมวลกฎหมา ย แพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๑๙๕ เมื่อยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าว ต้องถือว่าการนัดเรียกประชุม และการประชุมใหญ่ที่ได้ลงมติพิเศษให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีซึ่งศาลยังไม่ได้เพิกถอน มีผลเป็นการนัด เรียกประชุมและประชุมใหญ่ตามกฎหมายแล้ว มติพิเศษให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชี และผู้สอบบัญชี จึงมีผลบังคับตามกฎหมาย (เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๐/๒๕๓๗) เมื่อบริษัท เอ.เอส.เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ได้ประชุมผู้ถือหุ้นและมีมติให้เลิกบริษัทเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ บริษัทดังกล่าวย่อมเป็นอันเลิกกันโดยผลของกฎหมายตามที่บัญญัติไว้ ในมาตรา ๑๒๓๖ (๔) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และทำให้สภาพการเป็นนิติบุคคล ของบริษัทต้องสิ้นสุดลง ไม่อาจดำเนินกิจการอย่างใดต่อไปได้อีก ฉะนั้น การที่นางสุวารี ลิมป์ชัยโรจน์ กรรมการบริษัทเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ แล้วมีมติให้ยกเลิกมติพิเศษที่ให้เลิกบริษัทและให้ดำเนินกิจการต่อไปตามเดิมนั้น ย่อมเห็นได้ว่า ไม่ใช่กิจการที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี บริษัทจึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการเรียกประชุมเพื่อเปลี่ยนมติ เรื่องเลิกบริษัทแล้วมีมติให้เปลี่ยนแปลงกรรมการและอำนาจกรรมการได้เพราะบริษัทจะมีตัวอยู่ ก็แต่เฉพาะเพื่อการชำระบัญชีเท่านั้น ดังนั้น การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และมติข องที่ประชุมที่เกิดขึ้นนั้น จึงเป็นมติที่เกินอำนาจ ไม่มีผลอะไร ในกฎหมายไม่ทำให้ใครหรือสิ่งใดเปลี่ยนแปลงฐานะอย่างไรเลย บริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคลมีสิทธิเพียง ตามที่กฎหมายบัญญัติภายในขอบวัตถุประสงค์ของตน อนึ่ง การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อบริษัท ได้ถูกเลิกแล้ว มีเพียงที่บัญญัติไว้ในหมวด ๕ ว่าด้วยการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน จำกัด และบริษัทจำกัดเท่านั้น อาทิเช่น มาตรา ๑๒๕๕ (ผู้ชำระบัญชีเรียกประชุมใหญ่) มาตรา ๑๒๕๖ (อนุมัติบัญชีงบดุล) มาตรา ๑๒๕๗ (ที่ประชุมใหญ่ถอนและตั้งผู้ชำ ระบัญชี) ฯลฯ ดังนี้ เป็นต้น จึงไม่มีกรณีที่นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครจะต้องดำเนินการรับจดทะเบียน เพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมการ จำนวนกรรมการและชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัท (เทียบเคียงคำวินิจฉัย ของคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ ๓๖๐/๒๕๒๐) และ (คำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ ๒๗/๒๕๓๓) ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น คำสั่งรับจดทะเบียนคำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๑๓ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ จึงเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อนายทะเบียนเห็นว่าภายหลังจา กบริษัทได้เลิกกันแล้ว บริษัทยังได้จัดให้มี การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ เพื่อพิจารณาและมีมติพิเศษ ให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ ๓ (วัตถุประสงค์) อันไม่ใช่กิจการที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี บริษัทจึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกัน เมื่อบริษัทได้ยื่นขอจดทะเบียน คำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๐๙ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยอาศัยมติที่ประชุมดังกล่าว ข้างต้นและนายทะเบียนรับจดทะเบียนเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ นั้น เมื่อข้อเท็จจริงดังกล่าว ปรากฏแก่นายทะเบียนว่าคำสั่งรับจดทะเบียนคำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๐๙ เป็นคำสั่งทางปกครอง ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ และมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครจึงมีคำสั่ง เพิกถอนการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ ๓ (วัตถุประสงค์) คำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๐๙ และการจดทะเบียนกรรมการและแก้ไขเพิ่มเติมกรรมการผู้มีอำนาจ คำขอที่ ๑๐๐๘๒๖๐๐๘๑๐๐๐๑๓ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่มีคำสั่งเป็นต้นไป อนึ่ง หากคู่กรณีไม่เห็นด้วยกับคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนข้างต้น ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง ต่อนายทะเบียนผู้ออกคำสั่งภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง โดยทำเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้ง และข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่อ้างอิงประกอบด้วย สั่ง ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ บัวหรัน สินจังหรีด นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๒๓ ค ประกาศ ณ: ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๑๘
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:102856", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "คำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ที่ (๘) ๑๖/๒๕๖๐ เรื่อง เพิกถอนการจดทะเบียน", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/C/023/18.PDF", "year": null }
nonweb_83585
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น (จำนวน ๕๖ ราย ๑. นายพัลลภ รัตนจันทราฯ) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น ให้ดำรงตำแหน่ง ต่าง ๆ จำนวน ๕๖ ราย ดังนี้ ๑. นายพัลลภ รัตนจันทรา รองอธิบดีศาลปกครองขอนแก่น ดำรงตำแหน่ง อธิบดีศาลปกครองนครศรีธรรมราช ๒. นางสุกัญญา นาชัยเวียง รองอธิบดีศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีศาลปกครองสงขลา ๓. นายประทีป วรนิติรองอธิบดีศาลปกครองนครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีศาลปกครองระยอง ๔. นายไชยวัฒน์ ธำรงศรีสุข รองอธิบดีศาลปกครองสงขลา ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีศาลปกครองกลาง ๕. นายบุญอนันต์ วรรณพานิชย์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีศาลปกครองเชียงใหม่ ๖. นายประสาน บางประสิทธิ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองพิษณุโลก ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีศาลปกครองขอนแก่น ๗. นายโสภณ บุญกูล ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสงขลา ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีศาลปกครองสงขลา ๘. นายถาวร เกียรติทับทิว ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสงขลา ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีศาลปกครองนครศรีธรรมราช ๙. นางสาวกรรณิการ์ สุริยา ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองเชียงใหม่ ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองพิษณุโลก ๑๐. นายพงษ์ศักดิ์ กัมพูสิริตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองระยอง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๑๑. นายชัยโรจน์ เกตุกำเนิด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองขอนแก่น ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองระยอง ๑๒. นายธีระเดช เดชะชาติตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครอง พิษณุโลก ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองเชียงใหม่ ๑๓. นายสมยศ วัฒนภิรมย์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครอง นครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสงขลา ๑๔. นางชนิตา วรพงศ์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๑๕. นายกฤตยชญ์ ศิริเขต ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๑๖. นายจีรพัฒน์ กล่อมสกุล ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองพิษณุโลก ๑๗. นายมนัส แดงสุภา ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๑๘. พันเอก วรศักดิ์ อารีเปียม ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๑๙. นายวีระ แสงสมบูรณ์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๐. นายสมชัย วัฒนการุณ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๑. นายสมภพ ผ่องสว่าง ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๒. นายสมศักดิ์ ศุภะรัชฏเดช ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๓. นายสมิง พรทวีศักดิ์อุดม ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๔. นายสะเทื้อน ชูสกุล ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๕. นายสุชาติ ศรีวรกร ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๖. นายสุทัศน์ ทิวทอง ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๗. นายสุรเดช พหลภาคย์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๘. นายเสน่ห์ บุญทมานพ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๒๙. นายอนุสรณ์ ธีระภัทรานันท์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๓๐. นายอาจินต์ ฟ้กทองพรรณ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๓๑. นายอนนท์ อดิเรกสมบัติตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ๓๒. นายสัมฤทธิ์ อ่อนคำ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองขอนแก่น ๓๓. นางสาวกนิษฐา เชี่ยววิทย์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสงขลา ๓๔. นายชวลิต ลาภผล ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองนครศรีธรรมราช ๓๕. นายวิบูลย์ กัมมาระบุตร ตุลาการศาลปกครองพิษณุโลก ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๓๖. นางดุษณีย์ ตยางคานนท์ ตุลาการศาลปกครองนครราชสีมา ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๓๗. นางนฤมล ธรรมครองอาตม์ ตุลาการศาลปกครองพิษณุโลก ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๓๘. นางสาวสายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๓๙. นายเมธี ชัยสิทธิ์ ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองพิษณุโลก ๔๐. นายอาทร คุระวรรณ ตุลาการศาลปกครองนครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองสงขลา ๔๑. นายธนกฤต กิตติวัฒน์ ตุลาการศาลปกครองขอนแก่น ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองนครราชสีมา ๔๒. นายสรศักดิ์ มไหศิริโยดม ตุลาการศาลปกครองระยอง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๔๓. นายสมสกุล ณ บางช้าง ตุลาการศาลปกครองพิษณุโลก ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๔๔. นายนิติ อรัณยะนาค ตุลาการศาลปกครองนครศรีธรรมราช ดำรง ตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองระยอง ๔๕. นายตรีทศ นิโครธางกูร ตุลาการศาลปกครองสงขลา ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๔๖. นายประเสริฐ ศรัทธาสุข ตุลาการศาลปกครองสงขลา ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองกลาง ๔๗. นายบุญชู จันทร์วงศ์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองนครราชสีมา ๔๘. นายมนูญ พิบูลรัตนากุล ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองพิษณุโลก ๔๙. นายชัยนะ อักษรพันธ์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองพิษณุโลก ๕๐. นางสาวอัญชิสา อินทรสาลีตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ ๕๑. นางสาวปทิชญา วชิรเมธารัชต์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองขอนแก่น ๕๒. นางอุษณีย์ ลี้วิไลกุลรัตน์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ ๕๓. นายทศพร โต๊ะบุรินทร์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ ๕๔. นางนัทธมน อิ่มสะอาด ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองสงขลา ๕๕. นายพีระพันธ์ วัฒนศิริตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองนครศรีธรรมราช ๕๖. นายสุรเดช สุขถาวร ตุลาการศาลปกครองกลาง ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๕๖ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๐๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๒
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:83586", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น (จำนวน ๕๖ ราย ๑. นายพัลลภ รัตนจันทราฯ)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/056/2.PDF", "year": null }
nonweb_77832
ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง ปลดลูกหนี้จากล้มละลาย [ศาลจังหวัดแพร่ คดีหมายเลขแดงที่ ล.๙/๒๕๔๑ นายสวิง บุญตา จำเลย] ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง ปลดลูกหนี้จากล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ล. ๙/๒๕๔๑ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ศาลจังหวัดแพร่กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ขอแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า ตามประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๒ ว่าศาลจังหวัดแพร่ ได้พิพากษาให้นายสวิง บุญตา ลูกหนี้ เป็นบุคคลล้มละลาย นั้น บัดนี้ครบกำหนดระยะเวลา ๓ ปี นับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้นายสวิง บุญตา ลูกหนี้ เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว จึงให้ปลด นายสวิง บุญตา ลูกหนี้จากการเป็นบุคคลล้มละลาย นับแต่วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ไพบูลย์ ดิสสงค์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เล่ม: ๑๒๓ หมวด: ๙ ง ประกาศ ณ: ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙ หน้า: ๓๔๕
