tripitaka-mbu / 18 /180027.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
18,0027,001,เมื่อจะทรงแสดงการจำแนกอุปาทานเหล่านั้น จึงตรัสว่า บัญญัติความรอบรู้
18,0027,002,กามูปาทานดังนี้เป็นต้น. ในอุปาทานเหล่านั้น สมณพราหมณ์แม้ทั้งหมด
18,0027,003,บัญญัติความรอบรู้กามูปาทานเท่านั้น. ก็แม้ความเห็นนอกรีตนอกรอย ๙๖
18,0027,004,ประการ ก็คือ กามแล อันบรรพชิตไม่พึงเสพ เพราะฉะนั้น สมณพราหมณ์
18,0027,005,จึงไม่บัญญัติว่าผู้เสพวัตถุ ย่อมควร กระทำให้เป็นอกัปปิยเท่านั้นแล้ว จึง
18,0027,006,บัญญัติ. ก็บุคคลเหล่าใดเสพ บุคคลเหล่านั้นเสพโดยไถยจิต. เพราะฉะนั้น
18,0027,007,จึงตรัสว่า ย่อมบัญญัติความรอบรู้กามูปาทาน ดังนี้. เพราะสมณพราหมณ์
18,0027,008,ถือว่าทานที่ให้แล้วไม่มีผล ดังนี้เป็นต้นเที่ยวไป ย่อมถือว่า ความบริสุทธิ์ด้วย
18,0027,009,ศีล ความบริสุทธิ์ด้วยวัตร ไม่ใช่ความบริสุทธิ์ด้วยภาวนา ชื่อว่าไม่สละ
18,0027,010,อัตตุปลัทธิ เพราะฉะนั้น จึงไม่บัญญัติความรอบรู้ทิฏฐูปาทานอัตตวาทูปา-
18,0027,011,ทาน. บทว่า <B>ตํ กิสฺส เหตุ</B> ความว่า การไม่บัญญัตินั้นเป็นเหตุไร เเห่ง
18,0027,012,อุปาทานเหล่านั้น คือ เพราะเหตุไร. บทว่า <B>อิมานิ หิ เต โภนฺโต</B> ความ
18,0027,013,ว่า เพราะสมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่รู้การณ์ ๓ อย่างนี้ตามสภาวะ. ก็สมณ
18,0027,014,พราหมณ์เหล่าใด ย่อมรู้ตามสภาวะในบทนั้นว่า เหตุแห่งการบัญญัติความ
18,0027,015,รอบรู้สองอย่างคือ ทิฏฐิและสีลัพพตะ นั้นพึงละ ทรงหมายถึงสมณพราหมณ์
18,0027,016,เหล่านั้น จึงตรัสวาระสองอย่างไว้ข้างหน้า. บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น
18,0027,017,สมณพราหมณ์เหล่าใด ถือว่า ทานที่ให้แล้ว มีผล ดังนี้เป็นต้น สมณ-
18,0027,018,พราหมณ์เหล่านั้น ย่อมบัญญัติความรอบรู้ทิฎฐูปาทาน. ส่วนเหล่าใด ถือว่า
18,0027,019,ความบริสุทธิ์ด้วยศีล ความบริสุทธิด้วยวัตร ความบริสุทธิด้วยภาวนา เหล่านั้น
18,0027,020,ย่อมบัญญัติความรอบรู้แม้สีลัพพตูปาทาน. แม้แม้ผู้หนึ่งไม่อาจเพื่อบัญญัติ
18,0027,021,ความรอบรู้อัตตวาทูปาทานข้างหน้า. ก็เดียรถีย์ทั้งหลายผู้ได้สมาบัติแปดก็ดี
18,0027,022,ผู้เอามือลูบคลำพระจันทร์และพระอาทิตย์อยู่ก็ดี ย่อมบัญญัติความรอบรู้ ๓
18,0027,023,อย่าง แต่ไม่อาจเพื่อจะเปลื้องอัตตวาทะได้ เพราะฉะนั้น จึงตกอยู่ในวัฏฏะ