|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
06,0034,001,ถามว่า ก็เพราะเหตุไร ความรำพึงแห่งใจนี้ จึงเกิดขึ้นแก่พระพุทธ-
|
|
06,0034,002,เจ้าทุกพระองค์ ?
|
|
06,0034,003,ตอบว่า เพราะทรงพิจารณาชื่อที่พระธรรมเป็นคุณใหญ่ เป็นคุณเลิศ
|
|
06,0034,004,ลอย เป็นของหนัก และเพราะเป็นผู้ใคร่จะทรงแสดงตามคำที่พรหมทูลวิ่งวอน.
|
|
06,0034,005,จริงอยู่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมทรงทราบว่า เมื่อพระองค์ทรงรำพึง
|
|
06,0034,006,อย่างนั้น พรหมจักมาทูลเชิญแสดงธรรม ที่นั้น สัตว์ทั้งหลายจักให้เกิดความ
|
|
06,0034,007,เคารพในธรรม เพราะว่า โลกสันนิวาสเคารพพรหม. ความรำพึงนี้ เกิดขึ้น
|
|
06,0034,008,เพราะเหตุ ๒ ประการนี้ ด้วยประการฉะนั้นแล.
|
|
06,0034,009,บรรดาบทเหล่านั้น หลายบทว่า <B>อธิคโต โข มยายํ</B> ตัดบทว่า
|
|
06,0034,010,<B>อธิคโต โข เม อยํ</B> ความว่า ธรรมนี้ อันเราบรรลุแล้วแล.
|
|
06,0034,011,บทว่า <B>อาลยรามา</B> มีความว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมพัวพันในกามคุณ
|
|
06,0034,012,๕ อย่าง เพราะเหตุนั้น กามคุณ ๕ เหล่านั้น ท่านจึงเรียกว่า อาลัย หมู่สัตว์
|
|
06,0034,013,ย่อมรื่นรมย์ด้วยกามคุณเป็นที่พัวพันเหล่านั้น เหตุนั้น จึงชื่อว่า ผู้รื่นรมย์ด้วย
|
|
06,0034,014,อาลัย. หมู่สัตว์ยินดีแล้วในกามคุณเป็นที่พัวพันทั้งหลาย เพราะฉะนั้น จึงชื่อ
|
|
06,0034,015,ว่าผู้ยินดีในอาลัย. หมู่สัตว์เพลินด้วยดีในกามคุณเป็นที่พัวพันทั้งหลาย เพราะ
|
|
06,0034,016,ฉะนั้น จึงชื่อว่าผู้เพลินในอาลัย.
|
|
06,0034,017,บทว่า <B>ยทิทํ</B> เป็นนิบาต ความแห่งบทว่า <B>ยทิทํ</B> นั้น หมายเอา
|
|
06,0034,018,ฐานะ พึงเห็นอย่างนี้ว่า ยํ อิทํ หมายเอาปฏิจจสมุปบาท พึงเห็นอย่างนี้ว่า
|
|
06,0034,019,<B>โย อยํ. </B>
|
|
06,0034,020,บทว่า <B>อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺสมุปฺปาโท</B> มีอรรถวิเคราะห์ว่าธรรม
|
|
06,0034,021,เหล่านี้ เป็นปัจจัยแห่งธรรมเหล่านี้ ชื่อ <B>อิทปฺปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา</B> นั่น
|
|
06,0034,022,ชื่อว่า <B>อิทปฺปจฺจยตา</B> ธรรมเหล่านี้ เป็นปัจจัยแห่งธรรมเหล่านี้นั้น เป็นธรรม
|
|
|