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:77833", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง ปลดลูกหนี้จากล้มละลาย [ศาลจังหวัดแพร่ คดีหมายเลขแดงที่ ล.๙/๒๕๔๑ นายสวิง บุญตา จำเลย]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/00181225.PDF", "year": null }
nonweb_78632
ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ ๑๕๕๗/๒๕๔๙ เรื่อง จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียนบริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน) ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ ๑๕๕๗ /๒๕๔๙ เรื่อง จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน บริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน) ขอประกาศว่า นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการ และอำนาจกรรมการของบริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน) ทะเบียนเลขที่ ๐๑๐๗๕๓๗๐๐๒๐๕๒ ไว้ตามความใน พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕ มีรายการย่อดังต่อไปนี้ ๑. กรรมการของบริษัทมีจำนวน ๑๓ คน คือ (๑) นายวันชัย คุณานันทกุล (๒) นายอนันตชัย คุณานันทกุล (๓) นายสุรศักดิ์ คุณานันทกุล (๔) นายพิศาล คงสำราญ (๕) นายวิจารณ์ ขวัญจันทร์ (๖) นายธีรพล พันธุ์พงศ์ศิริ (๗) นายอากิฮิโกะ ซึโบอูชิ (๘) นายมาซาอากิ ซาคากิบาร่า (๙) นายพงษ์ศักดิ์ อังสุพันธุ์ (๑๐) นายสุรพล คุณานันทกุล (๑๑) นายสิทธิชัย คุณานันทกุล (๑๒) นายมาซาอากิ ทำคิซาว่า (๑๓) นายโนบูโอะ โคชิบะ ๒. ชื่อและจำนวนกรรมการ ซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท คือ กรรมการคนใดคนหนึ่งใน กลุ่ม ก. ลงลายมือชื่อร่วมกันกับกรรมการในกลุ่ม ข. อีกคนหนึ่ง และประทับตราของบริษัท โดยกรรมการ กลุ่ม ก. มี ๓ นาย คือ นายวันชัย คุณานันทกุล นายอนันตชัย คุณานันทกุล และนายสุรศักดิ์ คุณานันทกุล กรรมการกลุ่ม ข. มี ๓ นาย คือ นายอากิฮิโกะ ซึโบอูชิ นายมาซาอากิ ทำคิซาว่า และ นายโนบูโอะ โคชิบะ รับจดทะเบียนเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๙ ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ องอาจ วงศ์วโรฬาร ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน เล่ม: ๑๒๓ หมวด: ๘๑ ค ประกาศ ณ: ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หน้า: ๔๖
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:78633", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ ๑๕๕๗/๒๕๔๙ เรื่อง จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียนบริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน)", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/C/081/46.PDF", "year": null }
nonweb_83942
ประกาศศาลแพ่งธนบุรี เรื่อง คำสั่งว่า นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี เป็นคนสาบสูญ ประกาศศาลแพ่งธนบุรี เรื่อง คำสั่งว่า นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี เป็นคนสาบสูญ คดีหมายเลขดำที่ ๑๖๔ /๒๕๕๓ คดีหมายเลขแดงที่ ๓๗๐ /๒๕๕๓ ด้วย พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ร้อง ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี เป็นคนสาบสูญ ศาลประกาศนัดไต่สวนแล้ว ได้ความว่า นางสาวจำเจริญ ภู่ทอง เป็นภริยาโดยชอบ ด้วยกฎหมายของ นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี ซึ่งทำงานที่บริษัท เค. เอ็ม อินเตอร์ทรานส์ จำกัด ประจำเรือเดินสมุทร M.V.Emerald ตำแหน่ง ต้นเรือ ได้เดินทางไปกับเรือดังกล่าว มุ่งหน้าประเทศมาเลเซีย และขากลับได้เกิดภาวะคลื่นลม แรงจัด และเรืออับปาง เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๐ ที่น่านน้ำสากล ระหว่างประเทศมาเลเซีย-บรูไน ซึ่งเป็นเหตุอันตรายแก่ชีวิตของ นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี โดยได้หายสาบสูญไป ไม่มีใครพบเห็น และไม่มี ใครรู้แน่ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตลอดระยะเวลาเกิน ๒ ปีแล้ว จึงมีคำสั่งให้นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี เป็นคนสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ บริพัตร์ โรจน์บัวทอง ผู้พิพากษา เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๙๑ ง ประกาศ ณ: ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๒๔
