|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
28,0013,001,<h1>ยมกวรรคที่ ๒</h1>
|
|
28,0013,002,<h1>๑. ปฐมสัมโพธสูตร<SUP>๑</SUP></h1>
|
|
28,0013,003,<h2>ว่าด้วยความรู้แท้ในเรื่องอายตนะ</h2>
|
|
28,0013,004,[๑๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก่อนแต่ตรัสรู้ เราเป็นโพธิสัตว์ยัง
|
|
28,0013,005,ไม่ได้ตรัสรู้ ได้มีความคิดดังนี้ว่า อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษ อะไรเป็น
|
|
28,0013,006,ความสลัดออกแห่งตา หู จมูก ลิ้น กาย อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษ
|
|
28,0013,007,อะไรเป็นความสลัดออกแห่งใจ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรานั้นได้มีความคิด
|
|
28,0013,008,ดังนี้ว่า สุขโสมนัสเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุ นี้เป็นคุณแห่งจักษุ จักษุเป็น
|
|
28,0013,009,ของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษแห่งจักษุ
|
|
28,0013,010,การกำจัด การละฉันทราคะในจักษุ นี้เป็นความสลัดออกแห่งจักษุ ฯลฯ
|
|
28,0013,011,สุขโสมนัสเกิดขึ้นเพราะอาศัยใจ นี้เป็นคุณแห่งใจ ใจเป็นสภาพไม่เที่ยง
|
|
28,0013,012,เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษแห่งใจ การกำจัด
|
|
28,0013,013,การละฉันทราคะในใจ นี้เป็นความสลัดออกแห่งใจ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
|
|
28,0013,014,เรายังไม่รู้ตามความเป็นจริง ซึ่งคุณแห่งอายตนะภายใน ๖ เหล่านี้ โดย
|
|
28,0013,015,เป็นคุณ ซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ และซึ่งความสลัดออกโดยเป็นความ
|
|
28,0013,016,สลัดออก อย่างนี้เพียงใด เราก็ยังไม่ปฏิญาณว่าได้ตรัสรู้ซึ่งอนุตตรสัมมา
|
|
28,0013,017,สัมโพธิญาณในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์
|
|
28,0013,018,พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์เพียงนั้น. เมื่อใด เราได้รู้ตาม
|
|
28,0013,019,ความเป็นจริง ซึ่งคุณแห่งอายตนะภายใน ๖ เหล่านี้ โดยเป็นคุณ ซึ่งโทษ
|
|
|