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:83943", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศศาลแพ่งธนบุรี เรื่อง คำสั่งว่า นายอัมพันธ์ ตุ้มวารี เป็นคนสาบสูญ", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/D/091/24.PDF", "year": null }
nonweb_128731
ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง ยกเลิกการล้มละลาย [คดีหมายเลขแดงที่ ล. ๓๖๙/๒๕๓๙ นางนันทนา สนธยานนท์ ที่ ๑ นายจิระพล แก้วสำรวม ที่ ๒] ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง ยกเลิกการล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ล. ๓๖๙/๒๕๓๙ กองบังคับคดีล้มละลาย ๔ ศาลแพ่ง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ขอแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า ตามประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ว่าศาลแพ่งได้พิพากษาให้นางนันทนา สนธยานนท์ ที่ ๑ นายจิระพล แก้วสำรวม ที่ ๒ จำเลย ล้มละลาย นั้น บัดนี้ศาลแพ่งได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของ นางนันทนา สนธยานนท์ จำเลยที่ ๑ เลขประจำตัวประชาชน ๓ -๑๐๐๕ -๐๑๙๐๘-๕๙-๙ เกิดวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๔๘๗ นายจิระพล แก้วสำรวม จำเลยที่ ๒ เลขประจำตัวประชาชน ๓-๑๐๐๒ -๐๒๙๙๒ -๖๗-๙ เกิดวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๔๙๒ ตามมาตรา ๑๓๕ (๔) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ จิติยา โอฬารปีติกุล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เล่ม: ๑๓๙ หมวด: ๔๔ ง ประกาศ ณ: ๐๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ หน้า: ๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:128732", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง ยกเลิกการล้มละลาย [คดีหมายเลขแดงที่ ล. ๓๖๙/๒๕๓๙ นางนันทนา สนธยานนท์ ที่ ๑ นายจิระพล แก้วสำรวม ที่ ๒]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/D/044/T_0001.PDF", "year": null }
nonweb_83185
ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๖๑๑/๒๕๕๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. ๖๑๑ /๒๕๕๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอประกาศว่า ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้ขอจดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท และนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทได้รับจดทะเบียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ศิริมล รังษีกิจโพธิ์ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนธุรกิจ นายทะเบียน วันที่รับทุนจดทะเบียน จดทะเบียน หน่วย / บาท 1. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 0102502000393 7 ก.ย. 52 850,000 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน ปืนประภา 2. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วนออก 2. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล อรยนต์30 ก.ย. 52 1,000,000 1. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วน 2. แก้ไขผู้เป็นหุ้นส่วนออกรายละเอียดการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หมายเหตุ ลำดับที่ชื่อนิติบุคคล เลขทะเบียนแนบท้ายประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ป. 611/2552 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 1 เล่ม: ๑๒๗ หมวด: ๑๐๓ ค ประกาศ ณ: ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ หน้า: ๑๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:83186", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ฉบับที่ ป. ๖๑๑/๒๕๕๒ เรื่อง การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/C/103/10.PDF", "year": null }
nonweb_102704
ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา "วัดศรีสมบูรณ์แสงทอง" ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ตามที่นางดวงเดือน เจริญตาม แทน นายสังเวียน เจริญตาม ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด ณ บ้านหนองสมบูรณ์ หมู่ที่ ๗ ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ นั้น บัดนี้ผู้รับอนุญาต ได้สร้างเสนาสนะขึ้นสมควรเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์และประกอบศาสนกิจแล้ว อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๐ แห่งกฎกระทรวงการสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมาและการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. ๒๕๕๙ และด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนา มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีชื่อว่า “วัดศรีสมบูรณ์แสงทอง” สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้วัดศรีสมบูรณ์แสงทอง สถิตสถาพรตลอดกาลนาน ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เล่ม: ๑๓๕ หมวด: ๗๒ ง ประกาศ ณ: ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ หน้า: ๗๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:102705", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การตั้งวัดในพระพุทธศาสนา "วัดศรีสมบูรณ์แสงทอง"", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/D/072/T70.PDF", "year": null }
nonweb_90618
ประกาศศาลจังหวัดสว่างแดนดิน เรื่อง สาบสูญ [นายทองพูล สุวรรณเขต] ประกาศศาลจังหวัดสว่างแดนดิน เรื่อง สาบสูญ คดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๖๘๗/๒๕๕๗ คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๗๔๔/๒๕๕๗ ด้วย พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคุ้มคร องสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดสกลนคร (สาขาสว่างแดนดิน) ผู้ร้อง ยื่นคำร้อง ต่อศาลว่าผู้ร้องได้รับคำร้องจาก นางสาวสมคิด สุวรรณเขต ตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านเลขที่ ๑๗๖ หมู่ที่ ๒ ตำบลสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทองพูล สุวรรณเขต เป็นคนสาบสูญ ศาลไต่สวนแล้วได้ความว่า นายทองพูล สุวรรณเขต ได้ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่และ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า นายทองพูล สุวรรณเขต ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตลอดระยะเวลากว่า ๕ ปีแล้ว ทั้ง นางสาวสมคิด สุวรรณเข ต ผู้ร้อง เป็นพี่สาวผู้มีส่วนได้เสีย ชอบที่จะร้องขอต่อศาล เป็นคดีนี้ จึงมีคำสั่งให้นายทองพูล สุวรรณเขต เป็นคนสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑ วรรคหนึ่ง ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ อุเทน บัวอ่อน ผู้พิพากษา เล่ม: ๑๓๑ หมวด: ๑๒๔ ง ประกาศ ณ: ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า: ๓๑
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:90619", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ประกาศศาลจังหวัดสว่างแดนดิน เรื่อง สาบสูญ [นายทองพูล สุวรรณเขต]", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/D/124/31.PDF", "year": null }
nonweb_89958
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล เรื่อง การควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล เรื่อง การควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยที่เป็นการสมควรตราข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุลว่าด้วยการควบคุม แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในเขตข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหาร ส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ประกอบกับมาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหาร ส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๖ และมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ องค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล โดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล และ นายอำเภอชุมแสง จึงตราข้อบัญญัติไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้ เรียกว่า “ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล เรื่อง การควบคุม แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พ.ศ. ๒๕๕๗” ข้อ ๒ ข้อบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล นับแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๓ บรรดาข้อบัญญัติ ประกาศ ระเบียบและคำสั่งอื่นใดในส่วนที่ได้ตราไว้แล้ว ในข้อบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับข้อบัญญัตินี้ให้ใช้ข้อบัญญัตินี้แทน ข้อ ๔ ในข้อบัญญัตินี้ “มูลฝอย” หมายความว่า เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร เศษสินค้า เศษวัตถุ ถุงพลาสติก ภาชนะที่ใส่อาหาร เถ้า มูลสัตว์ ซากสัตว์ หรือสิ่งอื่นใดที่เก็บกวาดจากถนน ตลาด ที่เลี้ยงสัตว์ หรือที่อื่น และหมายความรวมถึงมูลฝอยติดเชื้อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน “อาคาร” หมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงาน หรือสิ่งที่สร้างขึ้น อย่างอื่นซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ “ที่หรือทางสาธารณะ” หมายความว่า สถานที่หรือทางซึ่งมิใช่เป็นของเอกชนและประชาชน สามารถใช้ประโยชน์หรือใช้สัญจรได้ “แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย” หมายความว่า สภาวะที่มีน้ำขังได้ในระยะเวลาที่เกินกว่าเจ็ดวัน ซึ่งยุงลายสามารถวางไข่และพัฒนาเป็นลูกน้ำได้ “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๕ ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งหรือทำให้มีขึ้นซึ่งมูลฝอยที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย อาทิ กระป๋อง กะลา ยางรถยนต์ หรือมูลฝอยอื่น ๆ ที่ขังน้ำได้ในที่หรือทางสาธารณะ เว้นแต่ในที่หรือในถัง รองรับมูลฝอยที่องค์การบริหารส่วนตำบลพิกุลจัดไว้ให้ ข้อ ๖ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือเคหสถานต้องเก็บกวาดและดูแลมิให้มีมูลฝอย ที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย อาทิ กระป๋อง กะลา ยางรถยนต์ หรือมูลฝอยอื่น ๆ ที่ขังน้ำได้ ในบริเวณอาคารหรือเคหสถาน รวมทั้งบริเวณรอบ ๆ ทั้งนี้ โดยเก็บลงถังมูลฝอยที่มีฝาปิดหรือบรรจุ ถุงพลาสติกที่มีการผูกรัดปากถุงหรือวิธีการอื่นใดที่เจ้าพนักงานสาธารณสุขแนะนำ ในกรณีที่องค์การบริหารส่วนตำบลพิกุลให้บริการเก็บขนมูลฝอยเพื่อนำไปกำจัด เจ้าของอาคาร หรือเคหสถานมีหน้าที่เสียค่าธรรมเนียมตามข้อบัญญัติว่าด้วยการจัดการมูลฝอยด้วย ข้อ ๗ เจ้าของหรือผู้ครอบครอง อาคาร เคหสถาน หรือสถานที่ใด ๆ ที่มีแหล่งน้ำที่อาจเป็น แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายจะต้องดูแลมิให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ข้อ ๘ เจ้าของหรือผู้ครอบครอง อาคาร เคหสถาน ต้องดูแลทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำ ในแจกัน ถ้วยรองขาตู้กับข้าว ภาชนะอื่น ๆ ที่มีน้ำขัง อย่างน้อยทุกเจ็ดวัน หรือใส่สารที่ป้องกัน การวางไข่ของยุงได้ และจัดให้มีฝาปิดตุ่มน้ำที่มีอยู่ในอาคารและเคหสถาน รวมทั้งข้อปฏิบัติอื่น ๆ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลพิกุลประกาศกำหนด ข้อ ๙ ในกรณีที่องค์การบริหารส่วนตำบลพิกุลได้จัดเจ้าหน้าที่ไปทำการกำจัดยุงในอาคาร หรือเคหสถาน หรือสถานที่ใด ๆ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร เคหสถาน หรือสถานที่นั้น จะต้องให้ ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกตามสมควร ข้อ ๑๐ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อ ๕ และข้อ ๖ ต้องระวางโทษตามมาตรา ๗๓ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติ การสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๑๑ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ข้อ ๑๒ ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุลรักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ และให้มี อำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินี้ ประกาศ ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ สนอง วงษ์ละม้าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล เล่ม: ๑๓๑ หมวด: ๑๔๒ ง พิเศษ ประกาศ ณ: ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า: ๓๐
https://ratchakitcha.soc.go.th
{ "Filename": null, "author": null, "channel_name": null, "domain": "government document", "is_subtitle_generated": null, "license": "CC0", "provenance": "data_14_35_2025_03_11.jsonl.gz:89959", "revid": null, "src": null, "ticker": null, "title": "ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลพิกุล เรื่อง การควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พ.ศ. ๒๕๕๗", "url": "http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/E/142/30.PDF", "year": null }